Friday, November 28, 2014

เขาวานให้ผมเป็น 'สายรับ' (เคคู่ผู้รู้รอบฯ) : ❽ แสดงความรักบ่อยๆ อ่อยแต่พอดีๆ



มะลิขอลาวันเสาร์อาทิตย์นี้นะคะ เพราะติดธุระกับที่บ้าน 
เราจะกลับมาเจอกันอีกทีวันจันทร์เลยนะค้า ขอให้อ่านอย่างมีความสุขค่า ^^



แสดงความรักบ่อยๆ อ่อยแต่พอดีๆ[โปรดเถอะ โยคีเพลย์บอย]


To:  khemnun@ilovebananapress.com
From: malinee@ilovebananapress.com
Subject: re: re: re: re: re: re: re: re: re:  บทนำนิยายเรื่องใหม่ (แนวทดลอง)



แม่ขนุน!!...


ก่อนอื่น ขอให้ชั้นได้เฉ่งหล่อน จากการกระทำความผิดในหลายๆคดีที่หล่อนได้ก่อเอาไว้โดยจะตั้งใจหรือไม่ก็ตามให้สาสมใจก่อนนะยะ  เพราะดูจากรูปการณ์ในตอนนี้แล้ว...เห็นทีชั้นจะปล่อยหล่อนให้ลอยนวลเดินเชิดใช้ชีวิตอย่างผาสุกโดยไม่ด่าว่าให้หล่อนได้สติ คงจะไม่ถูกต้องนัก... เดี๋ยวคนอื่นจะมาเมาท์ชั้นลับหลังเอาได้ว่า บ.ก.ตงฉินผู้เที่ยงธรรมแต่ไม่ดำเท่าเปาบุ้นจิ้นจะสิ้นลายกลายเป็นแค่เสือกระดาษ เพราะคอยจะให้ท้ายนักเขียนที่มีศักดิ์เป็นเหลนรหัสสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของตัวเองอยู่ตลอดเวลา

  นับวัน...หล่อนก็ยิ่งจะทำตัวงามหน้ามากขึ้นทุกที ทุกที...

...หล่อนรู้หรือไม่ว่า คดีที่หล่อนไปแสดงฤทธาอภินิหารย์ออกร้านเป็นการแสดงของดีที่บุพการีให้มาต่อหน้าต่อตาไอ้คนที่เราก็รู้ว่าใครน่ะ มันมีผลเลวร้ายกับคนในวงกว้างยังไงบ้าง?

ชั้นอยากจะให้หล่อนมาเห็นไอ้คนที่เราก็รู้ว่าใครด้วยสี่ตาของหล่อนเองเสียเหลือเกิน หล่อนจะได้เบิกตามองตอนที่มันกระอักก้อนเลือด และหลั่งน้ำตาของลูกผู้ชายออกมาด้วยความคั่งแค้นจากภายใน เพื่อที่หล่อนจะได้เข้าใจความลำบากลำบนของเพื่อนร่วมงานผู้บริสุทธิ์อย่างพวกชั้น ที่ต้องมาทนรับมือกับอารมณ์แปรปรวนเป็นสตรีมีเมนส์ แถมยังต้องคอยเคี่ยวเข็ญให้มันทำงานจนปากชั้นจะฉีกถึงรูหอยอยู่แล้วเนี่ยะ! 

ไอ้คนที่เราก็รู้ว่าใครมันหงอยเสียจนปล่อยไอความสร้อยเศร้าให้ออกมาเคล้ากับอากาศที่เราร่วมอาศัยหายใจระหว่างทำงาน คนในออฟฟิศเลยไม่ต้องเป็นอันทำอะไร นอกไปจาก...คอยแปะมือกันเดินมาถามไถ่สารทุกข์สุขดิบของเหยื่อผู้ประสบภัยหื่นกันจนพื้นหน้าห้องชั้นสึก จนชั้นจะโรยตัวลงไปประชุมกับฝ่ายบัญชีที่ชั้นเจ็ดได้โดยไม่ต้องอาศัยบันไดอีกต่อไป...

...เห็นหรือยังยะว่า สิ่งที่หล่อนทำด้วยอารมณ์อยากชั่ววูบนี่ ทำชั้นเดือดร้อนขนาดไหน...
...หล่อนก็คิดเอาเองแล้วกันว่า...หล่อนควรทำอย่างไรเพื่อแก้ไขความผิดที่หล่อนเป็นคนก่อ...
...ส่วนเรื่องการออกหื่นนอกสถานที่ของหล่อนกับสามี  ถ้าเลือกได้...ช่วยหักห้ามตัวเอง ไม่เผลอตัวทำเรื่องอุกอาจแบบนี้ต่อหน้าคนที่เราก็รู้ว่าใครอีกเป็นอันขาด เพราะไอ้คนที่เราก็รู้ว่าใคร มันอาจจะกลายเป็นบ้า แล้วลุกขึ้นมาไล่ปล้ำช่างพิมพ์ ไม่ก็อาร์ตไดฯเพราะไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรอีกต่อไปแล้ว

(หมายเหตุ: หล่อนรู้ใช่ไหมว่า ไอ้คนที่เราก็รู้ว่าใครมันไม่ได้ทำอย่างนั้นจริงๆ...ที่ชั้นเขียนไปก่อนหน้านี้น่ะ คือ figurative speech เฉยๆนะยะ อย่าไปเที่ยวเข้าใจว่ามันหลั่งเลือดนองน้ำตาตรงหน้าโต๊ะทำงานชั้นล่ะ...เดี๋ยวจะเสียชาติที่เกิดมานักเขียนกันพอดี)


เอาล่ะ... กลับมาว่าเรื่องงานกันเสียที (รัวคีย์บอร์ดด้วยมือข้างที่ถนัด พลางจัดปกเสื้อ และลูบปอยผมที่ตกลงมาปรกหน้าให้เรียบกริบด้วยมือที่ถนัดน้อยกว่าประสาคนเก่งรอบด้าน)

สองตอนล่าสุดที่หล่อนเขียนมา มันแซ่บเว่อร์ และเป๊ะอย่างที่หล่อนได้โฆษณาเอาไว้ แต่ชั้นว่า คนอ่านอาจจะไม่ค่อยหนำใจสักเท่าไรหรอกนะ หากจะได้อ่านเนื้อหาเด็ดดวงด้วยใจความน้ำจิ้มๆแบบนี้ เพราะฉะนั้น...เพื่อไม่เป็นการทำลายความสุขของเหล่าสาววายทั่วฟ้าเมืองไทย หล่อนจงรีบส่งตอนต่อไปมาให้ชั้นได้อ่านโดยเร็วที่สุด ถ้าเป็นไปได้...ขอเนื้อหาแบบเซ็กซ์คลูซีฟเลยได้ไหมยะ จะได้เรียกน้ำทั้งหลายของคนอ่านให้หลั่งท่วมแต่ละหน้าของหนังสือจนบวมไม่ได้รูปหลังจากรวมเล่มตีพิมพ์ โฮะ โฮะ โฮะ

สุดท้ายนี้...ชั้นขอขอบใจหล่อนมาก ที่หล่อนยังจดจำ และเฝ้าหาคำตอบให้กับคำถามของชั้นที่ว่า หลังจากที่เราได้ผ่านประสบการณ์คืนแรกอันแนบแน่นกับคนรัก เรามองโลกเปลี่ยนไปจากเดิมหรือไม่? 

แต่ขอโทษเถอะนะยะ ถามจริงๆ...ที่หล่อนตอบชั้นมาเมื่อคราวก่อนนั้นน่ะ หล่อนโง่จริง...หล่อนแกล้งโง่...หรือว่าหล่อนอยากจะโชว์เหนือว่าหล่อนกับผัวกินกันได้ไม่เลือกที่ โดยยินดีที่จะระรานพื้นที่สาธารณะไปทั่วกันแน่ยะ?  อ่านคำตอบของหล่อนวนไปวนมาหลายๆรอบ ชั้นก็ชักจะสงสัยแล้วล่ะสิว่า...ไอ้ที่หล่อนคอยหาโอกาสอวดเรื่องบนเตียงของหล่อนกับผัวให้ชั้นได้รับฟังอยู่เนืองๆแบบเนียนๆนี่  เพราะหล่อนอยากจะทำให้ชะนีขาดน้ำอย่างชั้นต้องสะเทือนใจที่ไม่ได้ ไม่โดนผู้ชายกระหน่ำซั่มร่างอย่างหล่อนบ้างใช่หรือไม่ยะ...ตอบ!!!!

อย่างไรก็ดี...อย่าคิดว่าอาการโจ๊ะพองฟูเพราะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากสามีของหล่อนจะทำอะไรชั้นได้...
...อย่าลืมว่า ชั้นไม่ได้ตำแหน่งบ.ก.มาโดยง่าย ด้วยการอาศัยหน้าตาเป็นใบเบิกทางอย่างที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ
!!


แม่หญิงเมี่ยง เสลี่ยงเลี่ยมทอง (บ.ก.)

ป.ล. ชั้นเชื่อแล้วล่ะว่า ชายหนุ่มหน้าละอ่อนผู้มีใบหน้า และออร่าน่ากินคนนั้นเป็นสามีของหล่อนโดยสนิทใจ เพราะเมื่อวันก่อน ชั้นได้เจอตัวเค้าเป็นๆกับตัวเองมาแล้ว  พ่อคุณมาคุยธุระอะไรก็ไม่รู้อยู่ตรงหน้าออฟฟิศกับไอ้คนที่เราก็รู้ว่าใครอยู่เป็นนานสองนานทีเดียว...

...เห็นแค่หน้าตาและรูปร่างก็บอกได้เลยทันที ว่าพ่อคนนี้จะเซี้ยวไม่หยอก...
...บอกมาเดี๋ยวนี้นะว่า เวลาเค้าอยู่บนเตียงกับหล่อนนี่ เค้าดีงามตามท้องเรื่องได้มากขนาดไหน???
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
💋 แม้นแผ่นดินสิ้นชายที่พึงเชย...เป็นเลสเบี้ยนเสียเลยจะดีกว่า


๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐


🚹 บ่นบนบล็อก
ชื่อโพสต์ : How to Tame a Bad Boy 👿 อ่อยเธอ...เลยเจอรัก แต่อ่อยหนักๆ...โดนรักไม่พักเลย }}
สถานะ : Draft



หากใครคุ้นเคยกับการดูหนัง หรือละครเป็นอย่างดี คงจะคุ้นเคยกับประโยคคำถามที่มักจะทำให้ตัวละครสะดุดคิดไปพักหนึ่งเสมอๆ  ซึ่งประโยคสุดคลาสสิกทำหน้าที่ประหนึ่งสัญญาณบอกใบ้ให้คนดูได้รับรู้จุดแตกหักที่จะนำมาซึ่งบทสรุปของเรื่องราวทั้งหมด มีใจความไม่สั้นไม่ยาวเพียงว่า มีทั้งข่าวดี และข่าวร้าย...อยากฟังข่าวไหนก่อน?...

...การบ่นของผมในครั้งนี้ก็เช่นกัน เพราะผมจะขอเริ่มมันด้วยประโยคคำถามนี้...
...เนื่องจาก ถึงเวลาแห่งการผูกปมของเรื่องกันเสียที หลังจากที่เสียเวลาอารัมภบทกันมานานหลายเดือน  นั่นก็หมายความว่า  เราทุกคนได้ร่วมเดินทางฝ่าฟันเรื่องราวบ่นๆมากมายกันมาถึงตอนใกล้จบแล้วล่ะครับ... 
.
...อ้ะ อ้ะ! อย่าเพิ่งดีใจจนออกนอกหน้าไปครับ สิ่งที่ผมเพิ่งบอกไปนั้น..ไม่ใช่ทั้งข่าวดี หรือข่าวร้ายที่ผมต้องการจะบอกให้พวกคุณร่วมรับรู้ในครั้งนี้แต่อย่างใด...ของจริงน่ะ กำลังจะมาให้พวกคุณได้อ่านหลังจากนี้เป็นต้นไปต่างหากล่ะ



ในเมื่อไม่มีใครที่จะสามารถเลือกคำตอบของคำถามข้างบนอกจากผมได้  ผมจึงขอเลือกแถลงข่าวดีอย่างที่สุดแทนการต้อนรับทุกๆท่านกลับเข้าสู่บล็อกบ่นๆของผมอย่างเป็นทางการ  ถือเสียว่า...เป็นการเบิกฤกษ์อุ่นเครื่องสายตาก่อนเริ่มอ่านงานเขียนยาวๆทรมานสายตาของผม  ด้วยความน่าอภิรมย์ชวนให้หัวใจกลายเป็นสีชมพูและพองฟูอย่างที่สุด  เผื่อว่าความสุขจากข่าวดี จะมีมากเสียจนช่วยทำให้คุณๆ ไม่ต้องรู้สึกตึงเครียดจนเกินไป หลังจากเนื้อความของข่าวร้ายออกแผลงฤทธิ์

ข่าวดีที่สุดของผมประจำช่วงเวลานี้ของชีวิตก็คือ ผมกับน็อตได้เริ่มคบหากันเป็นแฟนแล้วครับ...

...เรื่องน่าปลื้มยิ่งไปกว่านั้นเห็นจะได้แก่  เราสองคนได้สารภาพความในใจที่เรามีต่อกันอย่างหมดเปลือก แถมน็อตยังได้ยืนยันความรู้สึกรักที่เขามีให้ผมด้วยการมอบของขวัญแทนใจ คล้ายกับการตีตราจองทั้งตัว และหัวใจของผมอย่างเป็นเรื่องเป็นราวเรียบร้อยแล้วด้วยล่ะครับ...... ขนาดผมที่เป็นคนเขียนซึ่งประสบพบเจอเรื่องนี้ด้วยตัวเองเมื่ออาทิตย์กว่าๆมาแล้ว  เมื่อได้กลับมาอ่านใจความข้างบนนี้อีกครั้ง ยังรู้สึกเลยว่า...บรรดาข่าวดีทั้งหลายที่ผมเพิ่งกล่าวถึงมานี่  ช่างฟังดูโรแมนซ์แสนสวีทชวนให้แอบกรี๊ดอยู่ข้างในอย่างไรก็ไม่รู้เนอะ...(กรี๊ดดดดดด!!)

แต่กว่าที่เรื่องทั้งหมดจะดำเนินมาถึงบทส่งท้ายด้วยความสมหวังของเราทั้งสองได้นั้น  ขั้นตอนทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นก่อนหน้า ก็ทำเอาผมหืดขึ้นคอ เพราะต้องเข็น ต้องรุน ต้องกระตุ้นพ่อคุณให้รุกฆาตผมจนเหนื่อย

เนื้อหาที่ผมจะเล่าต่อไปนี้  จะจาระไนให้พวกคุณได้รับรู้ถึงรายละเอียดการเตรียมการทั้งหมด รวมทั้งเบื้องลึกเบื้องหลังของแผนปิดการขายเพื่อให้ได้นายตัวร้ายมาเป็นแฟน  อันเป็นที่มาของความสุขสมหวังตรงปลายทางแห่งรักระหว่างผมกับน็อต ณ เวลานี้ แต่ไหนๆจะโปรยหัวทั้งที... ผมขอจั่วประเด็นเรียกน้ำย่อยให้พวกคุณได้รับทราบแต่เนิ่นๆก่อนเลยครับว่า สิ่งที่ผมทุ่มเทกายใจทั้งหมดลงไปนี่ ไม่ใช่แค่เพื่อทำให้เราสองคนปลงใจคบหากันในฐานะคนรักเท่านั้น หากแต่มันคือการปูรากฐานไปสู่การครองคู่อย่างยั่งยืนไปจนกาลปาวสานอีกด้วย



สำหรับคู่รักคู่อื่นแล้ว กว่าที่ใครคนใดคนหนึ่งจะรวบรวมความกล้าเพื่อสารภาพความในใจให้อีกฝ่ายได้รับรู้  หรือกว่าจะได้เริ่มคบหาดูใจในแบบคนรักนั้น จะยากเย็นเข็ญใจสักเพียงไหน...ผมเองก็ไม่อาจรู้ 

แต่ถ้าให้วัดจากประสบการณ์ส่วนตัว เมื่อปักใจจะทำให้น็อตกลายมาเป็นคนรักคนแรก และคนสุดท้ายของผม  มันได้สอนผมให้รู้ว่า...การที่คนสองคนจะได้ลงเอยด้วยการครองคู่กันนั้น  ไม่ง่ายเลย...  ที่สำคัญ เพื่อจะไปถึงจุดหมายที่ว่า ทุกๆก้าวย่างต้องอาศัยความอดทน ความพยายาม ความตั้งใจอันแน่วแน่ และความรักที่มีให้กับน็อตอย่างมากมายมหาศาลเป็นเชื้อเพลิงคอยสนับสนุน   ไม่เท่านั้น...ผมยังต้องอุทิศเวลาไม่น้อย รอคอยจังหวะที่ดีที่สุด ก่อนจะลงมือตามขั้นตอนต่างๆ เพื่อจะแน่ใจว่า แผนที่วางเอาไว้จะเดินหน้าไปอย่างใจหวัง 

แต่พอเอาเข้าจริง...บรรดาแผนหลัก แผนรอง แผนสองแผนเสริมที่เคยคิดสะระตะซ้ำแล้วซ้ำเล่า พร้อมกับซักซ้อมหาทางแก้มาเป็นร้อยเป็นพันครั้งอย่างรัดกุมกลับแทบใช้ไม่ได้  เพราะการตอบสนองของพ่อคุณกลับต่างไปจากแนวทางการรับมือที่ผมได้คิดเผื่อเอาไว้ล่วงหน้าราวกับหน้ามือเป็นหลังมือ  สุดท้ายแล้ว...จากที่คิดว่าจะจัดการทุกๆอย่างได้สำเร็จด้วยตัวเองเพียงลำพัง กลับกลายเป็นว่า ผมต้องใช้กองกำลังเสริมเป็นบุคคลที่สามเพื่อเร่งปฏิกิริยาให้พ่อยอดชายยอมคายความรู้สึกที่มีให้ผมได้รับฟังเสียที

กระนั้น...อย่างที่ผมได้เกริ่นไปข้างต้นนั่นแหละครับว่า การได้มาซึ่งความรักหมดทั้งหัวใจ และการได้เป็นสุดที่รักของน็อต เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น... ซึ่งภาพรวมของแผนการทั้งหมด ผมจะทยอยเล่าให้พวกคุณได้รับฟังในลำดับถัดๆไป  แต่สำหรับเวลานี้... เรามารับรู้เบื้องหลังอันยากลำบากของการสร้างข่าวดีที่ว่ากันก่อนดีไหมครับ

ครั้งที่แล้ว เมื่อผมเปรยถึงความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของเราสองคน กับความจริงจังจริงใจของอีกฝ่ายที่จะทำให้ผมยอมรับรักที่ดูจะไม่กระเตื้องสักเท่าไร  ทำให้ผมต้องกลับมานั่งไล่อ่านเนื้อหาของหนังสือคู่มือจีบหนุ่มฯอีกครั้ง  แล้วก็พบว่า ยังมีข้อแนะนำอีกหลายบท ที่ผมควรต้องปฏิบัติตาม หากคิดจะมัดใจอีกฝ่ายโดยปราศจากความผิดพลาดใดๆ  ผมจึงไม่คิดลังเลเมื่อต้องทำตามคำแนะนำของท่านกูรู จนครบถ้วนทุกบทถึงหยดสุดท้าย... แม้ว่าในเวลานั้น หัวผมเริ่มจะมองเห็นปลายทางอันสุขสมหวังกำลังรอเราทั้งคู่อยู่เป็นแน่แท้แล้วก็ตามที

นี่เอง...คือต้นกำเนิดของแผนการพิชิตคำว่ารักและตำแหน่งแฟนน็อต รวมถึงความสำเร็จที่เกิดจากหยาดเหงื่อและความยากแค้นทั้งหลายทั้งปวงของผม   เรื่องราวที่ผมกำลังจะเล่าให้พวกคุณฟังต่อจากนี้ จะยึดเอาแนวทางการจีบพ่อยอดขมองอิ่มจากเนื้อหาสองบทในหนักสือคู่มือฯ ซึ่งผมได้รวบทุกอย่างเอาไว้ด้วยกัน  เพราะทั้งสองต่างเอื้อให้การมัดใจสุดหล่อในช่วงโค้งสุดท้ายอย่างนี้ ประสบความสำเร็จได้โดยส่งเสริมเติมเต็มซึ่งกันและกัน 

กล่าวคือ เนื้อหาของบทที่เจ็ดนั้นเกี่ยวกับการแสดงออกทางความรักที่เรามีต่ออีกฝ่ายเป็นประจำ  เพื่อบอกให้คนที่เราชอบตระหนักถึงความรู้สึกที่เรามี  ก่อนที่เป้าหมายที่ถูกหมายปองจะตัดสินใจตบปากรับคำ หรือ ขยำหัวใจฝ่ายจีบจนไม่เหลือชิ้นดี  และใจความสำคัญจากบทที่สิบเอ็ดซึ่งเป็นบทปิดท้าย ได้เน้นหนักขั้นตอนของสารพัดวิธีการในการสารภาพรักอันน่าประทับใจ เพื่อทำให้คนที่เราชอบจดจำไปตลอดชีวิต  เมื่อเข้าใจเจตนาของท่านกูรูอย่างแตกฉาน ผมจึงดัดแปลงให้ขั้นตอนของบทที่เจ็ดอยู่ในรูปของการกระทำที่ชาวบ้านอย่างเราๆมักจะเรียกกันติดปากว่า อ่อยเพื่อล่อให้เสือหนุ่มติดกับเสียก่อน แล้วค่อยจับพ่อเสือที่อยู่ในกรงมาฟังคำบอกรัก ผ่านทางการเลี้ยงดูและอยู่กินกันตลอดชีวิตตามคำแนะนำในบทที่สิบเอ็ดเป็นรายการถัดไป...

...ฟังดูเก๋ไก๋ไม่หยอกใช่ไหมล่ะครับ หึ หึ...
...แต่เมื่อถึงบทที่จะต้องลงมือทำตามที่คิดเอาไว้จริงๆ  ความคิดสวยหรูของผมในคราวนี้ ก็ทำเอาผมลำบากใจไม่ใช่น้อย... เฮ้อออ!

อย่างแรกเลย นั่นคือ... กิริยาที่เรียกว่า อ่อยค่อนข้างจะสวนทางกับตัวตนของผมมากพอดู   ยิ่งไปกว่านั้น...เมื่อพิจารณาจากหนังหน้า และสิ่งที่ผมเป็นทุกๆประการโดยถ่องแท้แล้ว ต่อให้เด็กเล็กๆคนไหนๆ ยังสามารถบอกได้เลยว่า ให้ตายอย่างไร...ผมก็ไม่มีคุณสมบัติของการเป็นผู้อ่อยที่น่าพิศวาสแม้แต่น้อย...

...ตามความเคยชินของเราๆท่านๆ  เมื่อเอ่ยถึงกิจกรรมการทอดสะพานสมานฉันท์ระหว่างคนสองคนนั้น เรามักจะนึกถึงการเล่นหูเล่นตาอย่างน่ารักน่าชังของสาวๆ ราวกับการรำแพนหางอย่างสวยงามของนกยูงตัวผู้ เพื่อบอกใบ้แก่ฝ่ายชายที่ตนหมายปองว่าเธอยินดีให้เขาจีบ หรือถ้ารีบหน่อยก็ลองคบกันเลยดีไหม  ซึ่งมันดูเป็นธรรมชาติและไม่ขัดหูขัดตา เพราะว่ามันเป็นแอพพลิเคชั่นที่สวรรค์รังสรรค์ให้ติดตัวเพศแม่มาตั้งแต่เกิดต่างเสน่ห์ประจำกาย...

...แต่พอเมื่อเอาคำว่า อ่อยมาห้อยคอผม บอกได้เลยว่า...แค่ครั้งแรกที่ผมคิดเรื่องอ่อยพ่อเจ้าประคุณขึ้นมา ก็ทำเอาขนทั้งร่างลุกเกรียวจากหัวจรดเท้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหมือนตอนที่รอเข้าห้องน้ำเพื่อถ่ายหนัก  เพราะนอกจากหน้าตาของผมจะดูธรรมดาค่อนไปทางไม่น่าสนใจแล้ว  รูปร่างก็ยังดูแคระแกร็นเมื่อยืนเทียบกับน็อตหรือบรรดาผู้ชายแมนๆส่วนใหญ่ แถมยังเกิดมาเพื่อเป็นประชากรชาวเนิร์ดแบบเต็มขั้น  แค่ฝันว่าจะทำตัวเหมือนคนปกติยังจะยาก...แล้วนี่ต้องแสดงอาการขั้นแอดวานซ์ด้วยการสร้างอารมณ์ให้อีกฝ่ายเกิดความต้องการ อยากจะลากเราเข้าไปทำมิดีมิร้ายอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนั้น ผมว่า...ฝันเอาดูจะง่ายกว่าเป็นไหนๆ

แต่เมื่อมานั่งคิด นอนคิดอยู่หลายตลบ ผมก็ไม่เห็นทางไหนที่จะบอกใบ้ความรู้สึกรักที่ผมมีให้กับน็อตได้รับรู้ได้ดีไปกว่าการแสดงออกในรูปแบบนี้อีกแล้ว เพราะสาเหตุที่สนับสนุนให้ผมปลงใจยอมใช้การอ่อยเป็นสื่อเพื่อแสดงออกทางความรัก ที่ชักนำไปสู่การตกลงปลงใจของเราทั้งสองฝ่าย  ทั้งที่รูปสมบัติและคุณสมบัติส่วนตัวผมไม่ค่อยจะอำนวยกับแนวความคิดนี้เท่าใดนัก น่าจะเป็นเพราะ...

...ข้อแรก ในเวลานั้น ผมยังไม่อาจจะบอกความในใจให้กับน็อตได้รับรู้ได้เนื่องจากเหตุผลทั้งหลายทั้งปวงที่ผมเคยได้บอกกับพวกๆคุณเอาไว้  เพราะฉะนั้น...คุณคิดว่า จะมีวิธีไหนที่พอจะเปิดโอกาสให้คนที่ไม่อาจเอ่ยปากบอกรักก่อนได้อย่างผม ควรใช้เพื่อส่งผ่านความรู้สึกรักและปรารถนาครอบครอง  ให้กับอีกฝ่ายซึ่งเป็นชายผู้รักการแสดงออกถึงอารมณ์ทางเพศอยู่ตลอดเวลาแบบน็อตได้ดีไปกว่าการยั่ว หรือ อ่อย เพื่อเปิดช่องให้อีกฝ่ายหาโอกาสล่วงเกินเราได้กันอยู่ตลอดเวลากันล่ะครับ

...และเหตุผลอีกข้อของผม เห็นจะเป็นเพราะ การอ่อย คือเครื่องมือชิ้นสำคัญในการปูทางไปสู่แผนการขั้นที่สองที่ผมเพิ่งจะเพิ่มเติมขึ้นมาเอาเองในภายหลัง ซึ่งผมสัญญาว่า พวกคุณจะได้รับทราบสิ่งที่ผมตั้งใจจะทำทุกๆขั้นตอนโดยไม่มีหมกเม็ด เพราะฉะนั้น...รบกวนอดใจรอหน่อยนะครับ
 

ถึงแม้ว่าตัวผมจะได้ข้อสรุปที่แน่นอนถึงแนวทางในการพิชิตคำว่ารักของน็อต และผมเริ่มจะทำใจให้อ่อยอีกฝ่ายได้แล้วก็ตาม  หากแต่ความสาหัสที่เป็นดั่งบททดสอบอันยิ่งใหญ่ที่ผมต้องเผชิญระหว่างหนทางแห่งความสำเร็จนั้น ก็เล่นงานผมเสียจนเกือบถอดใจไปหลายครั้งเสียเต็มประดา  

อุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของงานช้างในครั้งนี้ เห็นจะไม่มีใครคนไหนที่ทำเรื่องยุ่งยากได้เก่งมากไปกว่า พ่อเจ้าประคุณบุญทุ่มของผมเพียงคนเดียวเท่านั้น  เพราะแรกสุดเลย...ความสงบนิ่งของเขา คืออีกหนึ่งสาเหตุที่นอกเหนือไปจากการทำตามหนังสือคู่มือฯ ที่เร่งเร้าให้ผมไม่อาจนิ่งนอนใจทำตัวเป็นเจ้าหญิงนิทรานอนหลับสวยๆ ระหว่างเฝ้ารอจุมพิตแห่งรักของเจ้าชายได้อีกต่อไป...

...ลองคิดดูสิครับ หากพวกคุณต้องมาเป็นผม พวกคุณจะเครียดแค่ไหน เมื่อภายหลังจากคืนแรกที่เราทั้งสองได้ร่วมรักกันอย่างสุขสม จนรู้จักร่างกายของกันและกันเป็นอย่างดีแล้ว ความสัมพันธ์ทางกายของคุณกับคนที่คุณชอบก็รุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว รุนแรง และเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ...  ในขณะเดียวกัน การยืนยันความรู้สึกอันมั่นคงทางจิตใจ ที่การันตีได้เมื่อคำว่ารักถูกเอ่ยผ่านริมฝีปากของอีกฝ่ายเพียงอย่างเดียวนั้น  กลับไม่มีความคืบหน้าใดๆให้เห็น ราวกับว่า...คำว่ารักระหว่างเรา  โดนทิ้งขว้างให้หล่นหายไปตกอยู่ตรงไหนของความสัมพันธ์ทางกายก็ไม่รู้... 

...ยิ่งคืนและวันผ่านพ้นไปนานเท่าไร คนของผมก็ไม่มีทีท่าจะเปิดประเด็นเกี่ยวกับความรู้สึกลึกๆที่เขามีขึ้นมาพูดคุยกับผมอย่างเป็นจริงเป็นจังเลยแม้แต่น้อย  นั่นเลยทำให้ผมเริ่มจะกังวลจนพาลคิดไปว่า หรือผมโดนเจาะไข่แดงไปกินฟรีๆแบบเติมฟรีไม่มีอั้น  เพราะอีกฝ่ายก็ไม่ได้รับประกันว่า เขาจะยอมรับตำแหน่งสามีอย่างออกหน้าออกตาให้กับผมเสียเมื่อไร...

...ด้วยความวิตกเพราะน็อตยังรีๆรอๆ ผมก็เริ่มจับสังเกตอากัปกิริยา และการแสดงออกของพ่อคุณผ่านการพูดคุยครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อสืบหาต้นตอว่าอะไรที่ทำให้สุดหล่อของผมยังไม่คิดจะเปิดใจกับผมเสียที จนได้รู้ว่า เจ้าตัวหวาดกลัวกับผลลัพธ์ที่จะตามมาหลังจากเอ่ยคำนั้นให้ผมฟัง สิ่งที่เขาพูดนั้น...บอกได้ดีว่า เขากลัวที่จะสูญเสียผมไปตลอดชีวิต เพราะไม่ว่าอย่างไร คนที่ผมมองหาเป็นลำดับแรกคือผู้ชายในอุดมคติของผมเท่านั้น  ทั้งๆที่การกระทำของผมนี่ เฉลยให้เห็นกันอยู่ว่าผมตกลงใจไปถึงไหนๆแล้ว

แล้วอย่างนี้...ถ้าผมคงยังปักหลักเฝ้ารอให้น็อตเข้ามาจูบปลุกผมให้ตื่นจากนิทรา  จากเจ้าหญิงออโรร่าผู้เลอโฉม...ผมคงจะได้กลายเป็นเจ้าหญิงโอ้-ชราเมื่อตอนตื่นแน่ๆเชียวครับ นั่นเลยเป็นแรงผลักดันทำให้ผมยอมสลับสับเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายรุกเพื่อการมีสามีโดยเฉพาะ

พอตัดสินได้ บวกกับแผนการคร่าวๆที่มีอยู่ในหัว ผมจึงริเริ่มขั้นตอนสู่ความสำเร็จด้วยการนำมาตรการต่างๆมาใช้ โดยเลือกปรับระดับความเข้มข้นของการลงมือไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า เพื่อขีดเส้นนำร่องให้อีกฝ่ายออกปากสารภาพความในใจได้เสียที 

ช่วงแรกๆ ผมพยายามส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายได้รับรู้ผ่านการพูดคุยซักถามถึงมุมมองต่างๆเกี่ยวกับความรัก และความสัมพันธ์ของเจ้าตัว รวมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดของผมคืนให้อีกฝ่ายได้รับรู้ไปพร้อมๆกัน โดยใจความของคำตอบทั้งหลายของผมมักจะบอกกับน็อตกลายๆอยู่เสมอว่า แท้ที่จริงแล้ว...เราสองคนต่างก็มีความคิดอ่านในเรื่องละเอียดอ่อนเหล่านี้แบบที่น่าจะไปด้วยกันได้ดีมากๆ...  ถ้าน็อตจะเฉลียวใจ และเก็บเอาถ้อยคำ กับการกระทำต่างๆของผมกลับไปคิดตรึกตรองดูให้ดีๆสักนิด เขาก็จะรู้ได้เลยว่า หากเขายอมเปิดปากบอกความรู้สึกที่เขามีให้ผมรับรู้ก่อน เขาจะได้รับคำว่ารักตอบแทนกลับไปในทันที   แต่ต่อให้ผมลุ้นแทบตาย... ทุกๆอย่างหลังจากนั้นก็กลับเข้าสู่สภาวะปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เมื่อสังเกตเห็นว่า การชวนคุยเรื่อยเปื่อยเริ่มจะไม่ได้ผล ผมจึงเปลี่ยนกลยุทธมาเป็น...ชวนน็อตคุยโดยพาดพิงถึงบุคคลที่สามซึ่งไม่มีตัวตนอยู่จริง ผมพยายามวาดฝันสวยหรูให้น็อตกังวลไปคนเดียวว่า ผมอาจจะไปเป็นของคนอื่นในเร็ววันก็ได้ หลังจากมีความมั่นใจในฝีมือการร่วมรักที่ได้ตั้งใจร่ำเรียนกับน็อตมากระดับหนึ่งแล้ว

ที่ผมตัดสินใจอุปโลกเอาใครสักคนขึ้นมาเป็นเป้าหมายแบบนี้  เพราะผมรู้จักน็อตเป็นอย่างดีว่า อีกฝ่ายมักจะแสดงตนเป็นเจ้าข้าวเจ้าของทุกๆสิ่งที่มีค่ากับเขา  เมื่อใดก็ตามที่พ่อคุณรู้สึกว่ากำลังจะเสียของรักไป เขาจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเอกสิทธิ์ในการครอบครองคน หรือ ของชิ้นนั้นเอาไว้แต่เพียงผู้เดียว  ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ...ผมเชื่อว่า การไม่มีคู่แข่งอาจเป็นบ่อเกิดสำคัญซึ่งทำให้คนของผมไม่มีความมุ่งมั่นกับการขอความรักจากผมอยู่แบบนี้  ตัวร้ายในอากาศจึงถูกสร้างขึ้นมา เพื่อช่วยปลุกให้น็อตตื่นจากความฝันอันแสนหวาน  แล้วกระโดดลงสู้ในสนามรักจริงๆจังๆเสียที

เมื่อเพิ่มความเข้มข้นของมาตรการข่มขู่ทางวาจามาได้สักพัก จนเริ่มเห็นว่าพ่อคุณดูหนักอกหนักใจเมื่อต้องเห็นผมเฝ้าพร่ำเพ้อถึงชายอื่นจนออกนอกหน้า  ผมก็เดินหน้าเพิ่มความรุนแรงด้วยการยิงคำถามเชิงลึกเกี่ยวกับความสัมพันธ์โดยใช้ตัวผมกับตัวเขาเป็นตุ๊กตาในกรณีสมมติต่างๆ บวกกับการตอบคำถามโดยอาศัยเล่ห์เหลี่ยมทางจิตวิทยา เพื่อกดดันให้อีกคนรู้สึกอึดอัดจนเกือบจะหลุดปากถึงสิ่งที่ตนเองรู้สึกออกมาหลายครั้ง

ระหว่างทุกๆช่วงที่ว่ามานั้น  ไม่ว่าปากผมจะคอยคุยด้วยหัวข้อธรรมดาๆ  หรือพูดจาสรรเสริญเยินยอชายอื่นที่ไม่ต่างอะไรกับคนแปลกหน้า หนักมากๆถึงขั้นว่า ผมเคยบอกปัดเขาถึงการวาดฝันอนาคตร่วมกัน จนคนฟังทำหน้าสลดหดเหลือสองนิ้ว  ผมก็จะคอยแสดงออกความต้องการทางกายผ่านการสัมผัสเรือนร่างของน็อตอย่างรักใคร่อยู่เสมอ...

...บอกได้เลยว่า หลังจากที่เริ่มอ่อยจนไม่อายแล้ว ผมก็สามารถนำเสนอการสัมผัสทุกรูปแบบในเชิงชู้สาวที่มีจารึกอยู่ในโลก ออกมาสู่สายตาน็อตได้อย่างเร้าอารมณ์ใคร่ของอีกฝ่ายได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด   ผมปรนเปรอความสุขสมทางเพศอันหาใดเปรียบได้เท่าที่คนๆหนึ่งจะทำให้เกิดกับคนอีกคนได้จนล้นเกินพอดี   ถึงกระนั้น...มันก็ยังไม่ใช่เป้าหมายของผม

เพราะแท้ที่จริงแล้ว  ผมต้องการทำให้เขารับรู้ว่า ไม่มีวันที่เขาจะได้สัมผัสประสบการณ์ทางกายผ่านบทรักที่ถึงอกถึงใจแบบที่ผมทำให้เขาได้ที่ไหนอีกต่อไป ผมจงใจจะทำให้น็อตเสียผู้เสียคนเรื่องเซ็กส์ที่เขามีกับผมจนเข้าขั้นยากเกินจะถอน  ผมคอยแต่จะอ่อย ยั่ว คั่ว ขย่ม อม ดึง เคล้นคลึง ทึ้ง และทำอย่างอื่นอีกมากมายอย่างเต็มที่...เพื่อให้เราทั้งสองคนได้แลกเปลี่ยนความรู้สึกหฤหรรษ์ผ่านการสังวาสแบบถึงลูกถึงคนอยู่ตลอดเวลา  ด้วยหวังจะหลอกล่อให้พ่อเสือหนุ่มเสพติดรสรักของเราโดยไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว  ซึ่งต่อไปในภายภาคหน้า... การดำรงชีวิตอยู่โดยปราศจากสัมผัสจากกายผม จะกลายเป็นฝันร้ายที่สุดในชีวิตของเขา

เมื่อความกระสันอยากในร่างกาย และการโหยหาความอิ่มเอมจากเซ็กส์อันดิบเถื่อนราวสัตว์ป่าที่ผมมอบให้เขา เกิดขึ้นควบคู่ไปกับความรู้สึกรัก ต้องการครอบครอง และอยากเป็นเจ้าของผมแต่เพียงผู้เดียว  สุดท้ายแล้ว...จากเสือร้าย น็อตก็จะกลายเป็นเพียงลูกแมวเชื่องๆตัวหนึ่ง ที่ไม่คิดจะก้าวเท้าออกจากชีวิตผมเพื่อเดินตามรอยสิงห์นักล่าดั่งที่เคยเป็นเมื่อก่อนอีกต่อไป

อ่านมาถึงตรงนี้ พวกคุณคงจะเริ่มคิดในใจแล้วว่า เออ...คนยั่วอย่างผมนี่ก็ลงทุนทำทุกวิถีทางเพื่อส่งสัญญาณไฟเขียวตอบรับ จนจะเหลือก็แต่พูดคำว่ารักออกมาเท่านั้น ส่วนน็อตเองก็แสดงออกว่ารักผมอย่างโจ่งแจ้งแทบจะทุกลมหายใจอยู่แล้ว ทุกอย่างก็ควรจะจบเรื่องกันไปด้วยความสุขใจเสียที...

...แต่เปล่าเลย
!...
...ผมทำถึงขนาดนี้  ทว่า...พ่อยอดชายตัวดี ก็ยังไม่สามารถก้าวข้ามความกลัวของตัวเองมาได้...
...น็อตก็ยังคงหวาดผวากับเรื่องเดิมๆ จนเลือกที่จะเฝ้ารอเพื่อให้แน่ใจว่าผมคิดตรงกันกับเขา พ่อคุณเลยไม่ยอมบอกคำนั้นออกมาสักครั้ง  ผมจึงต้องเริ่มมาตรการที่สอง ซึ่งโดยส่วนตัว ผมไม่ค่อยจะเห็นด้วยเท่าไรนักเพราะวุ่นวายมากกว่า และดูจะควบคุมขอบเขตของปัญหาแทรกซ้อนเฉพาะหน้าได้ยากจนน่าปวดหัวงเ หากแต่ค่อนข้างการันตีผลสัมฤทธิ์มากที่สุดในระยะเวลาอันสั้น



ซึ่งนั่นก็คือ...กลยุทธยืมมือคนนอกมาปลุกปั่น  ความคิดนี้ผุดขึ้นเมื่อผมได้เปรยกับพ่อเจ้าประคุณว่า ผมเริ่มเมียงๆมองๆและพิจารณาเป้าหมายหัวใจคนใหม่  แค่ครั้งแรกที่ได้ฟังความคิดอันก๋ากั่นของผม น็อตก็ออกอาการร้อนรนจนนั่งไม่ติด เฝ้าแต่คอยย้ำให้ผมฟังซ้ำๆว่าผมยังไม่พร้อมจะลงมือจีบใครในขณะที่ยังไม่บรรลุเคล็ดวิชากามาคร่าโลกันต์  วินาทีที่ผมเห็นใบหน้า..สายตา ท่าทาง และรับรู้ถึงความรู้สึกหวาดระแวงของเขา ทำให้ผมเกิดความคิดพิเรนทร์ๆที่จะลากใครสักคนที่พร้อมจะลงเล่นในเกมครั้งนี้ ในฐานะมือที่สาม ผู้ที่มีภาษีดีเท่าเทียม หรืออาจจะดีกว่าน็อตเข้ามาเป็นตัวช่วยอย่างจริงๆจังๆ

เดิมที...ผมตั้งใจจะใช้เคะน่ารักๆสักคนแถวบ้านเข้ามาเป็นบุคคลที่สามในความรักของผม...

น้องคนนั้น เป็นคนที่น็อตมักจะเฝ้าอิจฉา และคอยระแวงยามที่ได้เห็นผมใช้เวลาร่วมกับน้องอยู่เสมอ  แต่เมื่อผมได้รู้ว่า...พี่ชายฝาแฝดของน้องเคะคนดังกล่าว  ยินดีรับงานพิเศษทำนองนี้โดยแลกกับเงินค่าขนมนิดๆหน่อย ในอัตราซึ่งผมพอจะจ่ายได้โดยไม่เสียดายมากนัก ผมเลยกลับมาคิดทบทวนเรื่องตัวละครที่ผมกำลังหาอยู่ดูอีกครั้ง  แล้วก็ได้ข้อสรุปอันน่าสนใจว่า... แทนที่จะให้มือที่สามเป็ยชายหนุ่มตามสเปคของผม ทำไมไม่เปลี่ยนให้คนที่เข้ามาติดพันผม หรือคนที่ผมชอบใจเป็นคนที่ดูคล้ายๆกับน็อตดูเสียล่ะ  ทีนี้...น็อตจะได้เห็นภาพของการสูญเสียอย่างชัดเจน  จนต้องรีบแจ้นมาบอกรักผม และขอผมเป็นแฟนภายในวันสองวันแน่ๆ...

พวกคุณเชื่อไหมครับว่า ทันทีที่น็อตเริ่มไหวตัวว่าเขาอาจจะไม่ใช่เสือนหนุ่มเพียงตัวเดียวที่เข้ามาป้วนเปี้ยนในสังเวียนรักครั้งนี้อีกต่อไป  ทุกอย่างที่ผมเฝ้ารอมานานแสนนานก็เกิดดอกออกผลจนน่าชื่นใจขึ้นในเวลาอันรวดเร็วแบบไม่น่าเชื่อ เพราะระหว่างที่ผมยังใคร่ครวญเรื่องมือที่สามอยู่นั้นเอง  ผมก็เริ่มเคลื่อนไหวด้วยการติดต่อน้องเคะเป็นลำดับแรกไปพร้อมๆกัน  เพื่อแหย่ให้พ่อยอดชายตื่นตระหนกถึงภัยคุกคามด้านความมั่นทางความสัมพันธ์ที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อไรก็ได้

และในตอนดึกของคืนนั้นเอง... หลังจากเซ็กส์ตามบทบาทสมมติอันเร่าร้อนของเราจบลงอย่างงงๆ เพราะน็อตแอบเปลี่ยนบทกลางอากาศ โดยแทรกการบอกรักที่ผมไม่ได้กำหนดเอาไว้เข้ามาระหว่างการละเล่นของเรา ทำเอาผมถึงกับอึ้งไปพักใหญ่ๆ  น็อตก็ขอผมเป็นแฟนด้วยอาการหน้ามึนอย่างที่สุด

แต่พวกคุณรู้ไหมครับว่ายังมีสิ่งที่แย่ยิ่งไปกว่านั้นเกิดขึ้นอีกหนึ่งอย่าง...
.
.
...จนแล้วจนรอด  น็อตก็ยังไม่ยอมเปิดปากเผยความรู้สึกที่เขามีต่อผมอยู่ดี...  

ถึงอย่างนั้น...สุดท้ายแล้วผมก็ยอมตามน้ำไปกับการรวบหัวรวบหางของอีกฝ่ายไปก่อน เพราะผมเห็นใจเจ้าตัวมากพอดู  เพราะเขาน่าจะกำลังตกอยู่ในภาวะจนตรอกยิ่งกว่าครั้งไหนๆ   ใจหนึ่งเขาคงกลัวว่าผมจะกลายเป็นของคนอื่นไปเสียก่อน  เขาเลยตัดสินใจรั้งผมเอาไว้ด้วยสถานะแฟนด้วยเหตุผลครึ่งๆกลางๆ ซึ่งฟังไม่ขึ้นสักเท่าไร

ส่วนอีกใจ...เขาคงกำลังต่อสู้กับความกลัวว่าอาจจะสูญเสียผมไป หากพลั้งปากเอ่ยคำว่ารักออกมาโดยที่เขาไม่ใช่คนที่ผมต้องการ นั่นเลยเป็นคำอธิบายให้ผมเข้าใจได้ถึงการบิดเบือนบทบาทสมมติที่เราเพิ่งเล่นจบ เพราะเขาคงอยากจะเห็นปฏิกิริยาของผม ด้วยการจำลองการบอกรักผ่านบทบาทในฉากเซ็กส์ เพื่อจะได้ตัดสินใจว่า ควรจะทำอย่างไรกับความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อผมดี   

เห็นไหมครับ ที่ผมเกริ่นไปตั้งแต่แรกว่า กว่าที่ผมจะทำให้เราสองคนตกลงปลงใจ และบอกรักกันได้นั้น ผมต้องฝ่าฟันกับอะไรมากมายน่ะไม่ใช่การพูดเกินจริงแม้แต่น้อย...  หึ! แต่อย่าลืมนะครับว่า เราเพิ่งจะผ่านขั้นแรกมาได้เท่านั้นเอง  ผมเลยเดินหน้าเพื่อทำให้อีกคนบอกรักผมให้ได้ต่อทันที

เมื่อเห็นผลด้านบวกของมาตรการอ้างอิงชื่อมือที่สามขึ้นมาลอยๆอย่างเป็นรูปธรรม ขนาดที่ว่าสามารถกดดันให้น็อตมาขอผมเป็นแฟนได้ภายในวันเดียว  ผมเลยเชื่อมั่นว่า หนทางนี้จะนำมาซึ่งความสำเร็จในความรักของผมจนสมใจเป็นแน่แท้  ดังนั้น...ทันทีที่ผมตกลงเป็นแฟนกับน็อต ผมก็เริ่มติดต่อมอบหมายหน้าที่มือที่สามให้น้องแฝดผู้พี่ทางอีเมลทันที และน้องคนนี้...มีชื่อสมมติว่าเปอร์ครับ 



จะว่าไปแล้ว การเข้ามามีบทบาทของน้องเปอร์ ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความต้องการที่จะทำให้น็อตยอมเอ่ยความในใจเพียงอย่างเดียวหรอกครับ หากแต่มันมีอะไรมากกว่านั้น... และสิ่งที่พวกคุณๆยังไม่ได้รู้นี่แหละครับ คือส่วนหนึ่งของข่าวร้ายที่เกิดขึ้นกับผมในช่วงนี้

จากตอนต้นที่ผมบอกให้ทุกคนได้ทราบมาโดยตลอดว่า การทำให้น็อตบอกรัก และการตกลงเป็นแฟนกัน เป็นเพียงแค่แผนแรกที่ผมคิดมาตลอดว่าผมจะทำให้สำเร็จให้จงได้  แต่พอเราสองคนอยู่ด้วยกันมากๆเข้า ผมจึงได้มีโอกาสเห็นตัวตนของอีกฝ่ายอย่างถ่องแท้ จึงทำให้ผมตระหนักได้ทันทีว่า ถ้าผมมัวแต่หลับหูหลับตาขุดหลุมรัก ก่อนเอาตัวเข้าล่อเพื่อให้พ่อสุดหล่อตกลงไปโดยไม่อาจถอนตัวขึ้นจากหลุมนั้นมาได้เพียงอย่างเดียว  สุดท้าย...คนที่จะต้องหน้าชื่นอกตรมอยู่ในสรวงสวรรค์บนชั้นสูงสุดของนรก จะกลายเป็นตัวผมไปเสียเอง

เพราะพ่อคุณมีข้อเสียอยู่ประการหนึ่ง  ซึ่งสำหรับผมแล้ว...หากน็อตแสดงข้อเสียนี้ออกมาในยามปกติ มันจะช่วยส่งเสริมให้เขากลายเป็นคนน่ารักน่าเอ็นดูเสียมากๆ... แต่เมื่อมันปรากฏกายในยามที่เจ้าตัวเกรี้ยวกราดไร้สติ มันจะกลายเป็นเป็นมหันภัยอันร้ายกาจที่สามารถทำลายความสงบสุขในชีวิตคู่ของเราสองคนได้อย่างราบคาบในชั่วพริบตา  นั่นคือ...ด้านมืดของความรักที่เขามีให้ผมนั่นเอง

ด้านมืดที่ว่านั้น มีร่างอวตารเป็นการหึงหวงครับ...

ช่วงแรกๆที่น็อตออกอาการหึงผมเวลาที่ผมต้องไปเจอกับใครๆที่ออกอาการกระลิ้มกระเหลี่ยใส่ผมอย่างไม่คิดปิดบัง  ผมปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันทำให้ผมรู้สึกดีและเป็นปลื้มไม่น้อย ที่เขามองผมเป็นคนสำคัญ...คนที่เขาอยากถนอมเอาไว้กับตัวโดยไม่คิดจะให้ไปยุ่งเกี่ยวกับใครในเชิงชู้สาวอีกเลย  แต่ลึกๆแล้ว...ยิ่งนานวัน ความหวาดกลัวกับอาการหึงหวงจนเกินพอดีในบางครั้งของพ่อคุณ ค่อยๆเริ่มสะสมจนก่อตัวเป็นความกังวลอยู่ในใจผมแทบไม่เว้นแต่ละวัน

ยิ่งเขารักผมมากขึ้นเท่าไร...
...ยิ่งเขาได้ครอบครองร่างกายของผมโดยสมบูรณ์...
...เขาก็หวังจะให้ผมรักเขามาก และรักเขาเพียงคนเดียวไปตลอด...

นั่นจึงทำให้น็อตออกอาการหึงหวงอย่างร้ายกาจแบบที่ว่า พักหลังๆมานี่ พ่อคุณไม่ยอมปล่อยให้ผมคลาดสายตา ไม่ยอมให้ผมได้คุยกับใคร หรือเปิดโอกาสให้ใครมาคุยกับผม ไม่ว่าจะในฐานะเพื่อนใหม่ หรือ แค่คนรู้จักก็ตาม และหากคนที่เข้ามาดื้อดึงเกินไปกว่าการเจรจาแต่โดยดีจะจัดการได้ เขาก็จะเริ่มพึ่งพาการใช้ความรุนแรงทุกวิถีทางเข้ามาเป็นเครื่องมือเพื่อกำจัดผู้มาใหม่ที่ไม่พึงประสงค์ให้หลบลี้หนีหน้าไปจากสายตาผมโดยเร็วที่สุด


การตั้งความหวังเพื่อแค่ขอให้เราสองคนเป็นแฟนกัน รักกัน และอยู่ด้วยกันไปตลอดเท่านั้นจึงเริ่มจะไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป เพราะหากผมต้องการที่จะปูรากฐานเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันมั่นคงให้เกิดขึ้นระหว่างสองเราตราบชั่วฟ้าดินสลาย ผมจำเป็นต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อปรับเปลี่ยนนิสัยหึงโหดร้าย และอาศัยความรุนแรงเป็นเครื่องตัดสินปัญหาให้หมดไป... หรือถ้าหากมันจะเป็นไปไม่ได้ ผมแค่หวังจะทำอะไรสักอย่าง เพื่อให้น็อตยอมร่วมมือ และพยายามแก้ไขสิ่งเหล่านี้ให้ลดน้อยลง...ชีวิตคู่ของเรา คงจะเป็นสุขได้ในที่สุด

การดัดนิสัยหึงไม่ได้สติของน็อต จึงกลายเป็นเป้าหมายที่ขยายผลต่อมาจากแผนการแรกอย่างช่วยไม่ได้ครับ...

พวกคุณหลายคนอาจจะเริ่มตั้งคำถามในใจว่า...แล้วทำไมผมต้องมาทำให้เรื่องทั้งหมดกลายเป็นเรื่องยากอยู่แบบนี้ด้วย ทำไมผมถึงไม่พยายามเดินเข้าไปคุยกับอีกฝ่ายให้เข้าใจ แล้วขอให้เขาปรับตัว... หึ หึ ถ้ามันทำได้ง่ายและมีความเป็นไปได้จริง ผมคงจะเดินหน้าทำไปแล้ว...




...อย่าลืมสิครับว่า คนที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี่ คือน็อต พ่อยอดขมองอิ่มจอมเอาแต่ใจของผมหนึ่งเดียวคนนั้นนะครับ และถ้ามันเป็นเรื่องที่น็อตไม่เห็นด้วย หรือไม่อยากทำ... พ่อคุณของผมก็จะตีรวน และหาเรื่องป่วนทันที ซึ่งการจะขอให้น็อตเลิกหึงหวงนั้น...น่าจะเข้าขั้นยากเกินกว่าจะเกิดขึ้นจริงได้หากใช้แค่วาจาต่อรองแน่ๆ

ผมเลยนำน้องเปอร์เข้ามาเป็นตัวช่วยเพื่อให้แผนของผมสำเร็จได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น...
ผมหวังให้การมาของน้องเปอร์ช่วยเร่งให้น็อตกล้าบอกรักผมเร็วยิ่งขึ้น และเปิดโอกาสให้ผมมอบบทเรียนสั่งสอนพ่อสุดหล่อของผม เพื่อที่เขาจะได้ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองดูสักตั้ง เมื่อเห็นว่าการตัดสินใจครั้งนี้เป็นการยิงปืนนัดเดียวแต่ได้นกถึงสองตัว ผมก็ไม่คิดจะรีรออีกต่อไป

อย่างไรก็ดี...เพื่อขับเคลื่อนให้สุดยอดแผนการสำเร็จลงได้ คงไม่ใช่แค่น้องเปอร์เท่านั้น ที่จะต้องทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ขมีขมัน  ผมเองก็เช่นเดียวกัน...ผมจึงกำหนดทิศทางการวางตัวในแผนการนี้อย่างชัดเจน ด้วยการแสดงออกทางความรักที่ผมมีให้กับน็อตอย่างโจ่งแจ้ง เพราะผมต้องการทำให้น็อตได้สัมผัสถึงการแสดงออกตามธรรมชาติของผม เมื่อเรากลายเป็นคู่รักกันโดยสมบูรณ์ทั้งสถานะ และความรู้สึก ซึ่งมันจะช่วยทำให้เขามั่นใจได้ว่า ต่อให้น็อตไม่คอยมาควบคุมผมอยู่ตลอดเวลา เขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวลว่า จะเสียผมให้กับใคร

อย่างไรก็ดี...ผมคงไม่อาจเริ่มต้นหน้าที่ของตัวเองได้ หากเราสองคนยังไม่ได้สารภาพความรู้สึกที่เรามีให้อีกฝ่ายได้รับรู้...มันจึงถึงคราวที่ผมต้องเปลี่ยนแผนปลีกย่อยจากความตั้งใจเดิมอีกครั้ง

ผมเปลี่ยนจากฝ่ายตั้งรับ เป็นการแสดงท่าทีเป็นผู้ชง ผู้ชี้ช่องให้อีกคนสามารถเฉลยความรู้สึกในใจได้อย่างไม่ขัดเขินเสียเอง... พูดง่ายๆก็คือ การที่น็อตบอกรักกับผมได้นั้น หลักๆแล้ว เป็นเพราะผมเป็นฝ่ายหยอดออกมาก่อน โดยไม่รอท่าใดๆอีกต่อไปน่ะแหละครับ  ซึ่งผมอดขอบคุณตัวเองไม่ได้จริงๆ เพราะถ้าไม่ใช่ผมเริ่มชี้โพรงให้กระรอกก่อน มีหวังผมคงต้องได้ร้องเพลงรอพ่อเจ้าประคุณไปตลอดแหงๆ

แต่ก่อนที่ผมจะตัดสินในเปลี่ยนแผนการในครั้งนี้ ผมได้ทดสอบความเชื่อของตัวเองในเรื่องอาการหึงหวงของน็อตด้วยความช่วยเหลือของน้องเปอร์อยู่หลายครั้ง   และฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ผมตัดสินใจทำจะเปลี่ยนแปลงนิสัยของสุดหล่อในข้อนี้โดยเร็วที่สุดก็คือ เมื่อได้เห็นพ่อเจ้าประคุณวิ่งเข้ามาชาร์จน้องเปอร์ โดยหมายจะทำร้ายร่างกายอีกฝ่ายเพื่อสั่งสอน หลังจากที่น็อตเห็นน้องเปอร์สัมผัสหน้าผมด้วยเหตุสุดวิสัยบางอย่าง พอผมเห็นสภาพบ้าคลั่งของเขาต่อหน้าต่อตาตัวเอง ผมก็ไม่อาจจะหลับตาข้างหนึ่งแล้วปล่อยให้แฟนกลายเป็นคนหึงหวงราวกับหมาบ้าพูดจาไม่รู้เรื่องอยู่อย่างนี้อีกต่อไป



และนี่คือที่มาของข่าวร้ายที่สุดระหว่างผมกับน็อต...
เพราะแผนนี้นี่เอง ที่ทำให้ผมกับน็อตในตอนนี้ ต้องแยกกันอยู่โดยไม่มีกำหนดครับ





๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

No comments:

Post a Comment