บทรุกที่ 18: ไม่มีมูลฝอยหมาไม่ขี้
(ไม่มีมูลฝอยหมาไม่ขี้ : อะไรก็ตามที่เกิดขึ้น
มักจะต้องมีเหตุหรือมีเค้ามูลมาก่อน ไม่ได้เกิดขึ้นลอย ๆ)
ผมออกจากบ้านตั้งแต่ตีห้าเพื่อมาเปลี่ยนเวรกับพี่ปีย์ที่โรงแรมเพื่อเฝ้า
X1 ซึ่งออกมาเจอกับผู้จ้างวานตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา
ระหว่างนั่งยามเฝ้ารอดูความเคลื่อนไหวของเป้าหมายและนายจ้างอย่างเงียบๆตรงล็อบบี้
ผมก็อดคิดเรื่องขนุนขึ้นมาไม่ได้
นานมาแล้ว
ผมเคยได้ยินใครสักคนพูดให้ฟังว่า ‘คนที่เป็นฝ่ายแอบรัก หรือรักมากกว่ามักจะขาดความเชื่อมั่น
และความนับถือในตัวเอง....จนกว่าจะได้มาซึ่งความรักของอีกคนที่เราเฝ้ารออย่างเท่าเทียม
เมื่อนั้น...ความมั่นคงที่ขาดหายก็จะกลับมาเต็มได้เหมือนเดิม’
...ในตอนนั้น
ผมก็ได้แต่ปล่อยให้ข้อความนั้นเข้าหูซ้าย และทะลุหูขวาออกไปอย่างไม่ใยดี
เพราะไม่มีวันเสียหรอก ที่คนอย่างผมจะกลายเป็นฝ่ายรักก่อน หรือรักมากกว่า แต่สิ่งที่ผมกำลังเจออยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนี่แหล่ะ
ที่แม่งจุดประกายให้ผมเริ่มจะเชื่อไอ้คำพูดที่ว่าขึ้นมาเสียแล้วสิ
ผม...ชายหนุ่มผู้มีความมั่นใจทะลุขีดสุด
ไม่เคยมีสักครั้งที่จะเกิดหวั่นไหวหรือสั่นคลอน เพียงเพราะสายตาไม่ยอมรับและคำพูดเสียดแทงใจของคนอื่น แต่สุดท้าย...กลับต้องมาตกม้าตายกลายเป็นไอ้อ่อนด๋อยด้อยประสบการณ์ประเมินหน้างานไม่ได้
นับตั้งแต่วินาทีที่ผมแอบรักผู้ชายแปลกๆที่ชื่อขนุน
ลองคิดดูสิฮะ
ว่าอาการของผมแม่งหนักขนาดไหน...
เดี๋ยวนี้
แค่ขนุนพูดอะไรนิดอะไรหน่อย หรือทำท่าทางผิดไปจากที่ผมคาดการณ์เอาไว้ ผมแม่งก็เริ่มจะไม่แน่ใจแล้วว่าแผนที่ผมกำลังทำอยู่นั้นมันดีและรอบคอบจริงหรือเปล่า
และเรื่องที่ทำเอาผมหนักใจอย่างที่สุดในเวลานี้
เห็นจะหนีไม่พ้น...ท่าทีของขนุนที่มีต่อผมหลังจากที่เราเริ่มข้อตกลงร่วมกันอย่างจริงจัง...
...ผมแม่งกำลังไม่มั่นใจว่า
จริงๆแล้ว...ขนุนเอง แม่งก็เริ่มจะมีใจให้ผมนิดๆด้วยเหมือนกัน...
...ไม่ว่าจะการโอนอ่อนผ่อนตาม การเอาอกเอาใจผมไปเสียทุกเรื่อง แถมพักหลังๆ
เริ่มจะมีการถามไถ่โน่นนี่ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องส่วนตัวของผมมากขึ้นเรื่อยๆ จนบางครั้งผมแม่งชักจะรู้สึกว่าตัวเองสำคัญและเป็นคนพิเศษสำหรับขนุนขึ้นมาหน่อยๆแล้วสิ
...แต่พอผมถามจี้จุดหรือหาเหตุผลขึ้นมาทีไร
ขนุนแม่งก็มักจะบอกอย่างชิลๆว่า...มันเป็นไปตามที่เราได้ตกลงกันเอาไว้เท่านั้น ไม่ก็เอาแต่ยิ้มโดยไม่พูดอะไร... หรือสิ่งดีๆที่ขนุนทำให้ผม
จะเป็นเพียงแค่การไหลไปตามน้ำหลังจากข้อตกลงฯระหว่างเราเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น..
...ไม่น่าเชื่อว่าคนที่ดูเซื่องๆไม่มีพิษสงคนนี้จะทำเอาระบบความคิดและการตัดสินใจของผมรวนไปหมด...
...ผมแม่งไม่แน่ใจห่าอะไรเลยว่ะ
ให้ตายสิ!!
พอคิดเรื่องความเป็นไปได้เรื่องขนุนอาจจะมีใจให้ผมขึ้นมา
ก็อดนึกไปถึงตอนที่เราไปกินข้าวพร้อมกับไอ้เหี้ยเจี๊ยวตอนบ่ายเมื่อวานขึ้นมาไม่ได้...
เพราะถ้าใครที่นั่งอยู่ตรงนั้นและสามารถทำความเข้าใจเรื่องง่ายๆได้ดี แม่งก็ต้องดูออกแทบทั้งนั้นแหละฮะว่า
ทั้งผมกับไอ้เหี้ยเจี๊ยวพิศวาสขนุนไม่ต่างกัน
แต่การวางตัวของขนุนที่ทำกับผม
แม่งดูจะคล้ายๆกับการให้ความหวังแถมยังทอดสะพานเสริมคอนกรีตเปิดโอกาสให้ผมทำคะแนนได้ตลอดเวลา
ในขณะที่วิธีปฏิบัติของขนุนต่อไอ้เหี้ยเจี๊ยว กลับหักหาญ
ตัดรอนจนน่าอ่อนใจแทนอย่างกับหนังคนละม้วน
คนธรรมดาผู้มีหัวใจเป็นเพียงกล้ามเนื้อก้อนหนึ่งทั่วๆไปอย่างผม
ต่อให้ไม่คิดอะไรเกินเลย...แต่ได้รับการปฏิบัติจากขนุนอย่างที่ทำกับผมแบบนั้น แม่งก็ต้องมีหวั่นไหวเผลอไผลคิดเข้าข้างตัวเองขึ้นมาบ้างเหมือนกันแหละวะ...
...แล้วไหนจะบทสนทนาของเราก่อนนอนเมื่อคืนที่แม่งเติมเชื้อไฟให้ผมคิดเข้าข้างตัวเองขึ้นมายกใหญ่อีกล่ะ???...
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
ร่างอ้อนแอ้นที่ผมกำลังกอดอยู่จากทางด้านหลังพลิกตัวกลับมานอนตะแคงหันหน้ามาหาผม
แสงรำไรจากไฟทางข้างนอกที่ลอดรอยต่อของม่านเข้ามาทำให้ผมเห็นดวงหน้าขาวเด้งนั้นไม่ชัดนัก
แต่นั่นไม่ได้มีผลกับการได้ยินของเรา คนตัวเล็กกว่าถามผมออกมาเบาๆว่า
“น็อต...เดทของน็อตเป็นแบบนี้เองน่ะเหรอ?....
.
...เวลาน็อตเดทกับใคร
น็อตก็พาเค้าไปเจอเพื่อนอย่างนั้นน่ะเหรอ?”
ผมยิ้มให้อย่างเอ็นดูแม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายมองไม่เห็นก็ตาม
“มันก็ไม่เสมอไปหรอกฮะ หลักๆแล้ว น็อตเป็นพวกชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง
ไม่ก็เล่นกีฬาอะไรเทือกนั้นน่ะฮะ น็อตเลยอยากให้แฟนไปทำอะไรแบบนี้ด้วยกันได้...
.
.
...หรือต่อให้เค้าทำไม่ได้
หรือไม่สนใจ...น็อตก็ยังอยากให้เค้าไปด้วย
เค้าจะได้รู้ว่าสังคมอื่นๆของน็อตเป็นยังไง
เพื่อที่เค้าจะได้เห็นและกลายเป็นส่วนนึงของสังคมนั้นๆ พอน็อตทำแบบนี้ มันก็ช่วยตัดปัญหาเรื่องความหวาดระแวงไม่เชื่อใจกันไปได้ส่วนหนึ่ง
แถมระหว่างเราสองคน ก็ยังสามารถใช้เวลาด้วยกันได้มากยิ่งขึ้นอีกยังไงล่ะฮะ...
...เรื่องเดทวันนี้ที่ขนุนได้ไปเจอหน้าเพื่อนๆของน็อตอย่างพร้อมหน้า
คงเป็นเพราะความบังเอิญมากกว่า เพราะหนึ่งในกิจกรรมที่น็อตชอบ ก็หาเล่นได้ง่ายๆแบบไม่ต้องเสียตังค์
แค่แวะไปที่บ้านไอ้ลิง... แต่มันดันมาประจวบเหมาะกับที่พวกมันนัดกันมาสังสรรค์ในวันนี้เข้าพอดี...
.
.
...การได้ไปเจอหน้าเพื่อนๆน็อต
เลยกลายเป็นผลพลอยได้ของการซ้อมเดทระหว่างเราในวันนี้ยังไงล่ะฮะ....” ตอนนี้สายตาผมเริ่มปรับเข้ากับความมืดได้ดีขึ้นแล้ว
หน้าเล็กๆขาวๆนั่นเลยดูเด่นชัดและใกล้มากเสียจนทำเอาผมใจเต้นโครมครามผิดจังหวะ
ไม่ต่างอะไรกับเมื่อครั้งแรกที่ผมได้เห็นใบหน้าน่ารักน่าใคร่ของขนุนใกล้ๆ
ขนุนมองหน้าผมนิ่งนาน
ก่อนจะถามต่อ “แต่นี่มันเป็นแค่การซ้อมเดท
ขนุนไม่เห็นว่าเพื่อนน็อตจำเป็นจะต้องเจอขนุนเลยนี่นา...ใช่ไม๊ล่ะน็อต?”
ดูเหมือนขนุนเองก็น่าจะพอรับรู้ได้ถึงความพยายามหาโอกาสพาขนุนไปเจอเพื่อนๆคนสำคัญของผมในครั้งนี้อยู่บ้างเหมือนกัน
ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ติดใจจนเก็บเอามาถามอยู่แบบนี้
ผมเลยพยายามทำเสียงนิ่งๆบอกออกไป เพื่อให้อีกฝ่ายเข้าใจว่าสิ่งที่ผมกำลังจะอธิบายเป็นเพียงเรื่องทั่วๆไปไม่มีอะไรพิเศษ
“น็อตก็แค่อยากให้รู้จักกันเอาไว้น่ะฮะ
เพราะน็อตว่า ระหว่างเราสองคน...เราน่าจะคบหากันไปอีกนาน...
...และในเมื่อความสัมพันธ์ของเรามันจะต้องดำเนินไปในรูปนั้นอยู่แล้ว
ไม่วันใดก็วันนึงข้างหน้า ขนุนก็ต้องได้มีโอกาสพบหน้าพวกมันอยู่ดี น็อตเลยเห็นว่า
พาขนุนไปเจอพวกมันเอาซะเลยวันนี้
ทั้งขนุนและมันทั้งสามตัวจะได้เริ่มทำความรู้จักและคุ้นเคยกันเร็วขึ้นยังไงล่ะฮะ...
...ที่สำคัญ
อย่างที่น็อตบอกเอาไว้ก่อนหน้านั้นแหละฮะ
ว่าน็อตอยากลองทดสอบดูว่าขนุนจะพูดจาเป็นปกติได้รึเปล่าถ้าต้องไปเจอกับคนที่ไม่คุ้นเคยมาก่อนแบบพวกมัน
นี่ไงล่ะฮะโอกาสให้ได้ทดสอบฝีมือ ถ้าน็อตไม่คว้าเอาไว้
แล้วเราจะได้เริ่มลองกันเมื่อไรล่ะฮะ...เนอะ”
ผมไม่ลืมตบท้ายด้วยเหตุผลข้างๆคูๆที่ผมยกขึ้นมาเพื่อกลบเกลื่อนความจริงที่ขนุนกำลังตั้งข้อสังเกต
คนฟังของผมโต้ตอบด้วยน้ำเสียงลังเล
“อืม...ไม่รู้สินะ ทำไมขนุนรู้สึกเหมือนถูกพาไปดูตัวเลยล่ะ...
.
...ท่าทางของเพื่อนน็อตแต่ละคนดูสนใจขนุนมากเป็นพิเศษ
ทั้งที่กับคนแปลกหน้าคนอื่นๆ...ไม่เคยมีใครมีปฏิกิริยาแบบนี้ตอนเจอขนุนเป็นครั้งแรกมาก่อนเลยนะ...
...อืมมมมม...
...พอได้ไปเจอเพื่อนสนิทน็อตทุกคนในวันนี้
พลอยทำให้ขนุนนึกไปถึงตอนที่เจอกับพี่เน้ยครั้งแรกขึ้นมายังไงก็ไม่รู้
บอกไม่ถูกเหมือนกัน...
.
.
...ใช่แล้วล่ะ!!
พี่เน้ยเองก็ออกอาการไม่ผิดไปจากเพื่อนๆของน็อตเลยนะ ทั้งความเอาใจใส่ สายตา
ท่าทาง ไหนจะคำพูดอีกล่ะ” ขนุนพูดรัวออกมาเหมือนพวกนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องที่เพิ่งค้นพบทฤษฎีใหม่อะไรสักอย่าง...
แล้วคุณจะมาจับนั่นผสมนี่เพื่อคาดคั้นไอ้น็อตคนนี้ให้ได้อะไรขึ้นมาล่ะฮะ??... อะไรจะฉลาดแบบนี้วะว่าที่คุณเมีย
ผมนี่ไม่รู้จะอ้างอะไรอีกแล้วนะ ตอนนี้ก็คงจะเหลือแต่การแถเท่านั้นแล้วล่ะ
ที่ผมยังพอจะทำเพื่อเอาตัวรอดได้อยู่บ้าง
“เฮ๊ยย ขนุน! คิดมากไปแล้วฮะ... พวกมันเป็นคนแปลกๆน่ะฮะ
มันก็เลยอาจจะทำตัวไม่เหมือนคนอื่นไปบ้าง...
.
.
...ขนุนอย่าลืมสิฮะ
น็อตเคยบอกตั้งแต่ตอนเราอยู่ในรถแล้วไงฮะว่า ไอ้พวกนั้นน่ะนิสัยดี เรื่องรูปกายภายนอกเพียงผิวเผินอะไรนี่
ไอ้สามตัวนั่นไม่เคยติดใจ อีกอย่างน็อตก็เล่าเรื่องขนุนให้พวกมันฟังไปบ้างบางส่วนแล้ว
พวกมันก็เลยอาจจะทำท่าเหมือนรู้จักมักคุ้นกับขนุนมากไปหน่อย จนอาจจะดูสนิทสนมและให้ความสนใจขนุนเลยเถิดเกินไปบ้างยังไงล่ะฮะ...
.
...ส่วนเรื่องของคุณเน้ย
น็อตก็ไม่รู้เหตุผลหรอกนะฮะ แต่มันอาจจะเป็นไปได้ว่า
คุณเน้ยแกตื่นเต้นที่พอเห็นขนุนถอดแว่น เปลี่ยนลุค
แล้วดูเหมือนนายแบบอะไรเทือกนั้น... แกก็เลยอาจจะอยากทำความรู้จักเอาไว้
เผื่อแกจะจีบไปเดินแบบเหมือนที่ขนุนเล่าให้น็อตฟังยังไงล่ะฮะ แหะ แหะ แหะ”
จะว่าไป การนอนปิดไฟคุยกันแม่งก็ดีว่ะ
เพราะแสงสลัวๆช่วยบดบังอาการกระอักกระอ่วนจนทำหน้าไม่ถูกของผมไปได้เยอะทีเดียว...
อีกอย่าง ผมยังโชคดีอยู่บ้างที่ขนุนถอดแว่นกับคอนแทคแล้ว
ไม่งั้นผมแม่งต้องคอยระแวงว่าขนุนแม่งกำลังทำตัวเป็นเครื่องจับเท็จรีดเอาความจริงออกจากปากผมอยู่หรือเปล่าแหงๆ
เอาตรงๆเลยนะฮะ...ผมว่าจริงๆแล้ว
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดในวันนี้... ทั้งเดทและการพาไปเจอหน้าเพื่อนสนิท ควรได้รับการเชิดชูเป็นเรื่องน่ายินดีที่เกิดขึ้นกับคนสองคนซึ่งกำลังก่อร่างสร้างสัมพันธ์อันลึกซึ้งด้วยกัน แต่สำหรับกรณีของผมกับขนุน...ผมกลับไม่อาจยืดอกน้อมรับความดีความชอบเหล่านั้นเข้าตัวได้เลยแม้แต่นิดเดียว
เพราะทุกสิ่งทุกอย่างระหว่างเราแม่งเสือกเป็นผลพวงของข้อตกลงหลอกๆของผมเท่านั้นนี่หว่า
แทนที่จะเป็นการแสดงออกทางความรักอย่างสุขสมหวังของทั้งสองฝ่าย หวยมันเลยออกมาในรูปของอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ฝั่งผมแม่งก็เอาแต่หวั่นใจ หวาดผวากลัวว่าจะถูกจับได้
แถมยังต้องคอยคิดคำแก้ตัวให้กับทุกเรื่องจนจิตตกเป็นพักๆ ในขณะที่ขนุนแม่งก็เอาแต่หวาดระแวงจนต้องมาคอยถามเอาความจริงจากผมอยู่เรื่อยๆอย่างนี้...
เฮ้ออออ...
แต่แม่งก็ช่วยไม่ได้จริงๆนี่หว่า ในเมื่อผมมันไม่ใช่คนที่ขนุนมองหาหรือปรารถนาเลยแม้แต่นิดเดียว...
...ตราบใดที่ขนุนยังไม่เป็นของผมทั้งกายและใจ ผมจำต้องอดทนผ่านเหตุการณ์เหล่านี้ไปให้ได้ ถึงจะเสียสุขภาพจิตมากอยู่ก็เถอะวะ
อยู่ๆคนที่นอนฟังผมนิ่งๆก็ยอมพูดออกมาเสียที
“ก็คงจะเป็นอย่างน็อตว่าล่ะมั้งเนอะ...
.
.
.
...น็อต...ขนุนยืมมือถือหน่อยสิ”...เฮ้อ!! ในที่สุดขนุนก็ยอมเปลี่ยนเรื่องสักที
ผมเอี้ยวตัวไปข้างหลังแล้วเหยียดสุดแขนเพื่อหยิบมือถือของตัวเองตรงโต๊ะหัวเตียงมาส่งให้ขนุน
แต่เมื่อโทรศัพท์แตะโดนมือเรียวๆนั้น
ขนุนก็ส่ายหัวแล้วเอามือยันมือถือของผมเอาไว้อย่างนั้นแล้วพูดสั้นๆ
“น็อตเม็มเบอร์ขนุนเอาไว้ในเครื่องนะ” ขนุนพูดจบก็เม้มปากนิ่ง
“ถ้าอย่างนั้นเอาแบบนี้ดีกว่าฮะ”
ผมเอื้อมไปหยิบมือถือของขนุนที่วางเอาไว้คู่กันมาด้วย
แล้วส่งเครื่องให้เจ้าของเพื่อปลดล็อคเครื่อง ขนุนส่ายหน้าอีกครั้ง ก่อนบอกรหัสเข้าเครื่องกลับมาให้ผมจัดการเครื่องตัวเองได้ตามใจ
ผมเลยเม็มเบอร์ตัวเองลงในเครื่องขนุนแล้วตั้งเป็นเบอร์โทรด่วนให้ขนุนเสร็จสรรพ
จากนั้นก็ลงมือเก็บเบอร์ของขนุนใส่เครื่องตัวเองตามลำดับ “เรียบร้อยแล้วฮะ
เบอร์ของน็อตอยู่ในเบอร์โทรออกบ่อยๆแล้วนะฮะ ถ้าขนุนจะโทรหาน็อต
ก็เข้าไปหาตรงนั้นได้เลยทันที...ขอบคุณนะฮะ ที่ในที่สุดก็ยอมให้เบอร์น็อตด้วย”
“อืม...วันนี้ขนุนมีเบอร์เพื่อนน็อตครบทุกคนแล้วนี่....
ก็เหลือแต่เบอร์น็อตคนเดียว ที่ขนุนยังไม่มี....ทั้งที่น็อตเป็นเพื่อนของขนุนก่อนเพื่อนทั้งสามคนของน็อตแท้ๆ” ขนุนพูดเสียงอ่อนเหมือนคนรู้สึกผิด
ผมรีบปลอบใจขนุนเมื่อได้ยินสิ่งที่เขาเอ่ย
“อย่าคิดมากซิฮะขนุน...
มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหรอกฮะ
ถ้าเราสองคนจะลืมคิดถึงการให้เบอร์ของตัวเองกับอีกฝ่ายเอาไว้
ก็เราเล่นตัวติดกันตลอดเวลาอยู่แล้วนี่ฮะ...
.
.
...
ดีมากเลยฮะที่ขนุนให้เบอร์น็อตเอาไว้
ถ้าน็อตมีเวลาว่างจากงานที่ทำเมื่อไร...น็อตจะได้ลองโทรสุ่มมาเช็คขนุนทีเผลอดูซิว่าขนุนจะหลุดพูดจาแปลกๆออกมารึเปล่า”
“ก็แล้วแต่น็อตสิ...
เออ ขนุนถามหน่อยสิ...
.
...น็อตว่าน็อตเป็นคนโรแมนติกไม๊?” ขนุนทำหน้านิ่งๆ
ไม่ได้มีอาการผิดปกติอะไร เอ...ขนุนแม่งมาไม้ไหนวะเนี่ยะ
ทำไมอยู่ๆถึงได้ถามผมเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้??!! ถึงผมจะงงๆกับจุดประสงค์ซ่อนเร้นของอีกฝ่าย
แต่จะว่าไป ผมว่าแม่งก็มีข้อดีอยู่เหมือนกันนะ เพราะมันเปิดช่องให้ผมได้ถามขนุนด้วยคำถามเดียวกันกลับไปบ้าง
ผมตอบอีกฝ่ายเท่าที่ผมจะนึกออก
“ไม่รู้ซิฮะ...น็อตก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองโรแมนติกหรือเปล่า
เพราะน็อตไม่เคยทำอะไรหวานๆจำพวกทำเซอร์ไพรส์
หรือบอกรักใต้แสงเทียนอะไรพวกนั้นหรอกนะฮะ
แถมเรื่องจำวันครบรอบอะไรเนี่ยะ...แทบเป็นไปไม่ได้ เข้าขั้นย่ำแย่เลยล่ะฮะ...
.
...แต่มีเรื่องนึงที่น็อตแน่ใจว่าน็อตไม่น้อยหน้าใครเลย
ก็คือ...ถ้าน็อตรักใครแล้ว เขาจะเป็นคนๆเดียวที่น็อตคอยมองหาโดยไม่ให้คลาดสายตา
น็อตจะคอยดูแลคนๆนั้นอย่างใกล้ชิด และทำทุกอย่างได้เพื่อให้คนๆนั้นมีความสุข
นี่อาจจะเป็นนิยามคำว่าโรแมนติกในแบบของน็อตก็ได้มั้งฮะ”
ตลอดเวลาที่ผมพูดสิ่งที่ผมคิด
ผมไม่ยอมละสายตาไปจากดวงตากลมใสที่อยู่ห่างไปไม่ถืงฝ่ามือ
เฝ้าแต่คิดว่า...อยากให้ความรู้สึกของผมที่มีต่อขนุนส่งผ่านไปถึงใจเขาได้เสียจริงๆ
ผมอยากให้เขาได้เอะใจว่า ทุกๆวันที่ผ่านมา สิ่งเล็กๆน้อยๆที่ผมทำให้เขานั้น
ล้วนแล้วแต่เป็นเครื่องยืนยันความรู้สึกสิเน่หาอันรุนแรงที่ผมมีต่อเขาทั้งสิ้น
.
.
“...แล้วขนุนล่ะฮะ
ขนุนโรแมนติกไม๊?”
ขนุนนิ่งไปนิดหนึ่ง
ก่อนตอบผมด้วยเสียงเบาๆ
“เรื่องแบบนี้ขนุนว่าคนรักของเราน่าจะเป็นคนบอกได้ดีที่สุดนะ แต่ถ้าให้ขนุนตอบด้วยมุมมองเดียวกันกับน็อต...
ขนุนคงจัดเป็นคนจำพวกที่ไม่ค่อยจะโรแมนติกล่ะมั้ง เพราะในชีวิตที่ผ่านมา
ขนุนไม่เคยทำอะไรแบบที่น็อตว่าให้ใครเหมือนกัน...
.
...ถ้าจะพูดให้ถูก
ขนุนต้องบอกว่า ไม่เคยออกตัวทุ่มเททำอะไรให้ใครมากๆอย่างที่เห็นได้บ่อยๆในหนัง ในละคร ประเภทที่ว่า คุกเข่าลงกับพื้นเพื่อขอความรัก
ตะโกนบอกรักแฟนในสถานที่สาธารณะ หรือต่อสู้ฝ่าฟันเพื่อทำให้ครอบครัวของแฟนยอมรับความสัมพันธ์ระหว่างขนุนกับเค้า
ลำพังแค่จะแสดงความรู้สึกชอบใครออกไป ก็ยังทำได้ไม่ดีเลย...น็อตก็รู้อยู่ไม่ใช่เหรอ
หึ!...
.
.
...ที่สำคัญ
ขนุนก็ไม่คิดว่าตัวเองจะทำแบบที่ยกตัวอย่างมาได้หรอก
เพราะเรื่องที่ขนุนสนใจที่สุดเป็นอันดับแรกก็ไม่พ้นเรื่องงานอย่างเดียวเท่านั้น......ส่วนเรื่องอื่นๆ
ถ้าไม่เดือดร้อน หรือสำคัญต่อจิตใจจริงๆก็เอาไว้จัดการกันทีหลังไปเลยน่ะ”
โห...ชีวิตขนุนแม่งจะทำแต่งานไปจนตายเลยเหรอวะ
คือ ไม่ใช่ว่าผมจะไม่ชอบความทุ่มเทของขนุนที่มีต่องานที่ตัวเองรักหรอกนะฮะ
ผมแม่งออกจะชื่นชมและสนับสนุนขนุนเสียด้วยซ้ำ แต่อีกใจแม่งก็อดห่วงขึ้นมาไม่ได้...เพราะถ้าขนุนยังคงอุทิศตัวเองให้กับงานอย่างไม่ลืมหูลืมตาจนไม่มีเวลาให้ตัวเองและคนอื่นๆรอบข้างบ้าง
เกิดวันหนึ่งรู้สึกตัวขึ้นมา...อาจจะไม่เหลือใคร
หรืออะไรที่สำคัญอีกเลยในชีวิต ทั้งเพื่อน ทั้งพี่น้อง หรือคนอื่นๆในครอบครัว...
อย่างนี้จะไม่ให้ผมจุ้นเรื่องชีวิตแม่งได้อย่างไรกันวะ....ก็แม่งทำตัวน่าเป็นห่วงออกเสียขนาดนี้น่ะ
“เหรอฮะ...
ขนุนต้องปรับหน่อยล่ะมั้งฮะ ไม่งั้นหนุ่มหน้าหวานที่ไหนเค้าจะทนได้กันล่ะฮะ?”
ผมพยายามตะล่อมทั้งที่รู้ว่าคนหัวแข็งอย่างขนุน คงไม่มีทางจะเปลี่ยนใจง่ายๆ
เชื่อขนมกินได้เลยว่าขนุนแม่งต้องหาทางเลี่ยง ทำมึนใส่ ไม่ก็เปลี่ยนเรื่องคุยแหงๆ
...แต่สิ่งที่ขนุนตอบผมกลับมานี่สิ
ที่ทำเอาใจผมเต้นไม่เป็นส่ำได้อย่างไม่คาดฝัน...
“แล้วถ้าเป็นน็อตล่ะ...
น็อตจะทนได้ไม๊ ถ้าขนุนเอาแต่ทำงาน?” เหี้ย!!! ขนุนแม่งหยอดผมว่ะ...
นี่ผมแม่งไม่ได้ฝันไปใข่ไหมฮะ???!! ขนุนหยอดผมจริงๆใช่ไหม???...เหยดดดด! หรือว่าขนุนแม่งจะเริ่มคิดอะไรกับผมขึ้นมาบ้างแล้วหลังจากที่เราได้ใช้เวลาอยู่ใกล้ชิดกันมากขึ้น
ในเมื่อขนุนหยอดมา
ผมแม่งก็หยอดกลับไปทันที ของอย่างนี้...มันต้องวัดกันดูสักตั้ง
จะได้รู้ไปว่าผมแม่งจะมีหวังบ้างหรือเปล่า “ก็ต้องได้ซิฮะ...ก็น็อตเข้าใจไงฮะ
ว่าเรื่องงานเป็นเรื่องใหญ่สำหรับขนุน...
ขอแค่ขนุนมีเวลาสนใจและเล่นกับน็อตบ้างวันละนิดวันละหน่อยก็พอ”
ขนุนยิ้มหวานให้ผมแล้วพูดด้วยน้ำเสียงชื่นชม
“น็อตนี่เป็นคนดีจังเลยนะ... ถ้าใครได้ไปเป็นแฟนต้องโชคดีมากแน่ๆเลยเนอะ”
คงเป็นเพราะความหวานของเสียง
ความน่ารักของขนุน บวกกับความงามของใบหน้าที่ยิ้มแย้มเมื่อครู่
ทำให้ผมเผลอหลุดปากพูดสิ่งที่ไม่ควรออกไป
“แล้วขนุนอยากลองเป็นคนโชคดีดูไม๊ล่ะฮะ?”
.
.
.
เหี้ยแล้ว!!!...ไอ้น็อตเอ๊ย!!
นี่มึงเมายิ้มขนุนจนควบคุมปากตัวเองเอาไว้ไม่ได้เลยจริงๆใช่ม๊ายยย???!! ถ้าขนุนเกิดระแวงเจตนาของมึงขึ้นมา
จนเขาขอถอนตัวออกจากแผนการของมึงไปจริงๆ....มึงจะทำยังง๊ายยยย???
ขนุนทำหน้าตาตกใจจนหลุดพูดเสียงดัง
“ห๊ะ!!
เมื่อกี๊น็อตว่าอะไรนะ?”
ผมก็ได้แต่ส่งคำโกหกคำโตให้ขนุนไปเท่านั้น
“อ๋อ...เปล่า เปล่าฮะ ไม่มีอะไร น็อตแค่หยอกเล่นเฉยๆ อย่าคิดมากเลยฮะ”
.
.
ตามมาด้วยการเปลี่ยนเรื่องทันที
เพราะผมเริ่มเห็นว่าสายตาของอีกฝ่ายเรื่องจับจ้องผมมากเป็นพิเศษ “...ว่าแต่ว่า
ที่ยังไม่ยอมนอนเนี่ยะ เป็นเพราะขนุนกำลังรอฟังคำตอบของน็อตใช่ไม๊ฮะ?”
คนฟังในอ้อมแขนผมพยักหน้าทันที ผมเลยแกล้งถามยื้อเวลาออกไปอีกหน่อย
”ขนุนพร้อมจะฟังหรือยังฮะ?”
ขนุนตอบด้วยการสะบัดหน้าสะบัดเสียงใส่
บอกให้ผมรู้ได้ว่าเจ้าตัวชักจะหงุดหงิด
“พร้อมมาตั้งแต่เช้าแล้วล่ะ...รอจนจะหลับอยู่แล้วด้วยเนี่ยะ” หึ
หึ...บางทีก็ใจร้อนเหมือนเด็กๆเลยนะฮะขนุน... สงสัยเป็นเพราะมันคงเกี่ยวกับงานล่ะมั้ง
ถึงได้ดูเป็นเดือดเป็นร้อนแบบนี้
ไหนๆก็หงุดหงิดแล้ว
ขอดึงเช็งอีกสักนิดให้พอหอมปากหอมคอ คงจะไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง “ก่อนน็อตจะตอบ...
ขนุนบอกมาก่อนซิฮะ ว่าขนุนรู้สึกยังไงบ้างกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน?”
“น็อตจะอยากรู้ไปทำไมล่ะ?
น็อตไม่ได้จะใช้มันไปเขียนหนังสืออย่างขนุนซักหน่อยนี่?”
หางเสียงชักจะสะบัดคล้ายๆกับงอน
ส่วนหน้าเล็กๆนั่นก็เริ่มจะหงิกจนชิ้นส่วนต่างๆบนหน้าเหมือนจะเลื่อนมากองรวมกันอยู่ตรงกลาง
แต่มองไปมองมา ขนุนเวลาไม่พอใจนี่แม่งก็ดูน่ารักไปอีกแบบ เหมือนลูกแมวง่วงนอนโดนเจ้าของแหย่ให้ตื่นขึ้นมาเล่นเลยฮะ
นี่ถ้ากางกงเล็บแล้วขู่ฟ่อๆสักหน่อยก็เข้าทีใช้ได้เลยนะ หึ หึ...อยากแกล้งอีกว่ะ อยากเห็นฤทธิ์ของลูกแมวดูสักที
ผมเลยรัดวงแขนให้แน่นขึ้นเพื่อกวาดร่างเล็กเพรียวกลิ่นวนิลานั้นให้เข้ามาใกล้จนท่อนล่างของเราแนบชิดกัน
ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ “อ้าว ใจคอขนุนจะไม่ให้คนสอนได้รับการประเมินผลการสอนหน่อยเลยเหรอฮะ...
อย่างนี้ คนสอนก็ไม่รู้ตัวกันพอดีสิฮะ
ว่ามีข้อบกพร่องหรือต้องแก้ไขอะไรบ้าง...ใช่ไหมฮะขนุน?”
ตากลมใสคู่นั้นเลื่อนจากหน้าผมก้มลงมองต่ำ
ริมฝีปากเล็กๆนั่นเปิดออกแล้วเปล่งเสียงอย่างช้าๆ “อืมมม...ขนุนบอกก็ได้
.
.
....ตอนแรกที่ขนุนรู้ว่าสิ่งที่เรากำลังจะทำกันเมื่อคืนคืออะไร
ขนุนตกใจมากนะ เพราะไม่คิดว่ามันจะออกมาในรูปนี้... คือ
ขนุนไม่เคยคิดว่าต้องมาช่วยตัวเองต่อหน้าน็อตน่ะ...
.
.
...ไม่สิ
ไม่คิดว่าน็อตจะเป็นฝ่ายทำอะไรแบบนั้นให้ขนุนตั่งหาก...
...หลังจากที่ทุกอย่างมันเริ่ม
ขนุนก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกๆสัมผัสของน็อตทำให้ขนุนรู้สึกดีมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าจะให้ขนุนอธิบาย ขนุนคงบอกได้แค่ว่า
มันเหนือไปกว่าจินตนาการที่ขนุนเคยมี ต่อให้ที่ผ่านมา
ขนุนเคยได้อ่านฉากอย่างว่าที่ถูกถ่ายทอดผ่านภาษาเขียนอันสละสลวย งดงาม
และบรรยายให้เห็นภาพได้อย่างชัดเจนผ่านตามามากมายแค่ไหน
มันกลับเทียบไม่ได้เลยกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับขนุนจริงๆในช่วงเวลานั้น...
.
.
.
...สิ่งที่น็อตทำกับขนุนน่ะ
มันทำให้ขนุนทั้งรู้สึกตื่นเต้น...แบบที่เรียกได้ว่า
ตื่นเต้นที่สุด...ยิ่งกว่าที่เคยเป็นครั้งไหนๆ...
...และมันก็ทำให้ขนุนได้รู้ว่า
ร่างกายของคนเรานี้ช่างน่ามหัจรรย์เหลือเกิน
เพราะขนุนไม่เคยคิดว่าการสัมผัสร่างกายแค่ภายนอก จะก่อให้เกิดความรู้สึกซาบซ่านชวนให้หวั่นไหวได้อย่างไม่น่าเชื่อ...
.
...กระทั่งจุดที่ไม่คิดว่ามันจะทำให้ขนุนตอบสนองทางความรู้สึกได้รุนแรงแบบนั้น
เอาเข้าจริง กลับทำให้กระเจิดกระเจิงถึงขั้นทุรนทุรายจนควบคุมตัวเองไม่ได้” สิ่งที่ขนุนเพิ่งพูดออกออกมาทำให้ผมเกิดความรู้สึกหลากหลาย
ไม่ว่าจะเป็นอึ้ง ภูมิใจในความสามารถด้านนี้ของตัวเอง และสงสัย...
ผมเลยต้องถามออกไปเพื่อทำลายความสงสัยในใจนั้นเสีย
“แล้วขนุนชอบไม๊ละฮะ?” ก่อนที่อีกคนจะตอบ ผมรีบเอามือเชยคางเล็กๆนั่นให้ใบหน้าทั้งหมดเงยขึ้นมาเพื่อให้ผมได้เห็นการแสดงอารมณ์ของเจ้าตัวได้อย่างชัดเจน
“ถ้าบอกว่าไม่...ขนุนก็โกหกน่ะสิ”
ขนุนตอบนิ่งๆแล้วเม้มปากแน่น...นี่คงจะไม่พอใจอีกแล้วล่ะมั้ง
ที่ผมบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาจ้องกัน
แต่ผมนี่สิ...กลับฉีกยิ้มให้คนหน้านิ่งไปเต็มๆหน้า
แค่ได้ยินว่าไม่เกลียด ผมแม่งก็ดีใจจะแย่แล้วล่ะฮะ แต่นี่ขนุนชอบที่ผมทำให้ด้วย
แม่งยิ่งน่าดีใจไปกันใหญ่ “น็อตก็ชอบฮะ” ผมยอมรับออกไปตามตรงอย่างไม่มีอ้อมค้อม
“น็อตรู้สึกแค่นั้นเองน่ะเหรอ?”
คนฟังคาดคั้นเอาคำตอบ...ขนุนแม่งก็ใจร้อนเกิ๊นน
ผมตั้งสติแล้วนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืนวาน
“ขนุนฮะ เย็นไว้ฮะ...
น็อตกำลังจะเล่าให้ฟังอย่างละเอียดอยู่เดี๋ยวนี้ยังไงล่ะฮะ...
.
...ตอนก่อนเราจะเริ่มทำความรู้จักกับร่างกายส่วนต่างๆของขนุนเมื่อคืน น็อตเองก็รู้สึกตื่นเต้นไม่แพ้กันหรอกฮะ เพราะมัน เป็นครั้งแรกที่น็อตจะได้สร้างความคุ้นเคยกับร่างกายของผู้ชายอีกคน...
...จังหวะที่น็อตไซ้ไปตามใบหน้า
และซอกคอของขนุนเนี่ยะ น็อตรู้สึกดีมากๆนะฮะ เพราะผิวของขนุนนุ่ม เนียน
และก็ลื่นไปซะทุกที่
แถมยังมีกลิ่นหอมของเครื่องสำอางค์กับพวกครีมอาบน้ำโชยออกมาอ่อนๆผสมกับไอกลิ่นประจำตัวของขนุนที่ระเหยขึ้นมาทุกครั้งที่ขนุนขยับร่างกาย
รวมทั้งเวลาที่ขนุนตื่นเต้น......
...ซึ่งทุกความหอมที่น็อตว่ามา
ต่างทำให้หัวสมองของน็อตมึนตื้อไปหมด พอปล่อยไว้นานๆเข้า น็อตก็เริ่มจะคิดอะไรไม่ออก
แต่น็อตก็ต้องพยายามขืนเอาไว้ เพราะบทเรียนของเราเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น...
...มาถึงตอนที่น็อตกระตุ้นประสาทสัมผัสของขนุนตรงรอบๆใบหู
ปฏิกิริยาของขนุนก็น่ารักมาก...
...ร่างกายที่อ่อนยวบเหมือนกับขี้ผึ้งลนไฟที่ส่ายไปมาตอบรับทุกๆครั้งที่น็อตลงสัมผัส
และเสียงครางไม่ได้ศัพท์ของขนุนที่เหมือนจะคอยเร่งเร้าให้น็อตเดินหน้าต่อ...แม้ขนุนจะดูทุรนทุรายมากก็ตาม
พอน็อตได้เห็นภาพพวกนั้นกับตาจะจะ...มันก็พลอยทำให้น็อตรู้สึกตื่นเต้นตามขนุนไปด้วย
แถมยังไม่อยากจะละหน้าไปที่อื่นอีกเลย เพราะน็อตอยากทำให้ขนุนรู้สึกดีมากกว่าที่เป็นอยู่ยิ่งๆขึ้นไป...
.
.
...ห๊าววววว
ขนุนฮะ วันนี้น็อตขับรถนาน...เหนื่อยจัง ไม่มีแรงเล่าต่อแล้วล่ะ” หลังจากแกล้งหาว
ผมก็ส่งหน้าสำออยสุดติ่งไปให้ขนุนที่นอนมองจ้องผมตาแป๋ว
คำถามซื่อๆของขนุนก็ทำให้ผมยิ้มออกได้อีกครั้ง
“แล้วขนุนต้องทำยังไงน็อตถึงจะมีแรงเล่าต่อได้ล่ะ?”
“จูบเติมพลังให้น็อตหน่อยสิฮะ”
ผมหลิ่วตาแล้วยิ้มมุมปากให้อีกคนที่กำลังทำหน้ายุ่งเหมือนแก้โจทย์สมการยากๆไม่ได้
ใช่ฮะ..ผมรู้ว่าไอ้การเรียกร้องจูบเนี่ยะ
แม่งเป็นการเอาเปรียบขนุนชัดๆ แต่จะให้ทำไงได้ละฮะ พอนึกทบทวนถึงเรื่องเมื่อคืน
ผมแม่งก็ชักจะอยากลวนลามขนุนขึ้นมาอีกแล้ว
แต่ในเมื่อไม่มีข้ออ้างงามๆอย่างการดูวิดีโอหรือการเรียนวิชาสปท. ผมแม่งก็ต้องฉวยทุกโอกาสที่พอจะเป็นไปได้เพื่อหาเศษหาเลยกับขนุนนิดๆหน่อยๆก็ยังดี
“นั่นไม่ใช่เอาไว้สำหรับลงโทษหรอกเหรอ?”
ความพยายามเอาตัวรอดยังน่าชื่นชมเหมือนเดิมฮะ
แต่ขนุนไม่มีทางพ้นเงื้อมมือผมไปไหนได้หรอกนะเบ่เบ๋ หึ หึ
“มันไม่ได้มีไว้เพื่อลงโทษอย่างเดียวหรอกนะฮะ...มันยังเอาไว้ทำอะไรได้อีกหลายอย่างเลยล่ะ...
เติมพลังนี่ก็อีกเหตุผลนึง... นะ นะฮะ ไม่งั้นน็อตเล่าต่อไม่ได้จริงๆด้วย”
ผมก็ยังคงยืนยันกระต่ายขาเดียวไม่ยอมอ่อนข้อให้โมเอ้คุงที่กำลังทำหน้าลำบากใจอยู่ในเวลานี้
ขนุนนิ่วหน้าคิดเงียบๆอยู่พักใหญ่ก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาหาหน้าผมช้าๆแล้ววางริมฝีปากเล็กๆนั่นลงบนปากผมเบาๆ
ก่อนจะถอนออกไปอย่างรวดเร็ว “(จุ๊บ)
เล่าต่อได้แล้ว ขนุนจูบน็อตแล้วนะ”
ผมถึงกับร้องท้วงออกมาทันทีราวกับคนถูกเอาเปรียบ
ทั้งที่คนที่ไม่พอใจควรจะเป็นขนุนมากกว่าแท้ๆ
ได้คืบจะเอาศอก...คือผมในตอนนี้เลยล่ะฮะ... “นั่นไม่ได้เรียกว่าจูบซักหน่อย
เค้าเรียกว่าเอาปากมาแตะปากเฉยๆ... จูบจริงๆน่ะ มันต้องอย่างนี้ตะหากฮะ /............อืมมมมมมมม...................................ฮื่มมมมมมมม.................ฮ่าห์.......
ผมไม่รอให้อีกคนรู้ตัวว่ากำลังโดนฉวยโอกาส
เพราะกลีบปากเล็กๆที่ยังออกสีแดงแม้ในความมืดถูกผมครอบครองเอาไว้ด้วยปากของตัวเองทันทีหลังจากประโยคเมื่อกี๊ของผมสิ้นสุด
ผมระบายน้ำหนักมากบ้างน้อยบ้างอย่างหยอกเย้าลงบนพื้นที่อ่อนนุ่มขนาดกระจ้อยร่อยแต่เต็มไปด้วยความหอมหวานนั่น ระหว่างช่วงเวลาแห่งความสุขกำลังเดินไปข้างหน้า
จมูกผมก็บดฝังลงแนบกับเนื้ออูมๆใสเด้งเพื่อเก็บเกี่ยวกลิ่นแก้มนิ่มซ้ำไปซ้ำมาอย่างไม่รู้เบื่อ
แม้จะเงอะงะไปบ้าง...แต่ปากเล็กๆของขนุนก็ขยับตอบรับทุกๆจังหวะที่ผมปรนเปรออย่างตั้งอกตั้งใจ
จนมันทำให้ผมทั้งรู้สึกยินดีและเพลิดเพลินได้ในเวลาเดียวกัน
แต่ผมเลือกที่จะมีความสุขไปกับความวาบหวามหัวใจที่ขนุนมอบคืนให้เพียงไม่นาน
ก่อนจะถอนใบหน้าออกห่างจากความหวานละมุนนั่น เพื่อไม่ให้อะไรๆเลยเถิดไปกว่านี้
ผมรีบเปลี่ยนเรื่องเพื่อเลี่ยงความเงียบอันน่ากระอักกระอ่วนระหว่างเราสองคนเนื่องจากวางหน้าไม่ถูก
“ฮ่ะห์... อย่างเมื่อกี๊นี่ต่างหากที่เรียกว่าจูบฮะ... ...โอเค เมื่อกี๊ถึงไหนแล้วนะฮะ...
.
.
...อ๋อ
พอดีเลย ถึงจูบพอดีเลยเนอะ หึ หึ หึ...
...จากการสำรวจอย่างถี่ถ้วน
ริมฝีปากของขนุนก็นุ่มแล้วก็หอมมาก
จนน็อตยังสงสัยว่าขนุนไปกินลูกอมหวานๆหอมๆที่ไหนมาก่อนออกจากห้องน้ำหรือเปล่า
ทำไมถึงหอมหวานนุ่มนิ่มได้มากขนาดนี้...
...สำหรับจูบแรกของเรา
แบบที่ไม่มีการแลกลิ้น
มันทำให้น็อตใจเต้นแรงแถมยังตื่นเต้นเหมือนกับเพิ่งไปวิ่งราวสร้อยใครมาแล้วต้องวิ่งหนีตำรวจพร้อมของกลางคามืออยู่ยังไงยังงั้น...”
ผมเห็นรอยยิ้มบางๆอยู่บนใบหน้าขาวๆแสนน่ารักนั่น
คิดไม่ผิดจริงๆที่เล่นมุกเมื่อกี๊... แม่งชื่นใจสัด!
“ตอนแรกที่ปากของเราสัมผัสโดนกัน
น็อตรู้สึกเหมือนมันมีกระแสไฟฟ้าแล่นผ่านหลังของตัวเองไล่ขึ้นมาจากล่างขึ้นข้างบน
ลมหายใจกับเสียงครางเบาๆในลำคอของขนุนทำให้หัวน็อตหมุนติ้วจนควบคุมความคิดกับเหตุผลไม่ได้อีกครั้ง จากที่คิดเอาไว้แล้วว่าจะทำอะไรต่อ...ก็ดันลืมไปซะหมด...
.
.
...ใจมันอยากจะจูบขนุนอยู่แบบนั้นไปเรื่อยๆน่ะฮะ...
...โธ่...อะไรเนี่ยะ
หมดแรงอีกแล้วเหรอ!!!
...ว๊า....ทำไงดีล่ะฮะขนุน...นี่น็อตไม่ได้สำออยเลยนะ
คือ อยู่ๆมันก็ตื้อเหมือนจะนึกอะไรไม่ออกไปซะอย่างงั้นน่ะฮะ” ผมยอมลงทุนเจ็บตัวทำท่าประกอบด้วยการตบหัวตัวเองเบาๆให้หายมึนอยู่หลายครั้ง...
ถ้าใครจะบอกว่าไอ้ที่ผมทำแม่งอ่อน เพราะตบแค่นี้แม่งไม่ทำให้รู้สึกเหี้ยอะไรหรอก
จะลองทำตามดูบ้างก็ได้นะฮะ แต่อย่าลืมใส่แหวนที่นิ้วโป้ง กลาง
ก้อยเหมือนผมด้วยก็แล้วกัน... มึนเหี้ยๆอ่ะ บอกเลย
แม้ผมจะรู้แก่ใจว่าไอ้ที่ผมแม่งทำอยู่เนี่ยะมันดูง่อยและหน้าด้านสัดๆ
แต่ของแบบนี้...ด้านได้ อายอดฮะ อีกอย่าง...การกระทำใดๆที่ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อใช้อ้อนเมียด้วยความบริสุทธิ์ใจนี่
ต่อให้ดูงี่เง่าและง่อยขนาดไหน ผมว่าแม่งก็ยังน่ารักน่าให้อภัยไม่เบา
แล้วถ้าสุดท้าย...ขนุนเกิดจะเล่นท่าไม่ยอมขึ้นมาจริงๆ...ผมแม่งก็กำไรอยู่ดี
เพราะอย่างไรเสีย คืนนี้ผมเก็บมาได้แล้วหนึ่งจูบนี่หว่า
“ก็จูบสิ...ขนุนไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย”
พอได้ยินเสียงตอบของ ผมก็ถึงกับหยุดมือที่กำลังทำร้ายหัวตัวเอง
แล้วเปลี่ยนมาเป็นกอดอีกคนแน่นขึ้นอีกระดับทันที แล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆขนุนเพื่อกระซิบเบาๆอย่างอ้อนๆ
“นึกว่าต้องขอก่อนซะอีก” ผมยิ้มพลางพูดไป
จ้องหน้าเล็กๆที่เฉียดปลายจมูกตัวเองไป คนที่ผมกำลังจ้องหน้า
เม้มปากแน่นแล้วเบี่ยงหน้าหันไปทางอื่น
เวลานี้แม่งต้องเขินดิวะ...ผมแม่งก็ออกจะรุกเสียใกล้แบบนี้ แถมยังอ้อนแบบสุดๆอีก
จะมาเม้มปากหาอะไรอยู่วะขนุน...เดี๋ยวนี้แม่งเม้มปากบ่อยเกินไปแล้วนะเว่ย
ขนุนรีบสวนกลับมาอย่างเลิ่กลั่ก
“ต้องขอนะ..ไม่งั้นงงกันพอดี ว่าน็อตจูบขนุนเพราะอะไร”
ผมยิ้มให้อีกฝ่ายแล้วพูดรัวเร็ว
“งั้นก็อย่าลืมว่าเราต้องหายใจทางจมูกนะฮะ.../...หายใจทางจมู...อู้.......ฮู่...........อื้มมมม..............ฮื่มม...........ฮื่ออออออ........ฮื่มมมมม..................
คราวนี้ผมไม่ได้หวังแค่สร้างความประทับใจให้แก่ภายนอกปากเหมือนรอบที่แล้ว
เมื่อริมฝีปากเราประกบกันแนบแน่น
ผมก็เริ่มกวาดกินความหวานที่ถูกกักเก็บเอาไว้ภายในราวกับคนหลงทางในทะเลทรายเจอแหล่งน้ำต่อชีวิต
ดูเหมือนอะไรๆที่เป็นของคนๆนี้จะนุ่มนิ่มไปเสียทั้งหมด...ลิ้นเรียวนั่นก็ไม่มีข้อยกเว้น
หากแต่มันยังชุ่มฉ่ำและนำพาความซาบซ่านมหาศาลมาให้ผมครั้งแล้วครั้งเล่าที่ลิ้นเราทั้งสองเกี่ยวกระหวัดกัน
เสียงเล็กๆน่าฟังที่ดังได้แค่เพียงในลำคอเพรียวบางถูกเปล่งออกมาทุกครั้งที่ริมฝีปากเล็กถูกกดสัมผัสอย่างหนักหน่วง
พร้อมกันกับการระรัวลิ้นพลิ้วไหวที่ผมป้อนให้
จูบแนบแน่นในครั้งนี้...ผมรู้สึกเหมือนว่า
ขนุนเองก็โหยหารสสัมผัสจากผมไม่แพ้กัน เพราะการตอบสนองของร่างกายตั้งแต่ภายในปาก
ไปจนถึงทุกๆส่วนที่เหลือของร่างอ้อนแอ้นนั้น ผิดไปจากเมื่อวานลิบลับ
ระหว่างที่ผมพุ่งความสนใจทั้งหมดไปกับการส่งลิ้นไปหยอกล้อคลอเคล้าโพรงปากของอีกคนอย่างตั้งอกตั้งใจ
ผมก็รู้สึกได้ถึงความเคลื่อนไหวของมือเล็กเรียวทั้งสองที่ลูบเปะปะไร้ทิศทางไปตามร่างกายท่อนบนของผม
...งานงอกแล้วล่ะ
ถ้าขืนผมปล่อยไหลให้นานไปกว่านี้ ผมแม่งต้องเผลอกดขนุนเข้าแน่ๆ...
พอก่อนเลยไอ้น็อต พอ!!!
เพื่อการครอบครองขนุนแต่เพียงผู้เดียวในภายภาคหน้าโดยสมบูรณ์
ผมจึงตัดใจจากความหอมหวานยั่วยวนนั้นได้ไม่ยาก
ผมค่อยๆผ่อนรสสัมผัสแล้วผละออกมาจากขนุนอย่างช้าๆ น้ำใสๆไหลเยิ้มเป็นสายเชื่อมริมฝีปากของเราเอาไว้ด้วยกันสะท้อนแสงไฟเข้าตาผมครู่หนึ่งก่อนจะหายวับไป
ผมส่งยิ้มให้คนที่กำลังทำตาปรือฉ่ำ
“จำได้แล้วว่าจูบครั้งที่สองของเมื่อคืนรู้สึกยังไง...
.
.
...น็อตว่าเรื่องนี้เราข้ามไปโดยที่ขนุนไม่ต้องรอฟังจากน็อตก็ได้นะฮะ เพราะไอ้ที่ขนุนรู้สึกก็ใช้ได้เหมือนกันน่ะแหละ...
...แต่เพื่อไม่ให้เป็นการเอาเปรียบกัน
น็อตแถมให้ว่า น็อตประหลาดใจและก็ดีใจ
ที่ขนุนหัวไวจนสามารถทำตามสิ่งที่น็อตทำทั้งหมดได้
และน็อตรู้สึกดีกับการจูบกับขนุนมากนะฮะ”
ดวงตารื้นน้ำตาคู่นั้นฉายแววไม่พอใจขึ้นมานิดๆ
ปากเล็กๆที่เริ่มจะบวมเจ่อต่อว่าผมอย่างไร้เมตตา “ขี้โกง!!”
...ขี้โกง!!...อ๋อยย ตะเอง...สาบานได้นะว่านี่เป็นถ้อยคำรุนแรงที่แสดงออกถึงความไม่พอใจ
และถูกเอาเปรียบ??!!...
...ผมรู้สึกเหมือนโดนเอากลีบดอกไม้นุ่มนิ่มปาใส่หน้า
ก็จะอะไรล่ะฮะ...แม่งเป็นการต่อว่าที่ทั้งหอมหวาน นุ่มนวล
น่ารักสมกับความโมเอ้ของขนุนอย่างที่สุด...
วันไหนสักวันเถอะ
ผมจะสอนให้ขนุนสบถเวลามีอะไรกัน
ผมรู้ว่าขนุนแม่งไม่มีทางล้ำเส้นจนต่อมเถื่อนแตกแล้วกลายเป็นคนพูดจากากๆไปได้หรอก แต่ไอ้การต้องพูดอะไรที่ฝืนตัวตนออกมาเนี่ยะ
แม่งก็ SM ทางจิตอย่างหนึ่งเหมือนกันแหละวะ
หึ หึ...แค่นึกภาพตามแม่งก็เร้าอารมณ์ได้ดีชิบหายเลยว่ะ!!
ผมยิ้มร้ายๆให้คนหน้านิ่งสุดน่ารักเพราะภาพหื่นในหัวยังคงไม่หายไปไหน
“หึ หึ ไม่โกงหรอกฮะ สิ่งที่น็อตรู้สึกน่ะเหมือนขนุนแน่นอน
เพราะมันเป็นสิ่งที่เราทำร่วมกัน แต่ขั้นต่อไปนี่สิ
ต้องเล่าเลยล่ะ...หรือไม่ต้องเล่าดีน้า?”
“เล่าเถอะ...ขนุนอยากรู้น่ะ”
มือเล็กๆยื่นมาจับแขนผมไว้แล้วไกวเบาๆเพื่อคะยั้นคะยอให้ผมเล่าต่อให้จบ
“งั้นแลกด้วยส่วนที่เหลือ
ส่วนละสองทีนะฮะ” ผมทำหน้ากรุ่มกริ่มเพื่อเป็นการบอกใบ้ให้อีกฝ่ายรู้ว่า
ข้อต่อรองของผมหมายถึงอะไร
ขนุนถามออกมาเบาๆ
“จูบสี่ทีเหรอ?”
“ฮะ...ตกลงนะฮะ”
ขนุนเม้มปากแล้วพยักหน้าให้ผมอย่างอายๆ ผมแม่งโคตรดีใจจนคว้าตัวขนุนมาใกล้แล้วขโมยหอมแก้มไปอีกทีก่อนจะปริปาก
(ฟอดดดด) จนอีกฝ่ายส่งฆ้อนวงใหญ่มาให้
“ความรู้สึกของน็อตตอนที่สัมผัสหน้าอกของขนุนมันบรรยายเป็นคำพูดไม่ถูกหรอกฮะ
เพราะว่ามันคงจะคล้ายๆกับสัญชาตญาณของเด็กแรกเกิดที่มีต่อหน้าอกของแม่อะไรอย่างนั้นล่ะมั้งฮะ
คือมันเป็นการสัมผัสที่เป็นไปตามธรรมชาติ แบบว่าเห็นไม่ได้มั้งฮะ
ต้องยื่นมือไปจับไปคลึงเสียหน่อย อะไรทำนองนั้นแหละ...
...จะขาดแต่ก็ตอนกินนมเท่านั้นแหละฮะ
ที่น็อตยังไม่ได้ลอง...
...แหม่
อย่ามองน็อตแบบจะกินหัวอย่างนั้นสิฮะ ก็มันจริงนี่นา...
.
.
...แต่อีกอย่างที่รู้สึกคือ
มันทำให้น็อตพอใจและดีใจ ที่เมื่อสองมือของน็อตลูบไล้หน้าอกขนุนแล้ว
ทำให้ขนุนตอบสนองรุนแรงกว่าส่วนอื่นๆที่ได้สัมผัสก่อนหน้า
มันทำให้รู้ว่าขนุนรู้สึกกับสัมผัสของน็อตและยินยอมเปิดรับน็อตแล้ว...
.
...อาการส่ายและเสียงร้องครางระงมที่ขนุนทำ
มันบอกกับน็อตว่าร่างกายขนุนพร้อมสำหรับการร่วมรักที่จะมาถึงแล้วน่ะฮะ ส่วนสัมผัสที่มือน็อตรู้สึกโดยตรงกับทั้งหน้าอก
และเม็ดทับทิมกรอบสีชมพูแสนน่ารักบนยอดอกนั่น...ก็คงจะหนีไม่พ้นความเนียนนุ่มและแน่น...
.
.
...จะบอกให้ว่า
เม็ดทับทิมกรอบตรงยอดอกขนุนเด้งสู้มือมากๆเลยฮะ ราวกับว่ามันจะไม่มีวันยอมแพ้ ไม่มีวันหลบหน้าทำตัวเจี๋ยมเจี๊ยมสำรวมตัวเองแล้วหนีกลับลงไปนอนอย่างสงบราบเรียบง่ายๆอะไรแบบนี้น่ะฮะ...”
ฟังคำพูดตรงๆของผมมาถึงตรงนี้แล้ว ขนุนก็เริ่มจะทำหน้าตาแปลกๆ
เหมือนคนควบคุมกล้ามเนื้อใบหน้าไม่ได้ มันทั้งตลก
ทั้งน่ารักมากๆจนผมอยากจะฟัดพื้นที่ทั้งหมดบนหน้าเล็กๆนั่นเร็วๆเสียที
.
“...ขนุนล่ะฮะ
รู้สึกยังไงตอนที่น็อตสัมผัสหน้าอก....ชอบไม๊ฮะ?” ผมรู้ว่าขนุนต้องตอบผมแน่
ก็ผมแม่งเล่นตีแผ่ความจริงด้วยการเล่าเรื่องอย่างซื่อสัตย์ แจ่มแจ้ง
ไม่มีการแทงกั๊ก และขนุนเองก็น่าจะเปิดอกบอกผมไม่เม้มเหมือนกัน แต่ผมแม่งอยากจะรู้เหลือเกินว่า
ขนุนจะตอบผมออกมาว่าอย่างไรมากกว่า ถึงได้กล้าถามลุ่นๆออกไปแบบนั้น
ขนุนพยักหน้าให้ผมช้าๆ
แล้วส่งเสียงเพียงสั้นๆ “อืม...
.
.
...แล้วอีกที่ล่ะ?”
เสียงเล็กๆยังไม่ลืมถามต่อ
“ตรงนั้นน่ะเหรอฮะ?...อันนี้น็อตไม่เล่าก็คงจะได้เหมือนกันมั้งฮะ
เพราะว่าขนุนน่าจะรู้ดีอยู่แล้วว่ามันเป็นยังไง”
.
.
.
.
“รังเกียจไม๊
ที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ให้ผู้ชายด้วยกันน่ะ?” ขนุนเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม
ทำให้ผมได้มีโอกาสเห็นสายตาหวั่นใจส่งออกมาจากตากลมที่ผมชอบเหลือเกินนั่น...
หรือนี่จะเป็นสิ่งที่ขนุนอยากรู้มากที่สุดนอกเหนือไปจากรายงานความรู้สึกของผมอย่างละเอียดที่เพิ่งจบลงไปเมื่อครู่กันนะ???
ผมเลยพยายามเปลี่ยนบรรยากาศด้วยการพูดทีเล่นทีจริงแต่ซีเรียสกลับไปให้เพื่อเป็นการยืนยันความรู้สึกอันหนักแน่นของตัวเอง
“ไม่นะฮะ...น้องชายขนุนน่ารักดีฮะ ว่านอนสอนง่าย เป็นมิตร และไม่ทำร้ายน็อต...
แต่ทำร้ายเจ้านายตัวเองนะฮะ เพราะพอน็อตส่งน้องชายขนุนถึงที่หมาย
ขนุนก็ถึงกับสลบไปเลยนี่ฮะ หึ หึ”
อีกคนไม่ได้สนใจคำพูดเล่นหัวของผม
หากแต่ยังจ้องตรงไม่มีหลบตา แล้วถามผมช้าๆชัดๆอีกครั้ง “หมายความว่า
น็อตโอเคกับเรื่องที่เราจะมีอะไรกันอย่างนั้นหรอ?”
ผมเอามือไปลูบผมนิ่มๆของขนุนเบาๆหลายครั้ง
ก่อนจะยืนยันสิ่งที่อยู่ในใจ ที่ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่มีทางมาทำให้ผมหวั่นไหวได้
“ก็แหงสิฮะ....น็อตโอเคมากๆเลยฮะ
ตอนนี้ก็รอแต่ให้ขนุนพร้อมทั้งกายและใจก่อนนี่แหละฮะ เราจะได้เรียนรู้ขั้นตอน
และเทคนิคของการร่วมรักในภาคปฏิบัติกันเสียที”
.
.
จริงๆผมแม่งยังติดเรื่องคำสัญญากับพี่ปีย์นั่นอีกข้อ
ที่ผมต้องรีบหาทางให้แกยอมปล่อยให้ผมเริงร่ากับกิจกามในบ้านหลังนี้ได้สักที
แต่นั่นไม่ได้สำคัญเท่ากับความรู้สึกของขนุนที่มีต่อผมในเรื่องเดียวกันนี่หรอกฮะ
ผมเลยอดถามคนตัวเล็กกว่าในอ้อมกอดออกมาไม่ได้
“แล้วขนุนล่ะฮะ โอเคกับการที่เราจะมีอะไรกันไม๊?”
“เรื่องนั้นน็อตไม่ต้องห่วงหรอก...ขนุนน่ะโอเคอยู่แล้ว
แค่รอให้รู้ทฤษฎีครบถ้วนจากน็อตก่อน ไว้ถึงบทร่วมรักเมื่อไร...ก็เมื่อนั้นแหละ” แหม่...น็อตอยากจะบอกขนุนเหลือเกินว่า
นี่เป็นประโยคที่น่าฟังที่สุดประโยคหนึ่งที่น็อตเคยได้ยินมาในชีวิตของหนุ่มวัยเบญจเพสคนนี้เลยนะฮะ...ขนุนแม่งน่ารักว่ะ
อยากให้เมื่อไรที่ว่าแม่งมาถึงเร็วๆจังเล๊ยยยย ให้ตายสิ!!
“ฮะ...เมื่อไรก็เมื่อนั้นฮะ
งั้นน็อตขอรางวัลสี่ทีที่ติดเอาไว้เมื่อกี๊นะฮะ...แล้วเดี๋ยวน็อตจะปล่อยให้นอนเลย...ไม่กวนใจอีกแล้วล่ะ” ผมรีบเข้าช่วงสมนาคุณก่อนนอนทันที
ก็ผมแม่งพูดเยอะจนน้ำลายเหนียวไปหมดแล้วนี่ฮะ
นี่ถ้าได้จูบหวานๆเติมพลังอีกสักสามสี่ที รับรองเลยว่าคืนนี้ผมแม่งนอนหลับสบายแหงๆ
หึ หึ
“ฮื่อ...ได้สิ” ขนุนตอบรับเรียบๆ
เห็นท่าเมียนอนรอนิ่งๆอย่างนี้ผมแม่งยิ่งได้ใจ
หูงี้ตั้งหางงี้กระดิกอยากจะกระโดดเข้าใส่ทันที
แต่ไอ้ครั้นจะไม่บอกไม่กล่าวอีกคนให้ตั้งตัวเสียหน่อย
เดี๋ยวจะโดนหาว่าเสียมารยาทได้...ไหนๆเมียก็บอกแล้วว่าให้ขอก่อนจูบทุกครั้ง
ก็ทำตามสั่งเสียหน่อยจะเป็นไรไป “งั้นน็อตขอรางวัลครั้งที่หนึ่งเลยแล้วกันนะฮะ”
ขนุนเอามือดันอกผมเบาๆเพื่อยั้งผมเอาไว้ก่อน
“อ๊ะ...เดี๋ยวก่อนน็อต...”
“อะไรอีกล่ะฮะ?”...นี่ถ้าขนุนแม่งดักทางผมออก
แม่งต้องรู้แน่ว่า ถ้าผมถามแบบนี้ แปลว่าเริ่มจะควบคุมความงุ่นง่านเอาไว้ไม่ไหว
แถมยังเริ่มรู้สึกเหมือนถูกขัดใจขึ้นมานิดๆแล้ว แต่สิ่งที่ขนุนถามออกมา กลับทำให้ผมอารมณ์ดีขึ้นทันตาแถมยังอยากจะจัดรางวัลสมนาคุณให้ขนุนมากกว่าสี่ดอกเสียจริงๆ
.
.
.
“อย่าลืมหายใจทางจมูกใช่ไม๊?”
คนพูดเม้มปากทันทีที่พูดจบ...เม้มปากอีกแล้วเหรอ???? มันคืออะไรน้า??
แต่ช่างแม่งก่อนแล้วกัน เพราะงานด่วนมาจ่อรอตรงหน้าอยู่แล้วว่ะ หึ หึ
“ฮะ...อย่าลืมหายใจทางจมูกฮะ
หึ หึ....ขนุนนี่น่ารักจังเลยน้า.....น็อตไม่รอแล้วนะฮะ...” ไม่ทันจบคำ
ผมก็โถมตัวเข้าใส่ร่างอ้อนแอ้นที่นอนใจเต้นดังรอการไปเยือนริมฝีปากเล็กๆนั่นอีกครั้งอย่างเต็มรัก
ก่อนที่ความหวานหอมจะอบอวลไปทั้งห้อง ส่งให้เราสองคนเข้านอนอย่างมีความสุขไปอีกหนึ่งคืน
เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืน
มันก็พลอยทำให้ผมยิ่งไม่มั่นใจถึงเจตนาของอีกฝ่ายขึ้นมาอีกระลอก
จนต้องเผลอบ่นออกมากับตัวเองเป็นวรรคเป็นเวร
“เฮ้ออออ...ไอ้ที่ทำตัวน่ารักเมื่อคืนนี่ แปลว่าชอบหรือเปล่าว้า????...
.
.
...แล้วไอ้ที่เอะอะเม้มปากเนี่ยะ
หมายความว่าอะไร...แม่งชักจะกวนใจน็อตมากขึ้นทุกทีๆแล้วนะเนี่ยะ....
...สงสัยต้องจับสังเกตอาการแม่งให้มากกว่านี้แล้วล่ะมั้ง.....เฮ้ออออ”
.
.
“เป็นอะไรไอ้น็อต...ไหวป่ะมึง??...เออ
เดี๋ยวกูไปซื้อของก่อนนะ ฝากมึงเฝ้าไปก่อน...มึงเอาไรป่ะ?”
พี่ปีย์ถามผมระหว่างตั้งท่าจะเดินออกไปเซเว่นตรงข้างๆโรงแรม
“ไม่เอาอ่ะฮะพี่ปีย์...เดี๋ยวผมดูทางนี้ให้เอง
พี่รีบไปรีบมาเถอะฮะ”
“เออ...เดี๋ยวกูมา”
ผมมองตามพี่ปีย์เดินคล้อยหลังไปแล้วหันกลับไปสอดส่องหาทั้ง
X1 และผู้จ้างวานอีกครั้ง
ในขณะที่หัวผมแม่งก็เอาแต่คิดวนเวียนหาคำตอบเรื่องที่สะกิดใจนั้นอยู่ร่ำไป
จนเมื่อผมเห็น X1 เดินสโลสเลด้วยใบหน้าอิดโรยอย่างเห็นได้ชัดออกมาจากลิฟท์
ผมจึงตั้งสติก่อนจะลุกเดินตามร่างโงนเงนนั้นไปเรื่อยๆ
พลางบอกกับตัวเองอย่างมุ่งมั่นและแน่วแน่ซ้ำไปซ้ำมา...
‘ช่างแม่ง...ไม่ว่าตอนนี้ขนุนจะชอบหรือไม่ชอบผมก็ช่างแม่ง
เพราะผมจะทำให้ขนุนรู้ว่า...ไม่มีใครรักขนุนได้เท่าผมอีกแล้ว
.
.
...อีกอย่าง...ผมใช้เวลาออกเดินมาจากจุดเริ่มต้นเพียงไม่นาน
ครั้นจะมองเห็นเส้นชัยอยู่รำไรจากตรงนี้เลย..มันก็คงไม่ใช่...
...ถ้าได้ขนุนมาทั้งตัวและหัวใจแบบง่ายๆ
ผมก็คงจะไม่สนใจจะเอาคนอย่างขนุนมาทำเมียตั้งแต่แรกหรอกวะ...
...เกิดเป็นลูกคุณป๋า
ต้องหน้าด้านสู้ใม่ถอยสิวะ!!’
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
วันนี้มะลิมาเร็วเพราะอาจจะออกไปซิ่งงงงง เลยกลัวว่าจะกลับมาลงตอนใหม่ดึกเกินไป...
ReplyDeleteอย่าตกใจกันไปนะคะ
ขอให้อ่านอย่างมีความสุขค่ะ ^_____^
อุต๊ะ ขนุนเริ่มเผยตัวตนออกมาแล้ว น็อตจะไหวไหมลูก 555 สู้ๆนะจ้ะ เพื่อลูกสะใภ้ของคุณป๋า
ReplyDeleteไปซิ่งมาสนุกไหมมะลิ
ฮ่าๆๆๆ น็อตต้องทนให้ไหวค่ะ เพราะว่าน็อตเองก็ยังติดเรื่องสัญญากับพี่ปีย์อยู่ พ่อคุณต้องไปหาทางทำให้ปีย์ยอมให้มีอะไรกับขนุนในบ้านให้ได้ ไม่งั้นพ่อคุณจะไม่สบายใจที่ผิดคำพูดกับพี่ชายต่างสายเลือดของตัวเองค่ะ แต่หลังจากตอนที่อ่านบันทึกลับของขนุนตอนล่าสุด มะลิว่า คนที่เป็นเหยื่อนี่น็อตชัดๆเลยนะคะ เพราะขนุนปักหลักและไม่คิดจะไปไหนแล้วล่ะค่ะ ฮ่าๆๆๆ
ReplyDeleteสรุปว่าไม่ได้ไปซิ่งค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ... เอาไว้เป็นออกอาทิตย์หน้าทีเดียว เพราะจะไปงานสัปดาห์หนังสือด้วย วะฮ่าๆๆๆๆๆ อดเลย...แต่ก็ช่างมันเถอะค่ะ เพราะอาทิตย์ต่อๆไปยังมี
แล้วคุณนาราล่ะคะ เป็นไงบ้าง...เรื่องเรียนเป็นยังไง ปวดหัวไม๊...อยากบ่นเมื่อไร ตะโกนเรียกมะลิได้เลยนะคะ รักคุณนารานะคะ เชิฟๆๆๆๆ