Saturday, November 8, 2014

เขาวานให้ผมเป็น 'สายรับ' (เคคู่ผู้รู้รอบฯ) : บทรุกที่ 27: กลืนไม่เข้าคายไม่ออก



บทรุกที่ 27: กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
(กลืนไม่เข้าคายไม่ออก : ไม่รู้จะทำยังไงดี)




จังหวะที่ผมนอนหงายแผ่วางสายตาจ้องแสงสว่างแรกของวันใหม่ส่องลอดผ่านม่านเข้ามาพาดเป็นแถบเส้นตรงสีขาวสว่างสไวอยู่บนเพดาน  ผมก็เผลอตั้งคำถามในใจถึงบรรยากาศรอบๆตัวในเวลานี้... เวลาที่ผมสัมผัสได้ถึงความสุขอุ่นๆซ่านซึมอยู่ทั่วไปภายในอก เพราะขนุนใช่ไหม ที่ทำให้การแค่ได้นอนกอดกันเฉยๆกับใครสักคนไม่น่าเบื่ออย่างที่ผมเคยเข้าใจ?...แล้วถ้าเราสองคนได้ลงเอยกันจริงๆ แต่ละวินาทีของชีวิตผม จะมีความสุขได้มากขนาดไหนกันนะ?

คิดพลางผมก็หันหน้าไปมอง ร่างแบบบางขาวนวลเนียนในอ้อมกอด  คนตัวเล็กกว่ากำลังนอนคว่ำหน้ามาทางผมระหว่างพักสายตาหลังอยู่บนที่นอนอุ่นๆนุ่มสบาย ระหว่างที่กำลังหนุนต้นแขนของผมอยู่  เครื่องหน้ากระจุ๋มกระจิ๋มน่ามองบนใบหน้าเล็กๆขาวใสไหลลงมากองรวมกันบนแก้มเด้งๆที่กดแนบอยู่ตรงหัวไหล่  ทำไมหน้าตาตอนไม่พร้อมออกสื่อของเมียถึงได้ดูน่ารักน่าชังมากขนาดนี้กันวะ?!! ...

...เปลือกตาปิดสนิทที่ผสานรอยต่อให้แนบแน่นเพื่อกันไม่ให้แสงร้อนแรงใดๆลอดผ่านได้ง่ายๆด้วยแผงขนตายาวเป็นแพ จมูกทรงหยดน้ำกระจุ๋มกระจิ๋มน่ากัดเล่นดีจริงๆ  ที่ทำให้ยิ่งน่าเอ็นดูไปกันใหญ่เห็นจะเป็น...ริมฝีปากเล็กๆแดงเจ่อหลังผ่านการดูดเคล้นมานับครั้งไม่ถ้วนตลอดคืน อ้าน้อยๆจนเผยให้เห็นฟันขาวๆเรียงต่อกันอย่างเป็นระเบียบ ซึ่งดูเหมือนกลีบดอกไม้สีแดงสดที่น่าเด็ดออกมาดอมดมเสียเหลือเกิน

ระหว่างกำลังตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับความน่ารักอย่างไม่มีขีดจำกัดของเมีย  ปลายเท้าของคนนอนชาร์จแบตอยู่ข้างๆก็สะกิดเบาๆตรงฝ่าเท้าของผมคล้ายกับเรียก ผมพลิกตัวเป็นนอนตะแคงหันหน้าเข้าหาคนนอนคว่ำที่ส่งสัญญาณเรียกร้องความสนใจ แล้วจ้องมองหน้ายู่ยี่ที่กำลังหลับตาด้วยสายตารอคอยคำอธิบายของการทักทายเมื่อครู่ เสียงเล็กๆฟังอู้อี้ถามออกมาเบาๆ “เมื่อกี๊....น็อตชอบไม๊?” คนพูดยังไม่คิดลืมตาขึ้นมามองหน้าผม... หึ หึ...ขี้เกียจจังเลยน้าคุณภรรยาที่ร๊ากกกก

ผมยื่นหน้าเข้าไปหาแล้วจูบเหม่งใสเบาๆแล้วเอ่ยอย่างเอ็นดู “ฮะ....โคตรชอบเลยฮะ ขนุนถามทำไมเหรอฮะ?” เพื่อไม่ให้เป็นการเสียของ...ผมเลยส่งมือข้างที่ไม่ได้ทำหน้าที่ต่างหมอนให้ร่างเล็ก ลงไปลูบไล้ลำตัวเปลือยเปล่าของอีกคนที่เริ่มจะแห้งสนิทไร้ซึ่งเม็ดเหงื่อเกาะพราวไปทุกส่วน เหมือนอย่างที่เป็นหลังจากยกล่าสุดเพิ่งสิ้นสุดลงเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้า

ตอนนี้ตากลมใสเหมือนตาเด็กเล็กๆค่อยๆลืมขึ้น แล้วทอดสายตามองหน้าผมจนทั่ว ก่อนเจ้าตัวจะเอ่ยถาม “ขนุนอยากรู้ว่า ขนุนต้องเปลี่ยนแปลง หรือปรับปรุงอะไรบ้างรึเปล่าน่ะ?”

ผมถึงกับชะงักค้างพลางหยุดทุกๆการกระทำ แล้วหันกลับไปจ้องหน้าเล็กๆที่ทำสายตาหวั่นใจระหว่างรอคำตอบออกจากปากผม เพราะผมต้องการยืนยันอย่างหนักแน่นให้อีกฝ่ายรับรู้ได้ถึงความสุขและอิ่มเอมใจที่ผมได้รับทุกครั้งหลังจากได้เล่นบทรักกับขนุน เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คนตัวเล็กสุดที่รักคอยถามผมซ้ำๆด้วยคำถามทำนองนี้ 

แรกๆผมก็ไม่คิดอะไรหรอกนะฮะ...เพราะเข้าใจไปว่า ขนุนคงอยากได้ข้อมูลเชิงลึกด้านอารมณ์และความรู้สึกจากฝั่งรุกเพื่อเอาไปใข้เป็นวัตถุดิบในการเขียนนิยาย แต่พอผมได้รับฟัง อีกทั้งยังต้องตอบคำถามที่สะท้อนถึงความหวาดหวั่นของเขาบ่อยเข้า บ่อยเข้า มันกลับกระซิบให้ผมรู้ได้ในทันทีเลยว่า ที่ต้องเอ่ยถามสิ่งเหล่านี้กับผมซ้ำแล้วซ้ำอีก น่าจะเป็นเพราะเขาไม่มั่นใจในเสน่ห์ของร่างกายตัวเองเลยแม้แต่น้อย  ทั้งที่ทั้งเนื้อทั้งตัวของร่างเล็กๆน่าทนุถนอมนั่น มีของดีติดตั้งมาตั้งแต่แรกเริ่มเดิมทีเยอะแยะไปหมด...

...พักหลังๆ พอผมได้ยินคำถามพวกนี้ทีไร มันก็ชวนให้ผมอยากจะทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ขนุนมั่นใจในตัวเองได้เสียทีว่า ผมจะไม่มีทางชอบรสสัมผัสของใครได้มากเท่ากับการสัมผัสและร่วมรักกับเขาอีกแล้ว  ผมจึงรีบตอบออกไปทันทีเพื่อหยุดอาการเศร้าเป็นหมาเหงาของขนุนก่อนจะบานปลายไปกว่านี้ “เฮ๊ยยยย!! ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรเลยฮะ... ขอแค่เรียกชื่อน็อตตลอดเวลา ครางดังๆ แล้วก็บอกน็อตว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร อยากให้ทำท่าไหนเป็นพิเศษ หรือชอบให้น็อตสัมผัสตรงไหนมากที่สุด...
.
...แค่เท่านี้ น็อตว่ามันก็แหล่มลืมมมมมแล้วล่ะฮะ” ผมพูดแบบหยิกแกมหยอกเพื่อให้อีกคนที่จ้องมองผมตาแป๋วได้ผ่อนคลาย 

หากแต่คราวนี้ กลับเป็นผมที่ต้องช็อคเมื่อได้ยินสิ่งที่ออกจากปากขนุน เพราะผมเดาเจตนาของการถามหนนี้ผิดไปถนัดใจ......คำถามเมื่อครู่ ไม่ได้ถูกถามออกมาเพื่อสร้างความมั่นใจเกี่ยวกับเซ็กส์ระหว่างเราหรอกฮะ หากแต่แม่งถูกส่งออกมาเพื่อปูทางไปสู่เรื่องอื่นซึ่งผมไม่อยากให้คนน่ารักคนนี้หวนคิดถึงมันอีกต่อไป

เพราะเมื่อขนุนได้ยินคำตอบอย่างจริงจังจริงใจของผม เจ้าตัวก็ยันร่างกาท่อนบนขึ้นด้วยการเท้าศอกลงกับที่นอน แล้วยื่นใบหน้ากระดี๊กระด๊าและสายตาแวววาวที่แสดงความสนอกสนใจในสิ่งที่ผมเพิ่งพูดไปอย่างที่สุดเข้ามาใกล้ๆ ก่อนจะถามอย่างเป็นการเป็นงาน  “ถ้างั้นก็แปลว่า ขนุนเก่งพอที่จะลองไปเป็นเมะให้คนอื่นได้แล้วน่ะซิ?”...ไม่พูดเปล่า ขนุนแม่งยังทำดี๊ด๊าร่าเริงไปกันใหญ่ ด้วยการยกปลายขาแกว่งขึ้นลงสลับกันเบาๆอย่างสบายอกสบายใจเหมือนเด็กๆตอนว่ายเล่นตีขาอยู่ในสระ...

...หึ!! ไอ้ที่ขนุนทำอยู่แม่งคงจะดูน่ารักน่าใคร่กว่านี้มาก หากเขาไม่พาดพิงถึงชายชู้ในอนาคตคนอื่นๆ ที่ผมยังไม่รู้ว่ามันเป็นใคร สงสัยต้องถามให้รู้เรื่องเสียหน่อยแล้วล่ะว่ะ จะได้ตามไปอาฆาตข่มขู่ได้ถูกตัว  “ห๊ะ???!! ไปเป็นเมะให้คนอื่น??? คนอื่นนี่คนไหนเหรอฮะ?”

ขนุนอมยิ้มแล้วพูดทั้งสายตาเชื่อมหวานปานกับกำลังเพ้อฝัน “อืมม... น็อตว่าน้องโชเป็นไงมั่งล่ะ?
.
.
...จริงอยู่....สิ่งที่น็อตเตือนขนุนเมื่อคืนวันนั้น มันก็ดูจะเป็นไปได้มากทีเดียว   ขนุนเองก็รู้สึกเหมือนกับน็อตน่ะแหละว่า น้องเค้าดูจะเด็กเกินไป และอาจจะไม่สนใจขนุนเท่ากับที่เค้าให้ความสนใจน้องเค้ก...
.
...แต่ขนุนว่า หลังจากน็อตสอนขนุนหลายๆอย่าง ทั้งเรื่องสังคม และเรื่องบนเตียง ขนุนก็น่าจะพอมีหวังที่จะจีบน้องโชได้สำเร็จอยู่บ้างน่ะแหละ เพราะแม้ขนุนจะไม่ได้ร่าเริง หรือสดใสได้อย่างน้องเค้ก แต่ความอบอุ่นและการเป็นที่พึ่งแบบผู้ใหญ่ๆน่ะ ก็น่าจะทำให้น้องโชละลายได้เหมือนกันน่ะแหละ.. 
...ที่สำคัญ...เรื่องที่น้องโชดูจะชอบน้องเค้กนี่น่าจะเป็นข้อดีมากกว่าข้อเสียนะ เพราะขนุนจะได้ไม่อกหัก หรือเสียใจกับการไปไล่จีบผู้ชายแท้ๆที่ไม่ได้ชอบผู้ชายด้วยกันมาก่อนยังไงล่ะ”

...จึ้กกก! โดนเลยฮะ ดอกนี้ผมโดนเข้าไปเต็มๆ!!... ผมรู้สึกเหมือนคำพูดฟังเรียบง่ายและไม่ซับซ้อนของขนุนนี่กระซวกอย่างจังเข้าตรงกลางใจผม ทำเอาร้าวไปทั้งทรวง  หึ หึ...นอกจากผมจะเป็นแค่เพื่อนที่แสนดี ผู้ไม่มีอะไรสักอย่างตรงตามสเปคแล้ว ผมยังเป็นผู้ชายแท้ๆที่ทำให้เกย์แต่แรกเกิดอย่างขนุนไม่เหลียวมองเป็นอันขาด เนื่องจากเจ้าตัวไม่อยากอกหัก....อ๊ากกกก!! ผมอยากจะบ้า!!!

แต่มือนิ่มๆที่ลูบไล้หน้าอกผมเล่นไปมาอยู่นี่ก็รั้งสติของผมเอาไว้ ทำให้ธาตุไฟของผมยังไม่แตกซ่านไปเสียก่อน...

ที่ขนุนพูดมา อาจจะเป็นแค่ความเพ้อฝันของเจ้าตัว เหมือนอย่างที่เข้าใจผิดมาโดยตลอดว่าตัวเองเป็นฝ่ายรุกก็ได้นี่หว่า...เพราะถ้าขนุนไม่คิดอะไรกับผมอยู่บ้าง... ก็ไม่น่าจะร่วมฝ่าค่ำคืนอันหนักหน่วงนัวเนียเคียงบ่าเคียงไหล่ผมอย่างน่าภาคภูมิตลอดสามคืนสามวันติดกันได้อย่างนี้หรอก...

...แล้วไอ้การสัมผัสแบบตอดเล็กตอดน้อยของขนุนที่ทำกับผมระหว่างไม่ได้มีเซ็กส์กันพวกนั้นอีกล่ะ...ทั้งจูบเอย กอดเอย หอมเอย ลูบไล้ไถถูเอย...และไอ้นั่นโน่นนี่อีกสารพัดที่เจ้าตัวเป็นคนเริ่มทำกับผมก่อนน่ะ  ถ้าจะมาแถว่า มันไม่ได้สื่อถึงความพิศวาสในตัวของผม แล้วไอ้สายตาแห่งความสุขเมื่อได้สัมผัสร่างกายของผมที่ขนุนมี มันหมายความว่าอะไร??

ผมไม่เชื่อหรอกฮะ  ว่าเกย์ที่ต้องฝืนใจรับบทบาทหน้าที่บนเตียงตรงข้ามกับสัญชาตญาณที่แท้จริงซึ่งร่ำร้องอยู่ภายใน ต้องมาคอยตามเอาอกเอาใจคู่ขาหลังการขายเป็นอย่างดี ขนาดต้องลงทุนฝืนใจตัวเองด้วยการสัมผัสชื่นชมร่างกายของอีกฝ่ายอยู่บ่อยๆอย่างที่ขนุนทำกับผมอย่างนี้หรอกว่ะ   

เอาวะไอ้น็อต!! ไหนๆก็ได้ตัวขนุนมาครอบครองโดยสมบูรณ์แบบแล้ว มึงต้องไม่หยุดกินท้อเอาตอนนี้  เพราะถ้ามึงเชื่อว่าขนุนติดใจมึงมากจริงๆ... ลองดึงเช็งเอาไว้อีกสักหน่อย ระหว่างหาทางรวบหัวรวบหาง ก็ไม่น่าจะผิดกติกา แถมยังดูไม่เหนี่ยวรั้งอีกฝ่ายจนน่าเกลียดอีกด้วย...หรอกมั้ง...ใครจะไปรู้

ผมฝืนยิ้มกว้างส่งไป แล้วส่ายหัวคล้ายกับไม่เห็นด้วยในความคิดของอีกฝ่าย  พร้อมกับส่งถ้อยคำสื่อความไม่ต้องการที่จะสนับสนุนการกระทำดังกล่าวของขนุนอย่างรุนแรง “โฮ๊ยยยย!! อย่าเพิ่งหุนหันพลันแล่นเพราะร้อนวิชาไปเลยฮะขนุน  จริงๆแล้ว...น็อตว่าขนุนยังไม่พร้อมซะทีเดียวหรอกฮะ เพราะชั่วโมงบินของขนุนยังน้อย...
.
.
...เซ็กส์น่ะ ถ้าจะให้ดีแบบถึงใจอีกฝ่าย เราต้องเชี่ยวชาญกรำสังเวียนนานระดับหนึ่ง แต่สำหรับขนุน..น็อตมองว่า มันออกจะเร็วเกินไป หากขนุนจะคิดไปรุกใคร เพราะเดี๋ยวถ้าเกิดน็อตปล่อยให้ขนุนไปรุกใครขึ้นมาจริงๆ แล้วผลลัพธ์มันออกมาไม่ดีเท่าไร ขนุนนี่แหละที่จะเสียความมั่นใจไปเปล่าๆ....
.
...อีกอย่าง น็อตเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า ขนุนยังต้องปรับปรุงเรื่องบนเตียงเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งอย่างเร่งด่วน และมันเป็นเรื่องที่ไม่อาจจะละเลยได้ ซึ่งการจะปรับปรุงตัวเองในส่วนนี้ได้นั้น มันต้องอาศัยเวลามากพอสมควร...
...น็อตมองว่า  อีกนาาาาาานนนนเลยฮะ กว่าที่ขนุนจะสามารถทำสิ่งนี้ได้อย่างเป็นธรรมชาติและไม่เคอะเขินไปเสียก่อน เพราะฉะนั้น...ขนุนน่าจะยังต้องฝึกฝนตัวเองต่อไปก่อนพักใหญ่ๆ เมื่อไรก็ตามที่ขนุนเอาชนะข้อบกพร่องข้อนี้ได้ เราค่อยมาว่ากันอีกทีเรื่องที่จะไปจีบคนอื่นแล้วกันนะฮะ (ฟอดดดดด)” ผมผละหน้าออกจากแก้มนุ่มๆหอมๆ แล้วยิ้มกว้างให้ร่างตรงหน้าที่ทำท่าเหมือนจะผิดหวังยกใหญ่

ขนุนผู้หน้างอพูดเสียงอ่อนอย่างคนท้อใจ “จริงเหรอน็อต...ขนุนยังมีสิ่งที่ต้องปรับปรุงอยู่อีกเหรอ?  แล้วขนุนต้องปรับปรุงเรื่องอะไรล่ะ?” หึ หึ...หน้าเหน้อคิ้วเคิ้วของเจ้าตัวตอนเผลอแสดงอารมณ์ออกมาทั้งหมดนี่มันน่ารักจริงๆฮะ แม้อารมณ์พวกนั้น...จะก่อให้เกิดความหงุดหงิดใจให้ผมอยู่ลึกๆก็ตามที

ผมเลื่อนมือไต่ลงไปยังท่อนล่างของคนที่กำลังจ้องมองผมอย่างเลื่อมใส เพื่อนวดเฟ้นแก้มก้นเด้งๆอย่างเบามือ เมื่อขนุนรับรู้ได้ถึงสัมผัสและเจตนาซ่อนเร้นของผม เขาก็เผลอเม้มปากด้วยความเขินอายอย่างลืมตัว ผมเลยส่งยิ้ม และสายตาสื่อความหมายไปให้ ระหว่างเอ่ยคำชักชวนเข้าเรื่องสำคัญของเราต่อจากนี้  “หึ หึ ฟังอย่างเดียว คงจะไม่ได้ความหรอกฮะ... สงสัยเราจะต้องลงมือทำไปพร้อมๆกันเสียแล้วล่ะ”

คนฟังของผมหลับตาลงพลางส่งสีหน้าผ่อนคลายระคนชอบอกชอบใจมาให้ เมื่อปลายนิ้วของผมล่วงลงไปสอดใส่ในช่องทางด้านหลังซึ่งเจิ่งนองไปด้วยของเหลวแห่งรักระหว่างเรา ที่ผมได้ฝากเอาไว้ด้านใน  “อืมมมห์  อย่างนั้นเหรอ...
.
...อ๊ะห์...ลองดูก็ได้  ฮ่าาาห์ ขนุนจะได้พัฒนาตัวเองได้เร็วๆ  หลังจากนั้น...ขนุนจะได้ลองไปจีบเคะคนอื่นอย่างจริงๆจังๆซะที  ฮ๊าาาาห์”  ผมมันก็นิสัยเสียเหลือเกิน...พอได้ยินคำพูดแสลงหูของเมีย ก็เผลอกดมือเข้าข้างในด้วยความรุนแรงเกินกว่าที่ควรจะทำเข้าจนได้ แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายกลับชื่นชอบ เพราะเมื่อได้รับการกระตุ้นหนักๆ ก้นเล็กๆน่ารักก็ลอยโด่งขึ้นรับสัมผัสทันที

ผมกัดฟันโกหกเคลือบน้ำตาลหวานชวนฟังไปให้อีกฝ่าย พลางเพิ่มนิ้วสอดใส่แล้วหมุนบิดข้อมือทันทีทั้งที่ยังพูดไม่จบประโยค “ฮะ... ขนุนจะได้ไปจีบเคะคนอื่นได้ซะที  เนอะ!!” ร่างบางเผลอกัดริมฝีปากล่างอย่างลืมตัวหลังจากความรู้สึกเสียวซ่านเมื่อปลายนิ้วผมกระทบกับจุดกระสันเข้าอย่างจัง...  และทุกอย่างที่ควรจะเกิดหลังจากที่ผมได้เห็นท่าทางยั่วยวนโดยไม่ตั้งใจนั่น   ก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง...อย่างเป็นทางการ
.
.
.
.
....ฝันไปเถอะขนุน  ไม่มีวันเสียหรอก ที่ชาตินี้ผมจะยอมปล่อยให้คุณหลุดมือจนตกเป็นของใครหน้าไหน...ที่ไม่ใช่ผม!!


๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐



ขณะที่ผม ขนุน และพี่กานต์กำลังนั่งกินข้าวเย็นอยู่ด้วยกัน  หนึ่งในสามแฝดก็เปิดประตูเดินหน้านิ่งเข้ามาในบ้าน...ผมว่า หน้าหิวเงินแถมยังไม่รับแขกแบบนี้ ต้องเป็นไอ้ไชล็อกคนพี่แหงๆ...


...แล้วก็จริงดังคาด เพราะพี่กานต์เอ่ยทักไอ้แฝดหน้าปลาตายขึ้นมาด้วยรอยยิ้มทันที สงสัยพี่ปีย์เรียกมาแหงๆ “อ้าวช็อป มาพอดีเลย....พี่ปีย์กำลังรออยู่พอดีแน่ะ”

ไอ้เด็กหน้านิ่งผู้ไม่คิดสุงสิงกับใครถ้าไม่เห็นประโยชน์ยกมือไหว้พี่กานต์ ขนุน ก่อนจะปรายตามามองผมในขณะที่ลดมือลงเรียบร้อยแล้ว “หวัดดีครับพี่กานต์ พี่ขนุน พี่น็อต...ก่อนมาผมคุยนกับพี่ปีย์แล้วล่ะครับ งั้นผมขอตัวขึ้นข้างบนก่อนนะครับ” ไอ้หน้าเรียบๆที่มาพร้อมกับสายตานิ่งเฉียบไม่รู้สึกรู้สาที่แม่งใช้มองพี่กานต์กับขนุนนี่ผมพอเข้าใจได้นะฮะ...ว่าแม่งเป็นคาแร็กเตอร์ส่วนตัว  แต่ไอ้หางตาที่แม่งใช้แฉลบมามองผมนี่...มันดูหยามๆหน้ากันอย่างไรไม่รู้สิฮะ...

...ยิ่งมอง ผมก็ยิ่งรู้สึกว่า การทักทายทิ้งท้ายที่ส่งมาให้ผมของไอ้เด็กเหี้ยนี่ช่างกวนตีนดีเหลือเกิน  
...น้องครับ...ได้ข่าวว่ามึงอ่อนกว่ากูครึ่งทศวรรษ แต่ดูท่ามึงนี่ไม่คิดจะทำความเคารพคนที่เห็นโลกมามากกว่าอย่างกูเลยนะครับ อย่าให้กูได้มีโอกาสอบรมน้องเลยนะครับ... กูจะรับขวัญน้องชายร่วมโลกอย่างมึงให้หนักขนาดที่ว่า ไม่กล้าไปทำหน้าทำตาแบบนี้กับใครที่ไหนอีกต่อไปเลยคอยดู


พี่กานต์ยิ้มให้ไอ้หน้าปลาตายอย่างเอ็นดูพร้อมรับไหว้ ก่อนจะผายมือชี้ขึ้นไปยังด้านบน แล้วบอกไอ้เด็กเวร “อืม...ช็อปไปเถอะ”
.
.
ทันทีที่ไอ้แฝดนรกผู้พี่กำลังจะหมุนตัวเพื่อมุ่งหน้าไปยังบันไดบ้าน ขนุนก็วางช้อนส้อม แล้วบอกกับผมเบาๆ “...เดี๋ยวขนุนมานะน็อต” เมียผมไม่ได้รอให้ผมพูดอะไร เพราะเจ้าตัวกระโดดลุกออกจากเก้าอี้แล้วรีบเดินยังทิศทางเดียวกับไอ้สิ่งมีชีวิตที่มีเพียงร่าง แต่ไร้จิตวิญญาณของความเป็นมนุษย์อย่างไอ้แฝดนรกนั่น

ผมที่กำลังตักน้ำแกงเข้าปากก็ได้แต่รีบกลืน มองตามแผ่นหลังเล็กๆเดินจากไปพลางส่งเสียงถาม  “เห?? ขนุนจะไปไหนฮะ?”  พอรู้ว่าเมียผมไม่หยุดเดินเพื่อตอบคำถาม ผมก็ปรี่เดินตามไปยืนคุมเชิงเป็นผีเจ้ากรรมนายเวรของขนุนเยื้องไปทางด้านหลัง... เผื่อจะได้ส่งสายตาอาฆาตมาดร้ายไปให้ไอ้เด็กเวรนั่น เพื่อที่มันจะได้รู้สึกเกรงใจผมขึ้นมาบ้าง และขนุนจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเจ๊าะแจ๊ะกับแม่งนานเกินไป
.
.
.
ร่างบางของผมพูดเบาๆเพื่อเรียกให้ไอ้เด็กหน้านิ่งที่กำลังจะก้าวขึ้นบันไดไปให้หยุดคุยก่อน  “ขอโทษนะครับน้องช็อป” ...ขนุนมีเรื่องอะไรจะต้องเสวนากับไอ้แฝดหน้าโบท็อกซ์ทุกอณูนี่กันวะ???!

พอไอ้เด็กเวรได้ยินเสียงเรียก มันก็หยุดทันที แล้วหันกลับมาหาขนุน “ครับ???...พี่ขนุนมีอะไรรึเปล่าครับ?”

“คือพี่อยากจะรบกวนขอเบอร์ติดต่อของน้องโชหน่อยน่ะครับ  เห็นว่าน้องโชวาดการ์ตูนได้ แล้วทางสำนักพิมพ์ของพี่กำลังหาคนวาดการ์ตูนประกอบนิยายเรื่องใหม่อยู่  พี่เลยว่าจะขอให้น้องโชลองส่งตัวอย่างงานเก่าๆมาเป็นตัวอย่าง เพื่อให้บ.ก.ได้ตัดสินใจอีกทีน่ะครับ”

พับผ่า!!!...ทำไมผมถึงคิดไม่ทันว้า นั่นสินะ...ไอ้หน้านิ่งนี่มันเป็นพี่ชายของไอ้น้องโช เป้าหมายใหม่ของขนุนนี่หว่า...
ไอ้ที่เมียผมรับปากปาวๆก่อนหน้านี้ว่าจะฝึกปรือฝีมือเรื่องบนเตียงให้สำเร็จเคล็ดวิชา ก็ไม่ได้หมายความว่าเมียผมแม่งจะถอดใจจากไอ้น้องโชเสียหน่อย... อยากได้เบอร์ไอ้น้องนั่นถึงขนาดต้องเอาเรื่องงานมาบังหน้าเลยเหรอฮะขนุน??!!... สงสัยคืนนี้ผมต้องจัดให้หนักเพื่อให้ลืมไปเคะหน้าหวานคนไหนๆในโลกไปเลยแล้วล่ะมั้ง หึ!!

ผมพยายามถลึงตาและส่งกระแสจิตสาปแช่งให้ประสาทหูของไอ้เด็กเวรเกิดขัดข้องขึ้นกลางคัน เผื่อว่ามันจะได้เดินลอยผ่านหน้าขนุนเลยขึ้นไปคุยธุระกับพี่ปีย์ให้จบๆไปเสียที  แต่ดูเหมือนพลังด้านลบของผมจะไปรบกวนคลื่นความถี่ของแม่งเข้าอย่างจัง...เพราะหลังจากผมยืนจ้องหน้าแม่งเพียงไม่นาน  อยู่ๆไอ้น้องช็อปมันก็เงยหน้าขึ้นมองมาทางผม แล้วมองหน้าขนุนสลับกันไปมา...ก่อนที่มันจะอมยิ้ม พร้อมส่งสายตาร้ายๆแล้วตอบขนุนไปสั้นๆ “ได้ครับ...”

พอแม่งพูดจบ...ไอ้เด็กเวรแม่งก็เปลี่ยนท่าทางจากจะก้าวขึ้นบันได มาเป็นออกเดินก่อนหยุดยืนข้างๆขนุน แล้วก้มขยุกขยิกก่อนจะทำอะไรสักอย่างตรงข้างหน้าเมียผม...พลางพูด “นี่ครับ นามบัตรผม...เดี๋ยวผมจะเขียนเบอร์ของโชกับแชมป์แนบเอาไว้ให้พี่ขนุนด้วย” พอแม่งเว้นจังหวะพูด มันก็เงยหน้าขึ้น ก่อนจะเบือนหน้ามองเยื้องมาตรงจุดที่ผมยืน แล้วแสยะยิ้มให้ พลางก้มกลับลงไปใกล้ๆหน้าขนุนอีกครั้ง

ผมเห็นแม่งแอบยิ้มมุมปากระหว่างที่ใบหน้าของแม่งอยู่ห่างจากแก้มใสของขนุนไปไม่ถึงฝ่ามือ พอผมเริ่มจะทนไม่ไหว...และกำลังจะก้าวเข้าไปแยกทั้งสองคนออกจากกัน ไอ้เด็กเวรแม่งก็สรุปใจความอย่างรวดเร็วแล้วผละไปยืนฝั่งตรงข้ามทำหน้าตาเจี๋ยมเจี้ยมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  “เผื่อว่าพี่ขนุนมีงานอะไรอื่นๆอยากจะเรียกใช้ผมหรือน้องๆ... บอกได้เลยทุกเมื่อนะครับ”

คนของผมที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวตอบออกไปง่ายๆ “ครับ...เอาไว้เราค่อยคุยกันใหม่นะครับ” พอเมียผมพูดจบ ไอ้เหี้ยช็อปแม่งก็ส่งยิ้มทิ้งเอาไว้ให้ขนุน พลางเหลือบตามาเย้ยผมพอเป็นพิธีก่อนจะหมุนตัวเดินลอยขึ้นไปหาพี่ปีย์ที่ห้องนอนชั้นสาม

ผมรีบเดินเข้าไปประกบด้านหลังเมียแล้วพูดอย่างร้อนอกร้อนใจ “ขนุนฮะ...น็อตช่วยหาคนวาดการ์ตูนให้ก็ได้นะฮะ”

ขนุนหันกลับมามองหน้าผมด้วยสีหน้าตกใจ แล้วถามอย่างสงสัย “อ้าว! น็อตมายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไร?”

“ก็ทันได้ยินเรื่องงานน่ะฮะ” ผมตอบเจ้าตัวกลับไปอย่างเซ็งๆ
.
.
.
”ที่จะช่วย เพราะว่าคนที่ขนุนติดต่อ คือน้องโชใช่ไม๊?......นี่มันเกี่ยวกับเรื่องที่เราคุยกันเมื่อเช้ารึเปล่า?” ขนุนถามจี้จุดผมได้ดีเหลือเกิน... ใช่ฮะ ผมน่ะ ไม่อยากให้ขนุนเข้าใกล้ใครก็ตามที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากเจ้าตัว หรือกระทั่งไอ้พวกที่ทุ่มความสนใจทั้งหมดมาให้เขาในทางกลับกัน... ผมต้องกีดกันไอ้น้องโชออกห่างจากขนุนให้ได้ เพราะลำพัง...ไอ้พี่ชายคนโตที่ขนุนไม่ได้นึกรักใคร่อะไรมาก แม่งยังแสบทรวงสุดติ่งเป็นทิงเจอร์ตอนเจอแผลสดออกเสียขนาดนี้  รับประกันได้ว่า...ไอ้น้องคนเล็กหน้าบอกบุญไม่รับแม่งก็ต้องแผลงฤทธิ์ได้ร้ายแรงไม่น้อยไปกว่ากันแน่ๆ

เพื่อให้แผนสกัดดาวรุ่งของผมดำเนินไปอย่างไม่มีสะดุด ผมก็ต้องไม่ทำให้เมียจับสังเกตความตั้งใจของผมได้กลางคัน ผมเลี่ยงสายตาจับจ้องของขนุนด้วยการยิ้มหวานใส่แล้วบอกปัดเป็นพัลวัน “เฮ๊ยยยย เปล่า!!! เปล่าเลยฮะ น็อตไม่ได้ห้ามขนุนไม่ให้ทำงานกับน้องโชนะฮะ... ถ้าน้องเค้าทำงานได้ดี น็อตก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ที่บอกว่าจะช่วยหา ก็เพราะไม่อยากให้ขนุนต้องมาคอยเหนื่อยติดต่อประสานงานเรื่องพวกนี้....เดี๋ยวจะไม่มีเวลาเขียนงานกันพอดีน่ะฮะ””

คนฟังดูจะยอมเชื่อสิ่งที่ผมพูดอย่างไม่มีข้อสงสัย ขนุนอธิบายด้วยใบหน้าจริงจังต่อเลยทันที “อย่างนั้นเองหรอกเหรอ ถ้าน็อตไม่ได้ติดใจเรื่องน้องโช ขนุนก็สบายใจ...
.
...ส่วนเรื่องวุ่นวายกับการประสานงานจนไม่เป็นอันเขียนนิยายน่ะ น็อตไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ... ถ้าเราไม่ได้ออกไปไหนกัน ขนุนก็มีเวลาเขียนงานตลอดทั้งวันอยู่แล้วล่ะ  อีกอย่าง...พอได้ตัวอย่างงานมาแล้ว ขนุนก็จะปล่อยให้ทางทีมบ.ก.ติดต่อกับน้องโชเองแหละ” ผมควรจะสบายใจและเชื่อใจเมียเสียดีๆ หรือผมควรจะเริ่มเป็นห่วงตัวเองดีล่ะ..ก็เมียผมเล่นไม่แสดงสีหน้าใดๆออกมาเพื่อบอกใบ้ความคิดข้างในของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว...

...เอาอย่างนี้แล้วกัน...ตอนนี้ เล่นตามน้ำไปก่อน แล้วค่อยคิดดูอีกที ว่าจะเอาอย่างไรกับขนุนและว่าที่ตัวสอดแทรกความรักของผมทั้งหลาย  ผมเลยโอบไหล่ขนุนแล้วพาเดินกลับไปที่โต๊ะกินข้าว ที่พี่กานต์นั่งกินข้าวไปพลาง อ่านตำราอาหารฟื้นฟูกำลังและสมรรถภาพร่างกายของคนป่วยไปพลาง ระหว่างรอพวกผมให้กลับไปร่วมวงด้วยอีกครั้ง “งั้นเรารีบกินให้เสร็จเร็วๆเถอะฮะ ขนุนจะได้กลับไปทำงานเย็นนี้ให้เสร็จเร็วๆ เราจะได้มาเรียนบทเรียนใหม่ของวันนี้กันซะที”

ขนุนยิ้มน้อยๆให้ผม ก่อนจะปรับเปลี่ยนสีหน้าเป็นเรียบนิ่งเหมือนทุกทีระหว่างรับคำ “อืมมม...ก็ได้”


๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐


หลังจากกินข้าวเสร็จ ผมก็รีบเก็บล้างด้วยความไวแสงแล้วขอตัวกับพี่กานต์ที่กำลังนั่งรอส่งไอ้เด็กเวรซึ่งยังไม่ลงมาจากห้องพี่ปีย์ แล้วลากขนุนกลับเข้าห้องทันที... เพราะผมไม่อยากต้องเจอหน้าไอ้เด็กเวรนั่นเพื่อให้เสียอารมณ์ก่อนนอน  อีกอย่าง...เราสองคนมีสิ่งที่น่าสนใจซึ่งต้องทำร่วมกันอยู่อีกเป็นกระตั้กตลอดทั้งคืน 


ผมที่ถือคติเกี่ยวกับเรื่องเซ็กส์ว่า...นกตัวแรกที่ออกหากินก่อนจะได้หนอน...
...และเพื่อให้แน่ใจว่า หนอนยักษ์ของผมจะได้กินขนุนจนอิ่มตื้อไปอีกวัน  เลยทำให้ผมไม่อยากจะเสียเวลาแห่งความหวานชื่นไปกับเรื่องไร้สาระน่าขัดใจใดๆทั้งสิ้น...หึ หึ หึ


พอข้าวเรียงเม็ด ผมก็ลากขนุนเข้ามาแช่น้ำอุ่นเสียด้วยกัน...  ไม่รู้วันนี้ขนุนไปอารมณ์ดีมากจากที่ไหน ถึงได้ออกปากอาสาขัดหลังให้ ทั้งที่ทุกๆวัน...กลับเป็นผมคนเดียวนี่แหละฮะ ที่ทำหน้าที่ดูแลผิวพรรณและความงามของเมียอย่างประณีตไปเสียทุกส่วนสัด


เมื่อมือเล็กๆทั้งสองของคนที่นั่งอยู่ทางด้านหลังตัว ประคองฟองน้ำนุ่มๆเอาไว้ในมือและลูบไล้หนักๆไปตามแผ่นหลังของผมได้สักระยะ เขาก็ถือโอกาสพักจากความล้าด้วยการจรดปลายนิ้วลากเส้นไปตามรอยสักต่างๆของผม เสียงเล็กๆจากด้านหลังถามออกมาหลังจากที่ปลายนิ้ววนไปเกือบถ้วนทั่วทุกร่องรอยของน้ำหมึก  “น็อต...ทำไมถึงสักเต็มตัวอย่างนี้ล่ะ?”

คำถามของขนุนทำให้ผมนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ในวัยเด็กที่เปิดโอกาสให้ผมได้ทำความรู้จักกับศิลปะจากปลายเข็มที่อาศัยร่างกายของผู้คนประหนึ่งผ้าใบวาดรูปเป็นครั้งแรก พอคิดถึงความตื่นตาตื่นใจของเด็กชายน็อตในวันนั้น ทำให้ผมตอบอีกคนออกไปอย่างอารมณ์ดี  “ไม่รู้ซิฮะ น็อตว่ามันสวยดีอ่ะฮะ... 
.
.
...ตอนเด็กๆจำได้ว่า ตอนไปต่างประเทศกับที่บ้าน น็อตเคยเห็นฝรั่งคนนึง มีรอยสักตรงหัวไหล่ คลุมลงมาถึงปลายแขนดูไกลๆ น็อตนึกว่ารอยสักของเค้าคือปลอกแขนเสื้อ แต่ด้วยความเป็นเด็กและไม่เคยเห็นการสักมาก่อน...น็อตก็ได้แต่สงสัยว่า ฝรั่งคนนั้นประหลาดจัง ทำไมถึงกล้าออกมาข้างนอกทั้งๆที่ใส่เสื้อที่มีแขนข้างเดียว...

...จนคุณป๋าต้องอธิบายให้น็อตฟังจนเข้าใจว่า ลายที่น็อตเข้าใจผิดว่าเป็นแขนเสื้อของผู้ชายหัวทองที่ว่า คือการใช้ปลายเข็มดูดหมึกเฉพาะ แล้วจิ้มลงไปใต้ผิวเพื่อให้ปล่อยให้หมึกฝังตัวอยู่ในชั้นผิวหนังอย่างถาวร...
.
.
...จากวันนั้นมา น็อตก็ติดใจกับการสักขึ้นมาซะเฉยๆ เพราะรอยสักของฝรั่งคนนั้นมันสวยติดตาเอามากๆเลยอ่ะฮะ...สวยจนน็อตคิดเอาไว้ในใจว่า ถ้าโตพอที่จะหาเงินใช้ได้เองเมื่อไร...น็อตจะไปสักเหมือนฝรั่งคนนั้นให้ได้”

มือเล็กๆเลื่อนสูงขึ้นไปตรงต้นคอผมแล้วลากเส้นตามรอยสักเหนือสุดที่อยู่เกือบถึงตีนผม “อืม...งั้นก็แสดงว่า ตอนนี้น็อตหาเงินได้แล้วเหรอ?...ทั้งที่ยังเรียนอยู่เนี่ยะนะ??” ...มันมาแล้ว คำถามแจ็คพ็อต... หึ หึ ดีนะ ที่ระวังตัวพอสมควร แถมยังนั่งหันหลังให้ขนุน เมียผมเลยไม่มีโอกาสได้เห็นสีหน้าหลุกหลิกก่อนที่ผมจะตอบเรื่องส่วนตัวที่อาจจะกระทบกับงานได้

ผมรีบตอบออกไปเพื่อไม่ให้ดูผิดสังเกต โดยบิดเบือนความจริงนิดหน่อยให้ตรงตามบทบาทในหน้างานปัจจุบัน  “ฮะ...คงเป็นเพราะน็อตอยากสักมากจริงๆล่ะมั้งฮะ น็อตเลยเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย...น็อตก็เลยเริ่มสักได้เร็วกว่าที่คิดไว้”

พอได้ยินคำตอบแสนหล่อของผม ขนุนก็ต่อคำด้วยเสียงสลดออกมาทันที “น็อตนี่ขยันจังเลยเนอะ ตอนขนุนเรียน...ขนุนยังเอาแต่ขอเงินพ่อแม่อยู่เลย... พอฟังเรื่องของน็อตแล้ว ทำให้ขนุนดูกลายเป็นเด็กรักสบายไปเลย หึ หึ”...แหม่... มีเปรียบเทียบเพื่อทำให้ตัวเองเศร้าเล่นๆขึ้นมาเสียอย่างนั้น... นี่มันอะไรกันฮะเมีย ไหงอยู่ดีๆก็ดึงเข้าดราม่าเฉ๊ยยยยย??!

ผมเลยต้องตบเข้าโหมดร่าเริงให้ได้อีกครั้ง “แหม่..อย่าคิดอย่างนั้นซิฮะขนุน ที่น็อตทำงานพิเศษ ก็เพราะอยากได้ในสิ่งที่พ่อแม่ไม่สนับสนุน ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายอื่นๆ น็อตก็แบมือขอพ่อแม่เหมือนกันแหละฮะ”...แต่ถ้าเอาจริงๆน่ะเหรอฮะ... เหอะๆ ก็เงินพ่อแม่ทั้งนั้นแหละฮะ ที่เอาไปผลาญกับน้ำหมึกและฝีเข็มมาทั้งเนื้อทั้งตัวนี่ล่ะ...

...แหม่ กว่าจะได้มาลายพร้อยเต็มตัวเท่านี้ มันก็ต้องอาศัยเวลาและความพร้อมของร่างกาย ไอ้ครั้นจะให้มาเริ่มสักเอาตอนเริ่มงานเมื่อสามปีที่แล้วเพราะอยากภูมิใจที่ได้ใช้เงินที่มาจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเองมาสักน่ะเหรอฮะ  ป่านนี้เขากวางสักข้าง ยังไม่รู้จะได้เริ่มหรือยัง เพราะตั้งแต่เริ่มทำงานมา...ผมแทบไม่มีเวลาไปทำโน่นทำนี่อย่างที่อยากทำเลยสักอย่าง

เจ้าของมือนุ่มที่ยังไม่ละไปจากรอยสักที่ต้นคอก็ถามออกมาอีกครั้งอย่างสนอกสนใจ “อือฮึ... แล้วรอยสักรอยนี้ได้มายังไง?” เจ้ารอยสักที่ว่า คือลายเส้นสะอาดๆที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเกจ์วัดความเร็วของรถแข่งที่เข็มชี้ทะลุความเร็วสูงสุด พร้อมกับตัวพิมพ์ภาษาอังกฤษเขียนเป็นประโยคสั้นๆ

ผมตอบระหว่างหลับตานึกภาพปลายนิ้วเล็กๆของขนุนที่กำลังไล้ไปตามส่วนต่างๆของรอยสักนั้นอย่างตั้งอกตั้งใจ “ตอนแรกน็อตก็ชอบลายวาดทั่วๆไปนะฮะ... แต่พอมาเห็นลายสักแบบกราฟฟิคเข้าก็ถูกใจ น็อตก็เลยอยากจะลองสักดูซักลาย อีกอย่าง...ตรงต้นคอด้านหลังมันยังว่างอยู่พอดีอ่ะฮะ”

สมกับที่เรียนด้านภาษาศาสตร์มาหลายปี  เพราะขนุนอ่านประโยคที่ผมสักเอาไว้ตรงต้นคอออกมาด้วยสำเนียงไม่มีที่ติ “...live your life to the fullest... เต็มที่กับชีวิต... 
.
.
...หึ!...สมกับเป็นน็อตจริงๆเลยนะ” น้ำเสียงที่บอกว่าเจ้าของคำพูดปักใจเชื่อในความหมายของประโยคภาษาอังกฤษที่ว่าซึ่งสามารถบ่งบอกตัวผมได้นั้น  ทำให้ผมเกิดสนใจขึ้นมาจนต้องหันหน้ากลับไปหาคนที่นั่งอยู่ด้านหลัง แล้วจึงคว้าร่างเล็กที่มีสีหน้าตกใจกับการเปลี่ยนท่าอย่างกะทันหันของผมเข้ามากอดเอาไว้

ผมก้มลงเอาปากคลอเคลียข้างๆใบหูแล้วถามอีกคนออกไปเบาๆ “ยังไงฮะ ที่ขนุนว่าสมกับเป็นน็อต?”

มือทั้งสองข้างของขนุนชูสูงขึ้นในอากาศก่อนจะเอื้อมมาพาดประสานรอบคอของผมเอาไว้ ยกริมฝีปากเนียนนุ่มของตัวเองมาแตะลงตรงแก้มผมเบาๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงชิลๆ “ก็น็อตน่ะ...ดูเป็นคนชอบทำอะไรท้าทาย ชอบลองทำโน่นทำนี่ที่ แม้ตัวเองอาจจะไม่เคยทำสิ่งๆนั้นมาก่อนก็ตาม...  
.
...ซึ่งถ้าเป็นคนอื่น...อาจจะเลี่ยง หรือปฏิเสธที่จะทำ เพราะกลัวความเสี่ยง กลัวจะต้องรับมือกับความปลี่ยนแปลง กลัวความล้มเหลว กระทั่งไม่มีความกล้าเพียงพอที่จะลงมือทำ...
.
.
...แต่ขนุนรู้สึกว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่น็อตสนใจจะทำสิ่งใหม่ๆสิ่งใด ความรู้สึกลังเลใจ หรือความกังวลเหล่านั้นกลับไม่เคยเกิดขึ้นกับน็อตแม้แต่ครั้งเดียว... แม้ระหว่างขั้นตอนการเรียนรู้ที่จะทำสิ่งใหม่ อาจจะก่อให้เกิดความยุ่งยาก หรือลำบากลำบนอยู่บ้าง แต่สุดท้าย ก็จำไม่มีอะไรมากีดขวางความตั้งใจจริงที่จะทำสิ่งๆนั้นของน็อตจนกว่าจะสำเร็จได้”

พอฟังที่ขนุนพูด ผมก็ถึงกับยิ้มด้วยความชอบใจ เพราะทุกๆอย่างที่เจ้าตัวเพิ่งบรรยายออกมายาวเหยียดนั้น มันคือตัวผมแทบทั้งสิ้น  และการที่คนๆหนึ่ง จะสามารถบอกอัตลักษณ์ของใครคนใดคนหนึ่งได้เป็นเป็นเรื่องเป็นราวแบบนี้ เพราะเจ้าตัวได้ให้ความสำคัญกับคนที่ตนพาดพิงถึงพิเศษเกินกว่าระดับที่มีให้กับผู้คนทั่วๆไป ผมเลยอดแซวออกมาไม่ได้ เพราะไม่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศเป็นโหมดโรแมนซ์จนทำให้อีกฝ่ายพลอยรู้สึกอึดอัดกันจนเกินพอดี “หูยยยย...นี่รับจ๊อบเสริมเป็นหมอดูเป่าฮะเนี่ยะ แม่นยั๊งก๊ะอยู่ด้วยกันมาหลายสิบปี...
.
...เอ หรือว่า ขนุนจะแอบปลื้มน็อตเอามากๆ จนส่งคนออกติดตามและสืบพฤติกรรมของน็อตจนรู้จักน็อตดีแบบทะลุปรุโปร่งกัน???”

มือที่คล้องคอผมคลายออก เพราะหน้าเล็กๆนั่นเขยิบเข้ามาหาหน้าผมใกล้ๆ จนสายตาผมเบลอจับภาพไม่ได้ชัดเจน พอรู้ตัวอีกที...ปลายจมูกผมก็ถูกฟันซี่เล็กๆคาบเอาไว้แล้วสะบัดเบาๆคล้ายกับอีกฝ่ายต้องการระบายความรู้สึกหมั่นเขี้ยวตัวผมให้คลายลงไปบ้าง  เมื่อทำร้ายผมจนพอใจแล้ว ขนุนก็พูดพลางอมยิ้ม  “อืมมมมม...แล้วขนุนก็รู้อีกอย่างที่บอกความเป็นน็อตสุดๆ”

“อะไรเหรอฮะ?” ผมถามอย่างสนอกสนใจ แล้วยกแขนทั้งสองข้างของขนุนให้วางกลับไปที่เดิมที่มันเพิ่งจากมา จากนั้นมือผมก็เลื่อนไปเคล้าคลึงเม็ดทับทิมสีชมพูตรงหน้าอกทั้งสองข้าง

“น็อตตัวจริงน่ะ...ต้องเพ้อเจ้อด้วยยังไงล่ะ” สิ้นคำ..เมียผมก็ยิ้มเย้าๆ แล้วยักคิ้วหลิ่วตาให้เหมือนกับทุกครั้งที่เจ้าตัวอยู่ในอารมณ์อยากจะเล่น

ผมก็รับลูกทันที “หึ หึ หึ...ไม่ได้เพ้อเจ้ออย่างเดียวนะฮะ..../ แต่ว่าต้องหื่นมากกกกกกกกกก และก็บ้าาาาาาามากด้วยใช่ไม๊ล่ะ?” คนที่ยังอยากเล่นก็สวนออกมาทันทีโดยไม่รอให้ผมพูดจนจบประโยคด้วยสีหน้าภูมิใจ

ผมอดยิ้มอย่างเอ็นดูในความรู้อกรู้ใจของเมียไม่ได้จริงๆ “แหม่....รู้ใจน็อตดีอย่างนี้ มาตบรางวัลหน่อยซิฮะคนเก่ง” ผมกอดรัดร่างในวงแขนจนไม่อาจขยับหนีไปไหนได้ แล้วฝังหน้าลงตรงซอกคอขาวๆเพื่อซุกไซ้อย่างย่ามใจ

“ฮื่ออออ......เดี๋ยวก่อน ขนุนยังมีเรื่องอยากจะถามน็อตอีก” ขนุนส่งเสียงหวานอ้อนออกมาเบาๆ  เพื่อดึงให้ผมกลับมาสู่บทสนทนาอีกครั้ง

“ขนุนอยากจะรู้อะไรอีกเหรอฮะ?” ผมอดถามด้วยความสงสัยไม่ได้จริงๆ... เพราะเมื่อเหลือบไปดูปลายนิ้วที่เริ่มเหี่ยวของตัวเอง ก็รู้ว่า...ใกล้ถึงเวลาอันสมควรที่เราสองคนจะต้องขึ้นจากน้ำกันเสียที
.
.
.
หลังจากที่นิ่งไปพักหนึ่ง ขนุนก็ถามถึงสิ่งที่ทำเอาผมไม่รู้จะตอบอย่างไรให้ฟังดูมีเหตุผลมากที่สุด โดยไม่เปิดเผยความเป็นจริง แต่ในขณะเดียวกัน...ผมก็ยังสามารถสื่อความต้องการภายในของผมออกไปได้ด้วย “ที่น็อตทำท่าไม่พอใจมากๆเวลาเจอหน้าพี่เกี๊ยวน่ะ น็อตคิดอะไรอยู่เหรอ?”

ผมค่อยตอบขนุนออกไปอย่างช้าๆ “อืมมม... ก็ไม่ได้คิดอะไรหรอกฮะ น็อตก็แค่เป็นห่วงขนุนน่ะฮะ ว่าจะพลาดท่าเสียทีไอ้พี่เกี๊ยวนั่นรึเปล่า”

แต่ดูเหมือนว่าคำตอบของผมจะไม่เข้าหูผู้ฟังที่เคารพสักเท่าไรนัก เพราะขนุนสวนกลับมาทันทีด้วยประโยคคำถามที่มาพร้อมหางเสียงกระชากนิดๆ “ขนุนดูอ่อนแอไร้เดียงสาขนาดนั้นเชียว?”

“ก็นิดนึงอ่ะนะฮะ...  อีกอย่าง น็อตก็ไม่ค่อยไว้ใจพี่เกี๊ยวเท่าไร เห็นหน้ามันมองขนุนแต่ละทีนี่ อย่างกับมันอยากจะกลืนขนุนเข้าไปทั้งเนื้อทั้งตัวยังไงยังงั้น...น็อตไม่ชอบเลยฮะ” พูดจบผมก็ก้มลงประทับรอยจูบเบาๆลงตรงแก้มขนุนซ้ำๆ ราวกับไม่อยากให้แก้มใสๆนี้ห่างไปไหนนานๆ

“ไม่ต้องห่วงหรอกน็อต ขนุนดูแลตัวเองได้... จะว่าไป ขนุนว่า หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้นที่ซุปเปอร์ฯ...พี่เกี๊ยวเค้าคงจะไม่คิดอะไรกับขนุนแล้วล่ะมั้ง” เมียผมหันหน้ามาหาผมเพื่อรับจูบที่หมายจะประทับลงบนแก้มตอนที่เจ้าตัวหันข้างให้ผมแทน เราสองคนจูบกันไป ก็ยิ้มให้กันไปอย่างชอบอกชอบใจ

เพื่อจะเตือนให้เมียอย่างเหลิงกับสถานการณ์จนประมาทจนเกินไป ผมต้องยอมระงับความละมุนละไมที่ริมฝีปาก แล้วเอ่ยอย่างเป็นห่วง “ขนุนอย่าแน่ใจไปฮะ เพราะของแบบนี้ มันต้องดูกันไปยาวๆ” ผมพักหน้าผากเอาไว้ตรงเหม่งของอีกฝ่ายระหว่างจ้องมองปากที่ลอยอยู่ใกล้จนไม่อาจโฟกัสสายตาขยับเปลี่ยนรูปร่างไปเรื่อยๆ

ก่อนที่จะพูดออกมาอีกคครั้ง ปากเล็กๆนั่นก็เผลอส่งฟันบนออกมาขบเนื้อตรงริมฝีปากล่างเบาๆแล้วค่อยคลายสัมผัส...ท่านี่เป็นท่าประจำตัวของอีกฝ่ายเวลาที่ต้องคิดไตร่ตรองเรื่องอะไรบางอย่างที่ตัวเองก็ไม่แน่ใจนัก หากใช่การกลั้นอารมณ์เหมือนที่เจ้าตัวมักจะทำระหว่างเซ็กส์...ผมเลยยอมปล่อยให้ขนุนรอดตัวไป... “น็อตเชื่อขนุนซิ ขนุนรู้จักพี่เกี๊ยวดี... ต่อให้เวลานี้ขนุนไม่ได้อธิบายว่าอะไรเป็นอะไร พี่เกี๊ยวก็น่าจะเข้าใจว่า...ระหว่างขนุนกับพี่เกี๊ยว คงไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน”

ตอนนี้ริมฝีปากเล็กๆตรงหน้าผมเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มแล้วฮะ... เมื่อได้มองรอยยิ้มของเมียในระยะใกล้ๆแบบนี้  ทำให้ผมพาลคิดไปว่า มองไปมองมา...รอยยิ้มเล็กๆของขนุนก็ดูคลับคล้ายคลับคลากับรูปหัวใจเหมือนกันนะเนี่ยะ...น่ารักดีว่ะ หึ หึ

แต่นี่กลับไม่ใช่เวลาชมความน่ารักของเมีย ผมเลยวกกลับเข้าเรื่องที่ยังคุยกันค้างอยู่แล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ถึงขนุนจะว่าอย่างนั้น แต่ น็อตก็ยังไม่ว่างใจ   ไม่รู้ซิฮะ...มันคงเป็นสัญชาตญาณลึกๆล่ะมั้งฮะ ที่ทำให้น็อตยังเป็นห่วงอยู่” นี่เป็นเพียงความจริงเพียงส่วนเดียวที่ผมกล้าบอกต่อหน้าอีกคน ส่วนที่เหลือน่ะเหรอฮะ...

...ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ผมตั้งใจจะทำโดยไม่คิดขออนุญาตหรือความเห็นชอบจากเมียก่อนให้เสียเวลา เพราะผมจะจับตาดูผู้ชายทุกคนที่ขนุนมีปฏิสัมพันธ์ด้วยอย่างไม่ปล่อยปละละเลย และเมื่อไรที่มีโอกาส...ผมจะหาทางกำจัดไอ้ตัวผู้ทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่เหล่านั้น ให้พ้นหูพ้นตาของขนุนไปให้หมด

มือเล็กๆทั้งสอง เลื่อนมาประคองหน้าของผมเอาไว้เพื่อให้มองเห็นหน้ากันได้อย่างถนัดอีกครั้ง เมื่ออยู่ในระยะที่พอดี...เจ้าตัวก็ส่งสายตาประสานเข้ามากับสายตาผม ขนุนยิ้มแล้วพูด “อืมม...ไม่เอาแล้ว เปลี่ยนเรื่องๆดีกว่า... ขนุนอยากรู้ว่า...
.
.
...เวลาน็อตรักใคร  น็อตจะทำตัวยังไงเหรอ?”

เห???!!....ไหงกระชากอารมณ์กันดื้อๆอย่างนี้ล่ะฮะ  อยู่ๆก็กระโดดจากเรื่องไอ้เหี้ยเจี๊ยว แล้วเปลี่ยนมาถามเรื่องของผมเสียอย่างนั้น  แถมไอ้ที่ยิ่งทำให้มันฟังดูทะแม่งๆไปกันใหญ่ คือ การเจาะจงถามผมอย่างเอาจริงเอาจังเกี่ยวกับเรื่องรักๆใคร่ๆของผมอีก  ขนุนแม่งกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่หว่า???  หรือขนุนแม่งจะมาเหนือ...แอบล้วงความลับเกี่ยวกับความรู้สึกของผมที่มีต่อเขาแบบเนียนๆ ถึงได้สับขาหลอกด้วยการสร้างความสับสนเกี่บวกับหัวข้อของบทสนทนามั่วซั่วกันไปหมด เพื่อที่ผมที่กำลังมึนกับคำถามทจะได้มองข้ามเจตนาแอบแฝงของเจ้าตัว???!!

แต่เพราะสองมือนุ่มนิ่มที่ประคองข้างแก้มผมโดยไม่ยอมปล่อย แถมพอผมทิ้งช่วงคิดไปนาน เจ้าตัวก็ดึงหน้าผมเข้าไปใกล้จนผมว่า ตอนนี้ผมแม่งต้องกำลังตาเหล่อยู่แหงๆ...เพราะขนุนเริ่มจะอมยิ้มแปลกๆเสียแล้วสิ ผมเลยยื้อต้นคอเอาไว้ก่อนตอบออกมาอย่างใคร่ครวญ “อืมมม.....คำถามนี้ตอบยากเหมือนกันนะฮะ  เพราะชีวิตนี้ น็อตไม่เคยรักใครมาก่อน  อาการหนักสุดก็แค่แอบรัก...ที่ลงเอยด้วยอาการอกหักไม่เป็นท่าซะอีก น็อตเลยไม่รู้ว่า เวลาที่น็อตรักใคร น็อตจะมีอาการเป็นยังไง...
.
.
...แต่ถ้าน็อตรักใครจริงๆ น็อตคงอยากให้เค้าอยู่ใกล้ๆตัวน็อตตลอดเวลา น็อตอยากคอยดูแลเค้า...ทำโน่นทำนี่ให้เค้ามีความสุข เพราะน็อตหวังอยากจะเห็นรอยยิ้มของเค้าอยู่เสมอ  น็อตอยากเป็นที่พึ่งเพียงคนเดียวของเค้า อยากให้ไม่ว่าเมื่อไร...จะทุกข์หรือสุขยังไง คนแรกและคนสำคัญที่สุดที่เค้าจะนึกถึงคือน็อต...
.
...ที่สำคัญ...น็อตอยากให้เค้าเป็นของน็อตคนเดียว ไม่อยากให้เค้าสนใจใครหน้าไหนในโลกอีกต่อไป เพราะน็อตต้องทนไม่ได้แน่ๆถ้าเห็นเค้าต้องไปอยู่กับคนอื่น ยิ้ม...หัวเราะ หรือ ร้องไห้กับผู้ชายหน้าไหน ที่ไม่ใช่น็อต” ระหว่างที่ผมพูดแต่ละถ้อยคำ ผมจ้องดวงตาสุกใสแวววาวของขนุนไม่วาง... ผมอยากให้เขารับรู้ว่า ทุกๆสิ่งที่ผมกลั่นกรองออกมาจากใจเมื่อครู่นั้น คือการกระทำที่ผมยินดีที่จะทำเพื่อเขา และในทางกลับกัน ผมก็หวังที่จะให้เขาจดจำ และทำในสิ่งที่ผมร้องขอเมื่อผมได้ครองใจของเขาอย่างเป็นเรื่องเป็นราวเรียบร้อยแล้ว

ขนุนจ้องมองผมนิ่งๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “ฟังดูแล้ว น็อตนี่ค่อนข้างจะทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของมากเหมือนกันนะ”

“ขนุนไม่ชอบเหรอฮะ?” ผมถามออกไปทันที เพราะไม่รู้ว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดออกมา มันมีความหมายในแง่ดี หรือร้ายในความรู้สึกของเขากันแน่
.
.
.
ขนุนไม่ได้หลบสายตา หรือหันหน้าหนีผมไปไหน...หากแต่ส่งความว่างเปล่ากลับมาให้ในดวงตาคู่นั้นพลางเอ่ย “เปล่า...ขนุนไม่ได้ว่าอะไรซะหน่อย แค่สรุปตามที่เข้าใจน่ะ อีกอย่าง...ขนุนจะชอบหรือไม่ชอบ น็อตก็อย่าเป็นกังวลไปเลย เพราะขนุนไม่ใช่คนๆนั้นที่น็อตพูดถึงซะหน่อย... ใช่ไม๊ล่ะ?”


พออารมณ์งุ่นง่านด้วยความอยากรู้มันปะทุขึ้นมาแล้ว ผมก็อดถามอีกฝ่ายที่ยังตีหน้าเรียบเฉยออกมาไม่ได้จริงๆ “แล้วถ้าแฟนขนุนเกิดมีนิสัยอย่างน็อตขึ้นมาล่ะฮะ...ขนุนจะว่ายังไง?” ...วินาทีนี้ ต่อให้โป๊ะแตกขึ้นมาจริงๆ...ก็ไม่เป็นไรหรอกฮะ ผมว่าผมแม่งชักจะไม่ไหวขึ้นมาเต็มทีแล้ว... เจอไอ้ประโยคเมื่อกี๊เข้าไป ผมแม่งน้อยใจว่ะสัด!!!

ขนุนปล่อยสองมือออกจากแก้มผม แล้ววักน้ำขึ้นรดตัวที่เริ่มแห้งระหว่างที่พูด “อืมมมม...ถ้าแฟนขนุนเหมือนน็อตทุกอย่างเลยน่ะเหรอ...
.
.
...มันคงเป็นไปไม่ได้หรอกมั้ง ก็จะมีใครนิสัยเหมือนน็อตได้อีกล่ะ นอกจากหัวจุกคนนี้คนเดียว...จริงไม๊ล่ะ...
...และถ้าเป็นน็อตจริงๆ เราคงไม่ได้เป็นแฟนกันหรอก เพราะน็อตไม่ได้ชอบผู้ชายซะหน่อย ที่สำคัญ น็อตวางแผนว่าจะแต่งงาน มีลูก แล้วก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเหมือนผู้ชายทั่วๆไป เพราะฉะนั้น...ขนุนคงตอบคำถามนี้ไม่ได้หรอก เพราะขนุนนึกไม่ออกจริงๆ”

ทำไมพักหลังๆนี่ขนุนแม่งถึงได้ชอบตอกย้ำผมจังวะ ว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน   ผมชักจะทนไม่ไหวแล้วนะเว่ย... ก็เราน่ะลึกซึ้งกันมากและบ่อย ถึงขั้นประตูหลังของขนุนแม่งจะเชื่อมติดเป็นเนื้อเดียวกับน็อตน้อยอยู่แล้ว ขนุนแม่งยังกล้าพูดออกมาได้ว่าเขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับผมด้วย เฮ้อออ!!...พอมันมาเป็นเรื่องของความรักอย่างนี้ การเล่นเกมหลอกล่อชิงไหวชิงพริบกันอย่างไม่จบไม่สิ้นเสียทีนี่มันก็น่าเหนื่อยอยู่ไม่น้อยเหมือนกันนะฮะ

ฮื๊ยย!!! ไอ้เวลาที่ถามเรื่องอย่างว่า เมียผมแม่งก็ตรงได้โล่ห์ แต่พอถูกถามเรื่องความรู้สึกสำคัญๆ ทำไมถึงได้เฉไฉเบี่ยงประเด็นได้เด็ดดวงทะลวงไส้ขนาดนี้วะ???!!!  

ผมตัดพ้อออกมาเพราะอยากรู้แทบใจจะขาด พลางยกร่างบางๆให้ขึ้นมานั่งหันหน้าคร่อมร่างผมเอาไว้ ก่อนจะกอดเอวเล็กๆเอาไว้หลวมๆ  “โธ่!!! ขนุนฮะ ไม่เอาอย่างงี้ซิฮะ... น็อตอยากให้ขนุนลองคิดซะว่า ถ้าเราสองคนเป็นแฟนกันขึ้นมาจริงๆ โดยไม่ต้องคิดถึงเรื่องแต่งงาน เรื่องเป็นผู้ชายแท้ๆ เรื่องอะไรก็ตามที่ไม่สำคัญเท่ากับเรื่องหัวใจ....
.
.
...ขนุนจะโอเคกับการเป็นแฟนของน็อตไม๊?”  ผมพยายามเน้นประโยคหลังสุดทุกๆคำพูด เพื่อบอกให้คนตอบรู้กลายๆถึงความสำคัญของคำถามสุดท้ายนี้

เมื่อได้ยินการรับคำของขนุน ผมก็เบาใจ...อย่างน้อยๆ เจ้าตัวก็รับปากว่าจะยอมตอบคำถามแจ็คพ็อตของผมโดยดี “อือ...เอางั้นก็ได้...
.
...ถ้าสมมติว่าเราเป็นแฟนกันจริงๆ...เรื่องนิสัย ขนุนโอเคนะ  เพราะน็อตเป็นคนน่ารัก เทคแคร์ ดูแลขนุนดีมากๆ แถมยังเป็นห่วงเป็นใย คอยกันพวกคนที่ไม่น่าไว้ใจออกไป ไม่เท่านั้น...น็อตยังคอยให้ความช่วยเหลือขนุนในทุกๆเรื่องอย่างไม่คิดละเลย...  
.
.
...และประเด็นสุดท้ายที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ น็อตน่ะเก่งเรื่องบนเตียงมากกกกกกกอีกตะหาก...
...ถ้าขนุนได้คนอย่างน็อตเป็นแฟนนะ รับรอง...มีความสุขไปทั้งชาติเลยล่ะ”

ผมนี่ยิ้มจนปากจะฉีกไปถึงรูหูอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำตอบของขนุน เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่ได้ยินถูกต้องตามจริง ผมก็เผลอตัวถามย้ำออกมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงดีใจสุดๆ “จริงเหรอฮะ???  ถ้าเราเป็นแฟนกัน...ขนุนก็จะมีความสุขไปทั้งชาติจริงๆเหรอฮะ”

แต่ถ้อยคำตอกย้ำของขนุนก็ดึงผมกลับลงมายังโลกมนุษย์อีกครั้งจนได้ “อื้อ...ถ้าเราเป็นแฟนกันนะ  แต่คงจะเป็นไปไม่ได้หรอก...เนอะ” ผมว่าไม่ใช่แค่เรื่องเฉไฉแล้วล่ะ ที่ขนุนแม่งเก่ง... ผมว่าภายใต้สีหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์อะไรนี่ ต้องแอบซ่อนความเป็นจอมวางแผน หรือพวกที่ชอบเล่นเกมทางจิตวิทยาเอาไว้แน่ๆ เพราะไอ้การต่อปากต่อคำของขนุนนี่ ชวนให้ผมอึดอัดดีชะมัดเลย

แต่ผมจะไม่ยอมเพลี่ยงพล้ำทำอะไรตามอารมณ์อีกต่อไปแล้ว...ในเมื่ออีกฝ่ายไม่เคยเผยความรู้สึกที่แท้จริงและจับต้องได้ออกมาให้ผมได้รับรู้บ้าง...ผมคงไม่อาจบุ่มบ่ามเฉลยความในใจออกไปทั้งที่ขนุนไม่ได้คิดอะไรกับผม เพราะเมื่อความสัมพันธ์บังหน้าระหว่างเราพังทลายลง ก็จะไม่เหลืออะไรให้ผมใช้เป็นข้ออ้างในการเข้าหาขนุนได้อีกเลย

ผมถามลองใจขนุนออกไปอีกครั้ง  “แล้วถ้าสมมติว่ามันเป็นไปได้ล่ะฮะ? ขนุนจะว่ายังไง?”

“ที่ขนุนว่ามันเป็นไปไม่ได้น่ะ ก็เพราะ น็อตเป็นผู้ชายแท้ๆ ที่ชอบผู้หญิง... เพราะฉะนั้น น็อตไม่มีทางที่จะผันตัวมาชอบเกย์อย่างขนุนหรอก” ผมบอกเลยนะฮะ ว่าทันทีที่ผมได้ยินเหตุผลข้อนี้ของขนุน...ตัวผมที่อยู่ข้างในอกนี่แม่งกำลังกระชากทึ้งหนังหัวตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย เพราะไอ้คำตอบของขนุนแม่งก็คือข้ออ้างที่ผมยกขึ้นมาหว่านล้อมให้อีกฝ่ายยอมตบปากรับคำทำข้อตกลงกับผมเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนนี่เอง.... ไอ้เรื่องแค่นี้หรอกหรือ ที่เข้ามากีดขวาง และลบล้างความเป็นไปได้ระหว่างความรักของเราสองคน...

...ถ้าผมรู้ว่าเรื่องนี้จะติดใจขนุนมากขนาดนี้ ผมจะไม่มีวันใช้มันเป็นข้ออ้างในการต่อรองกับขนุนอย่างเด็ดขาด!!

ในเมื่อมันมาถึงขั้นนี้แล้ว ผมก็ถามตามความเป็นจริงออกไปทันที “แล้วถ้าน็อตไม่ถือเรื่องนั้นล่ะฮะ...ขนุนว่ายังไง?”

ร่างเล็กๆบนตัวผมก็ยิ้มหวานให้...หากแต่สิ่งที่เขาพูดออกมาหลังจากนั้น กลับกลายเป็นเรื่องที่ผมทำใจรับฟังได้ยากเหลือเกินโดยเฉพาะช่วงประโยคหลังๆที่บอกให้ผมเข้าใจว่าคนพูดเหมือนจะปัดความคิดเรื่องของผมออกไปจากหัวได้ง่ายดายเสียเหลือเกิน

“ขนุนก็จะรับเอาไว้พิจารณา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะเป็นแฟนกันอย่างสมบูรณ์หรอกนะ เพราะถ้าเราจะเป็นแฟนกันได้จริงๆ ขนุนก็อยากจะรู้จักครอบครัวของน็อต เหมือนๆกับที่น็อตต้องได้ทำความรู้จักครอบครัวของขนุนเหมือนกัน... เพราะขนุนน่ะ เชื่อว่า เราควรจะต้องบอกเรื่องสำคัญอย่างเรื่องคู่ครอง ให้พ่อแม่ พี่น้อง และทุกๆคนที่เราเห็นความสำคัญของเค้าได้รับรู้ถึงเรื่องของเรา เพื่อที่เราจะได้อยู่ด้วยกันอย่างไม่ต้องหลบซ่อนและไม่มีความสุขไปตลอดชีวิตน่ะ...
.
.
...ซึ่งมันคงเป็นไปไม่ได้หรอกเนอะ เพราะทั้งหมดมันเป็นแค่เรื่องสมมติเองนี่นา...
.
.
...เอาน่า หัวจุก อย่าคิดมากกับเรื่องสมมติอะไรพวกนี้เลย มันไม่มีอยู่จริงตั้งแต่แรก และมันคงจะไม่มีทางเป็นความจริงไปได้หรอก ต่อให้ต้องคิดจนหัวแตกตายก็ตามทีเถอะ... เวลานี้ เรามาสนใจเฉพาะเรื่องสำคัญตรงหน้าจะดีกว่าไม๊?”

ผมที่กำลังเงิบก็ได้แต่บอกออกไปอย่างเลื่อนลอย “ฮะ...ได้ฮะ”

“งั้นเดี๋ยวขนุนไปรอในห้องนะ ถ้าน็อตอาบน้ำเสร็จแล้ว น็อตก็ตามเข้าไปแล้วกัน... ขนุนรออยู่นะ เด็กน้อย(จุ๊บบบ)” ขนุนยื่นหน้าเข้ามากดจูบลงบนปากของผมเบาๆแต่เนิ่นนาน แล้วยิ้มให้อีกครั้ง ก่อนไป...เจ้าตัวส่งปลายนิ้วมานวดคลายความเขม็งเครียดตรงหว่างคิ้วและหน้าผากผมสักพัก...จนเมื่อเห็นว่าหน้าของผมราบเรียบไม่มีร่องรอยแห่งความกังวล...คนร่างเล็กก็ค่อยๆพาร่างที่มีหยดน้ำเกาะพราวเดินหายลับออกประตูห้องน้ำไป

“ฮะ...เดี๋ยวน็อตจะรีบตามออกไปเลยฮะ”  ผมรับปากออกไปทันที เพราะรู้ดีว่า ต่อให้คิดให้หัวแตกอย่างที่ขนุนเตือน...ผมก็คงจะคิดอะไรไม่ออกอยู่ดี เอาเป็นว่า...ทำสิ่งที่สำคัญที่สุดตรงหน้านี้ให้ลุล่วงไปก่อน แล้วค่อยเอาเวลาที่ขนุนนอนมาคิดหาหนทางกันอีกรอบ





๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

2 comments:

  1. น่าสงสารน็อตจริงๆเลย อยากเป็นกับขนุนแต่ยังติดกับคำโกหกก่อนหน้านี้ 55555
    ขนุนนี่ก็ต้อนน็อตเลยจริงๆ นี่แหย่เล่นหรือจริงจังเนี่ย 55

    มะลิมารุ ไม่ต้องย้อนไปตอบเม้นเก่าก็ได้นะ ตอบแค่เม้นปัจจุบันก็พอ 555
    ส่วนวิชาชีวะ ไม่ใช่ว่าไม่ถนัดนะ แต่เป็นพวกที่ขี้เกียจอ่านมากกว่า เพราะมันเป็นวิชาที่ต้องจำเยอะมากกกกกก
    แล้วก็ไม่ต้องห่วงเราเรื่องนารูโตะนะ ดูจบก่อนที่จะสอบอีก 55555 380 ตอน ดูสองอาทิตย์จบพอดี รับรองว่ามันเกินขั้น overdose ละ 55555
    ตอนนี้กำลังพยายามรักษาตัวเองให้หายอยู่ หลังจากเป็นหวัดมาหลายวัน มะลิก็สู้ๆนะ รักษาสุขภาพด้วย
    เลิฟนะ เชิฟๆๆ

    ReplyDelete
  2. คุณนารา...มะลิขอเลื่อนลงตอนใหม่ไปเป็นวันพุธที่จะถึงนะคะ...ขอโทษด้วยค่ะ ธุระที่บ้านยังไม่เสร็จ เดี๋ยวมะลิมาตอบความเห็นอีกทีนะคะ...

    ...เป็นหวัดมากไม๊??? อาการเป็นไงมั่งแล้วคะ? ดื่มน้ำเยอะๆนะคะ แล้วพยายามทำให้หัว คอ เท้า อุ่นค่ะ ช่วยได้แน่ๆ...เดี๋ยวเราเจอกันวันพุธนะคะ รักคุณนาราค่ะ เชิฟๆๆๆ

    ReplyDelete