Tuesday, October 21, 2014

เขาวานให้ผมเป็น 'สายรับ' (เคคู่ผู้รู้รอบฯ) ❹ สร้างความประทับใจในตัวเรา







To: malinee@ilovebananapress.com
From: khemnun@ilovebananapress.com
Subject: re: re: re: re: re:  บทนำนิยายเรื่องใหม่ (แนวทดลอง)


กราบสวัสดีครับคุณพี่เมี่ยง


ผมต้องขอโทษด้วยจริงๆที่จำต้องเว้นช่วงการส่งต้นฉบับนิยายเรื่องนี้ไปนานหลายวัน  เนื่องมาจากช่วงที่ผ่านมา เกิดเรื่องขลุกขลักขึ้นที่บ้านนิดหน่อย ทำให้ผมมีเวลาเขียนต้นฉบับจำกัดแค่เพียงวันละไม่ถึงชั่วโมงดี 

หลังจากลุแก่โทษที่ห่างหายคล้ายจะห่างเหิน... ผมขอแก้ตัวด้วยต้นฉบับตอนล่าสุดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งน่าจะมีเนื้อหาถูกใจคุณพี่เมี่ยงอยู่บ้าง ไม่มากก็น้อย 

พร้อมกันนี้ ผมได้แนบรูปภาพของน็อตที่ผมได้แอบถ่ายจากรูปต้นฉบับ ซึ่งตั้งโชว์อยู่ที่คอนโดของเจ้าตัวมาให้คุณพี่เมี่ยงได้ใช้ประกอบการอ่านมาตามที่คุณพี่เมี่ยงประสงค์แล้วนะครับ 

รูปนี้น่าจะเก่าอยู่พอสมควร...ผมเดาว่า น่าจะเป็นรูปที่น็อตถูกแอบถ่ายตอนสมัยเรียน เพราะทรงผมกับรอยสักยังไม่หนักข้อเท่ากับที่เป็นอยู่ทุกวันนี้  ผมจึงต้องรบกวนคุณพี่เมี่ยงให้จินตนาการเพิ่มเติมถึงองค์ประกอบซึ่งขาดหายไปตามที่ผมได้บอกเอาไว้เพื่อให้ได้อรรถรสในการอ่านนิยายเรื่องนี้อย่างเต็มที่และสมจริงสมจัง

อนึ่ง เพื่อเห็นแก่บุคคลหนึ่งบุคคลใดผู้ถูกอ้างอิงประกอบในนิยายเรื่องนี้นอกเหนือไปจากตัวผมและน็อต  ผมขอไม่อธิบายเพิ่มเติมถึงเรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังของบุคคลที่สามท่านนั้นๆที่บังเอิญมีชื่อปรากฏอยู่ในนิยายเรื่องนี้ด้วยประการทั้งปวง  ขอบพระคุณสำหรับความเข้าใจของคุณพี่เมี่ยงในประเด็นนี้ครับ



น้อมรับคำติชมของคุณพี่เมี่ยงเสมอ และตลอดไป
ขอบพระคุณครับ
ขนุน






๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐


��🚹 บ่นบนบล็อก
ชื่อโพสต์ : How to Tame a Bad Boy 👿 ประทับรอยเท้าลงบนหัวใจอย่างไม่มีวันเลือน }}
สถานะ : Draft


หากพวกคุณเริ่มจะรู้สึกตัวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับผม เปรียบเสมือนความสัมพันธ์ต้องห้ามที่ต้องคอยหลบๆซ่อนๆหลบแฟน แอบสามี เพื่อออกมาเจอกันที่เถียงนากลางดึกสงัด ด้วยความที่เราทั้งคู่เป็นได้แค่ชู้ทางใจของกันและกันเท่านั้น...นั่นคงไม่ผิดไปจากความเป็นจริงเท่าไรนักหรอกครับ...

...เพราะอะไรๆหลายอย่างในชีวิตของผมเริ่มจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ กระทั่งตัวของผมเองไม่อาจจะควบคุม หรือบังคับได้  หลังจากที่ผมได้มีน็อตก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต  ส่งผลให้ผมไม่อาจจะให้เวลากับพวกคุณๆได้บ่อยเหมือนที่เคยตั้งใจเอาไว้อีกต่อไปแล้ว


ถ้าเป็นเมื่อก่อน... ผมยินดีใช้เวลาอันมีค่าทุกนาทีเพื่องานเขียน และการได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนอ่าน  แต่เดี๋ยวนี้ กลับกลายเป็นว่า เวลาของงานเขียน กลับถูกเจียดออกมาจากเวลาที่พอจะหาได้ หลังจากใช้ทำกิจกรรมต่างๆร่วมกับน็อตและคนรอบข้างเสร็จลงเรียบร้อยแล้วเท่านั้น   ซึ่งกว่าที่ผมจะได้นั่งลงเงียบๆ จรดปลายนิ้วมือลงบนคีย์บอร์ด เขียนบล็อกแบ่งปันเรื่องราวต่างๆในชีวิตที่เกิดขึ้น เพื่อให้พวกคุณได้อ่านต่างอุทาหรณ์ ให้ข้อคิด หรือเพื่อสร้างความบันเทิงนั้น...ก็ล่วงเลยมาเป็นช่วงเวลาไม่กี่นาทีก่อนจะเข้านอนในแต่ละคืน

ที่เกริ่นมาเสียยืดยาวด้วยเรื่องไม่น่าฟังเกี่ยวกับการไม่ตั้งอกตั้งใจทำงานของผมเท่าที่ควรจะเป็นนั้น ก็เพื่อบอกให้คุณรู้ว่า... น็อตน่ะ เค้ามาทำให้ชีวิตของผมเปลี่ยนไปมากจริงๆนะ...

...ที่สำคัญ การใช้เวลากับคนที่เราชอบนี่ มันเป็นช่วงเวลาที่สุดพิเศษเกินจะเอ่ย แบบที่ผมไม่เคยสัมผัสมาก่อน จนทำให้ผมหักห้ามใจไม่ให้อยากจะทำโน่นทำนี่อีกหลายต่อหลายอย่าง เพื่อสร้างความสุขให้กับน็อตอยู่ตลอดเวลาไม่ได้จริงๆ  และมันก็ช่างตรงกับหัวข้อที่สามของหนังสือคู่มือ ว่าด้วยการสร้างความประทับใจให้กับคนที่เราชอบอย่างไม่มีผิดเพี้ยน



การที่เราจะสร้างความประทับใจให้กับใครได้นั้น  จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเรารู้แน่แล้วว่า คนที่เราชอบเป็นคนแบบใด ชอบหรือไม่ชอบอะไร เพราะวิธีที่ง่ายที่สุดในการสร้างความประทับใจให้กับผู้อื่น คือ การลงมือทำในสิ่งที่คนผู้นั้นชอบหรือสนใจมากเป็นพิเศษ   ซึ่งท่านกูรูผู้เขียนได้แนะนำเพิ่มเติมอีกว่า เราควรจะทำสิ่งนั้นออกมาในรูปแบบที่เรามั่นใจว่า จะไม่มีใครในโลกใบนี้สามารถทำสิ่งเดียวกันสิ่งนั้นให้กับคนของเราได้อีกแล้ว นั่นแหละ...คือหัวใจสำคัญของการสร้างความประทับใจ ซึ่งจะตราตรึงอยู่ในหัวใจของคนที่เราชอบตราบนานเท่านาน

อย่างที่บอกไปหลายตอนก่อนหน้านี้ว่าคนของผมน่ะ สนใจอยู่ไม่กี่เรื่อง และเรื่องที่ดูเหมือนจะเรียกคะแนนให้กับผมได้ดีที่สุด ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องบนเตียง แต่อย่าเพิ่งกังวลไปนะครับ ว่าเนื้อหาของตอนนี้จะเกี่ยวข้องกับกิจกรรมอย่างว่าเพียงเรื่องเดียว เพราะผมยังได้ทำสิ่งละอันพันละน้อยอื่นๆ เพื่อสร้างความประทับใจให้กับน็อตในด้านอื่นๆด้วยเช่นกัน


** หมายเหตุก่อนการอ่าน**
บทความต่อไปนี้ไม่เหมาะสำหรับเด็กและเยาวชน เนื่องจากเนื้อหาบางส่วนของบทความ ได้พาดพิงถึงกิจกรรมทางเพศซึ่งควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน   หากท่านยังเป็นเด็กและเยาวชนแต่ท่านยังคงดื้อแพ่งไม่เชื่อฟัง...ผมแนะนำว่าไม่ควรลากผูัใหญ่ให้มานั่งอ่านร่วมกัน เพราะจะเป็นการสร้างความบาดหมางในครอบครัว และอาจเดือดร้อนถึงขั้นตัดค่าขนม  ถูกกักบริเวณ หรือสถานะทางเพศที่ท่านยังเก็บซ่อนเอาไว้เป็นอย่างดีอาจจะถึงคราวโป๊ะแตกก่อนเวลาอันควรได้


เนื่องจากเราไม่ได้เจอกันมาเป็นเวลาอาทิตย์กว่าๆ ผมขอเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวผมและน็อตตามลำดับเหตุการณ์เพื่อไม่ให้ตัวผมงงไปเสียก่อนนะครับ 

ความประทับใจแรกที่ผมได้ทำเพื่อให้น็อตรู้สึกมีความสุขนั้น น่าจะเป็นเรื่องที่ทำให้พวกคุณบางคนรู้สึกตื่นเต้นได้อย่างแน่นอน  เพราะมันเป็นความสุขที่เกิดขึ้นจาก ขั้นตอนหนึ่งของหนทางไปสู่แห่งเซ็กส์แบบจะแจ้ง ไม่มีการอ้อมค้อมอย่างที่เคยเป็นมาก่อนหน้านี้อีกต่อไป...

...แต่ผมรบกวน ขอให้พวกคุณใจเย็นๆกันก่อนนะครับ อย่าเพิ่งคิดลึกไปถึงไหนๆ เพราะความสุขที่ผมพูดถึงนี่ เกิดจากการเล้าโลมล้วนๆครับ

ผมนึกขอบคุณตัวเองอย่างที่สุด ที่เมื่อหลายปีก่อน ผมได้มีโอกาสอ่านนิยายชายรักชายเรื่องหนึ่ง ซึ่งนิยายเรื่องนั้น...เป็นนิยายที่ผมรักมาก หลักใหญ่ใจความคงจะเป็นเพราะเคะในเรื่องมีบุคลิก หน้าตา และท่าทางอันงามสง่า รวมไปถึงอุปนิสัยใจคอทุกกระเบียดตรงกับชายในฝันของผมครบถ้วนทุกประการ  

หลังจากอ่านจบครั้งแรก ผมก็ตกหลุมรักเคะในนิยายเรื่องนั้นอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ผมบ้าเคะผู้โลดแล่นอยู่ในนิยายเอาเสียมากๆถึงขั้นพร่ำเพ้อละเมอหา สลับไปกับร่ำไห้เสียใจด้วยเพราะอกหักอยู่หลายวัน... เพราะบทสุดท้ายของนิยาย ปิดลงด้วย ฉากที่ไอ้เมะสุดเถื่อนสถุลจอมวายร้าย ได้ใจของเคะอันเป็นที่รักของผมไปครองแต่เพียงผู้เดียว  


ถึงแม้ครั้งสุดท้ายที่ผมได้อ่านนิยายเรื่องที่ว่าจะเป็นเวลาหลายปีมาแล้วก็ตาม แต่ผมยังจำรายละเอียดต่างๆได้ดี ไม่มีลืมเลือน  ไม่เท่านั้น...ทุกๆฉากยังชัดเจน และไม่มีตกหล่นแม้แต่นิดเดียว ผมจำได้กระทั่งว่า...ช่วงเวลาที่ผมนั่งอ่านหนังสือนิยายเล่มนั้นในครั้งแรกเป็นเช่นไร... 

...บ่ายของวัน หลังจากได้รับหนังสือนิยายเล่มใหม่ทางไปรษณีย์ ผมก็เริ่มใช้เวลากวาดสายตาอ่านไล่ไปตามทุกๆตัวอักษรด้วยความเพลิดเพลิน   เพียงไม่นานหลังจากเริ่มอ่าน...ความสวยงามของถ้อยคำที่เรียงร้อยมาเป็นอย่างดีของเรื่องราวความรักระหว่างพวกเขาทั้งสองคน ก็ได้ดึงดูดให้ผมหลุดเข้าไปในโลกอีกใบ... ผมนั่งชมภาพต่างๆที่สะท้อนเหตุการณ์แล้วเหตุการณ์เล่าของคู่รักทั้งสองอย่างรื่นรมย์  และแล้ว...ผมก็อ่านมาถึงฉากที่กระแทกใจผมอย่างที่สุด จนทำให้ผมยอมมอบหัวใจทั้งดวงให้กับเคะในเรื่องนี้โดยไม่มีข้อแม้  นั่นคือ...ฉากคืนแรกที่ทั้งสองร่วมรักกันนั่นเอง...

...ตรงหน้าผมเป็นเตียงขนาดคิงไซส์หรูหราที่ตัวละครหลักของเรื่องใช้เป็นสถานที่เริงรักกันอย่างไม่มีเหนียมอาย  ทั้งคู่ทำเหมือนว่า...อยากให้ผมเป็นเพียงผู้เฝ้าชมบทรักอันเร่าร้อนนั้นด้วยสองตาของผมเอง  ผมจึงจำเป็นต้องยอมรับสภาพทำหน้าชื่นนั่งดูพวกเขาสองคนพลอดรักกันต่อหน้าด้วยความรู้สึกมากมายระคนกันไปหมด... ทั้งความตื่นเต้นหวือหวาจากอารมณ์วาบหวามของบทเข้าพระเข้านายด้วยฝีมืออันเหนือชั้นของผู้เขียน ทั้งความอึดอัดและเจ็บปวดที่ต้องทนเห็นตัวละครฝ่ายรับที่ผมหลงรักต้องตกเป็นสมบัติของชายคนอื่นไปต่อหน้าต่อตา...

...แต่ความรู้สึกที่ทำให้ผมฝังใจกับเคะผู้นั้นคือ ความรู้สึกทึ่งในลีลาการเอาใจใส่คนรักของตนผ่านการใช้ปาก ความพลิ้วไหวไหลลื่นของลีลาปลายลิ้น และอากัปกิริยา สีหน้า ท่าทางยามที่เคะผู้นั้นประกอบกิจบำเรอโอษฐ์กามให้คู่รักของตน มันช่างกระแทกใจผมมากเสียจริงๆ  จนผมต้องสารภาพตรงนี้เลยว่า...หลังจากอ่านตอนนี้จบ ผมถึงกับต้องยอมปิดหนังสือ เพื่อนั่งสงบจิตสงบใจอยู่ในห้องน้ำเป็นนานสองนานเลยทีเดียว

นับจากวันนั้นมา...ภาพที่ผมเห็นหลังจากการอ่านนิยายเรื่องนั้น ก็ติดอยู่ในหัวผมไม่ยอมจางหายไปเสียที จนผมเกิดฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า ลำพังแค่ได้อ่านฉากอันน่าตื่นตาตื่นใจที่ว่าผ่านตัวหนังสือยังทำให้รู้สึกดี หนำซ้ำยังติดตาตรึงใจอยู่ในความทรงจำได้อย่างรุนแรง ถึงขนาดทำเอาผมเฝ้าแต่นึกย้อนไปถึงภาพจากฉากนั้นอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่า   

และถ้าเราเปลี่ยนสถานการณ์ทั้งหมดให้เป็น...การที่คนรักในอนาคตได้รับการปรนเปรออย่างถึงอกถึงใจด้วยปากของผม...แต่ลีลาเป็นเลิศไม่ต่างจากเคะในนิยายคนนั้นดูบ้างล่ะ  คนของผมจะรู้สึกดีได้มากแค่ไหนกัน???  นั่นจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้น ของการฝึกฝนการทำรักด้วยปากอย่างเอาเป็นเอาตายของผมเท่าที่โอกาส และความสามารถจะอำนวย




ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ในช่วงที่ผมล้มลุกคลุกคลานกับความรักซึ่งไม่เคยสมหวัง ผมเริ่มจะไม่แน่ใจว่า เทคนิคการสร้างความสุขให้กับคู่ของตัวเองด้วยปากที่ผมเฝ้าเพียรฝึกมาตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนนั้น จะได้ถูกนำออกมาใช้จริงๆ... แต่แล้ว สวรรค์ก็มีตาฟ้าก็มีใจ...ด้วยเห็นแก่ความพยายามและตั้งใจจริงของผม จึงได้ประทานโอกาสอันงดงามที่สุดลงมาให้ผมในรูปของคนรักหน้าตาหล่อเหลาผู้ครบเครื่องไปเสียทุกอย่าง  และเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว...ผมก็ได้มีโอกาสทดลองฝีมือ เอ๊ย! ฝีปากของตัวเองเข้าจนได้

เพื่อป้องกันไม่ให้บล็อกของผมถูกสั่งปิด หรือถูกองค์กรอีเมลและอินเตอร์เน็ตโลกคว่ำบาตรไปตลอดชีวิต...ผมขอไม่เล่าถึงรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนะครับ  แต่ผมก็ไม่อาจทำตัวไม่มีหัวใจกับพวกคุณได้เสียทีเดียวหรอก เพราะผมเลยจะชดเชยด้วยการเล่าถึงความประทับใจของน็อตที่มีต่อไม้เด็ดของผมให้คุณได้อ่านแทนก็แล้วกัน

เหตุการณ์ของบทสนทนานี้เกิดขึ้นในช่วงบ่ายแก่ๆของวันหนึ่ง หลังจากน็อตได้ประจักษ์กับความเชี่ยวชาญอันร้ายกาจของปากผมเป็นที่เรียบร้อย  ตอนนั้น...ผมได้ปลีกตัวออกจากวงสนทนากับเหล่าเพื่อนบ้าน เพื่อขึ้นไปเอายาให้เพื่อนคนหนึ่งซึ่งกำลังป่วย (ผมจะเล่าเรื่องของเพื่อนคนนี้ให้พวกคุณฟังด้วยในตอนถัดไปนะครับ)  แต่กลับต้องเจอเข้ากับน็อตที่ดักรอผมอยู่หน้าห้องนอนของเพื่อนคนนั้น โดยที่เจ้าตัวพยายามขวางทางเอาไว้ และไม่มีทีท่าว่าจะยอมให้ผมเดินผ่านไปง่ายๆ ภายหลังจากที่เขาเห็นว่า ผมยอมหยุดคุยกับเขาดีๆ น็อตจึงเปิดบทสนทนาด้วยการถามไถ่เรื่องงานเขียนของผมอย่างเป็นห่วงเป็นใย...

...หึ หึ แต่แค่มองตาผมก็รู้ได้ทันทีว่าเขาอยากจะรู้ว่า ช่วงเวลาดึกของคืนนั้น ผมจะพอมีเวลาให้เขาได้เล่นกับผมอย่างที่เขาต้องการหลังจากคืนสุดท้ายคืนนั้นที่เราได้ใกล้ชิดกันบ้างหรือไม่  ผมเลยคว้าโอกาสอันดีที่เราได้พูดคุยกันต่อหน้าต่อตาแบบนี้เอาไว้ ก่อนจะบังคับเขากลายๆ เพื่อให้บอกถึงผลของการฝึกฝนเทคนิคการใช้ปากอันยาวนานหลายปีของผมเสียเลย


น็อตที่กำลังยืนขวางทางด้วยสีหน้าไม่พอใจ เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงอ้อนๆเบาๆว่า “ขนุน...เอาเป็นว่าคืนนี้ไม่ทำงานแล้วกันนะฮะ  ไม่อย่างนั้นเราคงไม่มีโอกาสไหนได้ทบทวนการเรียนการสอนบทล่าสุดกันเลย เดี๋ยวขนุนจะลืมเอาได้นะฮะ” ผมเห็นหน้าน็อตแล้วก็อดใจอ่อนออกมาไม่ได้ เพราะเขาดูเว้าวอนและต้องการตัวผมมาก แล้วไอ้สายตาและท่าทางแบบนั้นน่ะ มันทำให้ผมอยากจะเอาใจเขาให้มากยิ่งๆขึ้นไปอีก แบบที่ผมเองไม่อาจจะควบคุมตัวเองได้เลย

ผมเลยหลุดปากตอบรับคำเขาไป ทั้งที่ในใจผมกลับไม่แน่ใจถึงความเป็นไปได้ที่เราจะได้ใช้เวลาด้วยกัน ตามคำขอสุดน่ารักของน็อตแม้แต่นิดเดียว “อืมม ขอขนุนดูก่อนนะ เพราะขนุนเหลืองานปรับแก้เนื้อหาสองบทสุดท้ายของนิยายเรื่องที่เพิ่งเขียนจบไป เพื่อส่งให้สำนักพิมพ์พิสูจน์อักษรเช้าพรุ่งนี้น่ะ”

พอรู้ว่าผมไม่คิดตัดรอน น็อตก็ยิ้มออกมาอย่างพออกพอใจ แล้วพูดจาประจบเอาใจผมทันที “งั้นเอางี้...คืนนี้เราขึ้นห้องนอนเร็วหน่อย เพื่อที่ขนุนจะได้มีเวลาทำงานนานขึ้นนิดนึง ระหว่างนั้น...ขนุนก็รีบขึ้นปั่นงาน เดี๋ยวน็อตจะเตรียมอุปกรณ์เสริมการเรียนที่น่าสนใจรอขนุนไปพลางๆ...
.
...พอขนุนทำงานเสร็จ เราสองคนก็ลงมือทบทวนบทเรียนว่าด้วยการเล้าโลมกันสักรอบหนึ่ง แล้วค่อยนอนดีไม๊ล่ะฮะ?”

“ขนุนไม่มีปัญหาหรอก...
.
.
...ขนุนแค่อยากรู้ว่าน็อตรู้สึกยังไงกับการเรียนเรื่องเล้าโลมของเราเมื่อคราวที่แล้วบ้างน่ะ?” ผมตั้งใจถามเพื่อให้เจ้าตัวตอบเรื่องที่ผมต้องการรู้มากที่สุด... ผมอยากแน่ใจว่า การลงทุนลงแรงของผม ตลอดหลายปีที่ผ่านมานั้น มันออกดอกออกผลคุ้มค่ากับเวลา และพละกำลังที่เสียไปหรือเปล่า

“ก็อย่างที่น็อตบอกไปเมื่อตอนที่เราคุยกันคืนนั้นแหละฮะ ว่า น็อตชอบที่ขนุนใช้ปากให้น็อตมาก ไอ้เรื่องการบรรยายความรู้สึกของผู้ได้รับการปรนนิบัตรเป็นอย่างดีระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ของปากขนุนน่ะ... น็อตว่า เดี๋ยววันไหนน็อตลองทำให้ขนุนดูบ้าง ขนุนน่าจะเข้าใจได้ง่ายกว่ามานั่งฟังเลคเชอร์แห้งๆจากปากน็อตอยู่อย่างนี้แน่ๆแหละฮะ...
.
.
...แต่ถ้าเป็นความรู้สึกของน็อตหลังจากที่ได้รับการใช้ปากของขนุนแล้วล่ะก็ บอกได้เลยว่า...
...น้องน็อตของสอง..สาม..สี่...ห้า...และขอเบิ้ลอีกเรื่อยๆจะได้ไหมยังไงยังงั้นเลยฮะ” คนพูดเอ่ยยิ้มๆเหมือนกับพอใจในคำตอบของตัวเอง ซึ่งสิ่งที่น็อตตอบออกมาอย่างตรงไปตรงมานี้เอง ก็ทำให้ผมอดดีใจไม่ได้จริงๆ เพราะถ้าผมทำให้น็อตพอใจด้วยเรื่องนี้ได้ การจะมัดใจให้น็อตรักที่จะมีเซ็กส์กับผมไปตลอด ก็คงจะไม่ยากเกินความสามารถของผมสักเท่าใดนัก

แต่เพื่อให้แน่ใจ ผมจึงทำท่าเหมือนไม่เชื่อหูตัวเอง แล้วปรามาสอีกฝ่ายให้ยอมเอ่ยปากย้ำความรู้สึกของตัวเองออกมาอีกครั้ง “หึ หึ...ขนาดนั้นเลยเหรอน็อต นี่น็อตกำลังพูดเอาใจขนุนอยู่รึเปล่า...  ไม่ใช่ว่าขนุนเป็นพวกฝีมือปลายแถว แต่น็อตไม่อยากให้ลูกศิษย์คนเดียวต้องเสียกำลังใจ เลยลงทุนเชียร์อย่างเต็มที่อยู่แบบนี้หรอกนะ”

“เฮ๊ยยย ขนุน! พูดอย่างนี้เหมือนดูถูกน้ำใจของน็อตเลยนะฮะ”  น็อตเดินเข้ามาพูดใกล้ๆแนบข้างๆหูของผมอย่างตั้งใจ   “ถ้าขนุนไม่เชื่อ เราลองกันอีกทีตอนนี้เวลานี้เลยก็ได้นะฮะ น็อตจะได้ค่อยๆทบทวนความรู้สึกระหว่างที่ขนุนใช้ปากให้น็อตอีกครั้ง  ว่าไอ้ความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับน็อตในคราวที่แล้วน่ะ...มันเป็นเรื่องจริง  หรือเป็นเพราะว่าน็อตคิดไปเองเพราะต้องการให้กำลังใจขนุน... ดีไม๊ล่ะฮะ?”

ผมเห็นสายตาจริงจังไม่มีแววเล่นส่งออกมาเพื่อประกอบคำชวนเมื่อครู่แล้วก็เข้าใจได้ทันทีว่าเจ้าตัวหมายมั่นกับสิ่งที่ตนเพิ่งเอ่ยออกมามากเพียงใด ผมเลยต้องตัดใจปฏิเสธน็อตไปทันที “ไม่ดีหรอกน็อต...คนอื่นนั่งอยู่ข้างล่างตั้งเยอะแยะ เราหายกันมาสองคนแบบนี้ เดี๋ยวเค้าจะเป็นห่วงเอาได้  อีกอย่าง...ขนุนเชื่อแล้วล่ะ ว่าที่น็อตบอกมาน่ะเรื่องจริง”

“ถ้างั้น...เอาเป็นว่า คืนนี้หลังจากขนุนเคลียร์งานเสร็จแล้ว ขนุนทำให้น็อตอีกได้ไม๊อ่ะฮะ....เพื่อแลกกับเวลาที่น็อตต้องเสียไปหลายคืนก่อนหน้า หลังจากที่ตั้งตารอขนุนทำงาน แต่งานขนุนก็ดันไม่เสร็จเสียทีน่ะฮะ”  นี่แหละคือสิ่งที่ผมอยากได้ยินที่สุด... น็อตออกปากร้องขอให้ผมทำรักด้วยปากให้อีกครั้ง หลังจากคราวที่แล้วที่ผมได้ทดลองฝีปากเป็นครั้งแรกไป... ผมดีใจจริงๆ!!

ผมเลยตอบรับคำขอของอีกฝ่ายอย่างไม่ลังเล “อื้ออออ... เอาอย่างนั้นก็ได้”

คนฟังยิ้มออกมาอย่างพอใจแล้วก้มลงมาหอมแก้มผมอย่างเต็มรัก ซึ่งนับตั้งแต่ที่เราใกล้ชิดกันมากๆเมื่อครั้งก่อน น็อตก็แสดงออกทางความรักด้วยการจูบและหอมผมบ่อยครั้งเท่าที่เจ้าตัวต้องการอย่างไม่เคอะเขินอีกต่อไป

“(ฟอดดดดด) ขนุนนี่น่ารักจังเลยฮะ... เดี๋ยวคืนนี้น็อตสอนแบบทุ่มทุนสร้างไม่มีหมกเม็ดเคล็ดวิชาเลยฮะ”


ผมคงไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่มเติมให้มากความแล้วใช่ไหมครับว่าอะไรเป็นอะไร ยิ่งพักหลังๆมานี่ น็อตยิ่งออกอาการหวั่นไหวทุกครั้งที่เขามีโอกาสได้เห็นผมอ้าปากกว้างๆและเผลอค้างไว้บางขณะ อย่างเช่น เวลาผมเผลอหาวโดยลืมปิดปาก... ผมบอกเลยว่า...อาการของน็อตหนักกว่าตอนแอบมองขา และหลังของผมหลายเท่าเลยครับ สงสัยผมจะไปเผลอทำให้น็อตติดอกติดใจกับปากผมเข้าเสียแล้วสิ    เป็นอย่างไรบ้างล่ะครับ...สำหรับความประทับใจแรกที่ผมทำเพื่อน็อต เข้าทีไม่หยอกใช่ไหมล่ะครับ หึ หึ




มาต่อกันที่ความประทับใจที่สองที่เกิดขึ้น  เรื่องนี้อาจจะดูเป็นสิ่งเล็กน้อยสำหรับพวกคุณ แต่สำหรับผมนั้น...ถือเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ และนับเป็นความสำเร็จในชีวิตอย่างแท้จริงรองลงมาจากการได้ทำงานในสายอาชีพนักเขียนที่ผมรักเมื่อหลายปีก่อนเลยทีเดียว... นั่นคือ ผมสามารถพูดจาตามปกติโดยไม่หลุดพูดจาภาษาราชการ หรือภาษาหนังสือได้แล้วครับ 

หากพิจารณาตามความเป็นจริงแล้ว ความสำเร็จในเรื่องนี้...ต้องนับเป็นเรื่องน่าประทับใจที่น็อตทำให้ผม ไม่ต่างจากที่ผมทำคืนให้กับเขา  เพราะผมไม่คิดว่าตัวเองจะสามารถกลับมาพูดเหมือนคนอื่นๆได้ ภายในเวลาอันรวดเร็วถึงเพียงนี้...

นับตั้งแต่วันแรกที่ข้อตกลงของผมกับน็อตเริ่มขึ้นราวๆเกือบสองอาทิตย์  ผมไม่หลุดอาการพูดจาแปลกๆอีกเลย... 

...นั่นจึงหมายความว่า... ผมใช้เวลาเพียงประมาณอาทิตย์กว่าๆเท่านั้นเพื่อปรับเปลี่ยนและแก้ไขวิธีพูด ซึ่งผมไม่เคยทำสำเร็จเลยก่อนหน้าที่ผมจะได้รู้จักกับน็อต  ซึ่งผมขอบอกข้อมูลเพิ่มเติมถึงความน่าประทับใจของเรื่องนี้ให้อีกข้อหนึ่ง นั่นก็คือ...หลังจากที่ผมรู้ตัวว่าผมพูดปกติได้แล้ว... ผมลองพยายามกลับไปพูดแบบเดิมดูเพื่อทดสอบตัวเอง แต่กลับพบว่า ผมต้องใช้เวลานึกเตรียมคำพูดอยู่นาน กว่าที่ผมจะกลับไปพูดอย่างที่เคยพูดเมื่อก่อนได้

แรงผลักดันซึ่งทำให้ผมแก้ไขข้อด้อยของผมข้อนี้ได้สำเร็จ มาจากน็อตเพียงคนเดียวจริงๆ  เหตุที่ผมยกความดีความชอบให้เขาไปเต็มๆคงเป็นเพราะ 

หนึ่ง...เดิมทีผมเคยสังเกตตัวเองแล้วก็ได้ข้อสรุปว่า ผมมักจะพูดจาเป็นปกติเวลามีคนสนิทอยู่ร่วมบทสนทนาด้วย ซึ่งทุกวันนี้ หากน็อตไม่ต้องไปทำงานหรือทำธุระให้ที่บ้าน...เขาจะไม่เคยปล่อยให้ผมอยู่ห่างกายแม้สักวินาที และจากเหตุผลข้อแรกนี่แหละ ที่ช่วยส่งเสริมให้การแก้ไขข้อบกพร่องของผมเป็นไปอย่างง่ายดายยิ่งขึ้น เพราะเมื่อผมรู้สึกตัวว่ามีน็อตอยู่ข้างๆ รับรู้ได้ถึงสายตาของเขาที่จับจ้องมาที่ผมอยู่เสมอ...ผมก็รู้สึกสบายใจ และมีความมั่นใจที่จะพูดมากขึ้น 

ส่วนเหตุผลข้อที่สอง...ก็หนีไม่พ้นอิทธิพลจากตัวน็อตอีกเหมือนกัน เพราะเขาได้คิดค้นมาตรการเตือนสติให้ผมไม่หลุดพูดจาแปลกๆซึ่งได้ผลชะงัดนัก ได้แก่...จูบหนึ่งครั้ง หากผมเผลอพูดแปลกๆหนึ่งคำ

ครั้งแรกที่น็อตนำเสนอเรื่องนี้ให้ผมฟัง ผมก็รู้ได้เลยว่า...นี่เป็นเพียงแผนการบังหน้าเพื่อหาเรื่องลวนลามผมของเขาเท่านั้น หากแต่มันกลับได้ผลตามคำอธิบายที่เขายกขึ้นมาประกอบจริงๆ  เพราะผมจะคอยนึกถึงบทลงโทษน่ารักๆนี้ขึ้นมาทุกครั้ง ก่อนจะเอ่ยปากพูดอะไรออกไปสักคำ...

...และการฉุกคิดถึงบทลงโทษนี้  ก็พลอยทำให้ผมพาลนึกไกลไปถึงตัวน็อต กับความปรารถนาดีของเขา (แม้เจ้าตัวมักจะแฝงการฉวยโอกาสเอาไว้ในทุกๆอุบายบังหน้าที่เขายกขึ้นมาบังคับใช้กับผมก็ตาม)  ผมจึงระมัดระวังการใช้คำพูดได้เป็นอย่างดี และนั่นก็ส่งผลให้ ผมสามารถแสดงออกทางคำพูดได้อย่างคล่องแคล่วและเป็นธรรมชาติจนแทบไม่น่าเชื่อ

ด้วยความดีอกดีใจอย่างออกนอกหน้ากับเรื่องดีๆเรื่องนี้ ทำให้ผมพยายามหาโอกาสแสดงให้น็อตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของตัวผมให้เขาได้ประทับใจอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยกับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆแถวบ้านที่มารวมตัวสังสรรค์ พูดคุย ทำกิจกรรมโน่นนี่ร่วมกันทุกๆบ่ายมากยิ่งขึ้น  ไม่ก็คอยหาโอกาสเล่าเรื่องโน่นนี่ที่เคยพบเจอหรืออ่านมาให้คนอื่นๆได้รับฟังบ้าง หรือกระทั่งการเปิดประเด็นการพูดคุยกับใครๆก่อนเมื่อมีจังหวะเหมาะสม 

ซึ่งดูเหมือนน็อตเองน่าจะรับรู้ถึงพัฒนาการของผมได้เช่นกัน เพราะเมื่อคืนก่อน เขายังเอ่ยปากชมผมอยู่เลย แต่ดูจากอาการไม่สบอารมณ์ของคนชม ผมก็รู้ได้ในทันทีว่า...ถึงเขาจะประทับใจกับการพูดแบบใหม่ของผมอยู่ไม่น้อย แต่เขากลับไม่ค่อยมีความสุขเท่าไรนัก  เพราะมันทำให้เขาไม่มีข้ออ้างในการปล้นจูบผมบ่อยเท่าที่ต้องการอีกต่อไปแล้วอย่างไรล่ะ...

หึ หึ ผมนี่อยากจะบอกเขาใจแทบขาดเลยว่า ถ้าเราได้เป็นของกันและกันเมื่อไร ต่อให้เขาไม่ร้องขอ ไม่งอแงอยากได้จุมพิตจากผมเหมือนอย่างทุกวันนี้... ผมเองนี่แหละ จะเอาปากตัวเองไปป้อนลงตรงปากของเขาแบบเนื้อๆเน้นๆด้วยความเต็มใจนาทีเว้นนาทีเชียวล่ะ





ความประทับใจเรื่องถัดมา...ผมเองก็ไม่รู้หรอกว่า เรื่องนี้จะนับเป็นความประทับใจได้ไหม..และน็อตจะรู้หรือไม่ ผมขอแค่ได้ทำให้เขามีความสุขเพื่อชดเชยช่วงเวลาที่เราไม่ได้แนบชิดกันตลอดทั้งอาทิตย์ที่ผ่านมา พร้อมทั้งใช้เป็นโอกาสในการชดใช้ให้กับเรื่องราวกวนใจเขาที่มีผมเป็นผู้คอยกำกับอยู่เบื้องหลัง พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้เขาทำในสิ่งที่เขาต้องการอย่างเต็มที่ นั่นคงช่วยทำให้เขารู้สึกดีมากพอดูอยู่ล่ะมั้ง

เอ...ว่าแต่ ผมควรจะบอกเรื่องนี้กับพวกคุณดีไหมล่ะนี่??...
...ไม่ใช่อะไรหรอก...ก็แค่มันค่อนข้างจะเป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่ควรเล่าให้ใครฟังน่ะสิ แต่ก็เอาเถอะนะ...ในเมื่อผมตั้งใจจะตีแผ่เรื่องราวของผมให้พวกคุณได้รับรู้แต่แรก ครั้นจะมาทำขวยเขิน แล้วละเมิดความตั้งใจเดิม ผมคงเป็นได้แค่ไม้หลักปักขี้เลนเท่านั้น

เมื่อคืนวานเป็นคืนที่ผมได้ใช้เวลาอยู่กับน็อตตลอดทั้งคืน...
อืมม ผมคิดว่า...เราควรเรียกช่วงเวลาเมื่อคืนที่ผมใช้กับน็อตว่า โต้รุ่งจะเหมาะกว่า

คุณคงพอนึกออกกันใช่ไหม ว่าหากมีช่วงเวลาที่ผู้ชายสองคนซึ่งปรารถนาในตัวซึ่งกันและกันอย่างท่วมท้น ได้มีเวลาสงบๆอยู่ด้วยกันสองต่อสอง พวกเขาจะทำอะไรกัน... หึ หึ...ก็อย่างที่พวกคุณเข้าใจนั่นแหละ ผมกับเขา เราก็นัวเนียกันตามประสาคู่รักทั่วๆไป ผิดอยู่ตรงที่...เราสองคนไม่อาจเปิดเผยความรู้สึกที่เรามีต่อกันผ่านถ้อยคำหวานหูได้เท่านั้นเอง แต่ถ้าชี้วัดความรู้สึกของเราผ่านการกระทำของร่างกายโดยเฉพาะแล้วล่ะก็...ผมรับรองได้เลยว่า ความรู้สึกที่เราสองคนมีให้กันช่างรุนแรงและเข้มข้นเสียเหลือเกิน 

ต้นเหตุที่ผมยอมอดตาหลับขับตานอนเพื่ออยู่เป็นเพื่อนเล่นให้เขาเป็นเพราะ วันนี้และวันพรุ่งนี้...น็อตจะต้องไปค้างต่างจังหวัด และนี่จะเป็นคืนแรกที่เราจะไม่ได้นอนด้วยกัน  หลังจากที่น็อตบอกให้ผมรับรู้เรื่องที่เขาจะไม่อยู่...ผมรู้ดีว่าน็อตจะต้องสำแดงฤทธิ์เดชในคืนสุดท้ายก่อนที่เราจะไม่ได้นอนด้วยกันแน่ๆ

และไม่มีอะไรผิดไปจากการคาดการณ์ของผมเลยแม้แต่น้อย เพราะทันทีที่เรากลับเข้าห้องนอน น็อตก็ออกอาการอ้อนและน้อยอกน้อยใจเรื่องที่ผมไม่มีเวลาช่วงกลางคืนให้อย่างเห็นได้ชัด ทั้งชักสีหน้า ทั้งพูดจาตัดรอน...และสารพัดลูกไม้อ้อนๆต่างๆนาๆที่เขาสรรหามาใช้เพื่อขอให้ผมยอมผ่อนปรนเงื่อนไขและไม่ทำงานหนึ่งคืน เพื่อให้เราได้ใช้เวลาคุณภาพด้วยกันอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย

จริงๆแล้ว ผมเองก็คิดเรื่องนี้เอาไว้ตั้งแต่ก่อนที่เราจะกลับเข้าห้องมาก่อนจะรู้ว่าน็อตจะไม่อยู่เสียอีก เพราะผมเคลียร์งานค้างทั้งหมดเสร็จสิ้นไปแล้วตั้งแต่คืนก่อนหน้า ผมเลยอยากจะให้เวลากับน็อตบ้าง เพราะผมอดสงสารน็อตที่ต้องอดตาหลับขับตานอนนั่งรอผมมาตลอดหลายคืนติดๆกันโดยไม่ได้ใช้เวลาสองต่อสองกับผมเลย   นอกจากนั้น ผมยังอยากจะให้รางวัลกับความน่ารักของเขา ที่เขาเข้าใจและยอมให้ผมได้ทำงานตามที่ผมต้องการโดยไม่คิดบ่น หรือออกอาการไม่พอใจจนถึงกับหาเรื่องชวนทะเลาะเลย แม้ผมจะเป็นฝ่ายผิดคำพูดกับเขาเพราะมัวแต่นั่งทำงานจนเพลินไปหลายครั้ง และที่สำคัญที่สุดเห็นจะเป็น... ความปรารถนาในใจของผมที่อยากจะสัมผัสร่างกายของน็อตอย่างสุดขีด  จนผมเองก็ชักจะทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน




ผมสารภาพกับพวกคุณตรงนี้เลยนะครับว่า...ทุกๆคืนที่น็อตเผลอหลับสนิทไประหว่างที่รอผมเคลียร์งานนั้น... ผมมักจะฉวยโอกาสช่วงที่เจ้าตัวกำลังหลับพักผ่อน  นั่งมองรูปร่างและใบหน้างดงามสมชายของเขาอย่างลุ่มหลงอยู่เป็นเวลานาน  ภายหลังจากที่ผมปิดคอมด้วยความพอใจกับปริมาณงานที่ทำได้ในแต่ละวันแล้ว   ผมบอกเลยนะครับว่า...การได้เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของน็อตนอนหลับอย่างเป็นสุขข้างๆกาย มันช่วยทำให้ผมนอนหลับฝันดีไปตลอดทั้งคืน

และหากคืนไหนผมเกิดอดใจไม่ไหวขึ้นมาจริงๆ ผมก็มักจะแอบลูบไล้เบาๆไปตามแผงอกเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยรอยสักของเขา ซึ่งมันทำให้ผมเริ่มตกหลุมรักผิวหนังนูนเป็นเส้นและลวดลายต่างๆตามร่องรอยของเข็มสักเหล่านั้นขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล  จากนั้น...ผมจะก้มลงสูดดมกลิ่นหอมตามธรรมชาติที่ร่างกายอันกำยำของเขาสร้างขึ้น เพื่อส่งเสริมให้คนๆนี้ยิ่งมีเสน่ห์เกินห้ามใจ  โดยส่วนที่ผมชอบซุกไซ้จมูกลงไปมากที่สุดเห็นจะเป็นซอกคอแกร่งๆของเขานั่นเอง แต่ส่วนนี้น่าจะเป็นส่วนที่อ่อนไหวอยู่ไม่น้อย เพราะเมื่อไรก็ตามที่ผมเผลอฝังจมูกลงไป...น็อตจะครางออกอย่างชอบอกชอบใจออกมาเบาๆทันที 

หลังจากเติมเต็มความต้องการของประสาทรับกลิ่นเป็นที่เรียบร้อย ผมก็จะเริ่มลงฝีปากฝากรอยจูบเบาๆไปตามส่วนต่างๆของร่างกายซึ่งผมเป็นผู้ครอบครองเพียงหนึ่งเดียว  แต่ถ้าจะให้ผมจัดอันดับส่วนของร่างกายน็อตที่ผมชอบจูบเหลือเกินในยามที่เขาไม่รู้ตัว อันดับแรกคงจะหนีไม่พ้นเป็นริมฝีปากของเขาล่ะมั้ง...

...เพราะแม้ว่าน็อตจะหลับไหลไม่รู้เรื่อง...แต่การตอบสนองของริมฝีปากทั้งคู่นั้นกลับดีเยี่ยม และมันช่างน่าเอ็นดูเอามากๆ เพราะทุกครั้งที่ผมประกบริมฝีปากเข้ากับปากบางได้รูปของเขา แล้วกดน้ำหนักลงบนเนื้อนิ่มหนักบ้างเบาบ้างสลับกันไปมาสักพัก  ริมฝีปากของน็อตจะขยับตอบรับสัมผัสของผมด้วยวิธีการเดียวกันแบบอัตโนมัติ  โดยเจ้าตัวยังคงตกอยู่ในนิทรารมย์ และไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นกลางดึกแต่อย่างใด  นั่นจึงทำให้ผมยิ่งคลั่งไคล้ในร่างกายของคนๆนี้ไปกันใหญ่





ในคืนสุดท้ายก่อนที่น็อตจะต้องไปค้างต่างจังหวัดนั้น  ผมรู้ดีว่าน็อตไม่ได้หวังอะไรมากไปกว่าการเล้าโลมเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น เพราะดีกรีความร้อนแรงและการเร่งเร้าของน็อตในยกแรกของเรานั้นช่างหนักหน่วง สาหัสและเอาแต่ใจมากกว่าครั้งไหนๆ  หากแต่ผมกลับไม่ได้แปลกใจกับการดำเนินบทเล้าโลมของเขาเลย เพราะทั้งสายตา สีหน้า การแสดงออกทางอารมณ์ การเคลื่อนไหวร่างกายทั้งหมดของเขา สะกดให้ผมลงเล่นในเกมบทนี้ของเขาด้วยคลื่นความถี่เดียวกัน....

...แต่ผมมักจะคอยเตือนตัวเองอยู่ตลอดช่วงเวลาแห่งการโรมรันพันตูนั่นว่า ผมต้องประคองตัวเองเอาไว้ให้ได้ตลอดทั้งคืนโดยไม่โหมใช้แรงหมดภายในคราวเดียว หรือถ้าหากผมใกล้จะเพลี่ยงพล้ำเพราะความตื่นเต้นมากเกินไป ผมจะต้องหาทางเบรคคั่นเวลาไม่ให้น็อตได้ลงมืออย่างต่อเนื่อง เพราะผมตั้งใจว่าผมจะเล่นกับน็อตไปจนกว่าเจ้าตัวจะออกเดินทาง... เพื่อที่ผมจะได้อยู่ส่งน็อตในตอนเช้า


ซึ่งสิ่งที่ผมทำทั้งหมดนี้ นอกจากจะทำให้น็อตรู้สึกดีทั้งกายและใจแล้ว มันยังตอบแทนผมด้วยเรื่องใหม่ๆเกี่ยวกับตัวน็อตที่ผมยังไม่เคยรู้อีกหลายๆเรื่องด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น...

...น็อตชอบร่างกายของผมมาก  ผมว่าเข้าขั้นบ้าคลั่งเลยก็ว่าได้ เพราะผมออกจะแปลกใจกับการบริการอาบน้ำทำความสะอาดกายให้ผมของเขามากพอสมควร

ภายในจินตนาการของผมหลังจากที่ผมเริ่มจริงจังกับน็อต  ผมไม่เคยมีภาพน็อตนั่งยองๆลงกับพื้น เพื่อขัดถูร่างกายส่วนล่างให้ผมอย่างเต็มอกเต็มใจและอ่อนโยนอย่างเหลือเชื่อ ระหว่างที่น็อตง่วนกับการไล้ฟองไปตามส่วนต่างๆของร่างผม ผมต้องคอยหยิกแขนตัวเองอยู่เป็นระยะๆ ไม่ก็คอยเหลือบก้มมองสีหน้าเปี่ยมสุขของน็อตยามที่ขัดถูร่างกายผมด้วยความรักใคร่  เพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ฝันไป

เพื่อหลีกเลี่ยงคำครหาของพวกคุณเรื่องการคิดเข้าข้างตัวเองของผมในประเด็นนี้...ผมขอบอกให้ทราบโดยทั่วกันว่า น็อตย้ำกับผมหลายครั้งระหว่างการอาบน้ำครั้งที่สองของเราในคืนนั้นก่อนที่เขาจะออกเดินทางว่า หลังจากนี้ผมจะต้องอาบน้ำก่อนนอนพร้อมกับเขาทุกวัน โดยที่ผมต้องอนุญาตให้เขาช่วยผมอาบน้ำและขัดตัว เพราะเขาไม่อยากให้ผมล้มหากต้องก้มๆเงยๆเวลาล้างขา...

...เป็นอย่างไรครับ พอได้ฟังเหตุผลอันเข้าท่าของเขาแล้ว และพวกคุณยังปรานีผมอยู่บ้าง... ผมขอเชิญให้พวกคุณทุกคนร่วมทำความเข้าใจในความน่ารักแต่ซึนสุดๆของน็อตเป็นเพื่อนผมหน่อยเถอะครับ... 
...เฮ้อออ... ถึงน็อตจะข้างๆคูๆอยู่ไม่น้อย  แต่ผมก็รักของผมมากนะครับ... เพราะฉะนั้น พวกคุณๆ ห้ามเมาท์!!




...น็อตชอบให้ผมทำเสียงการ์ตูนให้ฟัง ผมคิดว่าส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะน็อตเองก็ค่อนข้างจะคุ้นเคยกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นมาพอสมควร... ก็ผ่านพวกหนังโป๊ที่พ่อเจ้าประคุณสะสมอยู่โครมๆนั่นแหละครับ และจากที่ผมเคยคุยกับน็อต ผมก็ได้รู้ว่า น็อตชอบอ่านการ์ตูนและดูอนิเมญี่ปุ่นอยู่พอตัวไม่แพ้กัน  นั่นอาจจะเป็นสิ่งที่หยั่งรากฝังลึกอยู่ในจิตใจจนกลายเป็นความชอบโดยไม่รู้ตัวก็เป็นไปได้

...พอรู้ว่าชอบเสียงการ์ตูนแบบนี้... รับรองเลยว่าพ่อเสือหนุ่มต้องเสร็จผมจนไปไหนไม่รอดแน่ๆ เพราะผมน่ะ...ติ่งน้าต๋อย เซมเบ้ตัวจริงเสียงจริงเลยล่ะ หึ หึ



...น็อตชอบให้ผมสัมผัสร่างกายของเขาไม่ต่างกัน โดยเฉพาะศรีษะของเขา เพราะเมื่อไรก็ตามที่ผมมีโอกาสได้นวดนิ้วมือเป็นวงกลมไปตามส่วนต่างๆของหัวทุยๆของเขา เขาก็มักจะหลับตาพริ้มแล้วเผลอยิ้มออกมาอย่างพอใจอยู่เสมอ และในบางจุด สามารถทำให้พ่อคุณครางออกมาได้เลยทีเดียว... ผมตั้งใจว่า ครั้งหน้าผมจะลองเปลี่ยนเป็นดึงผมด้วยน้ำหนักมือต่างๆกันไปดูบ้าง... เพราะผมเคยอ่านเจอว่ามีบางคนเป็นพวกชอบให้คู่นอนทึ้งผมระหว่างการมีเซ็กส์... เผื่อว่าถ้าแนวนี้เป็นหนทางที่ใช่สำหรับน็อต... ผมก็จะมีลู่ทางใหม่ที่จะทำให้น็อตคลั่งได้เพิ่มขึ้นมาอีกทางหนึ่ง หึ หึ



...น็อตชอบให้ผมเป็นฝ่ายเริ่มก่อนในเกมรัก และถูกใจมากหากผมจะทำตัวเอาแต่ใจในระหว่างที่เรากำลังอยู่ในอารมณ์อย่างว่ากัน เพราะหลังจากที่ผมแกล้งทำเป็นใจร้อนบุ่มบ่ามทำตามอำเภอใจ น็อตจะยอมเล่นเกมไปตามความต้องการของผมทุกประการ ซึ่งความจริงข้อนี้ ทำให้ผมมองเห็นหนทางแห่งการเป็นเคะราชินีอย่างเต็มรูปแบบขึ้นมารำไร  และถ้านั่นคือสิ่งที่น็อตอยากให้ผมเป็น...ผมก็รู้ดีแก่ใจเลยล่ะ ว่าจะจัดการน็อตอย่างไรให้อยู่หมัดหลังจากนี้ แต่ก่อนจะซ่าขึ้นวางท่าบนบัลลังก์...ผมคงต้องหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสาย SM และจิตวิทยามาอ่านเสียหน่อยก็คงจะดี จะได้รับมือกับน็อตได้ทุกๆรูปแบบ



...และความจริงข้อสุดท้ายของค่ำคืนที่ผมได้เรียนรู้ก็คือ น็อตทนไม่ไหวแล้วครับ และเราจะได้มีคืนแรกร่วมกันในอีกไม่เกินสองวันที่จะถึงนี่แล้ว  ซึ่งนั้นเป็นประเด็นที่คาบเกี่ยวกับเนื้อหาในตอนถัดไปที่ผมจะเขียนให้พวกคุณๆได้อ่านกัน เพราะฉะนั้น ผมขอยกยอดไปเล่าให้พวกคุณฟังในครั้งหน้า ว่าผมจะมีการเตรียมตัวอย่างไร เพื่อจะรับมือกับน็อตในคืนแรกระหว่างสองเรา... คืนแรกที่ถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด ซึ่งผมจะมัดใจให้น็อตยอมตกเป็นทาสรักของผมตลอดไป ตราบจนวันสุดท้ายของชีวิตเราทั้งคู่

สุดท้ายนี้ ผมอยากฝากถึงพวกคุณๆว่า พวกคุณๆโปรดอดใจรอความคืบหน้าเรื่องเซ็กส์ของผมกับน็อตอีกนิดนะครับ รับรองว่าไม่นานเกินรอ พวกคุณจะได้รับทราบความเป็นไปของผมกับคนรักคนนี้อย่างแน่นอน ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า พวกคุณๆจะเข้าใจ และให้เวลาพวกผมหน่อยนะครับ อย่ารีบด่วนมโนภาพฉากพระ-นายประสานร่างกันเอาไว้ก่อนล่วงหน้า...




ผมขอเถอะครับ อย่าทำแบบนั้นเลย มันไม่ดี...
เพราะพวกคุณจะกลายเป็นโรคโลหิตจางไปเสียเปล่าๆ




๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐


2 comments:

  1. ขนุ๊นนนนนนนน เธอใช้เวลาศึกษาการใช้ปากเป็นปีเลยหรอเนี่ย 5555555
    เธอนี่เหนือโลกจริง อย่างนี้น็อตก็คงหนีไปไหนไม่พ้นแล้วล่ะ กร๊ากกกกกก
    เคะราชินีตัวแม่กำลังจะเข้าสิงขนุนแล้วค่ะ ได้คลั่งแน่ค่ะน็อต

    หลังจากที่มารธอนดูนารูโตไปหลายตอน ทำให้รู้ว่าการ์ตูนเรื่องนี้คือการ์ตูนวายจริงแท้แน่นอน 55555
    ทั้งเรื่องนี่นารูโตะตามแต่ซาสึเกะ แล้วเพิ่งสังเกตุว่านารุยิ่งโตหน้ายิ่งสวย เอิ่ม!! คนวาดตั้งใจให้สาววายหลงใช่ไหมคะ55555
    ยังไงก็ขอบคุณมะลิจริงๆนะที่ให้กำลังใจอ่านหนังสือสอบ ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยอ่านก็เถอะ 555 แต่ก็ดีนะ เราจะได้มีคนกระตุ้น เพราะเป็นพวกขี้เกียจอ่านหนังสือเรียนมากกกกกกกก (ลาก ก.ไก่ 100 ตัว ) ฮ่าๆๆ แล้วยิ่งอยู่คนเดียวด้วยนะ ฮึๆๆ ชีวิตอยู่กับนิยายและการ์ตูนเลยล่ะ ขอบคุณมากจริงๆนะ จากใจเลย กระตุ้นเราบ่อยๆก็ดีนะ ชอบๆๆๆ ฮ่าๆๆๆ อยากได้เกรดสวยๆ หลายๆตัวเหมือนกัน 5555 *เตะตัวขี้เกียจออก* เลิฟมะลินะ เชิฟๆๆ

    ReplyDelete
  2. ฮ่าๆๆๆๆ จริงๆพออ่านตอนใหม่จบ มะลิว่าคุณนาราต้องมองขนุนยิ่งแปลกไปกันใหญ่แน่ๆค่ะ เพราะตรรกะขนุนจะไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอยเท่าไร หลังจากตอนนี้...จะได้เห็นตอนสองคนนี้คลั่งซึ่งกันและกันอย่างแน่นอนค่ะ...มะลิว่า คุณนาราต้องได้อ่านจนเอียนแหงๆ ฮ่าๆๆๆ

    นี่คุณนาราดูเรื่อง Free! เปล่าอ่ะคะ? ที่เป็นหนุ่มๆนักว่ายน้ำอ่ะค่ะ มะลิได้ข่าวว่า อนิเมะเรื่องนี้ก็ปูเรื่องมาให้สาววายได้กรีดร้องไม่น้อยหน้าไปกว่ากัน (ค่อนข้างจะ service พอสมควรเลย) แต่เรื่องนี้มะลิไม่ได้ดูเองหรอกนะคะ แต่ว่าเพื่อนคนนึงนี่คลั่งมากกกกก แบบว่านางได้ตั้งอุทิศตนเป็นสาวกไปแล้วเรียบร้อย (หรือเรียกง่ายๆว่า 'ติ่ง' นั่นเอง ฮ่าๆๆๆ) -- ถ้าชื่นชอบที่จะเดินทางสายนี้ เราสองคนอาจจะต้องหามาดูกันหน่อยแล้วนะคะ ฮ่าๆๆๆๆ ส่วนเรื่องนารูโตะ...มะลิสัญญาค่ะ ว่าจะตามไปอ่าน... เพื่อเติมเต็มจินตนาการของสาววายให้เต็มตื้นขึ้นมาอีกครั้ง วะฮ่าๆๆๆ

    เอาเป็นว่า มะลิจะคอยให้กำลังใจบ่อยๆแล้วกันนะคะ จะได้เป็นการกระตุ้นเตือนให้คุณนาราได้เริ่มอ่านหนังสือ หรือว่าหยิบปกมาเปิดผ่านๆสักนิดสักหน่อยก็ยังดี เผื่อจะมีความรู้กระเด็นเข้าตาบ้าง...เนอะ ^ ^ (จะว่าไป...นี่ก็น่าจะเหลือเวลาอีกแค่อาทิตย์กว่าๆแล้วใช่ไม๊คะ ก่อนจะถึงวันสอบ... หึ หึ... สู้ๆนะคะ!!)

    รักคุณนาราค่ะ เชิฟๆๆ

    ReplyDelete