Monday, November 17, 2014

เขาวานให้ผมเป็น 'สายรับ' (เคคู่ผู้รู้รอบฯ) : บทรุกที่ 30: ขิงก็รา ข่าก็แรง



เนื่องจากท้องเรื่องของนิยายตอนนี้  ได้อ้างอิงการดำเนินเรื่องหลักๆจากนิยายเรื่อง คุณครับ...รับรักนักสืบสักคนไหม?::Dear Detective เพราะฉะนั้น...หากคนอ่านท่านใดติดขัด และต้องการเก็บรายละเอียดอย่างครบถ้วน มะลิขอแนะนำให้อ่านตอนต่อไปนี้ เพื่อเป็นการประกอบการทำความเข้าใจส่วนต่างๆที่ละเอาไว้นะคะ





บทรุกที่ 30: ขิงก็รา ข่าก็แรง
(ขิงก็รา ข่าก็แรง : ต่างก็จัดจ้านพอ ๆ กัน, ต่างก็มีอารมณ์ร้อนพอ ๆ กันต่างไม่ยอมลดละกัน)




ช่วงบ่ายแก่ๆของวันพฤหัสหลังจากที่เราทั้งคู่ตื่นนอนและทำกิจวัตรที่สมควรเป็นที่เรียบร้อย เมียผมก็เข้าประจำที่โต๊ะทำงานข้างๆเตียงภายในห้องนอน หากแต่วันนี้...ขนุนกลับไม่ได้นั่งเขียนงานอย่างที่เจ้าตัวมักจะทำเป็นประจำในช่วงหลังตื่นนอนของแต่ละวัน  ตอนนี้คนหน้าแว่นกำลังนั่งขีดๆเขียนๆอะไรบางอย่างลงในสมุดโน๊ตเล่มเล็กๆที่เจ้าตัวมักจะพกติดกระเป๋าเวลาที่ออกไปไหนต่อไหน ส่วนตัวผมก็นั่งเขียนรายงานประจำสัปดาห์เพื่อเตรียมส่งให้พี่ปีย์อยู่ตรงเก้าอี้ตัวข้างๆกันนั่นเอง


ขนุนเงยหน้าขึ้นเพื่อถามผมเบาๆ “น็อต...ตัวเองบอกบ้านน้องแฝดรึยังเรื่องงานเลี้ยงน่ะ?” โดยหลังจากจบคำถาม...แทนที่ขนุนจะก้มหน้าลงไป เพื่อใช้สมาธิเขียนอะไรบางอย่างที่กำลังหน้าดำคร่ำเคร่งเร่งมือทำอยู่เมื่อไม่กี่วินาทีก่อนหน้า เขากลับจ้องหน้าด้านข้างของผมไม่วางตา เหมือนกับว่าเจ้าตัวต้องการได้รับคำตอบจากผมโดยไม่คิดจะปล่อยผ่าน

ผมละสายตาจากหน้าจอคอมแล้วหันกลับไปมองหน้าขนุนทันที แล้วถามเสียงฉุนด้วยความไม่พอใจ  “บอกแล้วฮะ...ทำไม ตัวเองห่วงว่าน้องๆบ้านโน้นจะไม่ได้รับเชิญเหรอ?”

...อะไรมันจะออกนอกหน้าได้มากขนาดนี้  ได้ข่าวว่าเราเพิ่งตกลงคบกันเป็นแฟนได้ไม่กี่วันเองนะฮะคุณ แล้วนี่จะมาพูดเรื่องบ้านไอ้สามแฝดนั่นขึ้นมาให้ผมหึงเพื่อให้ได้อะไรกัน???!!

“เปล่า..เค้าแค่ถามเฉยๆ ก็เค้าไม่ทันได้เห็นตัวเองจัดการชวนน้องๆบ้านนั้นมางานเลยนี่” เมียผมคงจะเห็นสีหน้าไม่พอใจโดยไม่เก็บอาการของผม  เจ้าตัวเลยได้แต่ถอนหายใจ แล้วพูดช้าๆด้วยเสียงเรียบๆ

ผมขยับเลื่อนล้อของเก้าอี้ให้เข้าไปหาร่างบอบบางที่นั่งห่างไปไม่ถึงวา และเมื่อระยะห่างของเราสั้นลงเหลือเพียงคืบ ผมก็ส่งมือไปหมุนเก้าอี้ของอีกฝ่ายให้หันกลับมาประจัญหน้ากัน ก่อนเลื่อนมือทั้งสองขึ้นไปประคองแก้มใสๆของเมียเอาไว้อย่างถนอม แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ขนุน...ห้ามเป็นห่วง หรือสนใจใครนอกจากน็อตนะฮะ!!

“ทำไม...ตัวเองหึงเหรอ?” คนถามเองก็ถามกลับมาด้วยสีหน้า ท่าทาง และน้ำเสียงเป็นการเป็นงานพอๆกัน

ผมเลยตอบไปตรๆง “ฮะ...น็อตไม่ชอบ ไม่ชอบให้เมียตัวเองไปสนใจใครหน้าไหน นอกจากน็อตคนเดียว”...ตั้งแต่ผมได้ดำรงตำแหน่งเป็นแฟนขนุน ผมเลิกกั๊กเรื่องหึงเรื่องหวงเจ้าตัวอย่างสิ้นเชิง...  ...เอาเป็นว่า ถ้าไอ้น็อตรู้สึกหึงขึ้นมาเมื่อไร ผมแม่งก็พร้อมที่จะเล่นใหญ่ และแสดงถึงความเกรี้ยวกราดออกมาเต็มที่ กะว่าปลายปีนี้  ผมคงจะได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงดารานำชายฝ่ายหึงดีเด่นของสักสถาบันแหงๆ
.
.
.
“แล้วอะไรที่บอกตัวเองว่าเค้าสนใจน้องๆบ้านนั้น?” ขนุนถามต่อด้วยความสนอกสนใจ และไร้แววตาล้อเล่น หรือท้าทายอยู่เหมือนอย่างทุกทีที่เจ้าตัวชอบแหย่ผมด้วยเรื่องของว่าที่เคะที่ขนุนอยากจีบ

“ก็ตัวเองเคยบอกว่า ตัวเองอยากจะจีบน้องโชนี่นา” ผมพูดพลางเลื่อนฝ่ามือทั้งสองข้างเข้าหากันที่ตรงกลางใบหน้านิ่ม ซึ่งทำให้พวงแก้มใสเคลื่อนบีบริมฝีปากเข้ามาจนปากเล็กๆทั้งบนและล่างเจ่อออกเหมือนกับจงอยปากสีแดงๆของลูกนกในการ์ตูน ซึ่งยิ่งทำให้หน้าตาของอีกฝ่ายในตอนนี้ดูน่ารักไปกันใหญ่...

...ที่ผมทำอะไรเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของทั้งผมและขนุนด้วยวิธีปัญญาอ่อนแบบนี้ ก็เพราะผมไม่อยากให้ขนุนจับความรู้สึกน้อยอกน้อยใจของผมที่มักจะเกิดขึ้นทุกครั้ง ที่ผมคิดวาดภาพในใจว่า...วันหนึ่งข้างหน้า ขนุนจะทิ้งผมไปเพื่อไปตามไล่ล่าหาความรักในอุดมคติของตัวเอง

ฝ่ามือเล็กๆทั้งสองของขนุนถูกเจ้าตัวส่งมาประกบกับมือผม แล้วเลื่อนเอามือทั้งสองให้กลับไปวางที่จุดเริ่มต้นเดิม จากนั้นขนุนก็พูดช้าๆ เพื่อให้ผมรับรู้ได้ถึงความหนักแน่นของคำพูดคำจาของเขา “แต่ตัวบอกเค้าก่อนหนิว่า เค้ายังไม่พร้อม เพราะเค้าต้องฝึกฝนฝีมือเรื่องอย่างว่าอีกเยอะ...เค้าก็ทำอย่างนั้นอยู่นี่ไง... 
.
.
...หรือตัวเองว่าเค้าพร้อมแล้ว เค้าจะได้ไปเริ่มจีบคนใหม่ซะที” ไอ้ตรงประโยคทิ้งท้ายนี่ เมียผมปรับเข้าสู่โหมดของการประชดประชันและท้าทายแบบเรียบร้อยโรงเรียนขนุนไปแล้วฮะ จากคนที่กำลังน้อยใจ ไม่ฟังเหตุผล หรือคำอธิบาย...ผมเลยต้องกลายกลับมาพลิกบทบาทเพื่อเล่นเป็นคนง้ออีกฝ่ายกันบ้างล่ะฮะงานนี้...

...ช่วยไม่ได้จริงๆฮะ เพราะถ้าไม่อยากเสียเมีย เรื่องเสียฟอร์มยอมหงอแค่นี้ ไอ้น็อตยอมเพื่อขนุนได้เสมอ

ผมเลยถือโอกาสที่เจ้าตัวพักสายตาจากการขีดๆเขียนๆขึ้นมาครู่ใหญ่ๆ ด้วยการดึงข้อมือของอีกคนให้ลุกขึ้น แล้วนำให้ร่างเล็กกะทัดรัดนั้นมานั่งลงบนหน้าขาของตัวเอง ก่อนจะกอดเอวบางๆเอาไว้แล้วจัดอ้อนไปให้เมียชุดใหญ่ “ตัวเองก็...อย่าน้อยใจไปซิฮะ...
.
...เค้าก็พูดไปตามหน้างานเท่านั้นเอง...
...ก็เค้าไม่ชอบให้คนอื่นมายุ่งกับตัวเอง แล้วก็ไม่ชอบให้ตัวเองไปยุ่งกับใครที่ไม่ใช่เค้าเหมือนกันนี่นา”
.
.
.
“เค้าเป็นเมียตัวเอง...เค้าจะไปยุ่งกับใครได้อีก” ขนุนตอบผมหน้านิ่ง แต่สิ่งที่เจ้าตัวเอ่ยนี่ทำเอาใจผมเต้นไม่เป็นส่ำได้ในชั่วพริบตาเลยล่ะฮะ

คำพูดน่าฟังที่ว่า ซึ่งเพิ่งหลุดออกจากปากคนที่ทำเหมือนว่าไม่สนใจสิ่งใดในโลก ทำเอาผมตาลุกวาวด้วยความดีใจ จนต้องถามอีกฝ่ายออกไปอีกครั้งอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง เพราะตั้งแต่ที่เราตกลงคบกันเป็นแฟน เมื่อกี๊นี้คือครั้งแรก ที่ผมเพิ่งเคยได้ยินขนุนเรียกแทนตัวเองว่าเมียต่อหน้าต่อตาผม “เมื่อกี๊ว่าไงนะฮะ???”
.
.
“...ไหนพูดอีกทีซิ...นะฮะคนเก่ง น้า น้า...นะฮะ (จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ)” พอเห็นว่าอีกคนทำท่านิ่งไปนาน ผมเลยขนลูกอ้อนออกมาใช้อย่างเต็มที่ เพื่อหวังจะได้ยินของดีอีกสักรอบให้ชื่นใจ

แต่เห็นทีว่า ความพยายามของผมจะไม่เป็นผลกันในคราวนี้นี่เอง เพราะขนุนเริ่มจะปัดป้องน้อย ก่อนจะพูดออกมาเบาๆ “ฮื่อออออ...ตัวอย่าเพิ่งมาอ้อนตอนนี้ซิ  เค้ากำลังเขียนรายการของที่เราต้องเตรียมสำหรับงานเลี้ยงอยู่...ตัวไม่เห็นรึไง...
.
.
...เราไม่ได้ทำอะไรซักอย่างนอกจากมีเซ็กส์มาตั้งหลายวันแล้วนะ....อีกอย่าง เราเหลือเวลาเตรียมความพร้อมอีกแค่วันเดียวเอง...เดี๋ยวงานก็ไม่เสร็จกันพอดี...
...ถ้าเกิดงานมาเละเพราะเราสองคนล่ะก็ ทีนี้ล่ะ...ไม่ใช่แค่เค้าหรอกที่จะเม้งตัวน่ะ รับรองเลยว่าคุณกานต์กับคุณปีย์ต้องได้มายำใหญ่ฉีกอกตัวแน่ๆ” พูดจบมือเล็กๆก็ถูกส่งมาบิดปลายจมูกผมไปมาเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยวหลายครั้ง

ผมเลยตอบรับคำเมียออกไปทันทีด้วยความเข้าอกเข้าใจ และว่านอนสอนง่ายสมกับเป็นสามีผู้อยู่ในโอวาท “โอเคฮะ! ทำงานก่อนก็ได้”
.
.
...ซะเมื่อไรล่ะฮะ หึ หึ...
...เพราะพอขนุนพูดเรื่องมีเซ็กส์ติดต่อกันตั้งแต่กลางวันยังกลางคืนตลอดสามสี่วันที่ผ่านมานี่ ก็ทำให้ผมเปรี้ยวปากอยากจะกินขนุนขึ้นมาอีกจนได้ ผมเลยจะกัดฟันก้มหน้าก้มตาเตรียมงานเลี้ยงฉลองให้เสร็จโดยเร็วที่สุด เพื่อที่เราสองคนจะได้มีเวลาในการเล่นกันมากขึ้นอย่างน้อยอีกสักสามสี่ชั่วโมงก็ยังดี   ผมเลยรวบรัดออกมาเลยทันที “เดี๋ยวพอเตรียมงานเสร็จแล้วจะได้เอากันให้เป็นเรื่องเป็นราวแบบรวดเดียวเลย”


ขนุนสวนออกมาทันควัน แต่ผมมันก็ใช่ย่อยเสียที่ไหน  “หื่น! /..ช่วยไม่ได้ ก็เมียเซ็กซี่น่ากลืนน... ผัวก็ต้องหื่นเป็นธรรมดา เนอะ!! ผมแกล้งสูดหายใจฟืดฟาดๆ จนโพรงจมูกบานระหว่างทำท่าดมไปตามตัวของคนที่กำลังนั่งตักผมอยู่ ขนุนหัวเราะเต็มเสียงแล้วอำนวยพรให้ผมมาอีกหน

“บ้า!! /..“ช่วยไม่ได้ ก็เมียเซ็กส์จัด...ผัวก็ต้องบ้ากำหนัดเป็นธรรมดา” แต่มีหรือที่ผมจะสลด...ผมก็ตอบกลับไปอีกครั้งเพื่อให้เมียชื่นใจ หากแต่คราวนี้ ผมเปลี่ยนท่าทางเป็นแลบลิ้นปลิ้นตา แล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ พร้อมกับทำท่าเหมือนจะเลียไปทั่วหน้าของขนุนแทน

ขนุนเอาปลายนิ้วหนีบปลายลิ้นของผมเอาไว้แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ที่ผมรู้ได้ทันทีว่า อีกฝ่ายหมายความตามนั้นจริงๆ “นี่ถ้ายังก่อกวนเค้าทำงานอีกนะ...คืนนี้เค้าจะให้เล่นบทบาทสมมติเป็นพี่น้องคลานตามกันมา แล้วมีอะไรกันไม่ได้ไปตลอดทั้งคืนเลยหนิ”

หึ! ใครว่าเซ็กส์แบบเล่นตามบทบาทสมมติแม่งเจ๋งนักเจ๋งหนากันฮะ...
...ผมอยากจะบอกเหลือเกินว่า แม่งก็ไม่แจ่มเสมอไปหรอกฮะ...
...ลองถ้าเรากับแฟนต้องมาเล่นเป็นพี่น้องท้องเดียวกัน ที่แม่งเสือกดันอยากจะสอยกันเองอย่างบทบาทสมมติที่ขนุนเคยขอให้เราลองเล่นกันเมื่อสองคืนก่อนดูเถอะฮะ  รับรองเลยว่า...มันจะเป็นความทรมานแบบสุดแสน ซึ่งสามารถบั่นทอนพลังชีวิตไปได้ครึ่งหนึ่ง เพียงแค่ได้ลิ้มลองประสบการณ์นั้นภายในช่วงเวลาแค่คืนเดียว...

...คืนนั้น ผมแม่งต้องนอนตะกายข้างฝาเป็นหมาเดือนสิบสองที่เจ้าของล่ามเอาไว้ เพราะขนุนในคราบพี่ชายผู้แสนดี แม่งก็เสือกจะเล่นบทนอนหลับในสภาพเปลือยเปล่าอยู่ในอ้อมแขนของผมอยู่จนถึงเช้าอย่างเคร่งครัด โดยที่ไอ้น้องชั่วตัวดีอย่างผม กลับทำอะไรไม่ได้ นอกไปจากแอบมองเรือนร่างของพี่ชายตัวเองอยู่ทั้งคืน เพราะเห็นแก่ศีลธรรม และคำว่าพี่น้องร่วมสายเลือดที่ค้ำคออยู่.....สนุกเหี้ยๆจนละเหี่ยไปอีกหลายวันเลยล่ะฮะ  บอกเลย หึ หึ

พอรู้ว่าตัวเองเริ่มจะเล่นมากไป ผมก็รีบประจบเอาใจอีกฝ่ายเพื่อแก้ไขความผิดพลาดทางเทคนิคทันที “เย๊ออออ...ไม่เล่นแล้วฮะ เค้าทำงานแล้วน้า โอ่โอ๊ เอ่เอ๊...อย่าโกรธเค้าน้า” ผมยกมือขึ้นหมุนไปหมุนมาตรงหน้าขนุน เหมือนกับที่ผู้ใหญ่สมัยก่อนมักจะทำเวลาต้องการปลอบให้เด็กเล็กๆหยุดร้องไห้
.
.
.
“ฮื่ออ...ทำท่าแบบนี้ ใครเค้าจะโกรธตัวลงกันล่ะ ฮึ??” ขนุนพูดไปก็อมยิ้มอย่างอ่อนใจไป
.
อยู่ๆขนุนก็พูดออกมาเหมือนนึกอะไรบางอย่างออก และต้องการความเห็นชอบและร่วมมือจากผม ”...อ้อ...ตัวเอง”

“หื๊มมม ว่าไงฮะ?” ผมถามพลางฝังจมูกลงตรงซอกคอหอมกรุ่นของอีกฝ่ายคล้ายกับต้องการหาที่วางเพื่อพักใบหน้า

“เค้าขอเตือนตัวเองเลยนะว่า คืนวันงาน...ตัวเองห้ามมอมเหล้าเค้าเด็ดขาด ไม่งั้นเค้าโกรธจริงๆด้วย”

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ขนุนย้ำเรื่องนี้กับผม เพราะเมื่อคราวที่แล้ว...ขนุนดวดเหล้ากับผมเสียจนเมาแฮงค์ไม่รู้เรื่อง นั่นเลยทำให้เจ้าตัวอดช่วยพี่กานต์กับพี่ปีย์เก็บบ้านหลังจากงานเลี้ยงรอบที่แล้วจบลง  เขาจึงเก็บความรู้สึกผิดที่ไม่ได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลืออะไร ทั้งที่เป็นตัวตั้งตัวตีที่ขอให้พี่กานต์จัดงานในครั้งนั้นขึ้น  จนสุดท้าย...มันก็กลายมาเป็นเรื่องติดค้างใจเขามาถึงทุกวันนี้

แต่นั่นกลับไม่ใช่เรื่องที่ผมให้ความสนใจเท่าไรนัก... เพราะผมใส่ใจเนื้อหาส่วนท้ายของประโยคมากกว่า ผมจึงอดถามคนที่นั่งอยู่บนตักออกมาไม่ได้ “เออ จริงซิ...เค้าไม่เคยถามตัวเองเลยนะว่า เวลาตัวเองโกรธ ตัวมักจะมีอาการยังไงเหรอฮะ?”

ขนุนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แล้วตอบสั้นๆ “ไม่บอก.../....ว๊า อย่างทำอย่างนี้ซิฮะ ไม่เอา ไม่เอา...บอกเค้าหน่อยน้า นะฮะ...นะฮะคนเก่ง...น้า...นะ นะครับเมีย” ผมเลยใช้ลูกอ้อนขั้นสูงสุดด้วยการเรียกขนุนโดยใช้สรรพนามที่ทำเอาอีกฝ่ายหน้าร้อนผ่าว บวกกับคำลงท้ายที่ผมไม่ค่อยพูดบ่อยนัก หากไม่จำเป็น หรือสำคัญจริงๆ

“หึ หึ...ปกติเค้าก็ไม่ค่อยโกรธใครหรอก อีกอย่าง...เค้ามักจะไม่ค่อยโกรธคนทั่วๆไปที่ไม่สนิทหรือไม่ใช่คนในครอบครัว และสำหรับคนที่เค้าสนิทด้วย...ถ้าเกิดมาทำให้เค้าโกรธจริงๆล่ะก็ เวลาเค้าโกรธ คงจะออกมาในทำนองว่า...ดาบนั้นคือสนองล่ะมั้ง” ขนุนพูดพลางทำหน้ามีลับลมคมใน

ผมเห็นสีหน้าของขนุนแล้วก็ต้องถามออกไปอย่างเสียไม่ได้ “ดาบนั้นคืนสนอง...ยังไงเหรอฮะ?” ...ไอ้ความหมายน่ะผมพอเข้าใจได้นะฮะ แต่ขนุนแม่งจะทำอย่างไรในรายละเอียดนี่ ผมคงต้องถามให้แน่ใจดูเสียหน่อย

“ถ้าตัวไม่ทำให้เค้าโกรธ...ก็ไม่เห็นจะต้องแคร์เลยนี่ เนอะ!”  เมียผมบอกปัดอย่างไม่สนใจเท่าไร พลางส่งยิ้มสวยๆให้ผมนั่งมองอย่างชื่นใจแทน

หึ หึ...ดูเหมือนความโกรธแค้นจะเป็นโลกลี้ลับอีกใบที่ผมจะต้องหาทางพิสูจน์ให้จงได้...
...บอกว่าไม่ให้มอมเหล้าเพราะจะโกรธใช่ไหม???!
...ได้!!...ไอ้น็อตจะจัดไปไม่ให้พลาดเลยทีเดียว  เพราะผลลัพธ์ที่รอผมอยู่ปลายทางก็คือ ผทจะได้เห็นทั้งขนุนโกรธ และได้มีโอกาสงามๆในการลวนลามเมียเวอร์ชั่นเปรี้ยวซ่าก๋ากั่นได้มันส์ถึงใจ หลังจากกึ่มๆไปสักนิดสักหน่อยเหมือนอย่างเมื่อคืนนั้นอีกสักที...
.
.
.
...เห คิดถึงเรื่องคืนนั้นขึ้นมา ก็พลอยให้ผมนึกเรื่องสำคัญมากที่สุดเรื่องหนึ่งที่ผมอยากจะขอขนุนเอาไว้ตั้งแต่ที่เราตกลงเป็นแฟนกันได้แล้วขึ้นมาได้ทันที “อ้อ ตัวเอง...เค้าอยากขอให้พรุ่งนี้ตัวเองไม่ต้องแต่งตัวน่ารักมากได้ไม๊ฮะ? เอาแบบที่ชอบแต่งเมื่อก่อนก็ได้ฮะ”

“อ้าวว ทำไมล่ะ...ก็ตัวบอกว่าเค้าแต่งแล้วน่ารัก น่ามองไม่ใช่เหรอ...
.
...ตัวไม่อยากให้เค้าแต่งตัวน่ารักๆแล้วเหรอ?” ผมส่ายหน้าให้อีกฝ่ายดูแทนคำตอบโดยไม่ลังเล “ไหนตัวลองบอกเค้าซิว่า เหตุผลของตัวคืออะไร?” ขนุนทำหน้าสงสัยอย่างที่สุด และดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่เข้าใจคำร้องขอของผมเอามากๆ เพราะที่ผ่านมา...ผมนี่แหละที่จะคอยอ้อน คอยขอให้ขนุนลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงการแต่งกายเสียใหม่ เพื่อให้ดูน่ารักสมใจผม...อย่างที่ขนุนเพิ่งพูดออกมาทุกประการ

แต่ก็นั่นแหละฮะ...แค่หลังจากวันนั้นที่ขนุนเดินออกมาหน้าบ้านแล้วเจอกับไอ้เหี้ยเห็บหมา หรือตอนที่ผมพาเจ้าตัวไปกินข้าวเย็นแล้วเจอหน้าไอ้สามตัวแก๊งค์สุสานรถด้วยรูปโฉมหลังโมดิฟายแล้วแค่เพียงไม่นาน ก็พาลทำให้ผู้ชายคนอื่นหวั่นไหวจนเกิดคิดเปลี่ยนใจอยากจะสมัครตำแหน่งรุกให้ขนุนกันเป็นแถวๆ แล้วถ้ายิ่งต้องมานั่งร่วมโต๊ะกันเป็นเวลาหลายชั่วโมง มันต้องมีใครเกิดหวั่นไหวจนแอบชอบขนุนหลังจากได้เห็นใบหน้าเกลี้ยงๆ น่ารักๆของเขาขึ้นมาแน่ๆ

“ก็เค้าไม่อยากให้คนอื่นเห็นว่าเมียเค้าน่ารักน่ากอดขนาดไหนนี่ฮะ” ขนุนทำหน้างอเหมือนกับไม่ชอบใจกับคำตอบของผมเท่าไรนัก ผมเลยอธิบายต่อด้วยเหตุผลที่ขนุนน่าจะรับได้มากกว่า “อย่ามองเค้าอย่างนั้นสิฮะ...เค้าแค่ไม่อยากให้ตัวต้องมาลำบากใจถ้าคนอื่นจับจ้องมองตัวเองอยู่ตลอดเวลาแบบที่ตัวไม่ชอบยังไงล่ะฮะ”

พอตรรกะของผมเป็นที่เข้าใจได้ ขนุนก็รับคำแต่โดยดี “อย่างนี้นี่เอง เค้าเข้าใจแล้วล่ะ... ก็ได้ เค้าจะไม่แต่งตัวแบบที่ตัวชอบก็ได้...
.
.
...ว่าแต่ เราสองคนควรจะบอกคนอื่นเรื่องที่เราเป็นแฟนกันรึเปล่าล่ะ?” คราวนี้ผมว่า ผมไม่ได้คิดไปเองแน่ๆฮะ...เพราะผมเห็นสายตาคาดหวังของขนุนฉายออกมาระหว่างที่เจ้าตัวก้มหน้าก้มตาถามประโยคเมื่อครู่ออกมาอย่างจะแจ้ง

แต่เพราะผมไม่อยากดีใจเก้อ ผมเลยตอบออกไปโดยที่เว้นช่องเอาไว้ เพื่อให้อีกฝ่ายเป็นคนเติมคำลงในช่องว่างนั้นด้วยตัวเอง... หึ หึ ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่า ถ้าเป็นขนุน...ขนุนจะทำอย่างไร “อืมมมม...แล้วแต่ตัวเองอ่ะฮะ ถ้าตัวเองอยากบอก ก็บอกเถอะฮะ...เค้ายังไงก็ได้”

ซึ่งเมียผมแม่งก็มาเหนือตลอด...ขาเฉไฉตัวเอ้ก็อย่างนี้แหละฮะ “ตัวเองไม่อยากให้คนอื่นรู้เหรอว่าเราเป็นแฟนกันแล้วน่ะ?”

จริงๆเรื่องแบบนี้...ผมว่า ถ้าให้ผมเป็นฝ่ายป่าวประกาศ มันก็ทำได้ง่ายๆนะฮะ แต่ผมอยากให้อีกคนเป็นคนออกปากเองมากกว่า เพราะผมอยากให้เขาแสดงความแน่วแน่ และจริงจังกับเรื่องของเราให้ผมได้มีโอกาสเห็นมากกว่านี้หน่อย เพื่อที่ผมจะได้เริ่มมั่นใจ กับความรู้สึกของอีกฝ่ายที่มีต่อผม ก่อนที่ผมจะเดินหน้ารวบทุกสิ่งทุกอย่างที่ขนุนเป็น ให้มาอยู่ในอาณัติของผมโดยสมบูรณ์เสียที

“...เรื่องที่เราเป็นอะไรกัน ไม่เห็นต้องป่าวประกาศไปเลยนี่ฮะ เพราะถ้าใครสังเกตดีๆ เค้าก็น่าจะดูออกว่าเราน่ะเป็นมากกว่าเพื่อนกันอยู่แล้ว” ผมเลือกที่จะตอบตามความเป็นจริง ก็ผมน่ะ โคตรมั่นใจเลยฮะว่า หากใครได้ใช้เวลากับเราสองคนสักพัก ก็ย่อมต้องมองออกว่าเราสองคนเป็นมากกว่าเพื่อนทั่วๆไปของกันและกันแน่นอน...ถ้าแม่งดูไม่ออกจริงๆ ผมว่า ผมจะเชิญไอ้บุคคลตาถั่วที่ว่านั้น มานั่งดูการแสดงหนังสดระหว่างเราสองคนดูสักรอบ จะได้เข้าใจความสัมพันธ์ของผมกับขนุนอย่างกระจ่างแจ้งแดงแจ๋กันไปเลย หึ หึ   

“ยังไงเหรอที่บอกว่าเราสองคนเป็นมากกว่าเพื่อน? คนนอกเค้าจะดูเราสองคนออกง่ายๆได้ยังไงกัน?” เมียผมติดใจเรื่องนี้ไม่หาย เจ้าตัวเลยเงยหน้าขึ้นจ้องตาผมเขม็งระหว่างที่ถามสองประโยคนี้ออกมา

แต่ในเมื่อเมียเลี่ยงที่จะไม่อธิบายเรื่องอาการโกรธของตัวเองให้ผมฟัง มีหรือที่ผมจะยอมอธิบายเรื่องแบบนี้ให้เจ้าตัวฟังง่ายๆกัน...ผมว่า เอาไว้รอให้ประจักษ์แก่สายตาตัวเองดูสักครั้ง เขาก็น่าจะเข้าใจเรื่องที่หาคำจำกัดความ หรือการบรรยายที่เหมาะสมได้ยากแบบนี้ได้เสียที  “หึ หึ...เดี๋ยวเค้าก็รู้กันเองแหละฮะ ว่าเราเป็นแฟนกัน...
.
...เชื่อสิ ว่าเค้ามีวิธีบอกทุกคนอย่างละมุนละม่อม...
...จริงๆถ้าทำตามวิธีของเค้า เราสองคนแทบไม่ต้องออกปากเลยนะฮะ ว่าเราสองคนเป็นแฟนกันแล้ว” และผมก็มั่นใจว่า...ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่ผมวางเอาไว้ ทุกคนในงานนี้ ย่อมต้องได้เป็นส่วนหนึ่งของการเปิดตัวความสัมพันธ์ของเราอย่างแน่นอน

“หัวจุก...อย่าเล่นอะไรพิเรนทร์นะ!!” ขนุนปรามพลางเอามือมาดึงปอยผมบนหัวผมเบาๆ

“รับรองเลยฮะคนเก่ง...เค้าไม่เล่นอะไรพิเรนทร์แน่นอน หึ หึ” ผมตอบโดยที่ไม่ได้บอกเจ้าตัวว่า นิ้วหัวแม่โป้งกับนิ้วชี้มือขวาที่ประคองหลังของขนุนอยู่กำลังไขว้กันตลอดเวลาที่ผมตอบคำของอีกฝ่าย


๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐


...และบทลงโทษของคู่นี้ก็เบาๆน่ารักๆ เพราะคนที่แพ้จะต้องดื่มน้ำมะนาวคั้นสดหนึ่งแก้วและห้ามกินน้ำอื่นใดล้างคอนอกจากน้ำที่เราเตรียมให้เท่านั้นนะคะ......................................ถึงทีที่พี่ขนุนของน้องๆจะต้องรับโทษแล้วค่ะ งานนี้ง่ายๆค่ะ แค่ดื่มสองแก้วนี้ให้หมดก็พอค่ะ...อะไรนะคะน้องน็อต...อ๋อ ให้ดื่มน้ำในแก้วใบใหญ่ก่อนแล้วค่อยดื่มน้ำมะนาวจะดีกว่า......................................คุณขนุนคะ ดื่มน้ำรวดเดียวให้หมดก่อนแล้วามด้วยน้ำมะนาวนะคะ เพื่อให้การลงโทษตานี้สำเร็จเสร็จเรื่องกันไปซะทีค่ะ...เชิญเลยค่ะ”


ผมยืนฟังเสียงพูดของพี่โอ่งที่ดังลอยมาเข้าหูอย่างมีความสุข ราวกับกำลังนอนฟังซิมโฟนีหมายเลขเจ็ดของเบโธเฟน อยู่บนโซฟาเบดหนังแท้นุ่มสบาย ในวันที่อากาศเย็นๆมีเม็ดฝนโปรยปรายอย่างไรอย่างนั้น... 
...แม่เจ้า!! อะไรมันจะโป๊ะเชะเป๊ะข่ะหน่าดราวกับจับวางได้แบบนี้??!!
.
.
ในที่สุด คืนนี้...ผมก็ไม่ต้องยืมมือใครมากรอกเหล้าให้ขนุนกินอีกต่อไปแล้ว เพราะในที่สุด...โชคก็เข้าข้างโผมมม เย่สส!!!

แหม่...ผมชักจะเชื่อขึ้นมาเสียแล้วสิฮะว่า คนทำดีแล้วได้ดียังมีอยู่จริงในโลก...
...ผมขอสาบานกับแผ่นหนังเอวีนับหลายร้อยที่มีทั้งหมดในคอลเลคชันว่า  นับจากวันนี้ไป...กระผม นายน็อต นรธิป พิมรรักษา จะขอทำความดีเพื่อสร้างความสุขให้แก่ผู้อื่น แม้มันจะเป็นสิ่งเล็กน้อยจนไม่มีใครสามารถมองเห็น หรือซาบซึ้งใจได้ก็ตาม...  

...ก็คิดดูสิฮะ แค่ผมสละเวลาอันมีค่านิดๆหน่อยๆ ในการเตรียมงาน  เตรียมของจิปาถะสารพัดที่ต้องใช้ระหว่างการเล่นเกมที่ผมกับพี่โอ่งช่วยกันคิดขึ้นเพื่อสร้างความบันเทิงของค่ำคืนให้กับทุกๆคน  ผมก็ได้รับผลตอบแทนเป็นสิ่งที่ผมเฝ้าภาวนา และหาโอกาสทำให้มันเกิดขึ้นให้ได้เร็วที่สุดได้ทันใจดีเหลือเกิน   

สายตาผมจับจ้อง และลุ้นให้ขนุนกระดกเตกีล่าที่รินเอาไว้เต็มแก้วน้ำดื่มขนาดใหญ่น้องๆน้ำอัดลมกระป๋องลงคอไปให้หมดโดยไม่หยุดพัก... ผมรู้ดีฮะว่า ขนุนต้องรู้สึกถึงความผิดปกติของน้ำใสๆในแก้วนั่นแน่ๆ แต่เพราะเจ้าตัวเคยซัดวอดก้าเพียวๆเต็มๆถ้วยกาแฟแบบไม่หยุดพักหายใจมาก่อน  ผมก็แน่ใจว่า...เตกีล่าในปริมาณเท่าๆกัน หรืออาจจะมากกว่านิดหน่อยนี่ ก็ไม่น่าจะครนามือขนุน นักดื่มน้ำเก่ง ดื่มน้ำเยอะ...แถมยังดื่มน้ำได้ทุกประเภทอย่างแน่นอน  

(โดยเฉพาะน้ำที่ต่อท่อตรงออกจากตัวผม...ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยฮะ ยิ่งพักหลังๆ นับจากวันที่เราตกลงเป็นแฟนกัน ขนุนแม่งแทบจะสูบของเหลวของรักของผมออกจากร่างไปเสียแทบทุกครั้งที่เรามีเซ็กส์กัน บางคืนนี่ผมต้องคอยเบี่ยงเบนความสนใจของโพรงปากนุ่มนิ่มของเจ้าตัว ให้ออกห่างจากน้องชายของผมบ้าง เพราะผมเริ่มจะเห็นใจไอ้น้องบ้องโตของผม ที่แม่งเริ่มจะดูหมองคล้ำดำเหี่ยวลงสองสามเฉดสี เนื่องจากไม่สามารถสร้างความชุ่มชื้นขึ้นมาทดแทนของเหลวที่เสียไปหลังจากการใช้งานหนักทั้งวันทั้งคืนของผมได้ทัน)

เมื่อคนหน้าแว่นคว่ำแก้วน้ำ และแก้วน้ำมะนาวลง... ก็ส่งหน้าหยิกยับเป็นกระดาษถูกขยำ พร้อมกับสายตาอาฆาตไม่ไว้หน้ามาให้ผมทันที  อ๋อ นี่คงจะเป็นอาการเริ่มต้นของความรู้สึกโกรธที่ขนุนบอกผมแบบครึ่งๆกลางๆเมื่อวันก่อนล่ะสินะ...

...แล้วไอ้ประโยคที่บอกว่า ดาบนั้นคืนสนองที่ขนุนว่า จริงๆแล้วมันเป็นอย่างไรกันน้าาาา  ชักอยากจะเห็นขนุนเหวี่ยงดูเต็มๆเสียแล้วสิ ดีไม่ดี...ถ้าออกอาการพยศมากๆเข้า พ่อจะได้ถือโอกาสขึ้นควบให้หายดื้อแม่งจนถึงเช้า จะได้รู้กันไปว่า ม้าป่าผู้เกรี้ยวกราด กับคาวบอยหนุ่มปราชญ์แห่งตัณหาอย่างผม ใครมันจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในสังเวียนแห่งกามากันแน่ หึ หึ...

...แหม่ มันช่างเข้าตำรายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเสียเหลือเกิน...
...ไหนจะได้ทั้งเห็นเมียโกรธอย่างเต็มสูบครบลูปดีกรีความเหวี่ยงวีน พ่วงท้ายด้วยการกินตับ จับเซ่งจี๊เมียต่อเนื่องตลอดคืน ในสภาพที่ขนุนสุกปลั่ง ส่งกลิ่นหอมฟุ้ง และหวานฉ่ำไปด้วยส่าเหล้า ยวนตา เย้าอารมณ์ ผสมความน่ากินสุดๆอีกล่ะ  แล้วอย่างนี้...ผมจะปฏิเสธตำแหน่งชายหนุ่มผู้เฉลียวฉลาด แถมยังหล่อเหลามีมาดไม่มีใครเกินได้อย่างไรกันล่ะฮะ เคี๊ยก เคี๊ยก

ผมมองหน้าขนุนตอบด้วยสายตา และรอยยิ้มหยันๆอย่างไม่คิดปิดบัง เพราะผมต้องการท้าทายอารมณ์ของอีกฝ่ายให้ได้มากที่สุด  การตอบสนองของอีกฝ่ายด้วยการสะบัดหน้าหนีเพื่อหันไปมองทิศทางตรงกันข้ามกับที่ผมกำลังยืนอยู่ บอกผมได้ดีว่า อีกคนกำลังหัวเสียสุดๆ... ซึ่งเป็นสิ่งใหม่ที่ผมไม่เคยเจอ ระหว่างที่เราสองคนได้อยู่ด้วยกันมาเกือบสองเดือน  

หึ หึ...คุณอย่าได้คิดเชียวว่า คุณจะทำปั่นปึ่งใส่ผมได้... นี่ถ้าไม่ติดว่าอยากจะเห็นคุณฟาดงวงฟาดงาอย่างเต็มที่ ผมไม่มีทางปล่อยให้คุณได้ยืนลอยหน้าลอยตา ทำท่ากระเง้ากระงอดอยู่แบบนี้หรอกฮะ...
...เพราะไอ้สายตา สีหน้า และการแสดงอารมณ์ทั้งหมดของคุณในเวลานี้ แม่งเร้าอารมณ์ผมดีชิบหาย...
...ฮื๊ยยยย แค่ยืนมองนิ่งๆเพียงเดี๋ยวเดียว ผมนี่แม่งอยากจะเดินเข้าไปเหนี่ยวคอ กระชากข้อมือแล้วพาคุณกลับเข้าไปในห้อง ลงกลอน เพื่อให้เราได้อยู่กันสองต่อสอง ก่อนที่ผมจะสั่งสอนให้เด็กดื้อ รู้จักนอบน้อมกับสามีให้มากกว่านี้เสียจนคันไม้คันมือยุบยิบอยู่ตลอดเวลาเสียแล้วสิฮะ

และแล้วก็เหมือนกับเคราะห์ซ้ำกรรมซัดสำหรับขนุน...
...เพราะเมื่อถึงตอนที่ตัวเขาจะต้องเล่นเกมรอบใหม่ เจ้าตัวเกิดเล่นเกมแพ้ เลยต้องโดนลงโทษภายใต้คำสั่งที่ว่า “...หากใครแพ้ในตานี้จะต้องกินบราวนี่ช็อกโกแล็ตฟัดจ์แสนอร่อยให้หมดสามชิ้นแล้วผิวปากออกมาให้ได้ภายใน 30 วินาที...” ก็อย่างที่รู้ๆกันอยู่นั่นแหละฮะว่า เวลากินเหล้า เราไม่ควรกินของหวาน เพราะมันจะยิ่งทำให้เมาเร็ว และเมาง่ายมาก แต่เรื่องนี้ผมก็ช่วยอะไรเขาไม่ได้ เพราะมันเป็นสิ่งที่โชคชะตาฟ้าบันดาล...ให้ทุกๆอย่าง เป็นใจกับผม ก็เท่านั้นเอง หึ หึ รับรองได้เลยว่า คืนนี้...ต้องสนุกแน่ๆ
.
.
.
.
.
และมันก็สนุกจริงๆฮะ...ผมยอมรับ ซึ่งคนที่ทำให้ผมสนุกอย่างที่สุด ก็หนีไม่พ้นเมียตัวเองนี่แหละฮะ...

...ทันทีที่ขนุนกลับลงมานั่ง ขนุนก็เริ่มทำตัวน่ารักเหมือนที่เขาทำ ตอนที่ผมเห็นเขาเมาครั้งแรก  ต่างกันก็แค่เพียง...คืนนั้น เรายังเป็นคนแปลกหน้าสำหรับกันและกัน เขาคือคนที่ผมหมายปอง ในขณะที่ผม...เป็นแค่เพียงเพื่อนบ้านที่ไม่อยู่ในสายตาของเขาเลยแม้แต่น้อย   หากสำหรับวินาทีนี้...ไม่มีคำว่าคุณกับผมอีกต่อไป หลังจากที่เราได้ตกลงใจเรียกอีกคนว่าแฟน ผลก็คือ...ระยะห่างของการวางตัว และความกระอักกระอ่วนที่เราเคยมีต่อความชิดใกล้กับอีกฝ่าย ถูกแทนที่ด้วยการประสานร่างกายอย่างแนบชิด และเป็นธรรมชาติ

ก่อนหน้าที่ขนุตจะเล่นเกมเสร็จ ผมได้จัดเก้าอี้ใหม่ เพื่อให้เก้าอี้ของผมกับเมียเลื่อนติดกัน นั่นเลยทำให้ เราสองคนแทบจะรวมร่างเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างที่นั่งเล่นเกมอยู่อย่างนี้   ขนุนเปลี่ยนท่านั่งจากการนั่งหลังตรงในทีแรก มาเป็นกึ่งนั่งกึ่งเอนทาบลำตัวท่อนเหลื่อมซ้อนลงบนหน้าอกผม  แล้วก็พิงบ้าง ซบบ้าง ตามแต่จังหวะ และการเคลื่อนไหวของร่างกายของเจ้าตัวเวลาออกท่วงท่าต่างๆตลอดระยะเวลาที่เราเล่นเกมกับคนอื่นๆ 

พอถึงรอบที่ตัวเขาจะต้องใบ้ถึงปรัศนีย์คนอื่นๆในเกม ขนุนก็มักจะหลุดคำถามน่ารักๆที่บอกใบ้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเราสองคนออกมาอยู่บ่อยๆ จนพลอยทำให้คนอื่นๆเริ่มจะสงสัยถึงสถานะของผมกับขนุนมากขึ้นเรื่อยๆ...
.
.
...นี่อย่างไรล่ะฮะ คือ สาเหตุที่ทำให้ผมบอกกับเขาว่า ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่เราสองคนต้องเที่ยวบอกให้ทุกคนได้รู้ว่าเราเป็นแฟนกัน เพราะผมเชื่อว่า การกระทำ สำคัญกว่าคำพูดเป็นไหนๆ...  หากแต่ผมกลับไม่อาจนั่งหน้าชื่นตาบานด้วยความดีอกดีใจกับสิ่งที่ขนุนหลุดทำออกมาระหว่างเวลาที่เจ้าตัวถูกพิษสุราควบคุมเอาไว้ได้อีกต่อไป เมื่ออะไรๆมันชักจะเริ่มไม่สนุกอย่างที่ผมคิดเอาไว้เสียแล้วสิ...

...ต่อให้เป็นใคร ก็ต้องรู้ใช่ไหมฮะว่า หากเราดื่มเหล้าดีกรีแรงๆปริมาณมากๆแบบรวดเดียวหมด มันจะทำให้เราเมาได้เร็วขนาดไหน และนั่นทำให้ผมแน่ใจเหลือเกินว่า ขนุนแม่งต้องกำลังเมาได้ที่ ซึ่งผมไม่ต้องเสียเวลาพิสูจน์อะไรให้มาก แต่ไอ้ที่ผมหนักใจและเริ่มจะหมดสนุก ก็เป็นเพราะ...ความโกรธของเจ้าตัว ที่ไม่ได้หายไปไหน หากแต่เขาเลือกที่จะซ่อนเอาไว้ เพื่อรอเวลาดึงมันออกมาใช้ในช่วงที่เหมาะสมที่สุดเท่านั้นเอง...

...และผมก็เริ่มที่จะเข้าใจความหมายของ ดาบนั้นคืนสนองที่ขนุนบอกเอาไว้ดีขึ้นทันที เมื่อผมได้เห็นรอยยิ้มหวานเยิ้มของขนุน ที่ส่งให้กับไอ้ไชล็อกหน้านิ่ง แฝดนรกหมายเลขหนึ่ง ซึ่งผมรู้ดีว่า ที่ขนุนทำลงไปอย่างนั้น ก็เพราะเจ้าตัว กำลังต้องการเอาคืนผมให้สาสมกับความผิดที่ผมได้ทำลงไปก่อนหน้า...

...นั่นจะไม่เป็นอะไรเลย หากทั้งหมด คือการตบมือเพียงข้างเดียวด้วยความต้องการเอาชนะผมของขนุน เพราะอีกเดี๋ยว...เรื่องทั้งหมดย่อมจะถูกลืมไปเหมือนไม่เคยมีสิ่งผิดปกติทำนองนี้เกิดขึ้นมาก่อน   แต่ไอ้น้องช็อป แม่งเสือกส่งมือของมันตบกลับมากระทบเข้าอย่างจังลงบนมือของขนุน ทำให้แผนการซึ่งบันดาลด้วยโทสะของขนุนในครั้งนี้  ส่งผลสะท้อนกลับมาแทงใจผมจนแสบเหลือจะทน...

...พอไอ้น้องช็อปแม่งเห็นขนุนยิ้ม โบกไม้โบกมือ และส่งจูบไปให้แม่ง....
...แม่งก็เสือกยิ้มจนหน้าสว่าง เพื่อตอบรับรอยยิ้มหยาดเยิ้มของเมียผมออกมาทันที...
.
.
.
...นั่นคงเป็นรอยยิ้ม ที่น้องยิ้มให้พ่องของน้องสินะครับ!!!...
...ร้อยวันพันปี กูไม่เคยเห็นมึงใช้กล้ามเนื้อบนใบหน้าเยอะเท่านี้มาก่อนเลย จนกูเข้าใจผิดไปว่า ยิ้มบนหน้ามึงมันชำรุด พอๆกับการแสดงอารมณ์อื่นๆ ลามไปถึงความเป็นมนุษย์มนาตามปกติที่มึงควรจะเป็นอย่างคนอื่นเขา... แต่มึงก็ไม่จำเป็นจะต้องมาแสดงปรากฏการณ์ยิ้มกระชากหัวใจให้เมียกู เพื่อพิสูจน์ว่าไอ้คนหน้านิ่งอย่างมึงนี่ก็ยิ้มเป็นเลยนี่หว่า เพราะนั่นน่ะ...เมียกูนะเฟร่ยยยยยย!!! ว๊อยยยยย...แล้วขนุนแม่งจะอะไรอีก ทำไมต้องยิ้มให้คนอื่นไปทั่วอย่างนั้นด้วย!!! ฮึ่ยยย!!!!


ผมรวบแขนขนุนลงทันทีแล้วสั่งเด็ดขาด “นี่ตัวเอง...ตัวเองนั่งเฉยๆซิฮะ อย่าเที่ยวไปแจกยิ้มไปทั่วอย่างนั้นซี่”

“อ้าวววว ก็คุณโอ่งเรียกชื่อค้าวววหนิ ถ้าค้าววม่ายตอบ ค้าวจะเป็นเสียมาระยาทเอาน้าาาาาาา” เอากับเมียผมสิฮะ บทจะดื้อ แม่งก็โคตรดื้อ บทจะเถียงหรือเลี่ยง...แม่งก็เต็มเหนี่ยวดีแท้

“ถ้าพี่โอ่งเรียกชื่อตัวเองอีก ตัวเองก็แค่หันไปมองหน้าพี่โอ่งเฉยๆก็ได้นี่ฮะ ไม่ต้องส่งจูบ และก็ไม่ต้องยิ้มก็ได้ ไม่มีใครว่าหรอกฮะ” ผมเปลี่ยนเป็นพูดชุดคำสั่งเบาๆให้คนเมาจำเพื่อนำไปใช้งาน

“หรอ หรอ...ให้ค้าววทามอย่างง้านนนเหรอ  อือ อือ ได้ ได้” ผมชักไม่แน่ใจว่าขนุนเข้าใจ และยินดีที่จะทำในสิ่งที่ผมขอจริงๆ หรือสักแต่ว่ารับปากเพื่อขอไปที...

...แต่ดูท่าว่าจะเป็นอย่างหลัง  เพราะผมพูดยังไม่ทันขาดคำ ขนุนก็หันกลับไปยิ้มหวานส่งไปให้ไอ้ม้าหมากรุกอีกครั้ง ทันทีที่ไอ้เหี้ยน้องช็อปแม่งเลือกทายปัญหาด้วยการบอกชื่อขนุน ทั้งที่แม่งยังไม่ได้เริ่มเล่น เพื่อที่จะได้แพ้เกมนี้โดยไม่ต้องเสียเหงื่อ

...หึ หึ แค่ผมเหลือบไปเห็นเฉพาะสายตาของไอ้เหี้ยน้องช็อปที่แม่งมองขนุนอยู่ในตอนนี้  ผมก็รู้ได้เลยทันทีว่าคนที่ไม่เคยสนใจห่าอะไรนอกจากพี่น้องแฝดของมัน กับเรื่องเงินๆทองๆอย่างไอ้เหี้ยน้องช็อปนี่  แม่งต้องเกิดติดใจอะไรขนุนขึ้นมาแล้วแน่ๆ และเหตุผลที่ทำให้แม่งยอมเล่นเกมแพ้แต่โดยดีนี่ ก็เพราะมันคงอยากจะมาเป็นทาสให้เมียสุดที่รักของผมนั่นเอง...

...หึ
!สงสัยว่า ไอ้ไชล็อกแม่งคงจะไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อสะสมเงินค่าทำศพให้ครบจำนวนก่อนแน่ๆ ถึงได้คิดจะกระโดดลงบ่อไอ้เห้ที่มีผมยืนรอกระซวกไส้แม่งอยู่แบบไม่มีอ้อมค้อมอย่างนี้...  
...รออีกเดี๋ยวเถอะฮะน้อง อีกไม่นาน มึงและทุกๆคนในที่นี้ จะได้รู้กันเสียทีว่า พี่เป็นใคร...และขนุนเป็นอะไรกับพี่นะครับไอ้เหี้ยน้องช็อป แล้วถ้าหลังจากนั้น... มึงจะไม่ยอมถอยออกไปแต่โดยดี กูจะได้วางมวยกับมึงได้อย่างเป็นทางการเสียที



หึ หึ ดูเหมือนผมจะไม่ต้องรอโอกาสนานนัก เพราะทันทีที่ไอ้เหี้ยน้องช็อปแม่งเริ่มเกมใหม่...ผมก็กลายเป็นคนที่ต้องออกไปแข่งทายปัญหากับแม่งจนได้  ทันทีที่ผมได้ยินพี่โอ่งเรียกชื่อผมออกมา ผมก็ถึงกับแสยะยิ้ม และเดินออกไปด้านหน้าโดยไม่ต้องให้ใครเชิญ “...อูยยย น้องช็อปมือดีเหลือเกินค่ะ...จับได้มวยถูกคู่มากซะด้วย......อ้าว!! ใครว่างวานช่วยเรียกรถพยาบาลหรือรถมูลนิธิได้เลยนะคะ...เพราะว่าคู่ดวลของน้องช็อปก็คือน้องน็อตค่ะ......ทั้งคู่จะต้องเล่นตามบทลงโทษที่ว่า ถ้าใครแพ้ให้นั่งตักแฟน หรือให้แฟนนั่งตักไปตลอดทั้งคืนจนกว่างานจะเลิกนะคะ...แต่พี่จาจาว่าคำสั่งนี้ออกจะเป็นปัญหาอยู่นะคะ เพราะว่าน้องช็อปเองก็ยังไม่มีแฟนมาให้นั่งตัก...ใช่ไม๊คะ?”

ระหว่างที่ผมกำลังมองขนุนที่นั่งหน้าแดง ตัวเหลวอยู่บนเก้าอี้  ไอ้เหี้ยน้องช็อปแม่งก็เห่าออกมาทันที “ครับ...ผมยังไม่มี แต่ถ้าผมแพ้จริงๆ...ผมให้เจ้านายผมคืนนี้นั่งตักก็ได้ครับ” ผมถึงกับต้องละสายตาจากเมีย แล้วหันกลับไปมองหน้าของไอ้ไชล็อกอย่างกับจะฆ่าแม่งให้ตายทางสายตา แต่ไอ้เด็กนี่แม่งต้องเกิดมาเพื่อเป็นคู่อริกับผมโดยแท้ เพราะแม่งกลับทำเมินไม่สนใจแรงอาฆาตมาดร้ายของผมที่ส่งออกไปอย่างกล้าแข็งผ่านดวงตาจ้องเขม็ง เพราะแม่งเอาแต่มองขนุนที่กำลังนั่งยิ้มหวานส่งตรงมาให้

เมียผมแม่งก็ร้ายเหลือใจ สไตล์นางกากีดีเหลือกิน...
...เพราะถ้าตัดเรื่องที่เมาออกไป แล้วคิดถึงขนุนเวอร์ชั่นปกติ หากผมขอให้ขนุนทำอะไร หรือ ออกปากห้ามไม่ให้เขาทำอะไรที่ผมไม่ชอบ ขนุนก็จะไม่ทำสิ่งเหล่านั้น เพราะที่ผ่านมา ขนุนนี่แหละที่เอาใจผมด้วยการตามใจผมอยู่เสมอ และเขาจะไม่พยายามสร้างเรื่องราวบาดหมางใดๆ เพื่อให้เราต้องมีเรื่องผิดใจกัน   โดยเฉพาะเรื่องละเอียดอ่อนอย่างการแทรกแซงของบุคคลที่สาม ที่แม้ก่อนหน้านี้ เราสองคนยังไม่ได้เป็นแฟนกัน...แต่เมื่อไรก็ตาม ที่มีคนทำท่าทำทางเหมือนจะให้ความสนใจกับเจ้าตัวมากเป็นพิเศษ เขาจะหาทางเลี่ยงหลบ ไม่ก็แสดงออกอย่างชัดเจนทางกายว่า เขากับผม...มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน

แต่พอขนุนโมโหเรื่องที่ผมมอมเหล้าเขาระหว่างที่เขาเล่นเกมเมื่อครู่ ดูเหมือนว่า เจ้าตัวจะปลดปล่อยมาดของดาวยั่วออกมาอย่างเต็มที่ และไม่มีทีท่าว่าจะยอมลดราวาศอกง่ายๆเสียด้วย...และมันก็ยิ่งหนักข้อขึ้นไปกันใหญ่ เมื่อไอ้เหี้ยน้องช็อปแม่งบอกให้เมียผมถอดเสื้อออกได้ ระหว่างที่เราเล่นเกมทายปัญหากัน... คุณกำลังทำให้ผมคลั่งจนจวนจะเป็นบ้าอยู่แล้วนะฮะ...คุณรู้ตัวบ้างไหมฮะขนุน???!!!


ในที่สุดก็ถึงจังหวะของผมเสียที  เพราะพี่โอ่งหันกลับมาหาผมหลังจากที่ทุกคนใบ้ด้วยการถามครบรอบแล้ว “น้องน็อตคะ หมดรอบที่ทุกคนถามเป็นแนวทางให้แล้วนะคะ น้องน็อตตอบได้รึยังเอ่ย...พี่ว่าคำถามรอบนี้ช่วยชี้ชัดคำตอบได้มากเลยนะคะ ถ้าเป็นพี่จาจา พี่จาจาตอบได้แน่ๆเลยล่ะคะ”

ผมเลยหันกลับไปยิ้มให้พี่โอ่งคนสวย ก่อนจะตอบออกมาด้วยเสียงอันดัง และชัดเจน...ซึ่งถ้าทำได้ ผมอยากจะอัดเสียงและภาพเคลื่อนไหวของผมในเวลานี้ แล้วไรท์เป็นแผ่นแจกให้กับไอ้ตัวผู้หน้าไหนก็ตาม ที่แม่งจะเสี่ยงตายเข้ามาเหยียบกับระเบิดที่ผมเตรียมรอท่าเอาไว้ ระหว่างที่พวกแม่งเดินหน้าเข้ามาขายขนมจีบขนุนของผมในอนาคตข้างหน้า “ผมขอตอบครับ...ผมตอบว่าเป็น ขนุน...แฟนผมครับ”

เมื่อเมียผมได้ยินเสียงผมเรียก และบอกอย่างชัดเจนว่าเราเป็นอะไรกันเท่านั้นแหละฮะ องค์ด้านเมาของขนุนก็ยิงสลุตส่งจูบมาให้ผมหลายๆครั้ง หลายๆคราติดๆกันคล้ายกับจะยืนยันความถูกต้องของประโยคที่ผมเพิ่งจะบอกออกไป  ผมก็ทำได้เพียงแค่ยิ้มอย่างอ่อนใจส่งกลับไปให้คนเมาที่กำลังยิ้มเยิ้มน่ารักอยู่ในเวลานี้  โดยไม่สนใจว่าคนอื่นๆจะกำลังแสดงสีหน้าอย่างไรกับการแถลงข่าวออกหน้าไมค์ของผม

หากแต่มีเพียงคนเดียวที่แม่งไม่ออกอาการหวั่นไหว หรือ สำนึกใดๆ เมื่อได้ยินคำประกาศกร้าวของผม... หึ หึ จะมีใครล่ะฮะ ถ้าไม่ใช่ไอ้เหี้ยน้องช็อป ที่ตอนนี้แม่งเดินลอยหน้าไปลากเก้าอี้มานั่งเสียแนบกับเมียผม...นั่งเสียชิดขนาดนี้ ไม่สิงขนุนไปเลยล่ะมึง ฮึ่ยยยยย!!! นี่ถ้าไม่ติดว่าผมแม่งต้องเล่นเกมนี่อีกตา ผมคงได้กระโดดเทคตัวขาคู่จากตรงที่ยืนอยู่นี่ ไปเสยยอดหน้าไอ้เหี้ยน้องช็อปที่กำลังนั่งจ้องตาเมียผมอยู่ให้ล้มหน้าหงายไปแล้วนะฮะ  

พอถึงตาถัดไปที่ผมต้องเล่นกับพี่ปีย์ ผมก็พยายามส่งสายตาเว้าวอนให้พี่ปีย์กับพี่โอ่งช่วยจบเกมตานี้โดยเร็วที่สุด ก่อนที่ผมจะระเบิดพลีร่างเพื่อทำลายล้างตัวเอง เพราะทนไม่ได้เมื่อต้องมาทนเห็นฉากที่ขนุนทำตาฉ่ำหวานมองหน้าผมสลับกับไอ้เหี้ยน้องช็อปที่นั่งข้างไปมาอยู่นั่น เมื่อพี่ปีย์เล่นเสร็จ ผมก็รีบเดินไปตามที่ต่างๆเพื่อรับโทษความผิดทั้งสองครั้งของผมทันที ซึ่งผมปิดท้ายด้วยการเดินกลับมาหาขนุน แล้วนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าร่างบาง เพื่อให้เขาได้ลงโทษผมเป็นคนสุดท้ายด้วยลิปสติก

เมียผมหยิบลิปสติกมาละเลงลงบนปากของตัวเอง   ผมเห็นสายตาที่ขนุนจ้องหน้าของผมระหว่างที่กำลังทาลิปสติกลงบนริมฝีปากตัวเองแล้วก็รู้ได้ทันทีว่า เจ้าตัวต้องการจะทำอะไร... เพราะผมคงทำหน้าไม่ชอบใจค้างมาตั้งแต่ที่เห็นเขายิ้มร่า และส่งจูบไปให้ไอ้เหี้ยน้องช็อปตั้งแต่เมื่อครู่นี้... หึ! คงอยากจะเอาใจผมด้วยการจูบล่ะสินะ  แต่พอเขาจ้องหน้าผมดีๆ แล้วเห็นว่าตรงปากผมมีสีของลิปสติกเปื้อนอยู่ ขนุนเลยเปลี่ยนเป้าหมายไปเป็นซอกคอของผมแทน

ริมฝีปากบางๆที่เคลือบด้วยสีแดงจัดของลิปสติกดูดเนื้ออ่อนตรงต้นคอผมเต็มเปา จนความรู้สึกเสียวปนเจ็บนิดๆเหมือนโดนบิดเนื้อก็ทำให้ผมขนลุกชันขึ้นมาทันที  เพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆที่ขนุนแสดงออกทางร่างกายถึงความสนิทชิดเชื้อระหว่างเรา ก็ทำให้อารมณ์ของผมเปลี่ยนไปได้ทันที เพราะเมื่อคนหน้าแว่นถอนริมฝีปากออกจากคอผมจนเกิดเสียง ดัง “เป๊าะ” แล้ว เจ้าตัวก็ยิ้มหวานอย่างภาคภูมิใจส่งมาให้ผมทันที เหมือนกับจะบอกว่า...การแสดงความเป็นเจ้าของตัวผมได้เสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์แล้ว ผมเลยยิ้มกว้างให้อีกคนอย่างชอบใจ ก่อนจะอุ้มขนุนขึ้นแล้วค่อยๆลดตัวลงนั่งโดยมีขนุนนั่งไพล่ซ้อนอยู่บนตักอย่างเบามือ 


ขนุนเอนหน้าลงพิงกับหน้าอกของผม แล้วพูดเบาๆ  “น็อตใจร้าย...แกล้งเค้า!!

“ก็เค้าอยากเห็นตัวเมานี่ฮะ” ผมกระซิบเบาๆลงตรงข้างหู แล้วประกบริมฝีปากจูบเบาๆลงตรงปลายติ่ง

ขนุนยกมือขึ้นแล้วโบกไปมาน้อยๆเพื่อประกอบคำพูด “ค้าวไม่อยากเมา ค้าววอยากช่วยคุณกานต์เก็บกวาด” ดูทำพูดเข้า เหมือนเราไม่เมาเลยนะ ฮึ!

ผมเลยตอบออกไปทันที เพราะไม่ใช่แค่ขนุนหรอกฮะ ที่จะตกอยู่ในมนต์สะกดของความมึนเมาในค่ำคืนนี้ “หึ หึ...ตัวคงไม่ได้ทำอย่างที่ตั้งใจหรอก เพราะคืนนี้...พี่กานต์เอง ก็คงจะเมาไม่รู้เรื่องเหมือนกัน เค้าก็เลยว่า...ถ้าตัวเมาซักหน่อย เราจะได้ระลึกความหลังกันเหมือนคืนแรกที่ตัวเมายังไงล่ะฮะ”

“เค้าโกรธ!/ เค้ารู้...เค้าขอโทษนะฮะ เค้าจะไม่ทำให้ตัวโกรธอีกแล้วนะ...อย่าโกรธหัวจุกนะฮะคนเก่ง” ผมซุกหน้าลงตรงแก้มใส แล้วไล้ปลายจมูกเคลียไปตามไรผมข้างๆแก้ม

คนเมาสะบัดหน้าหนีแล้วทำเสียงดุออกมาอย่างเอาแต่ใจเต็มที่ “พูดก่อนว่าน็อตเสียใจ และวันหลังน็อตจะไม่ทำแบบนี้อีก”

ผมถึงกับส่ายหัวทันทีที่ได้ยินสิ่งที่ขนุนเพิ่งจะเอ่ย “เค้าเสียใจ และเค้าจะไม่ทำแบบนี้อีก...พอใจรึยังฮะคนเก่ง”...คนอะไร๊ จะทำตัวเป็นเด็กๆได้แบบนี้ แล้วยังดูน่ารักน่าขยี้ได้ตลอดเวลากันอีกนะ???!!

ขนุนรับคำผมเบาๆ “ฮื่อออ... /...คราวหลังอย่าทำอย่างนี้อีกนะฮะ น็อตไม่ชอบให้ขนุนทำท่าน่ารักแบบเมื่อกี๊ให้ใครเห็น” ผมกำชับไปอีกครั้ง เพื่อให้ขนุนเข้าใจถึงความต้องการของผมอย่างชัดเจน

แต่คนเมาดูจะไม่เป็นใจเท่าไรนัก “น็อตขี้หวง!

ซึ่งตัวผมก็พร้อมที่จะอธิบายตัวเองอยู่เสมอ เพื่อให้ขนุนได้เข้าใจถึงความรู้สึก และความรักที่ผมมีต่อเขาได้ตรงกับความรู้สึกที่ผมมีได้เสียที “ฮะ...เค้าหวง ก็ขนุนเป็นเมียเค้าหนิ... ถ้าเค้าไม่หวงเมีย จะให้เค้าไปหวงใครกันล่ะฮะ...หื้มมม ไหนบอกเค้าซิ ว่า ถ้าเค้าไม่หวงตัว ตัวจะให้เค้าไปหวงใครฮะ?”

แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้คำตอบจากอีกคน เสียงห้าวๆของพี่แบมก็ลอยเข้าหูผมมาทันที “เอ่อ...น้องน็อตคะ จะหาว่าพี่เผือกเรื่องภายในครัวเรือนน้องน็อตก็ได้นะคะ แต่แหม...พี่ดันคันปากอยากรู้เหลือเกินค่ะว่า....น้องน็อตกะคุณขนุนนี่...เอ่อ...ไปคบกัน โอโบ๊ะจามะปล่อยพลังแสงสีม่วงใส่กันตอนไหนหรอคะ?
.
...ขอประธานโทษทั้งคุณปีย์และน้องน็อตล่วงหน้าเลยนะคะ...... แต่พี่แบมเคยเห็นแต่คุณขนุนมาคอยเทียวไล้เทียวขื่อหวังจะเคลมเพื่อนกานต์ของพี่มาโดยตลอด...แล้วไหงหวยมาออกที่คุณขนุนกลายไปเป็นแฟนแสนมุ้งมิ้งปิ้งตับใส่น้องน็อตได้ล่ะคะ?”

 “เออ...จริงครับ เรื่องนี้ผมก็อยากรู้เหมือนกัน”  ไอ้เหี้ยน้องช็อปแม่งก็เสนอหน้ามาเลยฮะ...แหม่ งานเสือกเรื่องขนุนนี่ ใจคอมึงจะไม่มีเว้นหน่อยเหรอวะฮะ??...

ผมเลยถือโอกาแสยะยิ้มชั่วๆส่งไปให้ไอ้เหี้ยคนไร้มารยาทไร้สัมมาคารวะ ชอบพูดจาแทรกบทสนทนาของผู้หลักผู้ใหญ่ แล้วพูดเน้นๆ  “ฮะๆๆ เรื่องนั้นน่ะเหรอฮะ...ก็ไม่มีอะไรฮะ น็อตมักจะติดใจคนที่ดูเหมือนไม่น่าสนใจ แต่จริงๆแล้วมีอะไรน่าค้นหาน่ะฮะ...อย่างขนุนเนี่ยะ...ใช่เลยฮะ...น็อตบอกได้เลยนะฮะ ว่าถ้าใครได้ลองใช้เวลากับขนุนจริงๆ จะรู้ทันทีเลยว่า ขนุนเค้าเป็นคนน่าสนใจมากๆ แค่เค้าไม่ได้เอามันออกมาให้เห็นกันง่ายๆน่ะฮะ...
.
...และบังเอิญว่าน็อตเป็นพวกชอบความท้าทาย พอมาเจอคนแบบเค้าเข้า..ก็เลยเข้าทางล่ะมั้งฮะ...  
.
...อีกอย่าง...ขนุนเค้าไม่ประสีประสาเรื่องทางโลกเลยน่ะฮะ น็อตเลยยิ่งสนุกที่ได้เห็นเค้าเรียนรู้อะไรใหม่ๆและปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อเปิดให้คนอื่นๆเข้ามา และเปิดหาทุกคนมากขึ้น ทำไปทำมาน็อตก็ชอบเค้าไปแล้ว...ชอบมากตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ฮะ
.
...แต่ต้องขอบอกเอาไว้ตรงนี้เลยนะฮะว่า... ขนุนเป็นคนของน็อต ไม่ว่าใครหน้าไหนก็อย่ามาแหยม เพราะว่าน็อตไม่เกรงใจแน่ๆ ฮะๆๆ”  

หลังจากนั้น ผมก็เล่นเกมจ้องตาอาฆาตกับไอ้เหี้ยน้องช็อปตลอดเวลา เพราะเริ่มจะมั่นใจแล้วว่า ไอ้เหี้ยช็อปนี่แม่งมีความประสงค์ที่จะไม่ตายดี จนเมื่อได้ยินเสียงของพี่กานต์ดังขึ้นมาเบาๆนั่นแหละฮะ ผมถึงได้ยอมละสายตาอกมาจากไอ้เหี้ยช็อป เพื่อหันกลับไปจ้องหน้าเนียนใสของขนุนอีกครั้ง “เอ้อ...แล้วคุณขนุนล่ะ...ชอบน็อตตั้งแต่เมื่อไร บอกกานต์หน่อยนะ กานต์อยากรู้”  พี่กานต์ทำหน้าทำตาตั้งอกตั้งใจฟังคำตอบของขนุนมาก...ไม่แพ้ผม ที่ก็อยากจะรู้เรื่องนี้ใจจะขาด

แฟนผมก็ตอบเรียบๆตามประสา “ตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดอะไรกับน็อตหรอกครับ แต่ผมเกิดอกหัก...เค้าก็เข้ามาช่วยเหลือผมให้ปรับปรุงตัวในเรื่องต่างๆที่ผมไม่ถนัดและยังบกพร่องอยู่ แต่พอเจอหน้ากันบ่อยๆ...ก็เป็นอย่างที่เห็นนี่น่ะครับ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผมชอบเค้าไปตั้งแต่เมื่อไร...
.
.
.
...เอ หรือว่าสิ่งที่ผมรู้สึกจะยังไม่ใช่ความชอบก็ไม่รู้ ผมรู้แต่ว่า...ผมชอบเวลาที่เราจูบกัน เวลาที่เรามีอะไรกัน เวลาที...........

“พี่ขนุนครับ ช็อปว่า...พี่ขนุนอย่าเพิ่งด่วนสรุปเรื่องความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อพี่น็อตตอนนี้เลยนะครับ เพราะพี่ขนุนอาจจะไม่ได้คิดอะไรเกินกว่าเพื่อนกับพี่น็อตก็ได้นะครับ...

...พี่ขนุนเองก็ยังไม่เคยคบคนอื่นมาก่อน แล้วพี่ขนุนจะรู้ได้ยังไงว่าความรู้สึกที่พี่ขนุนมีคืออะไร ช็อปว่าพี่ขนุนลองออกห่างจากพี่น็อตดูซักพักไม๊ครับ เผื่อว่าจะคิดออกเร็วขึ้นก็ได้”

อ้าวววว!!! ไอ้เหี้ยน้องช็อปฮะ ทำไมพูดจาหมาๆอย่างนั้นออกมาพล่อยๆได้ล่ะฮะ... หรือว่าเห็นคนอื่นมีความรักต่อหน้าต่อตาตัวเองแล้วเกิดจะตายขึ้นมาหรือไงฮะ?? พวกพี่ไปปี้กันตรงท้ายทอยของน้องหรือไงฮะ น้องถึงได้พยายามสร้างความร้าวฉานให้บ้านของพี่อยู่ตลอดเวลาอย่างนี้???!!! พี่ว่า...หน้าตาน้องเริ่มจะหมองๆเพราะเริ่มจะหมดราศี และอายุขัยเริ่มจะลดระดับเข้าขั้นใกล้ดับเต็มแก่แล้วนะฮะ ถ้าน้องยังจะเห่าต่ออยู่แบบนี้เนี่ย!!!

ผมเลยสวนออกไปทันทีด้วยความสุภาพ แต่อินเนอร์ทำลายล้างนี่จัดเต็มไปเลยฮะ “น้องช็อปครับ...พี่น็อตว่าหน้าตาดีอย่างเราน่าจะมีคนมาชอบไม่น้อยนะ ไปเลือกมาซักคนเอาไว้ให้คอยใส่ใจเล่นๆเวลาไม่มีอะไรทำดีกว่านะครับ ขนุนเป็นแฟนพี่...น้องช็อปอย่ามายุ่ง ให้ลำบากอะไรนักก็น่าจะดีนะครับ”

ผมกับไอ้เหี้ยน้องช็อปคงจะได้จ้องหน้ากันจนตาย หากขนุนไม่ร้องออกมาเสียก่อน “น็อตตตตตต...เค้าหิวน้ำอ่ะ เค้าอยากกินน้ำ...แต่เค้าเดินไปหยิบไม่ได้เพราะเค้าต้องนั่งอยู่ตรงนี้ตลอด ไม่งั้นน็อตจะไม่ได้ทำตามคำสั่งที่น็อตโดนเกมลงโทษอ่ะ น้ำ...น้ำ ไปเอาน้ำ” ผมก้มลงมองหน้าเล็กๆ ที่ส่งสายตาหวานฉ่ำมาให้ผมอย่างรักใคร่ โดยที่กำลังจะเอ่ยตอบออกไป...หากแต่ไม่ทันความไวปานรถที่ไหลตกเหวไร้ก้นอย่างไอ้เหี้ยน้องช็อป ที่แม่งพูดแทรกผมขึ้นมาอีกครั้ง...

...นี่ถามจริงเหอะว่ะไอ้เหี้ยน้องช็อปฮะ คืนนี้...มึงแซงจังหวะพูดของกูไปกี่ครั้งแล้ววะเนี่ยะ??...
...ไอ้เหี้ยนี่เกรียนเทพ แถมยังปีนเกลียวน่าเหนี่ยวสัดๆไปแล้วนะเฟร่ยยยย!!


“พี่ขนุนครับ เดี๋ยวช็อปไปเอาน้ำให้นะครับ เพราะว่าช็อปก็แพ้เกมเหมือนกัน...คืนนี้ช็อปขอเป็นทาสให้พี่ขนุนใช้ไปทั้งคืนเลยนะครับ...พี่ขนุนกินน้ำเปล่านะครับ...ไม่เอาเหล้าเหมือนกับที่พี่น็อตหลอกให้กินตอนเล่นเกมนะครับ...ดีไม๊เอ่ย?”

“ช่ายยยยยๆ เอาน้ำเปล่าเย็นๆน้า ไม่เอาเหล้าแย้ววว...พี่ขนุนหิวน้ำคับ...น้องช็อปน่ารักจังเลยน้า” พอผมเห็นขนุนยิ้มหวานตาเยิ้มและทำท่าเหมือนจะเอื้อมมือไปจะจับแก้มไอ้เหี้ยน้องช็อป ระหว่างที่ตอบแม่งก็ทำให้ผมไม่สามารถควบคุมความโกรธ ความไม่พอใจ และความหึงหวงได้อีกต่อไป ผมเลยโพล่งออกไปทันที

“เอ่อ...ทุกคนฮะ เดี๋ยวน็อตพาขนุนไปกินน้ำข้างในก่อนนะฮะ เดี๋ยวอีกซักพักจะพากลับออกมาฮะ” ยังไม่ทันให้ใครอนุญาต หรือว่ากล่าวอะไร ผมก็อุ้มขนุนขึ้น แล้วเดินเข้าบ้านไปทันที  


๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐


(ปัง!!!! กริ๊ก กริ๊ก กริ๊ก เสียงปิดประตูหน้าบ้าน และบิดล็อคประตูทันที)


“น็อต!! ตัวเองจะทำอะไร?” ขนุนส่งเสียงตกใจทันทีที่ประตูหน้าบ้านปิดลง พร้อมๆกับที่ผมปล่อยให้อีกฝ่ายยืนให้หันหน้าเข้าหาบานประตู โดยใช้สองมือยันบานประตูไม้สีขาวหน้าบ้านจากด้านในเอาไว้ ผมจัดการรูดขอบกางเกงวอร์มของขนุนลงพร้อมๆกับกางเกงในจีสตริงตัวจิ๋วที่เจ้าตัวถูกผมบังคับให้ใส่ไปกองกับพื้น

เมื่อไร้ซึ่งสิ่งบดบังทัศนียภาพอันสวยงามใดๆแล้ว ผมก็จับให้ขาเรียวคู่สวยแยกกว้างออกจากกัน  กดแผ่นหลังเนียนละเอียดให้ต่ำลงแล้วงัดบั้นท้ายกลมกลึงลอยเด่น นั่งคุกเข่าลงตรงจุดที่ผมต้องการ พลางแหวกแก้มก้นนุ่มนิ่มออกจากกัน เพื่อให้ช่องทางสีสวยของผมออกมาอวดรูปโฉมโนมพรรณ ก่อนที่ผมจะเตรียมความพร้อมเพื่อลงมือสั่งสอนขนุนให้รู้ตัวถึงความผิดมหันตร์ที่ตัวเขาเพิ่งก่อขึ้น ผมก็เฉลยให้อีกฝ่ายได้รับรู้ถึงสาเหตุที่ทำให้ขนุนต้องโดนผมลงโทษอย่างนี้ “น็อตจะเตือนให้ตัวรู้ซะทีว่า ตัวเป็นคนของใคร อย่าเที่ยวไปอ่อยใครไปเรื่อยแบบเมื่อกี๊อีก!!!

สิ้นเสียงสั่งสอน ลิ้นของผมก็ตวัดปลายฟาดรอยจีบสีชมพูซ้ำๆไปมาอย่างไม่ฟังเสียงห้ามปรามสั่นกระเส่าของอีกฝ่าย  “อาห์...น็อต แต่นี่มันหน้าตรงประตูหน้าบ้าน!!

พูดจบ ขนุนก็พยายามยืดตัวขึ้น...ติดอยู่ตรงที่ มือทั้งสองของผมล็อคเอวบางสอบของอีกฝ่ายเอาไว้เสียแน่นหนา จนทำให้ขนุนไม่อาจจะขยับตัวหนีไปไหนได้ นอกจากจะต้องยืนอยู่อย่างนั้น เพื่อให้ลิ้นของผมได้ทำโทษเขาอย่างหนักมือขึ้นเรื่อยๆ  โดยตอนนี้ ลิ้นร้อนๆชอนไชเข้าด้านใน แล้วหวดปลายลิ้นกระหน่ำสกรัมเข้าด้านในลำตัวของขนุนอย่างรุนแรงจนเจ้าของร่างบางขาเริ่มสั่นเทา และมีบางจังหวะที่คล้ายกับจะเข่าอ่อนหมดเรี่ยวแรงลงดื้อๆ

พอสั่งสอนช่องทางด้านหลังของขนุนจนหนำใจ ผมก็ลุกยืนขึ้น แล้วสอดใส่นิ้วปลายหัวแม่มือเข้าไปจนสุดด้าม แล้วกดนวดด้านในไปทั่ว พร้อมๆกับปลดกระดุมและซิปกางเกงยีนส์ เพื่อปลุกให้ลูกชายตื่นขึ้นมาทำหน้าที่สำคัญอย่างปัจจุบันทันด่วน ขนุนตัดพ้ออกมาเบาๆ  “ฮ๊าห์...เดี๋ยวใครเข้ามาในบ้าน เราจะทำยังไงกันล่ะ? ฮื๊ออออ” 

ถึงปากจะบอกว่าไม่ แต่สะโพกที่ส่ายไปมารับกับการขยับของนิ้วโป้งผมนี่ก็บอกได้ดีว่าอีกฝ่ายไม่ได้คิดจะห้ามปรามแต่อย่างใด ดีไม่ดี...ผมว่าเมียผมแม่งกำลังมีอารมณ์ร่วมอย่างที่สุดอีกตังหาก ผมกดมือให้แนบแน่นเข้าไปในร่องอันร้อนชื้นตอดดูดของอีกฝ่ายพลางโน้มตัวไปด้านหน้าแล้วพูดกรอกเข้าข้างหู  “ถ้าตัวไม่อยากให้ใครเข้ามา ตัวก็ดันประตูเอาไว้ซิฮะ”

“...อ๊าห์.....ฮ๊าหหห์.......น็อตตตตต......เค้าเสียว......เค้าเสียววววว....อ๊าห์....น็อตตตตตตต!!!”   ไม่ใช่เพราะเสียงกระซิบของผมหรอกฮะที่ทำให้ขนุนร้องครางออกมาแบบนี้  แต่เพราะปลายนิ้วมือของผมกดหนักย้ำๆลงไปตรงจุดอ่อนไหวที่โดนกระตุ้นมาตลอดช่วงเวลาก่อนหน้าด้วยความจงใจของผม บวกกับความตื่นเต้นเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมันกะทันเกินกว่าที่อีกฝ่ายจะเตรียมรับมือได้ทัน ทำให้ร่างบางเกร็งกระตุกร่างเบาๆ หากแต่ตอดรัดนิ้วมือผมเสียแทบเป็นแทบตาย

ผมยิ้มมุมปากอย่างสะใจที่ทำให้อีกฝ่ายหมดแรง และไม่คิดจะทัดทานความต้องการของผมได้อีกต่อไป และร่างกายขนุนก็พร้อมเปิดรับผมอย่างเต็มที่  ผมเลยบอกกับเมียอย่างลำพอง เพราะรับรู้ได้ถึงความปรารถนาของอีกฝ่ายที่ออกอาละวาดจนมีอำนาจเหนือกว่าสำนึกผิดชอบชั่วดี และความละอายกับสิ่งที่เราสองคนกำลังทำในสถานที่ และช่วงเวลาที่ไม่เหมาะไม่ควรอย่างที่สุด  “เสียวก็ร้องดังๆซิฮะ เค้าอยากได้ยินเสียงตัวครางชื่อเค้า”

หลังจากที่ผมหล่อลื่นลำกล้องของไอ้ปืนโตน้องชายสุดที่รักด้วยน้ำลายที่ถ่มออกมาจนได้ที่ นิ้วมือผมก็ช่วยกันฉีกแก้มก้นเล็กๆทั้งสองให้อ้ากว้างออกจากกันให้ได้มากที่สุด ก่อนจะส่งน้องชายที่เต้นระริก และร้อนเหมือนท่อนไฟสอดล่วงเข้าไปรายงานตัวด้านในร่างกายของขนุนแบบหนักหน่วงรวดเดียวหมดทั้งลำ โดยคนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดกับการกระทำของผม ก็กรีดร้องท้วงออกมาทันที

แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่ขนุนพูดออกมาตอนนี้...เห็นทีจะเป็นหมันในด้านความสำเร็จไปเสียทั้งหมดแล้ว “อ๊าาาาาาาห์.......ฮื๊ออออออ............ฮ๊าห์......ไม่ได้...ข้างนอกมีคนเยอะแยะ.....อ๊าห์..” หึ!..เสียใจด้วยนะฮะเบ่เบ๋ ที่เสียงร้องอย่างอ้อนวอนของคุณในตอนนี้ นอกจากจะไม่สัมฤทธิ์ผลใดๆ แถมการร้องค้านอย่างที่คุณกำลังทำอยู่นี่ ดูท่าจะเป็นการส่งเสริมสนับสนุน มากกว่าจะเป็นการลุ้นให้ผมเปลี่ยนใจนะฮะ

 “ก็ดีน่ะสิฮะ เค้าจะได้มาดู แล้วก็ได้รู้กันไป ว่าเราเป็นอะไรกัน” และนั่นคือคำตอบอย่างเอาแต่ใจของผม เพราะไม่มีทางเสียหรอกที่ผมจะยอมหยุด ทั้งที่ผมไม่ได้เป็นคนผิด ที่ไปเที่ยวหว่านเสน่ห์ให้ใครต่อใครมาหลงใหลได้ปลื้มอย่างที่คนร่างบางทำมาตลอดทั้งคืน

คิดแล้วก็ทำให้ผมขาดสติ ถึงกับอัดสะโพกเข้าหาต้นขาด้านหลังที่ขาวและเนียนไม่แพ้กับด้านหน้า และส่วนอื่นๆที่เหลือของร่างกายอีกคน พร้อมๆกับรั้งบั้นเอวขนุนเข้ามาหาตัวในจังหวะกระทบกระแทก จนผมได้ยินเสียงเนื้อตัวของเราทั้งสองคนฟาดใส่กันอย่างรุนแรง พร้อมๆกับเสียงของบานประตูดังกึกกัก กึกกัก คล้ายกับโดนทุบหนักๆเพื่อบังคับให้กลอนสั่นคลอน และฝืนให้ประตูทั้งบานยอมเปิดออกด้วยแรงมหาศาล

คนตัวขาวผ่องหน้าแว่นพยายามเหลียวกลับมามองหน้าผมเพื่อส่งสายตาขอความเห็นใจ ขณะเอ่ยด้วยเสียงหวิวไหว “แต่เค้าก็รู้กันแล้วหนิ...อ๊าห์.....ฮื๊ออออ.....น็อตตตตต....   คนพูดเหมือนจะรู้ตัวว่าเริ่มจะควบคุมเสียงร้องของตัวเองเอาไว้ไม่ได้ เลยเผลอเอาฟันกัดริมฝีปากห้ามเสียงร้องเอาไว้... มันช่วยให้ด้านการกลั้นเสียงร้องก็จริง หากแต่มันกลับยั่วยุให้ผมโถมแรงที่มีทั้งหมดเข้าใจเอวบางขาวเด่นยวนตาที่ลอยอยู่ตรงหน้าได้ดีเหลือเกิน

“ฮื่ออออ....ยังฮะ มันยังไม่พอ...น็อตอยากให้เค้ามาเห็นกับตา....ฮื่มมมม.... ว่าขนุนเป็นเมียน็อต!!”  ผมกดสะโพกเข้าหาสะโพกบางลอยเด่นของอีกฝ่ายอย่างไม่ปรานีปราศรัย ทุกครั้งที่เห็นน้องชายของตัวเองถอนออกมาจากช่องทางสีชมพูสด ที่ให้ความรู้สึกดีเหมือนเป็นสถานที่พิเศษอีกที่หนึ่งบนโลกสำหรับตัวตนของผมได้หลบเข้าไปพักหายใจ ให้ลืมความวุ่นวายจากภายนอก และดื่มดำความสุขไปกับคนที่ผมรัก ผ่านร่างกายของเราทั้งสองคน ผมก็เริ่มจะขาดการควบคุม

“น็อต...น็อต.....อ๊าห์....น็อต......   ยิ่งได้มาฟังเสียงครางหวานหูของขนุนทุกครั้งที่ผมเคลื่อนไหวแก่นกาย ก็ยิ่งทำให้ความรู้สึกหวงแหน และ การเป็นผู้มีเอกสิทธิ์ในร่างกายอันงดงามชองขนุนไหลบ่าเข้าท่วมจิตวิญญาณของผม จนผมไม่อาจทำใจให้ปล่อยวางอีกต่อไปได้  และเมื่อผมได้เรียนรู้ว่า...นับวัน ภายในร่างกายของขนุนตอบรับตัวผม แถมยังตอบสนองทุกๆท่วงท่าลีลารักของผมมากขึ้นเรื่อยๆ  ผมก็เริ่มจะทนไม่ได้ หากจะต้องสูญเสียคนๆนี้ไปให้กับใครคนอื่น

จังหวะที่ผมขาดสติด้วยการพาลคิดไปถึงเรื่องไม่พึงใจ มือข้างหนึ่งของผมก็ถูกส่งไปรูดกระชากลำเล็กๆน่ารักของเมียขึ้นลงด้วยจังหวะที่ห่างไกลจากคำว่าละมุนละม่อมเป็นพันๆโยชน์ พลางส่งเสียงข่มขู่อีกฝ่าย “ทีนี้รู้รึยัง ว่าตัวเองเป็นเมียใคร?....ไหนบอกซิ บอกมาซิฮะ ว่าตัวเป็นเมียใคร?!!!

แรงมืออันหนักหน่วง ที่มาคู่กับการชำแรกแหวกทางตามการบันดาลของลมเพชรหึง ทำให้ร่างขาวผ่องที่รองรับอารมณ์ดิบเถื่อนของผมสั่นเทิ้มไปทั้งหน่วย  ภายในของขนุนตอดรัด บีบเคล้น และร้อนแรงราวกับผมเอาท่อนเอ็นไปนาบเข้ากับเตาไฟ เสียงเล็กๆครางออกมาแล้วตอบเสียงเครือ ขาดๆ ฟังไม่เป็นประโยค “อ๊าาาาาาห์....เค้า....เมียน็อต....ฮื๊ออออ....เมียน็อต.....อ๊าห์..........น็อต....น็อต....เสียว....หนุนไม่..ไ.ห..ว...แล้...ฮ๊าห์.....

อุ้งมือผมรับรู้ได้ถึงความสั่นไหว คับแน่น และเกร็งจนสั่นของขนุนน้อย หากแต่ผมยังเลือกที่จะเพิกเฉย และบีบส่วนปลายหัวของเจ้าตัวเล็กสีชมพูที่สั่นและเปียกเยิ้มเป็นสายเอาไว้แน่น โดยไม่หยุดยั้งการทำร้ายอีกฝ่ายผ่านประตูหลัง ซึ่งพุ่งเป้าเข้าตรงจุดกระสันด้านในของอีกฝ่ายแบบพอดิบพอดีไม่มีคลาดคลา  “ฮื่มมม....ไม่ฮะ...น็อตยังไม่ปล่อย!! ขนุนต้องบอกมาก่อน ว่ายังจะคิดไปอ่อยใครอยู่อีกไม๊?....ฮ่าห์...”

ไม่ใช่แค่น้องชายขนุนที่กำลังร้องไห้น้ำตาเป็นสายอยู่ในตอนนี้เพียงอย่างเดียวเสียแล้วล่ะฮะ เพราะแถบบางๆที่ขึ้นเงาสะท้อนแสงไฟบนหน้าแว่นชมพูระเรื่อเจือด้วยพราวของเม็ดเหงื่อที่เหลียวกลับมามองผมเพื่อขอความเห็นใจก็บอกได้ดีว่า อีกฝ่ายทรมานกับความรู้สึกต้องการปลดปล่อยมากขนาดไหน ภายนอกว่าทรมานแล้ว...แต่ข้างในนี่ราวกับนรกบนดินสำหรับน้องชายผม...

...เพราะการอัดอั้นความเสียวกระสันเอาไว้ภายใน ส่งผลให้ปากทางเข้าหดตัวแน่น บวกกับข้างในยังเต้นเป็นจังหวะแซมบ้าแถมด้วยพลังดูดกลืนระดับสูงเสียดฟ้าเหนือกว่าครั้งไหนๆของการสอดใส่...  ผมถึงกับต้องกลั้นหายใจ พลางคิดถึงเรื่องอื่น เพื่อหน่วงไม่ให้ความรู้สึกสยิวที่กลุ้มรุมน็อตน้อยอยู่ในตอนนี้ ทำเอาการสั่งสอนขนุนของผมล้มไม่เป็นท่าไปเสียก่อน   ขนุนพยายามอธิบายอย่างไม่เป็นภาษาเท่าไรนัก “เค้าไม่...อ่อย.....เค้า...อ๊าห์.....เค้า......ฮื้ออออออ.......เค้าไม่......น็อตตต...ไม่...ไหว!!...ฮ๊าาาาาาาาาาาา..ฮื๊อออ”

ในเมื่ออีกฝ่ายทำให้การซอยอัดช่วงล่างของผมเป็นไปได้ยากกว่าที่เคย ผมเลยเพิ่มระดับความร้าวรานของร่างกายให้กับอีกคนด้วยการเอื้อมมือที่ว่างอยู่ไปทำร้ายเม็ดทับทิมที่เต่งจนจวนจะระเบิดของขนุน ก่อนจะส่งคำถามคาดคั้นออกไปอีกข้อ “แล้วที่ทำท่าจะไปจับแก้มไอ้น้องช็อปนั่นเมื่อกี๊ มันคืออะไร? ห๊ะ??”
.
.
.
“...ฮื่อออ.....เค้าขอโทษ....น็อตตต......ฮ๊าห์....น็อต....อ๊าห์......น็อตตตตตตตต....เค้าไม่ไหวแล้ว...  คำวิงวอนด้วยน้ำเสียงกระเส่าซ่าน สายตาเจือไปด้วยน้ำตา และสีหน้าสำนึกผิดของร่างบางๆที่กำลังหัวสั่นหัวคลอนเพราะการกระแทกอย่างหนักหนาสาหัส ทำเอาผมเกือบจะยอมอ่อนข้อให้

ถึงอย่างนั้น...หากขนุนยังไม่สำนึกกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไป ผมคงจะยอมไม่ได้ “ตัวต้องพูดก่อนว่า  เสีย ใจ และ จะ ไม่ อ่อย ใคร อีก!! ผมเน้นทุกคำด้วยเสียงและการกระแทกจังหวะของการสอดใส่ โดยที่มือสองข้างของผมต่างก็ยังไม่ละจากหน้าที่ จนมือข้องที่รัดปลายยอดของขนุนน้อยเอาไว้ เริ่มรู้สึกถึงการสั่นระริกและบวมเต่งคล้ายกับรอเวลาที่จะระเบิดออก

แต่เห็นจะไม่ใช่แค่ขนุนหรอกฮะที่กำลังทรมาน เพราะเหงื่อเม็ดโตที่ไหลลงมาจากขมับทั้งสองข้างของผม อาการหายใจไม่ทั่วท้อง กับการปวดหนึบไปทั้งร่างทั้งที่มีแค่ส่วนเดียวที่ได้รับการจู่โจมอย่างโหดร้ายจากร่างกายของคนตัวเล็กกว่า ก็บอกกับผมได้ดีไม่ต่างกันว่า ผมเองก็ใกล้จะไม่ไหวแล้วเช่นกัน

ขนุนพูดรัวเร็ว ตามด้วยร้องเสียงหลงออกมาอย่างน่าสงสาร สี่ตากำลังจ้องมองมาที่ผมราวกับเหยื่อของราชสีห์ที่ร้องขอชีวิตในวาระสุดท้าย “อ๊าห์....เค้าเสียใจ เค้าจะไม่อ่อยใครอีก...ฮื๊อออ....น็อตตตตตต......น็อตตต....น็อต...น็อต...น็อต...

พอเห็นหน้าของขนุนในคราวนี้ ทำเอาใจผมอ่อนยวบจนไม่อยากจะทรมานขนุนอีกต่อไป ผมเลยค่อยๆผ่อนมือออกจากน้องชายตัวเล็กๆที่กำลังหวั่นไหวอย่างที่สุด กับติ่งยอดตรงหน้าอกที่เริ่มจะแข็งเป็นไต แล้วเอามือทั้งสองข้างมาประคองเอวบางของร่างเล็กเอาไว้ เพื่อการซอยถี่ๆในช่วงสุดท้ายก่อนที่ผมจะตามอีกฝ่ายขึ้นสู่ยอดสูงสุดแห่งความใคร่ไปติดๆ  “....อ๊าห์......น็อต.....น็อต!!.... /........ฮื่มมมม.........ฮื่ออออ........”

ผมกระชากร่างบางๆของเมียให้ยืดตัวขึ้น ก่อนจะโถมตัวเข้าไปกอดอีกฝ่ายเอาไว้จากด้านหลัง ผมรับรู้ได้ถึงการเกร็งเครียดของกล้ามเนื้อทุกๆมัดภายในร่างกายของคนในอ้อมกอด ที่เกิดขึ้นพร้อมๆกับการหอบหายใจจนตัวโยนของอีกฝ่าย ซึ่งไม่ต่างอะไรกับตัวผม หลังจากคลื่นตัณหาและความบ้าคลั่งของพายุแห่งความหึงหวงสงบลง เสียงเล็กๆแผ่วๆก็เอ่ยออกมาอย่างแผ่วๆที่เจือด้วยความเสียใจ “เค้าขอโทษนะน็อต เค้าสัญญาว่าเค้าจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว”

มือเรียวเล็กของอีกฝ่ายเอื้อมขึ้นมาลูบไรเคราตรงปลายคางของผมอย่างเอาอกเอาใจ ผมเลื่อนมือตัวเองมาหยุดฝ่ามือเนียนนุ่มเอาไว้ครอบริมฝีปากเพื่อพรมจูบเบาๆ เพื่อบอกอีกฝ่ายให้รู้ถึงความละอายใจของตัวเองกับเรื่องที่เกิดขึ้น ก่อนจะพูดไม่เต็มเสียงนัก “เค้าก็ขอโทษตัวเองเหมือนกันฮะ ที่ทำเกินไป...
.
.
...แต่เค้าหึง เค้าไม่ชอบให้ใครมาอยู่ใกล้ๆตัว ไม่ชอบให้ใครมาสนใจตัว...
...เค้าไม่ชอบ ได้ยินไม๊ฮะ?”

ขนุนตอบรับเสียงหวาน “อื้อออ...รู้แล้ว เค้าสัญญาแล้วไง ว่าเค้าจะไม่ทำอีก...หัวจุกหายโกรธเค้านะ” แค่ได้ยินสิ่งที่ขนุนพูดออกมา ผมก็เบาใจ เพราะถ้าลองว่าคนหน้าแว่นรับปาก ผมก็เชื่อได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เลยว่า ทุกสิ่งจะเป็นไปตามนั้น เพราะขนุนเป็นคนรักษาสัญญา และไม่พูดจารับปากอะไรพล่อยๆ

ผมก้มหน้าลงไปหอมแก้มอีกฝ่ายหนักๆ อยู่หลายครั้งแล้วพูดเบาๆอย่างเสียดายตรงข้างๆหูของขนุน “ฮื่มมม...นี่ถ้าไม่ติดว่างานยังไม่เลิก เค้าคงอุ้มตัวขึ้นห้องไปต่อให้รู้เรื่องรู้ราวแล้วนะเนี่ยะ”
.
.
.
จมูกและปากเล็กๆกดลงบนแก้มผมด้วยความตั้งใจของเจ้าตัว ก่อนพูดด้วยเสียงนุ่มๆน่าฟัง “(ฟอดดดดดดด) เราสองคนหายไปซักชั่วโมง คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง” ขนุนปิดประโยคให้ท้ายผมด้วยการยิ้มหวานแล้วยักคิ้วให้

“หึ หึ...น่ารักมากนะเรา รู้ตัวไม๊? หื้มมมม (ฟอดดดดด)” ผมเลยตอบแทนความน่าเอ็นดูของเมียด้วยการหอมขนุนเข้าให้อีกรอบ เพราะคำตอบของเมียน่าให้รางวัลสักหลายๆดอกเสียจริงๆ

“อื้อ...ก็เค้าเป็นเมียตัว เค้าจะไม่น่ารักได้ไงล่ะ ใช่ไม๊ล่ะหัวจุก” ขนุนก้มหน้างุดเมื่อพูดจบ ผมเข้าใจดีฮะว่า ที่เมียทำแบบนั้น เพราะเขาคงต้องการซ่อนหน้าที่เม้มปากเอาไว้อีกทอดหนึ่ง...เมียผมแม่งโคตรน่ารักจริงๆว๊อยยย!!

ผมเลยกอดร่างบอบบางของขนุนไว้แน่นแล้วอ้อนให้อีกเสียยกใหญ่ “หึ หึ...พูดจาถูกใจแบบนี้ เค้าว่า...เราควรต้องรีบขึ้นไปกินน้ำต่อข้างบนกันอีกซักสองยกให้ไว แล้วค่อยลงมาข้างล่าง คงไม่สายหรอกมั้งฮะ”

 “อื้อออ...หัวจุกอุ้มเค้าได้ไม๊ เค้าเดินไม่ไหวแล้วล่ะ” ขนุนกระซิบเบาๆตรงข้างหูผมด้วยเสียงอ้อมแอ้ม ดีนะที่ผมจ้องหน้าแดงๆของขนุนเอาไว้ตลอดถึงได้เห็นสายตาอายๆของอีกฝ่ายทันก่อนที่เจ้าตัวจะรีบปรับสายตาเป็นเรียบเฉยเหมือนปกติอีกครั้ง

ทันทีที่ได้ยิน ผมก็ก้มลงเก็บซากกางเกงของเมียขึ้นมาถือเอาไว้ ก่อนจะยิ้มให้อีกฝ่าย แล้วตอบพลางอุ้มร่างเล็กๆที่ล่อนจ้อนแบบสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกเอาไว้กับหน้าอก “แหม่...ถ้าเมียออกปากขอชัดเจนออกซะขนาดนี้ แล้วผัวใจจืดใจดำไม่ทำให้...เค้าคงจะกลายเป็นผัวทรพีไปสินะฮะ”

“ไอ้หัวจุกบ้า! พูดจาเพ้อเจ้อ!” นี่คือคำอวยพรเดียวที่เมียมอบให้หลังจากที่ผมพูดจาหยอกล้อเมียจนเจ้าตัวต้องหลุดเม้มปากออกมาอีกครั้งอย่างเสียไม่ได้ เราสองคนมองหน้ากันแล้วก็หัวเราะร่วนไปตลอดทางจากข้างล่างไปยังเตียงนอนในห้องนอนของเรา...




หึ หึ...คืนนี้ยังอีกยาวฮะ...
และไอ้รอบแรกที่เพิ่งเกิดขึ้นตรงอีกฝั่งของประตูหน้าบ้าน กับรอบใหม่ภายในห้องนอนนั้น ผมถือว่าเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศแบบสั้นๆ ให้พอหายคันระหว่างคืนเท่านั้น  แต่ของจริง...เราทั่งคู่กำลังอดใจรอให้มันมาถึงหลังจากจบงานเลี้ยงคืนนี้ลงเสียก่อน ซึ่งทั้งผมและขนุน...เราก็ต่างรู้ได้เองโดยไม่ต้องมีคำพูดใดๆแลกเปลี่ยนระหว่างกัน...

...นั่นไม่ใช่เพราะว่าเรามีอะไรกันแบบนี้อยู่ทุกคืนหรอกนะคะ หากแต่มันเป็นเพราะ ตลอดเวลาที่เราสองคนหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันในช่วงเวลาสั้นๆที่เราแอบหนีออกมาจากงานเลี้ยงนั้น  ความปรารถนาในตัวของกันและกันที่ถูกถ่ายทอดผ่านสายตาของเราทั้งคู่...แม่งเปรียบเหมือนคำสัญญาไร้สุ้มเสียงที่เมื่อรับรู้ด้วยใจแล้ว การันตีความแน่นอนของการได้การโดน แถมยังช่วยให้ช่วงเวลานับถอยหลังกลายเป็นเรื่องตื่นเต้นชวนให้ซู่ซ่ากระชุ่มกระชวยดีชะมัดเลยล่ะฮะ



๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐



หากย้อนไปในระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังร่วมรักกันอยู่ตรงด้านในของประตูหน้าบ้านนั้น  ถ้าทั้งน็อตและขนุนจะพอมีแก่ใจในการจับสังเกตเสียงที่แวดล้อมทั้งคู่อยู่นั้น พวกเขาจะรู้ได้ว่า มีความพยายามในการกระชากประตูให้เปิดขึ้นอยู่หลายครั้งด้วยน้ำมือของเด็กน้อยสองคน ผู้มีนามว่าเค้ก...และ โช

อนิจจา...เค้กแค่ต้องการพาโชมาเข้าห้องน้ำหลังจากที่นั่งเล่นเกมกันอยู่อย่างสนุกสนานเป็นเวลานาน จนคนเป็นพี่เกิดลืมไปว่า ตนเองต้องการถ่ายเบามากขนาดไหน  แต่ทันทีที่ทั้งสองคนได้ยินเสียงกุกกักหนักๆเป็นจังหวะจากอีกฟากฝั่งของบานประตู ซึ่งมาพร้อมกับเสียงลมหายใจของผู้ชายสองคนที่ดังสอดประสานกัน บวกกับเสียงครางกระเส่าของขนุนที่ร้องเรียกชื่อน็อตอยู่ตลอดเวลานั้น  ก็ทำให้เค้กผู้ที่กำลังกุมลูกบิดประตูบ้านอยู่ในมือถึงกับหน้าถอดสี แล้วค่อยๆหันกลับไปมองหน้าโช ซึ่งกำลังขึ้นสีแดงอย่างเห็นได้ชัดแม้อยู่ในความมืด

ทั้งสองคนมองหน้ากัน ก่อนที่เค้กจะดึงมือโชเพื่อให้เดินตามกันออกมา พลางเอ่ยเบาๆพอให้ได้ยินกันสองคนว่า “พี่โช... ทนปวดไหวเป่าครับ  ถ้าปวดไม่มาก...เค้กว่า...พี่โชอดทนอีกนิดนะครับ เดี๋ยวเราค่อยกลับไปเข้าห้องน้ำที่บ้านดีกว่าเนอะ” หนุ่มน้อยรุ่นน้องยิ้มไป ก็ออกอาการเขินไป

โชที่ทำได้แค่เดินก้มหน้าก้มตา ก็ได้แต่พยักหน้าแล้วก้มงุดๆเดินตามหลังเค้กกลับไปนั่งที่โต๊ะ เพราะเข้าใจดีว่า ทั้งคู่เพิ่งจะประสบเหตุการณ์อะไรมาพร้อมๆกัน หากแต่นั่น...กลับไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เขาเขินได้มากเท่ากับ ฝ่ามือแข็งแรงที่กอบกุมมือเล็กๆของเขาเอาไว้ แล้วบีบเบาๆคล้ายกับจะปลอบให้หายเสียขวัญ...

...มันคือการจับมือครั้งแรกของทั้งสองคน...
...และการจับมือกันในครั้งนี้ ก็ทำให้หัวใจดวงเล็กๆของเด็กหนุ่มทั้งสอง เต้นผิดจังหวะอยู่อีกหลายสิบนาทีทีเดียว...

...สวรรค์เองก็ไม่อาจรู้ได้ว่า การที่เด็กทั้งสองต้องมารู้เห็นถึงการแสดงความรักอันน่าตื่นเต้นที่เกิดจากด้วยน้ำมือของสองหนุ่มรุ่นพี่โดยไม่ได้ตั้งใจเช่นนี้ นับว่าเป็นเรื่องดีกับเด็กน้อยหรือไม่  แต่ที่สวรรค์รู้แน่ๆ ก็คือ...มันต้องมีอะไรในกอไผ่ระหว่างแฝดหนุ่มหน้าหวาน กับเด็กข้างบ้านหน้าใสเป็นแน่

ขอจบการรายงานข่าวซุบซิบฉบับสวรรค์ชั้นเจ็ดเอาไว้ ณ ที่นี้
เอวัง





๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

2 comments:

  1. กรี๊ดดดดด!! เค้ากะตัวเอง น่ารักอ่าาาาา ขนุนมุ้งมิ้งฟุ้งฟิ้งกุ๊งกิ๊งมากกกกก
    ส่วนน็อตนี่ก็หื่นตลอดศก อ่อ! แถมขี้หึงมากด้วย หึงเยอะๆนะขนุนชอบ ฮ่าๆๆๆๆๆ

    มะลิจ้า ที่เราปวดแก้มอ่ะ เพราะเราหัวเราะมากไปหน่อยเท่านั้นเอง 55555 มันไม่ใช่กีฬานะ ส่วนกีฬาที่เราเล่นก็มี แบดมินตัน ปิงปอง แชร์บอล เหยียบลูกโป่ง อันหลังนี่เหนื่อยมาก 5555 เพราะวิ่งหนีคนอื่น มะลิลองไปเล่นดูนะ คิคิคิ ต้องมีเพื่อนเล่นเยอะๆด้วย แล้วจะได้หัวเราะจนปวดแก้มเหมือนเรา 555555

    ส่วนที่เราบอกว่าประโยคของมะลิคล้ายกับขนุนนี่ไม่ได้หมายความว่ามะลิโรคจิตเหมือนขนุนนะ ฮ่าๆๆๆๆ สบายใจได้ เราแค่สงสัยว่ามะลิจะมีคนมาเปลี่ยนเหมือนที่ขนุนมีน็อตมาเปลี่ยนหรือเปล่าเท่านั้นเองงงง55555 ตอนนี้เราสบายดีแล้วนะ 555 ขอบคุณมะลิมากนะที่คอยเป็นห่วง อิอิอิ

    เลิฟมะลิน้าาาา เชิฟๆๆ

    ReplyDelete
  2. ฮ่าๆๆๆ...อ่านความเห็นคุณนาราทีไรแล้วช๊อบชอบอ่ะค่ะ แบบว่ามันน่ารักมากกก ฮ่าๆๆๆๆ บอกเลยว่าทำมะลิมีความสุขทู๊กกกกกทีเลย

    ขอโทษทีค่ะ ที่ถามเรื่องกีฬากับปวดแก้มนี่ มะลิแซวนะคะ ว่ากีฬาอะไรหนอ ที่ทำเอาคุณนาราปวดแก้มได้...ไม่เคยเห็นได้ยินใครเล่นกีฬาแล้วบ่นปวดแก้มซักกะที เท่าที่ฟังคุณนาราบอกมา ท่าทางจะปวดมากกว่าแก้มนะคะ เพราะเล่นซะเยอะไปหมด... ดูจะคล้ายๆกับกีฬาสีของโรงเรียน หรือกีฬามหาวิทยาลัยเสียทีเดียว (แต่เหยียบลกโป่งนี่แลจะไม่ใช่ หึ หึ)

    มะลิว่า ตัวเองคงเล่นไม่ไหวแล้วล่ะค่ะ...เพราะเข้าขั้นสว. (สวยเลยต้องเหยียบไว้ -- ฮ่าๆๆๆ ล้อเล่นค่ะ...สว.ก็สูงวัยยังไงล่ะคะ ฮ่าๆๆๆ) อีกอย่าง คงไม่มีเพื่อนคนไหนยอมมาเล่นด้วยแล้ว เพราะอยู่ในวัยทำงานกันหมดแล้ว แค่ได้รู้ว่าคุณนาราได้หัวเราะจนปวดแก้ม...มะลิก็พลอยมีความสุขตามไปด้วยอย่างแรงเลยล่ะค่ะ

    ไม่มีใครเปลี่ยนมะลิเหมือนขนุนหรอกค่ะ... เพราะมะลิดื้อกว่าขนุนหลายเท่า ฮ่าๆๆๆๆ ท่าจะเปลี่ยนยากมากๆ ถ้าจะมีน็อตโผล่มาจริงๆ คงต้องเป็นน็อตขาโหด และดุๆหน่อยล่ะมั้งคะ ถึงจะเปลี่ยนมะลิได้ วะฮ่าๆๆๆ

    ดีใจนะคะที่รู้ว่าสบายดี และเป็นปกติแล้ว ยังไงเรื่องสุขภาพกับความสุขต้องมาก่อนนะคะ เรื่องที่เหลือ จะได้กลายเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยทีสามารถจัดการได้ง่ายๆยังไงล่ะคะ...และมะลิสัญญาว่า จะคอยเป็นห่วงคุณนาราไปเรื่อยๆอย่างนี้แหละค่ะ จุ๊บๆ

    รักคุณนาราค่ะ เชิฟๆๆ

    ReplyDelete