Tuesday, October 7, 2014

เขาวานให้ผมเป็น 'สายรับ' (เคคู่ผู้รู้รอบฯ) : บทรุกที่ 16: แข่งเรือแข่งพายได้ แข่งบุญแข่งวาสนาแข่งไม่ได้



บทรุกที่ 16: แข่งเรือแข่งพายได้ แข่งบุญแข่งวาสนาแข่งไม่ได้
(แข่งเรือแข่งพายได้ แข่งบุญแข่งวาสนาแข่งไม่ได้ : บุญวาสนาของแต่ละคนไม่เท่ากัน การแข่งเรือเป็นการเอาชนะกันด้วยกำลัง ย่อมจะทำได้ง่าย แต่แข่งความเจริญรุ่งเรืองอันเป็นเรื่องของบุญวาสนาเป็นสิ่งที่แข่งกันได้ยาก)




ระหว่างเราสองคนกำลังนั่งกินอาหารเช้าอยู่ที่โต๊ะกินข้าวข้างล่าง ผมก็เริ่มเปิดประเด็นที่ตกค้างจากบทสนทนาเมื่อคืนภายหลังจากขนุนเล่นปิดเครื่องหนีผมไปก่อน “เอาล่ะฮะขนุน สำหรับการเปลี่ยนแปลตัวเองของขนุนเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนจะจีบผู้ชายหน้าหวานคนใหม่อีกครั้ง เราสองคนคงจะเลี่ยงขั้นตอนต่อไปนี้ไม่ได้”

“ขั้นตอนอะไรเหรอน็อต” คนฟังที่กำลังนั่งกินขนมปังปิ้งกับกาแฟอย่างเพลิดเพลินเงยหน้าขึ้นมา แล้วส่งสายตามองผมลอดแว่นป้า... ทำอย่างกับว่า ทำท่าแบบนั้นแล้วมันช่วยให้เห็นได้อย่างนั้นแหละฮะขนุน...หรือว่าผมควรลองจับขนุนไปวัดสายตาประกอบแว่นดูใหม่อีกที เผื่อว่าจริงๆแล้วสายตาแม่งไม่สั้นมากอย่างที่ผมเคยเข้าใจ

ผมอธิบายต่อด้วยเสียงและท่าทีเป็นการเป็นงาน “อย่างแรกซึ่งถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่สุดในเวลานี้ ก็คือ...การเปลี่ยนวิธีพูดของขนุนเวลาอยู่กับคนที่ไม่สนิท”

“อ๋อ...เรื่องนี้เอง ใช่สินะ น็อตบอกตั้งแต่เมื่อวานแล้วนี่ ว่าน็อตหาวิธีแก้ปัญหานี้ของขนุนได้แล้ว” คนฟังวางมือจากแก้วกาแฟแล้วเปลี่ยนมานั่งตัวตรงเพื่อฟังผมอย่างตั้งอกตั้งใจ

ผมยกยิ้มมุมปากให้ขนุนก่อนตอบอย่างผู้ทรงภูมิ “ใช่ฮะ... และวิธีการแก้ปัญหาที่น่าจะได้ผลที่สุดคือ....
.
...ขนุนต้องได้รับการลงโทษทุกครั้งเมื่อทำผิด”  

ขนุนทำหน้างงราวกับสิ่งที่ผมเพิ่งพูดไปถูกเปลี่ยนเป็นคลื่นเสียงในภาษาอาราบิกเอากลางอากาศก่อนจะวิ่งไปกระแทกเข้ากับกระดูกค้อน ทั่ง โกลนข้างในหู ผู้ฟังกิตติมศักดิ์ของผมถามออกมาด้วยหน้าตาไม่เข้าใจ “เอ๋?? มันยังไงกัน ไอ้วิธีที่น็อตว่าเนี่ยะ?”

ผมเผลอยิ้มให้ขนุนอีกครั้งเมื่อเห็นหน้าหมางงที่ขนุนส่งมาให้ “ก็ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ขนุนเคยลองทำโน่นทำนี่เพื่อแก้ไขการพูดของตัวเองมาก่อนใช่ไม๊ล่ะฮะ?...

...แต่น็อตว่า ยังมีสิ่งนึงที่ขนุนไม่เคยได้ลงมือทำเลยตลอดช่วงเวลานั้น...นั่นคือ  ทุกๆครั้งที่ขนุนเกิดพูดจาแปลกๆออกไป ขนุนไม่เคยได้รับโทษใดๆ จิตใต้สำนึกของขนุนจึงไม่เกิดการเรียนรู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นไม่ดี มันก็เลยไม่มีกลไกใดๆเตือนให้รู้ว่า ถึงเวลาที่ต้องเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างจริงจังเสียที...

...น็อตเลยคิดได้ว่า เราควรบัญญัติบทลงโทษที่ไม่หนักหรือเบาจนเกินไป หากแต่สามารถช่วยเตือนสติให้ขนุนไม่หลุดพูดจาแปลกๆออกมาในครั้งต่อไปได้อีกยังไงล่ะฮะ...

...ขนุนรู้ไม๊ฮะว่า ถ้าเราไม่หมั่นเตือนตัวเองตลอดเวลาถึงสิ่งที่เราทำ ว่ามันเป็นเรื่องไม่เหมาะไม่ควร...เราอาจจะเผลอละเลย หรือปล่อยให้นิสัยนั้นกลายเป็นความเคยชินไปในที่สุดยังไงล่ะฮะ” ขนุนทำหน้าทึ่งๆเมื่อได้ยินคำอธิบายอันสวยหรูดูมีสาระของผม

หึ หึ...ดีนะ ที่ไม่ได้พูดเรื่องนี้ไปตั้งแต่เมื่อคืน เพราะผมแม่งเพิ่งคิดเหตุผลอันมีหลักการที่เพิ่งร่ายให้ขนุนฟังไปนี่ออกอีเอาตอนสมองโล่งหลังจากช่วยตัวเองในห้องน้ำเสร็จเมื่อคืนนี่เองว่ะ พอได้พูดอะไรแบบนี้ออกไป...มันเลยทำให้ผมรู้สึกว่า ผมแม่งยิ่งดูหล่อ มีความรู้และน่าเชื่อถือไปกันใหญ่...

...ขนุนฮะ คุณต้องเสร็จไอ้น็อตแน่ๆฮะ งานนี้ หึ หึ หึ

“โอเค...ขนุนเข้าใจคอนเซปต์แล้วล่ะ... แล้วถ้าขนุนเกิดยังจะพูดแปลกๆแบบเดิมอยู่ ขนุนจะโดนอะไรเหรอ?” แหม่...ว่าที่เมียผมแม่งก็เข้าเรื่องตรงประเด็นได้ทันทีไม่มีเสียเวลาจริงจริ๊ง...โดนว่ะ ไม่เยอะดี

“หนึ่งคำ ต่อหนึ่งจูบ...
...และการลงโทษจะเกิดขึ้นทันทีเมื่อมีโอกาส ไม่มีการยกยอดไปวันอื่น หรือหลบเลี่ยงใดๆเป็นอันขาด...
...การตัดสินโทษ จะอยู่ที่วิจารณญาณของน็อตเพียงคนเดียวเป็นหลักฮะ” ผมแม่งต้องกลั้นยิ้มแทบตาย เพื่อไม่ให้ขนุนจับได้ว่าผมแม่งดีใจสัดอ่ะ ที่หัวสมองอันปราดเปรื่องคิดเรื่องฉวยโอกาสเลวๆแบบนี้ออกได้ด้วย ผมงี้ได้ประโยชน์เต็มๆอ่ะ...

...ต้นเหตุที่ทำให้ผมคิดได้ ก็ไม่ใช่อะไรหรอกฮะ...
...ตั้งแต่เมื่อคืน หลังจากที่ได้จูบกับขนุน ตาผมแม่งก็คอยเอาแต่จะวนเวียนจับจ้องปากเล็กๆนั่นอยู่ตลอด จะให้บอกอย่างไรดีล่ะ คือ ผมว่า...ผมโคตรติดใจรสหวาน และสัมผัสวาบหวาม รวมทั้งความแนบแน่นระหว่างเราสองคนระหว่างที่เราแลกลิ้นกันเมื่อคืน...นี่ขนาดจูบกันไม่นานนะเว่ย ผมแม่งยังแทบคลั่ง...แล้วนี่ถ้าได้จูบบ่อยๆ ต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ ผมแม่งจะฟินขนาดไหนกันวะ

“ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่า ต่อจากนี้ไป ไม่ว่าเมื่อไรที่ขนุนหลุดพูดจาแปลกๆต่อหน้าคนอื่น ขนุนต้องโดนน็อตจูบทุกคำที่ขนุนพูดเลยใช่ไม๊?”ผมพยักหน้ายืนยันความเข้าใจที่ตรงกันระหว่างเรา “ทั้งต่อหน้า...และลับหลังน็อตเลยรึเปล่า?...
.
.
...คือถ้าขนุนไม่อยู่กับน็อตในเวลานั้นพอดี ขนุนจะไม่บอกน็อตก็ได้ใช่ไม๊?”

“อันนั้นก็ขึ้นอยู่กับความซื่อสัตย์ของขนุนน่ะแหละฮะ...
.
.
...ไม่ว่าเรื่องอะไร ถ้าขนุนไม่ยอมน็อตซะอย่าง เพื่อนธรรมดาๆแบบไอ้น็อตคนนี้ จะไปทำอะไรขนุนได้...
...แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น น็อตเชื่อใจขนุนนะฮะ ว่าขนุนจะซื่อสัตย์กับน็อต เหมือนที่น็อตจะซื่อสัตย์กับขนุนยังไงล่ะฮะ” ขนุนทำหน้านิ่งๆรับฟัง ผมแม่งก็ไม่รู้หรอกว่าขนุนจะเชื่อน้ำยาผมหรือเปล่า แต่ความจริงแม่งก็เป็นความจริงอยู่วันยันค่ำแหละวะ ก็ผมเชื่อใจเขาจริงๆนี่หว่า และก็ไม่คิดว่าขนุนจะคิดไม่ซื่อกับผมหรอก

“จริงเหรอ...ที่น็อตบอกว่าซื่อสัตย์กับขนุนน่ะ?”...นั่นแหน่ะ...กูว่าแล้ว ว่าขนุนแม่งต้องสงสัยในตัวผม...

นี่ก็อีกเรื่องที่ผมเข้าใจได้นะ ก็ผมแม่งทำตัวมีลับลมคมในกับเขามาตลอดนี่หว่า แล้วก็ไอ้เรื่องที่โกหกเกี่ยวกับตัวเองอยู่ตลอดเวลานี่อีกล่ะ... ผมแม่งก็อยากจะทำตัวโปร่งใสเป็นที่ไว้วางใจได้อยู่นะฮะ แต่จะให้ทำไงล่ะ ก็งานมันค้ำคอ
.
.
...เท่าที่ทำได้ตอนนี้ก็คงจะเป็นบอกความจริง...
...ไม่หมดเท่านั้นเอง เฮ้ออออ

“จริงสิฮะ........ทำไม ขนุนไม่เชื่อน็อตเหรอ?” ผมพยายามปั้นยิ้มจริงใจส่งไปให้หวังเพื่อให้อีกคนเชื่อถือ

“ถ้างั้น ไม่ว่าขนุนจะถามอะไร...น็อตก็ต้องตอบตามความจริงล่ะสินะ” ตอนนี้คนที่คอแห้งจนจิบกาแฟไม่วางมือกลับกลายเป็นผมเองเสียแล้วสิ.........ไอ้สายตาตรวจสอบนั่น มันคืออัลไลกันฮะขนุน???!!

“ฮะ...แน่นอนฮะ... แต่มันก็ต้องมีบางเรื่องที่น็อตอาจจะไม่สะดวกใจตอบบ้างเหมือนกันนะฮะ ขนุนคงจะเข้าใจ” ผมบอกตรงๆ

“อืม ขนุนเข้าใจ...คนเราก็มีเรื่องแบบนี้กันบ้างแหละ แต่ถ้ามันไม่ได้กระทบกระเทือนต่อความสัมพันธ์ของเรา ขนุนก็ไม่ได้ซอกแซ่กอยากรู้อะไรหรอกนะ น็อตสบายใจได้” ขนุนยิ้มปลอบ

“ฮะ น็อตรู้ฮะ ว่าขนุนจะเข้าใจ...แต่ที่พูดมาแบบนี้นี่ เหมือนขนุนมีอะไรอยากจะถามน็อตเลยนะฮะเนี่ยะ”

“ก็นิดหน่อย...
.
.
...ขนุนอยากรู้ว่า เมื่อคืนน่ะ...
...ที่เราทำกันก่อนนอนน่ะ น็อตรู้สึกยังไงบ้าง?...
...คือ....ขนุนอยากรู้รายละเอียดจากปากน็อตบ้างน่ะ”

คนพูดเม้มปากเป็นเส้นตรงเมื่อพูดจบ อืมม...เดี๋ยวนี้ทำไมขนุนแม่งชอบพูดไปเม้มปากไปตลอดเลยวะ ทั้งที่ตอนนี้ไม่ได้พูดเรื่องที่มันชวนให้อารมณ์เสียเลยนี่หว่า...ถ้าทำให้อารมณ์เสียวก็ว่าไปอย่าง...

...เดี๋ยวคงต้องไปหาอ่านในเน็ทแล้วล่ะ ว่าไอ้การเม้มปากเนี่ยะ มันหมายความว่าอะไร...แม่งเสือกเป็นท่าทางที่ผมไม่ค่อยจะทำเสียด้วยสิ

ผมแม่งก็มัวแต่คิดเรื่องเม้มปากอยู่พักหนึ่ง จนพอเหลือบกลับไปมองหน้าขนุนก็ต้องตกใจที่อีกฝ่ายยื่นหน้าแว่นๆมาใกล้เพื่อรอฟังคำตอบ  “เฮ่ย!!......อ๋อ...เอ้อ...จริงสินะ...สถานการณ์เมื่อคืนมันก็น่าจะเอาไว้ใช้เขียนนิยายได้เหมือนกันนี่เนอะ...
.
.
...ทำนองว่า หนุ่มใหญ่สอนรักหนุ่มน้อยมือใหม่ในเรื่องอย่างว่าอะไรแบบนี้ใช่ป่ะฮะ?” ผมเห็นขนุนพยักหน้าให้โดยสายตาจับจ้องหน้าผมอย่างคาดหวังคำตอบ จะให้ผมบอกตอนนี้เลยก็ได้นะ...แต่เดี๋ยวเรื่องมันจะยาว เอาไว้ให้เราทำเรื่องที่ต้องทำในวันนี้ให้เสร็จก่อนแล้วกัน ผมค่อยรอบอกทีเดียว...ขนุนคงไม่ลงแดงตายหรอกม้างงงงง

“งั้นเอางี้นะฮะ เอาไว้น็อตจะเล่ารายละเอียดทั้งหมดอย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋ ตีแผ่ทุกรายละเอียดให้ขนุนฟังตอนเราอยู่บนรถดีไม๊ฮะ” ผมรวบจานของเราทั้งสองคนมาซ้อนรวมกัน แล้วทำท่าจะคว้าแก้วกาแฟของขนุนที่อยู่บนโต๊ะมาวางไว้ข้างบนจานอีกที แต่มือเรียวๆขาวๆนั่นกลับคว้าแก้วไปถือเอาไว้แล้วมองผมงงๆ

“เอ๋??? เราจะไปไหนกันเหรอน็อต?”

ผมตอบคนไม่รู้อิโหน่อิเหน่ไปอย่างชิลๆ “วันนี้เราจะไปเดทกันฮะ”

ยิ่งฟังที่ผมตอบ ขนุนก็ยิ่งทำหน้าประหลาดใจไปกันใหญ่ “เดทเหรอ?”

“ฮะ......ก็ในหนังสือคู่มือการจีบของขนุนบอกเอาไว้ว่าให้พาคนที่เราชอบไปออกเดทเพื่อทำความรู้จักซึ่งกันและกันให้มากขึ้นยังไงล่ะฮะ...
.
.
...น็อตก็เลยอยากรู้ว่า ถ้าขนุนจะพาคนที่ตัวเองชอบไปเดท ขนุนจะพาคนๆนั้นไปที่ไหน ทำอะไรเพื่อสร้างความประทับใจให้กับเค้าได้บ้าง แล้วระหว่างนั้น...ขนุนจะสามารถทำความรู้จักกับคนที่ตัวเองชอบได้ดีขนาดไหน  และนี่คือเรื่องสำคัญเรื่องที่สองที่เราต้องทำกันอย่างเร่งด่วนยังไงล่ะฮะ”

คนฟังพยักหน้าหงึกหงักไม่มีท่าทีจะประท้วง แล้วพูดด้วยเสียงดังกว่าปกติคล้ายๆจะตื่นเต้น “อืม...เข้าใจแล้วล่ะ ไปเดทที่ๆขนุนอยากพาคนที่ชอบไปใช่ไม๊ล่ะ?”

“ถูกต้องฮะ!! แต่ขนุนต้องแต่งตัวดีหน่อยนะฮะ” พอผมพูดจบ ขนุนก็ส่งสายตาขุ่นๆมาให้ผมทันที เหมือนกับไม่พอใจ

“ทำไมต้องแต่งตัวดีด้วยล่ะน็อต?”...แหม่ หางเสียงตวัดนี่มาเชียวนะฮะ ไอ้เรื่องแต่งตัวนี่ขอกันไม่ได้เลยหรือไง ไม่เข้าใจหรือครับคุณ ว่าเรากำลังจะไปเดทหวานแหววแนวสวีทกันเนี่ยะ ใครหน้าไหนก็อยากจะเห็นคนที่เราชอบแต่งตัวดีเป็นพิเศษกันทั้งนั้นแหละฮะ สงสัยต้องหว่านล้อมอีกแล้วล่ะสินะ...

“อ้าวขนุนฮะ...ถึงคราวนี้จะเป็นการซ้อมเดทกับน็อต แต่ขนุนต้องทำเหมือนเรื่องจริงทุกอย่างนะฮะ เรื่องแต่งตัวก็ด้วย......อย่างที่เราคุยกันเอาไว้ก่อนหน้านี้ยังไงล่ะฮะ ว่าคนที่เราชอบเค้าอาจจะคาดหวังอยากให้เราแต่งตัวดีๆเพื่อที่เวลาเดินด้วยกัน จะได้ดูเหมาะสมกันยังไงล่ะฮะ"
.
.
.
หลังจากนิ่งไปนาน ขนุนก็พยักหน้าน้อยๆพร้อมยกธงขาวให้ “เข้าใจแล้วล่ะ”

ตามประสาว่าที่เมียที่ดี...ขนุนยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มจนหมดแล้วยื่นแก้วให้ผมนำไปล้าง โดยเจ้าตัวเดินนวยนาดย้ายร่างอ้อนแอ้นที่ใส่เพียงเสื้อยืดโคร่งๆตัวใหญ่กับบ็อกเซอร์ตัวสั้นจู๋โชว์ขาขาวๆที่ผมบูชา จนดูคล้ายกับว่าเจ้าตัวใส่แค่เสื้อยืดเพียงตัวเดียวมายืนพิงเคาน์เตอร์ข้างๆอ่างล้างจานเพื่อรอผมเงียบๆ

และตามประสาว่าที่ผัวที่ดี...ผมก็อาสาทำทุกอย่างตั้งแต่เตรียมอาหารเช้าอย่างง่ายๆลากยาวมาจนถึงล้างถ้วยล้างชามขอแค่ให้เมียสบายตัวอย่างที่สุด ระหว่างนั้นผมก็คอยส่งสายตาไปทักทายต้นขาเนียนๆที่โผล้พ้นชายเสื้อลงมาอยู่เป็นระยะๆ ช่วยไม่ได้ฮะ...เมียชอบโชว์ ผัวก็ต้องคอยสอดส่องเป็นธรรมดา หึ หึ...

เอ๊ะ!! แต่เรื่องมองขาแม่งไม่ใช่ว่ะ...กูกำลังลืมเรื่องสำคัญระดับโลกอะไรไปหรือเปล่า???...
...นึกออกแล้ว!!
...ไอ้เหี้ยน็อต...นี่มึงกลายเป็นพวกเอาใจเมียอย่างสุดลิ่มทิ่มประตูไปตั้งแต่เมื่อไรกันวะ???!!
.
.
...แต่เมียผมแม่งมือบางอ้ะ...
...ผมแม่งไม่อยากให้มือนุ่มนิ่มนั่นต้องมาโดนน้ำยาล้างจานกัดเลยให้ตาย!
...สู้สงวนรักษาเอาไว้เป็นอย่างดีเพื่อให้ของเหลวในร่างกายผมกัดจนเสียวสยิวโดยเฉพาะจะดีกว่า  กรั่ก กรั่ก กรั่ก

แต่เรื่องที่ผมกำชับขนุนให้แต่งตัวดีนั้น จริงๆแล้วมันก็ไม่ใช่แค่เพื่อให้เราดูดีสมกันหรอกฮะ แต่วันนี้น่ะ ผมตั้งใจจะพาขนุนไปเดทแม่งทั้งวันนี่แหละ...ทั้งเดทแบบขนุนๆ และเดทแบบน็อตๆ  แล้วความสำคัญมันก็ดันอยู่ตรงไอ้เดทของผมนี่แหละ...เกิดขนุนแต่งตัวพลาดขึ้นมา...ความประทับใจแรกก็จะพลอยเสียไปหมด

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐


ผมถอยรถเข้าซองจอดยังสถานที่ๆขนุนบอกพิกัดเอาไว้ก่อนออกจากบ้าน  จากนั้นก็ได้แต่เดินตามร่างเพรียวอ้อนแอ้นขึ้นบันไดเลื่อนไปเรื่อยๆเพื่อเข้าสู่ตัวห้างที่ผมเคยได้ยินชื่อมานาน ผ่านก็หลายครั้ง แต่ยังไม่เคยเข้ามาสักที

ไอ้ผมก็ไม่รู้หรอกฮะว่า ที่ๆขนุนอยากพาแฟนมาเดทมันคือที่ไหน ออกจะแปลกใจเสียด้วยซ้ำเมื่อเจ้าตัวบอกว่าจะพาผมมาที่ห้างนี้ เพราะสถานที่เดทแบบขนุนในความคิดผม...แม่งโคตรต่างไปจากที่ๆเรากำลังเดินอยู่มากจริงๆ... ถ้าเปลี่ยนจากที่นี่เป็นคลองถมคืนวันเสาร์ แล้วไปนั่งคุ้ยกองของเล่นมือสองยังจะเข้าเค้าเสียมากกว่า

ผมเดินตามร่างอ้อนแอ้นแขนอ่อนยังไม่ทันจะเมื่อยดี  และแล้ว...ขนุนก็มาหยุดยืนยิ้มอย่างพอใจตรงหน้าร้านเล็กๆร้านหนึ่งที่แม่งตั้งอยู่ท่ามกลางร้านอื่นๆซึ่งบรรยากาศโดยให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในย่านร้านค้าญี่ปุ่น... จะว่าไป ไอ้ร้านพวกนี้แม่งก็ทำให้ผมนึกถึงเทศกาลออกร้านในเกียวโตซึ่งผมเคยเดินผ่านตอนไปเที่ยวกับที่บ้านเมื่อสองปีก่อนขึ้นมาได้เลยว่ะ

พอผมแหงนหน้าดูป้ายหน้าร้าน และสังเกตคนที่ยืนอออยู่ตรงทางเข้าดีๆ ผมชักไม่แน่ใจว่าไอ้ร้านนี้น่ะคือสิ่งที่ขนุนใฝ่หาอยากจะได้มาเป็นฉากในการเดทอย่างหวานฉ่ำ แต่เรื่องหนึ่งที่ผมมั่นใจสัดๆ คือร้านนี้แม่งต้องเป็นที่สิงสถิตย์ของคนประเภทเดียวกับขนุนๆไม่ผิดแน่ๆ  เพราะผมเห็นหน้าค่าตาไอ้ลูกค้าที่เพิ่งเดินออกจากร้านมาแต่ละคนแล้ว...เก้าในสิบคนจากพวกที่ยืนยิ้มหื่นๆอยู่ตรงหน้าร้านนี้ แม่งต้องเป็นโอตาคุในหมวดหมู่อะไรสักอย่างที่ผมเองก็ไม่อาจรู้ได้แหงๆ

ผมหันกลับไปมองคนหน้าแว่นที่ทำตาเป็นประกายอยู่ข้างๆอย่างไม่แน่ใจ แล้วถามออกมาเพื่อย้ำชัดให้ชัวร์ๆอีกครั้งว่าเรากำลังยืนอยู่ในทำเลที่เหมาะสมกับการเดทในวันนี้แน่ๆใช่หรือไม่ “ขนุนแน่ใจนะฮะ ว่าที่นี่คือที่ๆขนุนอยากพาคนรักมาออกเดท?”

“แน่สิ...ที่นี่ถือเป็นสถานที่แรกๆที่ขนุนอยากจะพาคนที่ชอบมาเดทด้วยรองจากงานคอมิคคอนเลยนะ” ตอนนี้ขนุนแม่งทำหน้าตามีความสุขเหมือนคนเมาน้ำตาล มือทั้งสองข้างกุมประสานกันไว้ตรงหน้าอก ในขณะที่สี่ตากำลังมองไปยังป้ายตรงหน้าร้านอย่างมีความหวัง นี่ยังดีนะที่ขนุนแม่งยังหุบปากเอาไว้อยู่ ไม่อย่างนั้น...น้ำจิ้มที่ไหลบ่าอยู่ข้างในมีสิทธิ์เยิ้มย้อยออกมาแน่ๆ

พอผมได้เห็นอาการปลื้มปริ่มสุดลิ่มทิ่มประตูของขนุนอย่างที่เป็นอยู่นี่ ผมก็ถึงกับอึ้งจนไปไม่เป็น...
...แย่แล้วกู!! นี่ว่าที่เมียกูแม่งเป็นโอตาคุเต็มตัวขนาดนี้เลยเหรอวะ??
...ขนุนแม่งเป็นเอามากสัดๆอ่ะ  เผลอๆ...เวลานี้อาการแม่งหนักกว่าตอนซุ่มเฝ้าคอยส่องบ้านพี่กานต์อีกว่ะ

ผมหลุดปากทวนคำถามไปให้ขนุนอีกครั้ง เผื่อว่าสิ่งที่ผมกังวลอยู่ทั้งหมดนี่ จะเป็นเพียงแค่ฝันร้ายของชายหนุ่มวัยใสอย่างผมเท่านั้น “เอ่อ.....เมดคาเฟ่เนี่ยะนะฮะ?”

 “อื้อ ก็เมดคาเฟ่นี่แหละ ขนุนดีใจมากเลยนะที่ในที่สุด ร้านนี้ก็มาเปิดสาขาที่เมืองไทยจนได้...
.
.
...ใจจริงขนุนอยากไปร้านนี้ที่ญี่ปุ่นมาตั้งหลายปีแล้ว แต่เพราะมัวเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาเขียนนิยาย เลยไม่มีเวลาบินไปสัมผัสประสบการณ์การความสุขที่แท้จริงจากการได้ไปเยือนดินแดนแห่งความฝันท่ามกลางบรรดาน้องเมดสุดคาวาอี้แบบต้นตำรับถึงญี่ปุ่นซะที”....เหยดดด ขนุนแม่งก็จริงจังเกิ๊นนนว่ะ ชักจะกลัวๆขึ้นมาแล้วนะเว่ย... นี่กูเอาตัวเองเข้ามาพัวพันกับอะไรที่มันไม่ถูกไม่ควรหรือเปล่าวะ???!!

คิดจะถอนตัวตอนนี้...แม่งคงจะสายไปแล้วแหงๆ  เอาวะไอ้น็อต... ท่องไว้ เพื่อความสุขของเมีย...เรื่องขี้ประติ๋วแค่นี้ มึงต้องยอมรับให้ได้!!
.
.
แต่ขนุนแม่งก็ยังไม่จบ “...จริงๆ เมดคาเฟ่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ขนุนคาดหวังเอาไว้ซะทีเดียวหรอก ขนุนอยากไปโฮสต์คลับมากกว่า แต่เมืองไทยยังไม่มี...ก็เลยมาที่นี่แทน”  เอ่อ...ผมว่าผมเริ่มจะดีใจแล้วล่ะ ที่เราได้มาเมดคาเฟ่กันวันนี้  อย่างน้อยๆ...ก็สบายใจได้ว่าที่นี่แม่งก็ไม่ต่างอะไรกับของแสลงที่เจ้าตัวเอาไว้กินแก้ขัดเท่านั้นล่ะวะ...

...แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นให้เมืองไทยมีโฮสต์คลับแบบในย่านชิบูย่าขึ้นมาจริงๆ แล้วขนุนเลือกจะพาผมไปเดทด้วยที่นั่น ผมแม่งคงได้กลายร่างเป็นหมาบ้าวิ่งพล่านคอยไล่งับผู้ชายทุกตัวในร้านที่เผลอเดินเข้ามาอยู่ในระยะสายตาของขนุนแหงๆ...

“โอเค... ตามนั้นเลยฮะ.... เอ่อ แล้วนี่เราจะรออะไรกันอยู่อีกล่ะฮะ ทำไมเราถึงไม่เข้าไปข้างในกันซักที?” ผมถามกายหยาบของขนุนที่ยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่ตรงที่เดิม ทั้งที่จิตลอยเข้าไปในร้านนั่นเป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่เมื่อสิบนาทีที่แล้ว

ขนุนหันกลับมามองหน้าผมด้วยสีหน้าลำบากใจ แล้วเอ่ยเรียบๆ “อืม คือ...ขนุนรอพี่เกี๊ยวอยู่น่ะ”

“ห๊ะ???...ไอ้พี่เจี๊ย....เอ๊ย! พี่เกี๊ยวน่ะเหรอฮะ?...มัน..เอ๊ย! เค้าจะมาที่นี่เหรอฮะ?” เลือดผมนี่เดือดปุดๆขึ้นมาทันทีหลังจากได้ยินชื่อไอ้พี่เจี๊ยวนั่น...ทั้งที่ทุกอย่างกำลังไปได้สวยแล้วแท้ๆ ทำไมขนุนต้องลากไอ้พี่เจี๊ยวเข้ามาเกี่ยวในเดทแรกของเราด้วยฟระ!!!!

“อื้อ คือขนุนเคยบอกพี่เกี๊ยวเรื่องที่จะมาที่นี่เอาไว้นานแล้วล่ะ พี่เกี๊ยวแกก็บอกว่าอยากมาเหมือนกัน เพราะถ้ามาคนเดียว...แกคงเขินแย่ แกเลยสั่งเอาไว้ว่า ถ้าวันไหนขนุนมาที่นี่ ให้ชวนแกด้วยน่ะ” ขนุนอธิบายด้วยท่าทางเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“อ้าว นี่แล้วแกไม่ทำงานทำการหรอกเหรอฮะ? หรือว่าเอาแต่ยุ่มย่ามกับชีวิตนักเขียนจนเกินพอดี เลยโดนไล่ออกจากงานไปแล้ว” ผมอดแดกออกไปไม่ได้จริงๆว่ะ วินาทีนี้...ขอหน่อยเหอะ มีอย่างที่ไหนวะขนุน...มาเดทกับผม ถึงจะเดทปลอมๆก็เถอะ ทำไมต้องไปชวนไอ้พี่เกี๊ยวมาเอี่ยวด้วยก็ไม่รู้

“บ้าเหรอน็อต... นี่น็อตลืมวันลืมคืนรึไง??! วันนี้มันวันชดเชยวันสงกรานต์ สำนักพิมพ์และออฟฟิศบางที่ก็เลยยังปิดอยู่...
.
.
...แต่น็อตไม่ต้องกังวลหรอกนะ เพราะพี่เกี๊ยวไม่ได้มาคนเดียว แกพาเพื่อนแกมาด้วย... แกบอกว่า ร้านนี้ต้องมากันหลายๆคน จะได้มีคนช่วยหารค่าข้าวเยอะหน่อย พวกเราจะได้สั่งอาหารมาชิมกันได้หลายๆอย่างไงล่ะ”

“โอ้ววว บทจะมาก็ไม่ได้มาตัวเปล่า...ยังจะเอาเพื่อนมาอีก แล้วอย่างนี้เราจะเรียกวันนี้ว่าเดทได้อีกเหรอฮะ?”  ขนุนเห็นหน้าน็อตตอนนี้ไม๊ฮะ? เห็นไหมว่าน็อตนี่แทบจะสแยะเขี้ยวของทั้งตัวเองและหมาทุกตัวที่เลี้ยงเอาไว้ในปากออกมาหมดแล้วเนี่ยะ ทำไมขนุนทำกับน็อตแบบนี้ล่ะเฮ้ย???!!

“เถอะน่าน็อต  ก็เราไม่ได้มาเดทกันจริงๆซะหน่อย... น็อตบอกเองนี่ ว่าน็อตเป็นเพื่อนที่อยากจะช่วยขนุนเรื่องเปลี่ยนแปลงตัวเองและก็เรื่องงาน...ส่วนการเดทวันนี้ มันก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของข้อตกลงของเราเท่านั้น...
.
...หรือน็อตจะบอกว่าขนุนจำผิด?” ขนุนถามลอยหน้าลอยตา ผมแอบเห็นแววตาคล้ายๆกับสะใจที่ได้แกล้งผมอยู่แว่บหนึ่ง... ผมแม่งคงตาฝาดไปเองแล้วล่ะ

พอได้ฟังขนุนพูดคำของผมเองออกมาแบบนี้...ผมจึงทำได้แค่ก้มหน้ารับกรรมไปเท่านั้นน่ะสิฮะ “อ๋ออออ..ฮะ ไม่ผิดฮะ ขนุนจำได้ถูกต้องเป๊ะทุกตัวอักษรเลยฮะ”

ขนุนวางมือลงบนบ่าของผม แล้วบีบเบาๆเชิงปลอบใจ “งั้นก็ดีแล้ว น็อตก็ถือซะว่าวันนี้ เรามากินข้าวกันฉันท์มิตรหลายๆคนดีไม๊ล่ะ จะได้สนุกๆ แถมขนุนยังได้สำรวจร้านนี้เอาไว้ก่อน เผื่อว่าพาคนที่ชอบมา...จะได้รู้ทางหนีทีไล่ แล้วก็จะได้ไม่เผลอตัวทำอะไรเปิ่นๆออกไปยังไงล่ะ...
.
.
...โอ๊ะ!! นั่นไง...พี่เกี๊ยวมาแล้ว อีกคนที่มากับพี่เกี๊ยวนั่นชื่อพี่ปลานะ...
...ขนุนเลยชอบเรียกรวมกันทั้งสองคนทีเดียวเลยว่า พี่เกี๊ยวปลา... เป็นไง น่ารักป่ะ?” ขนุนยิ้มแล้วโบกมือให้กับสองร่างที่เดินลงมาจากบันไดเลื่อนที่เห็นอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล

เมื่อผมมองตามขนุนไปยังทิศทางนั้นก็ต้องผงะ เพราะไอ้ชื่อที่ขนุนเรียกแขกไม่ได้รับเชิญสองคนนั่นรวมกัน ไม่ได้ดูสอดคล้องกับสิ่งที่ผมกำลังเห็นอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว ปากไวๆของผมก็เลยพูดออกไปโดยไม่คิดไตร่ตรอง “เหรอฮะ...แต่น็อตว่าน่าจะเรียกรวมกันว่า พี่ปาเกียวมากกว่านะฮะ”

ลำพังแค่เฉพาะไอ้พี่เจี๊ยวที่แยกดูเดี่ยวๆ ก็ไม่เท่าไร...  แต่พอไอ้ผู้ชายตัวหนาอย่างพี่เจี๊ยว ถูกจับให้มาเดินคู่กันกับผู้ชายรูปร่างสันทัด แต่ดูเนื้อตัวแน่นๆ แถมยังมีรากฐานมั่นคงอย่างไอ้พี่ปลานั่น  ผสมโรงด้วยหน้าตาของทั้งสองคนที่ดูถึกๆเหมือนปลาบึกชนเขื่อนออกซะขนาดนั้น  มันสองตัวรวมกันยิ่งทำให้ดูเป็นมวลสสารที่โคตรพ่อโคตรแม่ลำหักลำโค่นไปกันใหญ่...  สาบานได้นะ ว่าเวลาว่าง พวกมึงไม่ได้ทำงานพาร์ทไทม์เป็นนักมวยปล้ำคู่ขาตามบาร์แถวพัทยาใต้

แล้วไอ้พี่ปลาฮะ...นั่นต้นขาหรือว่าอะไร ทำไมมันใหญ่เกินไซส์ตัวได้ซะขนาดนั้นฮะ???!!!  สงสัยวันนี้ผมต้องคอยระวังปากเอาไว้หน่อยซะแล้วล่ะ เกิดผมแม่งพูดจาให้พี่ปลาไม่พอใจจนพี่แกโมโหเลือดขึ้นหน้า แล้วพี่แกลุกขึ้นมาเตะเข้ากลางลำตัวผมเอา...ตัวผมไม่ต้องขาดออกเป็นสองท่อนหรืออย่างไรกัน... หูยยย แค่คิดภาพตามก็สยองแล้ว

“........”

ขนุนฟังผมพูดเงียบๆโดยไม่ตอบโต้อะไร หากแต่ส่งสายตา น็อตนี่ก็จริงๆเลยนะ มาให้ผมเป็นรางวัล...
...เหยดดดดด ผมแม่งโคตรชอบเลยว่ะ อะไรจะดูเย็นชาน่าทดสอบความอดทนได้มากขนาดนี้กันวะขนุน ดูเหมาะกับการดำรงตำแหน่งราชินีเคะผู้บ้าอำนาจในชุดหนังมันวาวสีดำปลาบเสียเหลือเกิน... เอาแส้เฆี่ยน เอาเทียนลนน็อตเลยฮะ น็อตรออยู่!!
...แต่ถ้าจะให้ได้อารมณ์และฟินยิ่งๆขึ้นไป  ช่วยเอาไอ้เหี้ยหมีควายสีน้ำตาลสองตัวที่กำลังเดินหน้าแป้นเข้ามาหาพวกผมสองคนนี่ออกไปห่างๆตีน  อย่าให้ต้องมาพบเจอหน้าหรือคบค้ากันอีกเลยจะได้ไหมฮะ...ขอทีเถอะ!!

เมื่อไอ้หมีควายอาวุโสทั้งสองเดินมาหยุดข้างๆเราสองคน ขนุนก็ยกมือไหว้และทักทายทันที “พี่เกี๊ยว พี่ปลา หวัดดีครับ”

ยังไม่ทันที่ไอ้พี่เจี๊ยวแม่งจะได้พูดอะไร พี่ปลาขาใหญ่ก็เอ่ยออกมาอย่างร่าเริง “ขนุน!!! ดีใจจังเลยที่วันนี้ได้เจอกัน พี่ไม่นึกเลยนะ ว่าขนุนจะโทรมาชวนเกี๊ยวมาที่นี่...
.
.
...พี่เลยพลอยได้อานิสงส์ติดรถมาเที่ยวที่นี่วันนี้ด้วย รู้มะ...พี่นะ อยากเมดคาเฟ่มาตั้งนานแล้ว เพราะอ่านรีวิวแล้วเค้าบอกว่าน้องเมดน่ารักมากๆๆๆๆ... อีกอย่างก็อยากพาน้องด๋อยมาถ่ายรูปข้างๆจานไจแอนท์ออมเล็ทไรซ์ด้วยน่ะ...
.
.
...แต่ที่สำคัญที่สุด พี่อยากมาเจอหน้าขนุนสุดๆไปเลยล่ะ...ใช่มะเกี๊ยว แกอยากมาเจอขนุนเหมือนชั้นใช่มะ?...
...เอ๊ะ แล้วนี่ใครกันเอ่ย?” พี่ปลาถามขนุนแต่หันหน้ามามองผมอย่างสนอกสนใจ...ไม่ใช่และ พี่แม่งไม่น่ากลัวเหมือนกับมาดภายนอกแล้วว่ะ จริงๆพี่ปลาแม่งออกจะนุ่มนิ่มอ่อนโยนและร่าเริงสัด ผมว่าถ้าจับแกมาฟีทเจอริ่งกับน้องหัวม่วง...สองคนนี้แม่งต้องกลายร่างเป็นคู่หูดูโอ้ปล่อยพลังความร่าเริงเจิดจ้าทำลายล้างความหมองหม่นบนโลกใบนี้ได้แหงๆ...แรร์ไอเท่มสัดๆอ่ะ

พอเห็นท่าทางอารีมีไม่ตรีจิตรของพี่ปลาแล้ว พลอยทำให้ผมแม่งนึกถึงพวกเพื่อนร่วมห้องสมัยมัธยม ที่มองปราดเดียวก็รู้เลยว่าแม่งต้องนิสัยดี เรียนเก่ง เห็นอกเห็นใจคนอื่น แถมยังมีมนุษยสัมพันธ์ดีจนกล้าที่จะเข้ามาทักคนอื่นก่อนในวันเปิดภาคเรียนใหม่โดยไม่มีใครรู้จักกันมาก่อน   ถึงจะรู้ดีแก่ใจว่า...คบกับเพื่อนแบบพี่ปลานี่ ชีวิตผมคงจะเจริญและลืมตาอ้าปากได้เพราะแกจะนำพาความเจริญมาให้แน่ๆ  แต่ผมก็มองขาดว่า มันคงต้องแลกด้วยการอดฟันหญิงไปพร้อมๆกับดูด้อยไม่ถ่อยเท่ห์ไปตลอดชาติ... ซึ่งคงจะไม่ใช่คนประเภทที่เด็กเหี้ยๆอย่างผมเลือกคบแหงๆ

ลองถ้าไอ้พี่เจี๊ยวแม่งสนิทกับพี่ปลาขาใหญ่จริงๆ ไอ้พี่เจี๊ยวแม่งก็คงจะหนีไม่พ้นพวกเด็กหน้าห้องนิสัยดีแต่ไม่มีโอกาสตีหม้อขึ้นครูมาก่อนน่ะสิวะ... ถึงว่า แม่งเพิ่งจะมาออกอาการเห่อกระปู๋เอาอีตอนแก่ปูนนี้ หึ! อ่อนว่ะสัด!

ขนุนยิ้มแล้วตอบพี่ปลาไปอย่างสุภาพ “คนนี้เพื่อนขนุนเองครับ ชื่อน็อต......
.
...น็อต นี่พี่ปลา แล้วนี่ก็พี่เกี๊ยว...คนที่น็อตเคยเจอที่ออฟฟิศไง”

“หวัดดีฮะ” ผมยกมือไหว้พี่ปลา...ลามไปถึงไอ้พี่เจี๊ยวที่ผมจำใจต้องไหว้แม่งอย่างเสียไม่ได้... กูไม่น่าเกิดหลังมึงเลยจริงจริ๊งงง ไหว้แม่งแล้วเสียมือว่ะสัด!!

“อ๋ออออ...คนนี้น่ะเหรอที่ชื่อน็อต”...นี่ยังไงล่ะ ฤทธิ์ของไอ้เหี้ยพี่เจี๊ยว แม่ง...กูไม่น่าไหว้แม่งไปเล๊ยยย ไม่ทันไรแม่งก็มองกวนส้นตีนผมเสียแล้ว

ไอ้ความคิดที่ว่าผมกับแม่งศรศิลป์ไม่กินกันขนาดนี้เนี่ยะ คงไม่ใช่เพราะหวังในตัวขนุนเหมือนกันอย่างเดียวเสียแล้วล่ะว่ะ แม่งคงต้องเป็นเพราะความเกลียดน้ำหน้ากันมาตั้งแต่ชาติปางไหนที่ช่วยเสริมส่งอาการส้นตีนกระตุกของผมได้ดีอย่างไม่ต้องสงสัย...เห็นทีว่าชาตินี้กูคงจะไม่มีทางญาติดีกับมึงได้อีกต่อไปแล้วล่ะไอ้เหี้ยเจี๊ยวเสียวรูมดเอ๊ย!!

ผมแยกเขี้ยวส่งให้ไอ้เจี๊ยวแล้วตอบช้าๆชัดๆเพื่อให้แม่งได้ยินเต็มๆสองรูหู “ใช่ฮะ... ผมนี่แหละน็อต และก็เป็นน็อตคนเดียวของขนุน...ไม่มีน็อตอื่น น็อตไหนอีกแล้ว”

พี่ปลาชิงเอาตัวรอดโดยการหันไปคุยกับขนุนทันที “เอ่อ...พี่ว่า เราเข้าไปข้างในกันก่อนดีกว่านะ บรรยากาศตรงนี้มันมาคุๆยังไงก็ไม่รู้ซิ...ป่ะป๊ะ ไปกันเถอะขนุน” แกกึ่งจูงกึ่งลากขนุนให้เดินเข้าร้านไปด้วยกัน แต่ว่าที่เมียผมแม่งก็น่ารักเหลือกิน เพราะขนุนหันกลับมาคว้ามือของผมเพื่อให้เดินตามเข้าไปพร้อมๆกัน

ขนุนยิ้มให้ผมหลังจากที่มือเราสองคนประสานกัน “มาเร็วน็อต เดี๋ยวไม่ทันได้เห็นน้องเมดนะ” ...ให้มันได้อย่างนี้สิเมียกู!!

ผมนี่แทบจะลอยตามขนุนเข้าไปในร้านเหมือนลูกโป่งอัดแก๊สที่ผูกเอาไว้ตามข้อมือเด็กๆ แต่เพื่อความสะใจ ผมก็ไม่ลืมหันกลับไปยิ้มเยาะใส่หน้าบอกบุญไม่รับของไอ้เจี๊ยวที่กำลังเดินตามมา...  ไหนๆก็ไหนๆ ซ้ำเติมแม่งอีกหน่อยจะเป็นไรไปวะ ผมจึงบรรจงมองหน้าแม่งอย่างกวนตีนเต็มสูบ ก่อนจะหัวเราะเย้ยแม่งอยู่ในลำคออย่างดังอ่ะ “หึ หึ หึ!

เมื่อเราทั้งสี่คนได้ที่นั่งแล้ว ก็มีน้องเมดหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักเดินมาต้อนรับพวกเราทั้งหมดที่โต๊ะแล้วนั่งยองๆลงกับพื้นตรงข้างๆโต๊ะของเรา ก่อนจะทักทายด้วยน้ำเสียงสดใสและรอยยิ้มที่สดใส่ยิ่งกว่าสามเท่าครึ่ง “เมดคาเฟ่ยินดีต้อนรับค่า!!...
.
...ต่อจากนี้นายท่านทั้งหลายจะเข้าสู่ดินแดนแห่งความฝัน เรามานับถอยหลังกันนะค้า........3............2............1 เมื่อพูดและทำท่าประกอบจบ น้องเมดหน้าตาน่าเอ็นดูคนนั้น ก็เป่าแก้วใส่เทียนที่ถืออยู่ในมือจนเทียนเปลี่ยนเป็นสีแดงบิวท์อารมณ์ประมาณว่าไฟแห่งความฝันแม่งติด... เออ ดี มีพิธีกรรมเยอะกันเข้าไปสิ  แต่นี่มันยังแค่เริ่มต้น...เพราะไอ้ที่โหดสัดยิ่งกว่านี้มันตามมาแล้วล่ะฮะ

น้องเมดแม่งยังไม่หยุดร่ายพิธีปลุกจิตวิญญาณโอตาคุที่หลับใหลอยู่ภายในสัญชาติญาณดิบตรงซอกหลืบของจิตใจ ด้วยการส่งยิ้มหวานประเคนเข้าตามาอีกรอบ หลังแจกเมนูให้กับเราทุกคน แล้วพูดประกอบท่า “ถ้านายท่านต้องการสั่งอาหาร หรือเรียกพนักงาน ต้องทำท่าแบบนี้นะค้า”.......แหน่ะ...น้องเมดนี่ลีลาเหลือล้ำว่ะ มีหยุดพูดเพื่อกระชากสายตาและความสนใจอีก!!

จนเมื่อเราทุกคนมองไปที่น้องเมดเป็นตาเดียว น้องเมดก็ยกกำปั้นทั้งสองข้างขึ้นมาไว้ข้างๆแก้มเหมือนแมวกวัก แล้ว...แม่งก็ทำท่าแมวกวักจริงๆด้วย แถมปากน้องแม่งยังร้องว่า “เนี๊ยวๆ”
.
.
.
...เหี้ย!!! แล้วไอ้เนี๊ยวๆที่เห็นอยู่นี่มันคืออัลไล!!!
...ไงนะ น้องเมดบอกว่าต้องทำท่านี้ก่อนจะสั่งอาหารเหรอ???...
...ได้ ไม่ด่งไม่แดกแม่งแล้ว สัด!!
...แค่มากินข้าวในร้านสีหวานแหววที่โคตรไม่เข้ากับตัวผม แถมด้วยสาวน้อยชุดเมดเดินกันให้ว่อนนี่ พวกน้องๆยังไม่พอใจอีกเหรอวะ... ทำไมต้องมาให้ผมลำบากทำท่าเนี๊ยวห่าๆอะไรแบบนี้ด้วยอีกล่ะเนี่ยะ

ลองทำตามสิค้าาาาาาาาา”...อ้าวงานงอกแล้วสิกู! อยู่ดีไม่ว่าดี จะให้ลองทำให้ดูอีก...น้องเมดฮะ ยังจะต้องมาสำรวจความถูกต้องของท่าและองศามืออยู่อีกเหรอฮะ? แม่งจะเอาอะไรกับผมนักหนา ผมมากินข้าวกับแฟนและตัวประกอบไม่ได้รับเชิญอีกสองคนพร้อมจ่ายตังค์ให้พวกน้องๆนี่...ยังไม่พอใจอีกเหรอวะฮะ???!!

แต่ดูเหมือนโชคชะตาจะเล่นตลกกับผมเหลือเกิน เพราะสมาชิกผู้ร่วมโต๊ะกับผมทั้งสามคนแม่งเต็มใจเนี๊ยวเอาใจน้องเมดกันเต็มเหนี่ยว...โดยเฉพาะขนุน ที่แม่งทำท่านี้แล้วน่ารักสัด!!... จนผมแม่งเอาแต่จ้องคนนั่งข้างๆไม่วางตา

 “เนี๊ยวๆ!!” สมาชิกทั้งสามคนในโต๊ะผมส่งเสียงร้องและทำท่าพร้อมๆกัน โดยที่ผมเอาแต่จ้องมองขนุนอย่างไม่ละสายตา

...เออแฮะ... ผมแม่งเริ่มชอบร้านนี้ขึ้นมาหน่อยๆแล้วว่ะ ไม่นึกว่าโมเอ้คุงจะทำอะไรแบบนี้แล้วแม่งจะยิ่งน่ารักได้ขนาดนี้...แถมแม่งยังเต็มใจทำด้วยตัวเองอย่างไม่ต้องบังคับกันด้วยนะ  หืยยย...อยากลากขนุนกลับบ้านไปเนี๊ยวกันตัวตัวเสื้อผ้าไม่ต้องเหลือเกินฮะ

“นายท่านได้โปรดทำโดยพร้อมเพรียงกันด้วยค่ะ เอาใหม่อีกทีนะค้า” น้องเมดคนนี้แม่งต้องเป็นครูฝึกทหารกลับชาติมาเกิดแหง ถึงได้ไม่ยอมปล่อยผมให้รอดตัวไปได้ง่ายๆ... แต่ไม่เป็นไร ผมยอมทำให้แม่งก็ได้...เพราะผมจะได้เห็นขนุนทำท่าเนี๊ยวๆเป็นบุญตาอีกสักรอบนึง 

“เนี๊ยวๆ!! ขนุนที่นั่งข้างๆผมทำท่าแมวกวักไปแล้วก็ยิ้มอายๆไปด้วย เพราะดูเหมือนเจ้าตัวจะรู้แล้วว่ากำลังถูกผมจ้องตาเป็นมันอยู่.....อ๊ากกกกกก ขนุนแม่งน่ารักโฮกกกกกกอ่ะ

หลังจากน้องเมดเสร็จสมอารมณ์หมายได้ข่มขืนผมทางใจจนยอมเสียเนี๊ยวให้น้องเขาไปแล้ว อยู่ๆไอ้เหี้ยเจี๊ยวแม่งก็ดันทำเสียงหล่อพูดขัดความสุขในการแอบมองขนุนของผมเมื่อตะกี๊ขึ้นมาจนได้สิน่า “เป็นไงครับขนุน...ดีใจไม๊ ที่ในที่สุดก็ได้มาที่นี่อย่างที่ตั้งใจแล้ว?”

ขนุนเงยหน้าเปี่ยมสุขขึ้นมาจากเมนูแล้วตอบไอ้เหี้ยเจี๊ยวนั่นด้วยเสียงน่ารักน่าใคร่ “มากเลยล่ะครับพี่เกี๊ยว...แล้วพี่เกี๊ยวกับพี่ปลาล่ะ เป็นไงมั่งครับ?”

...หนอย!!! นี่มึงตั้งใจแหย่กูใช่ไม๊ไอ้พี่เจี๊ยว ถึงได้ชวนขนุนคุยแบบนี้...
...อดทนไว้ได้น็อต อดทนไว้ ดูท่าทีแม่งไปก่อนสักพักก็ยังไม่สาย  ขืนทำหน้างิ้วตั้งแต่หัววันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องแค่นี้ ขนุนที่เป็นคนกลางแม่งต้องลำบากใจแหงๆ

แต่คนที่ตอบกลับกลายเป็นพี่ปลาที่วางมือจากตุ๊กตาฟิกเกอร์ตัวเล็กๆที่แกจับวางท่าทางโน้นที ทางนี้ทีหลังจากเราได้ที่นั่ง “ก็จะอะไรได้ล่ะขนุน...
.
.
...ไอ้เกี๊ยวเนี่ยะ แค่เห็นขนุนยิ้มได้...มันก็คงจะดีใจมากแล้วล่ะมั้ง......เนอะเกี๊ยวเนอะ” พี่ปลาพูดแล้วเอาศอกกระทุ้งสีข้างไอ้เหี้ยเจี๊ยวนั่นเหมือนจะแซว ไอ้คนที่โดนกระทุ้งก็เสือกยกมือขึ้นเกาหัวแล้วส่งยิ้มเขินๆมาให้ขนุนเข้าอีกดอก

...อ่าว แล้วนั่นพี่ปลาจะชงให้ไอ้เจี๊ยวทำไมล่ะฮะ...
...ท่าไม่ดีแล้ว เห็นทีผมต้องตัดกองหนุนอย่างลูกสมุนกีกี้แบบพี่ปลาออกไปก่อน จะได้สู้กับบอสช็อคเกอร์ตัวเดียวให้รู้ดำรู้แดงกันไป

“พี่ปลาไม่ถ่ายรูปต่อเหรอฮะ ผมเห็นพี่ปลาเอาน้องตุ๊กตามาจัดท่าเอาไว้ตั้งนานแล้ว แสงกำลังสวยเลยนะฮะ ถ่ายก่อน
ไม๊ฮะ?/ อ้อ...เอ้อ จริงด้วย เดี๋ยวพี่ขอถ่ายรูปก่อนนะ” ผมยิ้มอย่างพอใจให้พี่ปลาที่ว่านอนสอนง่ายมาก แต่ก็ต้องหูกระดิกอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงของไอ้พี่เจี๊ยวพ่นออกมา

“ขนุน... พี่ได้อ่านต้นฉบับเรื่องใหม่แล้วนะ...
.
.
...ที่เราตัดสินใจแบบนี้น่ะ คิดดีแล้วเหรอ?” ไอ้เหี้ยเจี๊ยวแม่งทำหน้าซีเรียสจนเริ่มน่ากลัวใส่ขนุน จริงๆแม่งไม่น่าจะแค่จริงจังนะฮะ ผมว่าแม่งดูออกจะไม่พอใจเอามากๆด้วยน่ะสิ

“ครับ...คิดดีแล้วครับ ผมใช้เวลาคิดเรื่องนี้อย่างรอบคอบแล้วก็ครบถ้วนเป็นอย่างดีในทุกๆด้านแล้วล่ะครับ...
.
...ผมคิดว่ามันน่าจะมีผลดีกับตัวผมมากกว่าผลเสียอื่นๆที่อาจจะตามมา ผมก็เลยตัดสินใจทำแบบนี้น่ะครับ” ขนุนตอบเรียบๆโดยไม่เงยหน้าขึ้นมาจากเมนู

ไอ้เจี๊ยวแม่งดูเดือดร้อนเมื่อได้ยินคำตอบของขนุน ไหนจะท่าทีไม่สนอกสนใจที่โมเอ้คุงของผมทำใส่อีกล่ะ “ทำไมขนุนไม่คุยเรื่องนี้กับพี่ก่อนล่ะครับ?...
.
.
.
...ถ้าพี่รู้ว่าขนุนอยากจะทำอะไรแบบนี้  พี่นี่ยิ่งกว่ายินดีที่จะให้ความช่วยขนุนอีกนะ...
...เผลอๆ พี่อาจจะช่วยได้ดีกว่าทั้งด้านประสบการณ์ ความเข้าอกเข้าใจ และก็ด้านเทคนิคด้วยซ้ำ” เอ๊ะ!! มันชักจะยังไงๆแล้วล่ะฮะ ไหนว่าคุยเรื่องงาน แล้วทำไมปิดท้ายประโยค ไอ้เหี้ยเจี๊ยวแม่งถึงต้องเหลือบหางตามามองผมเหยียดๆด้วยล่ะวะ???!!  ไอ้เจี๊ยวเล็กเซ็กส์เสื่อมนี่เอาใหญ่แล้วนะเฮ่ย เห็นผมไม่ว่าอะไรปล่อยให้คุยงานแค่นี้ แม่งยังจะแว้งกัดผมอีกเหรอ...ได้!! เจอกันหน่อยโว้ย!!

ผมเสือกเมนูไปข้างหน้าขนุนแล้วถามด้วยเสียงออดอ้อน “ขนุนฮะ... ขนุนอยากกินข้าวแกงกะหรี่ หรือข้าวห่อไข่ฮะ... ขนุนดูเมนูกับน็อตนะฮะ น็อตจะได้รู้ว่าขนุนอยากกินอะไร พี่ๆเค้าจะได้ตัดสินใจเลือกอย่างอื่นที่เหลือ... เราจะได้กินอาหารที่นี่กันหลายๆอย่างแบบที่ขนุนอยากลองไงฮะ” ผมยิ้มประจบแล้วเลื่อนมือไปกุมมือนุ่มนิ่มของอีกคนที่วางหราอยู่บนโต๊ะเพื่อให้อีกฝ่ายได้เห็นแบบจะจะ

ขนุนก้มลงมองหน้าเมนูที่ผมเปิดค้างเอาไว้แล้วอ่านรายละเอียดของแต่ละเมนูอย่างตั้งอกตั้งใจ โดยไม่เลื่อนมือหนีมือของผมไปไหน “เอ่อ...ไหน มีอะไรบ้างล่ะ....อืมมม.........”

หลังจากที่นางเอกของเราหลบเข้าไปในโลกอันแสนบริสุทธิ์ของเมดคาเฟ่เป็นที่เรียบร้อย  พระเอกอย่างผมก็เริ่มห้ำหั่นทางสายตากับไอ้ตัวร้ายที่หมายจะฉกตัวนางเอกไปจากอ้อมอกว้างๆของผมทันที นี่ถ้าผมกับไอ้เหี้ยเจี๊ยวเป็นตัวการ์ตูน ระหว่างที่ผมกับแม่งจ้องตากันอยู่นี่ จะต้องมีสายฟ้าฟาดเปรี้ยงๆลงบนพื้นหลังถมดำอยู่แหงๆ...ศึกในครั้งนี้ ใครจะอยู่หรือจะไป เราจะได้รู้กัน....

 (Canon in D Rock Sungha Jung – เสียงเรียกเข้ามือถือน็อต) ...ถ้าพี่ปีย์ไม่โทรเข้าเครื่องผมเสียก่อนแบบนี้น่ะนะ เฮ้อออออ

ผมกดรับสายโดยที่ไม่ได้ลุกออกจากโต๊ะไปที่อื่น เพราะผมแน่ใจว่าแม้จะเป็นเรื่องงาน แต่คงไม่มีใครรู้แน่ๆว่าผมกับพี่ปีย์คุยอะไรกัน อีกอย่าง...ผมแม่งไม่อยากจะคลาดสายตาไปจากทั้งขนุนและไอ้เหี้ยเจี๊ยว “ฮะ พี่ปีย์.......คุยได้ฮะ.....

ตอนที่ผมกำลังติดสายกับพี่ปีย์ ขนุนก็เรียกพนักงานมาสั่งอาหารแทนเราทั้งสี่เป็นที่เรียบร้อย... หลังจากนั้น ผมแม่งต้องคอยกันประสาทหูเอาไว้ส่วนหนึ่งเพื่อคอยฟังบทสนทนาที่ดูเหมือนจะดุเดือดไม่น้อย ระหว่างขนุนกับไอ้เหี้ยเจี๊ยว “ขนุน พี่ว่าขนุนลองกลับไปคิดเรื่องนั้นดูใหม่ก็น่าจะดีนะ...
.
.
...จริงๆพี่ว่า เปลี่ยนพล็อตเรื่องตอนนี้ก็ยังไม่น่าจะสายเกินไป คือ เปลี่ยนตัวพระเอกไปเลยน่ะ...
...เพราะเท่าที่อ่านนิยายช่วงหลังๆมา พี่ว่า...พล็อตเรื่องรักๆใคร่ๆที่ดำเนินเรื่องโดยมีพระเอกเลวๆเป็นตัวหลักน่ะ มันเกร่อเกินไปแล้ว คนอ่านเค้าอาจจะเบื่อกันก็ได้นะ” ไอ้เหี้ยเจี๊ยวแม่งทำเสียงอ้อนวอน ในขณะที่หน้าแม่งบอกชัดเลยว่าแม่งอยากจะตายเต็มแก่... แม่งคุยเรื่องนิยายเองนะเว่ย มันจะอะไรกันนักหนาวะ???

“แต่พี่เมี่ยงแกโอเคนะครับ หลังจากที่อ่านโครงเรื่องที่ผมส่งไปให้ ดูแกออกจะชอบ” ขนุนตอบนิ่งๆ

“ขนุน...พระเอกนิยายเรื่องนี้พี่ว่าไม่เหมาะนะ แล้วอีกอย่าง ขนุนก็รู้นี่ว่าพระเอกมันหลอกลวง แล้วขนุนยังจะเชื่อไอ้พระเอกนั่นอีกเหรอ?  มันอาจจะเข้ามาเพื่อหวังบางอย่างจากตัวนายเอก แล้วก็ทำให้นายเอกของเรื่องเสียใจมากก็ได้นะ”

ขนุนตัดบทเรียบๆ “พี่เกี๊ยวครับ ผมว่าเราอย่าคุยเรื่องนี้กันอีกเลยนะครับ เพราะผมตัดสินใจไปแล้ว”

เมื่อเห็นท่าทีของขนุน ไอ้เหี้ยเจี๊ยวถึงกับนิ่งไป แล้วก็พูดออกมาอย่างคนอยู่ในสภาวะจำยอม “อืมม เรื่องนี้พี่จะปล่อยให้ขนุนตัดสินใจตามที่เห็นสมควรก็แล้วกัน แต่ในฐานะของผู้ช่วยบ.ก. พี่เองก็มีสิทธิออกปากเตือนเมื่อเห็นว่าเรื่องที่ขนุนกำลังเขียนอยู่อาจจะไม่ประสบความสำเร็จด้านยอดขายในภายหลังก็ได้...ไม่ใช่เหรอ?”

“ครับ...ผมขอบคุณนะครับ ที่พี่เกี๊ยวเป็นห่วง แต่ผมว่าผมดูแลเรื่องนี้ได้...
.
.
...อีกอย่าง...ผมว่า พระเอกคนนี้ก็ใช้ได้นะครับ...ติดแค่ว่าเป็นพวกปากไม่ตรงกับใจเฉยๆ แต่ที่เหลือ ผมว่าเค้าก็น่ารักดี” ขนุนพูดไปอมยิ้มไป... ขนุนแม่งพูดถึงนิยายหรือใครกันวะ ทำไมต้องทำหน้าน่ารักๆแบบนั้นด้วยล่ะ... ไม่เอาแล้ว ไม่อยากจะฟัง ...โอ๊ะ!! พี่ปีย์วางสายพอดีเลยเว่ย แทรกแม่งเลยดีกว่าว่ะ...

“คุยเรื่องานกันเหรอฮะ??... วันนี้วันหยุด เรามาคุยเรื่องไม่เครียดกันดีไม๊ฮะ ใช่ไม๊ฮะพี่ปลา?” ผมแม่งต้องกระชากวิญญาณพี่ปลาที่แม่งเข้าโหมดโลกส่วนตัวกับตุ๊กตาตัวเล็กตัวน้อยไปแล้วให้กลับมาช่วยเบรคสองคนนี้ออกจากกันเสียหน่อย

“อ้อ...เอ้อๆ ใช่ อย่าเครียด...อย่าเครียด แต่พวกนายคุยกันไปเลยนะ ไม่ต้องห่วงพี่...พี่ขอถ่ายรูปหน่อย...แฟนเพจเค้าเรียกร้องน่ะ ฮ่าๆๆๆ” ไอ้พี่ปลาแม่งก็กลับเข้าโลกของแม่งไปแล้ว แต่ก็ยังดี ที่พูดเข้าข้างผมก่อนจะไป

ไม่ทันไร ไอ้เหี้ยเจี๊ยวแม่งก็เอาอีก “แล้วนึกยังไงถึงมาที่นี่วันนี้ได้ล่ะขนุน?”

“อ๋อ...ก็น็อตเค้าบอกว่าจะพามาเดทกันน่ะครับ แล้วก็ให้ผมเลือกที่ๆผมอยากพาแฟนมาเดทด้วย” วินาทีนี้ผมแม่งรักขนุนสัดๆอ่ะ ไอ้ข้อความกำกวมของขนุนเมื่อกี๊นี่ทำเอาหูตาไอ้เหี้ยเจี๊ยวแหกจนแทบจะถลนออกมานอกเบ้าอยู่แล้ว

“นี่ขนุนไปตกลงเป็นแฟนกับน็อตแล้วเหรอ?” ไอ้เหี้ยเจี๊ยวมันถามอย่างเจ็บปวดฮะ... บอกได้เลยว่า ผมแม่งชนะราบคาบ!!

เพื่อให้ไม่เสียของ...ก็ขนุนอุตส่าห์ตั้งลูกมาให้อย่างสวยงาม ผมเลยกระโดดเทคตัวท้ายสนามแล้วตบหวดลูกตอกฝาโลงไอ้เหี้ยเจี๊ยวเพื่อทำคะแนนสุดท้ายทันที  “แหม่...พี่เกี๊ยวฮะ เมื่อกี๊พี่เกี๊ยวก็ได้ยินนี่ฮะ ว่าขนุนเค้าพูดว่ายังไง...ยังจะมาถามอะไรแบบนี้อยู่อีก ถ้าพี่เกี๊ยวฟังไม่ทัน...เดี๋ยวผมพูดให้ฟังอีกรอบก็ได้นะฮะ”

ไอ้เหี้ยเจี๊ยวแม่งคงเริ่มจะขึ้นเสียจนขาดการควบคุม เพราะผมเห็นแม่งกำหมัดทั้งสองข้างด้วยความลืมตัว... หรือจะเอาแม่งตรงกลางดงน้องเมดนี่เลย... ก็ได้นะ ผมพร้อม!!

แต่อยู่ๆก็มีเสียงหวานๆของน้องเมดคนเดิมแทรกเข้ามา “นายท่านคะ  เดี๋ยวพนักงานจะถามทั้งร้านนะคะว่า วันนี้มีคนสั่งเมนู Giant Kare Rice ด้วยค่ะ อยากทราบว่านายท่านโต๊ะไหนสั่งกันนะ นายท่านโต๊ะไหนสั่ง ให้ทำท่าเนี๊ยวๆ ด้วยนะคะแล้วหลังจากนั้นจะมีพนักงาน มาเสิร์ฟให้นะคะ” นั่นไง...บริกรรมคาถาของโลกแห่งโอตาคุ มันมาอีกแล้ว...ช่างเบรคอารมณ์คุกรุ่นระหว่างผมกับไอ้เหี้ยเจี๊ยวได้ดีเหลือเกิน

หลังจากนั้น ก็มีน้องเมดสามสี่คน เดินขึ้นบันไดมา พร้อมกับถือจานอาหารที่แม่งใหญ่โตโอฬารกว่าที่ไหนๆที่ผมแม่งเคยเห็นมา.. ไอ้พวกผมที่แม่งนั่งอยู่ที่โต๊ะก็เตรียมตัวจะตอบ แต่ก่อนจะได้เนี๊ยวอะไรไป ไฟทั้งร้านแม่งก็เกิดดับ แต่กลับมีไฟส่องลูกบอลดิสโก้ที่แขวนอยู่ตรงกลางร้าน จนมีลายสะท้อนวิ่งไปทั่ว ราวกับต้องการเรียกความนสนใจของลูกค้าทุกโต๊ะให้หันกลับมาดูน้ำหน้าของไอ้คนที่แม่งกล้าสั่งอาหารจานเบ้งที่ว่า...อยากจะประจานพวกผมล่ะสินะ หึ หึ...น้องเมดแม่งต้องเป็นพวกชอบเห็นความเจ็บปวดของคนอื่นแหงๆว่ะ

หลังจากไฟละลานตาแม่งทำพวกผมมึนหัวได้ที่แล้ว น้องเมดก็พูดใส่ไมค์ว่า  (เสียงพูดออกลำโพงของร้าน -- ‘วันนี้มีคนสั่งเมนู Giant Kare Rice ด้วยค่ะ แต่เอ อยากทราบว่านายท่านโต๊ะไหนสั่งกันน้าาาาา นายท่านโต๊ะไหนสั่ง ให้ทำท่าเนี๊ยวๆ ด้วยนะค๊าาาาาา)

พวกผมแม่งก็เลยต้องทำท่าสนองตัณหาเมดบ้าเลือดทั้งหลายอย่างเสียไม่ได้ “เนี๊ยว...เนี๊ยว”... จริงๆต้องบอกว่าเป็นผมคนเดียวมากกว่า ที่แม่งใม่เห็นจะสนุกห่าอะไรเลยกับพิธีกรรมของร้านนี้  ไอ้ที่ดีอย่างเดียวก็คือ ได้มานั่งมองขนุนทำท่าแปลกๆน่ารักๆนี่ล่ะ

แต่.....อนิจจา..ไอ้พิธีกรรมประจานก่อนกินแม่งยังไม่เสร็จสิ้นสาแก่ใจของน้องเมด  ผมขอบอกเอาไว้เลยนะ ว่าถ้ามาร้านนี้เลิกคิดไปได้เลยว่า ทำแค่ท่าเนี๊ยวๆแล้วทุกอย่างจะเป็นไปได้ดั่งใจ เพราะก่อนจะได้กิน...แม่งยังมีท่ายากอีกหลายท่า ตามแต่อาหารที่เราสั่ง โดยเฉพาะอาหารจานใหญ่มหึมาทั้งหลาย

น้องเมดที่ดูแลโต๊ะเราพูดต่อ “นายท่านคะ ก่อนจะกิน เราจะต้องมีท่าเพื่อเพิ่มความอร่อย ให้กับอาหารด้วย”  จากที่ไม่หิว...ผมแม่งก็เริ่มหิวขึ้นมาตงิดๆ จากที่ไม่หงุดหงิด...ผมแม่งก็เริ่มจะนับถอยหลังแล้วนะเว่ย...นี่จะกินได้ยังวะเฮ่ย??

แต่น้องเมดแม่งก็ทำมึนไม่สนใจแล้วก็ทำท่าร่ายคาถาห่าเหวอะไรของน้องแม่งให้เราทั้งสี่คนดู โดยไม่ลืมบอกบทอาขยาน “เนื่องจากพลังร่ายเวทย์ของน้องเมด ยังไม่กล้าแกร่งจึงต้องขอให้นายท่านช่วยกันร่ายเวทย์พร้อมๆ กันด้วยนะค๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา.... โออิชิ คุนาเระ โมเอะโมเอะ บีมมมมม!!”  กว่าจะได้กิน บอกได้คำเดียวว่า...ห่า!!

แต่พอจะได้กิน...ผมแม่งก็ต้องขึ้นอีกรอบ เพราะไอ้เหี้ยเจี๊ยวแม่งเสือกตักไก่ทอดที่อยู่ฝั่งมันมาให้โมเอ้คุงของผม “ขนุน...กินไก่ทอดนี่นะ เอาแต่กินข้าวกับแกงกะหรี่ เดี๋ยวก็ไม่อิ่มกันพอดีหรอกครับ”

“ขอบคุณครับพี่เกี๊ยว แต่พี่เกี๊ยวทานเถอะ ที่น็อตตักมาให้ผมนี่ ผมก็จะกินไม่ทันอยู่แล้วครับ” ว่าที่เมียผมแม่งอยู่ในโอวาทและวางตัวดีแท้ๆ น่ารักมาก...ขอให้น่ารักอย่างนี้ทั้งต่อหน้าและลับหลังน็อตเลยนะฮะเบ่เบ๋
.
.
.
แค่นั้นไม่ได้ทำให้ไอ้เหี้ยเจี๊ยวเสียวรูมดหมดกำลังใจ เพราะลูกตื๊อคราวนี้ทำเอาขนุนหันกลับไปสนใจแม่งจนได้ “เออ ขนุน...เดี๋ยวเพื่อนพี่จะบินไปญี่ปุ่นเดือนหน้า ขนุนอยากได้อะไรรึเปล่า? เอาดอลหรือฟิกเกอร์ตัวไหนไม๊ ไอ้นี่มันก็นักสะสมตัวยงเหมือนกัน มันบอกว่าเพื่อนคนญี่ปุ่นของมันจะพาไปร้านดอลเจ๋งๆน่ะ”

“จริงเหรอครับ? ถ้างั้น เดี๋ยวขอผมกลับไปดูในเว็บก่อน ว่ามีอะไรที่ผมอยากได้รึเปล่า แล้วเดี๋ยวผมค่อยบอกพี่เกี๊ยวอีกทีนะครับ” ขนุนทำหน้าดีอกดีใจแล้วส่งยิ้มให้ไอ้เหี้ยเจี๊ยวอยู่หลายรอบ แต่ไอ้ที่ทำผมเจ็บคงหนีไม่พ้นรอยยิ้มแสยะของไอ้เหี้ยเจี๊ยวที่แม่งส่งมาเย้ยผมเมื่อครู่นี้นี่แหละ

ผมเลยตักไก่ทอดเหมือนกับที่ไอ้เหี้ยเจี๊ยวเพิ่งจะตักให้ขนุนมาให้คนหน้าแว่นกินเพื่อแสดงแสนยานุภาพ “ขนุนฮะ...กินอันนี้ก่อนนะ เดี๋ยวมันจะเย็นซะก่อน”

“อื้อ...ได้ๆ” และแล้วก็เป็นตาผมที่ได้ส่งรอยยิ้มกวนส้นตีนกลับไปให้แม่งได้อย่างเจ็บแสบ...
...ของที่มึงตักให้ ขนุนไม่กินเว่ย เพราะเค้าจะกินของที่กูเป็นคนตักให้เท่านั้น หึ หึ หึ...ให้มันรู้เสียมั่งว่าใครเป็นใคร

แต่ไอ้เหี้ยเจี๊ยวแม่งก็ตื๊อเหลือใจฮะ เพราะแม่งยังจะจิกขนุนอยู่ไม่เลิกไม่รา “ขนุน...เอางี้ไม๊ล่ะ เดี๋ยวตอนที่ขนุนออนไลน์เช็คแค็ตตาล็อกบนเว็บอยู่ เราโทรคุยกันดีไม๊...พี่จะได้ช่วยแนะนำ ก็ขนุนอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออกไม่ใช่เหรอ?” แสรดดด...ทำมาเป็นเก่งภาษาที่สามเกทับผมเหรอ... โด่ ผมพูดภาษาอาหลับ - อิสราเอน - เลบานอนได้คล่อง ผมแม่งยังไม่เคยคิดจะเอามาคุยเลยว่ะ

“เอาอย่างนี้ดีกว่าครับพี่เกี๊ยว...เดี๋ยวผมลองทำเองดูก่อน แล้วถ้าติดขัดอะไร ผมโทรไปหาพี่เกี๊ยวเพื่อขอความช่วยเหลืออีกที...ผมไม่อยากรบกวนเวลาพักผ่อนของพี่เกี๊ยวน่ะครับ เห็นพี่เมี่ยงบอกว่าช่วงนี้ต้องรีบปิดเล่มนิยายหลายเรื่องไม่ใช่เหรอครับ" 

พอผมได้ยินที่ขนุนพูด ผมแม่งก็รู้ทันทีว่าขนุนแม่งต้องไม่พอใจอะไรเหี้ยเจี๊ยวแน่ๆ ไม่อย่างนั้นขนุนคงไม่ทำท่าทางตัดรอนแม่งไปเสียทุกเรื่อง ผมเลยปิดประตูแห่งความหวังอันริบหรี่ของไอ้เหี้ยเจี๊ยวด้วยการสำทับไปอีกประโยค "งั้นเดี๋ยวน็อตช่วยขนุนดูก็ได้นะ...น็อตเคยสั่งซื้อของจากญี่ปุ่นบ่อยเหมือนกัน...
.
.
...อีกอย่าง...ถ้าติดเรื่องภาษาตรงไหน เดี๋ยวน็อตถามพี่ปีย์ให้ก็ได้ เพราะพี่ปีย์อ่านภาษาญี่ปุ่นได้น่ะ โอเคไม๊ฮะ?”

“อืมมม ก็ได้...งั้นเดี๋ยวเราค่อยกลับบ้านไปดูแล้วกันนะ”

“ฮะ...ตอนนี้กินกันก่อนเถอะฮะ เมื่อกี๊เอาแต่ร่ายเวทย์มนตร์จนหิวไปหมดแล้ว ถ้ามัวเอาแต่คุย เดี๋ยวจะเป็นลมเอาได้นะฮะ พี่ปลาฮะ...กินก่อนไม๊ฮะ?” ผมทำท่าไม่รู้ไม่ชี้แล้วเริ่มกินข้าวอย่างจริงจังหลังจากต้องผ่านพิธีกรรม และการฟาดฟันกับไอ้เหี้ยเจี๊ยวจนนับครั้งไม่ถ้วนมาตลอดเกือบชั่วโมงที่ผ่านมา

“แหะๆ โทษทีๆ พี่ถ่ายรูปน้องๆเพลินไปหน่อย มาๆ กินๆกันเถอะนะ” พี่ปลาตอบผมแล้วจึงวางมือจากกล้องและตุ๊กตาเพื่อหันมากินข้าวเป็นเรื่องเป็นราวเสียที... พี่ปลานี่แม่งก็เล่นไม่เป็นเวล่ำเวลาอย่างกับเด็กๆ โชคดีนะที่เกิดก่อนผม ไม่งั้นเป็นน้องเป็นนุ่งหน่อยไม่ได้ ไอ้น็อตจะจับมาสวดเสียให้เข็ด



หลังจากถ่ายรูปกับน้องเมดที่หน้าร้านและเคลียร์เรื่องค่าใช้จ่ายเป็นที่เรียบร้อย ก็ถึงคราวที่เราทุกคนต้องแยกย้ายกันไปเสียที จังหวะนั้นไอ้เหี้ยเจี๊ยวแม่งก็เอาเลย “เสร็จจากนี่แล้วขนุนจะไปไหนต่อเหรอครับ?”

“ก็แล้วแต่น็อตน่ะครับ” ขนุนตอบโดยที่หันหน้ามามองผมเพื่อให้ผมตอบคำถามนี้ให้อีกทอดหนึ่ง

ผมเลยพูดทั้งรอยยิ้มกว้าง...ซึ่งแน่นอน มันเป็นยิ้มสำหรับขนุน ไม่ใช่ไอ้เหี้ยเจี๊ยว “อ๋อ...ผมว่าจะพาขนุนไปเดทต่อน่ะฮะพี่เกี๊ยว...
.
...ถ้าไม่เป็นการเสียมารยาทจนเกินไปนัก พวกผมขอตัวก่อนนะฮะ เพราะผมไม่อยากจะไปถึงที่เดทที่สองของเรามืดไปซะก่อน...
.
.
...ไปกันเถอะฮะขนุน รับรองว่าที่ๆสองที่น็อตจะพาไปเนี่ยะ ขนุนต้องชอบแน่ๆฮะ...
...อีกอย่าง น็อตรอจะตอบคำถามของขนุนที่ถามเอาไว้ตั้งแต่เมื่อเช้าอยู่นะฮะ” ผมแม่งทั้งหยอดทั้งเชิญชวนแบบหว่านเสน่ห์ขั้นสูงสุดเพื่อกวนประสาทไอ้เหี้ยเจี๊ยวที่แม่งกำลังจ้องหน้าผมจนตาแม่งจะหลุดออกมาเต็มแก่แล้ว ผมส่งมือยื่นออกไปข้างหน้าขนุนเพื่อเป็นสัญญาณให้อีกคนรู้ว่า ถึงเวลาไปของเราเสียที

 “พี่ปลาครับ พี่เกี๊ยวครับ...ผมขอโทษนะครับ ที่วันนี้ต้องขอตัวกลับก่อน แต่วันนี้ผมสนุกมาก เอาไว้คราวหน้าเรามาเที่ยวด้วยกันแบบนี้อีกนะครับ” เมื่อพูดจบ ขนุนก็ยื่นมือมาประสานมือของผมเอาไว้

“อืมม ไปเถอะ...เดินทางดีๆนะขนุน เดี๋ยวเอาไว้พี่จะให้ไอ้เกี๊ยวชวนมาเที่ยวด้วยกันอีกแล้วกัน” พี่ปลาพูดกับขนุนโดยที่ไม่ละสายตาไปจากมือของเราสองคนที่สอดประสานกันอยู่ในเวลานี้เลย....ซึ่งไม่ต่างไปจากไอ้เหี้ยเจี๊ยวเท่าไรนัก

ก่อนเราสองคนจะเดินหันหลังออกมา ไอ้เหี้ยเจี๊ยวแม่งยังจะสั่งเสียทิ้งท้าย “ขนุน...เดี๋ยวพี่โทรหานะครับ” เดี๋ยวแม่งได้ตายจริงๆแน่...สาดดดด!!!

“ครับพี่เกี๊ยว สวัสดีครับ” ขนุนก้มหัวลงน้อยๆแทนการไหว้อีกฝ่ายแล้วส่งยิ้มให้ปิดท้ายการลา

“หวัดดีนะฮะพี่ๆ ผมพาขนุนไปเดทก่อนนะฮะ” ผมบอกลาคู่หูปาเกียวแล้วเดินจูงมือขนุนลงบันไดเลื่อนเพื่อไปเอารถและมุ่งหน้าไปยังที่หมายถัดไปของเรา พอกันที...ไอ้เดทหมู่ดุเดือดเลือดพล่านอาหารดาดๆเนี่ยะ ของจริงหลังจากนี้กำลังรอเราอยู่ข้างหน้า และขนุนจะได้เจอคนที่ผมอยากให้เห็นหน้าอีกกลุ่มหนึ่งเหลือเกิน

...จะได้รู้เสียที ว่าว่าที่สะใภ้คนนี้ จะเป็นที่ถูกอกถูกใจของบรรดาไอ้ตัวดีทั้งหลายนั่นหรือเปล่า
...วันนี้คนที่ผมรักหลายๆคนจะได้มาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน ในบรรยากาศที่ผมเป็นตัวของตัวเองที่สุด โดยที่ขนุนจะกลายเป็นหนึ่งในนั้น แค่คิด...ผมแม่งก็สุขใจสุดๆแล้วล่ะฮะ




๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐


2 comments:

  1. พี่ปลาเอาพี่เกี๊ยวไปเก็บซิ เอาไปจัดการเลย 555555
    ยังขนุนเขาก็ไม่ยอมเธอหรอกกกก เขายอมน็อตคนเดียวค่ะ โฮะๆๆๆ

    มะลิมารุสบายดีไหม ช่วงนี้งานเยอะดีเนอะ ใกล้สอบอีกด้วย อยากจิร้องไห้ 5555

    ReplyDelete
  2. ฮ่าๆๆๆๆ มีเชียร์พระเอกเราเต็มที่แบบว่าแนะนำให้พี่ปลายื่นมือมากำจัดออกไปให้ด้วย... ถ้าน็อตรู้นี่น็อตรักคุณนาราตายเลยนะคะ ฐานะเป็นผู้สนับสนุนที่คอยอุ้มสมให้พ่อคุณได้กับขนุนเร็วๆ ฮ่าๆๆๆ

    มะลิสบายดีค่ะ เรื่องงานก็เรื่อยๆค่ะ เพราะตอนนี้มะลิพักงานออกมาอยู่บ้านและเขียนหนังสืออย่างเดียว (เริ่มจะขี้เกียจกลับไปทำงานแล้วสิ ฮ่าๆๆๆ) ใกล้จะสอบแล้วเหรอคะ ถ้างั้น มะลิขอเป็นกำลังใจให้นะคะ ขอให้อ่านหนังสือเข้าหัวปรู๊ดๆๆๆๆ ความรู้ติดแน่นอยู่ในสมอง และเข้าใจเนื้อหาได้ทะลุปรุโปร่งจนทำข้อสอบได้คะแนนดีสุดๆไปเลยนะคะ

    แต่ถ้ามีอะไรเหนือบ่ากว่าแรงอยากจะบ่น...บ่นมาให้มะลิรับฟังได้เลยนะคะ...
    มะลินี่ยิ่งกว่ายินดีรับฟังอีกค่ะ (อยากจะเป็นคนช่วยบรรเทาความเครียดให้คุณนาราอีกทางน่ะค่ะ) รักนะคะ เชิฟๆๆๆๆ

    ReplyDelete