Friday, October 10, 2014

เขาวานให้ผมเป็น 'สายรับ' (เคคู่ผู้รู้รอบฯ) : บทรุกที่ 18: ไม่มีมูลฝอยหมาไม่ขี้



บทรุกที่ 18: ไม่มีมูลฝอยหมาไม่ขี้
(ไม่มีมูลฝอยหมาไม่ขี้ : อะไรก็ตามที่เกิดขึ้น มักจะต้องมีเหตุหรือมีเค้ามูลมาก่อน ไม่ได้เกิดขึ้นลอย ๆ)




ผมออกจากบ้านตั้งแต่ตีห้าเพื่อมาเปลี่ยนเวรกับพี่ปีย์ที่โรงแรมเพื่อเฝ้า X1 ซึ่งออกมาเจอกับผู้จ้างวานตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ระหว่างนั่งยามเฝ้ารอดูความเคลื่อนไหวของเป้าหมายและนายจ้างอย่างเงียบๆตรงล็อบบี้ ผมก็อดคิดเรื่องขนุนขึ้นมาไม่ได้

นานมาแล้ว ผมเคยได้ยินใครสักคนพูดให้ฟังว่า คนที่เป็นฝ่ายแอบรัก หรือรักมากกว่ามักจะขาดความเชื่อมั่น และความนับถือในตัวเอง....จนกว่าจะได้มาซึ่งความรักของอีกคนที่เราเฝ้ารออย่างเท่าเทียม เมื่อนั้น...ความมั่นคงที่ขาดหายก็จะกลับมาเต็มได้เหมือนเดิม

...ในตอนนั้น ผมก็ได้แต่ปล่อยให้ข้อความนั้นเข้าหูซ้าย และทะลุหูขวาออกไปอย่างไม่ใยดี เพราะไม่มีวันเสียหรอก ที่คนอย่างผมจะกลายเป็นฝ่ายรักก่อน หรือรักมากกว่า  แต่สิ่งที่ผมกำลังเจออยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนี่แหล่ะ ที่แม่งจุดประกายให้ผมเริ่มจะเชื่อไอ้คำพูดที่ว่าขึ้นมาเสียแล้วสิ

ผม...ชายหนุ่มผู้มีความมั่นใจทะลุขีดสุด ไม่เคยมีสักครั้งที่จะเกิดหวั่นไหวหรือสั่นคลอน เพียงเพราะสายตาไม่ยอมรับและคำพูดเสียดแทงใจของคนอื่น  แต่สุดท้าย...กลับต้องมาตกม้าตายกลายเป็นไอ้อ่อนด๋อยด้อยประสบการณ์ประเมินหน้างานไม่ได้ นับตั้งแต่วินาทีที่ผมแอบรักผู้ชายแปลกๆที่ชื่อขนุน

ลองคิดดูสิฮะ ว่าอาการของผมแม่งหนักขนาดไหน...

เดี๋ยวนี้ แค่ขนุนพูดอะไรนิดอะไรหน่อย หรือทำท่าทางผิดไปจากที่ผมคาดการณ์เอาไว้ ผมแม่งก็เริ่มจะไม่แน่ใจแล้วว่าแผนที่ผมกำลังทำอยู่นั้นมันดีและรอบคอบจริงหรือเปล่า และเรื่องที่ทำเอาผมหนักใจอย่างที่สุดในเวลานี้  เห็นจะหนีไม่พ้น...ท่าทีของขนุนที่มีต่อผมหลังจากที่เราเริ่มข้อตกลงร่วมกันอย่างจริงจัง...

...ผมแม่งกำลังไม่มั่นใจว่า จริงๆแล้ว...ขนุนเอง แม่งก็เริ่มจะมีใจให้ผมนิดๆด้วยเหมือนกัน...
...ไม่ว่าจะการโอนอ่อนผ่อนตาม  การเอาอกเอาใจผมไปเสียทุกเรื่อง แถมพักหลังๆ เริ่มจะมีการถามไถ่โน่นนี่ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องส่วนตัวของผมมากขึ้นเรื่อยๆ  จนบางครั้งผมแม่งชักจะรู้สึกว่าตัวเองสำคัญและเป็นคนพิเศษสำหรับขนุนขึ้นมาหน่อยๆแล้วสิ
...แต่พอผมถามจี้จุดหรือหาเหตุผลขึ้นมาทีไร ขนุนแม่งก็มักจะบอกอย่างชิลๆว่า...มันเป็นไปตามที่เราได้ตกลงกันเอาไว้เท่านั้น  ไม่ก็เอาแต่ยิ้มโดยไม่พูดอะไร...   หรือสิ่งดีๆที่ขนุนทำให้ผม จะเป็นเพียงแค่การไหลไปตามน้ำหลังจากข้อตกลงฯระหว่างเราเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น..

...ไม่น่าเชื่อว่าคนที่ดูเซื่องๆไม่มีพิษสงคนนี้จะทำเอาระบบความคิดและการตัดสินใจของผมรวนไปหมด...
...ผมแม่งไม่แน่ใจห่าอะไรเลยว่ะ ให้ตายสิ!!


พอคิดเรื่องความเป็นไปได้เรื่องขนุนอาจจะมีใจให้ผมขึ้นมา ก็อดนึกไปถึงตอนที่เราไปกินข้าวพร้อมกับไอ้เหี้ยเจี๊ยวตอนบ่ายเมื่อวานขึ้นมาไม่ได้... เพราะถ้าใครที่นั่งอยู่ตรงนั้นและสามารถทำความเข้าใจเรื่องง่ายๆได้ดี  แม่งก็ต้องดูออกแทบทั้งนั้นแหละฮะว่า ทั้งผมกับไอ้เหี้ยเจี๊ยวพิศวาสขนุนไม่ต่างกัน

แต่การวางตัวของขนุนที่ทำกับผม แม่งดูจะคล้ายๆกับการให้ความหวังแถมยังทอดสะพานเสริมคอนกรีตเปิดโอกาสให้ผมทำคะแนนได้ตลอดเวลา ในขณะที่วิธีปฏิบัติของขนุนต่อไอ้เหี้ยเจี๊ยว กลับหักหาญ ตัดรอนจนน่าอ่อนใจแทนอย่างกับหนังคนละม้วน  คนธรรมดาผู้มีหัวใจเป็นเพียงกล้ามเนื้อก้อนหนึ่งทั่วๆไปอย่างผม ต่อให้ไม่คิดอะไรเกินเลย...แต่ได้รับการปฏิบัติจากขนุนอย่างที่ทำกับผมแบบนั้น  แม่งก็ต้องมีหวั่นไหวเผลอไผลคิดเข้าข้างตัวเองขึ้นมาบ้างเหมือนกันแหละวะ...

...แล้วไหนจะบทสนทนาของเราก่อนนอนเมื่อคืนที่แม่งเติมเชื้อไฟให้ผมคิดเข้าข้างตัวเองขึ้นมายกใหญ่อีกล่ะ???...


๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐


ร่างอ้อนแอ้นที่ผมกำลังกอดอยู่จากทางด้านหลังพลิกตัวกลับมานอนตะแคงหันหน้ามาหาผม แสงรำไรจากไฟทางข้างนอกที่ลอดรอยต่อของม่านเข้ามาทำให้ผมเห็นดวงหน้าขาวเด้งนั้นไม่ชัดนัก แต่นั่นไม่ได้มีผลกับการได้ยินของเรา คนตัวเล็กกว่าถามผมออกมาเบาๆว่า “น็อต...เดทของน็อตเป็นแบบนี้เองน่ะเหรอ?....
.
...เวลาน็อตเดทกับใคร น็อตก็พาเค้าไปเจอเพื่อนอย่างนั้นน่ะเหรอ?”

ผมยิ้มให้อย่างเอ็นดูแม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายมองไม่เห็นก็ตาม “มันก็ไม่เสมอไปหรอกฮะ หลักๆแล้ว น็อตเป็นพวกชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง ไม่ก็เล่นกีฬาอะไรเทือกนั้นน่ะฮะ น็อตเลยอยากให้แฟนไปทำอะไรแบบนี้ด้วยกันได้...
.
.
...หรือต่อให้เค้าทำไม่ได้ หรือไม่สนใจ...น็อตก็ยังอยากให้เค้าไปด้วย เค้าจะได้รู้ว่าสังคมอื่นๆของน็อตเป็นยังไง เพื่อที่เค้าจะได้เห็นและกลายเป็นส่วนนึงของสังคมนั้นๆ  พอน็อตทำแบบนี้ มันก็ช่วยตัดปัญหาเรื่องความหวาดระแวงไม่เชื่อใจกันไปได้ส่วนหนึ่ง แถมระหว่างเราสองคน ก็ยังสามารถใช้เวลาด้วยกันได้มากยิ่งขึ้นอีกยังไงล่ะฮะ...

...เรื่องเดทวันนี้ที่ขนุนได้ไปเจอหน้าเพื่อนๆของน็อตอย่างพร้อมหน้า คงเป็นเพราะความบังเอิญมากกว่า เพราะหนึ่งในกิจกรรมที่น็อตชอบ ก็หาเล่นได้ง่ายๆแบบไม่ต้องเสียตังค์ แค่แวะไปที่บ้านไอ้ลิง... แต่มันดันมาประจวบเหมาะกับที่พวกมันนัดกันมาสังสรรค์ในวันนี้เข้าพอดี...
.
.
...การได้ไปเจอหน้าเพื่อนๆน็อต เลยกลายเป็นผลพลอยได้ของการซ้อมเดทระหว่างเราในวันนี้ยังไงล่ะฮะ....” ตอนนี้สายตาผมเริ่มปรับเข้ากับความมืดได้ดีขึ้นแล้ว หน้าเล็กๆขาวๆนั่นเลยดูเด่นชัดและใกล้มากเสียจนทำเอาผมใจเต้นโครมครามผิดจังหวะ ไม่ต่างอะไรกับเมื่อครั้งแรกที่ผมได้เห็นใบหน้าน่ารักน่าใคร่ของขนุนใกล้ๆ

ขนุนมองหน้าผมนิ่งนาน ก่อนจะถามต่อ “แต่นี่มันเป็นแค่การซ้อมเดท ขนุนไม่เห็นว่าเพื่อนน็อตจำเป็นจะต้องเจอขนุนเลยนี่นา...ใช่ไม๊ล่ะน็อต?”

ดูเหมือนขนุนเองก็น่าจะพอรับรู้ได้ถึงความพยายามหาโอกาสพาขนุนไปเจอเพื่อนๆคนสำคัญของผมในครั้งนี้อยู่บ้างเหมือนกัน  ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ติดใจจนเก็บเอามาถามอยู่แบบนี้  ผมเลยพยายามทำเสียงนิ่งๆบอกออกไป เพื่อให้อีกฝ่ายเข้าใจว่าสิ่งที่ผมกำลังจะอธิบายเป็นเพียงเรื่องทั่วๆไปไม่มีอะไรพิเศษ  “น็อตก็แค่อยากให้รู้จักกันเอาไว้น่ะฮะ เพราะน็อตว่า ระหว่างเราสองคน...เราน่าจะคบหากันไปอีกนาน...

...และในเมื่อความสัมพันธ์ของเรามันจะต้องดำเนินไปในรูปนั้นอยู่แล้ว ไม่วันใดก็วันนึงข้างหน้า ขนุนก็ต้องได้มีโอกาสพบหน้าพวกมันอยู่ดี  น็อตเลยเห็นว่า พาขนุนไปเจอพวกมันเอาซะเลยวันนี้ ทั้งขนุนและมันทั้งสามตัวจะได้เริ่มทำความรู้จักและคุ้นเคยกันเร็วขึ้นยังไงล่ะฮะ... 

...ที่สำคัญ อย่างที่น็อตบอกเอาไว้ก่อนหน้านั้นแหละฮะ ว่าน็อตอยากลองทดสอบดูว่าขนุนจะพูดจาเป็นปกติได้รึเปล่าถ้าต้องไปเจอกับคนที่ไม่คุ้นเคยมาก่อนแบบพวกมัน นี่ไงล่ะฮะโอกาสให้ได้ทดสอบฝีมือ ถ้าน็อตไม่คว้าเอาไว้ แล้วเราจะได้เริ่มลองกันเมื่อไรล่ะฮะ...เนอะ” ผมไม่ลืมตบท้ายด้วยเหตุผลข้างๆคูๆที่ผมยกขึ้นมาเพื่อกลบเกลื่อนความจริงที่ขนุนกำลังตั้งข้อสังเกต

คนฟังของผมโต้ตอบด้วยน้ำเสียงลังเล “อืม...ไม่รู้สินะ ทำไมขนุนรู้สึกเหมือนถูกพาไปดูตัวเลยล่ะ... 
.
...ท่าทางของเพื่อนน็อตแต่ละคนดูสนใจขนุนมากเป็นพิเศษ ทั้งที่กับคนแปลกหน้าคนอื่นๆ...ไม่เคยมีใครมีปฏิกิริยาแบบนี้ตอนเจอขนุนเป็นครั้งแรกมาก่อนเลยนะ...
...อืมมมมม...
...พอได้ไปเจอเพื่อนสนิทน็อตทุกคนในวันนี้ พลอยทำให้ขนุนนึกไปถึงตอนที่เจอกับพี่เน้ยครั้งแรกขึ้นมายังไงก็ไม่รู้ บอกไม่ถูกเหมือนกัน...
.
.
...ใช่แล้วล่ะ!! พี่เน้ยเองก็ออกอาการไม่ผิดไปจากเพื่อนๆของน็อตเลยนะ ทั้งความเอาใจใส่ สายตา ท่าทาง ไหนจะคำพูดอีกล่ะ” ขนุนพูดรัวออกมาเหมือนพวกนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องที่เพิ่งค้นพบทฤษฎีใหม่อะไรสักอย่าง... แล้วคุณจะมาจับนั่นผสมนี่เพื่อคาดคั้นไอ้น็อตคนนี้ให้ได้อะไรขึ้นมาล่ะฮะ??... อะไรจะฉลาดแบบนี้วะว่าที่คุณเมีย ผมนี่ไม่รู้จะอ้างอะไรอีกแล้วนะ ตอนนี้ก็คงจะเหลือแต่การแถเท่านั้นแล้วล่ะ ที่ผมยังพอจะทำเพื่อเอาตัวรอดได้อยู่บ้าง

“เฮ๊ยย ขนุน! คิดมากไปแล้วฮะ... พวกมันเป็นคนแปลกๆน่ะฮะ มันก็เลยอาจจะทำตัวไม่เหมือนคนอื่นไปบ้าง...
.
.
...ขนุนอย่าลืมสิฮะ น็อตเคยบอกตั้งแต่ตอนเราอยู่ในรถแล้วไงฮะว่า ไอ้พวกนั้นน่ะนิสัยดี  เรื่องรูปกายภายนอกเพียงผิวเผินอะไรนี่ ไอ้สามตัวนั่นไม่เคยติดใจ อีกอย่างน็อตก็เล่าเรื่องขนุนให้พวกมันฟังไปบ้างบางส่วนแล้ว พวกมันก็เลยอาจจะทำท่าเหมือนรู้จักมักคุ้นกับขนุนมากไปหน่อย  จนอาจจะดูสนิทสนมและให้ความสนใจขนุนเลยเถิดเกินไปบ้างยังไงล่ะฮะ...
.
...ส่วนเรื่องของคุณเน้ย น็อตก็ไม่รู้เหตุผลหรอกนะฮะ แต่มันอาจจะเป็นไปได้ว่า คุณเน้ยแกตื่นเต้นที่พอเห็นขนุนถอดแว่น เปลี่ยนลุค แล้วดูเหมือนนายแบบอะไรเทือกนั้น... แกก็เลยอาจจะอยากทำความรู้จักเอาไว้ เผื่อแกจะจีบไปเดินแบบเหมือนที่ขนุนเล่าให้น็อตฟังยังไงล่ะฮะ แหะ แหะ แหะ”

จะว่าไป การนอนปิดไฟคุยกันแม่งก็ดีว่ะ เพราะแสงสลัวๆช่วยบดบังอาการกระอักกระอ่วนจนทำหน้าไม่ถูกของผมไปได้เยอะทีเดียว... อีกอย่าง ผมยังโชคดีอยู่บ้างที่ขนุนถอดแว่นกับคอนแทคแล้ว ไม่งั้นผมแม่งต้องคอยระแวงว่าขนุนแม่งกำลังทำตัวเป็นเครื่องจับเท็จรีดเอาความจริงออกจากปากผมอยู่หรือเปล่าแหงๆ

เอาตรงๆเลยนะฮะ...ผมว่าจริงๆแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดในวันนี้... ทั้งเดทและการพาไปเจอหน้าเพื่อนสนิท ควรได้รับการเชิดชูเป็นเรื่องน่ายินดีที่เกิดขึ้นกับคนสองคนซึ่งกำลังก่อร่างสร้างสัมพันธ์อันลึกซึ้งด้วยกัน   แต่สำหรับกรณีของผมกับขนุน...ผมกลับไม่อาจยืดอกน้อมรับความดีความชอบเหล่านั้นเข้าตัวได้เลยแม้แต่นิดเดียว  เพราะทุกสิ่งทุกอย่างระหว่างเราแม่งเสือกเป็นผลพวงของข้อตกลงหลอกๆของผมเท่านั้นนี่หว่า

แทนที่จะเป็นการแสดงออกทางความรักอย่างสุขสมหวังของทั้งสองฝ่าย  หวยมันเลยออกมาในรูปของอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก   ฝั่งผมแม่งก็เอาแต่หวั่นใจ หวาดผวากลัวว่าจะถูกจับได้ แถมยังต้องคอยคิดคำแก้ตัวให้กับทุกเรื่องจนจิตตกเป็นพักๆ  ในขณะที่ขนุนแม่งก็เอาแต่หวาดระแวงจนต้องมาคอยถามเอาความจริงจากผมอยู่เรื่อยๆอย่างนี้...

เฮ้ออออ... แต่แม่งก็ช่วยไม่ได้จริงๆนี่หว่า ในเมื่อผมมันไม่ใช่คนที่ขนุนมองหาหรือปรารถนาเลยแม้แต่นิดเดียว...  
...ตราบใดที่ขนุนยังไม่เป็นของผมทั้งกายและใจ  ผมจำต้องอดทนผ่านเหตุการณ์เหล่านี้ไปให้ได้ ถึงจะเสียสุขภาพจิตมากอยู่ก็เถอะวะ


อยู่ๆคนที่นอนฟังผมนิ่งๆก็ยอมพูดออกมาเสียที “ก็คงจะเป็นอย่างน็อตว่าล่ะมั้งเนอะ...
.
.
.
...น็อต...ขนุนยืมมือถือหน่อยสิ”...เฮ้อ!! ในที่สุดขนุนก็ยอมเปลี่ยนเรื่องสักที

ผมเอี้ยวตัวไปข้างหลังแล้วเหยียดสุดแขนเพื่อหยิบมือถือของตัวเองตรงโต๊ะหัวเตียงมาส่งให้ขนุน แต่เมื่อโทรศัพท์แตะโดนมือเรียวๆนั้น ขนุนก็ส่ายหัวแล้วเอามือยันมือถือของผมเอาไว้อย่างนั้นแล้วพูดสั้นๆ “น็อตเม็มเบอร์ขนุนเอาไว้ในเครื่องนะ” ขนุนพูดจบก็เม้มปากนิ่ง

“ถ้าอย่างนั้นเอาแบบนี้ดีกว่าฮะ” ผมเอื้อมไปหยิบมือถือของขนุนที่วางเอาไว้คู่กันมาด้วย แล้วส่งเครื่องให้เจ้าของเพื่อปลดล็อคเครื่อง ขนุนส่ายหน้าอีกครั้ง ก่อนบอกรหัสเข้าเครื่องกลับมาให้ผมจัดการเครื่องตัวเองได้ตามใจ ผมเลยเม็มเบอร์ตัวเองลงในเครื่องขนุนแล้วตั้งเป็นเบอร์โทรด่วนให้ขนุนเสร็จสรรพ จากนั้นก็ลงมือเก็บเบอร์ของขนุนใส่เครื่องตัวเองตามลำดับ “เรียบร้อยแล้วฮะ เบอร์ของน็อตอยู่ในเบอร์โทรออกบ่อยๆแล้วนะฮะ ถ้าขนุนจะโทรหาน็อต ก็เข้าไปหาตรงนั้นได้เลยทันที...ขอบคุณนะฮะ ที่ในที่สุดก็ยอมให้เบอร์น็อตด้วย”

“อืม...วันนี้ขนุนมีเบอร์เพื่อนน็อตครบทุกคนแล้วนี่.... ก็เหลือแต่เบอร์น็อตคนเดียว ที่ขนุนยังไม่มี....ทั้งที่น็อตเป็นเพื่อนของขนุนก่อนเพื่อนทั้งสามคนของน็อตแท้ๆ” ขนุนพูดเสียงอ่อนเหมือนคนรู้สึกผิด

ผมรีบปลอบใจขนุนเมื่อได้ยินสิ่งที่เขาเอ่ย  “อย่าคิดมากซิฮะขนุน... มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหรอกฮะ ถ้าเราสองคนจะลืมคิดถึงการให้เบอร์ของตัวเองกับอีกฝ่ายเอาไว้  ก็เราเล่นตัวติดกันตลอดเวลาอยู่แล้วนี่ฮะ...
.
.
... ดีมากเลยฮะที่ขนุนให้เบอร์น็อตเอาไว้ ถ้าน็อตมีเวลาว่างจากงานที่ทำเมื่อไร...น็อตจะได้ลองโทรสุ่มมาเช็คขนุนทีเผลอดูซิว่าขนุนจะหลุดพูดจาแปลกๆออกมารึเปล่า”

“ก็แล้วแต่น็อตสิ... เออ ขนุนถามหน่อยสิ...
.
...น็อตว่าน็อตเป็นคนโรแมนติกไม๊?” ขนุนทำหน้านิ่งๆ ไม่ได้มีอาการผิดปกติอะไร เอ...ขนุนแม่งมาไม้ไหนวะเนี่ยะ ทำไมอยู่ๆถึงได้ถามผมเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้??!! ถึงผมจะงงๆกับจุดประสงค์ซ่อนเร้นของอีกฝ่าย แต่จะว่าไป ผมว่าแม่งก็มีข้อดีอยู่เหมือนกันนะ เพราะมันเปิดช่องให้ผมได้ถามขนุนด้วยคำถามเดียวกันกลับไปบ้าง

ผมตอบอีกฝ่ายเท่าที่ผมจะนึกออก  “ไม่รู้ซิฮะ...น็อตก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองโรแมนติกหรือเปล่า เพราะน็อตไม่เคยทำอะไรหวานๆจำพวกทำเซอร์ไพรส์ หรือบอกรักใต้แสงเทียนอะไรพวกนั้นหรอกนะฮะ แถมเรื่องจำวันครบรอบอะไรเนี่ยะ...แทบเป็นไปไม่ได้ เข้าขั้นย่ำแย่เลยล่ะฮะ...
.
...แต่มีเรื่องนึงที่น็อตแน่ใจว่าน็อตไม่น้อยหน้าใครเลย ก็คือ...ถ้าน็อตรักใครแล้ว เขาจะเป็นคนๆเดียวที่น็อตคอยมองหาโดยไม่ให้คลาดสายตา น็อตจะคอยดูแลคนๆนั้นอย่างใกล้ชิด และทำทุกอย่างได้เพื่อให้คนๆนั้นมีความสุข นี่อาจจะเป็นนิยามคำว่าโรแมนติกในแบบของน็อตก็ได้มั้งฮะ”

ตลอดเวลาที่ผมพูดสิ่งที่ผมคิด ผมไม่ยอมละสายตาไปจากดวงตากลมใสที่อยู่ห่างไปไม่ถืงฝ่ามือ เฝ้าแต่คิดว่า...อยากให้ความรู้สึกของผมที่มีต่อขนุนส่งผ่านไปถึงใจเขาได้เสียจริงๆ ผมอยากให้เขาได้เอะใจว่า ทุกๆวันที่ผ่านมา สิ่งเล็กๆน้อยๆที่ผมทำให้เขานั้น ล้วนแล้วแต่เป็นเครื่องยืนยันความรู้สึกสิเน่หาอันรุนแรงที่ผมมีต่อเขาทั้งสิ้น
.
.
“...แล้วขนุนล่ะฮะ ขนุนโรแมนติกไม๊?”


ขนุนนิ่งไปนิดหนึ่ง ก่อนตอบผมด้วยเสียงเบาๆ “เรื่องแบบนี้ขนุนว่าคนรักของเราน่าจะเป็นคนบอกได้ดีที่สุดนะ แต่ถ้าให้ขนุนตอบด้วยมุมมองเดียวกันกับน็อต... ขนุนคงจัดเป็นคนจำพวกที่ไม่ค่อยจะโรแมนติกล่ะมั้ง เพราะในชีวิตที่ผ่านมา ขนุนไม่เคยทำอะไรแบบที่น็อตว่าให้ใครเหมือนกัน...
.
...ถ้าจะพูดให้ถูก ขนุนต้องบอกว่า ไม่เคยออกตัวทุ่มเททำอะไรให้ใครมากๆอย่างที่เห็นได้บ่อยๆในหนัง ในละคร  ประเภทที่ว่า คุกเข่าลงกับพื้นเพื่อขอความรัก ตะโกนบอกรักแฟนในสถานที่สาธารณะ หรือต่อสู้ฝ่าฟันเพื่อทำให้ครอบครัวของแฟนยอมรับความสัมพันธ์ระหว่างขนุนกับเค้า ลำพังแค่จะแสดงความรู้สึกชอบใครออกไป ก็ยังทำได้ไม่ดีเลย...น็อตก็รู้อยู่ไม่ใช่เหรอ หึ!...
.
.
...ที่สำคัญ ขนุนก็ไม่คิดว่าตัวเองจะทำแบบที่ยกตัวอย่างมาได้หรอก  เพราะเรื่องที่ขนุนสนใจที่สุดเป็นอันดับแรกก็ไม่พ้นเรื่องงานอย่างเดียวเท่านั้น......ส่วนเรื่องอื่นๆ ถ้าไม่เดือดร้อน หรือสำคัญต่อจิตใจจริงๆก็เอาไว้จัดการกันทีหลังไปเลยน่ะ”

โห...ชีวิตขนุนแม่งจะทำแต่งานไปจนตายเลยเหรอวะ คือ ไม่ใช่ว่าผมจะไม่ชอบความทุ่มเทของขนุนที่มีต่องานที่ตัวเองรักหรอกนะฮะ ผมแม่งออกจะชื่นชมและสนับสนุนขนุนเสียด้วยซ้ำ แต่อีกใจแม่งก็อดห่วงขึ้นมาไม่ได้...เพราะถ้าขนุนยังคงอุทิศตัวเองให้กับงานอย่างไม่ลืมหูลืมตาจนไม่มีเวลาให้ตัวเองและคนอื่นๆรอบข้างบ้าง  เกิดวันหนึ่งรู้สึกตัวขึ้นมา...อาจจะไม่เหลือใคร หรืออะไรที่สำคัญอีกเลยในชีวิต ทั้งเพื่อน ทั้งพี่น้อง หรือคนอื่นๆในครอบครัว... อย่างนี้จะไม่ให้ผมจุ้นเรื่องชีวิตแม่งได้อย่างไรกันวะ....ก็แม่งทำตัวน่าเป็นห่วงออกเสียขนาดนี้น่ะ

“เหรอฮะ... ขนุนต้องปรับหน่อยล่ะมั้งฮะ ไม่งั้นหนุ่มหน้าหวานที่ไหนเค้าจะทนได้กันล่ะฮะ?” ผมพยายามตะล่อมทั้งที่รู้ว่าคนหัวแข็งอย่างขนุน คงไม่มีทางจะเปลี่ยนใจง่ายๆ เชื่อขนมกินได้เลยว่าขนุนแม่งต้องหาทางเลี่ยง ทำมึนใส่ ไม่ก็เปลี่ยนเรื่องคุยแหงๆ

...แต่สิ่งที่ขนุนตอบผมกลับมานี่สิ ที่ทำเอาใจผมเต้นไม่เป็นส่ำได้อย่างไม่คาดฝัน...

“แล้วถ้าเป็นน็อตล่ะ... น็อตจะทนได้ไม๊ ถ้าขนุนเอาแต่ทำงาน?” เหี้ย!!! ขนุนแม่งหยอดผมว่ะ... นี่ผมแม่งไม่ได้ฝันไปใข่ไหมฮะ???!! ขนุนหยอดผมจริงๆใช่ไหม???...เหยดดดด! หรือว่าขนุนแม่งจะเริ่มคิดอะไรกับผมขึ้นมาบ้างแล้วหลังจากที่เราได้ใช้เวลาอยู่ใกล้ชิดกันมากขึ้น

ในเมื่อขนุนหยอดมา ผมแม่งก็หยอดกลับไปทันที ของอย่างนี้...มันต้องวัดกันดูสักตั้ง จะได้รู้ไปว่าผมแม่งจะมีหวังบ้างหรือเปล่า “ก็ต้องได้ซิฮะ...ก็น็อตเข้าใจไงฮะ ว่าเรื่องงานเป็นเรื่องใหญ่สำหรับขนุน... ขอแค่ขนุนมีเวลาสนใจและเล่นกับน็อตบ้างวันละนิดวันละหน่อยก็พอ”

ขนุนยิ้มหวานให้ผมแล้วพูดด้วยน้ำเสียงชื่นชม “น็อตนี่เป็นคนดีจังเลยนะ... ถ้าใครได้ไปเป็นแฟนต้องโชคดีมากแน่ๆเลยเนอะ”

คงเป็นเพราะความหวานของเสียง ความน่ารักของขนุน บวกกับความงามของใบหน้าที่ยิ้มแย้มเมื่อครู่ ทำให้ผมเผลอหลุดปากพูดสิ่งที่ไม่ควรออกไป  “แล้วขนุนอยากลองเป็นคนโชคดีดูไม๊ล่ะฮะ?” 
.
.
.
เหี้ยแล้ว!!!...ไอ้น็อตเอ๊ย!! นี่มึงเมายิ้มขนุนจนควบคุมปากตัวเองเอาไว้ไม่ได้เลยจริงๆใช่ม๊ายยย???!! ถ้าขนุนเกิดระแวงเจตนาของมึงขึ้นมา จนเขาขอถอนตัวออกจากแผนการของมึงไปจริงๆ....มึงจะทำยังง๊ายยยย???

ขนุนทำหน้าตาตกใจจนหลุดพูดเสียงดัง “ห๊ะ!! เมื่อกี๊น็อตว่าอะไรนะ?”

ผมก็ได้แต่ส่งคำโกหกคำโตให้ขนุนไปเท่านั้น “อ๋อ...เปล่า เปล่าฮะ ไม่มีอะไร น็อตแค่หยอกเล่นเฉยๆ อย่าคิดมากเลยฮะ”
.
.
ตามมาด้วยการเปลี่ยนเรื่องทันที เพราะผมเริ่มเห็นว่าสายตาของอีกฝ่ายเรื่องจับจ้องผมมากเป็นพิเศษ “...ว่าแต่ว่า ที่ยังไม่ยอมนอนเนี่ยะ เป็นเพราะขนุนกำลังรอฟังคำตอบของน็อตใช่ไม๊ฮะ?” คนฟังในอ้อมแขนผมพยักหน้าทันที  ผมเลยแกล้งถามยื้อเวลาออกไปอีกหน่อย ”ขนุนพร้อมจะฟังหรือยังฮะ?”

ขนุนตอบด้วยการสะบัดหน้าสะบัดเสียงใส่ บอกให้ผมรู้ได้ว่าเจ้าตัวชักจะหงุดหงิด “พร้อมมาตั้งแต่เช้าแล้วล่ะ...รอจนจะหลับอยู่แล้วด้วยเนี่ยะ” หึ หึ...บางทีก็ใจร้อนเหมือนเด็กๆเลยนะฮะขนุน... สงสัยเป็นเพราะมันคงเกี่ยวกับงานล่ะมั้ง ถึงได้ดูเป็นเดือดเป็นร้อนแบบนี้

ไหนๆก็หงุดหงิดแล้ว ขอดึงเช็งอีกสักนิดให้พอหอมปากหอมคอ คงจะไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง “ก่อนน็อตจะตอบ... ขนุนบอกมาก่อนซิฮะ ว่าขนุนรู้สึกยังไงบ้างกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน?”

“น็อตจะอยากรู้ไปทำไมล่ะ? น็อตไม่ได้จะใช้มันไปเขียนหนังสืออย่างขนุนซักหน่อยนี่?” หางเสียงชักจะสะบัดคล้ายๆกับงอน ส่วนหน้าเล็กๆนั่นก็เริ่มจะหงิกจนชิ้นส่วนต่างๆบนหน้าเหมือนจะเลื่อนมากองรวมกันอยู่ตรงกลาง แต่มองไปมองมา ขนุนเวลาไม่พอใจนี่แม่งก็ดูน่ารักไปอีกแบบ เหมือนลูกแมวง่วงนอนโดนเจ้าของแหย่ให้ตื่นขึ้นมาเล่นเลยฮะ นี่ถ้ากางกงเล็บแล้วขู่ฟ่อๆสักหน่อยก็เข้าทีใช้ได้เลยนะ  หึ หึ...อยากแกล้งอีกว่ะ อยากเห็นฤทธิ์ของลูกแมวดูสักที

ผมเลยรัดวงแขนให้แน่นขึ้นเพื่อกวาดร่างเล็กเพรียวกลิ่นวนิลานั้นให้เข้ามาใกล้จนท่อนล่างของเราแนบชิดกัน ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ “อ้าว ใจคอขนุนจะไม่ให้คนสอนได้รับการประเมินผลการสอนหน่อยเลยเหรอฮะ... อย่างนี้ คนสอนก็ไม่รู้ตัวกันพอดีสิฮะ ว่ามีข้อบกพร่องหรือต้องแก้ไขอะไรบ้าง...ใช่ไหมฮะขนุน?”

ตากลมใสคู่นั้นเลื่อนจากหน้าผมก้มลงมองต่ำ ริมฝีปากเล็กๆนั่นเปิดออกแล้วเปล่งเสียงอย่างช้าๆ “อืมมม...ขนุนบอกก็ได้
.
.
....ตอนแรกที่ขนุนรู้ว่าสิ่งที่เรากำลังจะทำกันเมื่อคืนคืออะไร ขนุนตกใจมากนะ เพราะไม่คิดว่ามันจะออกมาในรูปนี้... คือ ขนุนไม่เคยคิดว่าต้องมาช่วยตัวเองต่อหน้าน็อตน่ะ...
.
.
...ไม่สิ ไม่คิดว่าน็อตจะเป็นฝ่ายทำอะไรแบบนั้นให้ขนุนตั่งหาก...
...หลังจากที่ทุกอย่างมันเริ่ม ขนุนก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกๆสัมผัสของน็อตทำให้ขนุนรู้สึกดีมากขึ้นเรื่อยๆ  ถ้าจะให้ขนุนอธิบาย ขนุนคงบอกได้แค่ว่า มันเหนือไปกว่าจินตนาการที่ขนุนเคยมี ต่อให้ที่ผ่านมา ขนุนเคยได้อ่านฉากอย่างว่าที่ถูกถ่ายทอดผ่านภาษาเขียนอันสละสลวย งดงาม และบรรยายให้เห็นภาพได้อย่างชัดเจนผ่านตามามากมายแค่ไหน มันกลับเทียบไม่ได้เลยกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับขนุนจริงๆในช่วงเวลานั้น... 
.
.
.
...สิ่งที่น็อตทำกับขนุนน่ะ มันทำให้ขนุนทั้งรู้สึกตื่นเต้น...แบบที่เรียกได้ว่า ตื่นเต้นที่สุด...ยิ่งกว่าที่เคยเป็นครั้งไหนๆ...
...และมันก็ทำให้ขนุนได้รู้ว่า ร่างกายของคนเรานี้ช่างน่ามหัจรรย์เหลือเกิน เพราะขนุนไม่เคยคิดว่าการสัมผัสร่างกายแค่ภายนอก จะก่อให้เกิดความรู้สึกซาบซ่านชวนให้หวั่นไหวได้อย่างไม่น่าเชื่อ...
.
...กระทั่งจุดที่ไม่คิดว่ามันจะทำให้ขนุนตอบสนองทางความรู้สึกได้รุนแรงแบบนั้น เอาเข้าจริง กลับทำให้กระเจิดกระเจิงถึงขั้นทุรนทุรายจนควบคุมตัวเองไม่ได้” สิ่งที่ขนุนเพิ่งพูดออกออกมาทำให้ผมเกิดความรู้สึกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอึ้ง ภูมิใจในความสามารถด้านนี้ของตัวเอง และสงสัย...

ผมเลยต้องถามออกไปเพื่อทำลายความสงสัยในใจนั้นเสีย “แล้วขนุนชอบไม๊ละฮะ?” ก่อนที่อีกคนจะตอบ ผมรีบเอามือเชยคางเล็กๆนั่นให้ใบหน้าทั้งหมดเงยขึ้นมาเพื่อให้ผมได้เห็นการแสดงอารมณ์ของเจ้าตัวได้อย่างชัดเจน

“ถ้าบอกว่าไม่...ขนุนก็โกหกน่ะสิ” ขนุนตอบนิ่งๆแล้วเม้มปากแน่น...นี่คงจะไม่พอใจอีกแล้วล่ะมั้ง ที่ผมบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาจ้องกัน

แต่ผมนี่สิ...กลับฉีกยิ้มให้คนหน้านิ่งไปเต็มๆหน้า แค่ได้ยินว่าไม่เกลียด ผมแม่งก็ดีใจจะแย่แล้วล่ะฮะ แต่นี่ขนุนชอบที่ผมทำให้ด้วย แม่งยิ่งน่าดีใจไปกันใหญ่ “น็อตก็ชอบฮะ” ผมยอมรับออกไปตามตรงอย่างไม่มีอ้อมค้อม

“น็อตรู้สึกแค่นั้นเองน่ะเหรอ?” คนฟังคาดคั้นเอาคำตอบ...ขนุนแม่งก็ใจร้อนเกิ๊นน

ผมตั้งสติแล้วนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืนวาน “ขนุนฮะ เย็นไว้ฮะ... น็อตกำลังจะเล่าให้ฟังอย่างละเอียดอยู่เดี๋ยวนี้ยังไงล่ะฮะ...
.
...ตอนก่อนเราจะเริ่มทำความรู้จักกับร่างกายส่วนต่างๆของขนุนเมื่อคืน  น็อตเองก็รู้สึกตื่นเต้นไม่แพ้กันหรอกฮะ  เพราะมันเป็นครั้งแรกที่น็อตจะได้สร้างความคุ้นเคยกับร่างกายของผู้ชายอีกคน...

...จังหวะที่น็อตไซ้ไปตามใบหน้า และซอกคอของขนุนเนี่ยะ น็อตรู้สึกดีมากๆนะฮะ เพราะผิวของขนุนนุ่ม เนียน และก็ลื่นไปซะทุกที่ แถมยังมีกลิ่นหอมของเครื่องสำอางค์กับพวกครีมอาบน้ำโชยออกมาอ่อนๆผสมกับไอกลิ่นประจำตัวของขนุนที่ระเหยขึ้นมาทุกครั้งที่ขนุนขยับร่างกาย รวมทั้งเวลาที่ขนุนตื่นเต้น......

...ซึ่งทุกความหอมที่น็อตว่ามา ต่างทำให้หัวสมองของน็อตมึนตื้อไปหมด พอปล่อยไว้นานๆเข้า น็อตก็เริ่มจะคิดอะไรไม่ออก แต่น็อตก็ต้องพยายามขืนเอาไว้ เพราะบทเรียนของเราเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น...

...มาถึงตอนที่น็อตกระตุ้นประสาทสัมผัสของขนุนตรงรอบๆใบหู ปฏิกิริยาของขนุนก็น่ารักมาก...
...ร่างกายที่อ่อนยวบเหมือนกับขี้ผึ้งลนไฟที่ส่ายไปมาตอบรับทุกๆครั้งที่น็อตลงสัมผัส และเสียงครางไม่ได้ศัพท์ของขนุนที่เหมือนจะคอยเร่งเร้าให้น็อตเดินหน้าต่อ...แม้ขนุนจะดูทุรนทุรายมากก็ตาม  พอน็อตได้เห็นภาพพวกนั้นกับตาจะจะ...มันก็พลอยทำให้น็อตรู้สึกตื่นเต้นตามขนุนไปด้วย แถมยังไม่อยากจะละหน้าไปที่อื่นอีกเลย เพราะน็อตอยากทำให้ขนุนรู้สึกดีมากกว่าที่เป็นอยู่ยิ่งๆขึ้นไป...
.
.
...ห๊าววววว ขนุนฮะ วันนี้น็อตขับรถนาน...เหนื่อยจัง ไม่มีแรงเล่าต่อแล้วล่ะ” หลังจากแกล้งหาว ผมก็ส่งหน้าสำออยสุดติ่งไปให้ขนุนที่นอนมองจ้องผมตาแป๋ว

คำถามซื่อๆของขนุนก็ทำให้ผมยิ้มออกได้อีกครั้ง “แล้วขนุนต้องทำยังไงน็อตถึงจะมีแรงเล่าต่อได้ล่ะ?”

“จูบเติมพลังให้น็อตหน่อยสิฮะ” ผมหลิ่วตาแล้วยิ้มมุมปากให้อีกคนที่กำลังทำหน้ายุ่งเหมือนแก้โจทย์สมการยากๆไม่ได้ 

ใช่ฮะ..ผมรู้ว่าไอ้การเรียกร้องจูบเนี่ยะ แม่งเป็นการเอาเปรียบขนุนชัดๆ แต่จะให้ทำไงได้ละฮะ พอนึกทบทวนถึงเรื่องเมื่อคืน ผมแม่งก็ชักจะอยากลวนลามขนุนขึ้นมาอีกแล้ว แต่ในเมื่อไม่มีข้ออ้างงามๆอย่างการดูวิดีโอหรือการเรียนวิชาสปท. ผมแม่งก็ต้องฉวยทุกโอกาสที่พอจะเป็นไปได้เพื่อหาเศษหาเลยกับขนุนนิดๆหน่อยๆก็ยังดี

“นั่นไม่ใช่เอาไว้สำหรับลงโทษหรอกเหรอ?” ความพยายามเอาตัวรอดยังน่าชื่นชมเหมือนเดิมฮะ แต่ขนุนไม่มีทางพ้นเงื้อมมือผมไปไหนได้หรอกนะเบ่เบ๋ หึ หึ

“มันไม่ได้มีไว้เพื่อลงโทษอย่างเดียวหรอกนะฮะ...มันยังเอาไว้ทำอะไรได้อีกหลายอย่างเลยล่ะ... เติมพลังนี่ก็อีกเหตุผลนึง... นะ นะฮะ ไม่งั้นน็อตเล่าต่อไม่ได้จริงๆด้วย” ผมก็ยังคงยืนยันกระต่ายขาเดียวไม่ยอมอ่อนข้อให้โมเอ้คุงที่กำลังทำหน้าลำบากใจอยู่ในเวลานี้



ขนุนนิ่วหน้าคิดเงียบๆอยู่พักใหญ่ก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาหาหน้าผมช้าๆแล้ววางริมฝีปากเล็กๆนั่นลงบนปากผมเบาๆ ก่อนจะถอนออกไปอย่างรวดเร็ว  “(จุ๊บ) เล่าต่อได้แล้ว ขนุนจูบน็อตแล้วนะ”

ผมถึงกับร้องท้วงออกมาทันทีราวกับคนถูกเอาเปรียบ ทั้งที่คนที่ไม่พอใจควรจะเป็นขนุนมากกว่าแท้ๆ ได้คืบจะเอาศอก...คือผมในตอนนี้เลยล่ะฮะ... “นั่นไม่ได้เรียกว่าจูบซักหน่อย เค้าเรียกว่าเอาปากมาแตะปากเฉยๆ... จูบจริงๆน่ะ มันต้องอย่างนี้ตะหากฮะ /............อืมมมมมมมม...................................ฮื่มมมมมมมม.................ฮ่าห์.......

ผมไม่รอให้อีกคนรู้ตัวว่ากำลังโดนฉวยโอกาส เพราะกลีบปากเล็กๆที่ยังออกสีแดงแม้ในความมืดถูกผมครอบครองเอาไว้ด้วยปากของตัวเองทันทีหลังจากประโยคเมื่อกี๊ของผมสิ้นสุด  ผมระบายน้ำหนักมากบ้างน้อยบ้างอย่างหยอกเย้าลงบนพื้นที่อ่อนนุ่มขนาดกระจ้อยร่อยแต่เต็มไปด้วยความหอมหวานนั่น  ระหว่างช่วงเวลาแห่งความสุขกำลังเดินไปข้างหน้า จมูกผมก็บดฝังลงแนบกับเนื้ออูมๆใสเด้งเพื่อเก็บเกี่ยวกลิ่นแก้มนิ่มซ้ำไปซ้ำมาอย่างไม่รู้เบื่อ

แม้จะเงอะงะไปบ้าง...แต่ปากเล็กๆของขนุนก็ขยับตอบรับทุกๆจังหวะที่ผมปรนเปรออย่างตั้งอกตั้งใจ จนมันทำให้ผมทั้งรู้สึกยินดีและเพลิดเพลินได้ในเวลาเดียวกัน แต่ผมเลือกที่จะมีความสุขไปกับความวาบหวามหัวใจที่ขนุนมอบคืนให้เพียงไม่นาน ก่อนจะถอนใบหน้าออกห่างจากความหวานละมุนนั่น เพื่อไม่ให้อะไรๆเลยเถิดไปกว่านี้

ผมรีบเปลี่ยนเรื่องเพื่อเลี่ยงความเงียบอันน่ากระอักกระอ่วนระหว่างเราสองคนเนื่องจากวางหน้าไม่ถูก “ฮ่ะห์... อย่างเมื่อกี๊นี่ต่างหากที่เรียกว่าจูบฮะ...  ...โอเค เมื่อกี๊ถึงไหนแล้วนะฮะ...
.
.
...อ๋อ พอดีเลย ถึงจูบพอดีเลยเนอะ หึ หึ หึ...
...จากการสำรวจอย่างถี่ถ้วน ริมฝีปากของขนุนก็นุ่มแล้วก็หอมมาก จนน็อตยังสงสัยว่าขนุนไปกินลูกอมหวานๆหอมๆที่ไหนมาก่อนออกจากห้องน้ำหรือเปล่า ทำไมถึงหอมหวานนุ่มนิ่มได้มากขนาดนี้... 

...สำหรับจูบแรกของเรา แบบที่ไม่มีการแลกลิ้น มันทำให้น็อตใจเต้นแรงแถมยังตื่นเต้นเหมือนกับเพิ่งไปวิ่งราวสร้อยใครมาแล้วต้องวิ่งหนีตำรวจพร้อมของกลางคามืออยู่ยังไงยังงั้น...” ผมเห็นรอยยิ้มบางๆอยู่บนใบหน้าขาวๆแสนน่ารักนั่น คิดไม่ผิดจริงๆที่เล่นมุกเมื่อกี๊... แม่งชื่นใจสัด! 

“ตอนแรกที่ปากของเราสัมผัสโดนกัน น็อตรู้สึกเหมือนมันมีกระแสไฟฟ้าแล่นผ่านหลังของตัวเองไล่ขึ้นมาจากล่างขึ้นข้างบน  ลมหายใจกับเสียงครางเบาๆในลำคอของขนุนทำให้หัวน็อตหมุนติ้วจนควบคุมความคิดกับเหตุผลไม่ได้อีกครั้ง  จากที่คิดเอาไว้แล้วว่าจะทำอะไรต่อ...ก็ดันลืมไปซะหมด...
.
.
...ใจมันอยากจะจูบขนุนอยู่แบบนั้นไปเรื่อยๆน่ะฮะ...
...โธ่...อะไรเนี่ยะ หมดแรงอีกแล้วเหรอ!!!
...ว๊า....ทำไงดีล่ะฮะขนุน...นี่น็อตไม่ได้สำออยเลยนะ คือ อยู่ๆมันก็ตื้อเหมือนจะนึกอะไรไม่ออกไปซะอย่างงั้นน่ะฮะ” ผมยอมลงทุนเจ็บตัวทำท่าประกอบด้วยการตบหัวตัวเองเบาๆให้หายมึนอยู่หลายครั้ง... ถ้าใครจะบอกว่าไอ้ที่ผมทำแม่งอ่อน เพราะตบแค่นี้แม่งไม่ทำให้รู้สึกเหี้ยอะไรหรอก จะลองทำตามดูบ้างก็ได้นะฮะ แต่อย่าลืมใส่แหวนที่นิ้วโป้ง กลาง ก้อยเหมือนผมด้วยก็แล้วกัน... มึนเหี้ยๆอ่ะ บอกเลย

แม้ผมจะรู้แก่ใจว่าไอ้ที่ผมแม่งทำอยู่เนี่ยะมันดูง่อยและหน้าด้านสัดๆ แต่ของแบบนี้...ด้านได้ อายอดฮะ อีกอย่าง...การกระทำใดๆที่ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อใช้อ้อนเมียด้วยความบริสุทธิ์ใจนี่ ต่อให้ดูงี่เง่าและง่อยขนาดไหน ผมว่าแม่งก็ยังน่ารักน่าให้อภัยไม่เบา แล้วถ้าสุดท้าย...ขนุนเกิดจะเล่นท่าไม่ยอมขึ้นมาจริงๆ...ผมแม่งก็กำไรอยู่ดี เพราะอย่างไรเสีย คืนนี้ผมเก็บมาได้แล้วหนึ่งจูบนี่หว่า

“ก็จูบสิ...ขนุนไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย” พอได้ยินเสียงตอบของ ผมก็ถึงกับหยุดมือที่กำลังทำร้ายหัวตัวเอง แล้วเปลี่ยนมาเป็นกอดอีกคนแน่นขึ้นอีกระดับทันที  แล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆขนุนเพื่อกระซิบเบาๆอย่างอ้อนๆ

“นึกว่าต้องขอก่อนซะอีก” ผมยิ้มพลางพูดไป จ้องหน้าเล็กๆที่เฉียดปลายจมูกตัวเองไป คนที่ผมกำลังจ้องหน้า เม้มปากแน่นแล้วเบี่ยงหน้าหันไปทางอื่น เวลานี้แม่งต้องเขินดิวะ...ผมแม่งก็ออกจะรุกเสียใกล้แบบนี้ แถมยังอ้อนแบบสุดๆอีก จะมาเม้มปากหาอะไรอยู่วะขนุน...เดี๋ยวนี้แม่งเม้มปากบ่อยเกินไปแล้วนะเว่ย

ขนุนรีบสวนกลับมาอย่างเลิ่กลั่ก “ต้องขอนะ..ไม่งั้นงงกันพอดี ว่าน็อตจูบขนุนเพราะอะไร”

ผมยิ้มให้อีกฝ่ายแล้วพูดรัวเร็ว “งั้นก็อย่าลืมว่าเราต้องหายใจทางจมูกนะฮะ.../...หายใจทางจมู...อู้.......ฮู่...........อื้มมมม..............ฮื่มม...........ฮื่ออออออ........ฮื่มมมมม..................

คราวนี้ผมไม่ได้หวังแค่สร้างความประทับใจให้แก่ภายนอกปากเหมือนรอบที่แล้ว เมื่อริมฝีปากเราประกบกันแนบแน่น ผมก็เริ่มกวาดกินความหวานที่ถูกกักเก็บเอาไว้ภายในราวกับคนหลงทางในทะเลทรายเจอแหล่งน้ำต่อชีวิต ดูเหมือนอะไรๆที่เป็นของคนๆนี้จะนุ่มนิ่มไปเสียทั้งหมด...ลิ้นเรียวนั่นก็ไม่มีข้อยกเว้น หากแต่มันยังชุ่มฉ่ำและนำพาความซาบซ่านมหาศาลมาให้ผมครั้งแล้วครั้งเล่าที่ลิ้นเราทั้งสองเกี่ยวกระหวัดกัน 

เสียงเล็กๆน่าฟังที่ดังได้แค่เพียงในลำคอเพรียวบางถูกเปล่งออกมาทุกครั้งที่ริมฝีปากเล็กถูกกดสัมผัสอย่างหนักหน่วง พร้อมกันกับการระรัวลิ้นพลิ้วไหวที่ผมป้อนให้

จูบแนบแน่นในครั้งนี้...ผมรู้สึกเหมือนว่า ขนุนเองก็โหยหารสสัมผัสจากผมไม่แพ้กัน เพราะการตอบสนองของร่างกายตั้งแต่ภายในปาก ไปจนถึงทุกๆส่วนที่เหลือของร่างอ้อนแอ้นนั้น ผิดไปจากเมื่อวานลิบลับ ระหว่างที่ผมพุ่งความสนใจทั้งหมดไปกับการส่งลิ้นไปหยอกล้อคลอเคล้าโพรงปากของอีกคนอย่างตั้งอกตั้งใจ ผมก็รู้สึกได้ถึงความเคลื่อนไหวของมือเล็กเรียวทั้งสองที่ลูบเปะปะไร้ทิศทางไปตามร่างกายท่อนบนของผม

...งานงอกแล้วล่ะ ถ้าขืนผมปล่อยไหลให้นานไปกว่านี้ ผมแม่งต้องเผลอกดขนุนเข้าแน่ๆ... พอก่อนเลยไอ้น็อต พอ!!!


เพื่อการครอบครองขนุนแต่เพียงผู้เดียวในภายภาคหน้าโดยสมบูรณ์ ผมจึงตัดใจจากความหอมหวานยั่วยวนนั้นได้ไม่ยาก ผมค่อยๆผ่อนรสสัมผัสแล้วผละออกมาจากขนุนอย่างช้าๆ  น้ำใสๆไหลเยิ้มเป็นสายเชื่อมริมฝีปากของเราเอาไว้ด้วยกันสะท้อนแสงไฟเข้าตาผมครู่หนึ่งก่อนจะหายวับไป ผมส่งยิ้มให้คนที่กำลังทำตาปรือฉ่ำ “จำได้แล้วว่าจูบครั้งที่สองของเมื่อคืนรู้สึกยังไง...
.
.
...น็อตว่าเรื่องนี้เราข้ามไปโดยที่ขนุนไม่ต้องรอฟังจากน็อตก็ได้นะฮะ  เพราะไอ้ที่ขนุนรู้สึกก็ใช้ได้เหมือนกันน่ะแหละ...
...แต่เพื่อไม่ให้เป็นการเอาเปรียบกัน น็อตแถมให้ว่า น็อตประหลาดใจและก็ดีใจ ที่ขนุนหัวไวจนสามารถทำตามสิ่งที่น็อตทำทั้งหมดได้ และน็อตรู้สึกดีกับการจูบกับขนุนมากนะฮะ”

ดวงตารื้นน้ำตาคู่นั้นฉายแววไม่พอใจขึ้นมานิดๆ ปากเล็กๆที่เริ่มจะบวมเจ่อต่อว่าผมอย่างไร้เมตตา “ขี้โกง!!

...ขี้โกง!!...อ๋อยย ตะเอง...สาบานได้นะว่านี่เป็นถ้อยคำรุนแรงที่แสดงออกถึงความไม่พอใจ และถูกเอาเปรียบ??!!...
...ผมรู้สึกเหมือนโดนเอากลีบดอกไม้นุ่มนิ่มปาใส่หน้า ก็จะอะไรล่ะฮะ...แม่งเป็นการต่อว่าที่ทั้งหอมหวาน นุ่มนวล น่ารักสมกับความโมเอ้ของขนุนอย่างที่สุด...

วันไหนสักวันเถอะ ผมจะสอนให้ขนุนสบถเวลามีอะไรกัน ผมรู้ว่าขนุนแม่งไม่มีทางล้ำเส้นจนต่อมเถื่อนแตกแล้วกลายเป็นคนพูดจากากๆไปได้หรอก  แต่ไอ้การต้องพูดอะไรที่ฝืนตัวตนออกมาเนี่ยะ แม่งก็ SM ทางจิตอย่างหนึ่งเหมือนกันแหละวะ หึ หึ...แค่นึกภาพตามแม่งก็เร้าอารมณ์ได้ดีชิบหายเลยว่ะ!!

ผมยิ้มร้ายๆให้คนหน้านิ่งสุดน่ารักเพราะภาพหื่นในหัวยังคงไม่หายไปไหน “หึ หึ ไม่โกงหรอกฮะ สิ่งที่น็อตรู้สึกน่ะเหมือนขนุนแน่นอน เพราะมันเป็นสิ่งที่เราทำร่วมกัน แต่ขั้นต่อไปนี่สิ ต้องเล่าเลยล่ะ...หรือไม่ต้องเล่าดีน้า?”

“เล่าเถอะ...ขนุนอยากรู้น่ะ”  มือเล็กๆยื่นมาจับแขนผมไว้แล้วไกวเบาๆเพื่อคะยั้นคะยอให้ผมเล่าต่อให้จบ

“งั้นแลกด้วยส่วนที่เหลือ ส่วนละสองทีนะฮะ” ผมทำหน้ากรุ่มกริ่มเพื่อเป็นการบอกใบ้ให้อีกฝ่ายรู้ว่า ข้อต่อรองของผมหมายถึงอะไร

ขนุนถามออกมาเบาๆ “จูบสี่ทีเหรอ?”

“ฮะ...ตกลงนะฮะ” ขนุนเม้มปากแล้วพยักหน้าให้ผมอย่างอายๆ ผมแม่งโคตรดีใจจนคว้าตัวขนุนมาใกล้แล้วขโมยหอมแก้มไปอีกทีก่อนจะปริปาก (ฟอดดดด) จนอีกฝ่ายส่งฆ้อนวงใหญ่มาให้ 

“ความรู้สึกของน็อตตอนที่สัมผัสหน้าอกของขนุนมันบรรยายเป็นคำพูดไม่ถูกหรอกฮะ เพราะว่ามันคงจะคล้ายๆกับสัญชาตญาณของเด็กแรกเกิดที่มีต่อหน้าอกของแม่อะไรอย่างนั้นล่ะมั้งฮะ คือมันเป็นการสัมผัสที่เป็นไปตามธรรมชาติ แบบว่าเห็นไม่ได้มั้งฮะ ต้องยื่นมือไปจับไปคลึงเสียหน่อย อะไรทำนองนั้นแหละ...

...จะขาดแต่ก็ตอนกินนมเท่านั้นแหละฮะ ที่น็อตยังไม่ได้ลอง...
...แหม่ อย่ามองน็อตแบบจะกินหัวอย่างนั้นสิฮะ ก็มันจริงนี่นา...
.
.
...แต่อีกอย่างที่รู้สึกคือ มันทำให้น็อตพอใจและดีใจ ที่เมื่อสองมือของน็อตลูบไล้หน้าอกขนุนแล้ว ทำให้ขนุนตอบสนองรุนแรงกว่าส่วนอื่นๆที่ได้สัมผัสก่อนหน้า  มันทำให้รู้ว่าขนุนรู้สึกกับสัมผัสของน็อตและยินยอมเปิดรับน็อตแล้ว...
.
...อาการส่ายและเสียงร้องครางระงมที่ขนุนทำ มันบอกกับน็อตว่าร่างกายขนุนพร้อมสำหรับการร่วมรักที่จะมาถึงแล้วน่ะฮะ  ส่วนสัมผัสที่มือน็อตรู้สึกโดยตรงกับทั้งหน้าอก และเม็ดทับทิมกรอบสีชมพูแสนน่ารักบนยอดอกนั่น...ก็คงจะหนีไม่พ้นความเนียนนุ่มและแน่น...
.
.
...จะบอกให้ว่า เม็ดทับทิมกรอบตรงยอดอกขนุนเด้งสู้มือมากๆเลยฮะ ราวกับว่ามันจะไม่มีวันยอมแพ้ ไม่มีวันหลบหน้าทำตัวเจี๋ยมเจี๊ยมสำรวมตัวเองแล้วหนีกลับลงไปนอนอย่างสงบราบเรียบง่ายๆอะไรแบบนี้น่ะฮะ...” ฟังคำพูดตรงๆของผมมาถึงตรงนี้แล้ว ขนุนก็เริ่มจะทำหน้าตาแปลกๆ เหมือนคนควบคุมกล้ามเนื้อใบหน้าไม่ได้ มันทั้งตลก ทั้งน่ารักมากๆจนผมอยากจะฟัดพื้นที่ทั้งหมดบนหน้าเล็กๆนั่นเร็วๆเสียที
.
“...ขนุนล่ะฮะ รู้สึกยังไงตอนที่น็อตสัมผัสหน้าอก....ชอบไม๊ฮะ?” ผมรู้ว่าขนุนต้องตอบผมแน่ ก็ผมแม่งเล่นตีแผ่ความจริงด้วยการเล่าเรื่องอย่างซื่อสัตย์ แจ่มแจ้ง ไม่มีการแทงกั๊ก และขนุนเองก็น่าจะเปิดอกบอกผมไม่เม้มเหมือนกัน แต่ผมแม่งอยากจะรู้เหลือเกินว่า ขนุนจะตอบผมออกมาว่าอย่างไรมากกว่า ถึงได้กล้าถามลุ่นๆออกไปแบบนั้น

ขนุนพยักหน้าให้ผมช้าๆ แล้วส่งเสียงเพียงสั้นๆ “อืม...
.
.
...แล้วอีกที่ล่ะ?” เสียงเล็กๆยังไม่ลืมถามต่อ

“ตรงนั้นน่ะเหรอฮะ?...อันนี้น็อตไม่เล่าก็คงจะได้เหมือนกันมั้งฮะ เพราะว่าขนุนน่าจะรู้ดีอยู่แล้วว่ามันเป็นยังไง”
.
.
.
.
“รังเกียจไม๊ ที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ให้ผู้ชายด้วยกันน่ะ?” ขนุนเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม ทำให้ผมได้มีโอกาสเห็นสายตาหวั่นใจส่งออกมาจากตากลมที่ผมชอบเหลือเกินนั่น... หรือนี่จะเป็นสิ่งที่ขนุนอยากรู้มากที่สุดนอกเหนือไปจากรายงานความรู้สึกของผมอย่างละเอียดที่เพิ่งจบลงไปเมื่อครู่กันนะ???

ผมเลยพยายามเปลี่ยนบรรยากาศด้วยการพูดทีเล่นทีจริงแต่ซีเรียสกลับไปให้เพื่อเป็นการยืนยันความรู้สึกอันหนักแน่นของตัวเอง “ไม่นะฮะ...น้องชายขนุนน่ารักดีฮะ ว่านอนสอนง่าย เป็นมิตร และไม่ทำร้ายน็อต... แต่ทำร้ายเจ้านายตัวเองนะฮะ เพราะพอน็อตส่งน้องชายขนุนถึงที่หมาย ขนุนก็ถึงกับสลบไปเลยนี่ฮะ หึ หึ”

อีกคนไม่ได้สนใจคำพูดเล่นหัวของผม หากแต่ยังจ้องตรงไม่มีหลบตา แล้วถามผมช้าๆชัดๆอีกครั้ง “หมายความว่า น็อตโอเคกับเรื่องที่เราจะมีอะไรกันอย่างนั้นหรอ?”




ผมเอามือไปลูบผมนิ่มๆของขนุนเบาๆหลายครั้ง ก่อนจะยืนยันสิ่งที่อยู่ในใจ ที่ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่มีทางมาทำให้ผมหวั่นไหวได้ “ก็แหงสิฮะ....น็อตโอเคมากๆเลยฮะ ตอนนี้ก็รอแต่ให้ขนุนพร้อมทั้งกายและใจก่อนนี่แหละฮะ เราจะได้เรียนรู้ขั้นตอน และเทคนิคของการร่วมรักในภาคปฏิบัติกันเสียที”
.
.
จริงๆผมแม่งยังติดเรื่องคำสัญญากับพี่ปีย์นั่นอีกข้อ ที่ผมต้องรีบหาทางให้แกยอมปล่อยให้ผมเริงร่ากับกิจกามในบ้านหลังนี้ได้สักที แต่นั่นไม่ได้สำคัญเท่ากับความรู้สึกของขนุนที่มีต่อผมในเรื่องเดียวกันนี่หรอกฮะ ผมเลยอดถามคนตัวเล็กกว่าในอ้อมกอดออกมาไม่ได้  “แล้วขนุนล่ะฮะ โอเคกับการที่เราจะมีอะไรกันไม๊?”

“เรื่องนั้นน็อตไม่ต้องห่วงหรอก...ขนุนน่ะโอเคอยู่แล้ว แค่รอให้รู้ทฤษฎีครบถ้วนจากน็อตก่อน ไว้ถึงบทร่วมรักเมื่อไร...ก็เมื่อนั้นแหละ” แหม่...น็อตอยากจะบอกขนุนเหลือเกินว่า นี่เป็นประโยคที่น่าฟังที่สุดประโยคหนึ่งที่น็อตเคยได้ยินมาในชีวิตของหนุ่มวัยเบญจเพสคนนี้เลยนะฮะ...ขนุนแม่งน่ารักว่ะ อยากให้เมื่อไรที่ว่าแม่งมาถึงเร็วๆจังเล๊ยยยย  ให้ตายสิ!!

“ฮะ...เมื่อไรก็เมื่อนั้นฮะ  งั้นน็อตขอรางวัลสี่ทีที่ติดเอาไว้เมื่อกี๊นะฮะ...แล้วเดี๋ยวน็อตจะปล่อยให้นอนเลย...ไม่กวนใจอีกแล้วล่ะ” ผมรีบเข้าช่วงสมนาคุณก่อนนอนทันที ก็ผมแม่งพูดเยอะจนน้ำลายเหนียวไปหมดแล้วนี่ฮะ นี่ถ้าได้จูบหวานๆเติมพลังอีกสักสามสี่ที รับรองเลยว่าคืนนี้ผมแม่งนอนหลับสบายแหงๆ หึ หึ

“ฮื่อ...ได้สิ” ขนุนตอบรับเรียบๆ

เห็นท่าเมียนอนรอนิ่งๆอย่างนี้ผมแม่งยิ่งได้ใจ หูงี้ตั้งหางงี้กระดิกอยากจะกระโดดเข้าใส่ทันที แต่ไอ้ครั้นจะไม่บอกไม่กล่าวอีกคนให้ตั้งตัวเสียหน่อย เดี๋ยวจะโดนหาว่าเสียมารยาทได้...ไหนๆเมียก็บอกแล้วว่าให้ขอก่อนจูบทุกครั้ง ก็ทำตามสั่งเสียหน่อยจะเป็นไรไป “งั้นน็อตขอรางวัลครั้งที่หนึ่งเลยแล้วกันนะฮะ”

ขนุนเอามือดันอกผมเบาๆเพื่อยั้งผมเอาไว้ก่อน “อ๊ะ...เดี๋ยวก่อนน็อต...”

“อะไรอีกล่ะฮะ?”...นี่ถ้าขนุนแม่งดักทางผมออก แม่งต้องรู้แน่ว่า ถ้าผมถามแบบนี้ แปลว่าเริ่มจะควบคุมความงุ่นง่านเอาไว้ไม่ไหว แถมยังเริ่มรู้สึกเหมือนถูกขัดใจขึ้นมานิดๆแล้ว แต่สิ่งที่ขนุนถามออกมา กลับทำให้ผมอารมณ์ดีขึ้นทันตาแถมยังอยากจะจัดรางวัลสมนาคุณให้ขนุนมากกว่าสี่ดอกเสียจริงๆ
.
.
.
“อย่าลืมหายใจทางจมูกใช่ไม๊?” คนพูดเม้มปากทันทีที่พูดจบ...เม้มปากอีกแล้วเหรอ???? มันคืออะไรน้า?? แต่ช่างแม่งก่อนแล้วกัน เพราะงานด่วนมาจ่อรอตรงหน้าอยู่แล้วว่ะ หึ หึ

“ฮะ...อย่าลืมหายใจทางจมูกฮะ หึ หึ....ขนุนนี่น่ารักจังเลยน้า.....น็อตไม่รอแล้วนะฮะ...” ไม่ทันจบคำ ผมก็โถมตัวเข้าใส่ร่างอ้อนแอ้นที่นอนใจเต้นดังรอการไปเยือนริมฝีปากเล็กๆนั่นอีกครั้งอย่างเต็มรัก ก่อนที่ความหวานหอมจะอบอวลไปทั้งห้อง ส่งให้เราสองคนเข้านอนอย่างมีความสุขไปอีกหนึ่งคืน




เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืน มันก็พลอยทำให้ผมยิ่งไม่มั่นใจถึงเจตนาของอีกฝ่ายขึ้นมาอีกระลอก จนต้องเผลอบ่นออกมากับตัวเองเป็นวรรคเป็นเวร “เฮ้ออออ...ไอ้ที่ทำตัวน่ารักเมื่อคืนนี่ แปลว่าชอบหรือเปล่าว้า????...
.
.
...แล้วไอ้ที่เอะอะเม้มปากเนี่ยะ หมายความว่าอะไร...แม่งชักจะกวนใจน็อตมากขึ้นทุกทีๆแล้วนะเนี่ยะ....
...สงสัยต้องจับสังเกตอาการแม่งให้มากกว่านี้แล้วล่ะมั้ง.....เฮ้ออออ”
.
.
“เป็นอะไรไอ้น็อต...ไหวป่ะมึง??...เออ เดี๋ยวกูไปซื้อของก่อนนะ ฝากมึงเฝ้าไปก่อน...มึงเอาไรป่ะ?” พี่ปีย์ถามผมระหว่างตั้งท่าจะเดินออกไปเซเว่นตรงข้างๆโรงแรม

“ไม่เอาอ่ะฮะพี่ปีย์...เดี๋ยวผมดูทางนี้ให้เอง พี่รีบไปรีบมาเถอะฮะ”

“เออ...เดี๋ยวกูมา”

ผมมองตามพี่ปีย์เดินคล้อยหลังไปแล้วหันกลับไปสอดส่องหาทั้ง X1 และผู้จ้างวานอีกครั้ง ในขณะที่หัวผมแม่งก็เอาแต่คิดวนเวียนหาคำตอบเรื่องที่สะกิดใจนั้นอยู่ร่ำไป จนเมื่อผมเห็น X1 เดินสโลสเลด้วยใบหน้าอิดโรยอย่างเห็นได้ชัดออกมาจากลิฟท์ ผมจึงตั้งสติก่อนจะลุกเดินตามร่างโงนเงนนั้นไปเรื่อยๆ พลางบอกกับตัวเองอย่างมุ่งมั่นและแน่วแน่ซ้ำไปซ้ำมา...


ช่างแม่ง...ไม่ว่าตอนนี้ขนุนจะชอบหรือไม่ชอบผมก็ช่างแม่ง เพราะผมจะทำให้ขนุนรู้ว่า...ไม่มีใครรักขนุนได้เท่าผมอีกแล้ว
.
.
...อีกอย่าง...ผมใช้เวลาออกเดินมาจากจุดเริ่มต้นเพียงไม่นาน ครั้นจะมองเห็นเส้นชัยอยู่รำไรจากตรงนี้เลย..มันก็คงไม่ใช่...
...ถ้าได้ขนุนมาทั้งตัวและหัวใจแบบง่ายๆ ผมก็คงจะไม่สนใจจะเอาคนอย่างขนุนมาทำเมียตั้งแต่แรกหรอกวะ...
...เกิดเป็นลูกคุณป๋า ต้องหน้าด้านสู้ใม่ถอยสิวะ!!’




๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐


3 comments:

  1. วันนี้มะลิมาเร็วเพราะอาจจะออกไปซิ่งงงงง เลยกลัวว่าจะกลับมาลงตอนใหม่ดึกเกินไป...
    อย่าตกใจกันไปนะคะ

    ขอให้อ่านอย่างมีความสุขค่ะ ^_____^

    ReplyDelete
  2. อุต๊ะ ขนุนเริ่มเผยตัวตนออกมาแล้ว น็อตจะไหวไหมลูก 555 สู้ๆนะจ้ะ เพื่อลูกสะใภ้ของคุณป๋า

    ไปซิ่งมาสนุกไหมมะลิ

    ReplyDelete
  3. ฮ่าๆๆๆ น็อตต้องทนให้ไหวค่ะ เพราะว่าน็อตเองก็ยังติดเรื่องสัญญากับพี่ปีย์อยู่ พ่อคุณต้องไปหาทางทำให้ปีย์ยอมให้มีอะไรกับขนุนในบ้านให้ได้ ไม่งั้นพ่อคุณจะไม่สบายใจที่ผิดคำพูดกับพี่ชายต่างสายเลือดของตัวเองค่ะ แต่หลังจากตอนที่อ่านบันทึกลับของขนุนตอนล่าสุด มะลิว่า คนที่เป็นเหยื่อนี่น็อตชัดๆเลยนะคะ เพราะขนุนปักหลักและไม่คิดจะไปไหนแล้วล่ะค่ะ ฮ่าๆๆๆ

    สรุปว่าไม่ได้ไปซิ่งค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ... เอาไว้เป็นออกอาทิตย์หน้าทีเดียว เพราะจะไปงานสัปดาห์หนังสือด้วย วะฮ่าๆๆๆๆๆ อดเลย...แต่ก็ช่างมันเถอะค่ะ เพราะอาทิตย์ต่อๆไปยังมี

    แล้วคุณนาราล่ะคะ เป็นไงบ้าง...เรื่องเรียนเป็นยังไง ปวดหัวไม๊...อยากบ่นเมื่อไร ตะโกนเรียกมะลิได้เลยนะคะ รักคุณนารานะคะ เชิฟๆๆๆๆ

    ReplyDelete