Friday, November 14, 2014

เขาวานให้ผมเป็น 'สายรับ' (เคคู่ผู้รู้รอบฯ) : บทรุกที่ 29: มัดมือชก



บทรุกที่ 29: มัดมือชก
(มัดมือชก : บังคับหรือใช้วิธีการใด ๆ ให้อีกฝ่ายหนึ่งตกอยู่ในภาวะจำยอมโดยไม่มีทางต่อสู้)




ผมเดินกระแทกเท้าลงบันไดลงมาทันที เมื่อได้ยินเสียงกริ่งหน้าบ้านดังติดๆกันอยู่หลายครั้ง...
...ไม่ต้องบอกก็รู้ใช่ไหมฮะว่าผมกำลังหงุดหงิดสัดๆ...    
...ก็แหงล่ะฮะ  เพราะก่อนเดินอย่างเดือดดาลลงบันไดมานี่  ผมแอบแหวกม่านส่องดูจนรู้ซึ้งถึงทรวงในแล้วอย่างไรล่ะฮะว่า ไอ้สิ่งมีชีวิตซึ่งไม่เป็นที่ต้องการที่กำลังกดกริ่งหน้าบ้านผมอย่างไร้มารยาท ราวกับไม่เคยเห็นกริ่งไฟฟ้าหน้าบ้านคนอื่นมาก่อนในชีวิตนี่น่ะ แม่งเป็นใคร...
.
.
...มันคือ ไอ้เห็บหมาณัธยังไงล่ะฮะ...
...แล้วแม่งก็เสือกโผล่มาที่หน้าบ้านผม ตั้งแต่ยังไม่เที่ยง...  
...ซึ่งนั่นก็หมายความว่า...ไอ้เห็บหมา มันมาทำลายความสุขในการนอนของผมกับขนุนเสียสิ้นซาก ทั้งที่เราสองคนเพิ่งได้นอนไปเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น...

...ถ้าจะบอกว่ามาหาพี่กานต์  ผมก็เข้าใจ และแน่ใจด้วยว่า มันคือเหตุผลหลักของการมาเยือนในครั้งนี้  แต่ไอ้เห็บหมาคงตรัสรู้ได้ว่า แม่งต้องแดกแห้วเป็นที่แน่นอนแล้ว เพราะที่บ้านพี่กานต์เวลานี้  ไม่มีสัญญาณหรือร่องรอยของสิ่งมีชีวิตใดๆปรากฏอยู่ ภายหลังจากเจ้าตัวได้ย้ายมาอยู่บ้านผมชั่วคราวราวสามอาทิตย์ได้   ยิ่งไปกว่านั้น...วันนี้เจ้าตัวพาพี่ปีย์ออกไปตรวจร่างกายครั้งสุดท้ายที่คลินิกของคุณเน็ตตั้งแต่เมื่อเช้า  

นั่นจึงทำให้เหลือเพียงเหตุผลเดียว ที่ทำให้ไอ้เห็บหมาเหิมเกริมเสียจน มีน้ำหน้ามากดกริ่งรังควาญบ้านคนอื่นที่ไม่ใช้เป้าหมายหลักของแม่งได้อย่างหน้าด้านๆแบบนี้...โดยที่เหตุผลของมัน คงหนีไม่พ้นไปจาก...ขนุนของผมนั่นเอง


ผมเดินหน้าเป็นหมาหิวข้าวมาหลายวัน ที่กำลังขู่ไล่หมาอีกตัวซึ่งจ้องจะแย่งกระดูกชิ้นโตหอมหวานที่เพิ่งจะขโมยจากถังขยะของร้านอาหารมาได้อย่างสดๆร้อนๆออกมาจากบ้าน  ก่อนจะถามไอ้เห็บหมาออกไปอย่างสั้นๆ โดยไม่คิดจะแสดงความอ่อนน้อมถ่อมตนใดๆ ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่า ไอ้เห็บหมาแม่งน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับพี่กานต์ไม่ก็พี่ปีย์แน่ๆ  “คุณมาทำอะไรที่นี่?”

ไอ้เห็บหมายิ้มออกมาอย่างเป็นมิตรเมื่อเห็นหน้าผม มันพูดด้วยน้ำเสียงเบิกบานที่ได้รู้ว่า อย่างน้อยๆการมาที่นี่วันนี้ ก็ไม่เสียเที่ยวเสียทีเดียว  “อ้าว...ไอ้น้องนี่เอง พี่มาหาคุณขนุนน่ะ”

แหม่...ไอ้เห็บหมานี่ก็เปิดเกมรุกอย่างรวดเร็วเชียวนะมึง  ได้ข่าวว่ามึงเป็นทีมเยือน  บุกเข้ามาในถิ่นของเจ้าบ้านอย่างผมแบบหัวเดียวกระเทียมลีบ แล้วมันยังจะกล้ามาวอแวกับเมียของเจ้าบ้านหน้าตาเฉยอยู่อีกนะ...

...หึ หึ สงสัยไม่แคล้ววันนี้ มึงจะได้ถูกบี้ท้องแตกชะตาขาดนอนชักกระแด่วๆอยู่ที่นี่แล้วล่ะว่ะไอ้เห็บหมา 

ผมตอบห้วนๆ ด้วยสีหน้าหาเรื่องอย่างที่สุด “ขนุนไม่อยู่...
.
.
...อ้อ แล้วจะบอกอะไรให้นะว่า ขนุนน่ะแฟนผม อีกอย่าง...ผมไม่มีพี่ชายหม้อๆอย่างคุณ”   

นับว่าไอ้เห็บหมายังโชคดี ที่ผมฝืนทำตัวสุภาพรักษาหน้าเพื่อนบ้านอย่างพี่กานต์ผู้มีศักดิ์เป็นพี่สะใภ้ต่างสายเลือด  โดยไม่หลุดมึงวาพาโวย เหมือนทุกครั้งที่ฟิวส์ขาด อย่างตอนที่ต้องปะทะคารมกับไอ้เหี้ยเจี๊ยวเมื่อหลายวันก่อน   เพราะผมมั่นใจว่า ถ้าผมเผลอขึ้นมึงขึ้นกูกับอ้ายอีหน้าไหนเมื่อไร...ไอ้บรรดาถ้อยคำหวานหูเสียดรูทั้งหลาย แม่งจะเข้าไปช่วยเร่งปฏิกิริยาอะไรสักอย่างในร่างกาย ส่งผลให้ขาดการควบคุม จนลุกลามไปถึงการวางมวยได้เร็วยิ่งขึ้นเท่านั้น

ไอ้เห็บหมาทำหน้าเสียดายสุดๆเมื่อได้ยินสิ่งที่ผมเพิ่งบอกออกไป “ว๊า คุณขนุนมีแฟนแล้วหรอกเหรอ... น่าเสียดายจังนะ  แต่ก็ไม่เป็นไร”  อืมม...แสดงว่าผมตัดสินใจถูก ที่เลือกเชื่อสัญชาตญาณของตัวเอง...

...ผมเดาว่าไอ้เห็บหมามันจะไม่ยุ่งกับใครที่มีเจ้าของ เพราะเท่าที่อ่านประวัติของแม่งในแฟ้มงานของพี่กานต์ ไอ้เห็บหมามันหายไปจากชีวิตพี่กานต์ทันทีที่พี่กานต์บอกมันว่าพี่กานต์มีแฟนแล้ว... และก็จริงดังคาด  

หึ หึ...ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าไอ้คนเอาไม่เลือก และหน้าหม้ออย่างไอ้เหี้ยณัธแม่งจะยังพอมีคุณธรรมอยู่บ้าง...
...แต่แล้ว ไอ้เห็บหมาก็ปล่อยให้ผมชื่นชมในความดีที่เหลือน้อยของมันเพียงไม่นาน เพราะพอหลังจากที่มันตั้งสติเรื่องขนุนได้ มันก็ออกตัวตั้งท่าจะดีดร่างกลับไปเกาะที่เป้าหมายอีกคนทันที...

” เออ ว่าแต่ กานต์ยังไม่กลับบ้านเหรอ?” สงสัยว่าหัวใจ และสมองของแม่งจะสับสวิตช์เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้อย่างทันทีล่ะมั้งเนี่ยะ ถึงได้ไม่มีทีท่าเศร้าโศกอะไรนานนัก แถมยังร่าเริง และดูมีกำลังใจในการต้องวกกลับมาหาเป้าหมายเดิมอย่างเต็มเปี่ยม ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้อีกด้วย

ผมถึงกับอึ้งไป แต่ก็ตอบคำถามมันตามที่หมั่นบอกกับตัวเองเอาไว้ หากมีคนแปลกหน้า รวมทั้งพวกหน้าแปลกมาด้อมๆมองๆถามถึงพี่กานต์เอาแถวๆบ้าน “...พี่กานต์ไม่กลับบ้านมาหลายอาทิตย์แล้ว ไม่รู้ไปไหน”

ไอ้เห็บหมายิ้มน้อยๆเหมือนกับปลอบใจตัวเอง แล้วพูดสั้นๆ ก่อนออกเดินไปทันที“ไม่เป็นไรๆ เอาไว้ผมจะมาใหม่ก็แล้วกัน”

ผมมองตามแผ่นหลังของไอ้เห็บหมาที่เดินกลับไปที่รถอย่างปลงๆ ทั้งที่ในใจนี่อยากจะบอกกับมันเต็มเหนี่ยวว่า มึงไม่ต้องกลับมาบ่อยๆหรอก ที่นี่ไม่มีใครต้อนรับแต่เรื่องแบบนี้ เสียงของคนนอกอย่างผม...คงจะดังไม่พอที่จะบอกให้คนดื้อด้าน ชอบการเอาชนะอย่างแม่ง ให้ตื่นจากความฝันลมๆแล้งๆ และทำความเข้าใจกับเรื่องจริงรอบๆตัวได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องลงไม้ลงมือกันแน่ๆ เพราะฉะนั้น...กรรมใครกรรมมัน สุดแล้วแต่บุญพาวาสนาส่งแล้วกันฮะ


ยังไม่ทันที่เท้าของผมจะแตะพื้นกระเบื้องด้านในบ้าน  มือถือของผมก็ดังขึ้นเพื่อบอกให้รู้ว่ามีคนโทรหา ผมควักมือถือออกมาแล้วก็ต้องแปลกใจ เพราะชื่อที่ปรากฏตรงหน้าจอ...คือชื่อของไอ้เหี้ยเฟี๊ยต เพื่อนเที่ยวก๊วนสุสานรถของผม ที่นานๆจะโทรหาผมสักครั้ง... และโดยมาก จะเป็นเรื่องของสาวๆแทบทั้งสิ้น ซึ่งนั่นทำให้เรื่องทั้งหมดยิ่งดูแปลก...เพราะเวลานี้ ผมเลิกข้องแวะกับสาวๆคนไหนอย่างสิ้นเชิง โดยที่พวกมันทั้งสามคนต่างรู้ดี


ผมรับสายด้วยน้ำเสียงสงสัยมากกว่าแปลกใจ “เออ ว่าไงวะมึง”

และเมื่อได้ยินเสียงหวั่นใจของไอ้คนปลายสายที่ส่งกลับมา ก็ยิ่งทำให้ผมชักจะรู้สึกทะแม่งๆ “เฮ๊ยเสี่ย...คือกู...”

“คือ..มึงอะไร?” ผมถามออกไปทันที... ไอ้เสียงอ้ำๆอึ้งๆอย่างนี้ แม่งต้องเป็นเรื่องไม่ชอบมาพากลแหงๆ  ยังไม่ทันที่ไอ้เฟี๊ยตจะตอบอะไรออกมา ตาขวาของผมก็กระตุกตุ๊บๆเป็นจังหวะเทคโนแดนซ์อย่างไม่บอกไม่กล่าว...เอ๊ะ! ยังไง??!!

ไอ้เฟี๊ยตบอกปัดแบบครึ่งๆกลางๆไม่เต็มเสียงนัก “แหะ แหะ ไม่อะไรหรอกมึง...
.
.
......คือ...กู   เอ่อ....กูมีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือของมึงหน่อยว่ะ” ทันทีที่ไอ้เฟี๊ยตพูดจบ ตาขวาที่กระตุกอยู่แล้ว ยิ่งเต้นหนักไปกันใหญ่...แน่แล้ว งานงอกแน่ๆแล้วล่ะฮะ!!!

ด้วยความรำคาญกับอาการป๊อดแดกของเพื่อน ที่เสือกมาฟีทเจอริ่งเข้ากับการกระตุกของเปลือกตาโดยไม่ได้รับเชิญ ผมเลยขอจวกไอ้คนปลายสาย เพื่อช่วยกระตุ้นให้แม่งคายดอกพิกุลออกจากปากได้เสียที “ไอ้เหี้ยเฟี๊ยต...นี่มึงเป็นอะไรมากป่ะวะ? คบกันมาตั้งกี่ปี แดกเหล้าเมาเป็นหมากันมาตั้งกี่หน  กูก็ไม่เคยเห็นมึงเหนียมอย่างงี้มาก่อน  มีอะไรก็รีบพูดๆมาดิวะ...อิ๊อ๊ะๆยั๊งกะจะมาขอลูกสาวกูอย่างงั้นแหละ”

“โธ่มึงก็...เรื่องนี้มันพูดยากนะเว่ย!! ไอ้เพื่อนขาหม้อของผมพ้อออกมาเบาๆ

ผมพยามยามช่วยมัน ด้วยการยกตัวอย่างเรื่องที่น่าจะทำให้เราหนักใจ หากต้องโทรหาใครสักคน เพื่อขอความช่วยเหลือ “จะยากอะไรนักหนาวะสัด! หรือว่ามึงจะขอยื้มเงินกูงะ?”

ปลายสายปฏิเสธออกมาทันที พร้อมกับพูดในสิ่งที่ผมสงสัยอยู่ในใจอย่างตงิดๆตั้งแต่แรกที่ผมได้ยินเสียงไอ้เฟี๊ยตตอนกลางวันแสกๆ ทั้งที่โดยปกติ ผมกับมัน แทบไม่ค่อยได้ติดต่ออะไรกันมากนัก “เปล่าๆๆๆๆๆ ไม่ใช่เรื่องเงิน เอ่อ...คือ...กู...อยากได้เบอร์เพื่อนมึงที่มึงพามากินข้าวด้วยกันวันนั้นว่ะ ขอเบอร์เค้าให้กูหน่อยได้ป่ะวะ?”

เมื่อได้ยินสิ่งที่เพื่อนพูดออกมา ผมก็ได้แต่ภาวนาในใจว่า อย่าให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ผมกังวลเอาไว้เลย ผมจึงออกปากถามอีกฝ่ายเพื่อความแน่ใจก่อนจะฟันธง “มึงจะเอาเบอร์เค้าไปทำไมวะ?”

ไอ้เฟี๊ยตพูดเสียงเบา...แต่ก็ดังพอที่จะกระแทกใจผมเข้าอย่างจัง “กูจะพูดไงดีอ่ะ... คือ...กูว่า กูน่าจะชอบเค้าว่ะ”

“ห๊ะ????!!  ไหนมึงพูดใหม่อีกทีซิ”...ผมหลุดปากออกไปทันที เมื่อสมองผมเข้าใจสิ่งที่เพื่อนต้องการจะสื่อได้อย่างแจ่มแจ้งในท้ายที่สุด...  หึ หึ ไอ้อาการตากระตุกนี่ แม่งต้องมาพร้อมกับเรื่องไม่น่าพึงประสงค์เสียทุกครั้งไปเลยสิน่า แล้วอย่างนี้...ผมจะบอกเรื่องระหว่างผมกับขนุนให้มันรู้อย่างไรดี???!!

เมื่อโล่งอกไปเปลาะหนึ่ง ไอ้เฟี๊ยตก็เอาใหญ่  “เออ...ก็อย่างที่มึงเข้าใจน่ะไม่ผิดหรอกเว่ยไอ้เสี่ย  กูว่า กูชอบเค้าว่ะ...คือ มึงก็ตกใจเหมือนกูช่ะ ที่ได้ยินกูพูดอย่างงี้...ตอนแรก กูก็พยายามบอกตัวเองอยู่ตลอดนะเว่ย ว่าเค้าเป็นผู้ชาย แล้วกูก็ชอบผู้หญิง...ไม่สิ ต้องบอกว่ากูน่ะ ฟันแต่ผู้หญิงมานับไม่ถ้วน แถมยังมีแฟนเป็นผู้หญิงมาตั้งแต่เริ่มไข่ตั้ง เอ๊ย!! ตั้งไข่ ...
.
...แต่ไอ้น็อต มึงรู้ป่ะ...ตั้งแต่วันนั้น ที่กูเจอเค้าในห้องน้ำอ่ะ...กูลืมเค้าไม่ได้เลยว่ะ... 
...ทุกๆคืนที่กูหิ้วหญิงกลับไปนอนด้วยอ่ะ กูเห็นหน้าผู้หญิงพวกนั้นเป็นหน้าเค้าตลอดเวลาเลยว่ะ...
.
.
...ตลอดหลายอาทิตย์ที่ผ่านมา กูแม่งโคตรทรมาน เพราะอยากเจอหน้าเค้าสุดๆไปเลยอ่ะ...
...กูว่า ระหว่างเค้ากับกูน่ะ แม่งต้องเป็นพรหมลิขิตแหงๆเลยว่ะไอ้น็อต...
...มึงจะว่ากูบ้าก็ได้นะ แต่แม่งต้องใช่อย่างที่กูคิดอ่ะ คือ...ถ้าเป็นเค้าคนนั้น  กูแม่ง...ยอมเป็นเกย์จริงๆว่ะ”

“นี่มึงเป็นเอามากเลยนะเนี่ยะ” ผมกำลังซื้อเวลา เพราะลังเลใจว่า จะบอกเพื่อนไปตรงๆ หรือจะเลี่ยงไม่ตอบมันดี

แต่ทันทีที่ไอ้เฟี๊ยตพูดประโยคนี้ออกมา ก็ทำให้ผมตัดสินใจได้ทันที “เออ...กูรู้ กูเลยโทรมาเพื่อขอเบอร์เค้าจากมึงนี่ยังไงล่ะ  นะเสี่ย ช่วยกูหน่อยเหอะวะ ถือว่าเห็นแก่ความสุขของเพื่อน”

...ใช่ ถ้าเพื่อความสุขของเพื่อน และเพื่อความสุขของตัวผม ผมคงต้องบอกอีกฝ่ายไปตามตรงแล้วล่ะ  “โทษทีว่ะ...กูคงช่วยมึงไม่ได้จริงๆ”

แม้ว่าไอ้เฟี๊ยตจะถามสวนกลับมาทันที...แต่ฟังจากน้ำเสียงของมันแล้ว ผมก็รู้เลยว่า เพื่อนผมมันต้องเข้าใจความหมายของประโยคที่ผมเพิ่งบอกไปแน่ๆ  “ทำไมวะเสี่ย? ทุกทีเรื่องพวกนี้มึงเต็มใจช่วยพวกกูอยู่แล้วนี่หว่า...หรือว่า...

ในที่สุด...ผมก็ต้องพูดออกไปจริงๆ “เออ...เค้าเป็นแฟนกู คนนี้กูรักของกูว่ะ”  เพราะผมเชื่อว่า หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ แล้วทุกๆฝ่ายแสดงเจตนารมย์ และจุดยืนของตัวเองออกมาอย่างชัดเจนตั้งแต่ต้น ถึงมันจะทำให้เพื่อนผมรู้สึกแย่ แต่มันจะดีกับเราทุกคนมากกว่าต้องกล้ำกลืนกับความไม่โปร่งใสในภายหลัง    
.
.
แม้ผมจะรู้ดีแก่ใจว่า...ตัวผมยังไม่อาจใช้สถานะแฟนกับขนุนได้เต็มปาก และโดยมากที่ผมแอบอ้างสถานะแฟนของขนุน...ก็เพื่อผลประโยชน์ของผมเพียงฝ่ายเดียว  แต่เพราะมั่นใจในอนาคตที่ผมจะมีร่วมกันกับขนุน...ไม่ช้าก็เร็ว ผมจะทำให้มันเกิดขึ้นจริงๆให้จงได้

“...”
.
.
.
คนปลายสายนิ่งไปนาน  จนผมร้อนใจถามออกมาอย่างเป็นห่วง “เฟี๊ยต....มึงโอเคเป่าวะ?”

เพื่อนผมตอบออกมาสั้นๆ “เออๆ กูไม่เป็นไร...แค่นี้แล้วกันนะเว่ย กูต้องกลับไปทำงานแล้ว”

“เออๆ ดีๆนะมึง..../(ตู๊ด ตู๊ด  ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด เสียงวางสายโทรศัพท์)/.....ไว้เจอกัน...เฮ้อออออออออ” ผมถึงกับถอนหายใจหนักขณะกดวางสาย และปิดหน้าจอ...


...แต่นั่นยังไม่ใช่ที่สุดของชุดคอมโบในวันนี้หรอกฮะ หึ หึ
...แหม่...พอเจอไอ้เห็บหมามาเจิมเบิกฤกษ์เข้าแต่หัววัน  เรื่องเน่าๆคันๆอันไม่พึงให้พิศมัยอื่นๆทั้งหลาย ก็เรียงรายดาหน้าประดังเข้ามาพร้อมๆกันเสียรวดเดียว โดยไม่เปิดโอกาสให้ผมได้ตั้งตัวรับมือ...  
...อะไรจะปะเหมาะเคราะห์ร้ายได้สาแก่ใจขนาดนี้กันวะไอ้น็อตตตต??!


เพราะเมื่อผมกำลังจะบิดลูกบิดเพื่อเปิดประตูกลับเข้าไปในห้องตัวเองหลังจากลงไปต้อนรับขับไล่ไอ้เห็บหมาข้างล่าง ผมก็ได้ยินเสียงเล็กๆของเมีย กำลังพูดอะไรพึมพำอยู่คนเดียว  ผมเลยอาศัยจังหวะที่ประตูแง้มออกนิดๆนั้น แอบฟังสิ่งที่ขนุนกำลังพูดอยู่ทันที  “ฮัลโหล....น้องโชเหรอครับ...”

ขนุนกำลังคุยโทรศัพท์...กับไอ้น้องโช ไอ้แฝดนรกหมายเลขสามที่มันคอยหยามหัวใจผมทั้งๆที่ตัวมันเองยังไม่ทันรู้ตัว...ฮึ่มมมม!! เมียผมนี่ก็ร้ายเหลือเกิน  อาศัยว่าผมต้องลงไปรับหน้าไอ้เหี้ยณัธ  เลยแอบลุกขึ้นมาโทรหาผู้ชายคนใหม่ ริจะนัดแนะว่าที่ชู้ให้รู้อกรู้ใจกันเลยเรอะไง??!! 

ถึงจะเดือดปุดๆอยู่ข้างในไม่น้อย แต่ผมก็คอยบอกตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่า ให้ใจเย็นๆ เพื่อรอฟังสิ่งที่ขนุนต้องการจะพูดให้จบก่อน  ไม่อย่างนั้น...ผมคงไม่มืทางรู้ได้ว่า เหตุผลที่แท้จริงของขนุนติดต่อกับไอ้แฝดนรกทรีโอ้ คือเรื่องอะไรกันแน่... ผมต้องเชื่อใจเมียให้มากกว่านี้!!
.
.
“...นี่พี่ขนุนเองนะครับ  พี่ขอเบอร์ของน้องโชมาจากน้องช็อป จะคุยเรื่องงานนิดหน่อยน่ะ...สะดวกคุยไม๊ครับ?...”

ค่อยยังชั่ว...อย่างน้อยขนุนก็ติดต่อไอ้น้องโชด้วยเรื่องงานจริงๆ ก็ดี...ที่เมียผมเลือกที่จะไม่โกหก เพราะผมคงทำใจไม่ได้ ถ้ารู้ว่าขนุนแม่งคิดอะไรจริงจังกับไอ้น้องโชอย่างที่เจ้าตัวเคยเปรยๆให้ฟัง
.
.
“...คือ ถ้าไม่เป็นการรบกวน พี่ขออีเมลของน้องโชหน่อยได้ไม๊ครับ พี่จะได้ฟอร์เวิร์ดรายละเอียดงานคร่าวๆไปให้ พร้อมกับชื่อพี่ที่เค้าจะประสานงานต่อกับน้องน่ะครับ...”

สรุปว่าเรื่องงานจริงๆน่ะแหละฮะ และขนุนก็ทำอย่างที่บอกกับผมเอาไว้ คือ ยกหน้าที่จุกจิกจิปาถะที่อาจทำให้ขนุนกับไอ้น้องโชได้คุยกันบ่อยๆ ให้คนอื่นที่รับผิดชอบหน้าที่นี้โดยตรงทำแทน...หึ หึ น่ารักน่าตบรางวัลจริงๆเมียผม
.
.
“...โอเค ถ้างั้นพี่รอ sms ของน้องโชตอบกลับแล้วกันนะครับ... ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องขอบคุณพี่หรอกครับ คือ...มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยครับ พี่ก็ถือว่าช่วยๆกัน ทั้งช่วยสำนักพิมพ์ แล้วก็ช่วยให้น้องได้มีรายได้...”

เห็นเมียทำดี และสนใจเพื่อนบ้าน และที่ทำงานอย่างนี้ ผมก็ดีใจนะฮะ แต่ทำไมต้องมาจิ๊จ๊ะพูดจาอะไรกันนานๆให้เปลืองน้ำลายด้วยล่ะ...เสร็จเรื่องงานแล้วก็วางหูสักทีดิฮะขนุน มัวแต่เสียเวลาพล่ามน้ำท่วมทุ่งอยู่ได้ ไม่เห็นหัวน็อตที่ใจจะขาดอยู่รอนๆเมื่อต้องมาได้ยินขนุนพูดจาเจ๊าะแจ๊ะกับใครต่อหน้าต่อตาหน่อยเหรอฮะที่รัก???!!
.
“...ครับๆ ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องเกรงใจนะครับ ถ้าสุดท้ายทางสำนักพิมพ์ตอบตกลงให้น้องโชทำงาน แล้วน้องโชเกิดมีปัญหาเกี่ยวกับงาน หรือไม่เข้าใจรายละเอียดงานหลังจากนี้ จะให้พี่ช่วยคุยให้ก็ได้นะครับ...”

อ้าววว!! แล้วนี่จะไปเสนอตัวเข้าช่วยเหลือไอ้น้องโชแม่งทำไมล่ะฮะขนุน ไอ้น้องโชมันทำงานอาร์ตไม่ใข่เหรอ? แล้วมันจะเกี่ยวอะไรกับขนุนที่เป็นนักเขียนได้อีกล่ะฮะ?? ขนุนจะไปช่วยน้องมันได้อย่างไร? อีกอย่าง...ไอ้น้องโชแม่งก็โตจนหมาเลียก้นไม่ถึงอยู่แล้ว ให้มันทำเรื่องอะไรพวกนี้ด้วยตัวเองเถอะฮะ มันจะได้เรียนรู้อะไรด้วยตัวเองบ้าง... หรือว่าขนุนจะอาศัยจังหวะที่ไอ้น้องโชแม่งมีปัญหาเรื่องงาน เข้าไปเสียบในฐานะของรุ่นพี่ที่มีประสบการณ์ในสายงานมาก่อนกัน???!!
.
.
...ไม่ต้องขอบคุณหรอกครับ......ครับ แค่นี้นะครับ”


ไม่ได้การแล้วสิ!!...
ผมต้องลงมือจัดการเอาขนุนมาเป็นแฟนผมให้ได้เร็วที่สุดเสียแล้วล่ะ...
ไอ้เรื่องพิสูจน์ความรู้สึกเอาไว้ทีหลัง ตอนนี้...ผมต้องเอาสถานะแฟนผูกมัดขนุนเอาไว้กับตัวให้ได้ก่อน...
พอได้ครองตำแหน่งแฟนเป็นที่แน่นอน  เรื่องชนะใจ...ไว้ค่อยทำตอนที่ไร้ซึ่งศัตรูรายล้อมรอบกาย ทุกทิศทุกทางแบบนี้ก็แล้วกันนะฮะ


๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐


หลังอาบน้ำ ผมใช้เวลาทำใจอยู่ในห้องน้ำพักใหญ่ๆ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องเพื่อเจอหน้าขนุน... ผิดก็อยู่แต่ว่า คราวนี้ ผมต้องรวบรวมสมาธิมากยิ่งกว่าครั้งไหนๆ เพื่อให้เราทั้งสองคน...เข้าถึงบทบาทได้อย่างเต็มที่  และผมมั่นใจว่า...ขนุนเอง คงตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ต่างกันเท่าไรนัก...
.
...ผมหยุดยืนอยู่ตรงหน้าประตูห้องน้ำเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อสูดหายใจเข้าลึกๆ  ก่อนจะนับถอยหลังอย่างช้าๆ ระหว่างเอื้อมมือไปจับลูกบิดประตูเพื่อก้าวกลับเข้าไปในห้อง.......ห้า...
.
...สี่....................สาม...
...สอง...
.
...หนึ่ง...
.
.
...ศูนย์...


๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐



ภายในห้องนอนที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำ  มีเสียงเพลงแจ๊ซท่วงทำนองชวนให้เคลิบเคลิ้มถูกเปิดคลออยู่เบาๆ เรือนร่างชะลูดแบบบางในเสื้อคลุมอาบน้ำตัวหนาเนื้อนุ่มราคาแพง  ยืนหันหลังอยู่ตรงโต๊ะข้างเตียง ในมือเรียวสวยได้รูปของเขากอบกุมแก้วใสขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กเอาไว้ ภายใน...บรรจุของเหลวสีอำพันที่กำลังไหลวนล้อมรอบก้อนน้ำแข็งจำนวนหนึ่งไปมาตามแรงเขย่าจากมือเรียวขาวเนียนน่าเชยชมนั้น  แค่เขาคะเนดูด้วยสายตาจากไอน้ำที่เกาะอยู่ตรงข้างแก้วจนขึ้นเป็นปื้นฝ้า...เขาก็รู้ได้ทันทีว่า เจ้าของเครื่องดื่ม ไม่ได้แตะต้องน้ำเมาในแก้วแม้แต่น้อย...  กระทั่งดื่มย้อมใจ คนตรงหน้าก็ยังไม่มีกะจิตกะใจจะทำ...
.
.
...หึ หึ จะเป็นไปได้หรือ ที่คนอย่างผู้ชายตรงหน้าเขาจะตื่นเต้นด้วยเรื่องแบบนี้...
...เพราะเขามั่นใจว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของอีกฝ่าย...
...หากแต่มันเป็นครั้งแรก กับผู้ชาย...
...อย่างเขา


แม้เขาจะพยายามเยื้องย่างโดยไม่ก่อให้เกิดเสียงรบกวนใดๆ  ร่างบางที่ตกอยู่ในภวังค์ ก็ยังรู้สึกตัวจนหันหน้ากลับมามองเขาอย่างสนใจอยู่ดี... นั่นคือสิ่งที่เขาคิดกล่อมตัวเองอยู่ตลอดเวลา   เพราะในความเป็นจริง...เขากำลังหวั่นใจอย่างยิ่งว่า เสียงของความประหม่า บวกกับความตื่นเต้นถึงขีดสุด ซึ่งส่งผลให้หัวใจของเขาเต้นรัวแรงผิดจังหวะอยู่ในอกต่างหากล่ะ ที่ส่งเสียงดังเสียจนทำลายหน้ากากแสดงอาการเรียบเฉย ที่เขาใช้บดบังความรู้สึกที่แท้จริงเอาไว้ภายในลงอย่างป่นปี้  เผยให้อีกฝ่ายเห็นธาตุแท้ และความรู้สึกของเขาจนหมดสิ้น

เขาตกอยู่ในมนต์สะกดของอีกฝ่ายทันทีที่เขาจับจ้องดวงตาดำขลับที่ประดับอยู่บนดวงหน้าขาวผ่องของร่างบอบบาง  ซึ่งในเวลานี้ สายตาของคนตรงหน้า บอกให้เขารู้ว่า อีกฝ่ายเทความสนใจทั้งหมดมาที่เขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว... แค่สบสายตากับคนๆนี้ ก็ทำให้เขารู้สึกประหม่าขึ้นมาได้ง่ายๆอีกครั้ง ทั้งที่เพิ่งจะข่มความรู้สึกตื่นเต้นจนไม่เป็นตัวของตัวเองลงได้เมื่อกี๊แล้วแท้ๆ

ถ้าจะให้เขาบรรยายถึงลักษณะของคนที่กำลังยืนยิ้มอย่างมีเสน่ห์อยู่ตรงหน้า... เขาคงบอกได้คำเดียวว่า ถูกใจเขาอย่างที่สุด...  เจ้าของเรือนร่างบอบบาง มีใบหน้าละม้ายหญิงสาวมากกว่าชายอกสามศอก  จนในบางขณะ...ถ้าเขาจะบอกว่า คนๆนี้ ดูสวยกว่าผู้หญิงหลายคน ก็คงจะไม่ผิดแปลกแต่อย่างใด เพราะเครื่องหน้าทั้งหมด...ส่งเสริมให้เจ้าของใบหน้า ดูจิ้มลิ้มพริ้มเพราได้ง่ายกว่าหล่อเหลาเป็นไหนๆ  ผมยาวประบ่าหยักศกถูกเกล้าเป็นมวยเอาไว้หลวมๆตรงท้ายทอย ทำให้เขาได้เห็นลำคอระหงได้อย่างเต็มตา


ยังไม่ทันที่เขาจะได้สำรวจร่างกายของอีกฝ่ายมากไปกว่าที่ใจต้องการ  ร่างบอบบางตรงหน้าเขา ก็สืบเท้าอย่างมั่นใจเข้ามาใกล้  เสียงเล็กๆน่าฟังที่ทำให้ใจเขาแกว่งได้ทุกครั้งที่ได้ยินเอ่ยๆเบาๆอย่างเชิญชวน  “หึ หึ เข้ามาใกล้ๆชั้นซิ”  คนพูดไม่ได้พูดเปล่า หากแต่เดินเข้ามาใกล้เขายิ่งกว่าครั้งไหนๆ ด้วยระยะห่างเท่านี้...ทำให้เขาได้กลิ่นหอมวนิลาของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน โดยเขาไม่ต้องแอบหาโอกาสสูดดมความหอมของอีกฝ่ายยามเผลออีกต่อไป... 

...นั่นยิ่งทำให้เขาเกิดทำตัวหลุกหลิกขึ้นมาอีกครั้งจนได้... ซึ่งถือว่าผิดฟอร์มของเขาในยามปกติอย่างเทียบกันไม่ติดฝุ่น  ถึงอย่างนั้น ท่าทางอยู่ไม่สุขของชายหนุ่มผู้อ่อนอาวุโสกว่า กลับทำให้อีกฝ่ายหัวเราะออกมาเบาๆด้วยความเอ็นดู ก่อนจะพูดสัพยอกออกมาเพื่อทำให้ชายหนุ่มคลายความกังวล และผ่อนคลายลงเสียที   “หึ หึ หึ...เธอทำท่ากลัวเหมือนกับโดนใครลักพาตัวมาอย่างนั้นแหละ......นี่ถ้าเมื่อชั่วโมงก่อน ชั้นไม่ได้พาเธอนั่งรถออกมาจากร้านด้วยกัน ชั้นต้องเข้าใจไปเองว่า เธอยังไม่ประสีประสากับเรื่องแบบนี้แน่ๆ”

.
.
หนุ่มน้อยไม่ได้ตอบอะไร เพราะเขายอมจำนนกับสิ่งที่อีกฝ่ายเพิ่งกล่าวออกมาอย่างหาทางแก้ต่างให้กับตัวเองไม่ได้ จนคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าห่างไปไม่ถึงฟุตเอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงตกอกตกใจ “อย่าบอกนะว่า...นี่เป็นครั้งแรกของเธอ?”

“ฮะ” เขายิ้มน้อยๆด้วยความอายหลังจากรับคำอีกฝ่ายอย่างสัตย์จริง

ร่างบางที่เล็กกว่าเขาอย่างเห็นได้ชัดถึงกับกุมขมับเมื่อได้ยินคำสารภาพของเขา ก่อนกระดกเหล้าในแก้วลงคอจนหมดในคราวเดียว...ดูจากสีหน้าเคร่งเครียดของร่างเล็กผู้มีวัยมากกว่าในเวลานี้ บอกได้ว่า น้ำสีอำพันแก้วเมื่อครู่ ไม่ได้ถูกใช้เพื่อการดับกระหายคลายร้อนภายใน... หากแต่เจ้าตัว น่าจะเลือกใช้มันต่างเครื่องมือเรียกขวัญและกำลังใจเสียมากกว่า

ร่างบางเดินหันหลังให้เขาเพื่อเอาแก้วที่หลงเหลือแต่น้ำแข็งเปล่าไปวางไว้ตรงโต๊ะตัวเดิม ซึ่งเป็นที่ๆเขาเคยยืนรอชายหนุ่มวัยอ่อนกว่า พลางเอ่ยโดยไม่คิดหันหน้ากลับมามอง  “ไหนๆเราก็มาถึงขั้นนี้แล้ว...ชั้นคงไม่ใจดีปล่อยเธอไปง่ายๆทั้งที่เสียเงินค่าตัวเธอไปหลายหมื่นหรอกนะ”

คนที่ยังยืนนิ่งประจันหน้าเข้าหาผนัง เหลียวหลังกลับมามองชายหนุ่มผู้อ่อนวัยกว่าแล้วถามย้ำออกมาอีกครั้ง คล้ายกับว่า หากอีกฝ่ายโอนอ่อนผ่อนตาม และรับคำของเขาโดยไม่มีเงื่อนไข... มันสามารถช่วยบรรเทาความรู้สึกผิดบาปในใจได้มากโข “เธอเข้าใจชั้นใช่ไม๊?”

“ฮะ...ผมเข้าใจ” หนุ่มน้อยตอบออกมาอย่างเต็มปากเต็มคำ ตรงตามความรู้สึกปรารถนาภายในของเขาที่มีต่ออีกฝ่าย... หากแต่ ความรู้สึกของเขา ยังไม่เคยได้ถูกส่งผ่านไปให้ผู้มีอาวุโสมากกว่าได้รับรู้เลยแม้แต่ครั้งเดียว

เมื่อได้ยินคำยืนยันของชายหนุ่มที่เขาหมายตาสำหรับการปลดเปลื้องอารมณ์เปลี่ยวในคืนนี้ หนุ่มใหญ่เจ้าของร่างบางอ้อนแอ้นยิ่งกว่าหญิงสาวหลายคนก็หันหน้ากลับมามองอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม “เข้าใจก็ดีแล้ว ชั้นจะได้ไม่ต้องปลอบประโลมเธอให้เสียเวลา....เราจะได้เข้าเรื่องของเรากันซะที”

เขาก้าวเดินอย่างมั่นคงเข้าไปหาร่างกำยำสมชาย ที่อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำแบบเดียวกัน หากแต่คนละสี ชายหนุ่มผู้อ่อนขวบปีกว่ากำลังยืนนิ่งๆอย่างสำรวม หากแต่สายตาสนใจใคร่รู้คู่นั้น กลับจ้องมองติดตามเขาไปทุกฝีก้าวด้วยความชื่นชมอย่างไม่คิดวางตา...

...นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้เห็นชายหนุ่มตรงหน้าผ่านตามาก่อน...
...เขา ผู้เป็นลูกค้าขาประจำของโฮสต์คลับแห่งหนึ่ง  สถานที่ๆชายหนุ่มคนตรงหน้าทำงานแลกเงินอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน...ในฐานะโฮสต์เบอร์หนึ่งของร้าน...

...โฮสต์หนุ่ม ถูกตาต้องใจเขาตั้งแต่แรกที่เห็นหน้ากัน  หากแต่เขาผู้นั้น กลับไม่ได้ให้ความสนใจใดๆกับเด็กหนุ่มผู้ไม่ประสาเมืองกรุงเท่าไรนัก เพราะคู่ขาประจำที่เขาติดพันอยู่ในเวลานั้น เรียกร้อง และ ต้องการครอบครองร่างกาย...เวลา...และเงินทองมหาศาลของเขาเอาไว้แต่เพียงผู้เดียว... 

...ภายหลังจากที่อดีตคนรักผู้ครองตำแหน่งโฮสต์เบอร์หนึ่งของร้านหลายปีติดต่อกัน ติดตามมหาเศรษฐีหนุ่มรูปหล่อหายลับออกไปจากชีวิตหนุ่มใหญ่เมื่อสามปีก่อน...เขาก็ไม่เหลือใจให้ใครอีกต่อไป  ทุกๆคืนหลังจากนั้น...เขาจะหอบเอาเงินเป็นฟ่อนๆติดมือ ไปฟาดหัวซื้อโฮสต์คนไหนก็ได้ที่ครองตำแหน่งสูงสุดของร้าน เพื่อให้อีกฝ่าย มาเติมเต็มความต้องการที่ขาดหาย หลังจากอดีตชายคนรักจากเป็นชั่วนิรันดร์...

...และแล้วเส้นทางของเขา กับชายหนุ่มผู้หล่อเหลาเหมือนรูปสลัก ขวัญใจของบรรดาลูกค้าทุกเพศทุกวัย ก็มาบรรจบกันอีกครั้ง... ในวันที่ชายหนุ่ม ได้ครองตำแหน่งโฮสต์เบอร์หนึ่งของร้านเป็นคืนแรก...นั่นก็คือ...คืนนี้

เขาเดินไปหยุดตรงหน้าร่างเปล่าเปลือยอันกำยำน่าลูบไล้ ที่อยู่ใต้อาภรณ์ผืนใหญ่เพียงผืนเดียว โดยที่ใบหน้าของเขากับชายหนุ่มอยู่ห่างกันแค่คืบ ลมหายใจหนักๆ สั้น และขาดเป็นห้วงๆของอีกฝ่ายที่ผ่อนรดลงมาบนหน้าของเขา ทำให้เขาต้องเอ่ยออกไปอย่างชอบใจ ที่จับสัญญาณแห่งความตื่นเต้นของอีกฝ่ายได้โดยไม่ต้องพยายาม...

...ผู้มีอาวุโสมากกว่ายิ้มกับตัวเอง เพราะในใจ...เผลอชมความน่ารักไม่ประสีประสาของอีกฝ่ายเข้าเต็มเปา  ริมฝีปากเล็กๆแดงจัดของเขาเอ่ยปลอบอีกฝ่ายประสาคนที่มีชั่วโมงบินเหนือกว่า พลางไล้ปลายนิ้วไปตามแนวสันกรามที่ขบแน่นด้วยความตึงเครียดของอีกคนอย่างสนุกมือ “ไม่ต้องประหม่าไปหรอกเด็กน้อย...เดี๋ยวชั้นจะสอนทุกอย่างให้เธอเอง รับรองเลยว่า...เธอจะไม่มีวันลืมความสุขที่ชั้นกำลังจะมอบให้ไปตลอดชีวิต เชื่อชั้นสิ”

เมื่อพูดจบ เขาก็เหนี่ยวลำคอหนาของคนตัวสูงกว่าให้โน้มลง แล้วจุมพิตอย่างแผ่วเบาพอให้ขนทุกเส้นบนร่างกายของอีกฝ่ายลุกชันด้วยความตื่นเต้นกับรสสัมผัสอันหอมหวาน และหยอกเย้า  หนุ่มน้อยรับคำด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักด้วยตกใจ...   อนิจจา...หากเพียงผู้ฟังจะหยุดสังเกต และให้ความสนใจกับเสียงของคนพูดดีๆ เขาจะได้ยินความปีติเจือปนในหางเสียงราวกับสมใจอยู่ไม่น้อยทีเดียว “อ่ะ...อ่ะ เอ่อ...ฮะ”

กระนั้น หัวใจที่ปิดตายลงของผู้เปิดเกมรักเกมนี้ กลับทำให้ทุกสรรพเสียงที่ผ่านเข้าหูเจ้าตัว เป็นเพียงถ้อยคำธรรมดา ปราศจากความรู้สึกซ่อนเร้น ที่ต้องทำเอากลับไปตีความถึงวัตถุประสงค์แอบแฝง เขาเลยผละจากร่างสูงหนา แล้วเดินไปหยิบอุปกรณ์ที่จำเป็นต่างๆสำหรับการบรรเลงท่วงทำนองแห่งค่ำคืนที่ได้เตรียมเอาไว้  ปล่อยให้ชายหนุ่มยืนมองแผ่นหลังแบบบางน่าทะนุถนอมด้วยแววตา ซึ่งบอกถึงความเสียดาย เพราะต้องพลาดโอกาสที่จะได้แนบชิดกันอย่างเมื่อครู่ไปอีกครั้ง

คนมีอาวุโสและอำนาจมากกว่าตะโกนสั่งอีกฝ่ายทั้งที่สองมือกำลังง่วนกับการตรวจดูความครบถ้วนของ สิ่งจำเป็นทั้งหลาย น้ำเสียงเฉียบขาดจริงจังของเขาเอ่ยเรียบๆว่า “ก่อนอื่น เธอช่วยถอดเสื้อคลุมออก...แล้วไปนอนรอชั้นบนเตียง...”

ชายหนุ่มค่อยๆปลดเครื่องนุ่งห่มเพียงชิ้นเดียวที่บดบังสัดส่วนอันสวยงามน่ามองของเขาออกอย่างว่าง่าย แล้วค่อยๆคลานขึ้นเตียงอย่างช้าๆ ก่อนเอนหลังลงพิงหมอนอยู่ตรงใจกลางผืนฟูก สายตาคมจับจ้องมองร่างบางๆที่ยืนอยู่ห่างออกไปอย่างไม่นึกเหนื่อยล้า  ชายหนุ่มไม่ต้องเสียเวลาไปกับการเฝ้ามองแผ่นหลังเล็กๆนานเท่าที่คาดเอาไว้...

...เนื่องจากเจ้าของทรงผมมวยเดินกลับมาที่เตียงแล้ววาง สิ่งจำเป็นทั้งหลายแหล่ในมือลง  สายตาแวววาวออกสำรวจเนื้อตัวของร่างเปลือยที่นอนรออยู่บนที่นอนอย่างโหยกระหาย... มันบอกให้อีกฝ่ายรับรู้ได้ทันทีถึงความปรารถนาซึ่งเจ้าของนัยน์ตาเก็บไม่อาจกักเอาไว้ภายในได้อีกต่อไป  ร่างบางส่งยิ้มอย่างพึงพอใจ ปากเล็กๆเกริ่นเปิดประเด็น  “ดีมาก เดี๋ยวชั้นจะทำให้เธอมีความสุขอย่างที่เธอไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน”

คำพูดของผู้เจนสังเวียนเกมรักกับไม้ในป่าเดียวกัน  ไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มตะลึงพรึงเพริดได้มากเท่ากับ ภาพอันงดงามที่กำลังฉายอยู่ในคลองจักษุของเขา เพราะเมื่อประโยคที่เขาเพิ่งได้ยินไปนั้นจบลง คนร่างบางที่ยืนอยู่ตรงปลายเท้า ก็สลัดเสื้อคลุมออกจากร่างกาย ก่อนจะเผยให้เห็นเรือนร่างอันน่าหลงใหล ซึ่งทำให้ชายหนุ่มจดจ่อกับการจ้องมองพื้นผิวทุกๆอณูบนร่างนั้นจนเกือบลืมหายใจ...

...และสิ่งที่ทำให้เขายิ่งตื่นเต้นไปกันใหญ่ เห็นจะหนีไม่พ้น การที่อีกฝ่าย กำลังคืบกาย คลานคร่อมปลายเท้าของเขาอย่างช้าๆเข้ามาใกล้ ก่อนจะมาปักหลักหย่อนร่างนั่งลงบนหน้าขาของเขา

คนที่นั่งอย่างสบายอารมณ์โดยไม่รู้สึกขวยเขินกับสายตาจาบจ้วงของเขาเอ่ย พลางส่งสองมือลงลูบไล้ไปตามร่างกายของเขา  “รูปร่างหน้าตาของเธอถูกใจชั้นมากเลยนะ...
.
.
...ชั้นชอบกล้ามเนื้อสวยๆบนร่างกายเธอ ชอบโครงหน้าและอวัยวะทุกๆอย่างบนหน้าเธอ”  มือเรียวนุ่มข้างหนึ่งวางลงบนแก้มของเขา นวดเน้นคลึงเคล้าไปทั่วทุกส่วนรับกับคำพูดที่เจ้าตัวเพิ่งเอ่ยไป   ในขณะที่อีกข้างมอบสัมผัสจากปลายนิ้วไล่ล้อทั่วแผงอกแกร่งทั้งสองอย่างเบามือ  เมื่อพอใจที่เห็นว่าขนอ่อนตามตัวของอีกฝ่ายลุกชันหลังจากการกระเซ้าเย้าแหย่ผ่านเพียงผะแผ่ว  ก็เปลี่ยนเป็นลงน้ำหนักบีบเคล้นกล้ามเนื้อหนั่นแน่นทุกมัดที่ฝ่ามือไล้ผ่าน ราวกับร่างกายของชายหนุ่มอีกคนตกเป็นสมบัติของอีกฝ่ายโดยสมบูรณ์

ใบหน้าขาวใสของร่างเล็กประดับด้วยรอยยิ้มมุมปาก ที่มาพร้อมกับสายตาเจ้าเล่ห์  กับการแลบลิ้นเลียรอบๆปากอย่างจงใจ ซึ่งมันยิ่งปลุกเร้าความปราถนาภายในของชายหนุ่มให้ลุกโชนขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้  มือขาวเนียนของคนนั่งคร่อมเลื่อนต่ำผ่านสะดือ ก่อนจะกรีดปลายเล็บนิ้วชี้ลงบนแนวไรขนหน้าท้องคล้ายกับจะชี้บอกให้เขารู้ถึงที่หมายถัดไป นั่นเลยพลอยทำให้ชายหนุ่มเผลอกลั้นหายใจ และแขม่วท้องอย่างลืมตัวเพื่อตอบสนองสัมผัส และเจตนาที่ถูกส่งล่วงหน้ามาผ่านแววตาระยิบระยับคู่ที่ตรึงความสนใจทั้งหมดของเขาเอาไว้ตั้งแต่เมื่อแรกสบกัน

คนตัวเล็กยิ้มหวานก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงชอบอกชอบใจ “และก็ชอบตรงนี้ของเธอด้วย” ว่าแล้วก็คว้าหมับเข้ากลางลำซึ่งแข็งขึงอย่างตึงเครียดหลังจากได้ลอบสังเกตร่างไร้อาภรณ์ห่มคลุมของอีกฝ่ายมาชั่วระยะเวลาหนึ่ง ชายหนุ่มถึงกับสะดุ้งน้อยๆทันที เมื่อสมองรับรู้ได้ถึงความอ่อนไหวต่อสัมผัสของอวัยวะลำใหญ่กึ่งกลางร่างกายที่กำลังถูกกระตุ้นและรูดรุนไปถ้วนทั่วอย่างไม่ปรานีปราศรัย  

คนใจร้ายที่ลงมือกับเขาได้อย่างเลือดเย็นและต่อเนื่องไม่มีสะดุด ก็เปิดปากบรรยายถึงคุณสมบัติอันดีงามของอวัยวะคู่กายซึ่งเป็นที่รักของชายหนุ่มไม่ขาดปาก  “...มันช่างใหญ่โต กำยำ และน่ากินที่สุด”...
.
.
ชายหนุ่มใกล้จะพ่ายแพ้ให้กับกิเลสและตัณหาเต็มที   เขาจึงเลือกที่จะขบกรามแน่นพลางอัดลมหายใจเข้าปอดอย่างหนักหน่วงเพื่อควบคุมตัวเองไม่ให้เพลี่ยงพล้ำ หลังจากเพียงแค่ได้เห็นสายตาของอีกฝ่ายจ้องมองลูกชายของเขาในอุ้งมือน้อยๆของตัวเองด้วยความเทิดทูนบูชา...  ลูกค้าของเขาคนนี้  ถือเป็นคู่นอนคนแรก ที่แสดงออกทางความต้องการทางเพศอย่างโจ่งแจ้งไม่มีปิดบัง หลังจากได้เห็นร่างกายของเขาครบทุกส่วนสัด  “...อาห์...แค่ได้เห็นตอนอ่อนตัว  ชั้นก็เกือบจะเป็นบ้า แต่นี่ยิ่งแล้วใหญ่...
.
...ไม่นึกว่า หลังจากได้ลองลูบไล้น้องชายของเธอตอนตื่นตัวเต็มที่อย่างนี้...
...แล้วมันจะทำให้ชั้นเกิดอารมณ์ จนแทบอดใจรอต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ... 
.
...ชั้นอยากรู้ขึ้นมาใจจะขาดซะแล้วซิว่า น้องชายเธอจะรสเลิศเหมือนหน้าตา และรูปร่างอันยอดเยี่ยมรึเปล่า” ร่างเล็กพูดพลางโน้มตัวลงต่ำขนานกับหน้าขาของเขา สายตาทั้งสองจ้องเป๋งไปยังจุดๆเดียว... แค่ได้รับรู้ว่าร่างกายของตัวเองเร้าความต้องการของอีกฝ่ายได้ เขาก็เต็มตื้นมากแล้ว แต่พอได้มาเห็นว่า เครื่องเคราทางเพศของเขา จะทำให้อีกคนยอมเผยให้เห็นถึงตัวตนอันสุดแสนจะรัญจวนใจ นั่นยิ่งทำให้แก่นกลางร่างของเขาเต้นระริกๆด้วยความสุขซ่าน และความตื่นเต้นระคนกัน
.
.
หลังจากใช้สายตาจับจ้องความงดงาม  และใช้มือรูดชักไปตามลำแห่งความเป็นชายของอีกฝ่ายอยู่เป็นนานสองนาน ร่างเล็กๆที่นั่งคร่อมอยู่ด้านบนก็เอ่ยปาก “...หึ หึ ถ้าเธอไม่ว่าอะไร ชั้นขอนะ” ชายหนุ่มรู้ดีว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรผ่านสายตา และการกระทำทั้งหมดก่อนหน้า เขาจึงพยักหน้าให้เพื่อแทนคำตอบ

เมื่อผู้มีอาวุโสมากกว่าได้สัญญาณไฟเขียว ริมฝีปากคู่งามเต่งก็ครอบลงตรงปลายปล้องของน้องชายอีกฝ่ายอย่างโหยกระหาย  พอได้ทำอย่างที่ใจต้องการ คนร่างเล็กก็ปล่อยเสียงครางด้วยความอิ่มเอมอยู่ในลำคอระหว่างใช้ปากทำรักให้อีกฝ่ายอย่างขยันขันแข็งเป็นที่สุด  “...อื้มมมมมม.............ฮื่อออออ............อื้อออออออ.......

สองตากลมใสจับจ้องมองใบหน้าชายหนุ่มอ่อนวัยกว่าเพื่ออ่านสีหน้าและอารมณ์ เขารู้ดีว่า...เวลานี้ อีกฝ่ายย่อมรู้สึกอิ่มเอมเต็มตื้นในอารมณ์ยิ่งกว่าครั้งไหนๆ เพราะลีลาอันเร่าร้อนซึ่งถูกป้อนจากปลายลิ้นสั่นไหวคล้ายกับระลอกของฟองคลื่นกระทบผืนทราย หนักบ้าง...เบาบ้างตามแต่ความตั้งใจนั้น  คือสิ่งหนึ่งซึ่งบรรดาคู่นอนมากหน้าหลายตา มักจะอ้อนวอนให้เขาประเคนความหฤหรรรษ์หาใดเปรียบแบบนี้ให้อยู่เสมอ...

...บางคืน เขาต้องยอมทำตามใจอีกฝ่าย ด้วยการเริงรักผ่านปากมากกว่าหนึ่งครั้งก็มี...  
...หากสำหรับคืนนี้...ชายหนุ่มตรงหน้า กลับไม่ต้องร้องขอ หรืออ้อนวอนให้เสียเชิงแม้แต่นิดเดียว  กลับเป็นตัวเขาเสียอีกที่อยากจะคุกเข่าลงตรงหน้าพ่อเจ้าประคุณ เพื่อขอแค่ให้ได้ลิ้มรสความโอชะเหนืออื่นใดของแท่งสลักเสลาอันสวยงามได้ขนาดตั้งแต่แรกเห็นเพียงสักครั้งก็ยังดี

หากแต่ใบหน้าเครียดเกร็งของอีกฝ่าย แม้จะถูกลิ้นและโพรงปากของเขาดูดกลืนระรื่นเลียอย่างเอาเป็นเอาตาย จนน้องชายขยายตัวพองคับปาก ก็กวนใจเขาไม่เลิก... นั่นจึงทำให้เขาต้องยอมรามือจากความเป็นชายของอีกฝ่ายชั่วคราว เพื่อเจรจาขอความร่วมมือ  “ฮื่ออออ...ปล่อยตัวตามสบายสิ  ไม่ต้องเกร็ง เปิดรับความรู้สึกดีๆที่เธอกำลังได้รับอยู่ แล้วล่องลอยไปกับมันซะ../...ฮ่าาาาห์...ฮื่มมมมมม.../...อย่างนั้นล่ะ เก่งมากเด็กน้อย” เขาชมอีกฝ่ายอย่างจริงใจ ในขณะที่มือกำหลวมๆรอบๆลำลึงค์ พลางรูดเคล้นแท่งร้อนๆที่ชุ่มโชกด้วยหยาดน้ำหวานจากโพรงปากของเขาอย่างระเริงใจ

เพื่อความมั่นใจ และไม่หลงคิดเข้าข้างตัวเองแบบผิดๆ...ผู้มีอาวุโสมากกว่าจึงถามเพื่อสำรวจความเห็นของชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เธอชอบไม๊...เธอชอบที่ชั้นใช้ปากกับน้องชายของเธอไม๊?” มือเรียวรูดปลายลำ แล้วกุมส่วนหัวเอาไว้หลวมๆ ก่อนจะหมุนข้อมือบิดไปมาเบาๆ... นั่นทำเอาหน้าท้องแบนราบประดับด้วยซิกแพ็คพองามของชายหนุ่มถึงกับแขม่วเกร็งตอบรับการหยอกเอินของเขาอย่างทันควัน  เขาชอบใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น...แต่ชักจะทนไม่ไหวที่อีกฝ่ายยังไม่เอื้อนเอ่ยข้อความใดๆเพื่อไขความกระจ่างให้กับเขาเสียที

ทันทีที่ความขัดอกขัดใจเข้าทำงาน เขาจึงเผลอกรีดปลายเล็บหัวแม่มือลงตรงปลายด้ามเบาๆ คล้ายกับกระตุ้นให้อีกคนรู้สึกตัว ชายหนุ่มกลั้นเสียงคราง แล้วรีบแถลงคำตอบอันน่าพอใจออกมาให้เขาได้รับฟัง “...ฮ่าห์...ผมชอบฮะ ผมชอบมาก....คุณเก่งมากๆเลยฮะ” หนุ่มน้อยยิ้มให้ด้วยความอาย พลางยื่นมือมาลูบไล้ใบหน้าของเขาเบาๆ ราวกับต้องการระบายความโหยหาการสัมผัสร่างกายของอีกฝ่ายให้ลดน้อยลง

คนโตแต่ตัวเล็กกว่ายิ้มให้เพราะพอใจกับสิ่งที่เพิ่งได้ยิน แล้วสั่งเบาๆ”ดีมาก...งั้นเธอก็ครางซิ ครางดังๆ ครางให้ชั้นชื่นใจ ชั้นอยากฟังเสียงครางอย่างมีความสุขของเธอ” เมื่อพูดจบ เจ้าของร่างบางก็ส่งนิ้วมือสองนิ้วของตัวเอง เข้าด้านในปากเล็กๆสีแดงสดที่เคลือบวาวด้วยน้ำลาย เพื่ออมและเลียสักพัก

ใจจริง...เขาแค่ต้องการสร้างความชุ่มชื่นให้กับนิ้วทั้งสองเพียงชั่วครู่ หากแต่เมื่อเห็นสายตาของหนุ่มน้อยที่จับจ้องการกระทำของเขาไม่วางด้วยความสนใจเป็นที่สุด  เขาเลยอาศัยโอกาสนี้...ลอยหน้าลอยตาพลางดูดเลียนิ้วทั้งสองอย่างช้าๆเพื่อยั่วตัณหาของอีกฝ่าย ระหว่างที่มืออีกข้างกำลังปลุกปั่นด้ามแน่นหนั่นอย่างไม่มีหยุดพัก

ทันทีที่เห็นสายตาหื่นกระหายของชายหนุ่มฉายออกมา เขาจึงเปลี่ยนเป้าหมายของริมฝีปากมาเป็นอาวุธคู่กายของผู้ด้อยอาวุโส  กลีบปากเต่งตึงค่อยๆโอบอุ้มกลืนกินความเป็นชายของหนุ่มน้อยกลับเข้าไปอีกครั้ง แต่จังหวะจะโคนของการดำเนินท้องเรื่องในคราวนี้ กลับเร่งเร็วขึ้นจนผิดหูผิดตา ราวกับว่า เจ้าของโพรงปากอ่อนนุ่ม ต้องการเร้ากระตุ้นให้อีกฝ่ายโผนโผเข้าสู่เส้นชัยอย่างรวดเร็ว “..ฮ่าห์.....อึก.........ฮื้มมมมมม.../....ฮื่มมมมมมม...........ฮื่ออออออ..............อื้มมมมมมม............”

หากแต่นั่นกลับไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริง ซึ่งทำให้ร่างบางเผลอเร่งความเร็วโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว...  
...ที่เขาทำอย่างนั้น เป็นเพราะความรู้สึกเสียวสยิวที่เขาได้รับโดยตรงจากการกระตุ้นภายในร่างกายตัวเอง ด้วยสองมือที่แคล่วคล่อง และรู้หน้าที่กับชัยภูมิดีเป็นที่หนึ่ง  ก็สามารถทำให้ตัวเขาปลื้มปีติกับความเพลิดเพลินจากด้านในได้ไม่ยาก  ความอิ่มเอมนั้นจึงถูกสะท้อนออกมา ด้วยการแบ่งปันความรู้สึกที่ว่าให้กับอีกฝ่าย ที่ส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของร่างกายถูกจองจำเอาไว้ในโพรงปากของเขาเอง

นอกจากจะได้รับการปลุกเร้าจนเสียวสะท้านไปทั้งร่าง ชายหนุ่มยังได้เห็นเรือนร่างสวยงามตรงหน้าค่อยๆเปลี่ยนสีจากขาวยวนตา เป็นชมพูระเรื่อน่ามอง ไม่เท่านั้น...การช่วยตัวเองอย่างถึงอกถึงใจของอีกฝ่าย ก็ช่วยกระตุ้นความกระสันให้ซ่านกระจายตั้งแต่หัวจรดเท้า เขารู้ตัวดีว่า หากต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้อีกไม่กี่ชั่ววินาทีข้างหน้า...เขาคงจะได้ทำเรื่องไม่สมควรกับลูกค้าขาประจำที่พนักงานหนุ่มคนไหนๆต่างหมายปองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เมื่อเห็นปลายทางอยู่รำไร เขาจึงออกปากร้องขอความเห็นใจจากอีกคน ที่ยังสาละวนกับน้องชายของเขาอย่างไม่ลืมหูลืมตา”...คุณฮะ...ฮ่าาาาาห์....พอเถอะฮะ......อื้มมม........ผมจะ.......ฮื่ออออออ......ผมใกล้จะไม่ไหว..........ฮื่มมมมม........แล้ววว.......ฮะห์......... /....อื้อออออ.......อื้ออออออ....ฮื่ออออออ..............ฮื่มมมมมมม............”

แต่อีกฝ่ายก็ช่างใจร้ายเสียนี่กระไร  เพราะนอกจากจะนิ่งเฉยไม่สนใจคำร้องขอของเขา กลับยิ่งเร่งปลายลิ้น และดูดดุนดุ้นลำพองของเขาอย่างไม่ลดละ พร้อมๆกับขยับเร่งลำนิ้วเข้าหาส่วนลึกภายในร่างกายตัวเองหนักมือขึ้นเรื่อยๆ เขาจึงจำเป็นต้องปล่อยให้ทุกอย่างเลยตามเลย เนื่องด้วยไม่อาจควบคุมทั้งสถานการณ์ และความเอาแต่ใจของอีกคนได้แม้แต่น้อย

ชายหนุ่มหลับตา ล่องลอยไปกับความรู้สึกทั้งหลายที่มี  เมื่อเขาดื่มด่ำไปกับมัน ร่างกายส่วนล่างของเขาก็ขยับเบาๆ สวนเข้าหาโพรงปากของอีกฝ่ายตามสัญชาตญาณ และความต้องการในโค้งสุดท้ายก่อนการปลดปล่อย   อีกคนก็ดีเหลือใจ...เพราะเมื่อได้แปลความหมายของการตอบสนองของเขาจนเข้าใจ ก็ทั้งเลียทั้งดูดน้องชายของเขาหนักข้อขึ้นไปอีก ตัวตนที่เบาบางดั่งปุยเมฆของเขาล่องลอยขึ้นที่สูง เสียจนทำให้เขารู้สึกเปรมปรีดิ์ไม่มีใดเปรียบ

จนในที่สุด...เขาก็ร้องครวญครางออกมาด้วยความสุขสมอย่างสุดเสียง “..อ๊ะห์......ผมไม่ไหวแล้วฮะ!!!.............ฮ่าห์......อ้าห์!!!!!!...” หลังจากชายหนุ่มได้ปลดปล่อยส่วนหนึ่งของตัวเขาออกมา อีกฝ่ายก็กลืนกินทุกๆหยาดหยดลงไป ราวกับไม่อยากปล่อยให้ตัวตนของเขาสูญหายโดยไม่จำเป็น

สิ่งแรกที่หนุ่มน้อยเห็นเมื่อแรกลืมตา คือใบหน้าอันหมดจดงดงามที่รื้นเหงื่อ และขึ้นสีแดงระเรื่อตามธรรมชาติของอีกคน  ซึ่งในเวลานี้ กำลังนอนพังพาบทาบอยู่บนหน้าขาของเขา โดยในมือข้างหนึ่ง...ยังไม่ยอมปล่อยน้องชายของเขาให้ห่างไปไหน  คนโตเอ่ยเบาๆอย่างชอบใจ พร้อมส่งแววตาขี้เล่นและเป็นกันเองมาให้  “เธอรู้ไม๊ ว่าเธออร่อยไปหมดทั้งเนื้อทั้งตัวเลยล่ะ....แต่คืนนี้ ยังอีกยาวไกล และเราเพิ่งเริ่มต้นกันเท่านั้น... ชั้นต้องทำให้เธอพร้อมยิ่งกว่านี้...”
.
.
สายตาสุกใสของอีกฝ่ายเลื่อนหลบจากตาเขา เพื่อหันไปมองน้องชายของหนุ่มอ่อนวัยซึ่งกลับมาคึกคักอีกครั้ง ทั้งที่เพิ่งยุติศึกแรกลงไปหมาดๆ  “...หึ หึ...สงสัยจะไม่ต้องแล้วล่ะมั้ง...
.
.
...นี่แหละน้าาาา คือเหตุผลว่าทำไมชั้นถึงชอบมีเซ็กส์กับเด็กหนุ่มๆ  เพราะพวกเธอ แข็งแรงอย่างกับอะไร”

ชายหนุ่มเอ่ยอ้อมแอ้มพลางบอกอย่างอายๆ ซึ่งการกระทำแบบนั้น สร้างความรู้สึกเอ็นดูให้กับผู้ฟังได้เป็นอย่างดี  “คือ...คุณเซ็กซี่มากเลยฮะ ผมเลย...     

คนโตกว่าอดใจไม่ไหว เลยยอมเสียมารยาทพูดแทรกอย่างเย้าๆออกมาทันที  “หึ หึ...เธอเลยตั้งโด่ขึ้นมาอีกรอบ เพราะเห็นชั้นช่วยตัวเอง ระหว่างที่ใช้ปากให้เธออย่างนั้นน่ะเหรอ?”

ชายหนุ่มรับคำอย่างซื่อๆ “ฮะ”

คนฟังที่ชอบอกชอบใจกับรูปร่างหน้าตา และกิริยามารยาทของอีกฝ่ายอยู่เป็นทุนเดิม ก็ยิ่งหลงเสน่ห์ในความน่ารักซื่อใสของชายหนุ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนต้องออกปากชม “หึ หึ น่ารักจริงๆ  งั้นชั้นขออะไรอย่างนึงได้ไม๊?” เมื่อพูดจบ ร่างบอบบางก็เอื้อมไปคว้าหลอดเจลหล่อลื่นติดมือมา แล้วค่อยๆคลานกลับขึ้นมานั่งลงตรงหน้าท้องแข็งแกร่งของอีกฝ่ายระหว่างรอคำตอบ

ด้วยความไม่แน่ใจ หนุ่มน้อยเลยถามเพื่อขอให้อีกฝ่ายอธิบายเพิ่มเติม “อะไรเหรอฮะ?” พอเห็นว่าอีกฝ่ายดูไม่ต่อต้านกับการสัมผัสของเขาก่อนหน้านี้ ชายหนุ่มเลยส่งสองมือไปลูบไล้ผิวเนียนละเอียดของร่างอ้อนแอ้นดูบ้าง

คนพูดเอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงาน  บนใบหน้าน่ามองนั้น ไม่เหลือเค้าของอาการทีเล่นทีจริงอีกต่อไป เสียเล็กๆบอกอีกฝ่ายว่า  “ไม่ว่าชั้นจะร้องครวญคราง หรือดูเจ็บปวดมากแค่ไหน... ชั้นขอให้เธออย่าหยุดเป็นอันขาด  เธอต้องใช้แรงทั้งหมดที่เธอมี  กระแทกเข้ามาในตัวชั้นให้หนักๆ และให้ลึกที่สุด ราวกับอยากให้ร่างกายของเราหลอมรวมกันเป็นร่างเดียว... ชั้นอยากให้เราเอากัน โดยคิดซะว่า คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่เราจะมีชีวิตอยู่  ชั้นอยากได้ตัวตนของเธอทั้งหมด...
.
.
...เท่านี้แหละที่ชั้นอยากจะขอจากเธอ...
...เธอจะรับปากชั้นได้ไม๊?”

หนุ่มน้อยยิ้มกว้างอย่างจริงใจ ราวกับสิ่งที่เพิ่งได้ยินไปนั้น เป็นคำอวยพรจากสวรรค์ก็ไม่ปาน  เขาตอบอีกฝ่ายออกไปโดยไม่เสียเวลาใคร่ครวญ “ได้ฮะ...ต่อให้คุณไม่ขอ ผมก็จะทำให้คุณเพื่อให้คุณมีความสุขที่สุดอยู่แล้วฮะ” เวลานี้ เขาวางมือข้างหนึ่งลงบนแก้มใส คล้ายกับต้องการจะเรียกความสนใจทั้งหมดของอีกฝ่ายให้เทลงมาที่เขาเพียงคนเดียว

คนโตแสยะยิ้มอย่างขมขื่น เพราะข้อความที่ได้ยิน...ฟังดูคุ้นหูราวกับเพิ่งเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน... หากแต่ถ้อยคำนั้น สำหรับเขาแล้ว แท้จริงมันคือการหลอกหลอนของวันวาน มันคือความทรงจำที่หอมหวานอันปวดใจ  “หึ...ก็มันเป็นหน้าที่...

ชั่วพริบตาหลังจากประโยคที่เย้ยหยันชะตาตัวเองของอีกฝ่ายลอยลมมาเข้าหู  ชายหนุ่มก็ยกตัวท่อนบนเปลี่ยนเป็นท่านั่ง แล้วเอาแขนข้างหนึ่งโอบเอวบางของอีกฝ่ายเอาไว้โดยไม่คิดจะปล่อยให้หลุดมือไปไหน ส่วนมืออีกข้าง ถูกส่งมาในรูปของปลายนิ้ว ประกบลงตรงริมฝีปากอูมเต่งคล้ายกับไม่อยากได้ยินถ้อยคำใดของอีกฝ่าย “ชู่วววว์!!

คนร่างเล็กมีสีหน้างุนงงอย่างเห็นได้ชัด สายตาทั้งสองข้างบ่งบอกให้อีกฝ่ายได้รับรู้ว่า เสียงร้องท้วงกำลังดังก้องอยู่ภายในแผ่นอกแบบบางนั่น  แต่ชายหนุ่มกลับไม่ใส่ใจ เขายังคงเดินหน้าบอกอีกฝ่ายให้รับรู้สิ่งที่อยู่ภายในใจ   “ผมไม่เคยออกไปกับลูกค้าคนไหน ทั้งที่แขกเหล่านั้น เคยเสนอค่าออฟตัวผมมากกว่าคืนนี้เป็นสิบๆเท่า...
.
...ชีวิตนี้ ผมไม่เคยรักใครมาก่อน...
...และใช่ฮะ ผมไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายคนไหน และไม่คิดว่าตัวเองจะต้องมามีอะไรกับผู้ชาย แม้หลายครั้ง ลูกค้าที่ผมต้องดูแล จะเป็นผู้ชายก็ตามที...
.
.
...แต่ตั้งแต่เจอคุณ  ทุกๆเงื่อนไข...
...ทุกๆความผิดถูกใดๆในชีวิต กลับไม่มีความหมายอีกต่อไป...
...เพราะความสุขของคุณ คือสิ่งเดียวที่ผมอยากจะเป็นคนมอบให้ ด้วยสองมือของผมเอง...
.  
.
...ได้โปรดรับรู้เอาไว้นะครับว่า ถ้าไม่ใช่คุณ...ผมคงไม่มีวันมานั่งอยู่ตรงนี้...ที่นี่...เวลานี้...เพื่อทำอะไรแบบนี้กับชายอื่นคนไหนที่ไม่ใช่คุณอย่างแน่นอน...
...ผมยินดีทำทุกอย่างเพื่อให้คุณมีความสุขฮะ  เพราะผม.......
.
... ผม.. รักคุณ

ดวงตาของคนที่นั่งอยู่ในอ้อมกอดแน่นหนาของชายหนุ่มเบิกกว้างอย่างไม่เชื่อหูตัวเองกับสิ่งที่เพิ่งได้ยิน  เพราะเขาไม่เคยคิดว่า จะได้ยินการสารภาพรักจากชายหนุ่มผู้นี้... ชายผู้มีเสน่ห์ล้นเหลือ ชายผู้เป็นที่หมายปองของทุกๆคนที่มีโอกาสได้เห็นเขาแค่เพียงแว่บเดียว  ที่สำคัญ...เขาไม่คิดว่าจะได้ยินมัน ต่อหน้าต่อตาตัวเอง เพราะเขาไม่มีดีอะไร...นอกจากเงินในกระเป๋า ที่ทำให้ชีวิตของใครหลายๆคนสบายขึ้นได้อย่างหน้ามือเป็นหลังมือ

คนโตกว่าสะบัดหน้าออกจากปลายนิ้วที่ปิดกั้นริมฝีปากของตนเองอยู่ แล้วเถียงออกมาตามความรู้สึกต่อต้านภายใน “นี่เธอกำลังเล่นตลกอะไรของเธอ???!!...
.
.
...ชั้นไม่เชื่อหรอกว่า โฮสต์เบอร์หนึ่งอย่างเธอจะคิดสั้นด้วยการมารักใคร่ใฝ่หาคนอย่างชั้นได้ลงคอ...
...ไม่มีทางที่คนอย่างเธอ กับเกย์แก่ๆที่ไม่เป็นที่ต้องการของใคร หากไร้เงินเป็นอำนาจต่อรองในมืออย่างชั้น จะรักกันได้หรอก!!!

ชายหนุ่มเม้มริมฝีปากแน่นราวกับต้องการยั้งความต้องการที่จะทุ่มเถียงกับอีกฝ่าย ซึ่งกำลังร้อนเป็นไฟในยามนี้  เขาแย่งเอาหลอดเจลในมือเรียวเล็กมาโดยง่าย ระหว่างตอบ “คุณจะไม่เชื่อสิ่งที่ผมบอกคุณก็ได้...แต่คุณจะไม่มีทางปฏิเสธความรู้สึกที่คุณจะได้รับผ่านทางร่างกายผมได้แน่ๆ”  เมื่อเขาพูดจบ ก็เป็นจังหวะเดียวกันกับการเตรียมการของทั้งตัวเขา และอีกฝ่ายสิ้นสุดลงพอดี เขาใช้แขนข้างหนึ่งกดแผ่นหลังของอีกฝ่ายให้เอนซบลงมาบนตัว แล้วจัดท่าให้ส่วนเชื่อมต่อระหว่างเขาและร่างบางประสานกันพอดี ก่อนกระเด้าบั้นท้ายโด่งขึ้นเพื่อกดส่วนยอดลำให้ล่วงผ่านเข้าร่างกายของอีกฝ่ายทันที

ร่างบางที่ไม่รู้ความเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายล่วงหน้า ถึงกับร้องเสียงหลงออกมาด้วยเพราะการเติมเต็ม และความเสียดเสียวภายในร่างกายที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน จนไม่ทันเตรียมตัวรับมือ อีกฝ่ายก็ตอบรับความแนบแน่น จากด้านในช่องทางที่ร่างบางเปิดรับ ด้วยเสียงครางต่ำๆอย่างพึงพอใจ “...ฮ๊าาาาาาห์....อ๊าห์........../.....ฮื่มมมมมม.............

พอรู้ว่าคนโตกว่าไม่ระวัง หรือขัดขืนใดๆ ชายหนุ่มก็ใช้สองมือสอดเข้าใต้วงแขนของคนบนร่าง แล้วยกตัวบางๆขึ้นเหนือพื้นก่อนจะกดหัวไหล่ลง เพื่อให้ช่องทางด้านล่างสวมลงบนแก่นกายร้อนๆของเขาทั่วทั้งแท่ง “อ๊าาาาาาาาาห์!!!” ร่างบอบบางถึงกับกรีดร้องออกมาด้วยความเสียวซ่านอย่างที่สุด เมื่อรับรู้ถึงการเติมเต็มแบบฉับพลัน และแน่วแน่ของอีกคน

ริมฝีปากของชายหนุ่มกระซิบคาดคั้นอีกฝ่ายเพื่อให้ตอบคำถามที่ยังค้างคา “รู้รึยังฮะ ว่าผมรักคุณมากแค่ไหน?” สิ้นถ้อยคำ แขนทั้งสองข้างก็ทำท่าจะยกร่างเล็กขึ้นอีกครั้ง หากแต่ครั้งนี้...อีกฝ่ายที่คร่อมเหนือกล่องดวงใจของเขา กลับโหย่งตัวขึ้นแล้วขย่มลงมาโดยไม่ต้องชี้นำ ดวงตาฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำตาแห่งความเอมใจหล่อเลี้ยงให้ดวงแก้วสีดำขลับดูสุกใสยิ่งกว่าทุกคราว ลูกแก้วทั้งสองจับจ้องเข้าไปในดวงตาคมของชายหนุ่ม  สายตาของคนทั้งคู่ประสานกัน โดยไม่ทิ้งให้อีกฝ่ายต้องรู้สึกเดียวดายในยามที่กายหลอมรวมเป็นหนึ่ง

อาจเป็นเพราะท่าทางการร่วมรัก หรือ อาจเป็นด้วยขนาดอันน่าตื่นตะลึงของชายหนุ่ม...  ที่ทำให้ความเป็นชายของผู้ด้อยอาวุโสบุกรุกเข้าถึงพื้นที่ล้ำลึก ยิ่งกว่าที่คู่นอนคนใดเคยล่วงผ่าน ร่างบอบบางส่งเสียงร้องอย่างสมใจทุกๆครั้งที่ตนเองยกบั้นท้ายนวลเนียนขึ้น ก่อนจะทิ้งตัวนั่งทับลงกลับที่เดิม โดยยังมีชิ้นส่วนของร่างกายชายหนุ่ม หยั่งแกนลึกฝังเข้าตรงใจกลางลำตัว  “....อ๊าาาาาาาห์......ฮ๊าห์..........ฮื๊อออออ..............ฮื่ออออออ........

แม้บทรักจะหนักหน่วงและเร่งเร้ามากสำหรับมือใหม่ หากแต่เพื่อแสดงออกทางความรักที่ชายหนุ่มมีต่อชายสูงวัย เขากลับไม่ยอมปล่อยตัวเองไปกับความรู้สึกสุดยอดที่กำลังโอบล้อมอวัยวะแห่งความเป็นชายของเขาเอาไว้  เขาพร่ำบอกอีกคนผ่านถ้อยคำที่หนักแน่น ไม่ต่างไปจากภาษากายซึ่งกำลังสอดกระหน่ำสวนการกระหนาบรอบทิศทางของช่องทางเรียบลื่นด้านใน  “ผม....ฮื่มมม.......รัก...........ฮ่าห์.....คุณ.......รู้สึกไม๊ฮะ?”

“....อื๊ออออ...............อ๊ะห์.................ฮ๊าาาาาาาห์.....    เจ้าของร่างบอบบางอันเป็นที่รักของเขา ทำได้เพียงแค่ส่งเสียงครางอย่างพึงพอใจออกมาเพียงเท่านั้น เวลานี้ ถ้าแค่มองจากสิ่งที่สะท้อนออกทางสีหน้า และแววตาของอีกคน...เขารับรู้ได้แค่ว่า ชายผู้ที่เขาหลงรักนั้น กำลังแหวกว่ายอยู่ในมหาสมุทรแห่งความใคร่อย่างเป็นสุขเหนือจินตนาการ  

แต่ที่ดียิ่งไปกว่านั้น... การตอบสนองอย่างซื่อตรงภายในร่างกายของอีกฝ่าย บอกให้เขารู้อีกอย่างว่า คนที่เขารักได้เปิดรับความรู้สึกอันท่วมท้นของเขาเป็นที่เรียบร้อย เพราะทุกครั้งที่คำว่ารักถูกเปล่งออกจากริมฝีปากเขา ด้านในลำตัวของผู้อาวุโสมากกว่าก็บีบรัดแก่นกายของเขาแน่นเหมือนกับไม่อยากจะปล่อยให้ห่างไป จนเขาพลอยต้องสูดลมหายใจเข้าหลายๆครั้งติดๆกัน เพื่อผ่อนไม่ให้ริ้วความกระสันที่แล่นขึ้นจากท้องน้อย ทำให้เขาต้องเสร็จสมอารมณ์หมายไปอีกรอบ

ร่างเล็กขย่มลงมาเป็นจังหวะ ทุกๆครั้งที่ร่างกายเปราะบางราวแก้วนั้นครอบลงบนแกนรักของเขาโดยสมบูรณ์แบบ ริมฝีปากสีแดงนั่นก็จะออกคำสั่งเพื่อเผยความต้องการที่รุมเร้าอยู่ภายในของเจ้าตัวทีละคำ ทีละคำอย่างช้าๆ และชัดๆ “รัก...ชั้นให้.....ฮ๊ะห์.....แรงกว่านี้!!

“...ได้ฮะ.........ฮื่มมมมม............ เขารับปากอย่างเต็มใจ เพราะนั่น คือ สิ่งที่เขายินดีจะทำให้อีกฝ่ายอยู่เสมอ แม้อีกฝ่ายจะไม่เอ่ยขอ

เขาสอดแขนทั้งสองข้างเข้าใต้วงแขนเพรียว  ใช้ฝ่ามือล็อคหัวไหล่ทั้งสองเอาไว้แน่น เพื่อประคองร่างที่ขย่มลงมาให้ไม่ล้มเป๋ไปเสียก่อน ซึ่งมันยังช่วยให้ตัวเขาสามารถกะจังหวะในการยกบั้นเอวของตนกระแทกขึ้นประกบกับฐานรักของอีกฝ่ายได้พอดีกับการทิ้งตัวใส่ตามแรงโน้มถ่วงใส่กึ่งกลางตัวเขา เนื้อนิ่มๆขาวๆกระทบเข้ากับหน้าขาแข็งแกร่งของชายหนุ่มส่งเสียงดังชวนให้ต้องรู้สึกกระดากอาย

แต่เสียงอันหยาบโลนของเนื้อชนเนื้อ นับว่ายังน้อย...หากเทียบกับเสียงครางหวานๆของฝ่ายที่อยู่ด้านบน ที่ดังสอดประสานกับเสียงครางต่ำฮึมฮัมในลำคอของชายหนุ่ม ผนวกเข้ากับเสียงสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นของขาเตียง ที่ดังสอดรับกับทุกๆการเคลื่อนไหวของคนทั้งสอง “....ฮ๊าหห์.....อ๊าห์.........อ๊ะห์....อ๊ะห์....อ๊าห์.../....เรียกชื่อผมซิ เรียก!!! /....น็อต.......น็อตตตตต.......ฮ๊าห์..........

“...ดีฮะ...น่ารักมาก....ฮะ.....” ชายหนุ่มชื่นชมอีกฝ่ายออกมาอย่างชอบใจ หลังจาก...ทั้งสองส่งทุกภาษาที่เขาทั้งคู่สามารถตอบโต้กันได้อย่างเข้าใจออกมาให้อีกฝ่ายได้รับฟัง...

...ภาษาพูดที่ขับขานดั่งท่วงทำนองอันไพเราะในใจของชายหนุ่ม ทุกเมื่อที่มันเปล่งออกมาจากปากเล็กๆเป็นชื่อของเขา...
...หรือจะเป็นการพูดจา ที่ฟังไม่เป็นภาษาของทั้งสองฝ่าย ยามที่ความกระสันเข้าครอบงำทุกๆส่วนของร่างกาย...
...หรือภาษากาย ที่รุกเร้า โรมรันพันตูกันอย่างไม่มีใครยอมใคร...

เมื่อชายหนุ่มรู้สึกว่า ร่างบางเริ่มไร้เรี่ยวแรงในการยกตัวขึ้นจากพื้น เขาก็ดันร่างเหลวๆให้นอนราบลงกับที่นอน ก่อนจะเปลี่ยนฝ่ายยืนด้วยเข่า แล้วเอาเรียวขางามข้างหนึ่งพาดบ่าเอาไว้ ก่อนจะซอยบั้นท้ายอัดชำแรกถี่ขึ้นเรื่อยๆ เพื่อตอบโต้กับความสุขสันต์ที่อีกฝ่ายมอบให้ผ่านการตอดรัดอย่างบ้าคลั่งอยู่ภายใน   ”...ฮื่มมมมมม......ผมจะรัก.....คุณแรงๆเลย......ฮะ.............อาห์.......

จากการสังเกตอากัปกิริยาของร่างบอบบาง เขาก็พอรู้ได้ว่า อีกฝ่ายกำลังใกล้จะถึงที่หมายเต็มที  มือเรียวที่ขยุ้มผ้าปูที่นอนจนยับไม่เหลือชิ้นดี ลมหายใจหนักๆขาดเป็นห้วงๆ ร่างกายท่อนบนแอ่นจนต้องใช้ท้ายทอยและคอรับน้ำหนัก ใบหน้าขาวอมชมพูหงายเริ่ดและส่ายไปมาระหว่างที่ริมฝีปากขับขานชื่อของเขามิได้ขาด และที่จะลืมไปไม่ได้...ช่องทางที่น้องชายของเขาเสียดสีอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่นั้น ก็กำลังบีบรัดแก่นกายของเขา จนความรู้สึกเสียวสยิวโจมตีชายหนุ่มอย่างทารุณ  “อ๊าห์....น็อต....น็อต.....น็อตตตตตต...” 

เขาเร่งสาวบั้นเอวเข้าออกลึกสุดลำ สลับกับกระหน่ำแทงเข้าใจกลางเป้าจุดกระสันแบบไม่มีบันยะบันยัง เพราะรู้แก่ใจว่า ปลายจมูกของเขากำลังแตะโดนเส้นชัยเข้าให้แล้ว...
.
.
...และเขาก็ส่งให้อีกฝ่ายผ่านเข้าเส้นไปก่อนจนได้ เมื่อนั้น...เขาจึงปล่อยให้ตัวเองลอยล่องอย่างยินดี อยู่ในสายนทีแห่งสรวงสวรรค์โดยไม่คิดต่อต้านหรือขัดขืนตามชายผู้เป็นที่รักไปติดๆ “...น็อต น็อต น็อต.... ฮ๊าห์........น็ออออออตตตต!!! /......ขนุน.......ขนุน.......ฮื่มมมมม.........ฮ่าห์...................”


๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐



เสียงเล็กๆของขนุนดังทำลายความเงียบระหว่างช่วงพักยกแรกของเราในค่ำคืนนี้   หึ หึ...ฟังจากหางเสียงผมก็รู้เลยว่าอีกฝ่ายกำลังหัวเสียเอาเรื่อง “น็อต...เราไม่ได้คุยกันว่าเรื่องที่เราจะลองเล่นมันจะเป็นแบบนี้นี่นา...  
.
.
...ฮึ!! อย่างนี้ขนุนก็ไม่ได้ทดลองความรู้สึกของตัวละครนายเอกที่มีบาดแผลฉกรรจ์จากการผิดหวังในความรัก แล้วต้องมาใช้ร่างกายของพระเอกในการบำบัดความใคร่กันพอดีน่ะสิ  ทีนี้...ขนุนก็จะไม่เห็นความแตกต่างของอารมณ์ระหว่างการมีเซ็กส์ ก่อนและหลังที่ตัวละครทั้งสองรักกันพอดีน่ะสิ”

ผมคว้าบุหรี่ขึ้นมาแล้วคีบเอาไว้ตรงหว่างนิ้ว พลางส่งสายตาคล้ายกับจะถามความเห็นของคนที่ผมตระกองกอดเอาไว้แนบอก ระหว่างที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่ด้วยกัน... ที่ต้องขออนุญาตอีกฝ่าย เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกหิวบุหรี่อย่างที่สุด ไม่ใช่เพราะความอยากหลังเซ็กส์ หากแต่เพราะความเครียดที่สะสมมาตั้งแต่หลังเหตุการณ์ไม่เป็นใจทั้งหลายเมื่อเช้า และสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้ต่างหาก

ขนุนไม่ได้ตอบอะไร หากแต่ลุกขึ้นแล้วเดินนวยนาดออกจากเตียงมุ่งหน้าไปที่โต๊ะเยื้องๆกับประตูห้องน้ำ ผมเลยตอบคำถามเมียไปพลางๆด้วยน้ำเสียงไม่ยี่หระเท่าไรนัก ทั้งที่ในใจกำลังกังวลอย่างที่สุด  “ยังไงอ่ะฮะ...ก็บทที่ขนุนบอกว่าให้เราลองเล่นดู มันก็เป็นบทของพระเอกกับนายเอกที่มีอะไรกันเป็นครั้งแรกไม่ใช่เหรอฮะ...เราสองคนก็เพิ่งจะมีเซ็กส์กันไปแบบที่ขนุนบอกบทคร่าวๆเอาไว้ ไม่ใช่เหรอฮะ?”

ร่างเปลือยของเมียที่กำลังยืนหันหลังให้ผม ยังไม่วายส่งเสียงต่อว่า  “เรื่องเซ็กส์น่ะมันใช่ แต่ในโครงเรื่องนิยายของขนุนมันก็บอกอยู่แล้วว่า พระเอกต้องสะกดกลั้นความรักเอาไว้ ไม่ยอมเผยความรู้สึกในใจกับนายเอกในเซ็กส์แรกหนิ...
.
.
...น็อตนี่ล่ะก็ ขนุนบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่า ไอ้ที่เราลองสมมติเล่นกันไปเมื่อครู่น่ะ คือคืนแรกที่สองคนนั้นได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างสนิทสนมถึงเนื้อถึงตัว  ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น...มันเป็นช่วงเวลาที่พระเอกจะได้เรียนรู้ว่า อะไรที่ทำให้ จู่ๆ นายเอกกลับกลายมาเป็นพวกที่มีเซ็กส์กับผู้ชายไม่เลือกหน้า ทั้งที่เมื่อก่อนนายเอกเป็นคนรักมั่นแท้ๆน่ะ...
.
...ขนุนอุตส่าห์เสนอโครงเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะคิดว่า นอกจากจะได้เข้าใจขบทได้ดีขึ้นแล้ว ขนุนจะได้หัดการเป็นคนเปิด และคุมเกมเซ็กส์ระหว่างเราไปด้วยไปในตัวยังไงล่ะ...
...แล้วดูน็อตทำเข้าสิ...เปลี่ยนเนื้อเรื่องเอาตามใจอีกแล้ว”  

แม้ผมจะตั้งใจรับฟังการตัดพ้อของเมียอย่างไม่มีตกหล่น หากแต่สายตาผมกลับเพลิดเพลินไปกับการไล่มองเรือนร่างขาวสว่างเมื่อโดนแสงไฟสลัวๆตกกระทบมากเหลือเกิน

...คิดอยู่แล้วเชียวว่าขนุนต้องติดใจเรื่องนี้...
...มันก็เป็นเพราะผมเองนี่แหละฮะ ที่ป๊อดเสียจนไม่กล้าบอกความรู้สึกจริงๆที่ผมมีต่อเจ้าตัว เลยต้องแอบเอาสิ่งที่อัดอั้นตันใจจวนจะระเบิดอยู่ภายในออกมาเผยให้อีกฝ่ายได้รับรู้  ระหว่างที่เราทั้งคู่มีเซ็กส์กันตามบทบาทสมมติ อ้างอิงจากโครงเรื่องนิยายที่ขนุนวางแผนจะแต่งในอนาคตอย่างเมื่อกี๊...   
.
.
...หึ หึ...ผมมันกลายเป็นพวกน่าสมเพชอย่างเต็มตัวไปแล้วใช่ไหมล่ะฮะ?? 
...ถึงอย่างนั้น...สิ่งเดียวที่ผมต้องทำอย่างเร่งด่วนในเวลานี้ คือ ทำอย่างไรก็ได้ ให้สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเซ็กส์อันเร่าร้อนเมื่อครู่ กลายเป็นเพียงเรื่องไม่ควรต้องเก็บเอามาใส่ใจ

เพื่อไม่ให้ขนุนอารมณ์เสียกับการต้องรอคำอธิบายถูลู่ถูกังของผมมากไปกว่านี้  ผมเลยเลือกที่จะเบี่ยงประเด็น ทั้งที่ตัวเองเป็นคนทำลายความตั้งใจเดิมของอีกฝ่ายเสียย่อยยับ “แหม่...ขนุนล่ะก็  งั้นน็อตถามหน่อยฮะ ว่าเรื่องนี้จบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งรึเปล่า?”

“อื้อ” เมื่อพูดจบ เมียผมก็เดินทอดน่องกลับมาที่เตียงพร้อมกับที่เขี่ยบุหรี่ และไฟแช็คในมือ พลางยิ้มน้อยๆให้ก่อนจะค่อยๆหย่อนตัวลงนั่งตรงที่เดิมที่ยังมีความอบอุ่นของร่างกายน่ามองนั่นประทับเอาไว้จางๆ... คนอะไรจะน่ารัก และช่างเอาใจผมไปเสียทุกอย่างได้มากแบบนี้กัน??!

ผมโอบวงแขนกวาดร่างอ้อนแอ้นน่ากอดของเมียกลับเข้ามาซบลงตรงหน้าอก แล้วตอบโดยพยายามกลบเกลื่อนอาการลุกลี้ลุกลน และสายตาหลุกหลิกไม่อยู่นิ่ง ซึ่งเกิดจากมวลมหาความกังวลที่ถาโถมอยู่ภายใน “ถ้างั้น...มันจะผิดอะไรล่ะฮะ ถ้าพระเอกเฉลยความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อนายเอกมันซะตั้งแต่คืนแรกที่นอนด้วยกัน  อีกอย่าง น็อตว่า...มันทำให้เซ็กส์เยี่ยมยอดยิ่งกว่าการมีอะไรกันโดยที่ต้องเก็บซ่อนความรู้สึกดีๆที่มีต่ออีกฝ่ายเอาไว้อีกนะฮะ”

ขนุนหันหวับกลับมามองหน้าผมอย่างตั้งใจทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่ผมเพิ่งหลุดปากพูดออกไป “หืมมมม? เมื่อกี๊น็อตว่าไงนะ?”

...นั่นไง! เอาอีกแล้วสิกู!!!
...ผมเพิ่งจะรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เรื่องก็ตอนนี้แหละฮะ ด้วยความที่ผมมีเรื่องหนักหนาคาใจอยู่แน่นอก ทำให้ผมไม่อาจจะโฟกัสกับการกลบเกลื่อนความจริงที่ผมตั้งใจเอ่ยออกไปให้อีกฝ่ายได้รับฟัง ผลก็เลยออกมาในรูปคำพูดที่แหว่งๆ เว้าๆ ขาดๆ เกินๆ และก็ค่อนข้างเป็นอันตรายต่อตัวเองมากยิ่งกกว่าครั้งไหนๆ


ในเมื่อความพยายามที่จะพูดจากลบเกลื่อนล้มเหลวไม่เป็นท่า เห็นทีผมคงต้องปิดเรื่องนี้ให้ลงผ่านตัวช่วยเล็กๆน้อยๆเป็นการลวนลามร่างกายน่ากอดก่ายในอ้อมอกเสียแล้วสิ “(ฟอดดดดดดด) ..อ่อ...ปละ เปล่าฮะ...ขนุนอย่าไปติดใจเรื่องที่น็อตเล่นนอกบทเล็กๆน้อยๆเมื่อกี๊เลยฮะ (จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ) น็อตก็แค่อินกับบทมากไปหน่อย เลยเผลอเล่นเกินจริงมากไป (จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ)” ผมจูบเบาๆทั่วทุกส่วนบนหน้าขนุนด้วยความรักใคร่ และเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ

คนในอ้อมกอดส่งยิ้มชื่นใจกลับคืน พลางจุดไฟยื่นมาให้ตรงหน้าเพื่อเป็นสัญญาณว่า บุหรี่ในมือท่าน...เผามันในปอดท่านเถอะครับ ผมคาบบุหรี่เอาไว้ในปาก แล้วโน้มตัวเข้าไปหาเปลวไฟ พลางจ้องใบหน้าเล็กๆที่ผมรักนักรักหนาในขณะที่เจ้าตัวกำลังทำท่านึกอะไรบางอย่าง ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเปี่ยมสุข “อืมมม...จะว่าไป ขนุนชอบตอนที่เรามีเซ็กส์กันเมื่อกี๊นะ...
.
.
...มันรู้สึกดีมากกว่าทุกครั้งที่เราทำกันเลยน่ะ...
...ขนุนรู้สึกราวกับว่า ความรู้สึกนึกคิดของตัวละครทั้งสองที่เราเล่นด้วยกัน มันส่งผ่านมาถึงขนุนด้วยยังไงก็ไม่รู้ล่ะ...น็อตล่ะ เป็นมะ?” ขนุนเงยหน้าแล้วจ้องมองควันที่ถูกพ่นออกมาเป็นสายจากโพรงจมูกของผม

...หรือสิ่งที่ผมเพิ่งจะได้ยินจบไปนี่ คือการบอกใบ้อย่างอ้อมๆจากเจ้าตัว เพื่อให้ผมได้ล่วงรู้ว่า สมควรแก่เวลาแล้ว ที่ผมควรจะเอ่ยความในใจของผมให้หมดจากใจเสียที???!!
.
.
.
...ไม่ดีกว่า!  ผมอยากจะแน่ใจเกี่ยวกับความรู้สึกของขนุนให้มากกว่านี้ก่อน เพราะฉะนั้น...ทางที่ดี ผมไม่ควรบุ่มบ่ามลงมือทำอะไรนอกเหนือไปจากแผนที่วางเอาไว้อย่างรัดกุม  โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ สมองไม่โล่ง และมือเย็นด้วยความตื่นเต้นอยู่แบบนี้
.
.
.
.
.

ผมนิ่งไปนาน พลางอัดบุหรี่เข้าในปอดคำโต ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ที่เคลือบเอาทุกความรู้สึกซ่อนเร้นเอาไว้ภายในเป็นอย่างดีแล้ว  “ขนุนฮะ...น็อตว่า  เรามาลองเป็นแฟนกันเถอะฮะ”

ร่างบอบบางในอ้อมอกถึงกับดีดตัวขึ้นนั่ง แล้วหันหน้ากลับมามองผมอย่างเต็มตา เสียงเล็กๆบอกความไม่ปกติของเจ้าตัวด้วยการขึ้นหางเสียงสูง และเปล่งออกมาดังกว่าที่ควรจะเป็น “เอ๋??? น็อตว่าอะไรนะ?”

ผมอัดบุหรี่เข้าปอดอีกครั้ง ขยี้ก้นกรองลงกับที่เขี่ยบุหรี่เพื่อดับไฟ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาตรงๆเข้าในดวงตาเบิกกว้างของอีกฝ่ายซึ่งจับจ้องใบหน้าผมอยู่ไม่หนีไปไหนตั้งแต่เมื่อประโยคที่แล้วของผมสิ้นสุดลง  “น็อตว่า... เรามาลองเป็นแฟนกันดูเถอะฮะ...
.
...น็อตเก็บเอาเรื่องที่เราคุยกันเมื่อวานไปนอนคิดมาทั้งคืน มันทำให้น็อตเล็งเห็นความจริงข้อนึงที่ว่า เวลานี้ ขนุนยังไม่รู้อะไรอีกหลายอย่างที่สำคัญ และจำเป็นกับการมีความรักที่สมบูรณ์...  
...เท่าที่ฟังขนุนเล่ามาเมื่อคืน  น็อตสรุปได้เลยว่า... 
...ขนุนไม่รู้ว่า...เวลารักใคร ขนุนจะคิดแบบไหน  มีการเปลี่ยนแปลงด้านอุปนิสัยยังไง หรือ รู้สึกอะไรรุนแรงเป็นพิเศษหรือไม่...   กระทั่งว่า...จะหึงบ้างรึเปล่า...ขนุนเองก็ยังไม่รู้...  
...ในความคิดน็อต ดูเหมือนว่า ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ขนุนคิดเผื่อเอาไว้ก่อนด้วยตัวเองแทบทั้งนั้น...
.
...ถ้ามีแฟนขนุนจะเป็นอย่างนั้น ถ้ามีแฟนขนุนจะไม่หึงเพราะไม่ชอบอย่างโน้นอย่างนี้...
...แต่ขนุนยังไม่รู้เลยว่า ในความเป็นจริงแล้ว ขนุนจะทำอย่างที่คิดเอาไว้ได้รึเปล่า...
.
.
...เพราะฉะนั้น เพื่อให้ขนุนได้เรียนรู้ทุกๆขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับความรัก  เรื่องของการสร้างเสริมความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาว ย่อมเป็นสิ่งที่ขนุนไม่อาจหลีกเลี่ยงได้อย่างแน่นอน...  
...น็อตมองว่า ยิ่งถ้าขนุนได้เข้าใจตัวเองในทุกๆด้านได้อย่างรวดเร็ว และถ่องแท้มากเท่าไร  เราก็จะได้รู้จักหลีกเลี่ยง หรือปรับแก้นิสัยที่ไม่ดี ซึ่งขนุนอาจจะเผลอเก็บซ่อนเอาไว้ โดยมันอาจจะเผยธาตุแท้ออกมาทำร้ายขนุนกับว่าที่แฟน เอาตอนที่ขนุนอยู่ในความสัมพันธ์จริงๆจังๆก็เป็นได้...
.
...น็อตเลยอยากให้เราลองมาคบกันเป็นแฟนดูซักตั้ง เพื่อจะได้เรียนรู้ในส่วนลี้ลับส่วนนี้...
...ส่วนที่ยังไม่มีใคร ตอบคำถามเกี่ยวกับความรักภาคปฏิบัติได้มาก่อน...กระทั่งตัวของขนุนเอง...
...ขนุนว่ายังไงฮะ?”

ขนุนทำหน้าเหมือนไม่เชื่อหูตัวเอง  ฝ่ามือเล็กๆถูกยื่นออกมาด้านหน้าลำตัวเพื่อสั่งให้ผมหยุด พร้อมๆกับคำพูดที่สอดคล้องกับท่วงท่าเป็นอย่างดี ”เดี๋ยวนะน็อต!!...
.
...น็อตกำลังจะบอกว่า ที่เราตกลงคบกันนี่  เพราะมันเป็นแบบฝึกหัดหนึ่งที่เราควรทำร่วมกัน ก่อนขนุนจะเดินหน้าจีบใครซักคนอย่างนั้นน่ะเหรอ?...
...แต่การที่เราจะคบกับใครซักคน หรือ เรียกใครว่าแฟน เราควรต้องเริ่มความสัมพันธ์ในแง่มุมของความรู้สึกดีๆที่มีต่อกันก่อนไม่ใช่เหรอ...
...อยู่ดีๆ จะมาบอกว่า เป็นแฟนกันเหอะเนี่ยะนะ??? มันดูแปลกไปไม๊?”

ดูจากสีหน้าช็อคจนบอกอารมณ์ไม่ถูกของขนุน ผมก็แน่ใจได้ทันทีว่า เจ้าตัวกำลังคาดหวังคำอธิบายดีๆจากผม ก่อนที่จะตัดสินใจแน่ๆ แต่อย่าลืมสิฮะ ว่าผมคิดใคร่ครวญเรื่องนี้มาเป็นเวลาหลายชั่วโมงแล้ว เพราะฉะนั้น...ผมย่อมมีวิธีจัดการขนุนให้อยู่หมัดอย่างแน่นอน

ผมพูดต่อเนิบๆ ไม่รีบร้อน และไม่ลุกลน “ไม่แปลกหรอกฮะ...
...ขนุนเชื่อน็อตซิฮะว่า ถ้าเราสองคนตกลงเป็นแฟนกันจริงๆ มันย่อมจะมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย...
.
.
...ที่แน่ๆ อย่างแรกเลย ขนุนจะได้สัมผัสประสบการณ์ของการมีแฟนอย่างจริงๆจังๆกับเขาซะที...
...อีกอย่าง ถ้าเวลามีใครเข้ามาเกาะแกะขนุน ขนุนจะได้บอกคนอื่นออกไปได้อย่างเต็มปากเต็มคำยังไงล่ะฮะว่า เราสองคนเป็นแฟนกัน ทีนี้นะ...น็อตเอาหัวเป็นประกันเลยว่า จะต้องไม่มีใครอยากจะเข้ามาเกาะแกะหรือแทะโลมขนุนอีกต่อไป เพราะถ้าคนพวกนั้นรู้ว่าเราสองคนเป็นแฟนกันแล้ว... และขนุนมีแฟนน่ากลัวแบบตัวพ่ออย่างน็อต พวกเค้าก็น่าจะเกรงใจและถอยห่างไปเอง
.
.
...เห็นไม๊ฮะ ว่ามันช่วยกันคนที่ขนุนไม่ชอบออกไปให้พ้นๆหน้าได้ง่ายๆ... 
...ดูอย่างวันนี้ซิฮะ...ที่เพื่อนพี่กานต์คนนั้นที่ขนุนไม่ค่อยชอบหน้าเค้ามากดกริ่งหน้าบ้านเพื่อขอเจอหน้าขนุน พอน็อตบอกเค้าไปว่าเราเป็นแฟนกัน...เค้าก็เลิกวอแวถามโน่นถามนี่ถึงขนุนไปเลยล่ะฮะ...
...น็อตเลยบอกว่า การที่เราสองคนเป็นแฟนกันน่ะ มันเวิร์คสุดๆจริงๆนะฮะ”

“...”  ขนุนนั่งนิ่ง...ผมว่าเมียผมคงกำลังอึ้งอยู่น่ะฮะ ถึงได้ไม่ตอบโต้อะไรแม้แต่น้อย ผมเข้าใจเขาถึงแก่นเลยล่ะฮะ และไม่เคืองด้วย หากเจ้าตัวจะแสดงอาการออกมาในรูปนี้  เพราะถ้าเป็นผม...แล้วผมไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนใดๆเลยแม้แต่อย่างเดียว ทั้งที่ผมต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญอะไรสักอย่างแท้ๆ ผมคงต้องบอกศาลาคู่สนทนา เพื่อหลบไปประมวลผลเงียบๆสักพักแน่ๆเลยล่ะฮะ
.
.
แต่ตีเหล็ก มันต้องตีตอนร้อนๆเท่านั้นฮะ เพราะฉะนั้น เพื่อความมึนงงขั้นสูงสุด ผมจะต้องไม่เว้นช่องไฟให้เนิ่นนานจนเกินไปนัก “...เอางี้ฮะ ถ้าขนุนไม่สบายใจ น็อตจะบอกอะไรให้ขนุนรู้ไว้เลยนะฮะ ว่าน็อตน่ะชอบขนุนมากนะฮะ ชอบนิสัย และทุกๆอย่างที่รวมกันเป็นขนุน คือ...น็อตไม่ได้ฝืนใจตัวเองเลยที่เปิดประเด็นเรื่องนี้กับขนุน  เป็นไงฮะ..รู้สึกโอเคกับข้อเสนอแนะของน็อตแล้วรึยัง?”

ที่ผมยอมเผยไพ่แบบครึ่งๆกลางๆ กั๊กๆเก็บๆนั่นก็เพราะ ผมรู้ดีว่า คนฉลาดอย่างขนุน หากไม่ได้ข้อมูลที่ตัวเองกำลังมองหา เขาจะไม่มีวันยอมตกลงอะไรง่ายๆแน่ๆ... แต่ที่ผมบอก ก็ไม่ถือว่าผิดกติกา เพราะผมยังไม่ได้พูดคำว่า รักออกไปให้อีกฝ่ายได้ยิน  นั่นก็แปลว่า ผมยังไม่ต้องอธิบายตัวเองให้ขนุนเข้าใจในคืนนี้ ถึงอย่างนั้น...ผมก็ยังสามารถดำเนินแผนการได้ครองสถานะแฟนของคนหน้าแว่นได้ตามที่ตั้งใจเอาไว้แต่แรก

“อืมมมม...แสดงว่า ที่เราจะเป็นแฟนกันนี่ เราก็เป็นกันแบบปลอมๆน่ะเหรอ? ไม่ต้องรู้สึกรักกันเหมือนอย่างคนอื่นๆเค้าใช่ไม๊?” หึ หึ...นี่ไงฮะคนฉลาดเป็นกรดของผม... บทจะต้อน เขาก็ต้อนผมหนักหน่วงไม่มีละเว้นเลยฮะ  แต่เพราะเกมนี้ เป็นเกมของผม...ผมเลยเตรียมการรับมือกับทุกๆแนวทางเอาไว้หมดแล้ว

ผมยิ้มน้อยๆมุมปาก แล้วเปลี่ยนประเด็นเพื่อเข้าด่านแจ็คพ็อตทันที “เรื่องนั้นยังไม่ต้องไปสนใจก็ได้ฮะ  เอาเป็นว่า เรามาเคลียร์กันก่อนดีกว่า ว่าขนุนจะยอมเป็นแฟนน็อตรึเปล่า?”

วินาทีนี้...ใจผมแม่งเต้นอย่างกับจะหลุดออกมาจากอกอยู่แล้ว ถึงจะแน่ใจอยู่ไม่น้อยว่า ขนุนน่าจะตอบรับ...แต่ใครจะรู้ล่ะฮะ คำตอบของอีกฝ่ายอาจจะพลิกโผ หักปากกาเซียนน็อตจนป่นปี้ก็เป็นไปได้ เพราะหัวใจ และสมองในร่างเล็กๆนั่น ยังไม่ใช่ของผมแบบพันเปอร์เซ็นต์เสียหน่อย...

...ไว้รอให้ผมได้ครอบครองทั้งหมดของขนุนเมื่อไรเถอะฮะ พ่อจะฝึกให้ขนุนว่านอนสอนง่าย ไม่มีปากเสียงไปเลยล่ะ หึ หึ
.
.
.
ขนุนตอบเรียบๆ “ถ้าน็อตว่ามันมีข้อดีมากกว่าข้อเสียสำหรับขนุน... ขนุนก็ไม่มีปัญหาหรอกนะ  เราเป็นแฟนกันก็ได้”

เย่ส เย่ส เย่ส เย่ส เย่ส!!! ในที่สุด!!!  ขนุนก็ยอมผมจนได้...
...หลังจากนี้ก็เหลือแค่ กีดกันคนอื่นๆ และหาทางพิสูจน์หัวใจของคนหน้าตาย ก่อนจะสารภาพรัก และพาไปเปิดตัวกับที่บ้านตามลำดับ....จั๊กกรู๊ววว!! ดีใจว้อยยยยย!!!!!!!

ผมหัดทำหน้านิ่งอยู่ในกระจกเป็นนานสองนาน สำหรับห้ามตัวเองไม่ให้ยิ้มเต็มหน้า กรณีที่ได้ฟีดแบ็คที่ดีมากจนเหลือเชื่ออย่างนี้ รวมไปจนถึงห้ามน้ำตา กรณีที่ได้รับการสาปส่งโห่ไล่ และมันก็เป็นประโยชน์มาก เพราะผมได้ใช้มันเกือบตลอดทั้งคืน  

ผมพูดเฉยๆ...เหมือนไม่มีอารมณ์ร่วมใดๆ “ดีมากฮะ...สรุปว่า เราสองคนเป็นแฟนกันแล้วนะฮะ”
.
.
และเพื่อไม่ให้อีกคนเปลี่ยนใจ ผมเลยสรุปผลของข้อตกลงล่าสุดของเราทันที “...เอาล่ะ ทีนี้ เราต้องมาตกลงกันเรื่องรายละเอียดกันอีกที...
.
...ข้อแรกก็คือ...คำตอบของคำถามที่ว่า เราจะคบกันแบบปลอมๆรึเปล่านั้น...
...น็อตตอบขนุนเอาไว้ตรงนี้เลยนะฮะว่า ไม่...เพราะนับจากนี้ เราจะคบกันจริงจังและจริงใจ...
...คือ...เราจะคบกันเหมือนกับคู่รักทั่วๆไปทุกประการ เพราะฉะนั้น เราจะมีสิทธิในตัวของกันและกันโดยไม่มีข้อสงสัย...
...น็อตจะเป็นเจ้าของขนุน  ในขณะที่ขนุนก็เป็นเจ้าของน็อตเช่นกัน”

“แล้วเราจะต้องลองคบกันไปนานเท่าไร?” คนหน้านิ่งถามออกมาเรียบๆ

“ก็จนกว่าขนุนจะเจอคนที่ขนุนอยากจะใช้เวลาที่เหลือทั้งชีวิตด้วยยังไงล่ะฮะ”...ซึ่งนั่น ผมตอแหลฮะ เพราะไม่มีวันที่ผมจะยอมให้เหตุการณ์น่าเศร้านี้เกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน เพราะหลังจากนี้ ผมจะเดินหน้ากำจัดหลืบไรทั้งหลาย ที่หมายปองเมียของผมให้ราบคาบ... เชื่อมือไอ้น็อตคนนี้เถอะ!!!

“ถ้าขนุนเจอคนๆนั้นแล้ว ขนุนต้องทำยังไงเหรอ?”...แน๊!! ยังจะมีถามต่อ...พ่อก็จัดตอแหลเมกาฮิตให้อีกดอกสิจ๊ะ

ผมยิ้มให้แบบพระเอกการ์ตูนตาหวาน ที่ผมเคยเอาของคุณเน้ย มาอ่านเล่นฆ่าเวลา “ขนุนก็แค่เดินมาบอกน็อตว่าขนุนเจอคนที่อยากอยู่ด้วยแล้ว  เราก็จะเลิกทดลองเป็นแฟนกันทันทีเลยฮะ” ...อ่ะโห! ตอบได้หล่อสัดๆอ้ะ!!!!

“อ้าวววว!! อย่างนี้น็อตจะไม่เสียใจแย่หรอกเหรอ ถ้าขนุนเกิดบอกว่าขนุนเจอคนที่ขนุนชอบแล้วน่ะ” คนพูดดูมีสีหน้าตกใจ และเป็นห่วงเป็นใยผมมาก... ขนุนนี่ช่างอินโนเซนต์เป็นที่รักของน็อตเสียจริงๆ  แล้วใครบอกคุณกันล่ะครับ ว่าผมจะอนุญาตให้คุณไปทำอะไรแบบนั้นได้...ฮึ? เดี๋ยวพ่อเหนี่ยวลงมานอนร้องข้างล่างเสียให้เสร็จเลยนี่  เคี๊ยก กรั่ก กรั่ก กรั่ก

เพื่อให้แผนนี้สำเร็จอย่างแนบเนียน กลุ่มคำตอบตอแหลนับร้อยที่ผมคิดเผื่อเอาไว้ก็หลั่งไหลพรั่งพรูออกมาจากปากผมราวกับน้ำที่ไหลออกจากก็อก “แหม่...ขนุนก็ น็อตเป็นคนเสนอความคิดนี้ขึ้นมา น็อตก็ต้องทำตามกติกาอย่างเคร่งครัดอยู่แล้วล่ะฮะ  ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกฮะ น็อตโอเค”

ขนุนพยักหน้าบอกความเข้าใจ แล้วนิ่งไปสักพัก ก่อนจะเอ่ยถามออกมาอีกครั้ง...
...คราวนี้ คนพูดมีสีหน้าจริงจังยิ่งกว่าตอนที่คาดคั้นถามผมเรื่องแฟนเสียอีก
.
.
.
“แล้วถ้าอยู่ดีๆ หลังจากที่เราคบๆกันไป วันนึงขนุนเดินมาบอกน็อตว่า...ขนุนไม่อยากหาคนอื่นมาเป็นแฟนอีกต่อไปแล้วล่ะ น็อตจะทำยังไง?”

เอ๊ะ!! นี่มันชักจะยังไงๆอยู่นะ... ไอ้ผมก็ไม่ได้เตรียมคำตอบสำหรับคำถามนี้เอาไว้เสียด้วย ผมเลยด้นสดไปตามความจริง  บวกกับความตอแหลเพื่อให้เข้ากับเนื้อเรื่องที่ปูมาก่อนหน้าทันที “เราก็จะเป็นแฟนกันไปอย่างนี้เรื่อยๆ จนกว่าขนุนจะคิดเปลี่ยนใจไปมีคนอื่นยังไงล่ะฮะ”

“แล้วน็อตล่ะ?? น็อตไม่ต้องมาจมปลักกับขนุนไปตลอดปีตลอดชาติหรอกเหรอ?” น้ำเสียงของขนุนบอกถึงความเป็นห่วงจากใจจริง

ผมเลยไม่อาจห้ามความรู้สึกอยากคว้าร่างเปลือยเปล่าตรงหน้ามากอดได้อีกต่อไป  ผมจึงวาดแขนออกไปดึงต้นแขนเนียนของขนุนเข้ามาหา แล้วบรรจงกดจมูกลงตรงพวงแก้มปลั่งหนักๆดังใจ ก่อนจะเอ่ย “(ฟอดดดดด) ไม่หรอกฮะ...น็อตบอกแล้วใช่ไม๊ ว่าถ้าน็อตช่วยให้ขนุนสำเร็จไม่ได้ทุกอย่าง เราก็จะอยู่กันแบบนี้ไปเรื่อยๆ... น็อตน่ะ เต็มใจ และยินดีที่จะอยู่ตรงนี้ข้างๆขนุนไปตลอดอยู่แล้วล่ะฮะ...เชื่อน็อตนะฮะคนเก่ง (ฟอดดดดดด)”

“ขนุนไม่ได้กำลังเอาเปรียบน็อตอยู่ใช่ไม๊?” คนในอ้อมกอดผมเงยหน้าถามเบาๆ

ผมเลยตอบออกไปง่ายๆอย่างที่คิด เพื่อทำให้อีกฝ่ายโล่งอกได้เสียที “โฮ๊ยยย ขนุนล่ะก็ คิดมากฮะ...คนเป็นแฟนกัน เค้าไม่มานั่งคิดกันหรอกนะฮะว่า ใครได้เปรียบ ใครเสียเปรียบ มันขึ้นอยู่กับว่า สิ่งที่เราเสียสละนั้นๆ ทำให้ความสัมพันธ์ของเราเดินหน้าต่อไปได้อย่างราบรื่นและมีความสุขตราบนานเท่านานเท่านั้นเอง”

ขนุนยิ้มหวานให้ผม แล้วพูดเบาๆอย่างน่ารัก “อืมมม...ก็ได้ เราเป็นแฟนกันแล้วนะน็อต” ผมเลยจัดรีเควสไปหนึ่งดอกด้วยการทำแก้มป่องข้างหนึ่ง แล้วชี้นิ้วเพื่อให้อีกฝ่ายหอมแก้มผมให้ชื่นใจเสียที

ขนุนยืดตัวขึ้นแล้วจูบแก้มผมรัวๆหลายครั้ง จนจากเดิมที่ผมตั้งใจจะรับคำอีกฝ่ายอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ กลับต้องหลุดหัวเราะอย่างมีความสุขออกมาจนได้ “ฮะ ฮะ ฮะ ฮะ เราเป็นแฟนกันแล้ว”

อยู่ๆ ขนุนก็หยุดทุกอย่าง แล้วกลับมาทำสีหน้าเคร่งขรึมอีกครั้ง จนผมชักใจแกว่ง  ปากเล็กๆเอ่ยๆสั้นๆ “แต่ก่อนอื่น...ขนุนขออะไรอย่างได้ไม๊?”

เหยดดดด!! อย่านะ อย่ามีเงื่อนไขอะไรแปลกๆเชียวนะ แบบว่า ขอคบซ้อนได้ไหม?? เพราะไหนๆเราก็ไม่ได้คบกันจริงๆอยู่แล้ว อะไรเทือกๆนี้เชียวนะ...น็อตจะไม่ทน!!!   ผมรีบถามออกไปอย่างสงสัยสัดๆทันที “อะไรเหรอฮะ ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรงของน็อต บอกน็อตมาได้เลยฮะ”

ขนุนกัดริมฝีปากล่างก่อนจะเอ่ยเบาๆ “คือ...น็อตจะโอเคไม๊ถ้าขนุนจะขอให้เราเปลี่ยนสรรพนามที่ใช้เรียกกันน่ะ”

ผมที่ไม่เข้าใจกับคำขอของเมียเลยหลุดหน้าเงิบออกไประหว่างที่ถาม “ห๊ะ??? ยังไงอ่ะฮะ?”
.
.
.
“คือ...เปลี่ยนมาเป็นเค้า...กับตัวเองได้ไม๊อ่ะ?..
...ขนุนอยากลองพูดแบบนี้ดูอ่ะ  มันฟังดูเหมือนเป็นแฟนกันดีอ่ะ นะ นะ นะ” ขนุนพูดจบก็เม้มปากเป็นเส้นตรงทันที...ฮื๊ยยยย น่ารักอ๊ะ!!! แต่ไอ้ที่ขนุนขอแม่งกิ๊บกิ้วชวนให้หวิวๆหูอย่างไรก็ไม่รู้แฮะ... เอาเถอะ เพื่อความสุขของเมียผู้เป็นที่รัก ไอ้น็อตจะลองดูก็ได้...

...หึ หึ แต่ถ้ายอมง่ายๆ ก็คงจะไม่ใช่เสือน็อตเสียแล้วล่ะ  

ผมเชยคางเล็กๆขึ้น เพื่อให้ขนุนจ้องมองตาผมตลอดเวลา แล้วเอ่ยอย่างทีเล่นทีจริง “อยากให้น็อตพูดอย่างนี้เหรอฮะ...ไหนลองอ้อนน็อตหน่อยซิ อ้อนน่ารักๆนะฮะ”
.
.
“หัวจุกค๊าบบบ...เราเปลี่ยนมาเรียกกันว่าเค้ากะตัวเองดีมะ? เค้าว่าน่ารักดีน้าาาาาา (จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ)” หึ หึ... และแล้ว เสียงการ์ตูนก็มาจนได้ แต่ที่ไม่ได้คาดคิดน่ะ...ไอ้จูบเล็กจูบน้อยวุ่นวายไปหมดตรงท้ายประโยคนั่นต่างหากล่ะฮะ

ผมยิ้มด้วยความชอบอกชอบใจ แต่ก็ไม่วายหยุดแกล้ง “หึ หึ...แล้วถ้าน็อตขอเรียกขนุนว่าเมีย แล้วให้ขนุนเรียกน็อตว่าผัวล่ะฮะ...ขนุนจะยอมไม๊?”
.
.
ริมฝีปากเล็กๆนั่นเล่นซ่อนแอบหลบไปอยู่ข้างหลังเส้นตรงที่เม้มจนแก้มบุ๋ม ขนุนถามอ้อมแอ้มออกมาด้วยเสียงแผ่วๆ “จะดีเหรอน็อต...มัน เอ่อ...มันไม่ฟังดูแปลกๆหรอ? ก็เราน่ะ เป็นผู้ชายทั้งคู่นะ”

ด้วยความชอบใจอย่างที่สุด ผมก็เลยตีมึนไม่รู้ไม่ชี้ต่อไปตามระเบียบ “ไม่เห็นจะแปลกเลยฮะ ก็ขนุนเป็นเมียน็อตจริงๆนี่นา ส่วนน็อตก็เป็นผัวขนุน...มันก็ถูกต้องตามความจริงทุกอย่างเลยนี่นา”

เสียงเล็กๆพ้อออกมาเบาๆอย่างน่าชัง “แต่มันน่าจั๊กจี้ออก”

ผมก้มลงไปเด็ดดมความหอมของเรือนร่างในอ้อมอก “(ฟอดดดด) หึ หึ...ขนุนไม่ชอบเหรอฮะ??? ไม่ชอบให้น็อตเป็นผัวขนุนเหรอฮะ?...หื๊มมมมม???” สิ้นคำ ผมก็ซุกหน้าลงตรงซอกคอเนียนหอมเพื่อดมกลิ่นวนิลาอันเย้ายวนใจหลังจากที่ยกแรกของเรา ผมแทบจะไม่ได้แตะต้องเนื้อตัวขนุนเท่าไรเลย

ร่างบางเอียงคอเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับใบหน้าของผมเป็นอย่างดี  เจ้าตัวเอ่ยออกมาด้วยเสียงสั่นเครือ หากแต่ไม่ได้คิดห้ามปราม “ฮื่อออออ....เปล่า.......ฮ่าห์.......ขนุนชอบ”

ผมกรอกคำถามสร้างความหวั่นไหวตรงเข้าในรูหูของขนุนอย่างจงใจ “ชอบอะไรฮะเมีย? ไหนบอกผัวให้ชื่นใจซิ?” โดยที่มือข้างหนึ่งเริ่มลงไปวุ่นวายกับเม็ดทับทิมตรงยอดอกของขนุนอย่างสนุกสนานสำราญใจ

ไม่รู้เป็นเพราะเราตกลงเป็นแฟนกันแล้ว หรือเป็นเพราะมือผมที่ขยี้ติ่งเล็กๆสีชมพูสู้มืออยู่ ผมเองก็ไม่อาจรู้ได้ แต่สิ่งที่ขนุนตอบผมออกมานี่ แม่งน่าอัดเป็นคลิปเก็บเอาไว้ย้อนดูเป็นอย่างมาก “...ฮ่าห์...ชอบที่เราสองคนเป็นผัวเมียกัน”

ผมตอบคำของเมียด้วยหัวใจพองฟู “หึ หึ...น่ารัก เมียน็อตนี่น่ารักที่สุดเลย เอาเป็นว่าน็อตขอเรียกขนุนว่าเมีย แล้วเรียกแทนตัวเองว่าผัวกับขนุนได้ไม๊ฮะ?”

“ฮื่ออออ ไม่อาวววว ไม่ดีหรอก เดี๋ยวคนอื่นมาได้ยินเค้าจะมองเรายังไงกันล่ะ” สิ่งที่ขนุนตอบผมกลับยิ่งทำให้ผมยิ้มกว้างอีกครั้ง

ผมเลยตอบอีกคนไปอย่างที่ใจคิด โดยไม่ปั้นแต่ง “ก็ไม่ยังไงหรอกฮะ ก็มองเหมือนที่เราเป็นกันจริงๆนี่ล่ะ”

จนถึงที่สุด เมียผมก็ยังไม่คิดถอดใจ ขนุนเอาเสียงการ์ตูนมาเจรจากับผมอีกครั้ง แล้วทำตาแป๋วสุกใสจ้องผมไม่วาง พลางเอาคางมมาเกยลงตรงต้นคอผม “ไม่อาววว...เรียกเค้าตัวกันนี่แหละ น้า น้า...นะหัวจุกนะ”

ถ้าจะให้ผมพูดจากุ๊กกิ๊กวัยหวานชวนเลี่ยนแบบที่ขนุนต้องการไปตลอด  ผมรู้ดีว่า ก่อนที่จะตบปากรับคำยินยอมออกไป...ผมควรต้องใช้สิทธิในการต่อรอง เป็นเดิมพันเพื่อแลกกับบางสิ่งที่มีค่ามากเหลือเกิน ให้คุ้มกันเสียหน่อยล่ะฮะ

“หึ หึ งั้นเอางี้ ถ้าจะให้น็อตยอมพูดอย่างที่ขนุนชอบ ไหนขนุนลองบอกน็อตให้ชื่นใจหน่อยซิฮะ ว่าขนุนชอบน็อตบ้างไม๊?”
.
.
.
“...”

เมื่อเห็นขนุนทำท่าเหมือนเป็นใบ้ ผมเลยต้องขู่ออกมาให้อีกฝ่ายต้องเกรงกันสักหน่อย  “ห้ามเฉไฉ ห้ามเลี่ยงไม่ตอบด้วยนะฮะ ไม่งั้นน็อตจะออกไปตะโกนตรงหน้าบ้านเลยว่าขนุนน่ะเป็นเมียน็อต...เราสองคนเป็นผัวเมียกันนนนนนนนนนนน” ผมทำท่าป้องปากแล้วพูดเสียงดัง เพื่อสาธิตให้อีกฝ่ายเห็นภาพในอนาคต หากตัวเขาตัดสินใจเลือกคำตอบที่ผิดไปจากสิ่งที่ผมต้องการ

“น็อตบ้า!!  ก็ได้...ขนุนบอกก็ได้ ขนุนไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่ขนุนรู้สึกกับน็อตมันเรียกว่าอะไร แต่ถามว่ามันเป็นความรู้สึกด้านลบไม๊...มันก็ไม่ใช่ เอาเป็นว่าขนุนชอบเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน ชอบเวลาที่เรากอด จูบ และก็มีอะไรกัน ....ชอบเวลาที่เราคุยกันเรื่องโน้นเรื่องนี้ ชอบที่เราไปทำโน่นทำนี่ด้วยกัน...ชอบก็แล้วกันนะ”

ผมนั่งฟังไปก็อมยิ้มไป เพราะผมรู้ว่า สิ่งที่ขนุนพูดนั้น เปิดเผยความรู้สึกที่อยู่ข้างในยิ่งกว่าครั้งไหนๆ และผมยังรู้อีกด้วยว่า ผมคงไม่อาจล้ำเส้นคาดคั้นให้ขนุนต้องพูดอะไรให้มากไปกว่านี้ ในเวลาที่ตัวเขายังไม่พร้อม...ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรจากผมสักเท่าไรนัก นั่นจึงทำให้ผมตอบรับคำออกไปง่ายๆ  “อืมม...ฟังเข้าทีนะฮะ  น็อตพอใจกับคำตอบของขนุนตอนนี้นะฮะ เอาเป็นว่า น็อตจะพยายามหัดพูดอย่างที่ขนุนชอบเวลาเราอยู่กันสองคนก็ได้ฮะ”

ขนุนยิ้มหวานพลางตอบ “อื้อ...ขอบคุณนะ”

“ไม่ต้องขอบคุณน็อตหรอกฮะ...ก็เราเป็นแฟนกันแล้วนี่ฮะ อะไรที่ทำให้แฟนเรามีความสุขได้ เราก็อยากทำทั้งนั้นแหละฮะ” นั่นคือความจริงที่ผมบอกออกจากใจ เพื่อให้อีกฝ่ายรับรู้ความตั้งใจของผมที่มี หลังจากได้ยินสิ่งที่น่าฟังที่สุดของคืนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
.
.
.

ใช่แล้วฮะ...ผมจะทำทุกอย่างเพื่อขนุน ผมจะทำให้เขามีความสุขที่สุด ที่สำคัญ...ผมจะทำให้เขารักผมให้ได้...คอยดูสิฮะ!!!




๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐


2 comments:

  1. ในที่สุดน็อตก็เอาขนุนมาเป็นแฟนจนได้ ฮ่าๆๆๆ ถึงแม้ว่าขนุนจะสมยอมก็เถอะ
    แลดูเหมือนขนุนรอเวลานี้มานาน 555 สมหวังซักทีนะขนุน

    มะลิจ้า เมื่อวานเหนื่อยมากเลยอ่ะ 555 ไม่ได้เล่นกีฬามานานมาก แล้วเมื่อวานก็ไปแข่งกีฬากับกลุ่มเพื่อนมา ฮ่าๆๆๆ เหนื่อยและเมื่อยมากกกกกกก แต่ก็สนุกมากเหมือนกัน คิคิคิ หัวเราะจนปวดแก้มแน่ะ 55555
    วันอาทิตย์เลยไม่ไปไหนทั้งสิ้นเลย ฮ่าๆๆๆ เก็บพลังไว้ไปเรียนวันจันทร์ อ่อ!! เรามีเรื่องอยู่อย่างนึงจะบอกมะลิล่ะ 555 เรารู้สึกว่าคำพูดของมะลิบางประโยคคล้ายๆขนุนอยู่นะ 5555
    รักษาสุขภาพด้วยน้าาา

    เลิฟมะลินะ เชิฟๆๆ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ฮ่าๆๆๆๆ คงจะอย่างนั้นนะคะ เพราะขนุนดูจะแค่เล่นองค์นิดๆหน่อยๆพอเป็นพิธีเท่านั้น...แต่เดี๋ยวก็คงได้รู้กันล่ะค่ะ ว่านางแอบคิดอะไรอยู่บ้าง เหอๆๆๆ

      เล่นกีฬา???แล้วหัวเราะจนปวดแก้ม เห?ฟังแล้วแปลกๆเป่าอ่ะคะ? เพราะคุณนาราน่าจะบอกว่าปวดเมื่อยกล้ามเนื้อตามตัวมากกว่าปวดแก้มนี่เนาะ ว่าแต่..มันคือกีฬาประเภทไหนเหรอคะ ที่เล่นแล้วปวดแก้ม..วานคุณนาราบอกด้วยเถิด มะลิจะได้ลองหาโอกาสไปเล่นมั่ง (ฮ่าๆๆๆ แซวเล่นนะคะ อย่าคิดมาก)

      ไอ้ที่บอกว่าบางประโยคของมะลิเหมือนขนุนนี่...คุณนาราไม่ได้กำลังจะบอกมะลิอ้อมๆใช่ไม๊คะว่ามะลิมีอาการจิตนิดๆเหมือนขนุน (เพราะเห็นคุณนาราเคยตั้งข้อสังเกตว่าขนุนแลจะโรคจิตอยู่พอสมควร -- แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ มะลิก็พร้อมจะน้อมรับค่ะ เพราะมะลิเป็นตัวแม่ของเด็กๆทุกคน ไอ้ความสัปดนหรือโรคจิตทั้งหลาย มันก็มาจากมะลิคนนี้นี่เอง เงง เงง เงง เงง!! วะฮ่าๆๆๆ)

      แต่ถ้าไม่ใช่อย่างไร...วานไขให้กระจ่างด้วยนะคะ เหอๆๆๆ

      ป.ล. มะลิเพิ่งอ่านกระทู้ เค้าบอกว่า SnoopDog เป็นสาวกผู้เหนียวแน่นของนารูโตะค่ะ พออ่านเจออย่างนี้แล้วทำให้คิดถึงคุณนาราขึ้นมาเลยทันที ฮ่าๆๆๆๆ

      รักษาสุขภาพด้วยเหมือนกันนะคะ...อย่าลืมดื่มน้ำเยอะ จะได้ไม่เป็นหวัดอีกยังไงล่ะคะ รักคุณนาราค่ะ เชิฟๆ

      Delete