Monday, September 29, 2014

เขาวานให้ผมเป็น 'สายรับ' (เคคู่ผู้รู้รอบฯ) : บทรุกที่ 13: โลภมาก ลาภหาย


บทรุกที่ 13: โลภมาก ลาภหาย
(โลภมาก ลาภหาย : อยากได้หลายอย่างแต่ในที่สุดไม่ได้ซักอย่าง)




“น้องน็อตขา...ขุ่นพี่จาจามีเรื่องจะให้น้องน็อตช่วยหน่อยยาค่าาาาาา” เสียงของพี่โอ่งลอยลมมาตอนที่ผมกำลังจะเดินออกจากประตูรั้วหน้าบ้านไปเอากระเป๋าอีกใบของขนุนที่ยังไม่ได้ขนมาไว้ที่นี่ 

ผมหันไปส่งยิ้มหวานให้กับอีกฝ่าย ก่อนทอดเสียงพูดเนิบๆโดยจงใจจะแหย่ให้ขำ “ว่ายังไงฮะพี่โอ่ง ถ้าไม่ใช่แหวกฟ้าคว้าดาว สาวไส้ทุกขดออกมาให้นับ หรือขี่ช้างจับตั้กแตน ก็บอกผมมาได้เลยนะฮะ ผมยินดีช่วยพี่โอ่งทู๊กกกกเรื่องเลยฮะ”

“โอยยยย...ตาย ตาย ตาย!!!  พ่อเจ้าประคุณลุนช่อง พ่อทองทั้งแท่ง...หนูไม่ต้องลงทุนเล่นลิ้นขนาดนี้กับพี่ก็ได้ลูก ไม่เห็นเหรอคะว่า แค่ได้เห็นหน้าคุณน้องใกล้ๆแบบนี้ กระเทยรุ่นใหญ่ก็น้ำลายไหลปรี่แล้วล่ะค่า”

“อ้าวววว เหรอฮะ...ผมน่ะนึกว่าน้ำอย่างอื่นต่างหากที่ไหล หึ หึ”

“บร้าาาาาา...เกลียดจริงเชียะ ผู้ชายรู้ทัน” พี่โอ่งทำหน้าหื่นตลกๆ ก่อนทุบกำปั้นรัวๆลงบนหน้าอกผมแล้วพูดยิ้มๆ “...คราวหน้าคราวหลังไม่ต้องหยอดพี่เป็นหน้าหนมครกอยู่อย่างนี้หรอกนะคะ  เดี๋ยวกระเทยอย่างพี่จะเพ้อเพราะฝีปากของคุณน้องไปซะก่อน...
.
.
...เอาล่ะค่ะ  ขุ่นพี่ขอตัดฉับกลับมาเข้าเรื่องการเรื่องงานกันก่อนที่เราจะออกทะเลไปถึงน่านน้ำอ่าวไทยกันนะคะ เรื่องที่ขุ่นพี่ขอร้องให้น้องน็อตช่วยเนี่ยะ กระเทยเอาหัวเพื่อนชะนีรับประกันเลยค่ะ ว่าเรื่องนี้น้องน็อตต้องทำได้แน่ๆ แถมยังทำได้ง่ายๆอีกดั้วะ”  คนพูดมีสีหน้ากรุ้มกริ่มเสียจนผมเริ่มสงสัย

“อะไรเหรอฮะที่พี่โอ่งอยากให้ผมช่วย?”

“อ๋อ...ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ.......คือ.....พี่น่ะ อยากพาน้องๆในหมู่บ้านไปเล่นน้ำสงกรานต์กันที่ข้าวสารอาทิตย์หน้านี่แหละ แต่เรื่องทั้งหมดจะกลายเป็นเพียงความฝันในฤดูร้อนเท่านั้น ถ้าคุณขนุนไม่ไปด้วยน่ะค่ะ...
.
.
...ขุ่นพี่อยากจะให้ความฝันนี้กลายเป็นฝันเปียกอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่ฝันแห้งๆแล้งๆลมๆไปวันๆเท่านั้นน่ะค่ะ... ขุ่นน้องเข้าใจพี่ชี่มิคะ?” พี่โอ่งทำสีหน้าจริงจัง ผมจึงเข้าใจได้ทันทีว่า นี่อาจจะเป็นเงื่อนไขของใครสักคนที่ต่อรองด้วยการลากเอาขนุนเข้าไปมีเอี่ยวด้วย

ที่พี่โอ่งมาถามผมอย่างนี้ แสดงว่าพี่โอ่งต้องเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติระหว่างผมกับขนุนแล้วแน่ๆ แต่ตอนนี้ผมแม่งไม่พร้อมจะบอกใครเรื่องนี้จริงๆนี่หว่า....คงต้องโกหกแก้ผ้าเอาหน้ารอดไปก่อนก็แล้วกันวะงานนี้  “ถ้าอย่างนั้นพี่โอ่งคงจะคุยกับคนผิดแล้วล่ะฮะ เพราะถ้าจะให้ดี...สำหรับเรื่องนี้ ผมว่า พี่โอ่งคงต้องถามขนุนเอาเอง ว่าเค้าอยากไปด้วยรึเปล่าอ่ะฮะ”

“อ้าววววว หรอคะ.... ขุ่นพี่ก็นึกว่าน้องน็อตเป็นอะไรๆกับคุณขนุนจนสามารถตัดสินใจแทนคุณขนุนได้ เลยมาหาขุ่นน้องนี่ยังไงล่ะคะ  เพราะหลงคิดไปเองว่าพอเราคุยกันเสร็จ ขุ่นพี่จะสามารถปิดจ๊อบได้เลยทันที... 

...โธ่ถ้วยถังกะละมังหม้อ...นี่กระเทยเข้าใจผิดมาตลอดเลยเหรอเนี่ยะ” พี่โอ่งทำหน้ามีเลศนัยเหมือนคนที่แอบรู้ความลับอะไรมา แต่แววตาที่แกมองมาที่ผม กลับบอกผมได้ดีถึงความขบขันแกมเอ็นดูของแกที่ส่งมาให้

ผมเลยแกล้งทำหน้ามึนแล้วเลียบๆเคียงๆถามออกไป “อะไรๆที่พี่โอ่งว่า มันคืออะไรเหรอฮะ?”

รุ่นพี่สาวน้อยในร่างชายทำท่าจีบปากจีบคอแล้วพูดอย่างมีจริต “เก๊าะ....คุณพี่ก็นึกว่าน้องน็อตกับคุณขนุนน่ะ กำลังคบหาดูใจกันอยู่น่ะซิคะ เห็นเมื่อคืนนี่แทบจะก่อหวอดถอดวิญญาณแลกร่างกันอาศัยเต็มที...
.
.
...แต่ถ้าไม่ ก็แล้วไปค่ะ...
...ถ้างั้น คุณพี่ขอตัวก่อนนะคะ  เดี๋ยวต้องไปตามหาคุณขนุนอีก..ไม่รู้ว่านางไปสถิตย์อยู่ตามตู้กดน้ำ หรือต้นลั่นทมบ้านไหน....เสด็จน้องชะมะคะ กระเทยผู้พี่ทูลลาชะมะค่ะ” พี่โอ่งทำท่าเหมือนจะเดินกลับไปยังที่ๆจากมา ผมจึงร้องเรียกให้แกอยู่ก่อน  เพราะผมคิดออกแล้วว่า...การดึงเอาพี่โอ่งมาเป็นพวก น่าจะช่วยทำให้เรื่องกินขนุนง่ายกว่าการที่ผมต้องลงมือด้วยตัวเองเพียงลำพัง

“เฮ๊ยยยย!! เดี๋ยวก่อนสิฮะพี่โอ่ง...
.
.
...ใครบอกล่ะฮะ ว่าผมกับขนุนไม่ได้อะไรๆกันล่ะ แหะ แหะ...
...รู้แล้วเหยียบเอาไว้เลยนะฮะ...
.
.
...ผมกับเค้าน่ะ... เรากำลังดูๆกันอยู่อย่างที่พี่โอ่งว่าจริงๆนั่นแหละฮะ แต่ตอนนี้ อะไรๆมันยังไม่แน่นอน ผมเลยยังไม่อยากกระโตกกระตากไปน่ะฮะ เดี๋ยวขนุนเค้าจะเสียหาย”

พี่โอ่งทำหน้าตกใจก่อนพูดอย่างเร็ว “อุ๊ต่ะ...อกอีแป้นแล่นลึกเข้าตึกแขก อกพี่แตกป่นปี้อีนี่จ๋า....ขุ่นน้องน็อตรู้ตัวไม๊คะ ว่าเมื่อกี๊พูดอะไรออกมา?”

“รู้สิฮะ...รู้ดี และมีสติมากๆเลยล่ะฮะ”

พี่โอ่งถอนหายใจช้าๆอยู่พักใหญ่ แล้วพูดกับผมด้วยสีหน้าขึงขัง “ในฐานะที่ขุ่นพี่จาจาเป็นคนสวยและมีจิตใจงดงามหาใดเปรียบ ขุ่นพี่ขอเตือนสติขุ่นน้องด้วยความหวังดีตามประสาคนที่อาบน้ำรักมาก่อนนะคะว่า... คุณน้องกำลังตีตั๋ววันเวย์ของสายการบินเทย รักคุณอ่วยๆเท่าฟ้า มุ่งหน้าสู่ประเทศโลกสวยของเหล่าทวยเทพและนางฟ้าประเภทสองสามสี่อย่างไม่มีวันหวนกลับแล้วนะคะ...

...ขุ่นพี่ขอเตือนสติน้องน็อตตรงนี้อย่างจริงจังเลยนะคะว่า  ไอ้ความคิดอยากรู้อยากลองเล่นๆขำๆ เดี๋ยวค่อยกลับมาทำตัวแมนเอาใหม่เมื่อไรก็ได้เนี่ยะ มันเป็นสโลแกนการเพิ่มประชากรให้กับโลกที่พวกพี่สิงสู่อยู่นี่มาหลายปีติดต่อกันแล้วนะคะ... การได้เป็นชายเหนือชายน่ะ มันเย้ายวนและมีมนต์ขลังเกินกว่าที่คุณน้องจะมองข้ามทำชิลได้นะคะ...

...แล้วที่ใครๆเค้าพูดกันว่า ได้หลังแล้วลืมหน้า...อันนี้เรื่องจริง ไม่มีการโม้มอยหอยใหญ่อะไรเจือปนทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น...ถ้าคุณน้องยังไม่ได้ถลำลึกผนึกร่างกับคุณขนุนแล้วล่ะก็  ใส่เกียร์ถอยออกไปแบบหล่อๆตอนนี้ ก็ยังไม่มีใครว่าอะไรนะคะ”

ผมส่งยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างขอบคุณที่เป็นห่วงผมจนกล้าออกปากเตือนแม้ว่าเราจะเพิ่งรู้จักกันไม่นาน “เรื่องนั้นพี่โอ่งสบายใจ ไม่ต้องเป็นห่วงผมเลยฮะ... ผมนั่งคิดนอนคิดเรื่องนี้มาเป็นอย่างดีแล้ว และผมมั่นใจมากฮะว่า ผมได้เลือกสิ่งที่ผมต้องการที่สุดแล้ว”

“โอเคๆ กระเทยยอมแพ้แก่เหตุผลและหน้าตาหล่อลากไส้ของคุณน้องอย่างไม่มีข้อสงสัยอีกแล้วค่ะ...
.
.
...ตกลงว่า คุณน้องจะว่ายังไงเรื่องสงกรานต์ล่ะคะ?”

“ผมโอเคแทนขนุนให้ก็ได้ฮะ  แต่ผมเองก็มีข้อแม้เหมือนกัน... พี่โอ่งพอจะรับปากผมได้ไม๊ล่ะฮะ?”

“เอิ่บบบบบ...ทำไมต้องทำตาวาวเป็นค้างคาวแม่ไก่อย่างนั้นด้วยล่ะคะ?  อย่าบอกนะคะว่า...อยากจะทรีซั่มกับพี่และคุณขนุนไปพร้อมๆกัน...พี่ไม่โอนะ...เพราะชาตินี้ พี่จะไม่ยอมเบี้ยน......พี่อยากจะเก็บแท่งทองของพี่ไว้ติ้วอย่างเดียว ไม่อยากหลุดเข้าถ้ำไปเสียว...เข้าใจ๋???”

แล้วใครว่าผมจะยอมให้ขนุนไปเบี้ยนกับพี่ล่ะฮะ นี่ขนาดยังไม่ได้กัน ผมแม่งยังหวงไม่อยากให้ออกไปเจอใครหน้าไหนอยู่แบบนี้ ถ้าได้กินกันหลายๆที...ขนุนแม่งไม่ต้องหวังว่าจะได้กระดิกกระเดี้ยไปไหนอีกแล้วว่ะฮะ

“แหม่... ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอกฮะ ไม่ต้องเป็นห่วงไป...ผมแค่อยากให้พี่ช่วยเรื่องที่พี่โอ่งน่าจะถนัดมากพอสมควรน่ะฮะ รับรองเลยฮะว่า...ไม่เหลือบ่ากว่าแรงของพี่โอ่งคนสวยแน่นอน หึ หึ หึ”   และแล้ว...ปฏิบัติการรวบหัวรวบหางขนุนก็ได้เริ่มต้นขึ้น นับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป!!!


๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐


ผมยืนกอดอกพิงขอบประตูห้องน้ำมองตามขนุนที่กำลังเรียงครีมลงบนอ่างล้างหน้าของตัวเองอย่างทึ่งๆ คิดดูสิฮะ นี่ขนาดยังไม่ได้ย้ายเข้าเป็นตัวเป็นตน ของใช้ส่วนตัวของขนุนแม่งยังเยอะขนาดนี้ พี่แกก็ขนมาเต็มที่ไม่เกรงอกเกรงใจเจ้าของบ้านเอาเสียเลย ทำอย่างกับว่าเรากำลังจะย้ายหนีเจ้าหนี้ข้ามโลกข้ามทวีปอย่างนั้นแหละ  ผมนะไม่อยากจะนึกเลยว่า... ถ้าอยู่ด้วยกันไปนานๆ บ้านผมนี่ไม่ต้องกลายเป็นคลังแสงครีมบ้าบี๋กันพอดีหรอกเหรอวะเนี่ยะ

ระหว่างที่สองมือขาวเนียนกำลังเรียงค่ายกลใหม่อยู่อย่างตั้งอกตั้งใจ ผมก็อดชวนคุยออกมาไม่ได้ “เอาล่ะฮะ ก่อนที่เราจะเริ่มขั้นตอนต่างๆ เรามาทำความเข้าใจกันเรื่องที่ขนุนต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนกันก่อนดีไม๊ฮะ?”

คนฟังยังก้มหน้าก้มตาจัดความสูงต่ำของหมู่มวลกระปุกครีมสีขาวๆ แต่ไม่ลืมส่งเสียงถามกลับมาเรียบๆ “ถ้าน็อตจะพูดถึงข้อเสียของผม...เราก็รู้ๆกันอยู่ไม่ใช่เหรอ?”

“มันก็ถูกฮะ แต่ว่ามันก็ต้องพูด... จริงๆที่น็อตจะทำ คือเปรียบเทียบสิ่งที่ขนุนต้องแก้ กับความชอบของคนทั่วๆไป เพื่อที่เราจะได้เห็นจุดหมายตรงกันก่อน ว่าเราจะต้องเดินหน้าไปทางไหน...โอเคนะฮะ” ผมจ้องหน้าแดงๆแต้มเม็ดเหงื่อของขนุนในกระจกเงาบานใหญ่หน้าอ่างล้างหน้า

ร่างเพรียวบางยังไม่หยุดมือตั้งแต่เราช่วยกันขนของมา... ผมเข้าใจนะฮะ ว่าที่เร่งมือจัดของเป็นระวิงอยู่นี่คงเป็นเพราะ ถ้าขนุนแม่งเอาแต่ต่อนยอนเอ้อระเหยไปเรื่อย ไม่มีทางที่ของทั้งหมดที่ลากติดอวนเข้าฝั่งบ้านผมมาจะอยู่ถูกที่ได้ก่อนรุ่งสางวันพรุ่งนี้แน่ๆ

“อื้อออ... น็อตก็ว่ามาสิ” ขนุนเงยหน้าขึ้นสบตาผมเดี๋ยวเดียวแล้วก้มหน้าจัดของต่อ

“เรื่องแรก ที่น่าจะแก้ง่ายสุด คงไม่พ้นเรื่องรูปกายภายนอกนี่หล่ะฮะ”

คนฟังวางมือและหยุดทุกๆการกระทำทันทีเหมือนกำลังโดนจี้ปม ขนุนเงยหน้าขึ้นจ้องมองผมผ่านเงาในกระจกอย่างเอาเรื่อง “ทำไมล่ะน็อต...มันดูเป็นยังไงเหรอ? ทำไมต้องเปลี่ยนด้วย?”

“อ่ะ...เอางี้ก็ได้ ขนุนลองบอกมาซิฮะ ว่าถ้าในเดทแรก...เอาเป็น ดินเนอร์ใต้แสงเทียนบนร้านอาหารสุดหรูของโรงแรมใจกลางย่านสุขุมวิท ขนุนอยากเห็นแฟนแต่งตัวยังไง?”

“อืมมมม... ผมไม่เคยคิดถึงรายละเอียดพวกนี้เลยแฮะ แต่ก็ไม่น่าจะยาก...
.
.
...ถ้าคนที่ผมออกเดทด้วยเป็นคุณกานต์ ผมอยากให้คุณกานต์ใส่เสื้อผ้าสีสดใสบ้าง เพราะคุณกานต์มักจะใส่แต่เสื้อผ้าสีทึมๆ ส่วนเรื่องรองเท้าหรือเครื่องประดับ...ก็ตามแต่ที่คุณกานต์อยากจะใส่ก็แล้วกันครับ ผมไม่ถือ”

ผมตบมือดังฉาดเมื่อได้ยินคำตอบที่เข้าทาง “น่านนนนนยังไงล่ะฮะ ไอ้ที่น็อตต้องการจะสื่อ...
.
.
...ขนุนเอง ยังมีความต้องการและคาดหวังให้คนที่ตัวเองชอบ...แต่งตัวแบบนั้น...แบบนี้ ในวันแรกที่ทั้งขนุนกับคนๆนั้นใช้เวลาร่วมกันแบบพิเศษสุด แล้วขนุนไม่คิดบ้างหรอกเหรอฮะ ว่าคนที่ขนุนชอบ...เค้าอาจจะคาดหวังให้ขนุนแต่งตัวต่างไปจากทุกที เพื่อให้ทั้งขนุนและเค้าดูเหมาะสมกันยิ่งขึ้น และยังถูกต้องตรงกันกับกาลเทศะอีกด้วย...
.
.
...น็อตว่า การเปลี่ยนแปลงรูปโฉมภายนอกน่ะ มันไม่ได้เป็นแค่การเปลี่ยนแปลงเพื่อตัวเราเองเท่านั้นหรอกนะฮะ แต่มันยังเป็นการบอกอีกคนที่เราคบหาด้วยกลายๆว่า เราให้เกียรติเค้า และเราอยากกลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเขาไม่ต่างกัน...

...อีกอย่าง ถ้าขนุนกลัวว่ามันจะมีผลอะไรกับความคิดหรือพฤติกรรมของเรา... น็อตว่าคิดไปก็ฉี่เหลืองเปล่าๆ เพราะเรื่องนอกกาย มันก็เป็นแค่เรื่องนอกกายอยู่วันยันค่ำ ไม่มีที่ตัวตนแท้ๆของเราจะเปลี่ยนแปลงได้เพราะเสื้อผ้าที่เราสวมใส่ หรือทรงผมที่เราไว้หรอกฮะ  ถ้ามันจะเปลี่ยน...มันก็คงจะแค่เปลี่ยนให้เรามีความมั่นใจมากขึ้นเท่านั้นเองแหละฮะ ไม่อย่างนั้นประเทศเราก็คงจะมีคนที่ดีเหมือนเสื้อผ้าที่สวมใส่เดินกันขวักไขว่เต็มไปหมด...ใช่ไม๊ล่ะฮะ??” ผมยักคิ้วกวนๆไปให้อีกคนที่ยอมรามือจากกระปุกครีมชั่วคราวเพื่อรับฟัง

“โอเค...ผมเข้าใจ และยอมรับเหตุผลของน็อต  สรุปว่า...หลังจากนี้ ผมควรจะเปลี่ยนแปลงการแต่งกาย ทรงผม...

ผมรีบพูดแทรกทันทีถึงสิ่งที่ขัดใจผมมาตลอด “และแว่นฮะ แว่นนี่แหละฮะ...ที่ต้องถึงคราวได้รับการโมดิฟายเป็นอันดับต้นๆของงานในครั้งนี้เลยฮะ”

ขนุนหันหลังให้อ่างล้างหน้าแล้วเดินเข้ามาหาผม ร่างเพรียวบางมาหยุดอยู่ตรงหน้าห่างไปไม่ถึงวาดี เมื่อได้ที่หมาย เจ้าตัวก็กดหน้าต่ำแต่ช้อนตากลมใสแหน็วเหนือกรอบแว่นหนาๆมองขึ้นมาหาผมแล้วส่งเสียงพูดงุ้งงิ้ง “น็อตตตตต...ผมขอใส่แว่นได้ไม๊? ผมไม่อยากใส่คอนแทคน่ะ”

...อย่าบอกนะ ว่าขนุนแม่งจับได้แล้วว่าผมแพ้กระบวนท่าทำนองนี้ แล้วเสียงที่โปรเจคออกมานี่...มันคืออัลไล!!!! ทำไมต้องมาจัดโมเอ้ซึ่งซึ่งหน้ากันด้วย รู้บ้างไหมว่าพลังวัตรผมกำลังหดหาย...แล้วผมแม่งจะเอาอะไรไปต่อกรกับโมเอ้คุงได้ล่ะเนี่ยะ???!!!...
.
.
..ไม่ได้นะไอ้น็อต มึงต้องนึกเอาไว้ว่า หน้าไม่แว่นคือแดนสวรรค์ ถ้ามึงแพ้ตานี้...มึงจะไม่มีทางแงะแว่นออกจากหน้าขนุนได้อีกต่อไปนะเว่ย!!!!

เอาวะ!!!...อ้อนมา กูก็หยอดกลับเท่านั้น  ให้แม่งรู้กันไปเลยว่า ระหว่างเรา...ใครมันจะจิตแข็งและอดทนเก่งกว่ากัน “ทำไมล่ะฮะ ก็ขนุนตาสวยออก น็อตยังอยากมองอยู่ตลอดเลยนะฮะ”

ขนุนอาศัยโอกาสที่ผมชะล่าใจ  ส่งหน้าโมเอ้พิฆาตมาให้อีกครั้ง ตามด้วยเสียงเล็กๆน่ารักๆที่อ้อนสุดๆ “ก็ไม่อยากใส่คอนแทคนี่นาาาาาาาา~ มือของคนพูดดึงชายเสื้อของผมไปมาตามจังหวะทอดเสียง .............แหม่  รู้สึกเหมือนคู่แต่งงานใหม่ยืนคุยกันในห้องน้ำหลังจากคืนแรกเลยวุ้ย!!!

ผมสะบัดหัวเรียกสติแล้วถามด้วยเสียงนุ่มพอกัน ไม่พูดเฉยๆ...ผมก้าวเข้าไปหา และหยุดลงตรงหน้าอีกคนที่ยืนจ้องผมตาละห้อย จนระยะห่างของเราเหลือแค่คืบเดียว ผมเอามือข้างหนึ่งยกแว่นตาขึ้นคาดลงบนผมฟูๆของขนุนเอาไว้ ส่วนอีกข้างถูกส่งไปเชยคางให้โมเอ้คุงเงยมาสบตา ก่อนจะลูบแก้มใสๆไปมา “ไหนฮะคนเก่ง....บอกน็อตทีซิ ว่าทำไมขนุนถึงไม่อยากใส่คอนแทคกันเอ่ย?”

คนมองไม่เห็นแม่งต้องมีเรดาร์จับสัญญาณชีพผมแน่ๆ และคงจะรู้ด้วยว่าใจผมแม่งเต้นถี่ด้วยความตื่นเต้นที่เราสองคนอยู่ใกล้กันมากเสียจนนับเส้นขนบนหน้ากันได้ง่ายๆ ขนุนเลยปิดการขายด้วยโมเอ้โหมดเอียงอายใสซื่อ ทำเอาหัวใจไอ้น็อตแทบล้มเหลวเฉียบพลันเกือบจะทันที “ก็......ก็......ก็.....ก็ผมไม่กล้าถ่างตาแล้วยัดมันเข้าไปข้างในตานี่ครับ ผมกลัวน่ะ...นะน็อตนะ...ไม่เอาคอนแทคนะ” พอพูดจบ คนพูดก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

ตายห่า!!  ไอ้หน้าตาโมเอ้ คาวาอี้ เอ็กซ์ตร้าอูมามิโคตรพ่อโคตรแม่ที่ผมเห็นอยู่นี่แม่งกระตุ้นความอยากของผมดีชิบหาย
...ฮื่ยยย นี่ถ้าไม่ติดสัญญาที่ให้ไว้กับพี่ปีย์ว่าจะไม่กระทำการผิดผีในบ้านตลอดระยะเวลาการทำงาน และห่วงว่าขนุนแม่งยังไม่พร้อมจะเป็นฝ่ายรับอย่างเต็มร้อย  บอกเลยนะฮะว่า...ป่านนี้ ไอ้เสือน็อตนี่คงได้ถือโอกาสปลอบประโลมหัวใจดวงน้อยๆซึ่งหวาดหวั่นเพราะความชั่วร้ายของคอนแทค ก่อนจะลามลงไปกินตับขนุนให้สิ้นซากเสียที

ผมเอาสีหน้ายอมแพ้ฉาบปิดความคิดอกุศลเอาไว้ข้างใน แล้วปลอบอีกคนที่จ้องหน้าผมอย่างเว้าวอน “อ่ะ...ก็ได้ ก็ได้ฮะ เราข้ามเรื่องคอนแทคไปก่อนก็ได้ฮะ...
.
.
...เอาล่ะ ทีนี้ก็มาถึงหัวข้อถัดไป นั่นคือ...
.
...การพูดการจา”

เพราะขยับหน้าไปไหนไม่ได้ ขนุนเลยเหลือบสายตาลงมองพื้นแล้วอ้อมแอ้มออกมาเบาๆ “เห็นทีจะยากเกินจะเปลี่ยนกันได้ง่ายๆนะน็อต”

“อืม ก็นั่นน่ะสิฮะ... งั้นขนุนลองเล่าให้น็อตฟังหน่อยได้ไม๊ฮะ ว่าขนุนมักจะพูดจาแบบนี้เมื่อไหร่ ยังไงบ้าง? ถ้านึกไม่ออก...ยกตัวอย่างเป็นเหตุการณ์มาก็ได้ฮะ” ผมเอามือทั้งสองข้างประคองหน้าเล็กๆของขนุนเอาไว้เพื่อบังคับให้อีกฝ่ายต้องหันกลับมาจ้องตา

“ผมมักจะพูดจากแปลกๆเวลาต้องพบกับใครใหม่ๆที่ผมไม่คุ้นเคย ไม่ก็คนที่ผมเกรงใจมากๆ...อย่างพี่เมี่ยง และก็พวกคนที่ผมไม่สนใจหรือคิดจะวิสาสะด้วยน่ะครับ...

...ส่วนคนที่ผมพูดจาแบบปกติได้ก็เห็นจะมีแต่คนที่บ้าน พี่เกี๊ยว และก็น็อตนี่แหละ ซึ่งเท่าที่ผมรู้สึก ผมว่า กรณีของน็อตน่ะ ใช้เวลาสั้นที่สุดแล้วล่ะ” ผมยิ้มให้อีกคนแม้จะรู้ว่าขนุนคงมองไม่เห็นก็ตามเมื่อได้ยินเจ้าตัวอ้างถึงตัวผม

“แล้วที่ขนุนเคยบอกว่าลองพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองมานาน ตอนนั้นขนุนทำยังไงล่ะฮะ?”

“ผมเคยทำถึงขนาดที่ว่า จดโน๊ตคำพูดที่ต้องใช้บ่อยๆแล้วหยิบขึ้นมาอ่านเวลาที่ต้องคุยกับคนที่ผมจำเป็นต้องทำความรู้จักเลยนะครับ แต่มันกลับทำให้ผมดูยิ่งไม่ปกติไปกันใหญ่ เพราะพอผมต้องพูดถึงเรื่องที่ผมไม่ได้เตรียมตัวมา คำพูดผมจะฟังแปลกและเต็มไปด้วยภาษาทางการ แต่พอมันเป็นเรื่องที่อยู่ในโพย ผมก็หยิบโพยขึ้นมาอ่านตาม...
.
.
...เชื่อไม๊ว่า หลังจากวันนั้น คนที่ผมไปเจอหน้าและลองใช้วิธีอ่านกระดาษให้ฟัง เค้าหายหน้าไปไหนก็ไม่รู้ แถมยังไม่ติดต่อมาอีกเลยน่ะครับ” ...เอ่อ ขนุนฮะ น็อตไม่อยากจะทำร้ายจิตใจขนุนเลยนะฮะ แต่น็อตอยากจะบอกเหลือเกินว่า วิธีแก้ปัญหาของขนุนแม่งยิ่งทำให้ขนุนอยู่เหนือกฏเกณฑ์และสมมติฐานใดๆของโลกใบนี้ไปหลายล้านปีแสงเลยฮะ เรื่องนี้แม่งท่าจะแก้ลำบากน่าดูเลยว่ะ

“โอเคเข้าใจแล้วฮะ... แล้วถ้าลองเปลี่ยนความคิดซะใหม่ว่า คนที่ขนุนกำลังคุยอยู่ด้วยเป็นคนในครอบครัวแทนล่ะฮะ มันจะได้ผลไม๊?”

“ผมก็เคยลองคิดแบบนั้นนะครับ แต่ผมก็เผลอหลุดไปพูดตัวเองกับเค้ากับคนที่ผมไม่สนิทเข้า เพราะผมเอาแต่คิดว่าเค้าเป็นยัยนิ้งน่ะสิครับ... กลายเป็นว่า แทนที่จะสนิท กลับเข้าหน้ากันไม่ติดไปกันใหญ่ เพราะเค้าดูขยาดและไม่อยากเข้าใกล้ผมมากๆเลยล่ะครับ เค้าอาจจะเข้าใจผิดว่าผมตุ้งติ้งเกินไปน่ะครับ”

ตอนนี้ทั้งผมและขนุนต่างทำหน้าหนักใจกับปัญหาใหญ่ที่สุดที่ต้องรีบหาทางแก้ “อ่าฮะ...หนักหนาทีเดียวฮะ งั้นน็อตขอไปนอนคิดๆดูก่อน เผื่อจะหาวิธีจัดการแก้ปัญหานี้ได้...
.
...แต่ยังมีอีกเรื่องที่ผมอยากให้ขนุนปรับ...นั่นก็คือ การเดิน นับจากวันนี้ ขนุนต้องฝึกท่าเดินใหม่ เพราะการเดินอย่างผึ่งผายจะทำให้เราดูน่ามองขึ้นอีกเป็นกองเลยฮะ เดี๋ยวน็อตจะลองขอให้พี่กานต์กับพี่ปีย์ช่วยอีกแรง...
.
.
...เอาล่ะฮะ น็อตว่า ขนุนค่อยกลับมาเก็บของดีไม๊ฮะ นี่ก็เย็นมากแล้ว เดี๋ยวเราลงไปกินข้าวกันก่อน แล้วค่อยกลับขึ้นมาเก็บของแล้วคุยกันต่อ...
.
.
...อ้อ น็อตมีการบ้านให้ขนุนทำระหว่างเราลงไปกินข้าวเย็นนะฮะ นับจากวันนี้เป็นต้นไป...ขนุนต้องพูดกับทุกๆคนบนโต๊ะอาหาร อย่างน้อยคนละสามประโยค เพราะการสร้างความมั่นใจ ก็เป็นส่วนนึงของปัญหาของขนุนที่น็อตเห็นว่าควรต้องแก้ไขไม่น้อยไปกว่าเรื่องอื่นๆเลยฮะ”

หน้านิ่งที่วางอยู่บนมือผมเปลี่ยนเป็นตึงนิดๆ ขนุนถามกลับมาด้วยเสียงติดรั้นหน่อยๆ “แล้วถ้าผมไม่ยอมทำล่ะ?”

“ขนุนก็เลือกเอาแล้วกันฮะ ว่าจะยอมพูด หรือว่าจะยอมโดนน็อตลงโทษเหมือนเมื่อเช้าดี?” ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆกับแก้มใสข้างหนึ่งแล้วเป่าลมแรงๆลงบนเนื้อนิ่มๆหอมอ่อนๆนั้นเพื่อเตือนให้อีกฝ่ายนึกถึงรอยสัมผัสที่ผมฝากเอาไว้เมื่อเช้า

!!!!!!!

ขนุนยืนตัวแข็งอยู่นานจนผมทนไม่ไหว ผมกดแว่นกลับลงมาปิดตาให้อีกฝ่ายแล้วจูงมือพาคนร่างเพรียวบางให้เดินตามออกมากินข้าวด้วยกันโดยไม่พูดพล่ามทำเพลง

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐


ระหว่างกำลังแอบแฮ็คเครื่องขนุนเพื่อนั่งไล่อ่านเมลของขนุนย้อนหลัง ผมก็บังเอิญเปิดไปเจอตารางการทำงานของขนุนที่แนบเนื้อเมลส่งไปให้พี่เมี่ยงเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ผมจึงได้รู้ว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่ขนุนเริ่มจะว่างเพราะเพิ่งแก้ไขต้นฉบับหนังสือเล่มล่าสุดส่งไปให้ทางสำนักพิมพ์... ดีล่ะ พรุ่งนี้พาขนุนออกไปเปิดหูเปิดตาดีกว่า

ขนุนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ๆตัวหอมวนิลากรุ่นเดินมานั่งลงบนเตียงก่อนทำท่าเก้ๆกังๆเหมือนไม่รู้จะทำอะไร ผมเลยอดถามออกไปไม่ได้ “อ้าว คืนนี้ขนุนไม่ต้องเขียนนิยายเหรอฮะ หรือว่าโต๊ะทำงานที่ผมจัดเอาไว้ให้นั่งไม่ถนัด?”

“เปล่าหรอกน็อต คืนนี้ไม่มีงานน่ะ เพราะเมื่อหัวค่ำเพิ่งส่งไอเดียเขียนเรื่องใหม่ไปให้พี่เมี่ยงอ่าน แล้วก็เขียนโครงเรื่องคร่าวๆเอาไว้แล้ว ก็รอจนกว่าจะได้ไฟเขียวจากพี่เมี่ยงก่อน แล้วค่อยลงมือเขียนน่ะ...ทำไมเหรอ น๊อตมีอะไรรึเปล่า?”  ผมรีบปิดเครื่องแล้วเอาโน๊ตบุ๊ควางไว้ข้างเตียงแล้วตบที่ว่างข้างๆตัวให้อีกคนลุกมานั่งด้วยกัน

“ก็ไม่มีอะไรหรอกฮะ แต่ขนุนว่างก็ดีแล้ว...ถ้างั้น เรามาคุยเรื่องโปรเจคของเรากันต่อดีไม๊ฮะ?” ชุดนอนของขนุนคืนนี้เป็นลายสติทช์สีน้ำเงินเข้มซึ่งทำให้ผิวขาวๆยิ่งดูเด่นไปกันใหญ่ ที่ชุดนอนล่ะซื้อได้ แต่เสื้อกับกางเกงนี่ไม่คิดจะเปลี่ยนหน่อยเหรอวะ??? ส่วนผม...ในฐานะเจ้าของบ้านที่ดี ผมยอมใส่เสื้อกล้ามเพิ่มขึ้นมาจากแค่บ็อกเซอร์ตัวเดียว เพื่อไม่ให้ดูรุ่มร่ามจนขนุนตกใจไปเสียก่อน

 “เอาสิ...คราวนี้จะคุยเรื่องอะไรล่ะ?” ตอนนี้ขนุนย้ายมานั่งพิงหัวเตียงอยู่ข้างๆผมแล้ว

“เอาเป็น...... เรื่องของหัวข้อของวิชาสปท.ที่เราจะเรียนกันดีไม๊ฮะ?” คุยเรื่องแบบนี้แม่งก่อนนอนเสียเลย...เผื่อคุยไปคุยมาจะฟลุกได้รุกขนุน หึ หึ!!

“ก็ดีนะ เพราะว่าผมยังไม่รู้เลยว่ามันมีอะไรบ้าง”

ผมเอี้ยวตัวไปหยิบไอแพดในลิ้นชักโต๊ะหัวเตียงออกมาแล้วเปิดระหว่างพูด “เรื่องที่น็อตว่าจำเป็นต่อการเรียนในวิชานี้ เพื่อปรับปรุงการเขียนฉากอย่างว่าในนิยายของขนุน ก็คงจะเป็นตามนี้แหละฮะ” ไอแพดในมือที่เปิดหน้าที่ผมต้องการเอาไว้รอท่าแล้ว ถูกส่งต่อให้ขนุนเพื่ออ่าน  “เรื่องแรกคือการรู้จักบทบาทหน้าที่ของตัวเองในระหว่างการร่วมเพศ ซึ่งตามที่เราได้ตกลงกันเป็นอย่างดีแล้ว ตลอดระยะเวลาของการเรียนการสอน ผมเป็นเมะ ในขณะที่ขนุนจะเป็นเคะนะฮะ... ถูกต้องนะฮะ”

“ฮื่อออ... ตามนั้น” ขนุนตอบตกลงโดยไม่ละสายตาจากหน้าจอเพราะตั้งใจอ่านเนื้อหาย่อๆที่อธิบายหัวข้อใหญ่แต่ละประเด็น

“เรื่องที่สองที่เราต้องเรียนก็คือ การเรียนรู้ภาคทฤษฎี ผ่านสื่อการสอนต่างๆ”

พอผมพูดจบ คนฟังก็เงยหน้าขึ้นมาจากหน้าจอเพื่อจ้องผมอย่างจับผิด “ดูหนังโป๊อะไรพวกนี้น่ะเหรอ? ที่ผ่านมา....ผมก็เคยดูมาบ้างแล้วนะ”

“ฮะ หนังโป๊มันก็ส่วนนึงฮะ แต่ว่าการทำความเข้าใจกับเนื้อหา อารมณ์และการตีความเรื่องราวในหนังโป๊แต่ละเรื่อง รวมทั้งการศึกษาท่าทางและลูกเล่นที่ปรากฏในหนังเรื่องนั้นๆก็เป็นสิ่งที่เราไม่อาจละเลยได้...
.
.
...เพราะเมื่อเราอยู่หน้างาน...เราต้องมีความรู้รอบเตียงมากพอจนสามารถแก้สถานการณ์เฉพาะหน้าได้เป็นอย่างดี และนั่นจะช่วยให้คู่ของเราสุขสมหวังและอิ่มเอมใจไปกับเซ็กส์ของเราได้มากที่สุด... 
.
.
...ถ้าทำได้แบบนั้น ไม่ว่าใครก็ต้องภูมิใจในตัวขนุนทั้งนั้นแหละฮะ ที่ขนุนทำให้เค้ามีความสุขตลอดเวลาที่มีอะไรกัน ขนุนว่าอย่างนั้นไม๊ล่ะฮะ?” ขนุนพยักหน้าหงึกหงักแสดงความเห็นด้วยอย่างตรงไปตรงมา

ผมเลยถือโอกาสพูดต่อในตอนที่อีกฝ่ายกำลังตั้งใจฟังมาก “อีกอย่าง มันก็ไม่ใช่แค่หนังโป๊เท่านั้น ที่เราต้องทำความเข้าใจหรอกนะฮะ เพราะระหว่างผู้ชายกับผู้ชาย มันยังมีอุปกรณ์อะไรอีกตั้งมากมาย ที่เราต้องทำความรู้จักอย่างลึกซึ้งก่อนการใช้งาน ขนุนเข้าใจใช่ไม๊ฮะ?” ผมว่าขนุนแม่งชักจะไม่เข้าใจแล้วว่ะ เพราะพอได้ยินคำว่าอุปกรณ์จากปากผม แม่งก็ทำหน้าเหมือนอยากจะเถียงสุดใจขาดดิ้น

“มันจะมีอะไรมากไปกว่าเจลหล่อลื่น กับถุงยางอีกล่ะน็อต ผมว่าสองอย่างนี้มันก็น่าจะครบแล้วนะครับ...
.
.
...ดีไม่ดี สำหรับบางคู่ที่รักเดียวใจเดียวและปลอดโรคกันทั้งสองคน อาจจะเหลือแค่เจลหล่อลื่นเพียงอย่างเดียวเลยนะ”

ผมยื่นมือไปจับบ่าของอีกฝ่ายเอาไว้มั่น แล้วบีบเบาๆ  ใจผมนี่อยากให้เรามีแอ็พฯทื่เชื่อมต่อให้ความคิดสามารถถ่ายทอดไปหาอีกคนได้ผ่านการสัมผัสจริงๆ ขนุนแม่งจะได้เข้าใจว่าอาณาจักรแห่งของเล่นที่ผมกำลังคิดอยู่ในหัวนี่ มันไม่ใช่ขี้ๆ และไม่ได้มีแค่เจลหล่อลื่นกับเสื้อกันฝนหลากไซส์หลายสีตามที่ขนุนเข้าใจ

แต่ผมกลับทำได้เพียง....บอกออกไปว่า “เชื่อน็อตเถอะฮะ ว่ามันมีอะไรมากกว่าที่ขนุนเข้าใจ เดี๋ยวพอเรียนถึงบทหลังๆ ขนุนจะเข้าใจเองแหละฮะ”

“แล้วเรื่องที่สามนี่คือเรียนอะไรเหรอ?....ทำความรู้จักกับร่างกายของตัวเอง??”

โอ้วววว อันนี้หัวข้อเด็ด...ก็จะอะไรล่ะฮะ ถ้าไม่ใช่จับนักเรียนมาตรวจร่างกายอย่างละเอียดถี่ถ้วน และถ้าเกิดคุณครูน็อตตรวจเจอว่าเด็กชายขนุนมีอาการป่วยที่น่าเป็นห่วง คุณครูจะได้ถือโอกาสฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันและบรรเทาอาการป่วยนั้นๆให้เด็กชายขนุนได้ทันท่วงที

ถึงอย่างนั้น ถ้าผมเกิดบอกออกไปแบบที่คิดเมื่อกี๊ ก็คงจะมีแต่พังกับพังเท่านั้น... ผมเลยต้องอั้นเอาไว้ก่อน...“อันนี้น็อตคงอธิบายได้ไม่ดีเท่ากับลงมือปฏิบัติน่ะฮะ เดี๋ยวพอถึงตอนนั้น...เราค่อยว่ากันอีกทีก็น่าจะดีนะฮะ” นิ้วผมแตะลงบนหน้าจอแล้วเลื่อนเอาหัวข้อที่สี่ขึ้นมาให้ขนุนมองเห็น 

ก่อนที่ขนุนจะกวาดตาต่ำลงไปอ่านหัวข้อข้างล่างที่เหลือ ผมก็รีบพูดโปรยหัวข้ออย่างล่กๆ “โอเค ทีนี้ ก็มาถึงเรื่องที่สี่ นั่นคือขั้นต่างๆของการร่วมรัก ซึ่งน็อตจะแบ่งเป็นเล้าโลม กับร่วมรักนะฮะ...” ผมกดปิดหน้าจอให้หยุดการทำงานแล้วคว้าเอาไอแพดมาจากมือของขนุนอย่างรวดเร็วที่สุด ”...ส่วนหัวข้ออื่นๆ เราเอาไว้คุยกันวันหลังก็ได้นะฮะ คืนนี้ดึกแล้ว...เรานอนกันเถอะนะฮะ”

ผมหันไปปิดโคมไฟหัวนอน แล้วจึงลุกไปปิดไฟห้อง แต่ก็ได้ยินเสียงเล็กๆของขนุนถามออกมา “อ้าว นี่น็อตจะไม่คุยต่อแล้วเหรอ... ผมว่าจะถามอยู่เลยว่าเราต้องลองแบบ SM แบบนอกสถานที่ และ PDA จริงๆน่ะเหรอน็อต?
(หมายเหตุ: PDA ย่อมาจาก Public Display of Affection หรือ หมายถึงการแสดงออกทางความรักในที่สาธารณะ)
.
.
.
ผมเดินกลับมาที่เตียงเพื่อกลับมานั่งที่เดิมนิ่งๆ เพื่อดูว่าอีกฝ่ายจะยอมล้มตัวลงนอนหรือไม่ หากผมดื้อแพ่งเลี่ยงไม่ตอบคำถาม... ขนุนแม่งรั้นเหลือเกินฮะ เท่านั้นยังไม่พอ เจ้าตัวยังส่งหน้าแว่นแบบหลอนๆมาจ้องหน้าผมเอาไว้ท่ามกลางแสงไฟวอมแวมจากโคมฝั่งหัวนอนของตัวเองที่ยังเปิดอยู่เป็นดวงสุดท้าย

จนผมต้องจำใจตอบ “แหม่ ตาไวเหมือนกันนะฮะขนุน... การที่เราต้องเรียนรู้เรื่อง SM  มีอะไรกันนอกสถานที่ และ PDA เนี่ยะ เป็นเพราะน็อตไม่รู้ว่า ในวันหน้า...ขนุนจะเกิดอยากเขียนนิยายที่มีฉากที่ตัวละครทำแบบนี้ต่อกันรึเปล่า และถ้าเราไม่ได้เรียน... ถ้าขนุนต้องใช้ประสบการณ์พวกนี้ขึ้นมาจริงๆ  ปัญหาการเขียนฉากร่วมรักไม่ได้ จะไม่ย้อนกลับมาอีกเหรอฮะ?”

“น็อตนี่รอบคอบดีนะฮะ คิดไปไกลถึงไหนๆเลย สงสัยว่าถ้าผมเรียนจบคอร์สนี้ ผมคงเขียนนิยายอย่างว่าได้อีกหลายเรื่อง” ผมรู้สึกเหมือนโดนแดกคืนอย่างนิ่มๆนะฮะ ไอ้ประโยคนี้ของขนุนเนี่ยะ... แต่ต่อให้ด่าผมเสียๆหายๆ ผมก็ไม่ว่าอะไรหรอก ตราบใดที่ขนุนยอมทำทุกอย่างที่ว่ามากับผม ผมแม่งก็พอใจแล้วว่ะ หึ หึ หึ

“มันก็ไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อยฮะ น็อตก็แค่ไม่อยากให้ขนุนต้องตกที่นั่งลำบากทีหลังไงฮะ.... มา มา... นอนนะฮะ” ผมจัดหมอนและที่นอนให้ขนุน แล้วดึงร่างของอีกคนให้เอนลงนอน ก่อนถอดแว่นป้าออกจากหน้าเอื้อมเอาไปวางที่โต๊ะข้างหัวนอนให้

ไอ้ตอนที่ผมกำลังยืดสุดแขนจะไปตบสวิตช์เพื่อปิดโคมไฟหัวนอนฝั่งขนุน คนที่ถูกผมคร่อมเอาไว้บางส่วนก็ถามออกมาด้วยเสียงเรียบๆ “อือ ว่าแต่...น็อตลืมอะไรไปรึเปล่า?”

ความสงสัยทำให้ผมต้องค้างติดนิ่งในท่าครึ่งๆกลางๆที่โคตรเมื่อยนั้นเพื่อถามขนุนให้รู้เรื่อง “อะไรเหรอฮะ? ไม่มีนี่ฮะ ทุกอย่างก็เรียบร้อยดี”

“อ้าว ก็น็อตบอกว่าถ้าผมไม่ถามคำถามคนที่นั่งในโต๊ะอาหารด้วยกันคนละสามข้อ ผมจะโดนลงโทษไม่ใช่เหรอ? วันนี้ผมว่าผมถามไม่ครบนะ แต่ก็ไม่เป็นไร...ถือว่าน็อตลืมก็แล้วกัน...”
.
.
ขนุนยิ้มมุมปากแล้วยกตัวเอี้ยวไปตบมือผมที่วางแปะอยู่บนสวิตช์ไฟจนทั้งห้องมืดลงในพริบตา ก่อนทิ้งตัวลงนอนที่เดิมแล้วทิ้งท้ายด้วยเสียงท้าทาย “...เอาไว้พรุ่งนี้ เราค่อยนับกันใหม่แล้วกัน...เนอะ!!!

ผมถึงกับต้องลุกขึ้นมานั่งขัดสมาธิบนเตียงแล้วเขย่าตัวของอีกคนให้ต้องลุกกลับขึ้นมานั่งเป็นเพื่อน แต่ดูเหมือนขนุนแม่งจะไม่ยอมอ่อยให้ เพราะอีกฝ่ายแกล้งทำตัวนอนนิ่งๆยอมให้ผมเขย่าตัวเขาไปมาได้ตามต้องการโดยไม่พูดอะไรเลย

“เฮ๊ยยยยย!!! ขนุน!!!..... อย่าเพิ่งนอนสิฮะ!!!
.
.
...แล้ววันนี้เราคุยอะไรกันตอนกินข้าวเย็นบ้างว้า นึกสิไอ้น็อต นึกเร็ว!!!!...
...ขนุน!!! ขนุนอย่าเพิ่งนอนฮะ!!! โธ่ว๊อยยยยย ทำไมถึงลืมเรื่องนี้ไปได้ซะสนิทเลยวะ แม่งเอ๊ย!!!

ไอ้เหี้ยน็อต นี่มึงเห่อเรื่องคุยมากกว่าการลวนลามถึงเนื้อถึงตัวขนุนอีกเหรอวะ????...
ทำไมถึงลืมเรื่องสำคัญระดับชาติแบบนี้ได้อย่างไม่น่าให้อภัยแบบนี้ว้า???????

ขนาดขนุนยังจำได้...แสดงว่าเขายอมให้มึงปู้ยี่ปู้ยำชำเราแก้มเขาได้ตามแต่มึงต้องการแล้วนะเว่ย...// ตอนเย็นขนุนคุยกับพี่กานต์เรื่องสูตรต้มยำซี่โครงหมูอ่อนที่พ่อครัวตั้งใจทำให้พวกเรากินแก้แฮงค์ // ไอ้ง่าววเอ๊ย ทำไมมึงถึงด้โง่ โง่ โง่ และโง่ได้โล่ห์อย่างนี้วะ!!// ....แล้วขนุนแม่งพูดเรื่องอะไรอีกวะกับพี่กานต์...โอย  ปวดหัวโว๊ยยย// (คร่อกกกกกก Z z z)

จนเมื่อผมได้ยินเสียงกรนเบาๆนั่นแหละ ผมจึงรู้ว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่ต้องรีบนึกตาหูแหกอีกต่อไปให้เหนื่อยเปล่า... คืนนี้คงต้องปล่อยลูกนกลูกกาให้นอนไปก่อน ทั้งๆที่เกือบจะนึกออกอยู่แล้วเชียวว่าวันนี้ขนุนพูดไปกี่ประโยค 

อ๊ากกกกกกกก....กู!!! กู!!! กู!!! กูเป็นอะไรของกู๊วะเนี่ยะ!!!!! ถ้าทำได้...ผมคงกระชากหนังหัวเปิดออก แล้วแหวกกระโหลกเพื่อดูว่าสมองผมแม่งเกิดปัญหาอะไรตรงไหน  ทำไมต่อมหื่นและฉวยโอกาสของผมถึงได้ตายด้านไปเสียดื้อๆอยู่แบบนี้


...เอาวะ พรุ่งนี้เช้าค่อยตื่นมาชำระความกันใหม่  ถึงตอนนั้นถ้าผมจะทบต้นทบดอกกันให้คุ้มค่ากับการตั้งตารอ ขนุนก็คงจะไม่ว่าอะไรหรอกมั้ง...
...สี่ที...
...หอมสี่ที...
...สี่ที...
...หอมสี่ที...
...สี่ที...
...หอมสี่ที...
...สี่ที...
...หอมสี่ที...
...เจริญล่ะกู คนอื่นนับแกะเพื่อให้นอน...กูนับจูบ เพื่อให้ไม่ลืม...
...สี่ที...
...หอมสี่ที...


และนั่นคือสิ่งสุดท้ายที่ผมจำได้ ภายหลังจากร่างเพรียวบางที่นอนอยู่ข้างๆถูกดึงเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดและเปลือกตาปิดลง



๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐