Friday, November 21, 2014

เขาวานให้ผมเป็น 'สายรับ' (เคคู่ผู้รู้รอบฯ) : บทรุกที่ 32: แผลเก่า


**ขออภัยที่มาลงดึกเกินไปนะคะ...แต่ตอนนี้ มะลิกำลังประสบปัญหาเขียนตอนใหม่ไม่ทัน (ไม่มีตอนสต็อคแล้วด้วย) 
เลยจะมาดึกๆ ไม่ก็สายไปเลยแบบคืนนี้ เพราะฉะนั้น ต้องขอโทษด้วยจริงๆค่ะ...
สำหรับตอนหน้า มะลิจะเอามาลงอีกทีวันจันทร์ก่อนเที่ยงคืนนะคะ...
เพราะไม่แน่ใจว่าจะเขียนเสร็จทันพรุ่งนี้หรือเปล่า เลยขอเลื่อนออกไปก่อนน่ะค่ะ...

ขออภัยอีกครั้งนะคะ T^T **


บทรุกที่ 32: แผลเก่า
 (แผลเก่า : ความเจ็บชำที่ฝังใจอยู่ไม่รู้ลืม)




ร่างบางเนียนถูกปกคลุมไปด้วยพรายฟองขาวละเอียดจนทั่วทุกอณู กำลังค้อมตัวไปข้างหน้าคล้ายกับเจ้าของร่างตั้งใจจะหนีให้ห่างจากมือไม้ทั้งสอง และใบหน้าผมที่จ้องจะรุกรานอธิปไตยของร่างเล็กๆอย่างต่อเนื่อง  สองมือเล็กๆกุมฝักบัวที่เปิดน้ำเป็นสายเอาไว้แน่น เพื่อประกาศทางอ้อมว่าเขาจะไม่ยอมพ่ายให้แพ้แก่ความต้องการ...ไม่ว่าผมจะซุกซนและไม่ให้ความร่วมมือสักแค่ไหน

 ท่าทางของขนุนในตอนนี้ บอกผมได้ดีว่าเขากำลังพยายามตั้งสติอย่างยากลำบาก เพื่อฝืนจ่อต้นกำเนิดแห่งสายน้ำอุ่น ให้ไหลรดไปตามส่วนต่างๆของร่างกายที่ยังไม่สะอาดเอี่ยม ยิ่งผมได้จ้องคราบฟองค่อยไหลลู่ไปตามเรือนร่างน่ามองของผู้เป็นเมียลอยอยู่ตรงหน้า ก็ทำให้ผมโผเข้าไปกระชากร่างเล็กเอามากอดไว้แนบอก พลางร้องขอความเห็นใจจากอีกคนโดยไม่ต้องหยุดคิด  “ขนุน...ฮ่าห์....เค้าอยากจนจะทนไม่ไหวแล้วฮะ”

ใบหน้าเล็กๆขึ้นสีแดงเหลียวกลับมามองหน้าผมด้วยสายตาเชื่อมหวาน แล้วพูดด้วยเสียงออดอ้อน “ฮื่ออออ...ตัวรอหน่อยนะ เดี๋ยวเค้าล้างฟองออกหมดก็เสร็จแล้วล่ะ....อ๊ะ!!...ตัวเอง...” เวลานี้  ใครมันจะไปทนรอไหวอ่ะฮะ ลำพังแค่ทนเป็นเด็กดีอาบน้ำด้วยจนเกือบเสร็จโดยไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าลูบๆคลำๆธรรมดานี่  ผมก็ถือว่า ผมยอมตามใจเมีย ที่ร้องจะอาบน้ำก่อนมีอะไรกันคืนนี้มากแล้วนะฮะ 

ถ้าต้องให้มายืนกำหนดลมหายใจเข้าออกเพื่อรอให้น้ำหยดสุดท้ายไหลออกจากฝักบัวมากระทบลงตัวขาวจั๊วน่าเจี๊ยะของเมียอีกนี่...ไอ้น้องชายผมคงจะเจ็บด้วยความกำหนัด ก่อนจะทำเอาผมขาดใจตายอยู่ตรงนั้นนั่นเอง ผมเลยเอื้อมมือไปคว้าฝักบัวออกจากมือขนุน ปิดน้ำ แล้วอุ้มร่างขนุนเหน็บเข้าเอวโดยประกบปากเข้ากับริมฝีปากเล็กๆ บดป้อนลิ้นร้อนๆเข้าข้างในโพรงปากหวานฉ่ำ จากนั้นก็พาร่างที่เกาะติดกับตัวผมราวกับเป็นหมีโคอาล่าเกาะต้นยูคาลิปตัสเดินออกมาเสียด้วยกันโดยไม่ลืมกระชากผ้าเช็ดตัวผืนหนาที่แขวนอยู่หน้าประตูห้องน้ำติดมือมา เพื่อห่อร่างบางๆเอาไว้ จะได้ไม่หนาวสั่นจนจับไข้ไปเสียก่อน  

ร่างเล็กๆที่ซ่อนตัวอยู่ในผ้าขนหนูผละออกจากหน้าผมเพื่อพยายามต่อรอง  “...งืมมมม....ฮ่าห์ ตัวเอง...ฮื่อ...เช็ดตัวก่อน เดี๋ยวจะไม่สบาย” สองมือเงอะๆงะๆ คลี่ผ้าที่คลุมร่างของเขาเอาไว้ แล้วดึงชายข้างหนึ่งมาเช็ดใบหน้าให้ผมอย่างอ่อนโยน

“งั้นตัวเองเช็ดให้เค้าหน่อยซิ มือเค้าไม่ว่าง เค้าอุ้มเมียสุดที่รักของเค้าอยู่” ได้ที ผมก็งัดลูกอ้อนมาใช้กับเมียดูสักหน่อย แต่สิ่งที่ทำให้ขนุนไปไม่เป็น ดูจะไม่ใช่การออดอ้อนของผมแต่อย่างใด หากแต่เป็นสรรพนาม เมียสุดที่รักที่ผมใช้เรียกเขาต่างหาก ที่ทำเอาคนฟังชะงักค้างแน่นิ่งไปถึงสองสามวินาทีเห็นจะได้

“...” คนในอ้อมอกของผมไม่โต้ตอบอะไรอีกเลย ไม่ว่าจะเป็นการพูด...หรือจะเป็นการเคลื่อนไหวของร่างกาย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ คนดีของผมยังกุลีกุจอเช็ดหน้าเช็ดตาให้ผมอยู่แหม่บๆ



พอเห็นอีกคนทำหน้าไม่ถูก ผมเลยอดแหย่ออกมาอีกครั้งไม่ได้ “ถูกเค้าเรียกว่าเมียสุดที่รักแค่นี้ถึงกับเขินเลยเหรอฮะ?...เขินทำไมล่ะ  มันเรื่องจริงไม่ใช่เหรอ?” สงสัยว่าขนุนจะยังไม่ชินกับสถานะใหม่ล่าสุดที่เราเพิ่งจะตกลงกันได้ก่อนออกไปกินข้าวมื้อเย็นวันนี้สักเท่าไร...หึ หึ  น่ารักจริงๆเลยเว๊ยยย เมียไอ้น็อตนี่!!

เอาจริงๆ...ผมก็คาดไม่ถึงเหมือนกันล่ะฮะว่า ขนุนจะออกอาการเขินเสียจนทำเอาระบบปฏิบัติการณ์รวนเรเปรปรวนได้แบบนี้ เพราะตลอดมื้อเย็น ทุกอย่างก็ดูจะปกติดี แถมยังไม่มีสัญญาณใดๆ บอกกับผมว่า...หลังจากเปิดอกคุยเรื่องความรู้สึกกันแล้ว คนตัวเล็กที่ผมกำลังอุ้มอยู่แล้ว เจ้าตัวจะมีปัญหาในการรับมือกับคำว่ารัก หรือ บรรดาคำเรียกหวานหูพวกนี้ จนทำให้ขนุนกลายเป็นคนเงียบเป็นเป่าสากไปเสียได้

ระหว่างที่ค่อยๆวางร่างบอบบางลงบนที่นอนอย่างเบามือ ผมก็อดแซวขนุนที่ซ่อนหน้าเอาไว้ใต้ผ้าขนหนูอย่างมิดชิดออกมาไม่ได้ “ถึงเตียงแล้วนะฮะที่รัก  ใจคอจะไม่คุยกับเค้าหน่อยเหรอ? ปล่อยให้เค้าพูดคนเดียวอยู่ได้...เค้าเหงานะ หึ หึ”

เสียงเล็กๆดังสั่งผมที่ยังไม่ทิ้งตัวลงนั่งทันที “ตัวเองก็นั่งดีๆก่อนซิ เค้าจะได้เช็ดให้ตัวได้ง่ายๆ”

เมื่อเมียออกปากเสียขนาดนี้ มีหรือที่ผมจะคิดขัดขืนความต้องการของสุดยอดดวงใจได้  ผมเลยเอนตัวลงนั่งพิงกับหัวนอนเอาไว้ แล้วเอื้อมไปคว้าข้อมือของขนุนให้ลุกขึ้นมานั่งทับหน้าท้องเปล่าเปลือยของผมอีกที โดยไม่ลืมบอกเบาๆ “เขยิบมาใกล้ๆซิฮะ จะได้เช็ดได้ทั้งตัว”

จังหวะที่คนตัวเล็กกำลังจัดท่านั่งคร่อมบนร่างผม ผมก็ยกลำตัวท่อนบนขึ้นไปหาซอกคอขาวๆที่เผยออกมาให้เห็น เพราะขนุนมัดรวบผมทั้งหัวเอาไว้ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำ แล้วกดจมูก บดริมฝีปากลงตรงแอ่งไหปลาร้าเนียนละออ ก่อนดูดเลียผิวหอมกรุ่น ที่ยังอุ่นจากอุณหภูมิของน้ำ ขนุนยอบตัวลงทันทีพลางส่งเสียงเล็กๆน่าฟังมาวิงวอน  “ฮื่อออ...เช็ดตัวให้แห้งก่อนนะ...นะคับหัวจุก”

เพราะยังอยู่ในอารมณ์อยากจะแกล้งเมียเสียให้ได้ ผมเลยแซวออกไปอีกดอก “เรียกหัวจุกได้ยังไง...ตอนนี้ไม่ได้ผูกจุกแล้ว ไหนลองเรียกเค้าว่าที่รักซิฮะ” พูดจบ ผมก็ส่งสายตาหวานเยิ้มมองจ้องเข้าไปในดวงตาฉ่ำของอีกฝ่าย หวังจะทั้งหยอกล้อ ทั้งสื่อเนื้อความตามถ้อยคำที่เพิ่งเอ่ยออกไปให้อีกฝ่ายได้ยิน 

และนั่นก็ทำให้เจ้าของมือเล็กๆที่กำลังเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ผมอย่างเอาใจใส่ก็เกิดนิ่งไปหมดหมดลานอีกครั้ง ถึงอย่างนั้น...สายตานิ่งๆที่แฝงไปด้วยอารมณ์หลากหลายของผม ก็ทำให้ร่างบอบบางราวตุ๊กตาเซรามิคของเขา ขยับเขยื้อนมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง...

...สุดที่รักของผมส่ายหน้ากลับมาให้แทนคำตอบ เพราะเขารู้แก่ใจดีว่า ตัวเองคงไม่อาจจะสื่อสารออกมาเป็นคำพูดได้อีกต่อไป เนื่องจากกลีบปากบนและล่าง กำลังเล่นซ่อนหากับสายตาของผมอย่างเอาเป็นเอาตาย 

หึ หึ...ดูท่าว่าผมคงต้องให้เวลาเมียผมทำใจยอมรับคำเรียกหวานๆเหล่านี้ไปอีกสักนิดหน่อย  เพราะกว่าขนุนจะยอมหลุดปากเรียกตัวเองว่าเมียในบางครั้งให้ผมได้ยินได้ชื่นใจกับเขาสักที ผมก็ต้องทั้งขู่ ทั้งปลอบ ทั้งหยอดอยู่นานเหมือนกัน

พอเห็นหน้าคนตัวเล็กเป็นแบบนี้ ทั้งที่อยากจะแกล้งอีกสักหน่อย แต่เพราะกลัวว่าขนุนจะเงียบจนกู่ไม่กลับไปเสียก่อน ผมเลยต้องยอมเปิดช่องให้อีกคนได้มีโอกาสพักหายใจหายคอกันบ้าง ตามประสาสามีที่รักภรรยาเอาเสียมากๆ  “ไม่เอาเหรอฮะ...ทำไมล่ะ เขินเหรอ?” คนตัวเล็กกว่าพยักหน้าหงึกหงักจนหัวสั่นหัวคลอน “หึ..โอเคฮะ ไม่เรียกก็ไม่เรียก เดี๋ยวเมียเค้าจะกลายเป็นใบ้ไปซะก่อน...เนอะ!

พอเห็นว่าผมไม่คิดคาดคั้นเรื่องที่เขายังทำใจยอมรับไม่ได้อีกต่อไป สองมือเรียวเล็กที่ขยันขันแข็งก็เดินหน้าปรนนิบัตรผมอีกครั้ง เมื่อเนื้อตัวด้านหน้าของผมแห้งไปเสียทุกซอกทุกมุม คนตัวเล็กก็สอดมือเข้ากอดผม แล้วเอาผ้านุ่มซับหยดน้ำที่เกาะอยู่ตามแผ่นหลังให้อย่างช้าๆ โดยทุกครั้งที่ร่างเล็กๆขยับแขนทั้งสองข้างที่ประคองผ้าตรงด้านหลังผม แผ่นอกบางๆ หน้าท้องเรียบเนียน และขนุนน้อย ก็จะไถถูลู่ละเลียดกับลำตัวส่วนหน้าของผมอย่างช่วยไม่ได้...

..แหม่...เรียกได้ว่า เป็นการเซอร์วิสที่ดีเลิศชวนให้อารมณ์เตลิดได้รุนแรงยิ่งกว่า การบริการของน้องนางจากอ่างไหนๆ  ที่ผมเคยไปใช้บริการตอนสมัยนมยังไม่แตกพาน ประสาเด็กอยากรู้อยากลองเป็นล้านๆเท่า ที่เด็ดไปกว่านั้นคือ ร่างเล็กตรงหน้านี่เอ็กซ์ เร้าใจ และถูกจริตของผมอย่างที่สุดแบบไม่มีใครเทียบได้อีกต่อไปแล้ว

เมื่อเมียเอาตัวเข้าเสียดสีไปมาอยู่ตั้งนานสองนาน ไอ้ครั้นผมจะปล่อยให้ของดีลอยล่อตาอยู่ตรงหน้าโดยไม่คว้ามาดอมดมเสียหน่อย ก็คงจะเสียของไปเปล่าๆปลี้ๆ ผมเลยเอาสองแขนกอดเอวบางๆของเมียเอาไว้ แล้วจรดหน้าลงซุกไซ้ซอกคอขาวๆที่อยู่ห่างแค่ปลายจมูกเพื่อสูดดมกลิ่นประจำกายของอีกฝ่ายอย่างรักใคร่ “...ขนุน  ตัวเองรู้ตัวไม๊ฮะว่า กลิ่นตัวของตัวเองน่ะหอมมาก...หอมซะจนทำเอาเค้าติดกลิ่นนี้ไปแล้วนะ คืนไหนถ้าไม่ได้ดมกลิ่นวนิลาหอมๆของตัวนะ เค้าต้องนอนไม่หลับเหมือนคืนนั้นที่เราไม่ได้นอนด้วยกันแน่ๆเลยล่ะฮะ”

“ตัวเองต้องไปขอบคุณเจ๊น้านะ ที่คอยคะยั้นคะยอหาโน่น หานี่มาให้ แถมยังบังคับให้เค้าใช้เสร็จสรรพ...เพราะถ้าให้เค้าไปตามกว้านซื้อเครื่องสำอางค์ตามที่เจ๊หิ้วกลับมาฝาก เค้าต้องเหนื่อยตายแน่ๆ” ขนุนตอบยิ้มๆออกมาโดยเลื่อนเป้าหมายของมือทั้งสองข้าง มาเป็นเส้นผมที่เปียกหมาดๆและกำลังตกลู่ระใบหน้าของผมอยู่ในเวลานี้

ผมหลับตารับสัมผัสอันละมุนละไมของอีกฝ่าย แล้วตอบอีกคนไปพลาง ระหว่างนึกถึงบทสนทนาของผมกับเฮียห้าวเมื่อตอนบ่ายไปพลาง “หึ หึ...เค้าต้องขอบคุณเฮียให้หนักเลยฮะ เพราะเฮียช่วยเค้าเอาไว้เยอะเลย”

“ยังไงเหรอ?” ขนุนถามออกมาอย่างสนอกสนใจ

“ถ้าไม่ได้เจอเฮียเมื่อตอนบ่ายวันนี้ เค้าคงไม่มีความกล้าพอที่จะบอกความรู้สึกของเค้าให้ตัวได้รับรู้แน่ๆฮะ”

“ทำไมล่ะ ทำไมตัวเองถึงไม่กล้าบอกเค้า?” เสียงเล็กๆยังไม่หยุดซัก ไม่ต่างจากฝ่ามืออ่อนโยนที่ซับน้ำออกจากปอยผมให้ผมอย่างช้าๆ

ผมก็เลยตอบอีกคนออกไปตามที่คิดมาโดยตลอด “ก็เค้าไม่แน่ใจนี่ฮะว่า ที่ผ่านมาตัวเองคิดกับเค้ายังไง...
.
.
...เค้ากลัวว่าถ้าเค้าบอกตัวเองไปว่า เค้ารักตัวเอง ตัวเองจะหนีเค้าไป” สิ้นประโยค มือทั้งสองที่ง่วนอยู่กับหัวผมก็หยุดลงเสียดื้อๆ จนผมต้องลืมตาขึ้นเพื่อจ้องมองคนที่หย่อนตัวลงนั่งตรงหน้าท้องของผมอีกครั้ง หลังจากโหย่งตัวเช็ดหัวให้ผมอยู่นานสองนาน

ขนุนพ้ออกมาเบาๆ “น็อตบ้า!..ตัวเองคิดอย่างงั้นได้ไง  เรื่องอะไรเค้าจะหนีตัวเองไป หลังจากได้ยินว่าตัวเองบอกว่ารักเค้า?”

ผมเลยอธิบายให้คนตัดพ้อได้เข้าใจเรื่องเศร้าจากฝั่งผมบ้าง “ขนุนจำได้ไม๊ฮะ วันแรกที่เค้าไปรับตัวที่สำนักพิมพ์แล้วพาไปกินข้าวน่ะ เค้าเคยถามตัวเรื่องความเห็นเกี่ยวกับ การลองเปิดโอกาสให้ตัวได้ลองคบใครที่ไม่ใช่คนในสเปคดู เผื่อว่า...สุดท้ายแล้ว ตัวเองจะมีความสุขมากกว่าการวิ่งไล่ตาม ไขว่คว้าความรักจากคนที่ตัวเองใฝ่ฝัน ซึ่งล้วนแล้วแต่ทำให้ตัวต้องพบกับความผิดหวังมาโดยตลอด...
.
...แล้วตัวเองก็ตอบเค้าว่า...

“เค้าไม่คิดว่าเค้าจะรักใครที่ไม่ใช่คนในสเปคได้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่” ขนุนต่อความให้ผมเสร็จสรรพ โดยไม่รอให้ผมพูดจบประโยค

“ใช่ฮะ... มันเลยกลายเป็นความกลัวที่กัดกินใจเค้ามาตลอด ตั้งแต่วันนั้น” ผมตอบร่างบางพร้อมๆกับคว้าผ้าห่มมาพันรอบตัวของคนตัวเล็กกว่า ก่อนจะกดร่างที่คร่อมผมอยู่ เปลี่ยนให้เอนลงมาพร้อมๆกับผม เพื่อให้อีกคนเปลี่ยนมาเป็นนอนราบอยู่เหนือร่างของผมแทน... ผมชอบให้เรานอนด้วยกันท่านี้ เวลาที่เราสองคนนอนคุยกันระหว่างพักยก เพราะมันทั้งอุ่น ทั้งแนบชิด แถมยังทำให้เราสองคนได้คุยไป มองหน้ากันตรงๆไปแบบใกล้ๆอีกด้วย

ขนุนที่เปลี่ยนเอามือทั้งสองข้างมารองใต้คางแล้วเท้าลงบนหน้าอกผมก็ถามออกมาทันทีด้วยสีหน้าประหลาดใจ “นี่ตัวรักเค้ามาตั้งแต่วันนั้นเลยเหรอ?”

ผมส่ายหัว แล้วยิ้มให้พร้อมๆกับไขข้อสงสัยของอีกฝ่าย “ตอนนั้นน่ะ ยังเป็นแค่ความรู้สึกชอบเท่านั้นฮะ... แต่ทันทีที่เค้าเริ่มรู้ตัวว่าชอบคนแปลกๆที่ชื่อขนุน เค้าก็ดันต้องมาอกหักแบบไม่ทันตั้งตัวซะได้ เลยต้องมาออกอุบายเรื่องข้อตกลงของเรา เพื่อจะได้เข้าใกล้ และหาทางทำให้ตัวรักเค้าให้ได้แทนยังไงล่ะฮะ”

ผมพูดไปก็ยิ้มไป เพราะอดทึ่งในความมุ่งมั่นและรักจริงของตัวเองที่มีต่ออีกคนไม่ได้ ขนาดรู้ตัวว่าใกล้จะหมดหวังเต็มแก่...แต่เพราะความที่ผมปักใจรักขนุนเอาเสียมากๆ ผมก็เลยยังตะแบงหาหนทางมาล่อลวงอีกฝ่าย ด้วยลูกล่อลูกชนสารพัดสารพัน จนสุดท้าย...เราสองคนก็มีวันนี้ร่วมกันจนได้
เบ
“ยังไม่สายเกินไปใช่ไม๊ ถ้าเค้าจะขอถอนคำพูดที่เค้าเคยพูดเอาไว้ในวันนั้น?” ขนุนพูดด้วนเสียงเศร้า

พอเห็นหน้าตูมๆของเมียเข้าหน่อย ผมเลยถือโอกาสร้องขอให้อีกฝ่ายยอมบอกคำนั้นให้ผมฟังแบบจั๋งจั๋งต่อหน้าต่อตาดูสักครั้ง “ไม่ต้องถอนคำพูดหรอกฮะ...แค่ตัวเองบอกรักเค้าให้ฟังอีกซักที เค้าคงจะชื่นนนนนใจที่สุด...นะฮะ นะ...นะ บอกให้เค้าฟังหน่อยน้า”
ขนุนนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วพูดออกมาเบาๆโดยไม่หลบสายตาของผม “เค้ารักน็อตนะ” เมื่อพูดจบ คนพูดก็ส่งรอยยิ้มหวานหยดมาประทับเข้าที่ใจผม ตามหลังคำพูดที่เพราะที่สุดในโลก...ซึ่งประทับรอยอันยากจะลบเลือนลงกลางใจของผมเป็นที่เรียบร้อย

ความรู้สึกที่มาพร้อมกับคำสั้นๆไม่กี่พยางค์เมื่อครู่นั้น ทำเอาหัวใจผมอบอุ่นขึ้นมาได้อย่างประหลาด ส่งผลให้ตัวผมออกอาการแปลกๆ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ผมรู้สึกว่า ใบหน้าของผมกำลังถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนตามแนวขวาง หลังตากริมฝีปากทั้งสองของตัวเองฉีกยิ้มกว้าง กางเสียจนมุมปากเกือบจะพุ่งเข้าชนรูหูแต่ละข้างอยู่แล้ว...นี่เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่ผมยิ้มกว้างจนชักจะรู้สึกเจ็บแก้มขึ้นมาตงิดๆ หากแต่ก็ไม่ได้คิดที่จะห้ามรอยยิ้มนั้นแต่อย่างใด  

ดวงตาของผมมองอะไรไม่เห็นอีกต่อไป นอกเสียจากใบหน้าเล็กๆของคนที่ถูกแขนทั้งสองข้างของผมโอบกอดร่างบางๆเปลือยเปล่าของเขาเอาไว้ อากาศใหม่ๆที่เพิ่งถูกสูดเข้าปอดก็ช่างหอมอร่อย จนทำให้โล่งอกโล่งใจโปร่งไปเสียทุกครั้งที่หายใจเข้าออก...นี่เองสินะ ที่เค้าว่าเป็นความน่าอัศจรรย์ของคำว่ารัก ที่ถูกเปล่งออกมาจากปากของคนที่เรามอบความรู้สึกเดียวกันให้กับเขาไป

ผมตอบอีกฝ่ายออกไปด้วยความรู้สึกอิ่มเอม และปีติไม่แพ้กัน “น็อตก็รักขนุนฮะ...” แต่เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายต้องออกอาการเขินจนไปไม่เป็นไปอีกรอบ ผมก็ทิ้งช่วงไปพักหนึ่ง ก่อนจะแหย่ให้อีกฝ่ายยิ้มได้ เพื่อที่เราจะประคองการพูดคุยในรอบนี้ให้ผ่านพ้นไปโดยที่เมียผมไม่นั่งเม้มปากเพราะความเขินไปตลอด
.
.
“...อีกอย่าง ที่เค้าบอกว่าไม่ต้องถอนคำพูดน่ะ เพราะเค้าจะเอาไว้ล้อตัวยันลูกบวชเลย ฮ่า ฮ่า ฮะ..ฮะ...”  เสียงหัวเราะของผมมีอันต้องสะดุดลงตรงกลางอากาศ เมื่อแววตาของอีกคนที่เคยสุกใสเป็นประกายหลังจากได้ยินคำว่ารักจากผม ดับวูบลงทันทีเมื่อได้ยินประโยคสุดท้าย ที่เป็นแค่ประโยคล้อเลียนติดปากไม่มีความหมายอะไรให้ต้องมาตีความให้กลุ้มใจ

“น็อตอยากมีลูกเหรอ?...เค้ามีลูกให้ตัวเองไม่ได้หรอกนะ”

...โอย แค่ได้ยินสิ่งที่ขนุนเพิ่งจะพูดออกมานี่ ก็ทำเอาผมถึงกับเข่าอ่อน...
...นี่ยิ่งได้มาเห็นหน้าเล็กๆที่ดูหมองลงทันตา แถมยังมีน้ำใสๆไหลคลอหน่วยแบบฉับพลันอย่างนี้เสียอีก... ไอ้น็อตก็ตายสถานเดียวกันพอดีสิฮะ... ไม่น่าเล๊ยยย ไม่น่าเล่นประเด็นที่พาดพิงถึงเรื่องละเอียดอ่อนแบบพล่อยๆไปเล๊ยยยย... ปากพาซวยแท้ๆเลยกู!!

“ขนุนฮะ...ขนุนอย่าทำหน้าอย่างนี้ซิฮะ...เรารักกันนะฮะ อย่าลืมสิ...
.
...โอ๋ โอ๋...มานี่มะ...มาให้เค้ากอดแน่นๆซิฮะ...
...ตัวเองคิดมากเรื่องนี้ใช่ไม๊ฮะ? คิดมากเรื่องที่เค้าพูดเมื่อกี๊ใช่ไม๊?...
...เค้าล้อเล่นนะ เค้าไม่ได้คิดอะไรเรื่องลูกเลย เค้าไม่ได้อยากมีลูก เค้าขอแค่มีตัวอยู่ข้างๆ เค้าก็พอใจแล้ว” ระหว่างตั้งหน้าตั้งตาปลอบคนตัวเล็กกว่าจนจ้าละหวั่น ผมก็รัดเอาร่างอุ่นๆที่นอนทับทาบอยู่ด้านบนให้แนบชิดราวกับต้องการผสานให้ตัวของเราหลอมรวมกันเป็นร่างเดียว พลางเอามือลูบเบาๆไปตามแผ่นหลังเนียนของอีกฝ่ายเพื่อช่วยให้คลายกังวล

.
.
.
ขนุนนิ่งไปสักพัก ก่อนขืนตัวเองออกจากอ้อมกอดของผม เมียผมจัดแจงท่วงท่าในการสนทนาของตัวเองให้กลับไปสู่ท่าตั้งต้น แล้วถามออกมาด้วยน้ำเสียงหวั่นๆ “ถึงอย่างนั้นก็เถอะ...แล้วพ่อแม่น็อตล่ะ จะไม่อยากให้ลูกชายแต่งงาน มีลูกหลานสืบทอดวงศ์ตระกูลหรอกเหรอ? คุณปีย์ก็คบกับคุณกานต์ก็คงจะไม่มีทางมีน้องให้พ่อแม่น็อตได้ไปคู่นึงแล้ว การที่เราสองคนมาตกลงปลงใจคบหากันอีกคู่อย่างนี้...ครอบครัวน็อตจะไม่สิ้นทายาทกันพอดีหรอกเหรอ?”
.
.
ผมถึงกับต้องถอนหายใจออกมาหนักๆ เพราะถ้าทุกอย่างเป็นไปตามความเข้าใจของอีกฝ่ายจริงๆ พ่อแม่ของผมกับพี่ปีย์ ก็ควรจะโมโห หรือเสียใจจนเป็นบ้า หากได้รับรู้ว่า...ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนทั้งสองคน เกิดเปลี่ยนใจไม่อยากสร้างครอบครัวกับหญิงสาวทั่วๆไป เพราะเกิดถูกใจไม้จากป่าเดียวกันเสียทั้งคู่ ในเวลาไล่เลี่ยกันอีกต่างหาก

แต่ว่านั่นมันไม่ใช่ แถมยังไม่ใกล้เคียงความจริงด้วยซ้ำ เพราะมันเป็นแค่ข้อมูลหลอกๆที่ผมกับพี่ปีย์กุขึ้นมาบังหน้าเท่านั้น...

ผมเลยถือโอกาสที่พี่ปีย์ยกเลิกสัญญาต่อหน้าไอ้เหี้ยนายจ้างไปเรียบร้อยเมื่อบ่ายวันนี้ เพื่อบอกความจริงทั้งหมดให้ขนุนได้เข้าใจความเป็นมาเป็นไปทั้งหมดของผมเสียที เพื่ออีกฝ่ายจะได้สบายใจกับการที่เราจะคบหากันอย่างเป็นเรื่องเป็นราว  “โอเคฮะ...เค้าว่าถึงเวลาแล้วล่ะ ที่เค้าต้องเล่าความจริงทั้งหมดให้ตัวเองฟัง”

“เอ๋?? ความจริงอะไรเหรอ?” คำถามถูกส่งออกมาพร้อมกับสีหน้างงๆของอีกฝ่าย

“ความจริงเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของเค้าเองฮะ...แต่ก่อนอื่น เค้าขออะไรตัวอย่างนึงได้ไม๊ฮะ?” ขนุนพยักหน้าให้โดยไม่เสียเวลารีรอ “เค้าขอให้ตัวรับปากก่อนว่า จะไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกใคร ขอให้เรารู้กันแค่สองคนพอ...ตกลงนะฮะ”  แม้คนฟังกดหน้าลงอีกครั้งเพื่อรับคำด้วยสีหน้างุนงงเหมือนแก้โจทย์หาค่าตัวแปรไม่ได้ แต่ผมกลับไม่สนใจ และเดินหน้าเล่าเรื่องที่อีกฝ่ายควรจะรู้เกี่ยวกับตัวผมออกมาทันที

“จริงๆแล้ว เค้ากับพี่ปีย์ไม่ได้เป็นพี่น้องกันอย่างที่ตัวและทุกๆคนเข้าใจหรอกฮะ...
...พี่ปีย์กับเค้าน่ะ ทำงานเป็นนักสืบเอกชน เราสองคนถูกจ้างวานมาให้คอยดูแลพี่กานต์แทนแฟนเก่า ไปพร้อมๆกับคอยกีดกันไม่ให้ใครเข้าหาพี่กานต์ผู้เป็นเป้าหมายของงานได้ง่ายๆ และเพราะงานนี่แหละฮะ ที่ทำให้เค้ากับพี่ปีย์ ต้องปลอมตัวมาอยู่ที่นี่ ในฐานะพี่น้องกัน เพื่อให้การทำงานในครั้งนี้ สำเร็จลุล่วง...

...ที่เค้าต้องปกปิดเรื่องนี้จากตัว ไม่ใช่เพราะเค้าไม่อยากบอก หรือไม่เชื่อใจตัวหรอกนะฮะ...
...แต่ตามข้อบังคับของงาน เราสองคนไม่ควรเปิดเผยตัวตนของเราให้ใครได้ล่วงรู้  ยิ่งไปกว่านั้น...เราควรต้องทำตัวเป็นเหมือนเงา ที่พาดผ่านมา...แล้วก็แว่บผ่านไป โดยพยายามควบคุมให้คนที่จะจำหน้าของเราทั้งสองคนได้...มีจำนวนน้อยที่สุด  เพื่อจะได้แน่ใจว่า...ระหว่างการออกทำงานภาคสนามครั้งต่อๆไป เราจะไม่ต้องประสบปัญหางานสะดุด เพราะดันมาเจอหน้ากับคนเคยรู้จักเข้าโดยบังเอิญ...
.
.
...แต่แล้ว ทุกๆอย่างก็ผิดแผนไปหมด ตั้งแต่ที่เค้ามาเจอตัว และตั้งแต่พี่ปีย์เจอเข้ากับพี่กานต์...
...เราต่างตกหลุมรัก เป้าหมาย และ เพื่อนบ้านของเป้าหมายอย่างถอนตัวไม่ขึ้น พี่ปีย์เลยยอมยกเลิกสัญญาจ้างเพื่อจะได้คบกับพี่กานต์จริงๆจังๆ มันเลยทำให้เค้าสามารถบอกความจริงเกี่ยวกับตัวเค้าให้ตัวเองฟังได้ซะทียังไงล่ะฮะ”

ขนุนพยักหน้ารับฟังอย่างเข้าใจ ก่อนจะถามต่อ “ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่า ตัวเองก็ไม่ได้เป็นนักศึกษาอย่างที่เคยบอกเอาไว้ แถมยังทำงานแล้วด้วย”

เมื่อเห็นสีหน้าตั้งอกตั้งใจฟังของอีกฝ่าย ผมก็เริ่มอธิบายข้อมูลใหม่ๆที่ขนุนยังไม่เคยได้รับรู้มาก่อนอย่างช้าๆ เพื่อเปิดโอกาสให้เขาได้ทำความเข้าใจได้อย่างแจ่มแจ้ง “ฮะ...แต่นั่นเป็นแค่ส่วนปลีกย่อยเล็กๆน้อยๆอื่นๆแค่นั้นเองฮะ...
...ที่เค้าอยากจะบอกกับตัวเองก็คือ...
.
...ครอบครัวจริงๆของเค้าน่ะ มีพี่น้องทั้งหมดห้าคนฮะ คนโตสองคนเป็นผู้หญิง แล้วก็ปิดท้ายด้วยลูกชายอีกสาม...
.
...เพราะชื่อจริงของคุณป๋า กับ คุณบี๋...คุณพ่อกับคุณแม่ของเค้าน่ะฮะ...นำด้วยตัวน.หนูกันทั้งคู่ ท่านเลยตั้งชื่อให้ลูกทุกคนมีชื่อเล่นและชื่อจริงนำหน้าด้วยตัวน.หนูกันหมดเลยฮะ... ไล่มาตั้งแต่ คุณเนย คุณเน้ย คุณเน็ต คุณน็อต และก็คุณโน๊ต... และถ้านับตามลำดับที่เค้าเพิ่งพูดให้ตัวฟัง เค้าก็เป็นลูกชายคนที่สี่ของครอบครัว...
.
...โดยพี่ๆทั้งสามคนของเค้า แต่งงานออกเรือนกันไปหมดแล้ว...
...และก็เป็นโชคดีของเค้าซะเหลือเกิน...ที่คุณเน็ตมีเมียไปเรียบร้อย แถมพี่สะใภ้ก็กำลังท้องหลานแฝดเป็นผู้ชายทั้งคู่ได้หกเดือนแล้วฮะ เพราะฉะนั้น ภาระเรื่องลูกหลานสืบตระกูลและเชื้อสายนี่ ตัดไปได้เลย”

“เดี๋ยวก่อนนะ เมื่อกี๊...เค้าได้ยินตัวเรียกชื่อคุณเน้ยด้วย ใช่พี่เน้ยที่เค้าไปเจอตอนไปซื้อเสื้อผ้ารึเปล่า?”

ผมเลยตอบออกไปแบบชิลๆ “ฮะ...คุณเน้ยคือหนึ่งในพี่น้องของเค้าเองฮะ......ทีนี้ ตัวเองก็น่าจะเข้าใจได้แล้วนะฮะว่า ทำไมคุณเน้ยถึงได้ดูดีใจนัก ที่ได้เห็นหน้าตัวเองในวันนั้น”

“อ๋อ ถึงได้ว่าซิ ว่าทำไมพี่เน้ยถึงได้ดูสนใจในตัวเค้ามากเป็นพิเศษ”
.
.
ขนุนที่นิ่งเพราะใช้เวลาประมวลผลอะไรบางอย่างอยู่นานก็ถามออกมาอย่างกระตือรือล้น  “ตัวอย่าบอกนะว่า ครอบครัวของตัวรู้เรื่องของเค้ากันหมดแล้ว?” ผมอดยิ้มออกมาไม่ได้..เพราะนอกจากเสียงแล้ว หน้าตาเมียผมตอนนี้ เริ่มจะออกอาการตื่นเต้น จนไม่เหลือเค้าขนุนหน้านิ่งให้เห็นอีกเลย...

...หึ หึ ตลกดีแฮะ ไม่คิดว่าขนุนจะตกใจเป็นเหมือนคนอื่นด้วย...
...นึกว่าจะซ่อนอารมณ์ได้เก่งจนเป็นนิสัย ที่ไหนได้...พอได้ยินว่าครอบครัวผมรู้เรื่องของตัวเองมาเป็นอย่างดีตั้งแต่แรก ก็ออกอาการหน้าถอดสี แถมยังแอบล่กแอบลนจนเห็นได้ชัดแบบนี้อีกตังหาก

พอได้ทีที่จะข่มเมีย ผมก็เล่นต่อแบบไม่คิดยั้ง “ก็แหงซิฮะ ทุกคนรู้เรื่องที่เค้าตั้งหน้ามาจีบตัวกันหมดทุกคน ตั้งแต่วันที่เค้าอกหักจากตัวแล้วล่ะ...
.
.
...ตัวรู้ไม๊ ใครๆเค้าก็รอเจอหน้าตัวกันทั้งนั้น...
...ตัวน่ะ โด่งดังเข้าขั้นเป็นเซเล็บประจำบ้านของเค้าเลยนะฮะ  ในฐานะว่าที่สะใภ้คนใหม่ ผู้เป็นแฟนคนแรกของเค้า ที่ทำให้เค้าอกหักยับเยินได้ ทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มจีบ...
...ที่สำคัญ ทุกๆคนก็อยากจะรู้เหลือเกินว่า...ผู้ชายคนไหนน้า ที่สามารถทำให้เค้าตกหลุมรักได้อย่างหัวปักหัวปำ จนต้องยอมเปิดอกคุยกับคุณป๋า เพื่อบอกให้ท่านรู้ว่า...ลูกชายของท่าน กำลังจะหาเมียเป็นผู้ชายด้วยกัน”

เสียงเล็กๆดังลอดออกมาทันทีเมื่อได้ยินประโยคสุดท้ายของผม “แล้วคุณพ่อ...

“เรียกท่านว่าคุณป๋าเถอะฮะ จะได้เหมือนกับที่ลูกๆทุกคนของท่านเรียก” ขนุนทำหน้าไม่มั่นใจ และดูกระดากอยู่ไม่น้อย จนผมต้องเสริมต่อ “น่า...ตอนนี้ขนุนก็ถือเป็นลูกคนนึงของท่านแล้ว หัดเรียกท่านแบบนี้เอาไว้แต่เนิ่นๆ เวลาไปเรียกท่านต่อหน้า จะได้ไม่เขินปากยังไงล่ะฮะ...
.
...ส่วนเวลาจะเรียกคุณแม่  ให้เรียกท่านว่าคุณบี๋นะฮะ...คุณบี๋นี่แหละฮะที่เป็นต้นคิดให้คุณป๋าเรียกท่านแบบนี้ตั้งแต่คลอดคุณเนย แล้วก็สอนให้ลูกทุกคนเรียกแทนตัวเองด้วยชื่อ และเรียกคนอื่นว่าคุณกันทั้งบ้าน...
.
...เพราะท่านชอบของท่านแบบนั้น   คือ...มันทำให้ท่านกลายเป็นสาวสองพันปี ไม่มีข้อจำกัดทางอายุ แถมยังเก๋ไก๋ไม่เหมือนแม่ของลูกบ้านอื่น หึ หึ” คนฟังพยักหน้าแล้วยิ้มน้อยๆให้ ผมว่าขนุนเข้าใจอารมณ์คุณบี๋ของผมนะฮะ เพราะรายนี้ก็แตะเรื่องอายุไม่ได้เหมือนกัน

“แล้วคุณป๋า ท่านไม่ว่าอะไรจริงๆเหรอ? หลังจากที่ได้รู้ว่าตัวเองจะมาจีบเค้าน่ะ”

“ตอนแรกที่ท่านรู้ ท่านก็เฟลใช้ได้นะฮะ แต่ท่านกลับบอกว่า ท่านให้เวลาเค้าสามเดือน เพื่อให้เค้าได้ลองจีบตัวอย่างเต็มที่ดูก่อน... ถ้าผลสุดท้ายเค้าเกิดจีบตัวไม่ติด ภายในกำหนดการที่ท่านให้... ท่านก็จะปลอบดวงใจอันแหลกสลายไม่มีชิ้นดีของเค้าด้วยการหาคู่หมั้นมาให้เค้าอ่ะฮะ... 
.
...แต่ถ้าเค้าทำสำเร็จอย่างที่ตั้งใจ  ท่านก็พร้อมจะยินดี และเต็มใจที่จะเปิดบ้านของเราเพื่อต้อนรับตัวมาเป็นสมาชิกใหม่อีกคนนึงฮะ” ผมยิ้มกว้างเพื่อให้กำลังใจอีกคนที่ดูจะฝ่อไป เมื่อรู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นบ้างหลังจากนี้... ผมว่า ขนุนแม่งต้องกำลังตื่นเต้นอยู่แหงๆ หลังจากที่ได้รู้ว่าบ้านผมกำลังตั้งตารอคอยเจอหน้าของเขาอยู่

“เค้าถามตัวจริงๆเถอะ...ตัวไม่เสียใจแน่นะ หากจะไม่ได้แต่งงาน และมีภรรยาตามกฏหมายได้อย่างผู้ชายคนอื่นๆ?” ขนุนถามออกมาเบาๆด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ จนผมต้องยกตัวขึ้นเพื่อจูบประทับลงตรงหน้าผากมนของเจ้าตัวเพื่อเรียกขวัญและให้กำลังใจ



ก่อนจะตอบออกไปอย่างง่ายๆ พลางคลายวงแขนที่โอบร่างบางๆนั้น เพื่อกวาดสองมือลูบไล้เบาๆไปตามแผ่นหลังอันนุ่มเนียนทั้งบนและล่างอย่างแผ่วเบา จนขนุนเริ่มจะหายใจติดขัด  “เราเคยคุยเรื่องนี้กันใช่ไม๊ฮะ ว่าเค้าน่ะ หลังจากได้เจอตัวแล้ว เค้าไม่อยากมีใครอีกเลย แถมยังไม่เสียดายรสสัมผัสของผู้หญิงอีกด้วย เพราะเมียเค้ามีดีเหนือกว่าผู้หญิงหลายๆคนซะอีก...เชื่อเค้าเถอะนะฮะ เค้าเอาหัวเป็นประกันได้เลย......ไม่งั้น...เค้าจะอยากเอาตัวทั้งวันทั้งคืน แทบจะสามเวลาหลังอาหารเป็นกระต่ายอยู่แบบนี้เหรอฮะ...
.
...ไหนแม่กุ๊เต่ย บอกหน่อยซิ...ว่าพ่อกุ๊เต่ยหัวจุกตัวนี้...เอาแม่กุ๊เต่ยถี่อย่างที่ว่าไปจริงไม๊?...หื้มมมมม”

“หึ หึ ช่างพูดจริงนะพ่อกระต่ายป่า...ไหนว่าชอบเอา วันนี้ไม่เห็นจะเอาเค้าซักที” ขนุนก็เข้าใจตอบผมได้ดีเสียเหลือเกิน เพราะไม่ได้ตอบด้วยวาจาอย่างเดียวนะฮะ แต่ใบหน้าเล็กๆที่กำลังกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างถูกอกถูกใจในเวลานี้กำลังก้มลงจูบเบาๆตรงหน้าอกของผมพอให้กระสันเสียวขนลุกเกรียวขึ้นมาเป็นระลอกๆ ก่อนที่รอยจูบนั้นจะค่อยๆไต่ไล่ระดับขึ้นมาจนถึงคอช่วงของผมแล้วฮะตอนนี้

ก่อนที่ผมจะสยิวไปมากกว่า ผมก็เอามือทั้งสองข้างขึ้นมาประคองร่างเล็กๆของสุดที่รักเอาไว้ แล้วยันตัวขึ้นนั่งพลางพูดอย่างถูกอกถูกใจ “ให้มันได้อย่างนี้ซิเมียไอ้น็อต...ขนาดไม่ยั่วก็ยังรักจะแย่  แต่นี่ทั้งยั่ว ทั้งหอม ทั้งขาวน่ากินไปทั้งตัวแบบนี้  เค้าจะคิดหนีไปมีคนอื่นได้ยังไงกันอีกล่ะฮะ”

พูดจบผมก็กดริมฝีปากลงตรงอวัยวะส่วนเดียวกันของอีกฝ่าย แล้วลงน้ำหนักทักทายกลีบปากนุ่มนิ่มอย่างรักใคร่ ขนุนตอบรับทุกๆสัมผัสของผมโดยไม่ปล่อยให้การขยับเขยื้อนริมฝีปากเพียงครั้งของผมหล่นหายไปโดยไม่ได้รับการเหลียวแล ก่อนที่เจ้าตัวจะหยุดพักเพียงช่วงสั้นๆ เพื่อเอ่ยความ “ตัวสัญญานะ”

ผมถือโอกาสตอบอีกคนด้วยความเต็มใจระหว่างที่สูดดมความหอมหวนยวนอารมณ์ที่ระเหยออกมาจากผิวแก้มปลั่งที่อยู่ไม่ห่างออกไปไกลนัก “(ฟอดดดดด) สัญญาฮะ...สัญญาไปตลอดชีวิตเลยฮะ ที่รัก”

หลังจากสิ้นประโยค ผมก็ค่อยๆดันร่างเล็กกว่าให้เอาลงไปนอนราบลงกับฟูก แล้วคร่อมเนื้อตัวเนียนละออไร้สิ่งปกปิดของอีกฝ่ายเอาไว้ประหนึ่งผ้าห่มอุ่นๆผืนใหญ่ ผิดก็อยู่แต่ว่า ไอ้ผ้าห่มผืนนี้ ดันมีบริการลูบไล้ไปตามร่างกายเพื่อสร้างความรู้สึกหวามไหวให้เกิดทั่วทั้งร่างบาง พร้อมๆกับมอบจุมพิตหวานๆอย่างบรรจงให้สุดที่รัก ผู้ซึ่งกำลังส่งยิ้มหยาดเยิ้มกลับมาแทนเทียบเชิญ

ขนุนที่กำลังตั้งใจจูบตอบผมก็เอ่ยขึ้นระหว่างช่วงที่พอหาช่องไฟให้พูดจาได้ “ตัวพูดแล้วนะ...ตลอดชีวิตจริงๆนะ / ฮะ...ตลอดชีวิตของน็อตเลยฮะ” ผมเลยตอบออกไปอย่างทันควันโดยไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายต้องกระวนกระวายลุ้นรอ พลางวาดมือข้างหนึ่งไปคว้าขวดเจลที่ผมวางเอาไว้ตรงพื้นข้างเตียง เพื่อย้ายมันขึ้นมาวางพักเอาไว้ในระยะไม่ห่างมือจนเกินไปนัก ในระหว่างที่ปากกำลังง่วนอยู่กับการประคบประหงมปากของเมียผู้เป็นที่รักอยู่ไม่ได้ขาด ก่อนจะค่อยๆเคลื่อนใบหน้าเพื่อประทับจูบลงตรงแก้มใส เพื่อจะไล่ลงไปยังส่วนต่างๆซึ่งต่ำลงไป หากแต่อ่อนไหวต่อสัมผัสยิ่งกว่า...เพื่อให้อีกฝ่าย พร้อมใจ และ พร้อมกายยิ่งกว่าที่เป็น

แต่ยังไม่ทันที่ใบหน้าของผมจะพ้นไปจากแก้มของอีกฝ่าย ขนุนก็กระซิบเบาๆตรงข้างหูผมด้วยข้อความเดียวกันที่ผมเพิ่งจะเอ่ยออกไป...หากแต่ความประทับใจของถ้อยคำที่ว่ามันช่างยิ่งใหญ่ต่อความรู้สึกของผมเหลือเกิน เมื่อได้กลายเป็นฝ่ายที่ได้รับฟังมันบ้างอย่างนี้ “ตลอดชีวิตเค้าด้วยเหมือนกัน”

ผมยิ้มออกมาอย่างพออกพอใจ แต่ส่วนที่ได้ชื่นชมรอยยิ้มของผมกลับไม่ใช่ดวงตากลมใสของขนุน หากแต่ผมเลือกที่จะฝังรอยยิ้มลงตรงซอกคอหอมกรุ่นของเมีย แล้วกดหน้าเพื่อประทับรอยยิ้มนั้นเอาไว้ไม่ให้จางหายไปตราบนานเท่านาน พร้อมๆกับขยี้ปลายนิ้วลงตรงยอดอกเม็ดเล็กๆที่ค่อยๆพองตัวแข็งเป็นตุ่มไต  ทันใดนั้น...ร่างเล็กๆที่ผมรักก็กระตุกเฮือกโผขึ้นมาหาหน้าของผม พลางส่งเสียงร้องก้องหวานรื่นหู “...ฮ๊าาาาห์....อาาาาห์.....

แขนทั้งสองข้างตะเกียกตะกายไขว่คว้าฝ่าอากาศขึ้นก่อนที่จะกอดรัดลำตัวของผมเอาไว้แน่น ฝ่ามือเล็กๆข้างหนึ่งถูกขนุนส่งขึ้นมาลูบไล้ท้ายทอยที่ไถจนเกรียนของผมอย่างสนุกมือเขา...และมันส์ในอารมณ์ผม ส่วนอีกช้างก็โลดแล่นไปทั่วแผ่นหลังของผม โดยฝากทั้งรอยนิ้วมือและรอยเล็บจิกเอาไว้เป็นระยะๆ ตามอารมณ์ และความอิ่มเอมเปรมจิตของเจ้าตัวหลังจากได้รับการปรนเปรอของผมตรงต้นทาง

เรียวขางามทั้งสองข้างอ้ากว้างเพื่อเปิดรับให้ลำตัวท่อนล่างของผมแทรกลงไป ก่อนจะตวัดปลายเท้าขึ้นเพื่อคล้องบั้นเอวของผมเอาไว้อย่างแน่นหนาในทันที ซึ่งท่านี้...ทำให้น้องชายของเราทั้งสองที่เริ่มจะหวั่นไหวจากการสัมผัสในส่วนอื่นๆได้เจรจาหารือกันอย่างถึงเนื้อถึงตัว และดูเหมือนอีกคนจะพอใจกับท่าทางที่เราสองคนกำลังเป็นอยู่อย่างยิ่ง  เพราะสะโพกเล็กๆของขนุน กำลังส่ายไปมาอย่างบ้าคลั่ง ทำให้อาวุธคู่กายของเราทั้งคู่บดเบียดกันจนเริ่มจะตั้งลำแข็ง และผมเริ่มจะรู้สึกรวดร้าวขึ้นกลางลำตัวอย่างเลี่ยงไม่ได้

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเปรียบจนเพลี่ยงพล้ำให้อีกฝ่ายไปเสียก่อน ผมเลยทั้งดูดทั้งเลียเนื้ออ่อนรอบๆลำคอหอมวนิลาของขนุนทั่วไปทุกๆอณูราวกับโหยกระหาย โดยไม่รามือไปจากเม็ดทับทิมสีชมพูที่ผมจงใจสลับมือเพื่อหยอกล้อเม็ดเต่งทั้งคู่โดยเท่าเทียม  เสียงครางของขนุนดังตอบสนองกับสิ่งที่ผมเสนออย่างสมใจผมที่สุด มือน้อย กับเอวบางช่างขยับก็ช่างขยันเติมเชื้อไฟแห่งตัณหาราคะให้ผมได้ดีเสียจริงๆ

ด้วยความที่เริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ เพราะรสสัมผัสของอีกฝ่ายเริ่มจะทำเอาผมหน้ามืดตามัว ผมเลยเปลี่ยนลงมาจู่โจมเข้าที่เม็ดเล็กๆยอดอกด้วยการกระหน่ำรัวลิ้นไปบนตุ่มเต่งๆที่ล้อมไปด้วยผิวละมุนไวต่อสัมผัสอย่างที่สุดของขนุนอย่างเมามัน จนร่างของคนที่ตัวเล็กกว่าบิดเร่าไปมา พร้อมกับครางเรียกชื่อผมเสียน่าชื่นใจ “....น็อต...ฮ๊าหห์.....อ๊า...น็อต....น็อต....ขนุนเสียว.....ฮ่าห์......อ๊าห์....

ใกล้แล้ว...ขนุนในตอนนี้ใกล้จะสุกงอมได้ที่จนพร้อมกินเต็มแก่แล้ว...
ยังขาดอีกไม่กี่ขั้นตอน ที่จะทำให้ขนุนหอมกรุ่น หวานฉ่ำ และอร่อยล้ำยิ่งไปกว่าครั้งไหนๆ...

คิดแล้วผมก็สอดนิ้วเข้าในปากบางๆของอีกฝ่ายอย่างช้าๆ เมียผู้รู้งานเป็นอย่างดีก็ดูดดุนนิ้วของผมอย่างเต็มอกเต็มใจเสียจนดุ้นข้างล่างเสียวแปล๊บขึ้นมาเพราะทนคิดถึงรอยสัมผัสเดียวกันนี้ไม่ไหว พอลิ้นสะบัดไหวของเมียเริ่มจะเคยคุ้นกับดัชนีนำร่อง ผมก็เพิ่มนิ้วที่สองเป็นรางวัลให้ และเมียผมก็ไม่ทำให้ผิดหวังแต่อย่างใด เนื่องจากทุกซอกทุกมุมของนิ้วคู่นั้น ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีและทั่วถึงจากลิ้นเรียวนุ่มนิ่มที่เคลื่อนไหวได้อย่างน่าอัศจรรย์ และมันจะยิ่งสะบัดไกวอย่างรวดเร็วมากขึ้นทุกครั้งที่ทั้งมือและปากของผมละเลงเร้าอย่างหนักหน่วงลงตรงยอดอกของเจ้าตัว

ไม่นานจากนั้น...ผมก็ย้ายแหล่งที่อยู่อาศัยชั่วคราวของนิ้วทั้งสองให้มาอยู่ในบ้านของน้องชายผมแทน  แต่ไม่ว่าส่วนที่ล่วงล้ำเข้าด้านในของเมียผมจะเป็นนิ้วหรือแก่นกลางลำตัวของผมก็เถอะ... ขนุนก็ให้การต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดีไม่มีน้อยหน้ากัน  เพราะตอนนี้...ผนังลื่นๆ อุ่นๆด้านในของตัวขนุนที่โอบล้อบรอบๆตัวแทนผู้รุกรานหลักอย่างแน่นหนา ทั้งดู ทั้งตอดนิ้วทั้งสองอยู่ตลอดเวลา จนทำเอาผมเพ้อ และเผลอตัวดูดเม็ดทับทิมที่ถูกครอบอยู่ในปากเข้าอย่างจังจนขนุนครางอู้ ระหว่างที่นิ้วมือทั้งสองกำลังควงสว่านหมุนไปมาเพื่อทำให้ความแนบแน่นขยายกว้างออก

เสียงหวานๆพยายามเปล่งออกมาเพื่อร้องขอความเห็นใจ “..น็อต...ฮ๊าห์...พอเถอะ...ฮ่าห์...  แต่ผมกลับแกล้งทำไก๋ แล้วเร่งทั้งควง ทั้งนวดด้านในช่องทางสีหวานอย่างสนุกมือ โดยที่ตอนนี้...ใบหน้าของผมย้ายสำมะโนครัวลงมาเลียไล้ผิวนุ่มนิ่มตรงหน้าท้องเนียนๆของขนุน สลับกับขบกัดเนื้ออ่อนเบาๆพอให้ขึ้นรอย ทำเอาท้องน้อยของร่างบางหดตัวและเกร็งนิ่งๆอยู่เป็นพักๆ

เสียงลมหายใจหนักที่อีกคนผ่อนออกจากริมฝีปากระหว่างไร้เสียงครางฟังแล้วทำให้ผมยิ่งรู้สึกว่าคนๆนี้เซ็กซี่เหลือเกิน  เซ็กซี่เสียจนผมอยากจะแกล้งให้เขาทนไม่ไหว...อยากได้ยินเขาเอ่ยปากร้องขอการเติมเต็มจากผม...อยากให้เขาบอกความต้องการที่เขามีต่อตัวผม... เพื่อให้ผมได้มั่นใจว่า ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวเท่านั้น ที่ปรารถนาในตัวเขาเพียงลำพัง  

 “ไม่ชอบที่เค้าทำเหรอฮะ?...ตัวรู้สึกไม่ดีเหรอ? ฮื้มมม....”ผมส่งถ้อยคำลองเชิงออกไปอยู่ในทีเพื่อถามอีกฝ่าย ถึงอย่างนั้น...การกระตุ้นปลุกเร้าร่างเล็กๆของเขานั้น กลับไม่ได้ลดละแต่อย่างใด 

ราวกับรู้ความต้องการของผมเป็นอย่างดี เพราะสิ่งที่ขนุนเอ่ยตอบผมมาหลังจากนั้น คือคำพูดที่ผมอยากได้ยินเป็นที่สุด...

“..อ๊ะห์.....ฮ๊าห์....เปล่า....ฮื๊ออออ....เค้าอยากให้ตัวเอาเค้าซะที.....อ๊าาาาาห์....     ขณะที่เมียยังพูดไม่ทันจบ ผมก็ถอนนิ้วออกจากร่างของอีกฝ่าย เพื่อเปลี่ยนท่ากลับมาคร่อมร่างของอีกคนเอาไว้ แล้วเอาหมอนใบเล็กๆมาหนุนสะโพกบางให้ลอยเด่น ก่อนจะแทนที่หน่วยลาดตระเวนชุดแรก ด้วยอาวุธหนักที่เตรียมพร้อมกับการลงพื้นที่มาเป็นอย่างดี ทั้งความแข็งแกร่ง...และความลื่นไหลอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้ขาดช่วง

บั้นเอวของผมกระแทกส่งแก่นกายที่ตื่นเต้นอย่างเต็มที่เข้าไปหาความอบอุ่น กระชับแน่น และตอดเต้นจนลึกสุดลำ และมันก็ยิ่งดำดิ่งได้ลึกมากยิ่งขึ้น เพราะสะโพกบอบบางของคนข้างล่างตัว แอ่นรับการขยับกายของผมอย่างยินดี ผมอดถามอีกฝ่ายออกไปไม่ได้..เพื่อขอให้แน่ใจว่า ไม่ใช่ผมเพียงฝ่ายเดียวที่กำลังสำลักความสุข ซึ่งเอ่อล้นออกมาจากภายในร่างกายของขนุน  “ชอบไม๊?...ชอบไม๊ฮะ?”

 “...อื้ออออ....แรงๆน็อต แรงๆ...ฮ่าห์....เอาเค้าแรงๆ....ฮ๊าห์...  ขนุนตอบออกมาด้วยรอยยิ้มคล้ายจะยั่ว ดวงตาใสๆฉ่ำคลอด้วยน้ำตาจ้องมองใบหน้าผมอย่างตั้งอกตั้งใจด้วยแววตาเป็นประกาย

ผมไม่ขอขัดศรัทธาเมียผู้เป็นที่รักให้เขาต้องอึดอัดขัดใจ ผมเลยอัดสะโพกเข้ากระแทกกับแก้มก้นเล็กๆเสียยกใหญ่ จนข้างในร้อนฉ่าและตอดรัดหนักหนายิ่งกว่าแรกสอดใส่ ผมออกปากร้องขอความร่วมมือจากฝ่ายเพื่อเพิ่มความสุขสันต์ให้มากยิ่งๆขึ้นไป  “ส่ายอีกซิฮะ...ส่ายสะโพกแรงๆซิ” พอผมพูดจบ เอวสอบที่ถูกเกี่ยวคล้องเอาไว้กับกายผมอย่างแน่นหนาก็ส่ายร่อนไปมา ทำเอาผมรู้สึกดีเสียแทบบ้าจนต้องร้องชมออกมาด้วยความถูกใจ “...อาห์...อย่างนั้น... เก่งมากฮะ”

ยิ่งขนุนตอบรับทุกๆการขยับล่วงล้ำ ผมก็ยิ่งโถมตัวเข้าใส่โดยไม่คิดยั้งมือ ตอนนี้...คนข้างล่างตัวผมกำลังน่ามองอย่างที่สุด ทั่วทั้งตัวของเขากลายเป็นสีชมพูอมแดง ดูบอบบางน่าทนุถนอมราวกับกลีบดอกซากุระ แม้ใบหน้าเล็กๆจะบิดเบี้ยว หากแต่ยังคงมีเสน่ห์จนตรึงสายตาของผมเอาไว้ได้ เสียงหวานๆที่เล็ดรอดออกมาจากริมฝีปากที่พยายามขืนปิดแน่นก็ช่างเสนาะหูเสนาะใจผมสัดๆ และที่ทำให้เซ็กส์ครั้งนี้ระหว่างเรารู้สึกวิเศษไปกว่าการหลอมรวมร่างกายเป็นหนึ่งเดียวแบบที่เราคุ้นเคย คงจะเป็นความรักที่ส่งผ่านทางกาย และใจของเราทั้งสองคน จนเอ่อล้นและอบอวลไปทั่วอย่างที่เป็นอยู่ในเวลานี้

“ขนุนฮะ น็อตรักขนุนนะฮะ”  ผมกระซิบลงตรงข้างหูของอีกคนเพื่อให้ความรู้สึกนี้กำซาบลงสู่หัวใจของอีกฝ่าย

หากแต่ผลลัพธ์นั้น กลับไม่ได้ประทับอยู่แต่ภายในทรวงของอีกฝ่ายแต่เพียงอย่างเดียว เพราะทันทีที่ขนุนได้ยินถ้อยคำที่ผมเอ่ย ข้างในตัวของขนุนก็ตอบรับคำรักของผมด้วยการบีบรัดน้องชายตลอดทั้งลำอย่างรุนแรงจนคลื่นความเสียวแล่นแปล๊บปล๊าบไปทั่วร่าง 

“...ฮ่าห์...ตอดแรงดีจัง......ข้างในตัวทำเค้าแทบเป็นบ้า ตัวรู้ไม๊...ฮื้มมมมม....อาห์” ผมบอกประสบการณ์ที่ผมกำลังสัมผัสอยู่อย่างดุเดือดให้อีกคนได้ร่วมรับรู้แล้วรับผิดชอบ  มือเล็กของขนุนเริ่มจิกเข้าเนื้อตรงแผ่นหลังของผมทันทีที่น็อตน้อยกระแทกเข้าตรงจุดแจ็คพ็อตในร่าง  ส่วนปลายนิ้วที่วนลูบไล้หัวผมอยู่นั้นก็เผลอทึ้งกลุ่มผมบนหัวอย่างลืมตัวในทันใด

“อ๊าห์...น็อต......ฮ๊ะห์....ขนุนเสียว...อ๊าห์...     เสียงเชียร์หวานๆแบบนี้นี่แหละ ยิ่งทำให้ผมย่ามใจ ถอนร่างออกมาสุดลำ จนมีเสียงดัง บลั๊วะออกมา ก่อนจะถลากลับเข้าไปอีกครั้งทั้งดุ้น ทำเอาร่างของขนุนผวาเข้าใส่ พลางกรีดร้องออกมาสุดเสียง “....น็อตตตตตตตต.....ฮ๊าาาาห์...  แล้วขนุนน้อยก็ร้องไห้จ้าออกมาทันที

ถึงผมจะข่มขู่ร่างบางจนร้องไห้ร้องห่มออกมาแล้วก็ตาม หากแต่ผมคงจะปล่อยให้เขาลอยนวลเหนือความผิดที่ทำให้ผมร้าวรานไปทั้งแท่งไม่ได้อีกต่อไป ผมเลยสาวบั้นเอวลำอัดแก่นกายเข้าใส่จุดกระสันข้างในแบบถี่ๆ ทั้งที่สนามรักของขนุนกำลังดูดตอดอย่างวอดวายและไม่ไว้ชีวิต  พลางก็เอ่ยปากผมถาม “รักน็อตไม๊ฮะ...ฮื้มมมม...รักน็อตไม๊...ฮ๊ะห์...คนเก่ง?”

บั้นเอวผมสอดเด้าอย่างไม่บันยะบันยัง เพราะขีดความเสียวกำลังทวีคูณมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เพราะผมไม่อยากจะสยิวซ่านเพียงลำพัง ผมเลยส่งมือข้างหนึ่งลงไปรูดเคล้นชนุนน้อยให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง  เจ้าของลำเล็กๆกระทัดรัดคงจะมีอารมณ์ร่วมมากเป็นพิเศษ  ซึ่งอาจเป็นผลมาจาก...นี่คือเซ็กส์แรกภายหลังจากการเผยความรู้สึกของสองเราก็เป็นได้ จึงทำให้ขนุนน้อยคับเต่งและน้ำตาไหลเป็นสายภายในระยะเวลาไม่นาน    

“....เค้ารักน็อต.........อ๊าห์....น็อต....เค้าจะ.....ฮ๊ะห์...อีก....แล้ว.......ฮ๊าห์..”  ปากเล็กๆของขนุนเอ่ยคำตอบผมออกมาหลังจากต้องรวบรวมสติอยู่นานหลายนาที

แค่ได้ยินสิ่งที่ขนุนเพิ่งบอกออกมา ก็ทำเอาผมรู้สึกสุขสะท้านไปทั้งร่าง ผมเลยปล่อยให้ร่างกายเคลื่อนไหวไปตามความกระหายอยากในเรือนร่างของอีกคนอย่างเต็มที่  ท่อนล่างของผมซอยกระแทกเป้าถี่ๆจนกระบอกลูกสูบร้อนจนแทบจะติดไฟ ผมรู้ว่าช่วงเวลาแห่งความสุขสันต์กำลังจะย่างกรายเข้ามาถึงในอีกไม่ช้า ขาเรียวทั้งสองข้างที่เคยเกี่ยวกระหวัดเข้ากับบั้นเอวของผมได้คลายออก หลังจากการเสร็จสมในรอบที่แล้ว และตอนนี้...ปลายเท้าทั้งสองข้างก็จมหายลงไปในเบาะเพราะเจ้าตัวกำลังจิกเกร็งด้วยความเสียวอย่างที่สุด

“เรียกชื่อเค้าซิฮะ...ฮื่มมมม / น็อต...น็อตตต....เค้า...อ๊ะห์...รักน็อตนะ.....น็อต...อ๊าหห์...น็อต....น็อต....น็อต....ฮ๊าห์!!” ร่างเล็กดีดตัวลอยคว้างกลางอากาศ ราวกับเล่นท่าสะพานโค้ง ผมรีบซอยสะโพกถี่ๆ อย่างไม่ยั้งเพราะรู้ตัวดีว่าผมเองก็จะไม่ไหวเหมือนกัน  

ชั่วอึดใจเดียว..ผมก็รู้สึกถึงความเสียวซ่านที่แผ่กระจายไปทั้งร่าง ซึ่งมาพร้อมกับความเครียดของกล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกาย เพราะการขืนเกร็งตามการตอบสนองโดยธรรมชาติ และผมก็ปลดปล่อยตัวตนของผมให้เป็นอิสระอีกครั้งอย่างมีความสุข  “ฮื่ออออ..........ขนุน...........ฮื่มมมมมมม.......ฮ่าห์”




ทันทีที่ร่างกายของผมและอีกคนฟื้นคืนสู่สภาวะปกติ ผมก็จัดให้อีกคนนอนราบอย่างผ่อนคลาย แล้วเอื้อมมือไปคว้าเอาถุงผ้าใบเล็กๆในลิ้นชักหัวเตียง กับของอีกสองสามอย่างออกมา พลางเอ่ยระหว่างชูถุงในมือตรงหน้าของขนุน “เค้ามีของจะให้ด้วยล่ะ”  พูดจบ ผมก็ส่งถุงยื่นใส่มือเมีย  

แม้จะสงสัยไม่น้อย แต่เจ้าตัวที่ดูจะสนใจกับของขวัญชิ้นนี้ของผมก็ลุกขึ้นนั่งอย่างถนัดถนี่ ก่อนจะเปิดปากถุงเพื่อแกะดูของที่อยู่ด้านใน และข้อสงสัยทั้งหมดก็ได้รับคำอธิบายทันที เมื่อเขาเทของทั้งหมดที่บรรจุอยู่ในถุงผ้าออกมา...

“อ๊ะ...ตุ้มหูคู่นี้ ที่ตัวให้เค้าช่วยเลือกเมื่อวันนั้นหนิ” ในมือขนุนตอนนี้ มีตุ้มหูเงินแท้คู่หนึ่งซึ่งออกแบบเป็นตัวอักษรเคตัวพิมพ์ใหญ่ กับยาหม่องตลับเล็กๆ

ผมเอื้อมไปหยิบทั้งสองอย่างมาถือเอาไว้ในมือ แล้วตอบคำ “ฮะ...เค้าตั้งใจเลือกมาให้เราคนละข้าง จะได้เอาไว้คอยเตือนว่าเราเป็นของกันและกันทั้งตัวและหัวใจ จริงๆเค้าก็อยากจะให้แหวน แต่ตัวก็ไม่ใส่แหวนซักวง แถมถ้าอยู่ๆมาขอให้ลองไซส์แหวนให้ หรือหาอะไรมาวัดรอบนิ้ว เดี๋ยวตัวก็รู้กันพอดี ว่าเค้าคิดจะทำอะไร...
.
...ตัวโอเคไม๊ฮะ ถ้าต้องเจาะหู?”

“ฮื่อ...ก็ได้  แล้วจะเจาะกันยังไงล่ะ” โดยไม่คิดจะรอฟังคำอนุญาตของเมียให้จบเสียก่อน ผมก็จัดการเตรียมความพร้อมของทั้งตัวเองและขนุนด้วยการทาแอลกอฮอล์ล้างแผลเข้าที่ติ่งหูด้านซ้ายของทั้งตัวเองและเมีย ก่อนจะจุ่มก้านตุ้มหูที่ถูกตัดจนคมลงในแอลกอฮอล์ แล้วก็เอาขึ้นมาผึ่งบนสำลีแผ่น

“จะยากอะไรล่ะฮะ...ตัวก็เจาะให้เค้า แล้วเค้าก็เจาะให้ตัวยังไงล่ะ เนี่ยะ...ติ่งหูข้างเดียวกับหัวใจของเค้ายังว่าง”  ผมเปลี่ยนท่าเป็นนั่งเอาแผ่นหลังพิงหมอนตรงหัวเตียงด้วยท่าสบายๆ แล้วชี้บุ้ยบ้ายทำท่าบอกให้คนตัวเล็กมานั่งลงบนหน้าท้องเหมือนที่เรามักจะทำเวลาพักยกคุยกันในท่านั่ง  ก่อนจะเปิดฝาตลับยาหม่องแล้วชูขึ้นตรงหน้าพลางยิ้มแป้นให้เมียด้วยความภูมิใจ

ขนุนมีสีหน้าลังเลอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งสิ่งที่เขาเอ่ยหลังจากนั้น ก็รับรองความกังวลบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี “เอาไว้เราไปเจาะที่ร้านวันพรุ่งนี้ดีไม๊ เค้าเคยอ่านมา แล้วเจอว่า...ถ้าเจาะไปแล้วเจอเส้นประสาท อาจจะตาบอดได้นะ”

หึ!..แต่มีหรือที่ผมจะใส่ใจ  ถ้าผมอยากทำเสียอย่าง ใครจะมาขัดผมได้  “น่า...ตัวเชื่อเค้าซิ รับรอง...ปลอดภัย แถมยังไม่เจ็บซักกะติ๊ดดด” ผมพูดไปยิ้มไป เพราะมันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ขนุนเข้าใจสักนิด และสถิติของคนที่ตาบอดเพราะเจาะหู มันน้อยจนแทบจะวัดเป็นเปอร์เซ็นต์ไม่ได้...ซึ่งผมก็มั่นใจว่า เราไม่น่าจะเป็นคนส่วนน้อยที่โชคร้ายขนาดนั้นหรอก

“นี่ไงฮะ เราก็นวดหูกันไป คุยกันไปเรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีก็เจาะเสร็จแล้ว”  ผมพูดพลางก็นวดติ่งหูข้างซ้ายของขนุนด้วยยาหม่องไปพลาง จนอีกฝ่ายต้องทำตามอย่างเสียไม่ได้

“ถ้าเค้าทำตัวเจ็บ อย่ามาร้องอ้อนนะ...เค้าไม่ดูดำดูดีจริงๆด้วย อยากจะดื้อเจาะเองดีนัก ฮึ!

“เค้าเชื่อว่า ตัวต้องระวังมากแน่ๆ เพราะตัวรักเค้า...ตัวต้องไม่อยากให้เค้าเจ็บ ใช่ไม๊ล่า” ผมลอยหน้าลอยตาตอบอีกคนด้วยสีหน้าทะเล้น ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องไปถามในสิ่งที่ผมอยากรู้มานานเหลือเกิน “ขนุนฮะ...ถ้าคนที่เข้ามาหาตัวเองไม่ใช่เค้า แต่เป็นคนอื่น...ตัวเองจะรักคนๆนั้น และยอมเป็นเคะให้แบบนี้ไม๊ฮะ?”

ขนุนตอบเรียบๆ “เค้าว่าไม่น่าจะได้นะ...ตัวก็เห็นอยู่ไม่ใช่เหรอ ว่าเค้าไม่สนใจใครนอกจากตัว...
.
...ทั้งๆที่ก็รู้ตัวอยู่เต็มอกอ่ะนะ  ว่าที่ตัวเข้ามาตีสนิทกับเค้า..เพราะหวังอะไรบางอย่างอยู่” แต่สีหน้าเรียบเฉยในทีแรกกลับเปลี่ยนเป็นยั่วเย้าเอาอีตอนสุดท้ายนี่แหละฮะ...ผมเสียรู้ขนุนมาโดยตลอดหรอกหรือเนี่ย????!!

อารามตกใจ ผมเลยถามอีกฝ่ายออกไปโดยไม่ไว้ฟอร์ม “เฮ๊ยยย! จริงดี้?!!! นี่ตัวรู้เหรอ?”

“ฮื่อ...ตั้งแต่แรกเลยล่ะ เค้ายังรู้อีกด้วยนะ ว่าตัวชอบเค้าน่ะ... หึ หึ ถ้าคิดจะหลอกใครจริงๆ  มันต้องเนียนๆเข้าไว้  รู้ไม๊...เจ้าหัวจุก” พูดจบ ขนุนก็ทำหน้าล้อเลียนเพื่อจะแหย่ให้ผมเสียหน้า

“ง่าาาาา  แล้วทำไมตัวถึงยอมเค้าอยู่ได้ตั้งนานล่ะฮะ?”  ผมอดถามเสียงอ่อยออกมาไม่ได้ เพราะอยากรู้ว่าอะไรเป็นอะไรกันแน่

“แรกๆ เค้าคงแค่อยากรู้ว่าตัวจะมาไม้ไหน...  อยากรู้ว่าอะไรน๊อ ที่ทำให้หนุ่มหล่อ คารมดี ลีลา หูตาแพรวพราว และมีประวัติกับสาวๆเยอะไปหมด มาสนใจในตัวคนบ้านๆอย่างเค้าได้... เค้าก็เลยเริ่มจะแอบสังเกต และเก็บข้อมูลเกี่ยวกับตัวเท่าที่จะพอหาได้ ด้วยการถามเอาจากคนอื่นๆ ไม่ก็ถามตัวโต้งๆนี่แหละ  พอรู้จักตัวมากๆเข้า...เค้าก็ชอบตัวขึ้นเรื่อยๆ...
.
...อยู่มาวันนึง เค้าก็ลองคิดเล่นๆว่า ถ้าตัวต้องกลับไปใช้ชีวิตเหมือนผู้ชายปกติ กลับไปแต่งงาน มีลูก แล้วเค้าล่ะ...จะเป็นยังไง... เมื่อนั่นแหละ เค้าถึงรู้ตัวว่า...ไอ้ความรู้สึกเจ็บแปล๊บๆข้างในหัวใจ โดยไม่อาจจะหาทางออกได้น่ะ เกิดจากความกลัวว่าเค้าจะสูญเสียตัวไป  จากเหตุการณ์ครั้งนนั้น...เค้าก็เริ่มจะรู้ใจตัวเองแล้วล่ะ ว่าเค้ารักตัว...
.
...แต่ก็ใช่ว่าอะไรๆมันจะง่ายอย่างในนิยายหรอกนะ แบบที่พอรู้ตัวว่ารักแล้ว ก็เดินเข้าไปสารภาพความรู้สึก สุดท้ายก็ครองรักกันอย่างมีความสุข... กลับกลายเป็นว่า พอเค้ารู้ว่าเค้ารักตัว เค้ายิ่งกลัวโน่นกลัวนี่อีกสารพัด...
.
...เค้ากลัวใจตัวว่าตัวจะรักเค้าจริงรึเปล่า กลัวว่าพอเรามีอะไรกันแล้ว...เซ็กส์กับเค้ามันโอเคสำหรับตัวไม๊  และที่เค้ากลัวมากที่สุด ก็คือ...ตัวจะพอใจ และมีความสุขกับการมีคู่เป็นผู้ชายได้จริงๆเหรอ เค้าก็เลยได้แต่เก็บความรู้สึกของเค้าเอาไว้ข้างใน แล้วก็เฝ้าถามตัวอ้อมไปอ้อมมาว่าตัวคิดยังไงกับเค้ากัน...
.
...จนเมื่อตัวมาบอกให้เราเป็นแฟนกันนั่นแหละ เค้าก็เริ่มจะแน่ใจขึ้นมานิดๆแล้วล่ะ ว่าตัวน่าจะคิดจริงจังกับเค้า”

“ที่แท้เราสองคนที่ก็พายเรือวนในอ่างกันอยู่ได้  ไอ้ที่ต้องมาเสียสุขภาพจิตด้วยความทรมานอยู่ตั้งนานสองนาน  มันใช่เรื่องไม๊ฮะเนี่ยะ” ผมสรุปออกไปอย่างหัวเสีย นี่ถ้ารู้ว่าขนุนคิดอะไรเร็วกว่านี้...หรือถ้าผมกล้ามากขึ้นอีกนิด เราสองคนคงจะมีความสุขกันไปนานแล้ว แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไรต่อไป ขนุนก็สำทับด้วยหมัดฮุคมาเสียก่อน

“หึ หึ...แต่จะว่าไป ก็ไม่เชิงทรมานซะทีเดียวนะ เพราะเรื่องบางเรื่อง อย่างเช่น...........จิตวิญญาณของคาสโนว่าเนี่ยะ ก็ต้องอาศัยเวลานานพอสมควร กว่าที่จะพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่า ได้สูญพันธุ์หมดจากใจตัวไปรึยัง” ...แหม่ หลังๆนี่...คำพูดของเมียแต่ละประโยค ชวนให้จุกจนสะท้านไปทั้งร่างดีแท้ๆเลยนะฮะ

ผมเลยเปลี่ยนเรื่องด้วยการเบนความสนใจของอีกคนไปที่ความาสำเร็จอย่างสวยงามของผม  “แหะ แหะ...โอ๊ะ เจาะหูตัวเสร็จพอดีเลย” ขนุนทำหน้าตกใจกับความรวดเร็วของกระบวนท่าวิทยายุทธเจาะหูไร้เทียมทานของผม พอเห็นว่าอีกคนดูจะงงน้อยลงแล้ว ผมก็ถือโอกาสใส่แป้นตุ้มหูให้อีกฝ่าย ก่อนจะยื่นตุ้มหูที่ต้องเจาะติ่งหูของผมให้เขาถือเอาไว้ แล้วพูดกระตุ้น ให้ขนุนลงมือเสียที  “เอาล่ะฮะ...ถึงตาตัวเจาะให้เค้าแล้วฮะ เจาะเข้ามาตรงๆ ทีเดียวเลยนะ”

มือเล็กๆที่สั่นเทา เอาปลายคมๆของตุ้มหูมากดเบาๆเพื่อกะตำแหน่ง ขนุนเอ่ยอย่างไม่มั่นใจเท่าไรนัก “เอาแล้วนะ เค้าจะเจาะแล้วนะ......อื้ยยยยยยยย เจ็บไม๊น็อต...ตัวเจ็บไม๊??? เค้าทำแรงไปรึเปล่า?” ผมเห็นสีหน้าของขนุนที่ทำราวกับว่ารับความเจ็บปวดทั้งหมดของผมเอาไว้เอง กับคำพูดที่คอยปลอบประโลมผมเหมือนกับคนทำเด็กเล็กๆร้องไห้จ้า แล้วก็อดขำขึ้นมาข้างในใจอย่างเลี่ยงไม่ได้...

...ไหนๆก็เจาะหูเสร็จแล้ว ลองแกล้งคนเพื่อลองใจดูเสียหน่อยจะเป็นไรไป หึ หึ

“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก!!! ผมร้องออกมาอย่างสุดเสียงราวกับใครเอามีดมาเจื๋อนกล่องดวงใจให้สะบั้นออกจากร่างก็ไม่ปาน พลางเอามือปิดหน้า แล้วดิ้นไปมา

“น็อต!!! น็อต น็อตเป็นอะไรไป?” ขนุนร้องถามออกมาอย่างตกใจ

ผมตอบอีกคนด้วยเสียงเครือๆ “ตัว...เค้าไม่น่าดื้อเลย เค้ารู้สึกเหมือนตาเค้าพร่าๆยังไงก็ไม่รู้อ่ะฮะ...” แหงล่ะสิฮะ ก็นิ้วมือผมเพิ่งจะโดนยาหม่องมา พอเอามาปิดหน้าไว้อย่างนี้ ตาผมก็ต้องพร่า เพราะโดนยาหม่องป้ายตาแบบไม่ตั้งใจไปหมาดๆนี่เอง...

...แต่นี่มันยังแค่เริ่มต้นเท่านั้น ความมันส์ต่อจากนี้ยังมีอีกเยอะ เหอ เหอ

“ขนุน...ขนุนฮะ ขนุนยังอยู่รึเปล่าฮะ?  เค้ามองอะไรไม่เห็นแล้วอ่ะฮะ” ระหว่างที่พูด ผมก็ออกท่าออกทางราวกับว่าพยายามคว้าลม พลางบังคับสายตาให้จ้องนิ่งๆไปยังอากาศเหมือนพวกดาราที่เล่นบทตาบอดตาใสในละคร

“น็อต น็อต....ไม่นะ น็อต น็อต....เค้าขอโทษ เดี๋ยวเค้าพาไปหาหมอนะ เจ็บมากไม๊?.....” เนื่องจากผมไม่ได้มองหน้าขนุนอยู่ในตอนนี้ ผมเลยบอกไม่ได้ว่าขนุนกำลังทำหน้าแบบไหนอยู่ แต่เท่าที่ฟังเสียง...เสียงเครือมากฮะ ผมว่าไม่ตกใจมากๆ ก็น่าจะเริ่มเสียขวัญจนร้องไห้นิดๆแล้วล่ะ หึ หึ...น่ารักว่ะเมียผม แม่งโคตรรัก โคตรเป็นห่วงผมเลย

ผมเลยต่อบทอันน่าสงสารนี่ทันที “หนาว...หนาวจัง  ทำไมมันมืดไปหมด... “ ...ฟังดูคุ้นๆไหมฮะ ผมจำมาจากบทของโกโบริตอนที่อังศุมาลินไปคุ้ยซากได้หลังจากโดนระเบิดไปแล้วน่ะฮะ แหม่...คนตาบอดอะไรจะมาบ่นหนาวกันล่ะฮะ  วินาทีนี้...เมียผมนี่ก็ไม่เก็ทมุขเอาเสียเล๊ยยยย... ถามจริง เคยอ่านนิยาย หรือดูหนังดูละครเรื่องคู่กรรมมาบ้างรึเปล่าเนี่ยะ?

“น็อต ปล่อยก่อน...ขนุนจะไปแต่งตัวพาน็อตไปหาหมอ” คนเสียงเครือพยายามสะบัดมือผมที่เกาะกุมข้อมือของเขาไว้อย่างแน่นหนา ดูท่าว่าจะจริงจังกับการแสดงของผมมากนะนี่...แต่ถ้าขืนปล่อยไปนานกว่านี้ เห็นว่างานจะงอกเอาได้ ผมเลยต้องรีบเฉลย ก่อนที่ขนุนจะลากผมไปโรงพยาบาลจริงๆ

ผมขืนตัว และไม่ยอมปล่อยแขนขนุนไปง่ายๆ ก่อนจะทำเสียงเลียนแบบพี่ตูน บอดี้แสลม แล้วปิดท้ายด้วยซิงเกิ้ลเปิดตัวจากอัลบั้มล่าสุด “ขนุน....น็อตจะไปรอขนุนที่เส้นขอบฟ้านะฮะ..... ♫♪จะออกไปแตะขอบฟ้า สุดท้ายแม้โชคชะตาไม่เข้าใจ ”  ผมร้องเพลงไป ก็ทำท่าเหมือนพี่ตูนตอนถ่ายทอดความหมายของบทเพลงไป จนต้องหยุดลงเอาดื้อๆ เมื่อฝ่ามือเล็กๆของเมียฟาดกระหน่ำลงตรงหน้าอกอย่างเคียดแค้น

ขนุนร้องออกมาทันทีที่เห็นผมทำหน้าเป็นใส่อีกครั้ง “น็อตบ้า!! นี่ตัวแกล้งเค้าเหรอ?” คนตัวเล็กพูดไปก็ปาดน้ำตาที่ไหลออกมาเป็นสายไป โดยไม่คิดจะปรานีหัวอกของผมที่ยังโดนฟาดแบบไม่มีเบามือ

“โอ๊ย..ฮะ ฮะ...ซี๊ดดดดส์...อูย...ฮะ ฮะ ฮะ พอแล้วฮะ ขนุน...อย่าตีฮะ โอ๊ยๆ เจ็บแล้วฮะ ไม่แกล้งแล้ว น็อตไม่แกล้งแล้วนะ” ผมร้องขอชีวิตออกมาทันที แต่ดูเหมือนขนุนจะไม่ยอมง่ายๆ จนผมต้องคว้ามือเล็กๆของขนุนเอาไว้ เพื่อหยุดการทำร้ายร่างกายสามีจนเครื่องในช้ำไปหมดเสียก่อน

“ไอ้บ้า!!! ไอ้น็อตบ้า...ใครเค้าให้แกล้งด้วยเรื่องแบบนี้กัน!!” ขนุนด่าผมออกมาอย่างเหลืออด ผมเห็นสายตาและสีหน้าของขนุนแล้วก็รู้เลยว่าตอนนี่เมียผมกำลังหัวเสียสุดๆ...

...เหยดดดด...เมียด่าเป็นครั้งแรกเลยเว้ยเฮ้ยยย ดีใจสัดๆอ้ะ  จั๊กกรู๊ววว!!

ผมเลยจัดไปอีกดอกด้วยสีหน้าระรื่น เพราะชอบใจที่แกล้งลองใจเมียได้สำเร็จ “แปลว่าถ้าแกล้งด้วยเรื่องอื่น ก็ได้ใช่ไม๊ฮะ?”  แต่ขนุนก็ไวดีเหลือเกิน เพราะมืออีกข้างที่ผมไม่ได้กุมอยู่ก็ฟาดเปรี๊ยะลงมาตรงหน้าท้องของผมเข้าอย่างจัง “อูยยย...กลัวแล้วฮะเมีย เจ็บด้วยฮะ ไม่เล่นแล้วฮะ...ใจเย็นๆนะฮะเมีย” ผมเลยต้องรวบเอามืออีกข้างมากุมเอาไว้ทั้งหมด เพื่อปลดอาวุธของอีกฝ่ายโดยสมบูรณ์

“จริงๆเลยนะ...คิดมั่งไม๊ว่า ถ้าตัวเองเกิดตาบอดขึ้นมา   คนที่เค้าห่วงจะรู้สึกยังไง...
.
...แล้วยิ่งถ้าสาเหตุที่ทำให้ตัวต้องเสียตาไปคือเค้าล่ะ...ถ้าเค้าเป็นคนพรากการมองเห็นไปจากตัวด้วยมือของเค้าเองน่ะ มันเจ็บปวดมากที่สุดเลย ตัวรู้บ้างไม๊???” เมียผมพูดไปก็ร้องไห้ไป จนผมเริ่มจะรู้สึกผิดขึ้นมาตงิดใจ สงสัยผมจะเล่นแรงไปจริงๆ และถ้าคิดอย่างที่ขนุนบอก...เป็นผม ผมก็คงจะเสียใจมากที่สุดในชีวิตเหมือนกัน ถ้าเราแค่เจาะหูกันเฉยๆ แต่เรื่องมันดันมาลงเอยที่ผมทำเมียตาบอด

ผมเลยรวบร่างบางที่นั่งอยู่บนตัวผมมากอดเอาไว้ ก่อนสารภาพความผิด แล้วจึงปลอบคนดีของผมที่กำลังร้องไห้กระซิก กระซิกจนวุ่นวายไปหมด  “โอ๋ โอ๋...ไม่แกล้งแล้วนะฮะ เค้าไม่แกล้งแล้ว เต่เต๊ หยุดร้องน้า...
.
...เค้าก็แค่อยากรู้ว่า ตัวเองจะทำยังไง ถ้าเค้าเป็นอะไรไป เค้าไม่ทันคิดว่ามันจะทำให้ตัวต้องรู้สึกแย่น่ะฮะ เค้าขอโทษน้า...ขวัญเอ๊ย ขวัญมา หายแล้วนะ เพี้ยง เพี้ยง”

ขนุนปาดน้ำตา น้ำมูกด้วยหลังมือ แล้วถลึงตาใส่พลางพูดด้วยน้ำเสียงดุๆ “ตัวจำเอาไว้เลยนะ ว่าห้ามตัวทำอะไรแบบนี้อีกเด็ดขาด รวมทั้งเรื่องต่อยตี ใช้กำลัง หรือวู่วามทำอะไรคนอื่นโดยที่ไม่รู้ที่มาที่ไปอย่างถ่องแท้ซะก่อน อย่างเรื่องที่ตัวทำกับน้องช็อปเมื่อตอนบ่ายวันนี้เนี่ยะ ห้ามทำอีกต่อไปแล้วนะ...เค้าไม่ชอบ” หางเสียงเล็กสะบัดอย่างไม่พอใจ พร้อมๆกับใบหน้าบึ้งๆเหมือนเด็กงอนกันหลังจากแย่งของเล่น ซึ่งเจ้าตัวเพิ่งจะยอมเผยให้ผมเห็นเป็นครั้งแรก...รู้ทั้งรู้ว่าขนุนกำลังโกรธ...แต่ผมกลับห้ามตัวเองไม่ให้ชอบใจใบหน้าน่ารักๆของขนุนตอนที่พยายามทำท่าดุใส่ผมแบบเมื่อกี๊นี้ได้จริงๆ...คนอะไรจะน่ารักได้แม่งทุกตอน ทุกตรงอย่างนี้กันว้า โคตรชอบเลยอ้ะ!!!

ถึงอย่างนั้น สมองผมกลับสั่งการให้ผมตอบโต้อีกคนออกไปทันที หลังจากได้ยินชื่อของไอ้เด็กเหี้ยออกมาจากปากเมีย จนพลอยทำให้หางตาขวาของผมกระตุกขึ้นมาจนได้ “แต่เรื่องไอ้ช็อปมันคนละเรื่องกันนะฮะ มันตั้งใจหาโอกาสแต๊ะอั๋งตัว หาเรื่องเข้าใกล้ตัว มันตั้งใจจะมาแย่งตัวไปจากเค้า... เค้าก็ต้องจัดการกับมันซิฮะ”

ขนุนถอนหายใจหนักๆ แล้วพูดช้าๆชัดๆ แบบที่เขามักจะทำเวลาที่ต้องการอธิบายบางอย่างที่สำคัญให้ผมเข้าใจ “น็อต...ตัวฟังเค้าให้ดีๆนะ...
.
...ตั้งแต่เล็กๆ เค้าสังเกตตัวเองแล้วก็รู้ว่า เค้าไม่สามารถอะไรทำหลายๆอย่างพร้อมๆกัน แล้วไปรอดได้ซักอย่าง...
...พอรู้อย่างนั้น  เมื่อเค้าค้นพบว่า เค้ารักเค้าชอบอะไร...เค้าจะอุทิศทุกสิ่งที่เค้ามี เพื่อทำมันออกมาให้ดีที่สุดไปทีละอย่าง ทีละอย่าง โดยไม่สนว่า ใครจะวิ่งแซงหน้าเค้าเข้าเส้นชัยไปถึงไหนๆ...
.
.
...เค้าคือคนแบบนั้น...
...และเค้าก็ยึดถือแนวทางนี้ ในการลงมือทำทุกๆอย่างในชีวิต...ไม่เว้นแม้เรื่องความรัก...
.
...นั่นก็หมายความว่า เมื่อเค้ารักตัว เค้าก็จะทุ่มเททุกอย่างที่เค้ามี ให้ตัวเพียงคนเดียวเท่านั้น และจะไม่มีวันที่เค้าจะเปลี่ยนใจ หรือคิดไปมีใครใหม่อย่างแน่นอน...
...ดังนั้น...เค้าเลยจะขอให้ตัวจงมั่นใจได้ว่า ไม่มีทางที่เค้าจะรักใครคนอื่นได้นอกจากตัวอีกต่อไปแล้ว  มันเลยไม่มีประโยชน์อะไร ที่ตัวต้องวิ่งไล่หึงหวงเค้าอย่างกับหมาบ้าเหมือนอย่างเมื่อกลางวันนี้...ตัวเข้าใจเค้าใช่ใม๊?”

สิ่งที่ขนุนบอกผมมันทำให้ผมซึ้งมากนะฮะ...ถึงอย่างนั้น มันก็ไม่ได้หมายความว่า คนอื่นที่เข้ามามันจะถอดใจไปจากขนุนง่ายๆ แม้จะรู้ว่าเจ้าตัวจะไม่มีทางหวั่นไหวเสียหน่อยนี่หว่า  ผมเลยต้องขอค้านดูเสียหน่อย  “แต่...

ซึ่งก็ไม่ได้ผลแต่อย่างใดฮะ เพราะคุณเมียก็ปาดหน้าเค้กเข้ามาทันใด “ไม่มีแต่... เค้าอยากให้ตัวคิดถึงใจเค้าบ้าง... ต่อจากนี้ไป ตัวช่วยคิดถึงหัวอกของคนที่รักตัวมากๆอย่างเค้าหน่อยได้ไม๊...
.
...เวลาที่ตัวเที่ยวไปหาเรื่องใครต่อใคร ไม่ใช่แค่ฝ่ายนั้นที่เจ็บหรอกนะ  ตัวเองก็เจ็บไม่ต่างกันไม่ใช่เหรอ??...
...ตอนที่ตัวเตะ ตัวต่อยคนอื่น...มือตัว ขาตัว ร่างกายตัวที่กระแทกเข้ากับร่างกายของอีกฝ่าย ก็เจ๊บไม่แพ้กันใช่ไม๊??
...แต่หัวใจของคนยืนดูอยู่ข้างสนามอย่างเค้านี่สิ  ที่เจ็บกว่าเป็นร้อยเท่าพันเท่า... ตัวลองคิดกลับกันดูซิว่า ถ้าเป็นเค้าที่ต้องมาเจ็บตัวแบบนี้ ตัวจะทนได้ไม๊?”

สุดท้าย เมื่อจนต่อเหตุผลของเมีย ผมก็ยอมรับอย่างไม่มีข้อแม้และเงื่อนไข “เข้าใจแล้วฮะ...เอาเป็นว่า  เค้าจะพยายามควบคุมตัวเองแล้วกันนะฮะ เพราะเค้าคงให้สัญญาไม่ได้ว่า จะไม่ใช้กำลังอีกต่อไป เพราะบางเรื่อง การใช้กำปั้น ก็จัดการได้ง่ายกว่า...จากนี้ไป เค้าจะตั้งสติ ไม่หึงพร่ำเพรื่อ และจะหัดเชื่อใจของตัวให้มากกว่านี้”

 “ขอบคุณนะที่ตัวเข้าใจเค้า” ในที่สุดเมียผมก็ยอมยิ้มให้ผมเสียที หลังจากเสียน้ำตา และน้ำลายสวดผมเสียยับเยินไปเมื่อครู่

“ไม่ต้องขอบคุณเค้าหรอกฮะ เค้าต่างหาก ที่ต้องขอบคุณตัว เพราะถ้าตัวไม่พูดกับเค้าแบบเมื่อกี๊ เค้าคงไม่เข้าใจสิ่งที่คุณบี๋ พยายามขอเค้ามาโดยตลอดได้แน่ๆ... การที่เค้าได้รักตัว มันทำให้เค้าเข้าใจความกลัวที่จะสูญเสียได้เป็นอย่างดี  เค้าเองก็ไม่อยากให้ตัว ต้องมาเสียใจ เวลาที่เห็นเค้าเจ็บตัวด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องเหมือนกัน”

แม้ผมจะพูดไปแบบนั้น และแม้ผมจะคล้อยตามเหตุผลของขนุน  แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ผมจะรามือไปจากวงการหรอกนะฮะ... อย่าให้ได้รู้ว่าใครแม่งจ้องจะตีท้ายครัวของผมทีเดียว...ผมแอบจัดแมทช์กำปั้นกระชับมิตรลับหลังเมียแน่ๆ...

...ซึ่งไอ้ตัวผู้รายแรกที่ผมจะประเดิมกระซวกหน้าอย่างยินดีปรีดา คงไม่พ้นไอ้เหี้ยช็อป  ไม่ก็ไอ้เหี้ยเจี๊ยวชัวร์ๆ เพราะในสายตาผม  ไอ้สองตัวนี้ถือว่าท็อปฟอร์มสุดแล้วล่ะฮะ

ขนุนยิ้มหวานแล้วพูดชมผมออกมาทันที “นี่ก็อีกเหตุผล...ที่ทำให้เค้ารักตัว   เพราะแม้ตัวจะเป็นคนใจร้อน และใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง แต่ตัวก็เป็นคนมีเหตุผลมากพอ... 
.
...เวลาเรามีเรื่องไม่เข้าใจกัน...แค่ต่างคนต่างฝ่าย ยกเอาเหตุผลขึ้นมาพูดคุย...
...ตัวก็พร้อมจะเปิดใจยอมรับ และทำความเข้าใจกับเหตุผลของเค้าได้โดยไม่คิดจะทักท้วง หรือต่อต้าน”

ผมยิ้มตอบ แล้วพูดอย่างทีเล่นที่จริง “แต่เค้าว่าไม่ใช่นะ...จริงๆแล้ว เค้าว่า...เค้าน่ะเป็นคนไม่มีเหตุผลหรอก... “ ขนุนส่ายหน้าป้อยคล้ายกับจะเถียง แต่เจ้าตัวกลับต้องเปลี่ยนสีหน้าทันที เมื่อได้ยินประโยคไฮไลท์ปิดท้ายของผม
.
...เค้าไม่มีเหตุผลอะไรเลย...ที่จะไม่รักตัวน่ะ”

“อึ๋ยยย...เลี่ยน!” แม้คำพูดจะสื่อว่าเจ้าตัวรับไม่ได้ แต่ไอ้ใบหน้าที่พยายามกลั้นยิ้มนี่สิฮะ ที่แบไต๋ได้ว่า คนฟังชอบอกชอบใจกับสิ่งที่ผมพูดมากแค่ไหน

 “ถ้าตัวคิดจะบอกว่าเลี่ยน ซ่อนรอยยิ้มให้เนียน ก็น่าจะดีนะฮะ..หึ หึ” ผมเลยหยอดไปให้อีกดอก ตามความสำเร็จที่เห็นตรงหน้างาน

“บ้า! ขนุนสวนออกมาอย่างอายๆ เพราะว่าโดนผมจับได้ว่าจริงๆก็ชอบที่ผมเล่นมุขเสี่ยวๆหยอดไปเมื่อครู่อยู่ไม่เบา 

แต่ถ้าจะให้ดี...ผมต้องทำให้เมียอายม้วนต้วน เป็นทองม้วนสดเสียให้ได้ ผมเลยชะโงกหน้าเข้าไปใกล้หน้าเล็กๆของเมีย จนอีกฝ่ายผงะถอยหลัง แล้วถามออกมา พลางยักคิ้วท้าทาย “บ้าแล้วรักป่ะ?”

คนร่างเล็กที่นั่งนิ่งอยู่บนตัวผมพยักหน้าที่เม้มปากแน่นให้อย่างช้าๆ แล้วก้มหน้าก้มตาหลบจนคางจะฝังเข้าหน้าอกทิ่มทะลุปอดไปแล้วล่ะมั้ง

ผมเลยทำดัดเสียงประหลาดๆ แล้วพูดให้ฟังตลกๆ “วะฮะฮะฮ่า ข้าเป็นสัตว์ประหลาดไอ้บ้าแมน ผู้มีกระปู๋ลำเท่าแขนเป็นอาวุธ....ข้าอยากจะรุกรานบ้านเมืองของเจ้า เอาประตูเมืองของเจ้ามาให้ข้าถล่มซะเดี๋ยวนี้ เคี๊ยก เคี๊ยก กรั่ก กรั่ก กรั่ก” พูดจบผมก็จับเอวเล็กๆของขนุนเอาไว้มั่น แล้วใช้มือข้างหนึ่งจิ้มเบาๆตรงเนื้ออ่อนด้านหลังเอว ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้อีกฝ่ายทั้งดิ้นและหัวเราะได้พร้อมๆกัน

“ฮะ ฮะ ฮะ ฮะ....น็อต.... เค้าจั๊กจี๋” ขนุนเอนตัวเข้ามาหาอกผมแล้วดิ้นดุ๊กดิ๊กไปมาพลางหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างน่ารักน่าใคร่

“เจ้ากำลังพูดกับใคร...น็อตไหน ข้าคือไอ้บ้าแมนนนนนน” ผมตอบโดยที่ไม่ยอมปล่อยมือไปจากเอวของอีกฝ่าย และไม่หลุดบทบาท

เสียงเล็กๆที่สั่นเพราะหัวเราะจนตัวโยน ร้องขอชีวิตออกมาทันที “ไอ้บ้าแมน ปล่อยน้าาาาาาาา ฮ่ะ ฮะ ฮะ ฮ่า”




อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้นกันเหรอฮะ...
...แหม่ ก็จะอะไรล่ะฮะ ถ้าไม่ใช่...ไอ้บ้าแมนได้เอากระปู๋ลำเท่าแขน กระทุ้งเข้าประตูเมืองแน่นๆของขนุนจนพรุนไปทั้งคืนน่ะสิฮะ...ถามได้ เคี๊ยก กรั่ก กรั่ก




๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐



2 comments:

  1. อ๊ากกกกก ขนุนจะยั่วไปถึงไหนนนนน 55555 แต่น็อตก็ชอบนี่เนอะ
    ในที่สุดขนุนก็เปิดเผยตัวตนแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ ไม่ได้มีแค่น็อตนะที่มีความลับ ขนุนก็มีเหมือนกัน น่ารักอ่าาาา

    มะลิจ้า เขาเม้นเมื่อตอนที่แล้วอ่ะ มันไม่ขึ้นใช่ไหม มันเกิดอะไรขึ้น? งืออออ แต่ช่างมันเถอะ หวังว่าเม้นของตอนนี้จะขึ้นนะ นี่ๆๆ วันนี้พี่ข้างบ้านทำข้าวมันไก่เลี้ยงล่ะ อร่อยมากกกกก น้ำจิ้มแซ่บ สุดยอดเลยล่ะ อ่าาาา! ความสุขของนาราคืดการกิน ฮ่าๆๆๆ บ้าไปแล้ว วันนี้ที่บ้านเราอากาศดีมากเลยนะ แดดออกและลมเย็นดี ชอบๆๆๆ

    มะลิรักษาสุขภาพด้วยนะ

    เลิฟมะลินะ เชิฟๆๆ

    ReplyDelete
  2. เห? ขนุนไปยั่วตอนไหนเหรอคะ...พระน้องนางออกจะทำตัวน่ารักและเป็นธรรมชาติ ไม่ได้ย่งไม่ได้ยั่วแต่อย่างใดเลยนะคะ วะฮ่าๆๆๆ (หัวเราะแบบนางมารสุดๆ) ขอบคุณนะคะที่ชอบ ^ ^

    เม้นที่แล้วไม่ขึ้นค่ะ มะลิเลยไม่รู้ว่าคุณนารามาตอบอะไรเอาไว้...แอบใจหายและเป็นห่วงนิดๆ คิดว่าป่วย หรือ หายไปสอบโดยที่มะลิไม่ได้ลุ้นให้อ่านหนังสือหรือเปล่า เสียดายที่ไม่ได้อ่านเม้นที่แล้วนะคะ แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะเม้นนี้มาถึงมะลิได้อย่างสมบูรณ์แล้วค่า ^___^

    อืมม...ดีจังที่มีคนทำข้าวมันไก่ให้กิน แถมยังอร่อยอีกตังหาก...นี่ถ้ามีพี่ข้างบ้านมาทำให้กินมั่ง สงสัยมะลิต้องฟินตัวแตกแหงๆ ฮ่าๆๆๆๆ แต่มะลิทำกับข้าวอร่อยนะคะ โดยเฉพาะอาหารจานไข่ที่ชอบกินมากๆ (เหอๆๆๆๆ พูดเหมือนตัวเองทำกับข้าวได้มากมาย ฮ่าๆๆๆๆ) สงสัยเราสองคนนี่จะเมาท์กันได้ยาวแล้วล่ะค่ะ เพราะว่าชอบกินเหมือนกัน วะฺฮ่าๆๆๆๆ (มะลินี่แพ้พวกขนมอบค่ะ เจอเป็นไม่ได้ ต้องวิ่งเข้าใส่ตลอด...อย่างน้อยๆก็ขอให้ได้เกาะตู้ดูก็ยังดี เหอๆๆๆ...อารมณ์เหมือนพวกโรคจิตบ้าเค้กอยู่เหมือนกันนะคะ)

    ขอให้อากาศดีอย่างที่คุณนาราชอบทุกๆวันนะคะ เพราะเท่าที่อ่านจากคุณนาราเขียน ดูเหมือนคุณนาราจะแฮปปี้มาก...อยากให้คุณนารามีความสุขค่ะ ^^

    รักษาสุขภาพเหมือนกันนะคะ
    รักคุณนาราค่ะ เชิฟๆ

    ReplyDelete