Wednesday, October 15, 2014

เขาวานให้ผมเป็น 'สายรับ' (เคคู่ผู้รู้รอบฯ) : บทรุกที่ 19: เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง



บทรุกที่ 19: เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง
(เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง : คนที่พูดอย่างทำอย่าง ปากก็ว่าเกลียดขี้หน้า แต่พอเขาให้สิ่งของมาก็รีบรับเอา เหมือนคนเกลียดปลาไหล ไม่ยอมกิน แต่ครั้นได้ชิมน้ำแกงเข้าก็ติดใจ ถึงไม่กินเนื้อปลาไหล ก็พอใจจะซดน้ำแกง)




อยู่คนเดียวทั้งวันแบบนี้   ขนุนกำลังทำอะไรอยู่หว่า...จะคิดถึงผมบ้างหรือเปล่าน้า?
แม่งเอ๊ย!!..เมื่อไรไอ้เหี้ยนั่นจะลงมาซักทีวะ อยากกลับบ้านจะตายห่าอยู่แล้วเนี่ยะ วินาทีนี้..อยากเห็นหน้าขนุนสัดๆอ่ะ
.
.
อยากจูบขนุนว่ะ..เมื่อคืนแม่งฟินสัด!! คนอะไรก็ไม่รู้ ยิ่งจูบเท่าไรยิ่งไม่พอ...ปากแม่งโคตรนิ่ม โคตรหอม แถมยังหวานอีก
กลับไปจะอ้างเรื่องอะไรเพื่อให้ได้จูบดีวะ? วันนี้อยากได้อีกซักสี่ห้าครั้งง่ะ...ฮึ่ยยยยย
โทรไปหาดีไม๊วะ? หรือว่าขนุนแม่งจะกำลังเขียนงานอยู่...จะกวนรึเปล่าหว่า?

ผมหยิบมือถือออกจากกระเป๋า กดปลดล็อคและเปิดหน้าเบอร์โทรด่วน แต่ก็ต้องหยุดความตั้งใจเอาไว้แล้วเก็บมือถือกลับลงไปในกระเป๋ากางเกง เมื่อหางตาเหลือบไปเห็นเงาผู้ชายตัวใหญ่ๆเดินผ่านหน้าไป...
.
.
...อ่าววว   ยังไม่ใช่นี่หว่า...
...ไอ้เหี้ยนั่นแม่งยังไม่หายฟ้าเหลืองอีกเหรอวะเนี่ยะ??  เฮ้ออออ...



หลังจากพี่ปีย์พา X1 ไปคลินิกส่วนตัวของคุณเน็ตที่ผมแนะนำไป ผมก็คอยอยู่โยงเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของผู้ว่าจ้างตามที่พี่ปีย์สั่งเอาไว้... 

หึ!.. วินาทีนี้ผมชักจะไม่อยากใช้คำว่าผู้ว่าจ้างเรียกไอ้ห่านั่นอีกต่อไปเสียแล้วสิ   คนอย่างแม่งไม่คู่ควรที่จะถูกเรียกด้วยคำดีๆให้เสียปาก เพราะจากเท่าที่ผมเห็นอาการของพี่กานต์ด้วยสองตาของตัวเอง ผมว่า...สมควรแก่เวลาที่ผมกับพี่ปีย์ต้องเปลี่ยนสรรพนามที่ใช้เรียกมันว่า...ไอ้เหี้ย(ม)ใจหมา เพื่อสรรเสริญความดีงามที่แม่งเพิ่งก่อเอาไว้เมื่อคืนนี้โดยเร็วที่สุด

เมื่อผมเห็นร่างของพี่กานต์ทรุดลงตรงทางเดินก่อนออกไปถึงลานจอดรถของโรงแรม ผมแม่งยังไม่ตกใจเท่ากับหลังจากตอนได้ช้อนพี่กานต์ขึ้นมาพักเอาไว้บนตักของตัวเอง แล้วเห็นร่องรอยการทารุณที่ถูกตีตราเอาไว้ตามร่างกายของเขาอย่างนับไม่ถ้วน  แม้รอยส่วนใหญ่จะถูกปกปิดอยู่ภายใต้เสื้อผ้า ทำให้รอยที่เหลือซึ่งโผล่พ้นแขนและคอเสื้อออกมาดูไม่หนาตามากนัก แต่เมื่อลองสำรวจตำหนิชั่วคราวพวกนั้นด้วยตาเปล่าแบบตาสีตาสาไม่มีความรู้ทางแพทย์แล้ว ผมยังบอกได้เลยว่าพี่กานต์เพิ่งรอดพ้นจากคืนหอนคนโหดมาได้อย่างหวุดหวิด


อยากได้ยินเสียงจังเว้ยยยย..ได้เบอร์มาตั้งแต่เมื่อคืน แต่ยังไม่ได้ลองโทรเลย ไม่รู้ว่าเสียงคุยตอนคุยโทรศัพท์จะน่ารักเหมือนฟังด้วยหูตัวเองรึเปล่านะ...


เคราะห์ดีที่อาการของพี่กานต์ไม่สาหัสกว่าที่ผมกังวลเอาไว้ สิ่งที่ต้องทำลำดับถัดไป คือ พาไปตรวจร่างกายโดยละเอียดเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ติดโรค และรับยาเพื่อรักษาอาการเฉพาะหน้าต่างๆให้เร็วที่สุด ผมเลยรีบต่อสายหาคุณเน็ตเพื่อเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นคร่าวๆให้คุณเน็ตรับทราบ ทางโน้นจะได้จัดเตรียมคนเอาไว้ให้พร้อมก่อนที่ผมจะส่งพี่ปีย์ไปหา
.
.
.
ลำพังอาการเจ็บของพี่กานต์น่ะผมไม่ห่วงเท่าไรหรอกฮะ...แต่ไอ้พี่ปีย์ของผมนี่สิ จะเป็นอย่างไรเมื่อได้เห็นกับตาว่า คนที่ตัวเองหมายปองต้องมาตกอยู่ในสภาพน่าอเนจอนาถใจแบบนี้

ไอ้เหี้ยนั่นแม่งก็เหลือเกินจริงๆว่ะ...
...จะหื่นขึ้นตาเสียขนาดไหนกันเชียววะ  ถึงได้มาระบายลงกับคนอื่นได้อย่างไม่มีหัวใจแบบนี้??

...จริงอยู่ว่าอีกฝ่ายก็เป็นผู้ชาย มีร่างกายแข็งแรง สามารถอดทนกับความเจ็บปวดและความทรมานได้ดีกว่าร่างกายของผู้หญิงเหมือนกับมัน  แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะยอมพลีกายเพื่อเป็นเครื่องบำบัดความใคร่ หรือยอมให้ใครทำอะไรเลวระยำกับเขาได้แบบนั้น

...ดูจากแผลตามตัวนี่ก็รู้ว่า พี่กานต์ไม่ได้ยินยอมพร้อมใจจะเล่นเกมรักไปกับแม่งสักเท่าไร บทส่งท้ายที่พี่กานต์ต้องเจอเลยออกมาสะบักสะบอมจนงอมไม่เป็นท่า ...สัดเอ๊ย!!...ไอ้ตอนลงมือทำเนี่ยะ มึงไม่คิดละอายใจหน่อยเลยเหรอวะ...เขาเป็นตั้งอดีตคนที่มึงเคยรักเลยนะเว่ย หรือเห็นว่าเป็นแฟนเก่า ถึงได้เล่นเสียหนักมือเหมือนกับไม่มีความเมตตาหลงเหลือให้อีกฝ่ายอีกต่อไป???


คิดถึงขนุนว่ะ...เฮ้อ ป่านนี้จะกำลังทำอะไรอยู่วะ?
.
...เฮ๊ย!! เมื่อกี๊ผมก็เพิ่งคิดอะไรทำนองนี้อยู่เองนะเว่ย...
...ท่าจะไม่ไหวแล้วว่ะ นี่ผมแม่งจะบ่นกับตัวเองในใจด้วยเรื่องขนุนซ้ำไปซ้ำมาเหมือนคนเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำแบบอ่อนๆอีกนานไหมวะ? ไอ้จิตใจที่จะเอามาไว้ใช้คิดเรื่องงานก็พาลเป๋ไปไม่เป็นท่าขึ้นมาเสียดื้อๆอีก...
...พอเลยไอ้น็อต!!  จะมามัวนั่งคิดถึงเขาอยู่คนเดียวให้เยี่ยวเหลืองเปลืองเวลาอยู่ทำไมวะ... โทรหาเจ้าตัวเลยดีกว่าว่ะ...จะได้หายคิดถึงเจ้าตัวเสียที   อยากได้ยินเสียงจนทนไม่ไหวแล้วเฟร่ยยยย!!


เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา และต้องทุรนทุรายด้วยความคิดถึงคนหน้าแว่น ผมหยิบมือถือออกมาแล้วกดโทรออกไปหาขนุนทันที

 (...♫♪ดูมาดูมาดู...ดูมาดูเมียงู... บาทเดียวดูเพลิน อะไรไม่เกินเมียงู...บาทเดียวดูเพลิน อะไรไม่เกินเมียงู... ลูบได้คลำได้ ลูบได้คลำได้ ....ลูบได้คลำได้ ♪♫ แต่อย่าเอาไม้แหย่รู แหย่รู แหย่รู แหย่รู.................................)

เพลงรอสายอะไรของขนุนแม่งวะ..นี่มันเพลงรับน้องชัดๆ ผมว่าผมมีรสนิยมแปลกๆเรื่องเพลงรอสายกับเสียงเรียกเข้าแล้วนะ...คุณยังจะชอบเพลงแปลกล้ำกว่าผมอีกเหรอ...กะจะแปลกไปให้ถึงโลกหน้าเลยใช่ไม๊เนี่ยะ?

ยังไม่ทันที่เพลงรอสายสุดป่วงรอบสองจะดังวนอีกรอบเพื่อสร้างความประหลาดใจให้ผมได้มากไปกว่านี้ คนที่ผมกำลังอยากได้ยินเสียงก็กดรับสายแล้วส่งเสียงตื่นๆทักกลับมาให้ผมได้ชื่นใจ “ฮัลโหล???”

อารามตื่นเต้นเพราะเพิ่งเคยได้ยินเสียงของขนุนทางโทรศัพท์เป็นครั้งแรก ผมเลยเผลอพูดจาไม่เข้าท่าออกมาโดยไม่รู้ตัว “ขนุนฮะ...นี่เบอร์ของน็อตเองนะฮะ” และอีกฝ่ายก็ตอบกลับมาแบบที่ทำให้ผมโคตรชื่นใจมาก...
.
...กับผีน่ะสิ หึ!

“อื้อ...ขนุนรู้.......ชื่อน็อตขึ้นโชว์อยู่ตรงหน้าจอตอนโทรเข้ามาน่ะ” ช่างยอกย้อนได้น่าเจ็บปวดสมกับเป็นว่าที่เมียของไอ้น็อตจริงจริ๊งงงง หึ หึ...เมียกู

แค่ได้ยินเสียงเล็กๆนั่นใกล้ๆ ถึงแม้จะเป็นคำพูดไม่เข้าหูสักเท่าไร ก็ยังทำให้ผมตื้นตันเสียลืมตาย จนทำให้ผมเพิ่งสำนึกได้ว่า...ผมไม่น่าหน้ามืดกดโทรออกหาขนุนเพียงเพราะแค่อยากได้ยินเสียงของเขาเล๊ยยยย  เพราะตอนนี้ผมโคตรจนปัญญาและไม่รู้ว่าจะชวนขนุนคุยต่อด้วยเรื่องอะไรดี  ผมเลยอึ้งเหน็บแดกลิ้นเป็นนานสองนานไปกันใหญ่ “เอ่อออออออ........  
.
.
...เอิ่บ...ไอ้ที่กูโทรมาเนี่ยะกูมีเรื่องอะไรจะคุยกับขนุนแม่งล่ะวะ?...คิดเร็วๆสิวะไอ้น็อต!!

และแล้วคำถามตามคิวแม่งก็มาจนได้หลังจากที่ผมอึกอักพูดอะไรไม่ออกอยู่พักใหญ่ “น็อตโทรมามีอะไรเหรอ?”

แหงสินะ...ผมเป็นคนโทรไปหาเขา ผมแม่งก็ต้องมีเรื่องอะไรบางอย่างอยากจะคุยกับเขานี่หว่า......เอ่อ  แล้วถ้าผมเผลอพูดพล่อยๆตามความรู้สึกข้างในออกไปว่า ไม่มีอะไร...น็อตแค่อยากได้ยินเสียงขนุนเพราะคิดถึงน่ะขนุนแม่งจะอยากได้ยินไหมล่ะ? เฮ้อออออ  แต่ผมก็ไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายต้องหนักใจ เพราะปากผมก็ตอบขนุนไปด้วยคำถามที่ลอยขึ้นมาในหัวในตอนนั้นพอดี “...อืม...ขนุนเล่นไลน์ไม๊ฮะ?”

“ไลน์เหรอ?...ก็มีเล่นบ้างนะ แต่นานๆทีน่ะ ทำไมเหรอ?” น้ำเสียงขนุนดูแปลกใจ...เสียงแม่งน่ารักว่ะ เพิ่งรู้ว่ามีผู้ชายเสียงเล็กๆแบบนี้ด้วย ฟังใกล้ๆรูหูแล้วแม่งยิ่งสยิวว่ะ...ทำอย่างไรถึงจะได้คุยกันนานๆวะ?? ไอ้พวกที่แม่งคุยโทรศัพท์กับแฟนทีละหลายๆชั่วโมงแบบแทบจะรวมร่างกับหูโทรศัพท์เนี่ย แม่งไปเอาอะไรที่ไหนมาฝอยกันนักหนา...ผมแม่งอยากจะรู้เคล็ดลับเหลือเกิน...อยากทำได้มั่งจังว้อยยยย  Orz!!

ไหนๆก็เปิดประเด็นเรื่องไลน์มาแล้ว ผมก็เล่นต่อไปให้แม่งจบๆเรื่องก็แล้วกัน “ขอไลน์ไอดีหน่อยได้ไม๊อ่ะฮะ?”

อีกคนรับคำง่ายๆ เหมือนกับที่มักจะทำ “อืมม ได้สิ งั้นเดี๋ยวขนุนส่ง SMS ไปให้แล้วกันนะ จะได้ไม่ต้องจด”

ผมเผลอยิ้มกว้างให้กับคนปลายสายเหมือนคนบ้าด้วยความชอบใจในความไม่เรื่องมากซักเยอะของอีกฝ่าย แถมด้วยการอำนวยความสะดวกเล็กๆน้อยๆของเขา  “ฮะ...ได้ฮะ เดี๋ยวน็อตไลน์ไปหานะฮะ”

ผมได้ยินเสียงถอนหายใจดังกรอกผ่านสายเข้าตรงมาที่หูคล้ายๆกับขนุนแม่งกำลังสะกดกลั้นความไม่พอใจหรืองุ่นง่านอะไรสักอย่าง    ไม่นานหลังจากนั้น...คำถามที่ผมไม่ได้เตรียมคำตอบมาก่อนหน้ากถูกส่งออกมาราวกับแกล้ง “ที่โทรมา...น็อตจะถามขนุนแค่เนี้ยะน่ะเหรอ?” ...เค้าแค่อยากจะได้ยินเสียงตัวเองให้ชื่นใจเองนะ... ทำไมตัวเองต้องมาทำเสียงหงุดหงิดใส่เค้าด้วยล่ะ...โธ่ ขนุนอ้ะ!!

พอโดนถามตรงประเด็นแบบนี้ ผมแม่งก็ถึงกับเหวอไปพักใหญ่ แต่ก็ไม่ลืมสั่งสมองให้รีบนึกข้ออ้างในการตัดสายทั้งที่ใจไม่อยาก “อ่อ...เอ่อฮะ ตอนนี้แค่นี้ก่อนน่ะฮะ พอดีงานเข้าแล้วฮะ...เดี๋ยวน็อตค่อยโทรมาหาใหม่แล้วกันนะฮะ”

 “อืมๆ เอาอย่างนั้นก็ได้” ขนุนตอบนิ่งๆ...ทำไมผมถึงรู้สึกเหมือนขนุนแม่งกำลังผิดหวังอยู่นิดๆเลยวะ...แต่แม่งคงไม่ใช่หรอกมั้ง ขนุนแม่งคงไม่ได้รอโทรศัพท์ของผมอยู่หรอก ไม่งั้นแม่งต้องทำเสียงดีใจกว่านี้ที่ได้ยินเสียงผมแต่ทีแรกแล้วดิวะ

ถึงผมจะอยากได้ยินเสียงขนุนนานกว่านี้...แต่เพราะผมแม่งตื่นเต้นและดีใจที่ได้คุยโทรศัพท์กับขนุนเป็นครั้งแรก หัวผมแม่งเลยตื้อจนคิดไม่ออกว่าจะชวนขนุนคุยเรื่องอะไรต่อดี ผมก็เลยจำใจต้องหาทางยุติการคุยรอบนี้เสียก่อน แล้วค่อยกลับไปตั้งสติหาเรื่องคุยแล้วค่อยโทรกลับไปใหม่ก็คงไม่สาย

“ฮะ...ขนุนวางหูสิฮะ” ผมพูดกรอกผ่านมือถือไปบอกอีกคน

ขนุนสวนกลับมาด้วยประโยคน่ารักที่ทำให้ผมอมยิ้มได้อีกครั้ง “อ้าว!! น็อตก็วางก่อนสิ”

คราวนี้ผมเลยตอบออกไปตามความต้องการจากใจจริงๆ “ไม่เอาอ่ะฮะ น็อตอยากส่งขนุนให้วางหูไปก่อน...นะฮะ”

“อืมม งั้นขนุนวางหูแล้วนะ ตั้งใจทำงานนะน็อต”

แหม่ คำสั่งสอนของเมียนี่ช่างทำให้ใจฮึกเหิมได้ดีจริงๆ ผมเลยรับปากออกไปอย่างแข็งขัน “ฮะ...น็อตจะรีบทำงาน แล้วก็รีบกลับบ้านให้เร็วที่สุดเลยฮะ” ...หึ หึ ผมแม่งโคตรจะมั่นใจว่า ในโลกนี้...คงไม่มีใครอยู่ในโอวาทเมียได้เท่าผมอีกแล้ว คิดๆแล้วผมแม่งก็แทบจะไม่เชื่อตัวเองอยู่เหมือนกัน ว่าผมแม่งจะเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้...

...ถ้าเป็นเมื่อก่อนน่ะเหรอ พองานเสร็จ  โน่นนน...ผมแม่งดิ่งตรงเข้าผับแล้วหิ้วสาวๆกลับไปนัวต่อเลยฮะ  ขับรถตรงกลับบ้านเลยทันทีน่ะเหรอฮะ...หึ! แทบไม่มีประวัติ เว้นแต่จะเป็นเรื่องด่วนตามคำขอในโอกาสพิเศษของครอบครัว หรือไม่ก็ได้รับเทียบเชิญจากไอ้สามเกลอหัวแข็งเท่านั้น

ขนุนตอบผมเสียงนุ่ม “ไม่ต้องรีบก็ได้...ทำงานให้เสร็จก่อน เสร็จเมื่อไรก็ค่อยกลับ คุณปีย์จะได้ไม่ว่าเอา”

“โฮ๊ยยย พี่ปีย์ไม่ว่าหรอกฮะ งานน็อตก็เรื่อยๆ ไม่ได้ยากอะไร อีกอย่าง...ถ้าถึงเย็นแล้วงานไม่เสร็จ  ก็มีน้องอีกคนมาทำต่อกะกลางคืนอ่ะฮะ ขนุนไม่ต้องห่วง” ผมรีบตอบเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายคิดไปไกลว่าผมอาจต้องอยู่โยงทำงาน... จริงๆตอนนี้ผมแม่งก็แค่นั่งหายใจทิ้งรอเวลาให้ไอ้กอล์ฟมาเปลี่ยนมือเท่านั้นแหละ ไม่ได้สนใจหรอกว่าไอ้เหี้ยแฟนเก่าพี่กานต์แม่งจะยุรยาตรย้ายร่างลงมาเมื่อไร เพราะผมอยากกลับไปเห็นหน้าขนุนเต็มทีแล้ว

“อ๋อ อย่างนั้นเองน่ะเหรอ...โอเค งั้นขนุนรอกินข้าวเย็นนะ” ผมยิ้มกว้างทันทีเมื่อได้ยินประโยคปิดท้ายของคนปลายสาย... น่ารักว่ะเมียกู รอกินข้าวเย็นด้วยอ้ะ... วันนี้อย่าให้เจอหน้าเชียวนะ ไอ้น็อตจะทำหน้ามึนเดินเข้าไปกอดแล้วหอมอีกหลายๆทีให้สมกับความน่ารักน่าเอ็นดูของขนุนเลยเอ้า...คอยดูสิ!!

ไอ้ประโยคสั้นๆความหมายธรรมดาประโยคนี้แม่งช่างกระแทกหัวใจคนฟังอย่างผมดีเหลือเกิน... ผมไม่เคยคิดว่าการมีคนรอกินข้าวอยู่ที่บ้านทุกๆวัน แม่งจะทำให้ผมรู้สึกถึงความสำคัญของตัวเองที่มีต่ออีกคนหนึ่งได้มากขนาดนี้ ฟังแล้วรู้สึกดีชะมัด!!  ผมเลยรับคำอีกคนไปด้วยเสียงร่าเริงราวกับคนอัดม้ามาสามเม็ดติดไปเมื่อชั่วโมงที่แล้ว “ฮะ...เดี๋ยวเย็นนี้เจอกันฮะ!!

ผมได้ยินเสียงเหมือนอีกคนหัวเราะเบาๆ ตามด้วยการเอ่ยสั้นๆ “ขนุนวางแล้วนะ...เจอกันเย็นนี้นะน็อต”

“ได้ฮะขนุน...แล้วเจอกันฮะ” คราวนี้ผมตอบขนุนไปด้วยรอยยิ้มแบบไม่สุด เพราะอีกใจหนึ่งก็เริ่มแป้วเพราะไม่อยากให้บทสนทนาของเราสองคนจบลงเลย ให้ตายสิ!...

...ความสุขรอบนี้แม่งก็สั้นเกิ๊นนนน  ผมแม่งยังอยากจะยิ้มอย่างบ้าคลั่งแบบเมื่อกี๊ได้อีกนานๆจริงๆว่ะ
...เฮ้อ!  นี่ถ้าผมแม่งได้เป็นคนรักตัวจริงของขนุน อะไรๆแม่งน่าจะดีกว่าที่เป็นอยู่นี่แน่ๆ... 
...อย่างน้อยๆ เวลาคุยโทรศัพท์กัน ผมคงมีสิทธิเล่าเรื่องบ้าบอห่าเหวให้เขาคอยรับฟังได้นานเท่าที่ต้องการ  แถมยังอ้อนขนุนให้พูดประโยคน่ารักๆให้ฟังเมื่อไรก็ได้...   ที่สำคัญ ผมแม่งไม่ต้องกล้ำกลืนเล่นบทเพื่อนผู้ปราถนาดี ทั้งที่ใจนี่อยากจะปู้ยี่ปู้ยำ ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของขนุนชิบหายวายวอดอยู่แม่งทุกขณะจิต

(ตู๊ด ตู๊ด  ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด เสียงวางสายโทรศัพท์)

“น็อตคิดถึงขนุนนะฮะ” ในที่สุดผมก็ยอมปริปากคำที่ผมอยากเอ่ยที่สุดทันทีเมื่อได้ยินเสียงตัดสายจากปลายทาง... ไอ้น็อตเอ๊ย ลำพังกะอีแค่บอกความรู้สึกของตัวเองออกไปให้อีกคนได้รู้ มึงยังทำไม่ได้เล๊ย... แล้วอย่างนี้ เมื่อไรขนุนจะกลายเป็นคนของมึงจริงๆได้เสียทีกันว๊า

ยังไม่ทันที่ผมจะได้กดพักหน้าจอ มือถือผมก็เตือนว่ามีข้อความใหม่เข้ามา... ผมกดอ่านข้อความที่ขนุนส่งมาให้ทันทีเพื่อจะเพิ่มช่องทางให้เราสองคนต่อกันติดในเวลาที่ตัวต้องอยู่ไกลห่างอย่างนี้อีกช่องทางหนึ่ง...

...หึ หึ พอได้เห็นตัวเองในสภาพนี้แล้ว ผมก็อดขำออกมาไม่ได้จริงๆ...
...ที่ผ่านมา  ผมไม่เคยต้องง้อขอเบอร์โทรฯของใครหน้าไหนเลยแม้แต่คนเดียว  ไลน์หรือพินห่าเหวอะไร...ก็ไม่ต่างกัน...
...เวลาที่ผมหมายตาใคร หรือมีใครเข้ามาหา ผมทำหน้าที่เพียงอย่างเดียวคือเลือกว่าจะยอม หรือไม่ยอมบอกข้อมูลส่วนตัวของผมเหล่านี้ให้กับคนพวกนั้น  แน่นอนว่า...คำตอบของผมโดยส่วนใหญ่คือ ไม่ เพราะผมแม่งไม่ชอบให้ใครมาคอยจิก   คอยถามเซ้าซี้ถึงสิ่งที่ผมทำ ที่ๆผมไป หรือคนที่ผมใช้เวลาอยู่ด้วย...
...แต่กับขนุน  ใจผมแม่งกลับร้อนเป็นไฟ คอยสั่งกายให้ลงมือไขว่คว้าหาหนทางที่จะทำให้เขาได้มาอยู่ใกล้ๆไม่ห่างจากสายตาของผมเสมอ ถึงจะแค่ผ่านอุปกรณ์สื่อสารเครื่องเล็กๆนี่ก็เถอะ



หลังจากได้อ่านไลน์ไอดีของขนุนที่ส่งมาให้อยู่หลายต่อหลายรอบ ผมก็ทำได้แค่นั่งทอดถอนใจให้กับชะตาของตัวเองอยู่ยกใหญ่...
.
.
พออะไรๆแม่งเริ่มจะเข้าที่เข้าทาง ก็เสือกดันมีเรื่องของพี่กานต์แทรกเข้ามาเสียอีก...
...สงสัยว่าเรื่องของผมกับขนุนต้องถูกยกไปเป็นกิจกรรมหลังเข้านอนแทน แล้วนี่เมื่อไรจะก้าวหน้าไปถึงไหนๆเสียทีล่ะวะ...

...แต่นั่นยังไม่น่าเศร้าเท่ากับ... นับตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป พี่ปีย์แม่งจะแว่บไปช่วยงานเพื่อนรักของแกคนหนึ่ง โดยแกจะหายหน้าไปลงพื้นที่ออกสืบแถวๆภาคเหนือราวๆสิบวันเห็นจะได้  นั่นก็หมายความว่า...คนที่จะต้องอยู่โยงรับช่วงดูแลพี่กานต์ต่อหลังจากพี่ปีย์ไป แม่งต้องกลายเป็นผมคนเดียวเท่านั้น...  และถ้าผมมีเอี่ยวกับการดูแลพี่กานต์...ขนุนแม่งก็ต้องเสนอตัวยื่นหน้าขอมาดูแลฟูมฟักพี่กานต์ด้วยอีกคนเหมือนกัน 

...คิดแล้วก็หนักใจว่ะ...
...การหาทางเอาชนะใจขนุนแบบเพียวๆ ยังไม่น่าเหนื่อยเท่ากับการต่อสู้กับความเทิดทูนบูชาพี่กานต์ผู้เลิศเลอของขนุนเลยจริงๆ...


แล้วผมก็เผลอกดข้อความของขนุนขึ้นมาอ่านอีกครั้ง ก่อนจะปล่อยให้ความกังวลใจอยู่เป็นเพื่อนระหว่างเฝ้าไอ้เหี้ยแฟนเก่าพี่กานต์ให้ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวเสียที...


Ma Boo_Kanoon
ไลน์ไอดีครับ : KAR-N-OON


...เฮ้ออออ กระทั่งชื่อไลน์ ขนุนแม่งยังจะพยายามรวมร่างกับชื่อพี่กานต์อีก...
...เอาไว้ให้ผมยึดอำนาจก่อนเถอะ ผมจะบังคับให้ขนุนแม่งเลิกเล่นไลน์ไปให้รู้แล้วรู้รอด เผื่อว่าแม่งไม่ยอมเปลี่ยนไลน์ไอดีน่ะนะ...


๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐



K-NOON



READ 01.10 PM ขนุน...นี่น็อตเองนะฮะ ^_^
READ 01.10 PM ขนุนทำอะไรอยู่ฮะ???

K-NOON:
เขียนนิยายเรื่องใหม่อยู่น่ะ...น็อตล่ะไม่ทำงานเหรอ? 01.11 PM READ


READ 01.10 PM แหม่...ถามงี้ไล่กันเป่าเนี่ยะ งานน็อตยังไม่เข้าฮะ...ตอนนี้เลยว่าง อยากคุยกับขนุนน่ะฮะ ไม่ดีเหรอ??

K-NOON:
ยังไม่ได้บอกซะหน่อยว่าไม่ดี...ขนุนแค่ถามเฉยๆเอง แล้วที่ถามเมื่อกี๊น่ะ...ไม่ได้จะไล่นะ 01.13 PM READ

READ 01.13 PM กินข้าวกลางวันรึยังฮะ?

K-NOON:
อื้อ..แล้วน็อตล่ะ? 01.14 PM READ

READ 01.14 PM
แหน่ะ...ถามงี้ เป็นห่วงก็บอกมาเหอะฮะ


K-NOON:
ถ้าน็อตคิดอย่างนั้นแล้วสบายใจ...ก็ตามนั้นล่ะ 01.15 PM READ

READ 01.15 PM โห...ปากคอ!!

K-NOON:
แล้วน็อตอยากได้ยินว่าอะไรล่ะ?? 01.15 PM READ

READ 01.16 PM ขนุนไม่ได้อยากพูดอะไรให้น็อตชื่นใจหน่อยเหรอฮะ?
READ 01.16 PM เฮ้อออ...ทำงานเนื้อย เหนื่อย ไม่มีแรงเลย...จะมีใครแถวนี้เห็นใจน็อตบ้างไม๊น๊า??

K-NOON:
อดทนหน่อยนะ...กลับบ้านมา แล้วค่อยเติมพลังแล้วกัน 01.16 PM READ

READ 01.17 PM วันนี้น็อตเหนื่อยมาก...ขอหลายๆทีได้ไม๊ฮะ? J

K-NOON:
ขนุนไม่ได้ให้เปล่าๆนะ...น็อตมีอะไรมาแลกล่ะ? 01.17 PM READ

READ 01.18 PM เอาตัวเข้าแลกได้ไม๊ฮะ?..ไม่มีอย่างอื่นมาแลกแล้วจริงๆ T^T

K-NOON:
อืม...ขอคิดดูก่อน 01.19 PM READ

โหยยย...ขนุนอ้ะ วินาทีนี้ไม่ค้องคิดอะไรแล้วฮะ
READ 01.20 PM ของดีๆมีมูลค่าอย่างร่างกายน็อตเนี่ย หาโอกาสงามๆในการลวนลามยากนะฮะ จะบอกให้!! 


K-NOON:
งั้นคืนนี้สอนหัวข้อถัดไปเลยแล้วกัน...เล้าโลมใช่ไม๊?? 01.20 PM READ

READ 01.20 PM ฮะ...ได้ฮะ V(@^3^@)V
READ 01.21 PM เอ่อ...ขนุนฮะ  น็อตมีเรื่องอยากจะถามหน่อยฮะ

K-NOON:
ว่า???  01.21 PM READ

READ 01.21 PM ถ้าขนุนได้มีโอกาสกลับไปใกล้ชิดกับคนที่เคยชอบ...ขนุนจะหวั่นไหวไม๊ฮะ??

K-NOON:
คนนั้นที่น็อตว่าคือใครเหรอ?  01.23 PM READ

READ 01.23 PM .......พี่กานต์น่ะฮะ

K-NOON:
ไม่รู้สิ...แล้วน็อตล่ะ ถ้าได้กลับไปใกล้ชิดคนที่เคยชอบ...น็อตจะหวั่นไหวไม๊?  01.26 PM READ

READ 01.27 PM ไม่หรอกฮะ น็อตไม่ถนัดคุถ่านไฟเก่าฮะ

K-NOON:
ไม่ว่าเค้าจะดีแค่ไหน หรือถูกใจน็อตขนาดไหนน่ะเหรอ?  01.29 PM READ

READ 01.30 PM ถ้าถามเพื่อเอาคำตอบวันนี้...ตอบได้เลยว่า ไม่ฮะ น็อตไม่กลับไปคืนดีกับใครหน้าไหนอีกแล้วล่ะฮะ

K-NOON:
น็อตดูมั่นใจเนอะ  01.30 PM READ

READ 01.31 PM แหงสิฮะ ตอนนี้น็อตอยากช่วยขนุนก่อนฮะ เรื่องอื่นเอาไว้ทีหลัง ไม่อยากรำคาญใจฮะ

K-NOON:
ขนุนเกรงใจจังเลยล่ะ รู้สึกเหมือนตัวเองทำให้น็อตต้องพลาดโอกาสดีๆในชีวิตไปยังไงก็ไม่รู้  01.31 PM READ
น็อตอาจจะเสียใจที่ตัดสินใจแบบนี้ในภายหลังก็ได้นะ 01.33 PM READ


ผมอ่านข้อความของขนุนไปมาหลายๆรอบ ข้อดีของไลน์หรือช่องทางการติดต่อจำพวกข้อความเนี่ยะ คือแม่งอำนวยความสะดวกให้เราสามารถตอบโต้กันได้ตลอดเวลาแบบทันท่วงที  แต่ข้อเสียคือแม่งแห้งแล้งเสียจนเราไม่รู้ได้ว่าอีกฝ่ายที่กำลังคุยอยู่ด้วยนี่กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ เพราะตัวอักษรมันบอกอารมณ์และความรู้สึกเหมือนการสนทนาตัวเป็นๆ ได้เห็นหน้า แถมจ้องตา...ฟังเสียงอีกฝ่ายแบบจะจะไม่ได้จริงๆ  

ครั้งนี้ก็ไม่อยู่ในข้อยกเว้นใดๆ...
...หลังจากที่อ่านสองประโยคล่าสุดนี้มาๆไปๆอยู่เป็นนาน ไอ้ก้อนความรู้สึหน่วงๆข้างในแม่งก็ใหญ่ขึ้นทุกที ทุกที....คิดดูแล้วกันว่าแม่งทำให้ผมร้อนใจได้มากขนาดต้องยกหูโทรหาคนหน้าแว่นทันทีเพื่อเคลียร์เรื่องนี้ให้จบ


“ฮัลโหล???” ปลายสายทำเสียงงงๆส่งให้ผมอีกครั้ง เหมือนกับไม่คาดฝันว่าผมจะโทรไปหาหลังจากที่เพิ่งวางหูใส่กันไปเมื่อไม่ถึงชั่วโมงดี

ผมรีบบอกสิ่งที่ค้างในใจหลังจากได้อ่านข้อความล่าสุดของคนหน้าแว่น “ขนุนฮะ...อย่าคิดมากสิฮะ น็อตเต็มใจนะฮะ เชื่อน็อตเถอะ ว่าน็อตอยากช่วยขนุนจริงๆ น็อตไม่ได้คิดเรื่องได้เรื่องเสียอะไรเลย...
.
...ถ้าวันนี้น็อตไม่ได้ช่วยขนุน  วันนึงข้างหน้า...น็อตต้องมองย้อนกลับมาแล้วรู้สึกเสียใจแน่ๆฮะ” ผมพยายามชักแม่น้ำทั้งโลกมาหว่านล้อมให้อีกฝ่ายเข้าใจได้เสียที เพื่อจะได้เลิกทำตัวหดหู่เพราะความเกรงอกเกรงใจผมด้วยเรื่องโกหกทั้งเพพวกนี้

ขนุนตอบผมมาด้วยเสียงแผ่วๆที่ฟังแล้วชวนให้ใจฝ่อดีเหลือเกิน “แต่ขนุนเป็นแค่คนอื่นเองนะน็อต”

ถามจริงๆเถอะฮะขนุน...ไอ้ประโยคเมื่อกี๊เนี่ยะ คุณใช้อะไรคิด??? !! การกระทำของผมที่ผ่านมามันไม่มีความหมายอะไรเลยหรือยังไง??!! ผมเลยพูดสวนออกไปอย่างหนักแน่นโดยไม่ต้องคิด “ขนุนไม่ใช่คนอื่นฮะ...ขนุนเป็นมากกว่านั้น” ยังดีนะที่ผมแม่งไม่หลุดพูดความในใจออกไปให้ขนุนต้องลำบากใจ

“แล้วขนุนเป็นอะไรสำหรับน็อตล่ะ...ที่น็อตว่ามากกว่าน่ะ?” แต่ไอ้คนที่กำลังลำบากใจในเวลานี้ เสือกกลับกลายมาเป็นผมเองเสียแล้วสิ...

แล้วผมจะตอบขนุนว่าอะไรได้ นอกไปจาก...  “ก็...ขนุนเป็น...
.
.
...เอ่อ... เป็นเพื่อนของน็อตยังไงล่ะฮะ...
...ขนุนจำที่ไอ้คิดบอกไม่ได้เหรอฮะว่า น็อตน่ะทุ่มเทและให้ใจกับเพื่อนมากแค่ไหน เพราะฉะนั้น เมื่อน็อตเห็นขนุนเป็นเพื่อนอีกคนแล้ว น็อตก็พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อขนุนอย่างไม่มีข้อสงสัยเลยฮะ”  ผมดีใจที่อีกฝ่ายไม่ได้นั่งอยู่ตรงหน้า เพราะตอนนี้ผมแม่งเผลอเอามือยีหัวตัวเองไปมาเพื่อสะกัดกลั้นความไม่ได้ดั่งใจที่ต้องพูดคำตรงข้ามกับความรู้สึกออกไปอีกครั้ง

“ฟังๆดู ขนุนรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากเลยนะ ที่ได้เป็นเพื่อนกับน็อต ไม่อย่างนั้น...คงไม่ได้รับสิทธิพิเศษอะไรแบบนี้ แถมยังได้ลวนลามร่างกายอันมีมูลค่ามหาศาลของน็อตอีกด้วยนะเนี่ยะ...
.
.
...ใช่ไม๊ล่ะ หึ หึ” คนพูดเอ่ยด้วยเสียงเรียบๆ เดาได้เลยฮะว่าตอนนี้ขนุนแม่งกำลังประชดผมอยู่มากกว่าจะพูดเล่นหยอกเอินด้วยความเอ็นดูแหงๆ

ผมเลยรีบแก้ความเข้าใจของขนุนเสียใหม่ “ไม่หรอกฮะ...ใช่ว่าเพื่อนทุกคนของน็อตจะได้รับการปฏิบัติแบบเดียวกันกับที่น็อตทำให้ขนุนซะหน่อย...
.
...น็อตขอบอกขนุนเอาไว้ตรงนี้เลยนะฮะว่า...
...สำหรับน็อต...ขนุนคือเพื่อนคนพิเศษ ที่น็อตจะยอมทำอะไรแบบนี้ด้วยแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น และจะไม่มีวันที่น็อตจะไปทำแบบนี้กับใครหน้าไหนอีกต่อไปแล้วล่ะฮะ”   ซึ่งไอ้สิ่งที่ผมเพิ่งจะพูดออกไปเนี่ยะ แม่งโคตรจะจริงเสียยิ่งกว่าจริง ผิดก็อยู่แต่ว่า...ขนุนน่ะเป็นคนพิเศษเพียงคนเดียวของผม คนที่ผมจะให้สิทธิในตัวผมทุกอย่างแบบที่ไม่เคยให้ใครต่างหากล่ะ

คนฟังตอบด้วยเสียงเรียบๆเหมือนเคย “ขนุนเชื่อน็อตนะ...ขอบคุณมาก ที่ให้ขนุนเป็นเพื่อนคนพิเศษของน็อต”

เมื่อผมรู้สึกว่าเรื่องน่าเป็นห่วงจะหมดไปแล้ว...ผมเลยอดถามอีกคนด้วยคำถามที่ผมชักอยากจะรู้คำตอบขึ้นมาตงิดๆไม่ได้ “แล้วสำหรับขนุนล่ะฮะ...น็อตพิเศษไม๊?”

“น็อตคิดว่าไงล่ะ?”...นั่นไงล่ะ ว่าที่เมียผม...มาเหนือตลอด ไม่เคยมีสักครั้งหรอกที่ขนุนจะตอบคำถามผมเรื่องที่เกี่ยวกับความรู้สึกของตัวเองแบบดีๆเลยสักที รอบนี้แม่งแก้ลำด้วยการถามผมกลับมาเฉ๊ยยย...พลิ้วเทพว่ะ ชาบู ชาบู อูรา อูรา!!

ผมเลยตอบขนุนไปอย่างที่ผมคิด “ก็ต้องพิเศษสิฮะ ไม่อย่างนั้นขนุนคงไม่ให้น็อตเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่เข้ามาแก้ปัญหาให้ขนุนแบบนี้หรอก...น็อตพูดถูกใช่ไม๊ล่ะฮะ?”

เสียงโมโนโทนของขนุนตอบผมมาด้วยการเปลี่ยนเรื่อง “อืม...ว่าแต่ทำไมน็อตถึงถามเรื่องของคุณกานต์เหรอ? เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า?”...เอ แต่ไอ้อืมก่อนเริ่มคำถามเมื่อกี๊...มันคือการตอบรับคำถามของผมหรือเปล่าวะ??? หรือขนุนแม่งอืมเพื่อเลี่ยงประเด็นกันแน่??

เพราะไม่อยากให้เกิดความเงียบระหว่างบทสนทนาเพราะเอาแต่คิดเรื่องที่ขนุนเฉไฉโดยไม่จำเป็น ผมเลยตอบตามบทที่เตี๊ยมกับพี่ปีย์เอาไว้แล้วทันที “อ๋ออออ...ก็ไม่อะไรมากหรอกฮะ คือเมื่อเช้าพี่ปีย์โทรมาบอกว่าพี่กานต์ป่วยน่ะฮะ แต่พี่ปีย์คงอยู่เฝ้าได้แค่คืนนี้คืนเดียว...เพราะต้องออกไปถ่ายรูปเขียนรีวิวให้เพื่อนที่ต่างจังหวัดตั้งแต่เช้ามืดวันพรุ่งนี้ กว่าจะกลับมาอีกทีก็คงจะเป็นกลางอาทิตย์หน้าโน่นแหละฮะ...พี่ปีย์เลยฝากพี่กานต์ให้น็อตช่วยดูแล”

“อย่างนี้เองสินะ...ถ้าน็อตไปดูคุณกานต์ ผมก็ต้องไปด้วยใช่ไม๊?” แหม่ ทีเรื่องแบบนี้เนี่ยะเข้าใจได้ง่ายจังเลยนะฮะขนุน ไม่เห็นต้องให้ผมอธิบายอะไรมากมายเหมือนเรื่องของเราเลย...ฮึ!

ผมก็ได้แต่รับคำขนุนไปอย่างแกนๆ “ฮะ...น็อตว่าน็อตจะย้ายไปนอนบ้านพี่กานต์จนกว่าพี่ปีย์จะกลับมาจากทำงานน่ะฮะ เราสองคนจะได้ดูแลพี่กานต์ระหว่างพักรักษาตัวได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงยังไงล่ะฮะ”...ผมล่ะอยากให้ขนุนจับความไม่พอใจท้ายเสียงของผมได้จริงจริ๊งงง อย่างน้อยๆเขาก็จะได้รู้ว่าผมน่ะแม่งโคตรทุกข์เลย ที่ต้องเห็นขนุนอยู่ใกล้ๆพี่กานต์ต่อหน้าต่อตา

“อืมมม...ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่า ขนุนจะได้ไปอยู่บ้านคุณกานต์ด้วยล่ะสินะ”....แล้วนี่จะตอกย้ำเพื่อ???? เจ็บนะเว่ยขนุน!!

ผมเลยทำเป็นลืมๆเรื่องพี่กานต์ไปก่อน เพราะไม่ว่าอย่างไร คนที่ขนุนจะใช้เวลาด้วยในตอนนอนก็คือผมคนเดียว “ใช่ฮะ เพราะเราตกลงกันแล้วว่าเราจะนอนด้วยกันทุกคืนจนกว่าข้อตกลงของเราจะสำเร็จ”

“แล้วนี่คุณกานต์เป็นอะไรมากรึเปล่าล่ะ?”

“น็อตก็ไม่รู้เหมือนกันฮะ ตอนนี้พี่ปีย์พาไปหาหมอตรวจอยู่ล่ะมั้งฮะ เดี๋ยวคืนนี้น็อตโทรถามพี่ปีย์ดูอีกทีนึง” จริงๆผมไม่ต้องโทรไปถามใครหรอก เดี๋ยวคืนนี้คุณเน็ตก็โทรมาบอกผมเองแหละ เพราะคุณเน็ตรู้จากทางผมว่าพี่กานต์เป็นคนรู้จักที่ผมแนะนำให้ไปหาคุณเน็ตมาตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว แต่เรื่องนั้นมันก็ไม่ได้สำคัญอะไรเท่ากับเรื่องที่แม่งกำลังทำเอาผมสงสัยจนนั่งไม่ติดที่อยู่นี่แม้แต่น้อย...

...ผมเลยถามเพื่อความแน่ใจออกไปอีกครั้ง “ขนุนฮะ ขนุนยังไม่ตอบน็อตเรื่องที่ว่าน็อตเป็นเพื่อนคนพิเศษเลยรึเปล่าน่ะฮะ...บอกมาก่อน ไม่งั้นกลับไป ขนุนได้โดนน็อตลงโทษหนักแน่ๆเลยนะฮะ” ผมไม่ลืมปิดท้ายประโยคด้วยการข่มขู่ แต่ดูท่าว่าจะไม่สำเร็จ เพราะอีกฝ่ายตอกกลับมาอย่างเจ็บแสบ

“จะมีอะไรที่หนักไปกว่าจูบได้อีกเหรอน็อต?...
.
...หึ หึ... ไม่คุยแล้วล่ะ ขนุนไปทำงานก่อนนะ.... (ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด เสียงวางสายโทรศัพท์)” ...เมียกู๊ เมียกู!! ดู ดู๊ ดู...ดูเธอทำ!! ที่ผ่านมาผมแม่งคงทำเวรทำกรรมชอบตัดสายใส่พี่ปีย์เป็นว่าเล่นมาก่อนจนแกผูกใจเจ็บแหงๆ ผมถึงได้โดนเมียเล่นงานเอาอีตอนเข้าด้ายเข้าเข็มแบบนี้... ทำไมถึงทำกับน็อตด้ายยยยย!!

“เฮ๊ย!! ขนุน เดี๋ยวก่อนสิฮะ!!...โธ่ อะไรวะ แค่ถามเรื่องนี้เอง ทำไมไม่ยอมตอบวะ ขนุนแม่งบ่ายเบี่ยงอีกแล้ว...คนยิ่งอยากจะคอนเฟิร์มเรื่องที่กำลังสงสัยอยู่ด้วย แม่งเอ๊ย!!

แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้ออกงิ้วไปมากกว่านี้ ไอ้เหี้ยที่ผมกำลังรอเวลาให้แม่งเคลื่อนไหวเสียที  ก็ดันเดินสโลสเลออกจากลิฟท์มาโน่นแล้ว ผมเลยต้องเตรียมตัวเพื่อสะกดรอยตามแม่งดูอีกรอบ ก่อนจะเปลี่ยนมือให้ไอ้กอล์ฟมาเฝ้าแทนตอนช่วงเย็นอย่างที่ตั้งใจเอาไว้


๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐


ผมกลับมาถึงบ้านทันเวลากินข้าวเย็นพอดี แต่วันนี้พี่ปีย์กับพี่กานต์ไม่อยู่ ผมเลยพาขนุนนั่งซ้อนท้ายอ้วนดำไปกินข้าวที่ตลาดโต้รุ่งแถวบ้านก่อนกลับมาเก็บของเท่าที่จำเป็นเพื่อย้ายไปนอนบ้านพี่กานต์ในเช้าวันพรุ่งนี้หลังจากพี่ปีย์ไปแล้ว...

...ถึงผมแม่งจะหนักใจเรื่องพี่กานต์กับขนุนอยู่พอตัว แต่ผมแม่งเพิ่งได้ไฟเขียวจากพี่ปีย์ให้เล่นสนุกทุกท่วงท่าตามจินตนาการทางเพศของผมได้อย่างเป็นทางการหลังจากพี่ปีย์เสร็จงานแทรกในครั้งนี้...เย่สสสสส!! ผมจะเย่สให้เสร็จถึงทรวงเลยคอยดู กรั่ก กรั่ก กรั่ก!

หึ หึ...ในที่สุด ผมแม่งจะได้เผด็จศึกขนุนให้สมกับที่ตั้งตารอคอยมานานแสนนานเสียที  สิ่งที่เหลือซึ่งผมพอจะให้ทำได้ในระหว่างช่วงเวลาสิบวันอันจะตายนี้ ก็คงจะเป็นการเตรียมความพร้อมทางร่างกายให้กับขนุนอย่างเต็มที่...โดยประเดิมจากคืนนี้เป็นต้นไปเลยก็แล้วกัน



อาจเป็นเพราะความตื่นเต้นหรือพลังงานอะไรบางอย่างซึ่งผมเองไม่อาจจะรู้ได้ที่ไหลเวียนกระตุ้นปลุกปั่นให้บรรยากาศระหว่างเราสองคนในเย็นวันนี้แตกต่างออกไปจากเดิมผิดหูผิดตา  เพราะแม้ผมจะไม่มีจิตสัมผัส แต่ผมก็สามารถรับรู้ได้ถึงระลอกความกดดัน และกระแสความเครียดอ่อนๆถูกส่งออกมาจากตัวผมและขนุนตลอดช่วงเย็นที่เราอยู่ด้วยกันสองต่อสอง ทำให้ขนุนกับผมคุยกันน้อยกว่าปกติ...

หึ! จริงๆต้องบอกว่าเราค่อนข้างจะเงียบกันเลยล่ะ...
...ส่วนสิ่งที่พวกเราผลัดกันทำในช่วงเวลาไร้ถ้อยคำนั่นน่ะเหรอฮะ...
...ก็แค่จ้องหน้า สบสายตากันไปมาพลางถอนหายใจหนักๆ และกลืนน้ำลายอย่างยากลำบากเป็นพักๆ ราวกับตั้งตารอคอยบางอย่างด้วยความคาดหวัง พลางสงบสติอารมณ์ด้วยการนับถอยหลังรอคอยให้ตะวันลับฟ้าด้วยใจจดจ่อเท่านั้นเอง

ผมเองไม่เคยนึกว่า การจั่วหัวเรื่องหัวข้อวิชาสปท.เอาไว้ตั้งแต่ตอนที่เราคุยไลน์กันเมื่อตอนบ่ายของขนุน จะปลุกเร้าความต้องการและความปรารถนาของทั้งผมและเขาได้ดีสัดๆขนาดนี้   ผมบอกได้เลยนะฮะว่า...ระหว่างที่ผมสะกดรอยตามไอ้เหี้ยแฟนเก่าพี่กานต์เมื่อตอนบ่าย  ในหัวผมแม่งเอาแต่คิดถึงร่างกายขาวเนียนที่บิดเร่าๆและส่ายไปมาเพราะอารมณ์เตลิดที่ผมมอบให้  ไหนจะเสียงเล็กๆที่ร้องครวญครางซ้ำไปซ้ำมาอย่างน่าฟังนั่นอีกล่ะ...

...นี่ถ้าไม่ติดว่าต้องตามงานให้รู้เรื่องก่อนจะส่งไม้ต่อให้ไอ้กอล์ฟ ผมแม่งยอมทิ้งงานแล้วดิ่งกลับบ้านจริงๆนะฮะ...
...เพราะอีตอนชั่วโมงท้ายๆก่อนเลิกงานนี่  แค่คิดภาพและนึกถึงคืนวันแรกที่ผมพาขนุนไปเล่นว่าวแม่งชักจะไม่เพียงพอต่อความต้องการของไอ้น็อตคนนี้เสียแล้วสิ  ใจผมนี่อยากจะกลับไปดมกลิ่นวนิลาผสมกลิ่นกายที่ถูกขับออกมาด้วยอุณหภูมิภายในที่เพิ่มสูงขึ้นเพราะความตื่นเต้น และแรงแห่งตัณหาราคะเสียให้ได้




เมื่อกลับมาถึงบ้านหลังจากท้องอิ่ม เราต่างคนก็ต่างเร่งไม้เร่งมือเก็บข้าวของลงกระเป๋า แล้วแยกย้ายกันเข้าไปอาบน้ำทันทีโดยไม่ต้องนัดแนะให้เสียเวลา... ผมว่าผมไม่ได้เข้าข้างตัวเองนะฮะ แต่ดูเหมือนว่า วันนี้ขนุนจะใช้เวลาอาบน้ำสั้นกว่าปกติมากพอสมควร เพราะหลังจากที่ผมลงไปปิดบ้านและดูแลความเรียบร้อยทั้งหมดแค่เพียงไม่ถึงยี่สิบนาที ร่างอ้อนแอ้นที่วิ่งหายเข้าห้องน้ำไปเมื่อตอนที่ผมออกจากห้องนั้น  ก็ได้ย้ายมานั่งจ๋องทำหน้าผ่องรอผมอยู่ตรงปลายเตียงในชุดนอนเป็นที่เรียบร้อย

แต่พูดก็พูดเถอะ... เดี๋ยวนี้ขนุนแม่งชอบใส่ชุดนอนแบบนี้เหลือเกินว่ะ...
...ไอ้เสื้อยืดย้วยๆ ตัวใหญ่ๆที่คอเสื้อแม่งกว้างเสียจนถ่วงไหลลงมาที่ไหล่ข้างหนึ่ง แล้วก็ชอบใส่บ็อกเซอร์ตัวเล็กๆขาสั้นๆบ่อยสัดๆอ่ะ ขนาดว่าผมเห็นอยู่หลายคืนติดกันแล้วนะ ผมแม่งยังไม่สามารถซ่อนสายตาหื่นๆอย่างตื่นตะลึงเมื่อเห็นชุดนอนของขนุนอีกครั้งจากมุมหน้าประตูแบบในตอนนี้ได้เลย...

...เหมือนคืนนี้บ็อกเซอร์แม่งจะสั้นกว่าตัวที่เคยใส่อีกว่ะ เพราะไอ้ที่ขนุนแม่งนั่งทับขาตัวเองอยู่นี่ ผมยังมองไม่เห็นเลยด้วยซ้ำว่าบ็อกเซอร์ของขนุนมีหน้าตาสีสันมหัศจรรย์อย่างไร...
...เหยดดดดด....หรือว่าขนุนแม่งจะไม่ได้ใส่อะไรข้างล่างเลยวะ??? 
...เป็นไปไม่ได้!! ไม่มีทางที่ขนุนจะทำตัวห้าวเป้งพร้อมรับทุกสถานการณ์แบบนั้นแน่ๆ...
...หรือเปล่าวะ???!!


ด้วยความสงสัยแม่งมากวนใจผมอยู่ยิกๆ ผมเลยถามคนที่นั่งมองผมตาปริบๆอยู่บนเตียง “ขนุนฮะ...เดี๋ยวนี้ไม่ใส่ชุดนอนลายการ์ตูนแล้วเหรอฮะ?”

“ทำไมเหรอน็อต? ใส่แบบนี้มันดูแปลกๆเหรอ?” ขนุนถามผมด้วยสีหน้าสงสัยสัดๆ พลางจัดท่านั่งให้เรียบร้อยยิ่งไปกว่าเดิม

“เปล่าหรอกฮะ...น็อตแค่เป็นห่วงน่ะฮะ ก็ขนุนใส่บ็อกเซอร์สั้นๆนอนมาตั้งหลายคืน...แถมเรายังเปิดแอร์กันเย็นยะเยือกเป็นขั้วโลกใต้ออกซะขนาดนี้ ขนุนจะไม่ตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะหนาวบ้างหรือไงฮะ?” ผมแม่งก็ไม่วายส่งสายตาสำรวจตรวจสอบไปมองรอบๆชายเสื้อที่พักอยู่กึ่งกลางขาอ่อนขาวจั๊วนั่น...

...ไอ้ห่า มึงก็ทำตัวเหมือนพวกที่มีตาทิพย์มองทะลุเนื้อผ้าได้อย่างนั้นแหละ  จ้องหาชายบ็อกเซอร์ขนุน...หรือจ้องความขาวเนียนสะท้ายสายตานั่นกันแน่วะไอ้น็อต???

“ไม่หรอก...ก็น็อตกอดอยู่นี่นา” ขนุนตอบเรียบๆ

นี่ถ้าผมหลับตาแล้วนึกภาพว่าขนุนแม่งกำลังทำหน้าอ้อนผมระหว่างที่ตอบออกมานี่  บอกเลยฮะว่าผมแม่งต้องฟินสุดๆ แต่ไอ้หน้านิ่งๆไม่รู้สึกรู้สาอะไรของขนุนตอนเอ่ยประโยคน่าฟังนี้ แม่งกระชากผมให้กลับมายืนอยู่บนโลกแห่งความจริงได้ไม่ยากเลยจริงๆ...ให้ตายเถอะ!!

ระหว่างที่ผมกำลังปวดใจ  อยู่ๆคนหน้านิ่งก็ถามคำถามที่ผมไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากขนุนออกมา โดยไม่เบรคให้ผมได้หายใจหายคอ “ว่าแต่ขนุน...น็อตเองก็เถอะ  ทำไมไม่ถอดเสื้อนอนเหมือนคืนที่ขนุนเมาแล้วล่ะ? เพราะว่ามีขนุนมานอนด้วยเหรอ ถึงได้ต้องหาเสื้อยืดมาใส่เอาไว้?”

“แหะ แหะ แหะ...ก็ทำนองนั้นแหละฮะ น็อตกลัวว่าขนุนจะมองว่ามันไม่สุภาพน่ะฮะ” ผมตอบไปตามความเป็นจริง ให้ใส่เสื้อนอนไปตลอดแค่นี้ผมทำได้นะ ขอให้มีขนุนมานอนข้างๆทุกคืนก็พอแล้วล่ะ

“แปลกดีนะ...น็อตนี่ห่วงเรื่องดูสุภาพกระทั่งตอนนอน  ทั้งที่เวลาออกนอกบ้าน...ออกจะใจร้อนไม่ยอมน้อยหน้าใคร... 
.
.
...หึ หึ... แล้วนี่ไม่อึดอัดเหรอ? จะถอดเสื้อนอนก็ได้นะ ขนุนไม่ว่าอะไรหรอก” คนพูดทำหน้าจริงจัง แต่ผมรู้สึกเหมือนจะเห็นสายตาวูบวาบเป็นประกายฉายออกมาจากดวงตาหลังแว่นนั่นแว่บหนึ่ง... ไอ้แดกผมด้วยคำพูดน่ะ ก็ยังไม่น่าแปลกใจเท่าไร แต่การที่ขนุนมาทำสายตาหื่นใส่... คงไม่ใช่แล้วมั้ง...ผมแม่งคงจะคิดเข้าข้างตัวเองมากไปแล้วล่ะว่ะ

ผมฟังคำขนุนแล้วก็ได้แต่ยิ้ม แล้วค่อยๆเดินไปหยุดตรงปลายเตียงไม่ห่างจากอีกคนที่กำลังนั่งอยู่นัก แล้วทำหน้าท้าทายพลางเอ่ยประโยคคำสั่งด้วยหน้าตาล้อๆ “ดีเลยฮะ...งั้นขนุนช่วยถอดเสื้อออกให้น็อตหน่อยได้ไม๊ฮะ?” คนฟังทำหน้าเหมือนจะตกใจพอเป็นพิธีแล้วนิ่งไป...

หึ หึ ผมรู้ฮะว่าแขนขาผมแม่งยังดี แถมไม่มีอาการป่วยใดๆที่จะส่งผลให้ทำอะไรง่ายๆแบบนี้ด้วยตัวเองไม่ได้ แต่ช่วยไม่ได้จริงๆนี่หว่า...บังเอิญผมแม่งหน้าด้านเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพื่อจะปูทางให้เราได้เข้าเรื่องอย่างว่าเสียที ไอ้น็อตคนนี้....ยอมหน้าหนาขึ้นอีกสิบชั้น

ขนุนนั่งนิ่งเม้มปากอยู่สักพักแล้วจึงลุกขึ้น เดินเข่าบนที่นอนมาหาผมแล้วค่อยๆใช้สองมือเรียวเล็กนั่นจับชายเสื้อยืดหลวมๆที่ผมสวมอยู่เอาไว้แน่น ก่อนจะดึงออกจากตัวผมอย่างช้าๆ เราสองคนไม่ได้ถอนสายตาออกจากกันเลยตลอดชั่วไม่กี่วินาทีนั้น...ไอ้สายตาไม่อยู่นิ่งของคนหน้าเล็กๆหลังแว่นซึ่งผมเดาอารมณ์ไม่ถูกที่ค่อยๆโดนบดบังด้วยเสื้อนอนของผมจากด้านล่างแบบสโลว์โมชั่นนั้นแม่งพลอยทำให้ผมอดตื่นเต้นตามไปด้วยไม่ได้...

...ผมแม่งไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้ขนุนควบคุมตัวเองไม่ได้ขนาดเผลอปล่อยให้สายตาแกว่งไปมาซ้ายทีขวาทีอยู่แบบนั้น... หรือเป็นเพราะขนุนแม่งก็ตื่นเต้นที่ได้เห็นร่างกายของผมใกล้ๆ ไม่ต่างจากผมที่กำลังใจเต้นโครมคราม เมื่อก้มลงไปมองเห็นต้นคอเรียวระหง และไหล่เปลือยเปล่าจากมุมสูงอย่างในตอนนี้

หลังจากเสื้อยืดหลุดพ้นตัวของผมด้วยน้ำมือของอีกคนไปแล้ว ผมก็คว้าเอาร่างเล็กกว่าตรงหน้าเข้ามากอดไว้แน่นแล้วเริ่มพูดอย่างช้าๆให้อีกคนฟังอย่างมีจังหวะจะโคน ขนุนเอามือดันหน้าอกผมเอาไว้เบาๆเพื่อยันให้หน้าขาวๆนั่นลอยห่างจากหน้าผมจนพอมองเห็นกันได้ “การเล้าโลมคือสิ่งที่เราควรจะทำเพื่อสร้างอารมณ์ และเตรียมร่างกายของอีกฝ่ายให้พร้อมเต็มที่ก่อนการมีเซ็กส์... ในที่นี้น็อตหมายถึงการกระทำทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นนอกเหนือไปจากการสอดใส่ ซึ่งน็อตว่าขนุนก็น่าจะรู้เป็นอย่างดี..ใช่ไม๊ฮะ?”

หน้าเล็กๆที่ลอยอยู่ห่างไปไม่ถึงคืบพยักกลับมาให้ผม โดยเจ้าตัวไม่ว่าหรือถามอะไร ผมเลยพูดต่อ “จริงๆมันก็ไม่มีบทบัญญัติตายตัวแน่นอนว่า ในทุกๆครั้งที่เรามีเซ็กส์...จะต้องมีขั้นตอนการเล้าโลมเสมอไป เพราะถ้าพูดกันตามหน้างาน...หากเราสัมผัสร่างกายของอีกคนด้วยความรักจากข้างในแล้ว เราย่อมที่จะอยากลูบไล้และชื่นชมสัดส่วนของคู่เราจนถ้วนทั่ว แถมเราจะคอยสังเกตว่าคนที่เรารักนั้นอ่อนไหวตรงส่วนไหนบ้างอยู่แล้ว”

ผมคลายอ้อมกอดแล้วค่อยๆกดให้คนตัวเล็กกว่านั่งลงก่อนจะจัดให้ร่างอ้อนแอ้นนั้นนอนลงบนเตียง โดยมีผมเอนตามลงมาคร่อมทั้งตัวของขนุนเอาไว้ “สิ่งที่เรากำลังจะเรียนกันในคืนนี้ คือเรื่องที่ต่อมาจากการทำความรู้จักกับร่างกายตนเองเมื่อคราวที่แล้ว ต่างกันตรงที่...เนื้อหาหลักของบทเล้าโลมนี่ ได้เพิ่มส่วนของการทำความรู้จักกับร่างกายคู่รักของเราเอาไว้อีกด้วย...
.
...โดยมากแล้ว คนปกติที่อวัยวะต่างๆสามารถรับรู้ความรู้สึกต่างๆได้สมบูรณ์เหมือนอย่างที่ขนุนเป็น  น็อตบอกได้เลยว่า บริเวณใดๆของร่างกายที่ทำให้ขนุนรู้สึกดี...ก็คือส่วนเดียวกันที่คนอื่นๆส่วนใหญ่ในโลกจะรู้สึกดีไม่ต่างออกไป... 
.
.
...แต่บางคนอาจจะมีข้อยกเว้นว่าชอบหรือไม่ชอบถูกสัมผัสส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายเป็นพิเศษ ซึ่งนั่นก็ต้องเป็นหน้าที่ของคู่นอนที่ต้องเรียนรู้และหลีกเลี่ยง.....แต่ถ้าไม่มีส่วนไหนที่ห้ามแตะต้อง ขนุนก็ยึดหลักเดียวกันกับร่างกายของขนุนได้เลยฮะ...น็อตรับรองว่าถ้าโดนลูบตามจุดพวกนั้น ไม่ใครก็ใครต้องมีตัวอ่อนกันแน่ๆ”

ขนุนที่อยู่ในโหมดตั้งอกตั้งใจเรียนในแนวราบไปกับพื้นที่นอนก็ถามออกมาเป็นครั้งแรกหลังจากผมเข้าเรื่อง “แล้วเราควรเริ่มจากตรงไหนกันล่ะน็อต?”

“หึ หึ..นั่นก็แล้วแต่สถานการณ์และสิ่งแวดล้อมว่าจะเอื้ออำนวยซักกี่มากน้อยล่ะฮะ...
...ถ้าเป็นพวกเซ็กส์จานร้อนมีเวลาจำกัดไม่กี่นาที  ไอ้ครั้นจะให้มามัวแต่ถอดเสื้อผ้าแล้วเลียไล่ลงมาจากหัวจรดเท้าก่อนจะเริ่มสอดใส่ มันก็หมดเวลาก่อนจะได้กินพอดีสิฮะ...
.
.
...แต่สำหรับการเรียนการสอนของเราในคืนนี้ เราจะหัดเรียนรู้เรื่องการเล้าโลมกันโดยอาศัยบรรยากาศสบายๆ แบบที่เราสองคนมีเวลาด้วยกันตลอดทั้งคืน ไม่ต้องรีบร้อนไปไหนหรือทำอะไรเร่งด่วน รวมทั้งไม่มีใครมาคอยขัดใจ...
.
...ถ้าสิ่งแวดล้อมทั้งหมดถูกควบคุมให้เป็นแบบนี้ เราก็สามารถเริ่มกระตุ้นให้อีกฝ่ายเพลิดเพลินไปกับการสัมผัสของเราได้อย่างไม่มีข้อจำกัดทางเวลา... ที่น็อตพูดหมายความว่า เราจะหยอกล้ออีกฝ่ายด้วยสัมผัสแบบไหนก็แล้วแต่ความพอใจของขนุนเลยฮะ...
.
...จะเอาแบบนั่งวิจัยความงดงามของง่ามนิ้วมือกันก่อนจะมีอะไรกัน ยังไหวเลยนะฮะ หึ หึ”

“ใครบอกว่าไม่มีใครกันล่ะน็อต นี่ไง...มีพี่ปลิงอยู่ด้วยอีกทั้งคน” ขนุนพูดยิ้มๆให้ผมเหมือนตั้งใจจะยั่ว แล้วส่งสายตามองไปที่พี่ปลิงซึ่งกำลังนอนมองมาทางพวกผมอยู่ในที่นอนนุ่มนิ่มตรงมุมห้องที่ผมเพิ่งซื้อมาให้ใหม่

“หึ หึ...ก็ปล่อยพี่ปลิงดูไปซิฮะ พี่ปลิงจะได้เข้าใจไงล่ะ ว่าการเล้าโลมระหว่างคนน่ะ มันเป็นยังไง” ผมทำท่าเมินหน้าไม่สนใจพี่ปลิง ที่ชิ่งเบือนหน้าหนีผมก่อนจะซุกหน้าหลบแสงไฟสีส้มอ่อนๆจากหัวนอนเข้าใต้ตูดของตุ๊กตาเป็ดเหลืองตัวโปรด แล้วก้มลงไปมองคนหน้าแว่นข้างใต้ลำตัวอย่างพินิจพิเคราะห์

ขนุนทำหน้ายุ่งๆแล้วพูดเบาๆ “อืม...แต่น็อตต้องสัญญาก่อน ว่าคืนนี้จะไม่ทำอะไรขนุนเกินเลยไปกว่าเล้าโลม ตกลงไม๊?”

หึ...ขนุนคิดว่าผมอ่อนจนควบคุมตัวเองไม่ได้หรือไงวะ ถึงได้กล้าขออะไรแบบนี้... คนอย่างไอ้น็อต ยึดมั่นในอุดมการณ์ และไม่มีวันที่จะหักหาญน้ำใจใครหน้าไหนด้วยเรื่องอย่างว่า...แม้คนๆนั้นจะเป็นผู้ชายเหมือนๆกันก็เถอะวะ   ผมเลยตอบแบบทีเล่นทีจริงกลับไปเพื่อกลบความขุ่นข้องใจ เมื่อได้ยินประโยคดูถูกน้ำใจเมื่อตะกี๊ออกจากปากขนุน “แหม่ ขนุนฮะ...เห็นน็อตเป็นคนยังไงกันล่ะฮะเนี่ยะ ทำไมถึงคิดว่าน็อตจะหน้ามืดทำเกินกว่าที่เราตกลงกันเอาไว้ได้ลงคอล่ะฮะ...
.
.
...ขนุนอย่าลืมสิฮะว่า น็อตน่ะเป็นคนสอน เพราะฉะนั้น...น็อตต้องยึดถือเนื้อหาการเรียนการสอนตามหลักสูตรอย่างเคร่งครัดไม่มีลัดขั้นตอนแน่ๆแหละฮะ...ขนุนวางใจได้”

“ในเมื่อน็อตรับปากก็ดีแล้ว...ขนุนหวังว่าน็อตจะทำตามได้อย่างที่พูดเอาไว้นะ” ขนุนเม้มปากแน่นก่อนถอดแว่นออกจากใบหน้าเล็กๆขาวๆนั่น แล้ววางเอาไว้ห่างจากจุดที่เราสองคนอยู่พอสมควร




เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น...มันรวดเร็ว และทำเอาผมงุนงงจนเกือบลำดับเหตุการณ์ไม่ได้...
.
.
...สองแขนเรียวๆของขนุนพาดลงบนคอผมแล้วโน้มคอผมลงมาเพื่อประกบลงบนปากกระจุ๋มกระจิ๋มนั่น ทำเอาทั้งร่างของผมเสียหลักจนหล่นลงมาทับร่างเล็กๆของคนข้างใต้จนมิด  เมื่อริมฝีปากของเราบดบี้จนแนบและแทบจะกลายเป็นเนื้อเดียวกัน ลิ้นเล็กนุ่มๆหวานๆของคนตัวหอมก็ล่วงล้ำเข้ามาในโพรงปากผม เพื่อควานหาความอุ่นลื่นชื้นนิ่มจากส่วนเดียวกันจากตัวผม

เพียงไม่นาน...ปลายลิ้นเอาแต่ใจตัวเองของขนุนก็ตวัดคว้าลิ้นของผมให้ล่องลอยตามติดกันไปจนได้  ผมใช้เวลาเพียงครู่เดียวเพื่อตั้งสติ จากนั้นก็ร่วมดื่มด่ำไปกับรสจูบแสนหวานแบบไม่ทันตั้งตัวในครั้งนี้อย่างไม่คิดรีรอ  เราสองคนต่างแลกลิ้นกันอย่างไม่มีใครยอมใคร จนเสียงแลกน้ำลายชื้นแฉะของเราดังประสานก้องไปทั้งห้องคลอไปกับเสียงลมหายใจ และเสียงครางอย่างพออกพอใจของทั้งผมและขนุน

มือของผมเริ่มไต่ไปตามเนื้อตัวของอีกคนที่เริ่มจะส่ายไปมาหลังจากเราจูบกันได้ไม่เท่าไร... ผิวกายที่ผมกำลังสัมผัสอย่างใจนี้ช่างนุ่มและเนียนมือดีเหลือเกิน ไม่นึกเลยว่า...ไอ้ความรู้สึกที่เฝ้าจินตนาการมานานตั้งแต่แรกเห็น ของจริงจะให้ความรู้สึกฟินได้ขนาดนี้ คนอะไร...นอกจากแม่งจะไม่มีขนแล้ว ยังจะตัวเนียนนุ่มได้ไม่มีที่ติแบบนี้อีกวะ  แล้วอย่างนี้...ผมแม่งต้องลูบขนุนอีกนานเท่าไร  ถึงจะพอใจกับรสสัมผัสที่โคตรหลงรักกันได้ล่ะเนี่ยะ

ด้วยความต้องการจะสัมผัสเนื้อตัวของขนุนอย่างที่สุดแบบไม่มีสิ่งใดขวางกั้น แต่ก็ไม่อยากผละริมฝีปากจากกลีบปากเล็กๆของอีกคนไปให้เสียอารมณ์ ผมเลยพยายามดึงชายเสื้อของคนตัวเล็กให้เลิกขึ้นด้วยความทุลักทุเล เพราะแม่งทำได้ยากเต็มที...ไม่ใช่อะไรหรอกฮะ ก็ด้วยน้ำมือของตัวผมเองนี่แหละ ที่ทิ้งน้ำหนักตัวลงบนอีกฝ่ายจนกลายเป็นอุปสรรคทำให้เสื้อนอนของขนุนยิ่งถอดยากไปกันใหญ่

ขนุนเลยเลื่อนมือเล็กๆทั้งสองข้างมาประคองหน้าของผมเอาไว้โดยไม่คิดหยุดสัมผัสระหว่างปากสองเราที่เร่งเร้าและเร่าร้อนขึ้นทุกวินาที แล้วค่อยๆดันตัวเองขึ้นช้าๆจนผมต้องยันตัวเองขึ้นตาม พอผมและขนุนเปลี่ยนมาอยู่ในท่านั่ง...ขนุนก็ผละริมฝีปากออกจากปากผมทันที

ผมได้โอกาสเลยดึงชายเสื้อเจ้าปัญหาขึ้นจนหลุดพ้นตัวของอีกคนได้สมใจ แล้วก็ต้องอึ้ง...เพราะอีกฝ่ายไม่ได้ใส่บ็อกเซอร์อย่างที่ผมคิดหื่นเผื่อเอาไว้...  นี่ตลอดเวลาขนุนแม่งนั่งตัวเปลือยอยู่ใต้เสื้อบางๆย้วยๆเมื่อตะกี๊ตัวเดียวเนี่ยะนะ?? อย่าบอกนะว่า ขนุนแม่งตั้งใจอ่อยผมแบบจัดเต็ม...เมียกู๊ เมียกู....อะไรจะน่ารักโดนใจได้ขนาดนี้วะ??!! 

ดูเหมือนอีกคนจะรู้ว่าผมกำลังเหวอไปกับเซอร์ไพรส์แบบที่โคตรประทับใจในครั้งนี้ของเขา ขนุนเลยโน้มตัวผมให้ลงมาทาบทับร่างเปลือยเปล่าเชิญชวนนั่นเพื่อแลกจูบกันอีกครั้ง สองขาเรียวๆพาดอ้อมหลังผมเพื่อมาเกี่ยวพันรอบตัวผมเอาไว้ นั่นเท่ากับบังคับให้ท่อนล่างของเราแนบชิดกันไปใหญ่โดยที่มีเนื้อผ้าบางๆของกางเกงนอนผ้ายืดขายาวเพียงตัวเดียวของผมกั้นอยู่...

...เหี้ยแล้วล่ะฮะ...ผมแม่งรู้สึกเลยว่าลำตัวของน้องชายเราสองคนแม่งกำลังเบียดเสียดกันอยู่ว่ะ
...พอคิดได้อย่างนั้น...ผมงี้เสียวท้องน้อยขึ้นมาแปล๊บบบโดยทันทีทันใดเลยว่ะ...
...ไอ้ห่าน็อต!! มึงอย่านึกภาพตามสิวะ ไม่งั้นมึงแตกก่อนเวลาล่มหน้าอ่าว...เสียฟอร์มนะเว่ย!!

ผมเลยพยายามกลับมาสนใจกับการจูบอันเผ็ดร้อนระหว่างเราสองคนแทน คราวนี้ผมเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายคุมเกมโดยลิ้นของผมไล่ต้อนจนลิ้นของอีกคนถอยร่นกลับเข้าไปในที่ๆจากมาเป็นที่เรียบร้อย ผมเดินหน้าบดขยี้ริมฝีปากเล็กนุ่มนิ่มแล้วดูดเลียน้ำหวานในปากเล็กๆนั่นไปพร้อมๆกับตวัดลิ้นรัวเร็วสั่งสอนลิ้นร้อนๆของขนุน

ไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายต้อน...ผมว่าแม่งก็ให้ผลลัพธ์เดียวกัน คือ คลื่นความกระสันที่แม่งกำลังเพิ่มระดับขึ้นเรื่อยๆ  ทำเอาทั้งผมและขนุนต่างสลับกันส่งเสียงครางอย่างพึงพอใจ...

...นี่แค่จูบนะ ยังทำเอาผมจะบ้าเสียให้ได้...
...บอกตรงๆ ผมไม่เคยนึกเลยว่า การได้สัมผัสร่างกายของคนที่เรารัก แม่งจะทำให้โคตรมีความสุขได้มากขนาดนี้ แค่ดูดปากแลกลิ้นกัน แม่งยังทำให้น้องชายผมถึงกับขึ้นเป็นลำ...เทพสัดๆว่ะ!

แต่ผมแม่งไม่อยากจะหยุดความสุขสันต์เอาไว้แค่ตรงนี้ ในเมื่ออีกคนได้ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีขนาดยอมนั่งโป๊รออยู่บนเตียงตั้งนานสองนานหรอกว่ะ...เสียดายของแย่ ผมเลยเปลี่ยนจากปากมาเป็นจูบไล่ไปตามแก้มแล้วไซ้หนักๆทั่วๆลำคอเพรียวบางที่ผมแอบมองอยู่เป็นนานเมื่อครู่

ขนุนแม่งตัวหอมชิบหาย...ยิ่งตรงคอใกล้ๆกับตีนผมนะ เหมือนผมเปิดขวดน้ำหอมแล้วดมอัดเข้าจมูก ยิ่งผมสะบัดหน้าส่ายไปมาเพื่อฝังจมูกไปให้ทั่วลำคอนานเท่าไร ไอ้กลิ่นวนิลานั่นก็เหมือนจะมอมให้ผมเริ่มเมาและขาดสติยับยั้งชั่งใจมากขึ้นตามไปเท่านั้น เพราะตอนนี้มือผมแม่งรี่ไปคว้าหัวนมขนุนแล้วขยี้ไปมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว...

“ฮ๊าห์..................อาห์..............อ๊ะ.............อื๊มมมมม...............ฮื๊ออออออออ...............” การเรียนวิชาสปท.ในครั้งนี้แม่งแตกต่างจากครั้งแรกโดยสิ้นเชิง เพราะเราแทบไม่ได้แลกเปลี่ยนบทสนทนาห่าอะไรกันเลย เสียงในฟิล์มหลักๆในเวลานี้คงจะเป็นเสียงเล็กๆคนเจ้าของกลิ่นชวนดมซึ่งทำเอาผมลุ่มหลงโงหัวไม่ขึ้น เจ้าตัวกำลังบิดร่างเร่าๆไปมาเมื่อมือของผมลงน้ำหนักกับติ่งชมพูยอดอกตัวเอง และเมื่อผมดูดเลียคอขาวๆนั่นอย่างไม่ปรานีปราศรัย

ผมเองแม่งก็ไม่มีอารมณ์อื่นนอกจากความหงี่ที่อยากจะสอยคนๆนี้มากเหลือเกิน เลยงดขั้นตอนการอธิบายไปโดยปริยาย ผมว่าขนุนเองแม่งคงจะว่าอะไรผมไม่ได้หรอก....เพราะเท่าที่ดิ้นอยู่นี่ ผมว่าขนุนแม่งไม่เหลือพื้นที่สมองจะเรียนรู้ห่าเหวอะไรอีกแล้วล่ะว่ะ

“อ๊ะห์..........น็อต....................เสียวววววว....ขนุนเสียว....ฮ๊าห์..........” นั่นคือเสียงที่ผมได้ยินเมื่อปลายติ่งหูของขนุนถูกผมขบแล้วขยี้ซี่ฟันลงเบาๆ ก่อนจะดึงครูดให้ติดตามฟันมาแล้วปล่อยให้หลุดไป ในเมื่อเจ้าตัวส่งสัญญาณบอกความรุนแรงของอารมณ์จากการสัมผัสส่วนนี้ของร่างกายมาเสียชัดเจนขนาดนี้ ผมเลยจัดการสมนาคุณด้วยการลงลิ้นไปรอบๆใบหูอยู่ครู่ใหญ่... ไม่ใช่เพื่อแค่สร้างความบันเทิงให้กับคนตัวเล็กกว่าเท่านั้นหรอกฮะ แต่เพื่อให้เขาลืมไปว่า ผมแม่งกำลังมันมือกับการเล่นเขี่ยหัวนมของเขาอยู่ด้วยอีกช่องทาง

แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่ขนุนแค่คนเดียวที่กำลังโดนจู่โจม หากแต่เป็นผมด้วยเช่นกันที่น้องชายตื่นตัวสุดๆหลังจากอีกคนขยับบดบี้ร่างกายท่อนล่างไม่หยุดโดยที่ขาเรียวๆทั้งสองข้างไม่ได้คลายจากเอวผมไปที่ไหน... ดาบเจไดของทั้งผมและขนุนแม่งก็ถูไถกันให้พอเพลินๆแกมปวดหนึบๆไปเท่านั้นสิฮะ

พอรู้ว่าตัวเองเริ่มจะไม่ไหว ผมเลยเลื่อนตัวลงต่ำเพื่อลิ้มลองรสชาติความหวานมันของทับทิมกรอบสีชมพูที่ถูกมือนวดจนแข็งเป็นไตไปแล้ว  เมื่ออยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม...ผมก็เอาริมฝีปากครอบลงบนเม็ดติ่งนั่นทันที “......ฮื๊อออออออออ....................อ๊าห์.....................น็อต...น็อต....น็อต!!.......ซี๊ดดดดด.......อ๊าห์....อื๊อออออออ........”   เมื่อได้ยินเสียงกระเส่าของว่าที่เมียดังลั่น ผมแม่งก็เร่งลิ้นเลียวนรอบๆป้านสีชมพู สลับกับติ่งเม็ดเล็กๆนั่นไปมา พอเสียงครางนั่นแผ่ว ผมแม่งก็ดูดหัวนมเข้าให้ เมียผมในเวลานี้แม่งกำลังกัดริมฝีปากเพื่อกลั้นความเสียวเสียยกใหญ่

แต่ไอ้ท่ากัดปากเนี่ยะ อย่าได้ปล่อยให้ผมเห็นขนุนทำเมื่อไรเชียว... เพราะแม่งไม่ต่างอะไรกับการยั่วให้ผมทำตัวเป็นเด็กดีต่อไปไม่ได้  พอลืมตัว...ผมแม่งก็เผลอตัวดูดหัวนมในปากนั่นอย่างแรง แถมกัดปลายยอดเบาๆด้วยความหมั่นเขี้ยวจนคนตัวเล็กกรีดร้อง แล้วโผตัวขึ้นมาจากที่นอนเข้ามากอดหน้าผมเอาไว้เลยทีเดียว

ในอ้อมกอดของขนุนที่กำลังนั่งพักหายใจหอบ ผมได้กลิ่นที่หอมยิ่งไปกว่ากลิ่นวนาลาที่ผมคุ้นเคย...
...สงสัยแม่งจะเป็นกลิ่นประจำตัวที่ขับออกมาระหว่างที่ร่างกายถูกปลุกเร้าแหงๆ  ดมไปดมมา...ผมว่าไม่ใช่แค่ซอกคอขนุนแล้วว่ะที่แม่งหอม... ผมว่าแม่งน่าจะหอมไปทั้งตัวนี่แหละ ขนาดหัวนมแม่งยังหอมกลิ่นคล้ายๆวนิลากรุ่นไม่มีการละเว้น อย่าบอกนะ...ว่าขนุนแม่งฉีดกลิ่นวนิลาเข้าเส้น เพื่อให้หอมระเหยออกมาจากข้างในไปจนทั่วทั้งตัวแบบนี้ อย่างนี้ผมแม่งก็ยิ่งหลงยิ่งรักทั้งขนุนทั้งกลิ่นนี้ไปกันใหญ่ดิวะเนี่ยะ 

ผมสบตากลมใสหยาดเยิ้มนั่นพลางยิ้มให้ แล้วค่อยๆดันร่างเล็กๆของอีกคนให้เอนลงนอนเหมือนเดิม ก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมายลงต่ำไปเป็นคราวของน้องชายขนุนที่ตัวแม่งกำลังเต่ง ยืนร้องไห้จ้าจนลำเริ่มจะสั่นน้อยๆ....

...เอาวะ!! เพื่อให้ได้กินเมียไปนานๆ แม้ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่ไอ้น็อตจะอมดุ้นให้ผู้ชายอีกคน แต่เพื่อความสุขของเมีย...น็อตยอม!! ผมเลยคว้าน้องชายของขนุนเอาไว้ในมือ แล้วก้มหน้าเข้าไปใกล้ๆ

ยังไม่ทันที่ริมฝีปากของผมจะได้เข้าใกล้กับน้องชายตัวชมพูอมแดงของขนุนอย่างที่รวบรวมความกล้าเอาไว้แต่แรก ขนุนก็ถดตัวหลบรสสัมผัสจากปากผม แล้วเอามือทั้งสองมาดันหน้าผมเอาไว้ก่อนพูดเบาๆ “น็อตนอนลงเถอะ...แล้วก็ห้ามถามอะไรทั้งสิ้นนะ”

ถึงผมจะงง แต่เห็นหน้าตาจริงจังของขนุน ผมก็ไม่อาจจะขัดใจเจ้าตัวได้ เพราะผมได้ให้สัญญากับขนุนเอาไว้ตั้งแต่ตอนก่อนที่เราจะเริ่มเล้าโลมกัน ว่าจะไม่ทำอะไรเกินเลย...
.
.
...เพราะอย่างนี้นี่เอง ถึงทำให้ขนุนขอผมเอาไว้ล่วงหน้า ว่าห้ามทำอะไรเกินไปกว่าการเล้าโลม...
...แต่แค่อมน้องชายเนี่ยะ มันไม่ได้ใกล้เคียงกับการสอดใส่แม้แต่นิดเดียวเลยนี่หว่า...
...หรือว่าผมจะมีปัญญาได้แค่ลวนลามขนุนพอให้น้องชายได้ขึ้นลำเท่านั้นวะ...
.
.
...เฮ้ออออออ  ทนหน่อยวะไอ้น็อต อีกไม่นาน....อย่าลืมนะว่า มึงได้ไฟเขียวจากพี่ปีย์แล้วนะเฟร่ยยยยย!!!



ผมเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายนอนราบลงบนที่นอนและกำลังง่วนอยู่กับการสงบสติอารมณ์ไม่ให้ฟุ้งซ่านไปเพราะความเสียดาย  ขนุนที่นั่งอยู่ข้างๆลำตัวผมก็ค่อยๆวางมือลงตรงหน้าท้องของผมแล้วลูบไล้เบาๆวนไปวนมา ผมถึงกับตกใจเมื่อรับรู้ได้ว่ามือเรียวเล็กนั่นค่อยๆล้วงเข้าไปใต้ขอบยางกางเกงนอนผม แล้วกอบกุมน้องชายของผมเอาไว้ก่อนจะรูดเบาๆจากโคนจนถึงปลายอย่างช้าๆ “....นุน..........ฮ่าห์.....”

ขนุนไม่ฟังเสียงปรามของผมแต่อย่างใด  เพราะมืออีกข้างถูกเจ้าตัวส่งมาดันขอบกางเกงนอนลงเพื่อปลดปล่อยให้น็อตน้อยออกมาแสดงตัวประกาศศักดา   ยิ่งกว่าความตกใจในรอบที่แล้ว...เพราะเมื่อผมชะโงกหน้าขึ้นไปมองขนุนในเวลานี้ให้หายสงสัย   ลูกตาผมแม่งก็เกือบจะถลนออกนอกเบ้าเมื่อเห็นว่าขนุนกำลังก้มหน้าต่ำลงไปหาน้องชายของผมที่กำลังตื่นตัวเต็มที่อยู่ แล้วค่อยๆครอบริมฝีปากเล็กๆเจ่อนิดๆนั่นลงตรงปลายสุดของความเป็นชายของผมอย่างไม่ลังเล

“อาห์................. ทันทีที่ปากเล็กๆนุ่มๆ กับลิ้นร้อนๆโอบอุ้มน้องชายของผมเอาไว้ ผมถึงกับสะท้านไปทั้งร่างด้วยความสยิว ปลายลิ้นเรียวเล็กรู้หน้าที่เป็นอย่างดี เพราะมันกำลังตวัดพริ้วทักทายน้องชายคนเก่งของผมไปมา จนตัวของผมเริ่มจะสั่นเทิ้มด้วยความหวามหวิว แต่นั่นยังไม่เท่ากับเมื่อขนุนครอบปากโอบรับน้องชายของผมเอาไว้ภายในแล้วเริ่มขยับเป็นจังหวะจากเนิบๆก่อนจะค่อยๆเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ

ด้านในโพรงปากอันอ่อนนุ่มของขนุนแม่งให้ความรู้สึกดีชิบหาย... ใช่ว่านี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้รับการปรนนิบัตรด้วยปากแบบนี้เสียเมื่อไร แต่จังหวะและการเอาใจของขนุนแม่งเหนือชั้นว่ะ ทุกๆการเคลื่อนไหวทำเอาผมเสียววาบไปเสียทุกทีแบบที่บอกออกมาเป็นคำพูดไม่ได้  แถมลูกเล่นต่างๆนาๆที่คนตัวเล็กกว่างัดออกมาใช้ระหว่างนั้น ยังถูกอกถูกใจผมเอาเสียมากๆ จนผมเผลอเปล่งเสียงร้องด้วยความพอใจออกมาเป็นระยะๆ  “ซี๊ดดดดดดดดดดส์.........ฮ่าห์..........” 

เพื่อไม่ให้น้อยหน้ากัน ผมเลยคว้าเอาน้องชายขนุนที่ยังไม่ได้รับการปลดปล่อยเอาไว้ในมือ ก่อนจะส่งความช่วยเหลือลงพื้นที่เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดของอีกฝ่ายไปพร้อมๆกัน เมื่อไรก็ตามที่ขนุนดูดกลืนตัวผมเข้าไปลึกสุดใจแล้วรูดปล่อยให้ตัวผมเป็นอิสระแบบเกือบสุดลำกล้อง ผมแม่งก็รูดมือหนักๆไปตามตัวขนุนน้อยเป็นการตอบแทน

ขนาดผมโดนเอาใจด้วยริมฝีปากขนุนแค่เพียงไม่นาน  หัวสมองผมแม่งก็เริ่มจะว่างเปล่าเสียแล้วสิ...การรับรู้เพียงสองอย่างที่เหลืออยู่ คือ ความสุขสยิวกิ้วตรงกึ่งกลางลำตัว กับความสั่นเต้นระริกในมือทุกครั้งที่ผมรูดขึ้นและลง   ลมหายใจและเสียงครางของเราดังประสานกันเป็นท่วงทำนองอันไพเราะเสนาะหูสัดๆ  ถึงแม้เสียงเล็กๆของขนุนนั่นจะถูกกั้นเอาไว้ด้วยการกระทำอันติดพันของริมฝีปากจิ้มลิ้มก็ตามที  เราทั้งสองต่างเร่งมือเพื่อพาให้อีกฝ่ายไปถึงฝั่งฝันโดยไม่ต้องบอกกล่าวหรือให้จังหวะกัน  ผมไม่อาจบังคับบั้นเอวไม่ให้ขยับสาวเข้าออกเป็นจังหวะประสานกับริมฝีปากของขนุนได้ในตอนท้ายแบบนี้  ไม่ต่างจากเอวสอบเล็กๆที่กระตุกขึ้นลงตามทิศทางของมือผม

เมื่อความสุขสมในบั้นปลายได้ส่งราชรถมาเกยตรงหน้าเราสองคน... เราต่างไม่ออมมือ เร่งปลุกเร้าปรนเปรออีกคนให้รู้สึกล่องลอยสูงขึ้นจากพื้นดินไปเรื่อยๆด้วยสัมผัสอันเร่งเร้าร้อนแรงเท่าที่เราจะทำได้  “....อ้าห์!!!...........” ผมได้ยินเสียงครางของตัวเองดังก้องเป็นเสียงสุดท้าย ก่อนที่จะรู้สึกได้ถึงช่วงเวลาที่ทุกอย่างลอยคว้าง และหยุดนิ่งไม่ไหวติง ไร้ซึ่งเสียงใดๆดังลอดให้ได้ยิน ร่างกายของผมทั้งหมดเบาโล่งโปร่งสบายไปพร้อมๆกับความเสียดเสียวกลางลำตัวอย่างที่สุด

พอรู้ตัวอีกที...ผมก็ปลดปล่อยความอัดอั้นทั้งหมดเข้าปากของอีกคนไปเสียแล้ว โดยที่ในมือผมรู้สึกอุ่นลื่นด้วยของเหลวขาวขุ่นจากร่างกายของอีกฝ่าย หลังจากเช็ดมือลวกๆกับเสื้อของผมที่ถูกขนุนถอดวางไว้บนเตียงใกล้ๆ ผมก็รีบลุกขึ้นมาแล้วประคองอีกคนซึ่งยังนั่งนิ่งโดยใบหน้าเล็กๆนั่นเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาเป็นสายให้เอนลงมานอนหนุนแขน และกอดอย่างหวงแหนเอาไว้แนบอก

ผมพูดพลางค่อยๆไล้นิ้วเช็ดคราบน้ำตาที่อาบแก้มขาวเนียนทั้งสองข้าง ก่อนบรรจงประทับจูบเบาๆลงบนแก้มนุ่มๆนั่นอย่างรักใคร่ “โธ่...ขนุน ไม่เห็นต้องฝืนตัวเองทำอะไรแบบนี้เลยนี่ฮะ ขนุนไม่น่าจะเคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนซักหน่อย” ผมเลื่อนหน้าขึ้นมาพรมจูบลงบนหน้าผากชื้นเหงื่อของอีกคนซ้ำๆด้วยความรู้สึกหลากหลายข้างใน

คนในอ้อมกอดผมเงยหน้าขึ้นมาตอบผมพร้อมส่งสายตาซื่อๆให้ “...ก็ทีน็อตยังจะทำให้ขนุนเลยนี่นา”

พอผมเห็นดวงตากลมใสเหมือนเด็กๆของขนุนเคลือบไปด้วยน้ำตา ก็ทำให้อดสงสารคนตัวเล็กกว่าในอ้อมอกขึ้นมาอีกระลอกไม่ได้ “นั่นมันน็อตฮะ..น็อตเป็นคนสอนเรื่องนี้ให้ขนุน น็อตก็ต้องโอเคกับเรื่องแบบนี้อยู่แล้วล่ะ”  ผมรับคำส่งๆไปก่อน ทั้งที่ผมเองก็ไม่แน่ใจว่า...การใช้ปากให้ผู้ชายจริงๆมันจะเป็นอย่างไร...

...รู้เพียงอย่างเดียวว่า ถ้าคนๆนั้นเป็นขนุน  ต่อให้เลียตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วกลืนเข้าร่างไป...ผมแม่งก็ยังอยากทำว่ะ

ขนุนยังจ้องหน้าผมไม่วางตา แก้มใสๆของเขาในเวลานี้ขึ้นสีแดงเรื่อๆ ปากเล็กจุ๋มจิ๋มก็เปลี่ยนเป็นสีแดงและดูเต่งตึงน่ากัดดีเหลือเกิน คนน่ารักของผมถามออกมาเบาๆ “แต่น็อตก็ไม่เคยทำอะไรแบบนี้ให้ใครมาก่อนเหมือนกันนี่นา...ใช่ไม๊ล่ะ?”

ผมยอมรับแต่โดยดี “ฮะ...นั่นก็ใช่ฮะ แต่.......     ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบ ขนุนก็พูดแทรกออกมาทันที ซึ่งมันเป็นประโยคที่เพราะที่สุดประโยคหนึ่งเท่าที่ผมเคยได้ยินออกจากปากขนุนมาเลยทีเดียว

“น็อตไม่ต้องแต่หรอก...ขนุนอยากทำให้น่ะ” คนพูดปิดท้ายประโยคด้วยการเม้มปากเป็นเส้นตรงอีกแล้ว...เม้มปากทำไมวะ?? หรือว่าฝืนใจ???...ไม่ม้างงง อย่างนี้ต้องถามให้ชัวร์ๆ

“จริงเหรอฮะ? ที่ขนุนบอกว่าอยากทำให้น็อตน่ะ?” ผมเชยคางเล็กของขนุนบังคับให้อีกคนต้องประสานดวงตาเข้ากับผมจนได้

ขนุนตอบผมด้วยน้ำเสียงจริงจัง...นั่นไม่ได้มีน้ำหนักอะไรเท่ากับความจริงใจที่ผมสัมผัสได้จากสายตา การแสดงออกทางใบหน้าของขนุนเท่าที่ผมเห็นในเวลานี้  “จริงสิ...อีกอย่าง ก็เราตกลงกันแล้วไงล่ะว่า ระหว่างเราสองคน...น็อตน่ะเป็นเมะ...
.
.
...ส่วนขนุนก็เป็นเคะ... 
...แล้วเท่าที่ขนุนอ่านจากในเน็ตหรือในนิยายส่วนใหญ่...
...พวกเมะๆเค้าชอบให้เคะทำแบบนี้ให้ทั้งนั้นแหละ... น็อตล่ะ ไม่ชอบเหรอ?”  นี่เหรอเหตุผลที่แท้จริงของขนุน...เรื่องพวกนี้ทำให้ตัดสินใจอยากจะทำถึงขนาดนั้นเพื่อผมเลยเชียวเหรอ... คงจะไม่เกินไป หากผมจะบอกกับตัวเองเป็นรอบที่สองล้านว่า...เมียผมแม่งน่ารักเกินหน้าเกินตาใครๆจริงๆฮะ 

ผมก้มลงไปประทับรอยจูบแล้วกัดริมฝีปากล่างนั่นเบาๆก่อนผละหน้าออกมาเพื่อตอบคำถามคนน่ารักด้วยความเต็มใจ “ชอบสิฮะ...แต่ระหว่างเรา เรื่องแบบนี้ มันไม่ตายตัวหรอกฮะ...ว่าน็อตหรือขนุนจะทำอันนั้นได้ แต่ทำอันนี้ไม่ได้ ตามแต่บทบาทหน้าที่ระหว่างเราถูกกำหนดเอาไว้อย่างนั้นในทีแรก...
.
.
...วันใดวันนึงข้างหน้า ถ้าน็อตอยากทำให้ขนุนมีความสุขแบบนี้บ้าง น็อตก็จะทำให้เหมือนกันแหละฮะ” เมื่อไรที่ผมได้ขนุนสมใจนะ อย่างน้อยต้องมีวันนึงที่ผมจะหาโอกาสเลียขนุนแม่งทั้งตัวให้แม่งย้วยคืนร่างเดิมไม่ได้เลย...คอยดูสิ!

คนฟังทำตาวาวแล้วถามออกมาทันที “ที่บอกว่าระหว่างเรา...ไม่มีการบังคับตายตัว...น็อตหมายถึง........

ผมจับความหมายของขนุนได้จากอาการและสีหน้าที่ตื่นเต้นยินดีแบบออกนอกหน้าได้ ผมเลยรีบสกัดดาวรุ่งไม่ให้ขนุนเพ้อออกนอกโลกไปเสียก่อน “หยุดเลยฮะ!..ที่น็อตพูดมาเนี่ยะยกเว้นเรื่องสอดใส่เรื่องเดียวฮะ...
.
.
...ฟังให้ดีๆเลยนะฮะ ไม่ว่ายังไง...น็อตก็ยังคงจะเป็นเมะของขนุนเท่านั้น กลับกัน...ขนุนก็ต้องเป็นเคะของน็อตคนเดียวเท่านั้นเหมือนกัน...เข้าใจแล้วใช่ไม๊ฮะ?” ผมก้มลงไปจูบริมฝีปากนั่นอีกหลายรอบอย่างหมั่นเขี้ยว อีกคนก็ทำทีเหมือนจะปัดป้องด้วยการเบี่ยงหน้าหลบไปมา จนผมต้องเปลี่ยนมาเป็นกอดร่างเล็กๆอ้อนแอ้นของขนุนแน่นๆ แล้วเอามือข้างหนึ่งประคองหัวของขนุนเอาไว้เพื่อให้ผมสำเร็จโทษตรงริมฝีปากได้ตามใจ

เมื่อไม่มีทางสู้ ขนุนก็ปล่อยเลยตามเลยแล้วตอบออกมาสั้นๆด้วยหางเสียงสะบัดสะบิ้ง “อื้อ...ก็ตามนั้นแหละ”

ผมเลยเปลี่ยนเรื่องมาถามถึงสิ่งที่คาใจผมเหลือเกิน...ประมาณว่าถ้าไม่ได้คำตอบ ผมแม่งน่าจะนอนไม่หลับอะไรแบบนั้นเลยทีเดียว “ว่าแต่...ถ้าน็อตจะถามอะไรซักอย่างโดยที่ขอให้ขนุนตอบตรงๆ ขนุนจะยอมไม๊ฮะ?”

เมื่อได้ฟังคำถามและเห็นหน้าเว้าวอนของผม ขนุนก็เลิกงอนแล้วกลับเข้าสู่โหมดสนอกสนใจเรื่องที่ผมจะคุยต่อในทันที “ถามอะไรล่ะ ถ้าไม่ลำบากจนเกินไป...ขนุนตอบให้ได้ทุกเรื่องอยู่แล้วล่ะ”

ผมทำหน้าไม่แน่ใจก่อนกลืนน้ำลายเพื่อคลายความประหม่า แล้วก็ถามออกไปจนได้ “ทำไมขนุนใช้ปากได้เก่งแบบนี้อ่ะฮะ?...ถามจริง...ครั้งแรกจริงๆเป่าเนี่ยะ” ผมล่ะกลัวใจว่าคนในอ้อมกอดแม่งจะหายตัวไปในอากาศหลังจากได้ยินคำถามข้อนี้ของผมเสียจริง ผมเลยเผลอลากขนุนให้เลื่อนมานอนคว่ำหน้าทาบลงบนหน้าอกของตัวเองแล้วรัดวงแขนเอาไว้แน่น

ขนุนเอามือทั้งสองข้างมาประคองเอาไว้บนหน้าอกผมตรงใต้คางตัวเองพอดิบพอดีก่อนจะปักหลักวางคางมนๆลงไป พลางพูดด้วยเสียงนิ่มๆ แต่ว่าเชือดเฉือนดีทีเดียว “นี่เรียกได้ว่าเป็นคำชมรึเปล่า?”

ผมเลยรีบตอบเป็นการใหญ่เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเข้าใจผิด “อื้อ ชมสิฮะ...
.
.
...น็อตนะ โคตรชอบเลยอ่ะ แบบว่าชอบจริงชอบจัง ไม่เคยฟินอะไรเท่านี้มาก่อนเลยฮะ” ...ยอมรับเลยฮะ ว่าไม่เคยพูดความจริงเรื่องไหนที่จริงไปกว่าครั้งนี้อีกแล้ว... คือ ปากขนุนแม่งเทพอ่ะ ผมล่ะยอมยกให้เป็นที่สุดของที่สุดเลยจริงๆ นี่ถ้าคราวหน้าขออีก...ไม่รู้ว่าขนุนจะนึกครึ้มใจยอมทำให้อีกหรือเปล่า

พอฟังคำผมจบ ขนุนก็ยิ้มออกมาทันทีแล้วก็ตอบผมแบบทีเล่นทีจริงด้วยน้ำเสียงภูมิอกภูมิใจในความสามารถของตัวเอง “น็อตชอบก็ดีแล้วล่ะ...
.
.
...ส่วนเรื่องว่าทำไมขนุนถึงเก่งเรื่องใช้ปาก...ขนุนขอเก็บเอาไว้เป็นความลับแห่งสวรรค์แล้วกันนะ หึ หึ” ผมเห็นสายตาของขนุนแล้วก็เจ็บใจขึ้นมานิดๆ คุณรู้ใช่ไหมว่าเรื่องนี้แม่งต้องทำผมคลั่งได้ คุณถึงได้แกล้งอุบเอาไว้ไม่ยอมบอกผมอยู่อย่างนี้...เมียกู!! แสบไม่มีใครเกินจริงจริ๊งงงง!!

“เดี๋ยวเถอะนะ เดี๋ยวน็อตไม่ปล่อยให้นอนง่ายๆเลยนี่ฮะ” ไม่พูดเปล่า ผมเอาแขนข้างหนึ่งรัดตัวคนที่นอนอยู่ด้านบนเอาไว้แน่น แล้วส่งลูกสมุนเป็นมืออีกข้างไปจั๊กจี๋เอวสอบของอีกฝ่ายอย่างไร้เมตตา... โทษฐานท้าทายอำนาจว่าที่สามีดีนัก หึ หึ!!

ขนุนหัวเราะลั่นอย่างเสียอาการพลางดิ้นไปมา ดูก็รู้ว่าเจ้าตัวพยายามรวบรวมสติเพื่อต่อรองให้ผมหยุดมือโดยเร็วที่สุด เออแฮะ...ผมแม่งก็ไม่คิดว่าขนุนจะบ้าจี้ แล้วเวลาขนุนแม่งหลุดมาดนิ่งๆหัวเราะแบบเต็มเสียงนี่ก็น่ารักดีไปอีกแบบ “ฮะ ฮะ ฮะ ฮะ ฮะ...หยุดนะน็อต อย่าจี้เอวสิ ฮะ ฮะ....ฮะฮะ   พอ!! พอเลย...ฮะ ฮะ ฮะ ฮ่า”

เมื่อผมพอใจกับสีหน้าทรมานของขนุนแล้ว ผมก็หยุดมือให้ตามที่อีกฝ่ายขอ...ไม่ได้ใจดีหรอกฮะ แต่เพราะอยากทำตามใจตัวเองให้ยิ่งรู้สึกครึ้มอกครึ้มใจยิ่งๆขึ้นไปต่างหาก “พอก็ได้ฮะ ไหนมาให้กอดหน่อยซิฮะ คนดีของน็อต” พูดจบผมก็จัดท่าให้อีกคนกลับมานอนตะแคงหันหน้าเข้าหาผมโดยที่หนุนแขนเอาไว้อย่างเดิม ผมเอามือข้างหนึ่งลูบไปตามผมเผ้าที่ยุ่งเหยิง จัดแต่งให้วงหน้าขาวๆไม่ถูกบดบังให้รำคาญใจ

ขนุนถามผมออกมาด้วยความสงสัย “นี่คือสิ่งที่เราควรทำหลังเล้าโลมเหรอน็อต?...นอนกอดกันเนี่ยะ?”

ผมตอบอีกฝ่ายยิ้มๆ “หึ หึ หึ ก็แล้วแต่ฮะ...แต่น็อตอยากกอดขนุนนี่นา แล้วขนุนก็ไม่ว่าอะไรด้วย...เพราะฉะนั้น น็อตก็จะกอดให้หนำใจเลย” เพื่อเสริมให้คำพูดมีน้ำหนักยิ่งขึ้น ผมแม่งยิ่งได้ทีกอดรัดให้ร่างเปลือยนวลเนียนของขนุนกระชับเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้นไปอีก

“เอาแต่ใจจริงนะเด็กน้อย หึ หึ! ขนุนยิ้มมุมปากส่งมาให้...ผมรู้ดีฮะ ว่าไอ้ยิ้มแบบนั้นน่ะ มันเป็นการท้าทายผมชัดๆ เมียผมแม่งรั้นดีจังว่ะ...น่าจัดสั่งสอนให้นอนครางอีกสักหลายๆรอบ หึ หึ...รอหน่อยนะจ๊ะเบ่เบ๋ อีกไม่นานคุณก็จะกลายเป็นทาสสวาทของไอ้น็อตแบบโงหัวไม่ขึ้นอีกต่อไปแล้ว กรั่ก กรั่ก กรั่ก

ผมต่อปากต่อคำกับขนุนไปด้วยสีหน้าท้าทาย “จริงๆน็อตก็ไม่ใช่เด็กแล้วนะฮะ...ไม่เชื่อขนุนก้มลงไปมองหลักฐานข้างล่างนั่นก็ได้ หึ หึ...” ขนุนได้แต่ส่ายหน้าแล้วส่งสายตาปลงๆมาให้เป็นคำตอบ ผมเลยพูดต่อ...ด้วยโหมดจริงจัง “...แต่น็อตจะยอมเป็นเด็กน้อยให้ขนุนคนเดียวก็ได้ฮะ......แลกกับกอดแล้วก็ทำแบบเมื่อกี๊ไปตลอดแล้วกันนะฮะ” ผมยิ้มแล้วก้มลงไปหอมแก้มขาวเด้งนั่นอีกครั้งอย่างสบายอกสบายใจ... หึ หึ ถ้ารู้ว่ายกเรื่องเล้าโลมมาเรียนแล้วได้บัตรผ่านหอมฟรี กอดฟรี จูบฟรีแบบหน้าด้านๆอย่างนี้ได้ ผมแม่งทำไปตั้งแต่แรกแล้ว...

...ไม่อยากจะนึกจริงๆ ถ้าเปลี่ยนเป็นได้มีอะไรกันแล้ว ผมแม่งจะทำตามใจได้มากขนาดไหนกันว้า...หึ หึ ตื่นเต้นจังวุ้ย!
.
.
.
“น็อต...ทำไมน็อตถึงดีกับขนุนจังเลยล่ะ?...เพราะอะไรเหรอ?” อยู่ๆขนุนก็ถามผมกลับมาด้วยคำถามที่ผมต้องคอยเลี่ยงคำตอบจริงๆไปเสียทุกครั้งขึ้นมาอีกแล้ว

ผมก็เลยตั้งท่าจะยกเอาเรื่องเก่ามาเล่าให้ขนุนฟังใหม่ดูอีกครั้ง “.....อืม ก็อย่างที่น็อตเคยบอกไปนั่นแหละฮะ...

แต่ดูเหมือนอีกคนจะเริ่มทนฟังไม่ได้ เพราะขนุนแม่งพูดแทรกขึ้นมาทันทีโดยไม่ปล่อยให้ผมพล่ามจนจบ “ถ้ามันเป็นเพราะอย่างที่น็อตเคยบอกไป...น็อตก็ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้วล่ะ ขนุนเข้าใจและจำทุกๆคำที่น็อตเคยบอกได้ดี...เอาไว้ขนุนจะถามเรื่อยๆแล้วกันนะ เผื่อว่าเหตุผลที่น็อตจะบอกขนุนในครั้งถัดไป จะกลายเป็นเหตุผลอื่นที่ไม่ใช่ทำเพื่อขนุนในฐานะเพื่อนเสียที”

ผมถึงกับงงเหมือนโดนชกเข้าที่กกหู ทำให้ต้องถามออกไปอย่างโง่ๆ “...ขนุนพูดแบบนี้หมายความว่าไงฮะ?”

ขนุนกลับเลี่ยงด้วยการซุกหน้าลงตรงหน้าอกผมแล้วหลับตาลงอย่างช้าๆ ก่อนจะปิดท้ายบทสนทนาของเราในคืนนี้ “ช่างเถอะ...เรานอนกันดีกว่านะน็อต  ราตรีสวัสดิ์นะ”

“ฮะ...กู๊ดไนท์ฮะคนเก่ง”

ผมนอนกอดร่างเปลือยนุ่มนิ่มนั่นเอาไว้แนบกายโดยไม่คิดที่จะปล่อยให้ห่างไปไหนแม้แต่วินาทีเดียว แล้วก็ผล็อยหลับไปด้วยคำพูดสุดท้ายของขนุนที่ทิ้งเอาไว้ให้ผมต้องเอากลับมาคิดหาคำตอบกันยกใหญ่ในวันถัดๆมา...หรือว่าขนุนเองก็กำลังรอให้ผมยอมเปิดเผยความในใจอยู่เหมือนกันวะ...

แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อตัวตนของผม...ไม่ได้ใกล้เคียงอะไรกับคนที่ขนุนชอบเลยนี่หว่า...

แล้วขนุนเองก็เคยประกาศลั่นมาแล้วว่า ต่อให้ลองคบคนที่ไม่อยู่ในสเปคจริงๆ ก็คงไม่คิดว่าตัวเองจะหันไปชอบหรือรักคนๆนั้นได้แน่ๆ...คิดมากแล้วปวดหมองว่ะ... เอาเป็นว่า ผมแม่งแค่ทำในส่วนที่ผมทำได้ให้ดีที่สุด แล้วก็คอยกีดกันตัวเลือกอื่นๆของขนุนออกไปให้หมด เพื่อให้ขนุนมองไปทางไหนๆก็จะเห็นผมอยู่ในสายตาแค่เพียงคนเดียว

วันหนึ่งข้างหน้า...ขนุนก็คงจะพร้อมที่จะเดินเคียงข้างผมไปด้วยกันแน่ๆ...เพราะเขาต้องรับรู้ได้แน่ๆว่า ไม่มีใครจะรักและทุ่มเททำทุกอย่างได้เพื่อเขาเท่าตัวผมอีกแล้ว
.
.
.
.
...ว่าแต่... ขนุนแม่งไปหัดใช้ปากมาจากที่ไหนวะ??...
...ลำพังแค่อ่านเอาจากเว็บหรือหนังสือ แม่งก็ไม่น่าจะเก่งได้มากขนาดนี้นี่หว่า...
...ผมว่า อย่างน้อยๆขนุนแม่งต้องใช้เวลาฝึกฝนมาเป็นแรมปีแน่ๆอ่ะ...ยังไงวะ???




...ข้าแต่สวรรค์ ได้โปรดเห็นใจและยอมเผยความลับให้ลูกช้างได้รับรู้ด้วยเทิ๊ดดดด ลูกช้างสัญญา...ว่าถ้าหากท่านยอมเบิกเนตรเปิดดวงตาเห็นธรรมให้ลูกช้างในข้อสงสัยนี้  ลูกช้างยินดีไม่กินเนื้อนานสามเดือนเลยสิเอ้า!!




๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐



ระหว่างมื้อเช้าเมื่อหลายวันก่อน ถ้าน็อตจะพอละสายตาจากกระทะที่มีไข่สองฟองเดือดพล่านอยู่ในน้ำมันนั้น เพื่อหันมาสังเกตอีกคนที่กำลังนั่งก้มหน้าก้มตาอยู่ที่โต๊ะเพื่อรอกินข้าว...

น็อตจะต้องตื่นตะลึงถึงขั้นไม่เชื่อสายตาตัวเองไม่มากก็น้อย เมื่อได้เห็นว่า ขนุนกำลังพยายามดันไส้กรอกรมควันขนาดกำลังคับปากเข้าข้างในโพรงปากอย่างช้าๆ แล้วใช้เวลาดูดอมอยู่ซักพัก จากนั้นจึงค่อยๆถอนใบหน้าออกมา โดยที่ไส้กรอกท่อนนั้น...ยังอยู่ในสภาพเหมือนใหม่ ไร้ซึ่งรอยมลทินใดๆกระทั่งรอยขูดขีดจากฟันแม้แต่เพียงซี่เดียว

ซึ่งกระบวนท่านี้...ขนุนมักจะฝึกหัดอยู่เสมอเมื่อมีโอกาสและไม่มีใครจับจ้องตัวเขา โดยครั้งแรกนั้น...ต้องนับย้อนไปตั้งแต่เมื่อหลายสิบปีมาแล้ว หลังจากเจ้าตัวได้เผลอไปอ่านนิยายชายรักชายที่มีฉากร่วมรักอันเร้าใจ และมีเคะที่ตรงกับสเปคของขนุนเหลือเกินเข้า... ขนุนเลยฝังใจถึงลีลาและความเก่งกาจของเคะผู้นั้น  โดยที่ไม่ทันได้เฉลียวใจเลยว่า ความประทับใจที่ได้มา...จะส่งผลรุนแรงต่อพฤติกรรมของตัวเองได้ถึงเพียงนี้   ซึ่งจุดเปลี่ยนเล็กๆก็คือ...การหัดให้ตัวเองคุ้นเคยกับการอมของกินเอาไว้ในปากเป็นเวลานานโดยไม่สร้างความเสียหายใดๆ

เหยื่อทั้งหลายที่ดาหน้าเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของขนุนในวันนี้  ล้วนแล้วแต่จะเป็นของกินทุกๆอย่างที่มีลักษณะเป็นท่อน และไม่อ่อนแอเสียรูปทรงจนเกินไปหลังจากรวมร่างกับน้ำลายในช่องปากเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  ในขณะของการฝึกซ้อม...ขนุนมักจะตั้งใจวาดภาพสเมือนจริงขึ้นมา ก่อนจะถามตัวเองในใจอยู่เสมอว่า....หากแทนที่ของกินในปากด้วยสิ่งที่คู่ควรตรงตามจินตนาการแล้ว...มันจะทำให้รู้สึกดีได้มากขนาดไหนกันนะ??

กระนั้น... กระบวนท่านี้จะหยุดลงทันที เมื่อเพื่อนร่วมโต๊ะอาหารให้ความสนใจตัวเขา หรือแม้แต่การที่เจ้าตัวรู้สึกได้ถึงสายตาที่กำลังจับจ้องมาจากที่ไกลๆ คล้ายๆกับอาการหวาดผวาสายตาคนอื่น  ซึ่งบ่อยครั้ง...บอกได้เลยว่า ขนุนก็คิดหวาดผวาไปเองอยู่มากเหมือนกัน...

...อนิจจา น่าสงสารบรรดาของกินเหล่านั้นเหลือเกิน ที่ได้สัมผัสช่วงเวลาแห่งความสุขภายในโพรงปากอันอ่อนนุ่มนั่นได้เพียงไม่นาน เพราะต้องโดนกัดขาดสะบั้นออกเป็นหลายๆท่อนลงในทันใดที่ขนุนเกิดตื่นตระหนก...

...นับว่าน็อตเองยังโชคดี  ที่ขนุนไม่ได้เหมารวมเอาน้องชายไซส์เกินหน้าเกินตาใครๆของเขาเข้าเป็นของกินประเภทหนึ่ง... ไม่อย่างนั้น  สวรรค์เองก็ไม่อาจรู้ได้ว่า ความรู้สึกในตอนที่คมฟันกระทบลงบนเนื้ออ่อนอย่างจัง จะร้าวรานเพียงใด...



ขอจบการรายงานข่าวซุบซิบฉบับสวรรค์ชั้นเจ็ดเอาไว้ ณ ที่นี้
เอวัง




๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐


2 comments:

  1. ป๊าดดดดด ขนุนทำของใส่น็อตหรือเปล่าเนี่ย 555555
    ทำน็อตคลั่งได้อีก กร๊ากกกกก แต่การหัดใช้ปากของขนุนนี่มัน...... 555555
    ถ้าน็อตรู้นะ ฮึฮึฮึ จินตนาการภาพไว้ได้เลย 555555

    จะพยายามตั้งใจสอบเต็มที่นะคร้าบบบ แล้วก็นารูโตะนี่ก็จิ้นไปทั่ว 5555
    ตั้งแต่ซาสึนารุ อิทาจิคาคาชิ มีแอบจิ้นไปไกลกว่านั้นคือ ซาอินารุ 55555 ชู้ของนารูโตะ
    แต่ซาสึเกะก็ไม่น้อยหน้ามีซุยเงซึมาเป็นกิ๊กด้วยเหมือนกัน 55555 ไปหมดละสมอง
    มะลิก็สู้ๆนะ เป็นกำลังใจให้นะคร้าบ เลิฟนะเชิฟๆ

    ReplyDelete
  2. ฮ่าๆๆๆๆ ขนุนนี่ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าเป็นตัวของตัวเองนะคะ แต่น็อตหลงนางเองค่ะ...หลงหนักขนาดโงหัวไม่ขึ้นเลยค่ะ ฮ่าๆๆๆ
    น็อตจะไม่มีทางรู้เรื่องนี้ง่ายๆหรอกค่ะ (หรืออาจจะไม่มีทางได้รู้เลย...เพราะมะลิยังเขียนไปไม่ถึงไหน ฮ่าๆๆๆๆ) มะลิเลยนึกไม่ออกเหมือนกัน ว่าน็อตจะมีปฏิกิริยาอย่างไรหากได้รู้ความจริงเรื่องการฝึกวิชาของขนุน


    สู้ๆนะคะ! เป็นกำลังใจให้อย่างแรงเลยล่ะ ^__^
    อ่ะโห จิ้นเยอะอ่ะ ยิ่งตอนนี้ไม่ได้อ่าน ก็เลยจำไม่ได้แล้วว่าใครเป็นใคร ฮ่าๆๆๆ เดี๋ยวเอาไว้อ่านตามทันเมื่อไร คงจะพอนึกออก...แต่ชอบเรื่องนี้มากอยู่นะคะ เพราะเห็นพัฒนาการของตัวละครตั้งแต่เด็กจนโต อารมณ์เหมือนตอนอ่านแฮรรี่ พอตเตอร์... คือเห็นมาตั้งแต่ตัวน่อยๆ จนตอนนี้กลายเป็นนินจาวัยหนุ่มเต็มขั้น

    ไม่รู้คุณนาราอ่าน Reborn หรือเปล่า... พระเอกนี่โดนแช่แข็งไม่ให้มีโอกาสได้โตจนอยากจะเอาไปจิ้นต่อเลย ทั้งที่เพื่อนๆแต่ละคนนี่น่าจิ้นใช้ได้ ฮ่าๆๆๆ (มะลิจิ้นเรื่องนี้เยอะเหมือนกันค่ะ เพราะผู้ชายเยอะ ฮ่าๆๆๆๆ)

    ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ รักคุณนาราเหมือนกันค่ะ เชิฟๆ

    ReplyDelete