มะลิขอลาวันเสาร์อาทิตย์นี้นะคะ เพราะติดธุระกับที่บ้าน
เราจะกลับมาเจอกันอีกทีวันจันทร์เลยนะค้า ขอให้อ่านอย่างมีความสุขค่า ^^
❽
To: khemnun@ilovebananapress.com
From: malinee@ilovebananapress.com
Subject: re: re: re: re: re: re: re: re: re: บทนำนิยายเรื่องใหม่ (แนวทดลอง)
แม่ขนุน!!...
ก่อนอื่น
ขอให้ชั้นได้เฉ่งหล่อน
จากการกระทำความผิดในหลายๆคดีที่หล่อนได้ก่อเอาไว้โดยจะตั้งใจหรือไม่ก็ตามให้สาสมใจก่อนนะยะ เพราะดูจากรูปการณ์ในตอนนี้แล้ว...เห็นทีชั้นจะปล่อยหล่อนให้ลอยนวลเดินเชิดใช้ชีวิตอย่างผาสุกโดยไม่ด่าว่าให้หล่อนได้สติ
คงจะไม่ถูกต้องนัก... เดี๋ยวคนอื่นจะมาเมาท์ชั้นลับหลังเอาได้ว่า
บ.ก.ตงฉินผู้เที่ยงธรรมแต่ไม่ดำเท่าเปาบุ้นจิ้นจะสิ้นลายกลายเป็นแค่เสือกระดาษ เพราะคอยจะให้ท้ายนักเขียนที่มีศักดิ์เป็นเหลนรหัสสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของตัวเองอยู่ตลอดเวลา
นับวัน...หล่อนก็ยิ่งจะทำตัวงามหน้ามากขึ้นทุกที ทุกที...
...หล่อนรู้หรือไม่ว่า
คดีที่หล่อนไปแสดงฤทธาอภินิหารย์ออกร้านเป็นการแสดงของดีที่บุพการีให้มาต่อหน้าต่อตาไอ้คนที่เราก็รู้ว่าใครน่ะ
มันมีผลเลวร้ายกับคนในวงกว้างยังไงบ้าง?
ชั้นอยากจะให้หล่อนมาเห็นไอ้คนที่เราก็รู้ว่าใครด้วยสี่ตาของหล่อนเองเสียเหลือเกิน
หล่อนจะได้เบิกตามองตอนที่มันกระอักก้อนเลือด
และหลั่งน้ำตาของลูกผู้ชายออกมาด้วยความคั่งแค้นจากภายใน เพื่อที่หล่อนจะได้เข้าใจความลำบากลำบนของเพื่อนร่วมงานผู้บริสุทธิ์อย่างพวกชั้น
ที่ต้องมาทนรับมือกับอารมณ์แปรปรวนเป็นสตรีมีเมนส์
แถมยังต้องคอยเคี่ยวเข็ญให้มันทำงานจนปากชั้นจะฉีกถึงรูหอยอยู่แล้วเนี่ยะ!
ไอ้คนที่เราก็รู้ว่าใครมันหงอยเสียจนปล่อยไอความสร้อยเศร้าให้ออกมาเคล้ากับอากาศที่เราร่วมอาศัยหายใจระหว่างทำงาน
คนในออฟฟิศเลยไม่ต้องเป็นอันทำอะไร
นอกไปจาก...คอยแปะมือกันเดินมาถามไถ่สารทุกข์สุขดิบของเหยื่อผู้ประสบภัยหื่นกันจนพื้นหน้าห้องชั้นสึก
จนชั้นจะโรยตัวลงไปประชุมกับฝ่ายบัญชีที่ชั้นเจ็ดได้โดยไม่ต้องอาศัยบันไดอีกต่อไป...
...เห็นหรือยังยะว่า
สิ่งที่หล่อนทำด้วยอารมณ์อยากชั่ววูบนี่ ทำชั้นเดือดร้อนขนาดไหน...
...หล่อนก็คิดเอาเองแล้วกันว่า...หล่อนควรทำอย่างไรเพื่อแก้ไขความผิดที่หล่อนเป็นคนก่อ...
...ส่วนเรื่องการออกหื่นนอกสถานที่ของหล่อนกับสามี ถ้าเลือกได้...ช่วยหักห้ามตัวเอง
ไม่เผลอตัวทำเรื่องอุกอาจแบบนี้ต่อหน้าคนที่เราก็รู้ว่าใครอีกเป็นอันขาด
เพราะไอ้คนที่เราก็รู้ว่าใคร มันอาจจะกลายเป็นบ้า แล้วลุกขึ้นมาไล่ปล้ำช่างพิมพ์
ไม่ก็อาร์ตไดฯเพราะไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรอีกต่อไปแล้ว
(หมายเหตุ:
หล่อนรู้ใช่ไหมว่า
ไอ้คนที่เราก็รู้ว่าใครมันไม่ได้ทำอย่างนั้นจริงๆ...ที่ชั้นเขียนไปก่อนหน้านี้น่ะ
คือ figurative speech เฉยๆนะยะ
อย่าไปเที่ยวเข้าใจว่ามันหลั่งเลือดนองน้ำตาตรงหน้าโต๊ะทำงานชั้นล่ะ...เดี๋ยวจะเสียชาติที่เกิดมานักเขียนกันพอดี)
เอาล่ะ...
กลับมาว่าเรื่องงานกันเสียที (รัวคีย์บอร์ดด้วยมือข้างที่ถนัด พลางจัดปกเสื้อ
และลูบปอยผมที่ตกลงมาปรกหน้าให้เรียบกริบด้วยมือที่ถนัดน้อยกว่าประสาคนเก่งรอบด้าน)
สองตอนล่าสุดที่หล่อนเขียนมา
มันแซ่บเว่อร์ และเป๊ะอย่างที่หล่อนได้โฆษณาเอาไว้ แต่ชั้นว่า คนอ่านอาจจะไม่ค่อยหนำใจสักเท่าไรหรอกนะ
หากจะได้อ่านเนื้อหาเด็ดดวงด้วยใจความน้ำจิ้มๆแบบนี้
เพราะฉะนั้น...เพื่อไม่เป็นการทำลายความสุขของเหล่าสาววายทั่วฟ้าเมืองไทย
หล่อนจงรีบส่งตอนต่อไปมาให้ชั้นได้อ่านโดยเร็วที่สุด
ถ้าเป็นไปได้...ขอเนื้อหาแบบเซ็กซ์คลูซีฟเลยได้ไหมยะ จะได้เรียกน้ำทั้งหลายของคนอ่านให้หลั่งท่วมแต่ละหน้าของหนังสือจนบวมไม่ได้รูปหลังจากรวมเล่มตีพิมพ์
โฮะ โฮะ โฮะ
สุดท้ายนี้...ชั้นขอขอบใจหล่อนมาก
ที่หล่อนยังจดจำ และเฝ้าหาคำตอบให้กับคำถามของชั้นที่ว่า ‘หลังจากที่เราได้ผ่านประสบการณ์คืนแรกอันแนบแน่นกับคนรัก
เรามองโลกเปลี่ยนไปจากเดิมหรือไม่?’
แต่ขอโทษเถอะนะยะ
ถามจริงๆ...ที่หล่อนตอบชั้นมาเมื่อคราวก่อนนั้นน่ะ หล่อนโง่จริง...หล่อนแกล้งโง่...หรือว่าหล่อนอยากจะโชว์เหนือว่าหล่อนกับผัวกินกันได้ไม่เลือกที่
โดยยินดีที่จะระรานพื้นที่สาธารณะไปทั่วกันแน่ยะ? อ่านคำตอบของหล่อนวนไปวนมาหลายๆรอบ ชั้นก็ชักจะสงสัยแล้วล่ะสิว่า...ไอ้ที่หล่อนคอยหาโอกาสอวดเรื่องบนเตียงของหล่อนกับผัวให้ชั้นได้รับฟังอยู่เนืองๆแบบเนียนๆนี่
เพราะหล่อนอยากจะทำให้ชะนีขาดน้ำอย่างชั้นต้องสะเทือนใจที่ไม่ได้
ไม่โดนผู้ชายกระหน่ำซั่มร่างอย่างหล่อนบ้างใช่หรือไม่ยะ...ตอบ!!!!
อย่างไรก็ดี...อย่าคิดว่าอาการโจ๊ะพองฟูเพราะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากสามีของหล่อนจะทำอะไรชั้นได้...
...อย่าลืมว่า ชั้นไม่ได้ตำแหน่งบ.ก.มาโดยง่าย ด้วยการอาศัยหน้าตาเป็นใบเบิกทางอย่างที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ!!
...อย่าลืมว่า ชั้นไม่ได้ตำแหน่งบ.ก.มาโดยง่าย ด้วยการอาศัยหน้าตาเป็นใบเบิกทางอย่างที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ!!
แม่หญิงเมี่ยง
เสลี่ยงเลี่ยมทอง (บ.ก.)
ป.ล.
ชั้นเชื่อแล้วล่ะว่า ชายหนุ่มหน้าละอ่อนผู้มีใบหน้า
และออร่าน่ากินคนนั้นเป็นสามีของหล่อนโดยสนิทใจ เพราะเมื่อวันก่อน
ชั้นได้เจอตัวเค้าเป็นๆกับตัวเองมาแล้ว พ่อคุณมาคุยธุระอะไรก็ไม่รู้อยู่ตรงหน้าออฟฟิศกับไอ้คนที่เราก็รู้ว่าใครอยู่เป็นนานสองนานทีเดียว...
...เห็นแค่หน้าตาและรูปร่างก็บอกได้เลยทันที
ว่าพ่อคนนี้จะเซี้ยวไม่หยอก...
...บอกมาเดี๋ยวนี้นะว่า
เวลาเค้าอยู่บนเตียงกับหล่อนนี่ เค้าดีงามตามท้องเรื่องได้มากขนาดไหน???
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
💋
แม้นแผ่นดินสิ้นชายที่พึงเชย...เป็นเลสเบี้ยนเสียเลยจะดีกว่า
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
🚹 บ่นบนบล็อก
ชื่อโพสต์ : How to Tame a Bad Boy 👿 อ่อยเธอ...เลยเจอรัก แต่อ่อยหนักๆ...โดนรักไม่พักเลย }}
สถานะ :
Draft
หากใครคุ้นเคยกับการดูหนัง
หรือละครเป็นอย่างดี คงจะคุ้นเคยกับประโยคคำถามที่มักจะทำให้ตัวละครสะดุดคิดไปพักหนึ่งเสมอๆ
ซึ่งประโยคสุดคลาสสิกทำหน้าที่ประหนึ่งสัญญาณบอกใบ้ให้คนดูได้รับรู้จุดแตกหักที่จะนำมาซึ่งบทสรุปของเรื่องราวทั้งหมด
มีใจความไม่สั้นไม่ยาวเพียงว่า ‘มีทั้งข่าวดี และข่าวร้าย...อยากฟังข่าวไหนก่อน?’...
...การบ่นของผมในครั้งนี้ก็เช่นกัน
เพราะผมจะขอเริ่มมันด้วยประโยคคำถามนี้...
...เนื่องจาก ถึงเวลาแห่งการผูกปมของเรื่องกันเสียที
หลังจากที่เสียเวลาอารัมภบทกันมานานหลายเดือน นั่นก็หมายความว่า เราทุกคนได้ร่วมเดินทางฝ่าฟันเรื่องราวบ่นๆมากมายกันมาถึงตอนใกล้จบแล้วล่ะครับ...
.
...อ้ะ อ้ะ!
อย่าเพิ่งดีใจจนออกนอกหน้าไปครับ
สิ่งที่ผมเพิ่งบอกไปนั้น..ไม่ใช่ทั้งข่าวดี
หรือข่าวร้ายที่ผมต้องการจะบอกให้พวกคุณร่วมรับรู้ในครั้งนี้แต่อย่างใด...ของจริงน่ะ
กำลังจะมาให้พวกคุณได้อ่านหลังจากนี้เป็นต้นไปต่างหากล่ะ
ในเมื่อไม่มีใครที่จะสามารถเลือกคำตอบของคำถามข้างบนอกจากผมได้ ผมจึงขอเลือกแถลงข่าวดีอย่างที่สุดแทนการต้อนรับทุกๆท่านกลับเข้าสู่บล็อกบ่นๆของผมอย่างเป็นทางการ
ถือเสียว่า...เป็นการเบิกฤกษ์อุ่นเครื่องสายตาก่อนเริ่มอ่านงานเขียนยาวๆทรมานสายตาของผม
ด้วยความน่าอภิรมย์ชวนให้หัวใจกลายเป็นสีชมพูและพองฟูอย่างที่สุด
เผื่อว่าความสุขจากข่าวดี จะมีมากเสียจนช่วยทำให้คุณๆ
ไม่ต้องรู้สึกตึงเครียดจนเกินไป หลังจากเนื้อความของข่าวร้ายออกแผลงฤทธิ์
ข่าวดีที่สุดของผมประจำช่วงเวลานี้ของชีวิตก็คือ
ผมกับน็อตได้เริ่มคบหากันเป็นแฟนแล้วครับ...
...เรื่องน่าปลื้มยิ่งไปกว่านั้นเห็นจะได้แก่
เราสองคนได้สารภาพความในใจที่เรามีต่อกันอย่างหมดเปลือก
แถมน็อตยังได้ยืนยันความรู้สึกรักที่เขามีให้ผมด้วยการมอบของขวัญแทนใจ
คล้ายกับการตีตราจองทั้งตัว และหัวใจของผมอย่างเป็นเรื่องเป็นราวเรียบร้อยแล้วด้วยล่ะครับ......
ขนาดผมที่เป็นคนเขียนซึ่งประสบพบเจอเรื่องนี้ด้วยตัวเองเมื่ออาทิตย์กว่าๆมาแล้ว เมื่อได้กลับมาอ่านใจความข้างบนนี้อีกครั้ง
ยังรู้สึกเลยว่า...บรรดาข่าวดีทั้งหลายที่ผมเพิ่งกล่าวถึงมานี่ ช่างฟังดูโรแมนซ์แสนสวีทชวนให้แอบกรี๊ดอยู่ข้างในอย่างไรก็ไม่รู้เนอะ...(กรี๊ดดดดดด!!)
แต่กว่าที่เรื่องทั้งหมดจะดำเนินมาถึงบทส่งท้ายด้วยความสมหวังของเราทั้งสองได้นั้น
ขั้นตอนทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นก่อนหน้า ก็ทำเอาผมหืดขึ้นคอ
เพราะต้องเข็น ต้องรุน ต้องกระตุ้นพ่อคุณให้รุกฆาตผมจนเหนื่อย
เนื้อหาที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ จะจาระไนให้พวกคุณได้รับรู้ถึงรายละเอียดการเตรียมการทั้งหมด
รวมทั้งเบื้องลึกเบื้องหลังของแผนปิดการขายเพื่อให้ได้นายตัวร้ายมาเป็นแฟน อันเป็นที่มาของความสุขสมหวังตรงปลายทางแห่งรักระหว่างผมกับน็อต
ณ เวลานี้ แต่ไหนๆจะโปรยหัวทั้งที...
ผมขอจั่วประเด็นเรียกน้ำย่อยให้พวกคุณได้รับทราบแต่เนิ่นๆก่อนเลยครับว่า
สิ่งที่ผมทุ่มเทกายใจทั้งหมดลงไปนี่
ไม่ใช่แค่เพื่อทำให้เราสองคนปลงใจคบหากันในฐานะคนรักเท่านั้น
หากแต่มันคือการปูรากฐานไปสู่การครองคู่อย่างยั่งยืนไปจนกาลปาวสานอีกด้วย
สำหรับคู่รักคู่อื่นแล้ว
กว่าที่ใครคนใดคนหนึ่งจะรวบรวมความกล้าเพื่อสารภาพความในใจให้อีกฝ่ายได้รับรู้ หรือกว่าจะได้เริ่มคบหาดูใจในแบบคนรักนั้น
จะยากเย็นเข็ญใจสักเพียงไหน...ผมเองก็ไม่อาจรู้
แต่ถ้าให้วัดจากประสบการณ์ส่วนตัว
เมื่อปักใจจะทำให้น็อตกลายมาเป็นคนรักคนแรก และคนสุดท้ายของผม มันได้สอนผมให้รู้ว่า...การที่คนสองคนจะได้ลงเอยด้วยการครองคู่กันนั้น ไม่ง่ายเลย...
ที่สำคัญ เพื่อจะไปถึงจุดหมายที่ว่า ทุกๆก้าวย่างต้องอาศัยความอดทน
ความพยายาม ความตั้งใจอันแน่วแน่
และความรักที่มีให้กับน็อตอย่างมากมายมหาศาลเป็นเชื้อเพลิงคอยสนับสนุน ไม่เท่านั้น...ผมยังต้องอุทิศเวลาไม่น้อย รอคอยจังหวะที่ดีที่สุด
ก่อนจะลงมือตามขั้นตอนต่างๆ เพื่อจะแน่ใจว่า แผนที่วางเอาไว้จะเดินหน้าไปอย่างใจหวัง
แต่พอเอาเข้าจริง...บรรดาแผนหลัก
แผนรอง แผนสองแผนเสริมที่เคยคิดสะระตะซ้ำแล้วซ้ำเล่า พร้อมกับซักซ้อมหาทางแก้มาเป็นร้อยเป็นพันครั้งอย่างรัดกุมกลับแทบใช้ไม่ได้
เพราะการตอบสนองของพ่อคุณกลับต่างไปจากแนวทางการรับมือที่ผมได้คิดเผื่อเอาไว้ล่วงหน้าราวกับหน้ามือเป็นหลังมือ
สุดท้ายแล้ว...จากที่คิดว่าจะจัดการทุกๆอย่างได้สำเร็จด้วยตัวเองเพียงลำพัง
กลับกลายเป็นว่า ผมต้องใช้กองกำลังเสริมเป็นบุคคลที่สามเพื่อเร่งปฏิกิริยาให้พ่อยอดชายยอมคายความรู้สึกที่มีให้ผมได้รับฟังเสียที
กระนั้น...อย่างที่ผมได้เกริ่นไปข้างต้นนั่นแหละครับว่า
การได้มาซึ่งความรักหมดทั้งหัวใจ และการได้เป็นสุดที่รักของน็อต เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น...
ซึ่งภาพรวมของแผนการทั้งหมด ผมจะทยอยเล่าให้พวกคุณได้รับฟังในลำดับถัดๆไป แต่สำหรับเวลานี้... เรามารับรู้เบื้องหลังอันยากลำบากของการสร้างข่าวดีที่ว่ากันก่อนดีไหมครับ
ครั้งที่แล้ว เมื่อผมเปรยถึงความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของเราสองคน
กับความจริงจังจริงใจของอีกฝ่ายที่จะทำให้ผมยอมรับรักที่ดูจะไม่กระเตื้องสักเท่าไร
ทำให้ผมต้องกลับมานั่งไล่อ่านเนื้อหาของหนังสือคู่มือจีบหนุ่มฯอีกครั้ง
แล้วก็พบว่า ยังมีข้อแนะนำอีกหลายบท ที่ผมควรต้องปฏิบัติตาม
หากคิดจะมัดใจอีกฝ่ายโดยปราศจากความผิดพลาดใดๆ
ผมจึงไม่คิดลังเลเมื่อต้องทำตามคำแนะนำของท่านกูรู จนครบถ้วนทุกบทถึงหยดสุดท้าย...
แม้ว่าในเวลานั้น หัวผมเริ่มจะมองเห็นปลายทางอันสุขสมหวังกำลังรอเราทั้งคู่อยู่เป็นแน่แท้แล้วก็ตามที
นี่เอง...คือต้นกำเนิดของแผนการพิชิตคำว่ารักและตำแหน่งแฟนน็อต
รวมถึงความสำเร็จที่เกิดจากหยาดเหงื่อและความยากแค้นทั้งหลายทั้งปวงของผม เรื่องราวที่ผมกำลังจะเล่าให้พวกคุณฟังต่อจากนี้
จะยึดเอาแนวทางการจีบพ่อยอดขมองอิ่มจากเนื้อหาสองบทในหนักสือคู่มือฯ ซึ่งผมได้รวบทุกอย่างเอาไว้ด้วยกัน เพราะทั้งสองต่างเอื้อให้การมัดใจสุดหล่อในช่วงโค้งสุดท้ายอย่างนี้
ประสบความสำเร็จได้โดยส่งเสริมเติมเต็มซึ่งกันและกัน
กล่าวคือ
เนื้อหาของบทที่เจ็ดนั้นเกี่ยวกับการแสดงออกทางความรักที่เรามีต่ออีกฝ่ายเป็นประจำ เพื่อบอกให้คนที่เราชอบตระหนักถึงความรู้สึกที่เรามี ก่อนที่เป้าหมายที่ถูกหมายปองจะตัดสินใจตบปากรับคำ
หรือ ขยำหัวใจฝ่ายจีบจนไม่เหลือชิ้นดี และใจความสำคัญจากบทที่สิบเอ็ดซึ่งเป็นบทปิดท้าย
ได้เน้นหนักขั้นตอนของสารพัดวิธีการในการสารภาพรักอันน่าประทับใจ เพื่อทำให้คนที่เราชอบจดจำไปตลอดชีวิต
เมื่อเข้าใจเจตนาของท่านกูรูอย่างแตกฉาน
ผมจึงดัดแปลงให้ขั้นตอนของบทที่เจ็ดอยู่ในรูปของการกระทำที่ชาวบ้านอย่างเราๆมักจะเรียกกันติดปากว่า
‘อ่อย’ เพื่อล่อให้เสือหนุ่มติดกับเสียก่อน
แล้วค่อยจับพ่อเสือที่อยู่ในกรงมาฟังคำบอกรัก ผ่านทางการเลี้ยงดูและอยู่กินกันตลอดชีวิตตามคำแนะนำในบทที่สิบเอ็ดเป็นรายการถัดไป...
...ฟังดูเก๋ไก๋ไม่หยอกใช่ไหมล่ะครับ
หึ หึ...
...แต่เมื่อถึงบทที่จะต้องลงมือทำตามที่คิดเอาไว้จริงๆ
ความคิดสวยหรูของผมในคราวนี้ ก็ทำเอาผมลำบากใจไม่ใช่น้อย...
เฮ้อออ!
อย่างแรกเลย
นั่นคือ... กิริยาที่เรียกว่า ‘อ่อย’ ค่อนข้างจะสวนทางกับตัวตนของผมมากพอดู
ยิ่งไปกว่านั้น...เมื่อพิจารณาจากหนังหน้า
และสิ่งที่ผมเป็นทุกๆประการโดยถ่องแท้แล้ว ต่อให้เด็กเล็กๆคนไหนๆ
ยังสามารถบอกได้เลยว่า ให้ตายอย่างไร...ผมก็ไม่มีคุณสมบัติของการเป็นผู้อ่อยที่น่าพิศวาสแม้แต่น้อย...
...ตามความเคยชินของเราๆท่านๆ
เมื่อเอ่ยถึงกิจกรรมการทอดสะพานสมานฉันท์ระหว่างคนสองคนนั้น
เรามักจะนึกถึงการเล่นหูเล่นตาอย่างน่ารักน่าชังของสาวๆ ราวกับการรำแพนหางอย่างสวยงามของนกยูงตัวผู้
เพื่อบอกใบ้แก่ฝ่ายชายที่ตนหมายปองว่าเธอยินดีให้เขาจีบ
หรือถ้ารีบหน่อยก็ลองคบกันเลยดีไหม ซึ่งมันดูเป็นธรรมชาติและไม่ขัดหูขัดตา เพราะว่ามันเป็นแอพพลิเคชั่นที่สวรรค์รังสรรค์ให้ติดตัวเพศแม่มาตั้งแต่เกิดต่างเสน่ห์ประจำกาย...
...แต่พอเมื่อเอาคำว่า
‘อ่อย’ มาห้อยคอผม บอกได้เลยว่า...แค่ครั้งแรกที่ผมคิดเรื่องอ่อยพ่อเจ้าประคุณขึ้นมา
ก็ทำเอาขนทั้งร่างลุกเกรียวจากหัวจรดเท้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหมือนตอนที่รอเข้าห้องน้ำเพื่อถ่ายหนัก เพราะนอกจากหน้าตาของผมจะดูธรรมดาค่อนไปทางไม่น่าสนใจแล้ว
รูปร่างก็ยังดูแคระแกร็นเมื่อยืนเทียบกับน็อตหรือบรรดาผู้ชายแมนๆส่วนใหญ่
แถมยังเกิดมาเพื่อเป็นประชากรชาวเนิร์ดแบบเต็มขั้น แค่ฝันว่าจะทำตัวเหมือนคนปกติยังจะยาก...แล้วนี่ต้องแสดงอาการขั้นแอดวานซ์ด้วยการสร้างอารมณ์ให้อีกฝ่ายเกิดความต้องการ
อยากจะลากเราเข้าไปทำมิดีมิร้ายอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนั้น ผมว่า...ฝันเอาดูจะง่ายกว่าเป็นไหนๆ
แต่เมื่อมานั่งคิด
นอนคิดอยู่หลายตลบ
ผมก็ไม่เห็นทางไหนที่จะบอกใบ้ความรู้สึกรักที่ผมมีให้กับน็อตได้รับรู้ได้ดีไปกว่าการแสดงออกในรูปแบบนี้อีกแล้ว
เพราะสาเหตุที่สนับสนุนให้ผมปลงใจยอมใช้การอ่อยเป็นสื่อเพื่อแสดงออกทางความรัก
ที่ชักนำไปสู่การตกลงปลงใจของเราทั้งสองฝ่าย ทั้งที่รูปสมบัติและคุณสมบัติส่วนตัวผมไม่ค่อยจะอำนวยกับแนวความคิดนี้เท่าใดนัก
น่าจะเป็นเพราะ...
...ข้อแรก ในเวลานั้น
ผมยังไม่อาจจะบอกความในใจให้กับน็อตได้รับรู้ได้เนื่องจากเหตุผลทั้งหลายทั้งปวงที่ผมเคยได้บอกกับพวกๆคุณเอาไว้ เพราะฉะนั้น...คุณคิดว่า จะมีวิธีไหนที่พอจะเปิดโอกาสให้คนที่ไม่อาจเอ่ยปากบอกรักก่อนได้อย่างผม
ควรใช้เพื่อส่งผ่านความรู้สึกรักและปรารถนาครอบครอง ให้กับอีกฝ่ายซึ่งเป็นชายผู้รักการแสดงออกถึงอารมณ์ทางเพศอยู่ตลอดเวลาแบบน็อตได้ดีไปกว่าการยั่ว
หรือ อ่อย เพื่อเปิดช่องให้อีกฝ่ายหาโอกาสล่วงเกินเราได้กันอยู่ตลอดเวลากันล่ะครับ
...และเหตุผลอีกข้อของผม
เห็นจะเป็นเพราะ การอ่อย คือเครื่องมือชิ้นสำคัญในการปูทางไปสู่แผนการขั้นที่สองที่ผมเพิ่งจะเพิ่มเติมขึ้นมาเอาเองในภายหลัง
ซึ่งผมสัญญาว่า พวกคุณจะได้รับทราบสิ่งที่ผมตั้งใจจะทำทุกๆขั้นตอนโดยไม่มีหมกเม็ด
เพราะฉะนั้น...รบกวนอดใจรอหน่อยนะครับ
ถึงแม้ว่าตัวผมจะได้ข้อสรุปที่แน่นอนถึงแนวทางในการพิชิตคำว่ารักของน็อต
และผมเริ่มจะทำใจให้อ่อยอีกฝ่ายได้แล้วก็ตาม
หากแต่ความสาหัสที่เป็นดั่งบททดสอบอันยิ่งใหญ่ที่ผมต้องเผชิญระหว่างหนทางแห่งความสำเร็จนั้น
ก็เล่นงานผมเสียจนเกือบถอดใจไปหลายครั้งเสียเต็มประดา
อุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของงานช้างในครั้งนี้
เห็นจะไม่มีใครคนไหนที่ทำเรื่องยุ่งยากได้เก่งมากไปกว่า
พ่อเจ้าประคุณบุญทุ่มของผมเพียงคนเดียวเท่านั้น เพราะแรกสุดเลย...ความสงบนิ่งของเขา คืออีกหนึ่งสาเหตุที่นอกเหนือไปจากการทำตามหนังสือคู่มือฯ
ที่เร่งเร้าให้ผมไม่อาจนิ่งนอนใจทำตัวเป็นเจ้าหญิงนิทรานอนหลับสวยๆ ระหว่างเฝ้ารอจุมพิตแห่งรักของเจ้าชายได้อีกต่อไป...
...ลองคิดดูสิครับ
หากพวกคุณต้องมาเป็นผม พวกคุณจะเครียดแค่ไหน เมื่อภายหลังจากคืนแรกที่เราทั้งสองได้ร่วมรักกันอย่างสุขสม
จนรู้จักร่างกายของกันและกันเป็นอย่างดีแล้ว ความสัมพันธ์ทางกายของคุณกับคนที่คุณชอบก็รุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว
รุนแรง และเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ... ในขณะเดียวกัน
การยืนยันความรู้สึกอันมั่นคงทางจิตใจ ที่การันตีได้เมื่อคำว่ารักถูกเอ่ยผ่านริมฝีปากของอีกฝ่ายเพียงอย่างเดียวนั้น กลับไม่มีความคืบหน้าใดๆให้เห็น ราวกับว่า...คำว่ารักระหว่างเรา โดนทิ้งขว้างให้หล่นหายไปตกอยู่ตรงไหนของความสัมพันธ์ทางกายก็ไม่รู้...
...ยิ่งคืนและวันผ่านพ้นไปนานเท่าไร
คนของผมก็ไม่มีทีท่าจะเปิดประเด็นเกี่ยวกับความรู้สึกลึกๆที่เขามีขึ้นมาพูดคุยกับผมอย่างเป็นจริงเป็นจังเลยแม้แต่น้อย
นั่นเลยทำให้ผมเริ่มจะกังวลจนพาลคิดไปว่า หรือผมโดนเจาะไข่แดงไปกินฟรีๆแบบเติมฟรีไม่มีอั้น
เพราะอีกฝ่ายก็ไม่ได้รับประกันว่า เขาจะยอมรับตำแหน่งสามีอย่างออกหน้าออกตาให้กับผมเสียเมื่อไร...
...ด้วยความวิตกเพราะน็อตยังรีๆรอๆ
ผมก็เริ่มจับสังเกตอากัปกิริยา
และการแสดงออกของพ่อคุณผ่านการพูดคุยครั้งแล้วครั้งเล่า
เพื่อสืบหาต้นตอว่าอะไรที่ทำให้สุดหล่อของผมยังไม่คิดจะเปิดใจกับผมเสียที
จนได้รู้ว่า เจ้าตัวหวาดกลัวกับผลลัพธ์ที่จะตามมาหลังจากเอ่ยคำนั้นให้ผมฟัง
สิ่งที่เขาพูดนั้น...บอกได้ดีว่า เขากลัวที่จะสูญเสียผมไปตลอดชีวิต เพราะไม่ว่าอย่างไร
คนที่ผมมองหาเป็นลำดับแรกคือผู้ชายในอุดมคติของผมเท่านั้น ทั้งๆที่การกระทำของผมนี่ เฉลยให้เห็นกันอยู่ว่าผมตกลงใจไปถึงไหนๆแล้ว
แล้วอย่างนี้...ถ้าผมคงยังปักหลักเฝ้ารอให้น็อตเข้ามาจูบปลุกผมให้ตื่นจากนิทรา จากเจ้าหญิงออโรร่าผู้เลอโฉม...ผมคงจะได้กลายเป็นเจ้าหญิงโอ้-ชราเมื่อตอนตื่นแน่ๆเชียวครับ นั่นเลยเป็นแรงผลักดันทำให้ผมยอมสลับสับเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายรุกเพื่อการมีสามีโดยเฉพาะ
พอตัดสินได้ บวกกับแผนการคร่าวๆที่มีอยู่ในหัว
ผมจึงริเริ่มขั้นตอนสู่ความสำเร็จด้วยการนำมาตรการต่างๆมาใช้ โดยเลือกปรับระดับความเข้มข้นของการลงมือไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า
เพื่อขีดเส้นนำร่องให้อีกฝ่ายออกปากสารภาพความในใจได้เสียที
ช่วงแรกๆ
ผมพยายามส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายได้รับรู้ผ่านการพูดคุยซักถามถึงมุมมองต่างๆเกี่ยวกับความรัก
และความสัมพันธ์ของเจ้าตัว
รวมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดของผมคืนให้อีกฝ่ายได้รับรู้ไปพร้อมๆกัน โดยใจความของคำตอบทั้งหลายของผมมักจะบอกกับน็อตกลายๆอยู่เสมอว่า
แท้ที่จริงแล้ว...เราสองคนต่างก็มีความคิดอ่านในเรื่องละเอียดอ่อนเหล่านี้แบบที่น่าจะไปด้วยกันได้ดีมากๆ...
ถ้าน็อตจะเฉลียวใจ และเก็บเอาถ้อยคำ
กับการกระทำต่างๆของผมกลับไปคิดตรึกตรองดูให้ดีๆสักนิด เขาก็จะรู้ได้เลยว่า
หากเขายอมเปิดปากบอกความรู้สึกที่เขามีให้ผมรับรู้ก่อน
เขาจะได้รับคำว่ารักตอบแทนกลับไปในทันที แต่ต่อให้ผมลุ้นแทบตาย...
ทุกๆอย่างหลังจากนั้นก็กลับเข้าสู่สภาวะปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เมื่อสังเกตเห็นว่า
การชวนคุยเรื่อยเปื่อยเริ่มจะไม่ได้ผล ผมจึงเปลี่ยนกลยุทธมาเป็น...ชวนน็อตคุยโดยพาดพิงถึงบุคคลที่สามซึ่งไม่มีตัวตนอยู่จริง
ผมพยายามวาดฝันสวยหรูให้น็อตกังวลไปคนเดียวว่า ผมอาจจะไปเป็นของคนอื่นในเร็ววันก็ได้
หลังจากมีความมั่นใจในฝีมือการร่วมรักที่ได้ตั้งใจร่ำเรียนกับน็อตมากระดับหนึ่งแล้ว
ที่ผมตัดสินใจอุปโลกเอาใครสักคนขึ้นมาเป็นเป้าหมายแบบนี้ เพราะผมรู้จักน็อตเป็นอย่างดีว่า อีกฝ่ายมักจะแสดงตนเป็นเจ้าข้าวเจ้าของทุกๆสิ่งที่มีค่ากับเขา
เมื่อใดก็ตามที่พ่อคุณรู้สึกว่ากำลังจะเสียของรักไป
เขาจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเอกสิทธิ์ในการครอบครองคน หรือ ของชิ้นนั้นเอาไว้แต่เพียงผู้เดียว
ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ...ผมเชื่อว่า
การไม่มีคู่แข่งอาจเป็นบ่อเกิดสำคัญซึ่งทำให้คนของผมไม่มีความมุ่งมั่นกับการขอความรักจากผมอยู่แบบนี้
ตัวร้ายในอากาศจึงถูกสร้างขึ้นมา เพื่อช่วยปลุกให้น็อตตื่นจากความฝันอันแสนหวาน แล้วกระโดดลงสู้ในสนามรักจริงๆจังๆเสียที
เมื่อเพิ่มความเข้มข้นของมาตรการข่มขู่ทางวาจามาได้สักพัก
จนเริ่มเห็นว่าพ่อคุณดูหนักอกหนักใจเมื่อต้องเห็นผมเฝ้าพร่ำเพ้อถึงชายอื่นจนออกนอกหน้า
ผมก็เดินหน้าเพิ่มความรุนแรงด้วยการยิงคำถามเชิงลึกเกี่ยวกับความสัมพันธ์โดยใช้ตัวผมกับตัวเขาเป็นตุ๊กตาในกรณีสมมติต่างๆ
บวกกับการตอบคำถามโดยอาศัยเล่ห์เหลี่ยมทางจิตวิทยา
เพื่อกดดันให้อีกคนรู้สึกอึดอัดจนเกือบจะหลุดปากถึงสิ่งที่ตนเองรู้สึกออกมาหลายครั้ง
ระหว่างทุกๆช่วงที่ว่ามานั้น
ไม่ว่าปากผมจะคอยคุยด้วยหัวข้อธรรมดาๆ หรือพูดจาสรรเสริญเยินยอชายอื่นที่ไม่ต่างอะไรกับคนแปลกหน้า
หนักมากๆถึงขั้นว่า ผมเคยบอกปัดเขาถึงการวาดฝันอนาคตร่วมกัน
จนคนฟังทำหน้าสลดหดเหลือสองนิ้ว ผมก็จะคอยแสดงออกความต้องการทางกายผ่านการสัมผัสเรือนร่างของน็อตอย่างรักใคร่อยู่เสมอ...
...บอกได้เลยว่า
หลังจากที่เริ่มอ่อยจนไม่อายแล้ว ผมก็สามารถนำเสนอการสัมผัสทุกรูปแบบในเชิงชู้สาวที่มีจารึกอยู่ในโลก
ออกมาสู่สายตาน็อตได้อย่างเร้าอารมณ์ใคร่ของอีกฝ่ายได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ผมปรนเปรอความสุขสมทางเพศอันหาใดเปรียบได้เท่าที่คนๆหนึ่งจะทำให้เกิดกับคนอีกคนได้จนล้นเกินพอดี
ถึงกระนั้น...มันก็ยังไม่ใช่เป้าหมายของผม
เพราะแท้ที่จริงแล้ว
ผมต้องการทำให้เขารับรู้ว่า
ไม่มีวันที่เขาจะได้สัมผัสประสบการณ์ทางกายผ่านบทรักที่ถึงอกถึงใจแบบที่ผมทำให้เขาได้ที่ไหนอีกต่อไป
ผมจงใจจะทำให้น็อตเสียผู้เสียคนเรื่องเซ็กส์ที่เขามีกับผมจนเข้าขั้นยากเกินจะถอน ผมคอยแต่จะอ่อย ยั่ว คั่ว ขย่ม อม ดึง
เคล้นคลึง ทึ้ง และทำอย่างอื่นอีกมากมายอย่างเต็มที่...เพื่อให้เราทั้งสองคนได้แลกเปลี่ยนความรู้สึกหฤหรรษ์ผ่านการสังวาสแบบถึงลูกถึงคนอยู่ตลอดเวลา ด้วยหวังจะหลอกล่อให้พ่อเสือหนุ่มเสพติดรสรักของเราโดยไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว
ซึ่งต่อไปในภายภาคหน้า... การดำรงชีวิตอยู่โดยปราศจากสัมผัสจากกายผม
จะกลายเป็นฝันร้ายที่สุดในชีวิตของเขา
เมื่อความกระสันอยากในร่างกาย
และการโหยหาความอิ่มเอมจากเซ็กส์อันดิบเถื่อนราวสัตว์ป่าที่ผมมอบให้เขา
เกิดขึ้นควบคู่ไปกับความรู้สึกรัก ต้องการครอบครอง
และอยากเป็นเจ้าของผมแต่เพียงผู้เดียว สุดท้ายแล้ว...จากเสือร้าย น็อตก็จะกลายเป็นเพียงลูกแมวเชื่องๆตัวหนึ่ง
ที่ไม่คิดจะก้าวเท้าออกจากชีวิตผมเพื่อเดินตามรอยสิงห์นักล่าดั่งที่เคยเป็นเมื่อก่อนอีกต่อไป
อ่านมาถึงตรงนี้
พวกคุณคงจะเริ่มคิดในใจแล้วว่า เออ...คนยั่วอย่างผมนี่ก็ลงทุนทำทุกวิถีทางเพื่อส่งสัญญาณไฟเขียวตอบรับ
จนจะเหลือก็แต่พูดคำว่ารักออกมาเท่านั้น
ส่วนน็อตเองก็แสดงออกว่ารักผมอย่างโจ่งแจ้งแทบจะทุกลมหายใจอยู่แล้ว ทุกอย่างก็ควรจะจบเรื่องกันไปด้วยความสุขใจเสียที...
...แต่เปล่าเลย!...
...ผมทำถึงขนาดนี้ ทว่า...พ่อยอดชายตัวดี
ก็ยังไม่สามารถก้าวข้ามความกลัวของตัวเองมาได้...
...น็อตก็ยังคงหวาดผวากับเรื่องเดิมๆ
จนเลือกที่จะเฝ้ารอเพื่อให้แน่ใจว่าผมคิดตรงกันกับเขา พ่อคุณเลยไม่ยอมบอกคำนั้นออกมาสักครั้ง
ผมจึงต้องเริ่มมาตรการที่สอง ซึ่งโดยส่วนตัว
ผมไม่ค่อยจะเห็นด้วยเท่าไรนักเพราะวุ่นวายมากกว่า
และดูจะควบคุมขอบเขตของปัญหาแทรกซ้อนเฉพาะหน้าได้ยากจนน่าปวดหัว หากแต่ค่อนข้างการันตีผลสัมฤทธิ์มากที่สุดในระยะเวลาอันสั้น
ซึ่งนั่นก็คือ...กลยุทธยืมมือคนนอกมาปลุกปั่น ความคิดนี้ผุดขึ้นเมื่อผมได้เปรยกับพ่อเจ้าประคุณว่า
ผมเริ่มเมียงๆมองๆและพิจารณาเป้าหมายหัวใจคนใหม่ แค่ครั้งแรกที่ได้ฟังความคิดอันก๋ากั่นของผม น็อตก็ออกอาการร้อนรนจนนั่งไม่ติด
เฝ้าแต่คอยย้ำให้ผมฟังซ้ำๆว่าผมยังไม่พร้อมจะลงมือจีบใครในขณะที่ยังไม่บรรลุเคล็ดวิชากามาคร่าโลกันต์
วินาทีที่ผมเห็นใบหน้า..สายตา ท่าทาง
และรับรู้ถึงความรู้สึกหวาดระแวงของเขา ทำให้ผมเกิดความคิดพิเรนทร์ๆที่จะลากใครสักคนที่พร้อมจะลงเล่นในเกมครั้งนี้
ในฐานะมือที่สาม ผู้ที่มีภาษีดีเท่าเทียม หรืออาจจะดีกว่าน็อตเข้ามาเป็นตัวช่วยอย่างจริงๆจังๆ
เดิมที...ผมตั้งใจจะใช้เคะน่ารักๆสักคนแถวบ้านเข้ามาเป็นบุคคลที่สามในความรักของผม...
น้องคนนั้น เป็นคนที่น็อตมักจะเฝ้าอิจฉา
และคอยระแวงยามที่ได้เห็นผมใช้เวลาร่วมกับน้องอยู่เสมอ แต่เมื่อผมได้รู้ว่า...พี่ชายฝาแฝดของน้องเคะคนดังกล่าว
ยินดีรับงานพิเศษทำนองนี้โดยแลกกับเงินค่าขนมนิดๆหน่อย
ในอัตราซึ่งผมพอจะจ่ายได้โดยไม่เสียดายมากนัก ผมเลยกลับมาคิดทบทวนเรื่องตัวละครที่ผมกำลังหาอยู่ดูอีกครั้ง
แล้วก็ได้ข้อสรุปอันน่าสนใจว่า... แทนที่จะให้มือที่สามเป็ยชายหนุ่มตามสเปคของผม
ทำไมไม่เปลี่ยนให้คนที่เข้ามาติดพันผม หรือคนที่ผมชอบใจเป็นคนที่ดูคล้ายๆกับน็อตดูเสียล่ะ
ทีนี้...น็อตจะได้เห็นภาพของการสูญเสียอย่างชัดเจน
จนต้องรีบแจ้นมาบอกรักผม
และขอผมเป็นแฟนภายในวันสองวันแน่ๆ...
พวกคุณเชื่อไหมครับว่า
ทันทีที่น็อตเริ่มไหวตัวว่าเขาอาจจะไม่ใช่เสือนหนุ่มเพียงตัวเดียวที่เข้ามาป้วนเปี้ยนในสังเวียนรักครั้งนี้อีกต่อไป
ทุกอย่างที่ผมเฝ้ารอมานานแสนนานก็เกิดดอกออกผลจนน่าชื่นใจขึ้นในเวลาอันรวดเร็วแบบไม่น่าเชื่อ
เพราะระหว่างที่ผมยังใคร่ครวญเรื่องมือที่สามอยู่นั้นเอง ผมก็เริ่มเคลื่อนไหวด้วยการติดต่อน้องเคะเป็นลำดับแรกไปพร้อมๆกัน
เพื่อแหย่ให้พ่อยอดชายตื่นตระหนกถึงภัยคุกคามด้านความมั่นทางความสัมพันธ์ที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อไรก็ได้
และในตอนดึกของคืนนั้นเอง...
หลังจากเซ็กส์ตามบทบาทสมมติอันเร่าร้อนของเราจบลงอย่างงงๆ เพราะน็อตแอบเปลี่ยนบทกลางอากาศ
โดยแทรกการบอกรักที่ผมไม่ได้กำหนดเอาไว้เข้ามาระหว่างการละเล่นของเรา
ทำเอาผมถึงกับอึ้งไปพักใหญ่ๆ น็อตก็ขอผมเป็นแฟนด้วยอาการหน้ามึนอย่างที่สุด
แต่พวกคุณรู้ไหมครับว่ายังมีสิ่งที่แย่ยิ่งไปกว่านั้นเกิดขึ้นอีกหนึ่งอย่าง...
.
.
...จนแล้วจนรอด น็อตก็ยังไม่ยอมเปิดปากเผยความรู้สึกที่เขามีต่อผมอยู่ดี...
ถึงอย่างนั้น...สุดท้ายแล้วผมก็ยอมตามน้ำไปกับการรวบหัวรวบหางของอีกฝ่ายไปก่อน
เพราะผมเห็นใจเจ้าตัวมากพอดู เพราะเขาน่าจะกำลังตกอยู่ในภาวะจนตรอกยิ่งกว่าครั้งไหนๆ
ใจหนึ่งเขาคงกลัวว่าผมจะกลายเป็นของคนอื่นไปเสียก่อน
เขาเลยตัดสินใจรั้งผมเอาไว้ด้วยสถานะแฟนด้วยเหตุผลครึ่งๆกลางๆ
ซึ่งฟังไม่ขึ้นสักเท่าไร
ส่วนอีกใจ...เขาคงกำลังต่อสู้กับความกลัวว่าอาจจะสูญเสียผมไป
หากพลั้งปากเอ่ยคำว่ารักออกมาโดยที่เขาไม่ใช่คนที่ผมต้องการ
นั่นเลยเป็นคำอธิบายให้ผมเข้าใจได้ถึงการบิดเบือนบทบาทสมมติที่เราเพิ่งเล่นจบ
เพราะเขาคงอยากจะเห็นปฏิกิริยาของผม ด้วยการจำลองการบอกรักผ่านบทบาทในฉากเซ็กส์
เพื่อจะได้ตัดสินใจว่า ควรจะทำอย่างไรกับความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อผมดี
เห็นไหมครับ
ที่ผมเกริ่นไปตั้งแต่แรกว่า กว่าที่ผมจะทำให้เราสองคนตกลงปลงใจ
และบอกรักกันได้นั้น ผมต้องฝ่าฟันกับอะไรมากมายน่ะไม่ใช่การพูดเกินจริงแม้แต่น้อย... หึ! แต่อย่าลืมนะครับว่า
เราเพิ่งจะผ่านขั้นแรกมาได้เท่านั้นเอง ผมเลยเดินหน้าเพื่อทำให้อีกคนบอกรักผมให้ได้ต่อทันที
เมื่อเห็นผลด้านบวกของมาตรการอ้างอิงชื่อมือที่สามขึ้นมาลอยๆอย่างเป็นรูปธรรม
ขนาดที่ว่าสามารถกดดันให้น็อตมาขอผมเป็นแฟนได้ภายในวันเดียว ผมเลยเชื่อมั่นว่า หนทางนี้จะนำมาซึ่งความสำเร็จในความรักของผมจนสมใจเป็นแน่แท้
ดังนั้น...ทันทีที่ผมตกลงเป็นแฟนกับน็อต
ผมก็เริ่มติดต่อมอบหมายหน้าที่มือที่สามให้น้องแฝดผู้พี่ทางอีเมลทันที และน้องคนนี้...มีชื่อสมมติว่าเปอร์ครับ
จะว่าไปแล้ว
การเข้ามามีบทบาทของน้องเปอร์ ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความต้องการที่จะทำให้น็อตยอมเอ่ยความในใจเพียงอย่างเดียวหรอกครับ
หากแต่มันมีอะไรมากกว่านั้น... และสิ่งที่พวกคุณๆยังไม่ได้รู้นี่แหละครับ คือส่วนหนึ่งของข่าวร้ายที่เกิดขึ้นกับผมในช่วงนี้
จากตอนต้นที่ผมบอกให้ทุกคนได้ทราบมาโดยตลอดว่า
การทำให้น็อตบอกรัก และการตกลงเป็นแฟนกัน
เป็นเพียงแค่แผนแรกที่ผมคิดมาตลอดว่าผมจะทำให้สำเร็จให้จงได้ แต่พอเราสองคนอยู่ด้วยกันมากๆเข้า
ผมจึงได้มีโอกาสเห็นตัวตนของอีกฝ่ายอย่างถ่องแท้ จึงทำให้ผมตระหนักได้ทันทีว่า ถ้าผมมัวแต่หลับหูหลับตาขุดหลุมรัก
ก่อนเอาตัวเข้าล่อเพื่อให้พ่อสุดหล่อตกลงไปโดยไม่อาจถอนตัวขึ้นจากหลุมนั้นมาได้เพียงอย่างเดียว
สุดท้าย...คนที่จะต้องหน้าชื่นอกตรมอยู่ในสรวงสวรรค์บนชั้นสูงสุดของนรก
จะกลายเป็นตัวผมไปเสียเอง
เพราะพ่อคุณมีข้อเสียอยู่ประการหนึ่ง
ซึ่งสำหรับผมแล้ว...หากน็อตแสดงข้อเสียนี้ออกมาในยามปกติ มันจะช่วยส่งเสริมให้เขากลายเป็นคนน่ารักน่าเอ็นดูเสียมากๆ...
แต่เมื่อมันปรากฏกายในยามที่เจ้าตัวเกรี้ยวกราดไร้สติ มันจะกลายเป็นเป็นมหันภัยอันร้ายกาจที่สามารถทำลายความสงบสุขในชีวิตคู่ของเราสองคนได้อย่างราบคาบในชั่วพริบตา
นั่นคือ...ด้านมืดของความรักที่เขามีให้ผมนั่นเอง
ด้านมืดที่ว่านั้น
มีร่างอวตารเป็นการหึงหวงครับ...
ช่วงแรกๆที่น็อตออกอาการหึงผมเวลาที่ผมต้องไปเจอกับใครๆที่ออกอาการกระลิ้มกระเหลี่ยใส่ผมอย่างไม่คิดปิดบัง
ผมปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันทำให้ผมรู้สึกดีและเป็นปลื้มไม่น้อย
ที่เขามองผมเป็นคนสำคัญ...คนที่เขาอยากถนอมเอาไว้กับตัวโดยไม่คิดจะให้ไปยุ่งเกี่ยวกับใครในเชิงชู้สาวอีกเลย
แต่ลึกๆแล้ว...ยิ่งนานวัน ความหวาดกลัวกับอาการหึงหวงจนเกินพอดีในบางครั้งของพ่อคุณ
ค่อยๆเริ่มสะสมจนก่อตัวเป็นความกังวลอยู่ในใจผมแทบไม่เว้นแต่ละวัน
ยิ่งเขารักผมมากขึ้นเท่าไร...
...ยิ่งเขาได้ครอบครองร่างกายของผมโดยสมบูรณ์...
...เขาก็หวังจะให้ผมรักเขามาก
และรักเขาเพียงคนเดียวไปตลอด...
นั่นจึงทำให้น็อตออกอาการหึงหวงอย่างร้ายกาจแบบที่ว่า
พักหลังๆมานี่ พ่อคุณไม่ยอมปล่อยให้ผมคลาดสายตา ไม่ยอมให้ผมได้คุยกับใคร
หรือเปิดโอกาสให้ใครมาคุยกับผม ไม่ว่าจะในฐานะเพื่อนใหม่ หรือ แค่คนรู้จักก็ตาม
และหากคนที่เข้ามาดื้อดึงเกินไปกว่าการเจรจาแต่โดยดีจะจัดการได้ เขาก็จะเริ่มพึ่งพาการใช้ความรุนแรงทุกวิถีทางเข้ามาเป็นเครื่องมือเพื่อกำจัดผู้มาใหม่ที่ไม่พึงประสงค์ให้หลบลี้หนีหน้าไปจากสายตาผมโดยเร็วที่สุด
การตั้งความหวังเพื่อแค่ขอให้เราสองคนเป็นแฟนกัน
รักกัน และอยู่ด้วยกันไปตลอดเท่านั้นจึงเริ่มจะไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป
เพราะหากผมต้องการที่จะปูรากฐานเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันมั่นคงให้เกิดขึ้นระหว่างสองเราตราบชั่วฟ้าดินสลาย
ผมจำเป็นต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อปรับเปลี่ยนนิสัยหึงโหดร้าย และอาศัยความรุนแรงเป็นเครื่องตัดสินปัญหาให้หมดไป...
หรือถ้าหากมันจะเป็นไปไม่ได้ ผมแค่หวังจะทำอะไรสักอย่าง เพื่อให้น็อตยอมร่วมมือ
และพยายามแก้ไขสิ่งเหล่านี้ให้ลดน้อยลง...ชีวิตคู่ของเรา คงจะเป็นสุขได้ในที่สุด
การดัดนิสัยหึงไม่ได้สติของน็อต
จึงกลายเป็นเป้าหมายที่ขยายผลต่อมาจากแผนการแรกอย่างช่วยไม่ได้ครับ...
พวกคุณหลายคนอาจจะเริ่มตั้งคำถามในใจว่า...แล้วทำไมผมต้องมาทำให้เรื่องทั้งหมดกลายเป็นเรื่องยากอยู่แบบนี้ด้วย
ทำไมผมถึงไม่พยายามเดินเข้าไปคุยกับอีกฝ่ายให้เข้าใจ แล้วขอให้เขาปรับตัว... หึ หึ
ถ้ามันทำได้ง่ายและมีความเป็นไปได้จริง ผมคงจะเดินหน้าทำไปแล้ว...
...อย่าลืมสิครับว่า
คนที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี่ คือน็อต พ่อยอดขมองอิ่มจอมเอาแต่ใจของผมหนึ่งเดียวคนนั้นนะครับ
และถ้ามันเป็นเรื่องที่น็อตไม่เห็นด้วย หรือไม่อยากทำ... พ่อคุณของผมก็จะตีรวน
และหาเรื่องป่วนทันที
ซึ่งการจะขอให้น็อตเลิกหึงหวงนั้น...น่าจะเข้าขั้นยากเกินกว่าจะเกิดขึ้นจริงได้หากใช้แค่วาจาต่อรองแน่ๆ
ผมเลยนำน้องเปอร์เข้ามาเป็นตัวช่วยเพื่อให้แผนของผมสำเร็จได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น...
ผมหวังให้การมาของน้องเปอร์ช่วยเร่งให้น็อตกล้าบอกรักผมเร็วยิ่งขึ้น
และเปิดโอกาสให้ผมมอบบทเรียนสั่งสอนพ่อสุดหล่อของผม เพื่อที่เขาจะได้ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองดูสักตั้ง
เมื่อเห็นว่าการตัดสินใจครั้งนี้เป็นการยิงปืนนัดเดียวแต่ได้นกถึงสองตัว
ผมก็ไม่คิดจะรีรออีกต่อไป
อย่างไรก็ดี...เพื่อขับเคลื่อนให้สุดยอดแผนการสำเร็จลงได้
คงไม่ใช่แค่น้องเปอร์เท่านั้น ที่จะต้องทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ขมีขมัน ผมเองก็เช่นเดียวกัน...ผมจึงกำหนดทิศทางการวางตัวในแผนการนี้อย่างชัดเจน
ด้วยการแสดงออกทางความรักที่ผมมีให้กับน็อตอย่างโจ่งแจ้ง
เพราะผมต้องการทำให้น็อตได้สัมผัสถึงการแสดงออกตามธรรมชาติของผม เมื่อเรากลายเป็นคู่รักกันโดยสมบูรณ์ทั้งสถานะ
และความรู้สึก ซึ่งมันจะช่วยทำให้เขามั่นใจได้ว่า
ต่อให้น็อตไม่คอยมาควบคุมผมอยู่ตลอดเวลา เขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวลว่า
จะเสียผมให้กับใคร
อย่างไรก็ดี...ผมคงไม่อาจเริ่มต้นหน้าที่ของตัวเองได้
หากเราสองคนยังไม่ได้สารภาพความรู้สึกที่เรามีให้อีกฝ่ายได้รับรู้...มันจึงถึงคราวที่ผมต้องเปลี่ยนแผนปลีกย่อยจากความตั้งใจเดิมอีกครั้ง
ผมเปลี่ยนจากฝ่ายตั้งรับ
เป็นการแสดงท่าทีเป็นผู้ชง ผู้ชี้ช่องให้อีกคนสามารถเฉลยความรู้สึกในใจได้อย่างไม่ขัดเขินเสียเอง...
พูดง่ายๆก็คือ การที่น็อตบอกรักกับผมได้นั้น หลักๆแล้ว
เป็นเพราะผมเป็นฝ่ายหยอดออกมาก่อน โดยไม่รอท่าใดๆอีกต่อไปน่ะแหละครับ ซึ่งผมอดขอบคุณตัวเองไม่ได้จริงๆ
เพราะถ้าไม่ใช่ผมเริ่มชี้โพรงให้กระรอกก่อน มีหวังผมคงต้องได้ร้องเพลงรอพ่อเจ้าประคุณไปตลอดแหงๆ
แต่ก่อนที่ผมจะตัดสินในเปลี่ยนแผนการในครั้งนี้
ผมได้ทดสอบความเชื่อของตัวเองในเรื่องอาการหึงหวงของน็อตด้วยความช่วยเหลือของน้องเปอร์อยู่หลายครั้ง
และฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ผมตัดสินใจทำจะเปลี่ยนแปลงนิสัยของสุดหล่อในข้อนี้โดยเร็วที่สุดก็คือ
เมื่อได้เห็นพ่อเจ้าประคุณวิ่งเข้ามาชาร์จน้องเปอร์ โดยหมายจะทำร้ายร่างกายอีกฝ่ายเพื่อสั่งสอน
หลังจากที่น็อตเห็นน้องเปอร์สัมผัสหน้าผมด้วยเหตุสุดวิสัยบางอย่าง พอผมเห็นสภาพบ้าคลั่งของเขาต่อหน้าต่อตาตัวเอง
ผมก็ไม่อาจจะหลับตาข้างหนึ่งแล้วปล่อยให้แฟนกลายเป็นคนหึงหวงราวกับหมาบ้าพูดจาไม่รู้เรื่องอยู่อย่างนี้อีกต่อไป
และนี่คือที่มาของข่าวร้ายที่สุดระหว่างผมกับน็อต...
เพราะแผนนี้นี่เอง
ที่ทำให้ผมกับน็อตในตอนนี้ ต้องแยกกันอยู่โดยไม่มีกำหนดครับ
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐