Sunday, February 8, 2015

ฮานอยวันฝนโปรย // เรื่องเมาท์ที่หก : เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยต่างๆเกี่ยวกับการเดินทาง (ตอนจบ)

เรื่องเมาท์ที่หก : เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยต่างๆเกี่ยวกับการเดินทาง
(อุเหม่  เมาท์เรื่องอื่นอยู่นานนะ กว่าจะวกเข้าเรื่องสาระได้...ช่างสมกับที่เป็นคนทรงภูมิ และมีความรู้อย่างที่สุด!)




  
...เรื่องเกี่ยวกับสนามบิน Noibai และการเดินทางเข้า ออกตัวเมืองฮานอยแบบประหยัดๆและเรื่องชวนรู้อื่นๆ
สิ่งที่คุณๆกำลังจะได้อ่านต่อจากนี้ไป คือ สิ่งควรรู้เกี่ยวกับสนามบิน Noibai ทั้งสองเทอร์มินอล

สนามบิน Noibai International (เทอร์มินอล 2) เปิดให้ใช้งานอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อไม่นานมานี้ ถือเป็นสนามบินที่สะอาดหมดจด ใหม่เอี่ยมอ่อง และห้องน้ำหญิงด้านในส่วนของผู้โดยสารขาออกวิวงามมาก

สนามบิน Noibai Domestic (เทอร์มินอล 1) มีเพียงสายการบิน Vietnam Airlines เปิดให้บริการเพียงสายการบินเดียว แถมยังเป็นการบริการเฉพาะเที่ยวบินี่ภายในประเทศเท่านั้น

ระหว่างเทอร์มินอล มี shuttle bus ให้บริการฟรี โดยจุดจอด shuttle bus จะเป็นดังนี้
จากเทอร์มินอล 2 ไปเทอร์มินอล 1 รถเวียนจะจอดตรงชั้นหนึ่ง ด้านหน้า (มีป้ายบอกอย่างชัดเจน) ก่อนขึ้นแค่บอกคนขับว่า T1 (ทีวัน)
จากเทอร์มินอล 1 ไปเทอร์มินอล 2 รถเวียนจะจอดตรงชั้นหนึ่ง ด้านหน้าเยื้องไปใกล้ๆกับป้ายรถเมล์สาย 7, 17 (รถเมล์เข้าเมือง)  ง่ายๆคือ ให้เดินออกจากชั้นหนึ่งของสนามบิน แล้วเดินไปทางขวาจนเกือบสุด จะเจอจุดจอดรถเมล์  ที่จอดรถเวียนจะอยู่ตรงข้ามป้ายรถเมล์นั่นเอง โดยก่อนขึ้นแค่บอกคนขับว่า T2 (ทีทู)

จุดบริการให้ข้อมูลการท่องเที่ยว อยู่ที่เทอร์มินอล 1 ตรงหน้าลิฟท์แก้ว (เป็นซุ้มสีดำๆ แลทะมึนๆและร้างๆเหมือนไม่มีผู้คน) พนักงานสามารถให้ข้อมูลการท่องเที่ยว และเดินทางเป็นภาษาอังกฤษอย่างชัดถ้อยชัดคำ และโปรดอย่าสับสนกับ ซุ้มInformation  ที่ขาวๆ ใหม่ๆ งามตาและหาง่าย เพราะนั่นเป็นซุ้มให้ข้อมูลเกี่ยวกับสนามบินทั้งสองเทอร์มินอลเท่านั้น

มินิบัสของเวียดนาม แอร์ไลน์ (ค่ารถต่อเที่ยว 2 ดอลล่าร์สหรัฐฯ) ที่จะไปจอดที่ถนน Quan Trang street ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโบสถ์เซนต์โจเซฟเท่าใดนัก จะมีเคาน์เตอร์ให้บริการจะอยู่เยื้องไปตรงด่านจ่ายเงินเข้าทางด่วน (ทางออกจากเทอร์มินอล 1 เดินไปทางขวาเหมือนจะไปป้ายรถเมล์ แต่เดินเลยจุดขึ้นรถเมล์สาย 7 และ 17 ไปนิดเดียว 

สำหรับหน้าตาของรถ และเที่ยวการเดินรถออกจากตัวเมืองฮานอยกลับมาสนามบิน ให้ดูเอาตามรูปนี้นะจ๊ะ


ถ้าอยากได้ผ้าพันคอเกาหลี ราคาถูก (ผืนใหญ่ห่อรอบคอดูชิคๆเหมือนนางเอก พระเอกเรื่อง The Heirs) หรือจะเป็นหมวก ถุงมือไหมพรมสีสันลวดลายไม่อายใคร  ให้ลองมาเลือก มาหาซื้อได้ที่ถ. Hien P. Liet  ย่าน Old Quarter รับรองว่ามีให้เฟ้นหากันอย่างฟึ่ม แถมราคายังพอรับได้ (ราวๆ 100K ขึ้นไป)

ถ้าจะซื้อของ (ยกเว้นของกิน) ให้ต่อราคากันครึ่งต่อครึ่งไปเลย ไม่ต้องกังวล และไม่ต้องเกรงใจคนขาย หมั่นท่องเอาไว้ว่า เค้าตั้งราคาเผื่อบอกผ่าน และชาตินี้ เราคงไม่โชคร้ายจนต้องพบพานกับคุณแม่ค้าทั้งหลายอีกแล้ว เพราะฉะนั้น...ทำหน้ามึน ใจหมาต่อราคาแบบไม่ต้องเกรงใจ จะได้คุ้มกับภาษากายที่ใช้อย่างหนักหน่วง อย่างไรก็ดี ให้สังเกตนิดนึงว่าเจ้าของร้านพอจะมีอารมณ์ต่อปากต่อคำไม๊...ยังไง ชีวิตก็สำคัญกว่าเงินไม่กี่ร้อยที่ต่อมาได้...จริงไหมจ๊ะ เบ่เบ๋?

แต่ถ้าไปซื้อของที่ตลาด Dong Xuan ขอให้แน่ใจว่าต้องการซื้อจริงๆ เพราะแม่ค้าจะหน้านอยกับขาจรเรื่องมากอย่างเราพอสมควร (แน่ซิ...ที่นี่เค้าเน้นขายส่งนี่เคอะ)

หากเป็นพวกบ้าส่งโปสการ์ด หรือจดหมาย แนะนำว่า เมื่อซื้อแสตมป์กับเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์แล้ว ให้เอาโปสการ์ดหลายๆใบของเราที่อาจจะมีปลายทางเดียว หรือต่างประเทษกัน แยกออกจากกัน แล้วเลือกหย่อนตู้ไปรษณีย์คนละตู้กัน เพราะเราพบว่า โปสการ์ดที่เราส่งให้เพื่อนที่อเมริกา เดินทางมาถึงที่บ้านของเรา พร้อมๆกับโปสการ์ดที่เขียนหาตัวเองเป็นที่ระลึก...เจริญพร!

เอาจริงๆ การข้ามถนนที่ฮานอยไม่ใช่เรื่องยาก แค่เราทำตามวิธีที่จขกท.ในกระทู้อื่นๆได้ว่าเอาไว้ กล่าวคือ เมื่อใดที่ท่านหย่อนเท้าลงบนพื้นถนนแล้ว จงก้าวเดินต่อไปเรื่อยๆ อย่าหยุดยั้ง อย่าลังเล หรือคิดเปลี่ยนใจไปมา เพราะคนขับ เค้าเห็นเราแน่ๆ แต่จงอย่าห้าวเป้ง ข้ามถนนแบบเกรียนสุดติ่ง จนเจ้าถิ่นเกิดหมั่นไส้  เดี๋ยวจะได้กลายเป็นทายาทอสูรของชั้นเพียงไม่กี่ราย ที่กลับมาพร้อมประสบการณ์เข้ารับบริการสาธารณสุขแบบฮานอยสไตล์ไม่รู้ด้วยนะ เดี๋ยวจะหาว่าคนสวยไม่เตือน

ตำรวจทั่วๆไปเครื่องแบบเขียว ตำรวจจราจรเครื่องแบบสีกากี ส่วนทหารก็ชุดเขียวจ๊ะ แต่อย่าหาเรื่องไปแอบถ่ายรูปพี่ๆทหารเค้าล่ะ เดี๋ยวจะกลับมาบ้านโดยมีลูกปืนฝังติดตัวมาเป็นของแถม




เนื่องจากอัดอั้น เพราะพยายามขอพี่ทหารที่เฝ้าตามศูนย์ราชการถ่ายรูปแล้วโดนปฏิเสธ เราเลยเอาความแค้นมาลงกับเด็กนักเรียนแทน...ฮี่ ฮี่ นี่แหน่ะ นี่แหน่ะ...ชั้นจะถ่ายรูปพวกหนูกลับบ้านไปให้หนำใจเลย (กดชัตเตอร์รัวๆอย่างป้าคลั่ง!!)


...แนะนำร้านอร่อย การันตีความแหล่มของร้านดังๆ รวมทั้งเมนูแนะนำที่ควรจะได้ควรจะโดน

ก่อนอื่น โปรดทราบว่า

เพื่อนเราเป็นบุคคลธาตุอ่อน และที่บ้านประคบประหงมมาก ทำให้ไม่อาจกินอะไรแผลงๆได้มาก และนางไม่กินเนื้อ นั่นก็แปลว่า เมนูที่เราจะแนะนำต่อไปนี้ จะไม่ค่อยมีเนื้อเป็นส่วนประกอบเท่าใดนัก ขออภัยสาวกผู้เลื่อมใสในการล้มวัวล้มโคเป็นอย่างยิ่ง ที่เติมเต็มความฝันให้แก่พวกท่านมิได้ อย่างไรก็ดี...เรารับรองว่า เมนูเหล่านี้ เริ่ดแท้ เหมาะแก่การเสียเงินดองแลกมาเค่อะ!!

อ้างอิงข้อมูลตั้งต้นจากลิงค์ต่อไปนี้นะคะ (ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ)



ที่พักของเรากับเพื่อนเป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ในย่านที่ค่อนข้างจะห่างไกลจาก Old Quarter มากพอสมควร กระนั้น...เรากลับอยู่ใกล้ย่านของร้านอาหารหร่อยๆทั้งหลายมากอยู่ ไม่เชื่อก็ดูตามแผนที่ข้างล่างนี่ แล้วหาถนนชื่อ Quan Su / Hang Da / Hang Dieu / Hang Ga / Hang Cot  (จากแผนที่ ให้มองหาถนนแนวดิ่งที่อยู่ทางฝั่งซ้ายมือของทะเลสาป Hoan Kiem นะคะ)





(อ้างอิงแผนที่จาก http://www.mappery.com/map-of/Ha-Noi-Tourist-Map )


แต่เนื่องจากเราสองคนกินอาหารเช้าที่โรงแรม เลยเหลือมื้ออาหารข้างนอกไม่มากนัก และร้านที่เรามักจะยอมเสียเหงื่อเดินไปกินข้าวมีดังต่อไปนี้

1. ร้านวุ้นเส้นปลาไหล Dong Thinh Nah Hang Mien Luon

ที่ตั้ง: ถนน Dong Thinh ตรงข้ามตลาด Hang Da
เวลา: 10.00 – 22.00
ราคา: 35,000 – 50,000 VND ต่อชาม
ภาษา: พอมีพนักงานสื่อสารภาษาอังกฤษได้ แต่อย่าชะล่าใจ...ใช้ภาษามือและชี้รูปบนเมนูภาษาอังกฤษเข้าช่วยเถอะจ๊ะ
ทีเด็ด: ปลาไหลทอดที่โปะลงมาบนวุ้นเส้นนี่แหละ เริ่ดอ่ะ (ขายแยกถุงละ 300,000 VND ...เคยถามราคา แต่เผอิญว่าตอนนั้นไม่เหลือเงิน เลยไม่ได้ซื้อกลับมาบ้าน เหอ เหอ)
เมนูแนะนำ: วุ้นเส้นผัดแห้ง (50K)  วุ้นเส้นรวมมิตร(ราคาไม่เกิน 45K เป็นเมนูรูปที่ 1) ถ้าใครธาตุอ่อน อย่าได้สั่งโจ๊กปลาไหลมาเชียวล่ะ เพราะเค้าจะเอาโจ๊กโปะลงบนปลาไหลต้ม กลิ่นพี่ปลาไหลเลยจะตึงนิดนึง ส่วนเท็กซ์เจอร์จะเหมือนกลืนปลาไหลซีรีแร็กซ์ ที่แหลกม่ายค่อยล่าย...อาจพาลทำให้ คนท้องไส้ไม่ค่อยดี มีสภาพปั่นป่วนมวนท้องในภายหลังได้ (และคุณเพื่อนเรา นางก็มิได้หันมาปรึกษาหาความกับดิชั้นก่อนจะสั่งเมนูนี้มาลิ้มลอง...

หวยมันก็เลยมาออกที่...
หลังจากนั้น เมนูโจ๊กปลา ปลานึ่ง และปลาโน่นนี่ที่ร้านอื่นๆ ก็มีอันต้องแท้งทั้งที่ยังไม่ทันท้องไปซะก่อน...
...คนกินได้ไม่เลือกอย่างเรา เลยต้องเศร้าไปตามระเบียบฮ่ะ!)

 ไอ้ดำๆในจานด้านบนนี่แหละคือเพชรยอดมงกุฏ (ปลาไหลทอดกรอบ)...แบบว่าหรอยแรงมาก!


2. ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อ และหมูยอห่อเล็ก Bun Bo Nam Bo

ที่ตั้ง: 67 ถนน Hang Dieu หันหน้าเข้าหาร้านที่ 1 ด้านบนแล้วเดินมาทางซ้ายอีกไม่เกินสิบคูหา
เวลา: 11.00 – 22.00
ราคา: 55,000 VND ต่อชาม  และ 6,000 VDN ต่อหมูยอหนึ่งห่อเล็ก (ตอนเสิร์ฟมาเป็นมัด มัดละหกชิ้นมั้ง ถ้าจำไม่ผิด)
ภาษา: พอมีพนักงานสื่อสารภาษาอังกฤษได้ และอย่างเป็นกังวลไป เพราะใครๆก็เข้ามาร้านนี้ เพื่อกิน Bun Bo Nam Bo กันทั้งนั้นแหละ
ทีเด็ด: หมูยอเส้นเล็กพอดีคำ ที่อร่อยและกินเล่นได้สบายๆระหว่างรอจานหลัก ถ้าไม่รู้จะสั่งยังไง...ทำตัวเสียมารยาทชี้โต๊ะข้างๆเอาก็ได้ เพราะว่าคนเวียดนามเค้าชอบสั่งมากินเคียงกับก๋วยเตี๋ยวเค่อะ
เมนูแนะนำ: แน่นอน ต้องตกเป็นของ Bun Bo Nam Bo หมี่หน้าเนื้อไปโดยไม่ต้องถาม รสชาติโดยรวมจะมีหางหวานนิดๆ เดาว่าน่าจะเป็นเพราะน้ำส้มที่ลอยมะละกอดิบกับแครอท ที่มักถูกใช้เป็นเครื่องเคียงอาหารหลายๆชนิดของที่นี่นั่นเอง ส่วนเนื้อนั้น...ไม่คาวเลยฮ่ะ แถมยังให้เยอะอีกต่างหาก ร้านนี้เราชอบมากฮ่ะ (เพื่อนได้แต่นั่งกินหมูยอรอกันไป ฮ่า ฮ่า ฮ่า)




3. ร้านข้าวเหนียวหน้าหมูยอสุดแหล่ม ) Xoi Ba Thao
(ไม่มีรูปของกินนะจ๊ะ เพราะซื้อมากินด้วยอยากลอง เลยไม่ได้ถ่ายรูปร้าน แถมตอนกิน ก็ดันกินด้วยความทึ่งและตะลึงพรึงเพริด จนข้าวเหนียวหมดอย่างรวดเร็ว ขออำภัยในความไม่สะดวกจ้า)

ที่ตั้ง: 41A ถนน Duong Thanh หันหน้าเข้าหาร้านที่ 1 ด้านบนแล้วย้อนกลับมาทางขวาอีกไม่เกินห้าคูหา หน้าร้านเล็กมากและคนเยอะมาก ร้านข้างๆเป็นร้านขายหมูยอและเครื่องหน้าข้าวเหนียว (น่าจะขายแยกสำหรับคนที่ชอบกินเครื่องต่างๆโดยเฉพาะ)
เวลา: 7.00 – 23.00
ราคา: กล่องใหญ่ 25,000 VND ต่อกล่อง  
ภาษา: ดูรูปการแล้วไม่น่าจะมีใครสื่อสารภาษาอังกฤษได้เลย เพราะลำพังตัวเอง ตอนที่สั่ง ยังต้องยืนไซโคคนตักข้าวเหนียวอยู่เป็นนานสองนาน กว่าพระน้องนางจะเหลียวกลับมามองหน้า และยอมตักให้

แต่อย่าเป็นกังวลไปนะจ๊ะทายาท เพราะภาษามือและความอยากของเรานั้น จะบันดาลให้เราทำได้ทุกสิ่ง และเมื่อถึงคราวจ่ายตังค์ ทายาทก็แค่ยื่นเครื่องคิดเลขในมือถือให้เค้ากดตัวเลขที่เค้าต้องการ (บอกเลยร้านนี้ไม่แพงมาก) นั่นก็น่าจะพอไถ่ถอนกล่องข้าวเหนียวหน้าหมูยอมาให้เราเชยชมกันได้นะคะ

ทีเด็ด: จุดๆนี้ เราคงต้องยกความดีความชอบให้กับหมูยอแบบหมดหน้าตักเลยฮะ ก็อะไรจะไปเทียบรัศมีของหมูยอชิ้นหนาๆ ที่คนตัดไม่ได้ยี่หระตอนแล่โปะข้าวเหนียวมาให้เราแบบส่งๆได้อีกล่ะ

มันเป็นหมูยอหน้าต้าบ้านๆที่เริ่ดมากกกกกกก แบบว่ามันหอมน้ำปลาฝุดๆ  กัดเข้าไปคำแรกนี่เล่นเอาเราวารีแตกซ่าน น้ำหู น้ำตา น้ำลายนี่ฟูมฟู่กรูกันออกมาจากรูต่างๆแบบที่ว่าไม่อาจจะหยุดยั้งได้ แถมข้าวเหนียวก็หุงมาอย่างกำลังดี ไม่แฉะจนเละเหมือนข้าวเหนียวหมูปิ้งบางร้านในบ้านเรา

เมนูแนะนำ: ข้าวเหนียวหน้าหมูยอ และหน้าอื่นๆที่คุณอยากลอง (เราลองหมูยอกับหมูพะโล้ ก็ต้องยอมรับว่า พะโล้เค็มนี่ก็ใช่เบา หากแต่เมื่อเจอความแซ่บไม่มีใครเกินของหมูยอเข้าเป้าตุงใจแม่ป้าอย่างแรงไปแล้ว จะให้ชมอย่างอื่น ก็เห็นจะไม่ได้)

เหล่าทายาทแห่งข้าทั้งหลาย...ขอให้ได้ ขอให้โดนร้านนี้อย่างแรง เพราะจวบจนตอนนี้ เราเองก็ยังเสียดาย ที่มาได้ลองลิ้มชิมรสเอาอีตอนคืนสุดท้าย (หลังจากกินข้าวเย็นอย่างอิ่มหนำอีกต่างหาก) แล้วก็เพิ่งได้รู้ว่า นี่เราพลาดโอกาสได้กินของดีเช่นนี้ไปบ่อยมากกกกกกก   

แง! ใครก็ได้...ช่วยไปแก้แค้นกินข้าวเหนียวร้านนี้คืนให้เราทีเถอะ เพราะระหว่างที่กำลังพิมพ์ถึงอยู่ตอนนี้ ไอ้อาการอยากจะกินก็กำเริบเต็มแก่แล้วเนี่ยะ ถือว่าเห็นแก่ต้นทางตะขาบคนนี้ก็แล้วกันนะยะ!!

4. ร้านบุ๋นจ่า Dac Kim Bun Cha – Duong Thanh

ที่ตั้ง: ถนน Duong Thanh ตั้งต้นโดยหันหน้าเข้าร้านที่ 3 เดินไปทางขวามือ โดยหันหลังให้ร้านที่ 1 – 3 เดินไปจนเกือบถึงสี่แยก ให้มองหาป้ายชื่อร้านด้านบน ร้านจะอยู่ซ้ายมือของเรา
เวลา: 10.00 – 20.30
ราคา: 60,000 / 90,000 VND ต่อชาม / ต่อเซ็ท
ภาษา: พอมีพนักงานสื่อสารภาษาอังกฤษได้ มีเมนูภาษาอังกฤษให้ข้างฝาแต่ว่าไม่มีรูป อ่านเมนูให้เข้าใจตแล้วค่อยชี้เลือกเอา
ทีเด็ด: บุ๋นจ่านี่แหละเค่อะ เริ่ดที่สุด กินเลย...แนะนำ เพราะว่าอร่อย และผักเยอะมากกกกกกก ผ่านร้านนี้มาได้ เราก็สายดำสิบห้าดั้งกินผักแล้วเค่อะ ส่วนตัว เราว่าหมูชิ้นอร่อยกว่าหมูสับปั้นก้อน...ใครเห็นต่าง เข้ามาเสริมหรือมาแย้งได้นะเคอะ ส่วนป่อเปี๊ยทอด...เราไม่ฟินค่ะ บอกเลอ!





5. ร้านซี่โครงหมู (โจ๊กซี่โครงหมู) Thinh Chinh Suon Ran Lau Nam

ที่ตั้ง: 16 ถนน Le Duan
เวลา: 17.00 – 24.00
ราคา: 100,000 – 150,000 VND ต่อมื้อ
ภาษา: ถ้าโชคดีจะเจอน้องที่สื่อสารภาษาอังกฤษได้ แต่ทางที่ดี ให้ถ่ายรูปเมนูที่อยากกินจากบล็อกที่แนะนำ (ด้านบน) ไปก่อน เพื่อเปิดให้น้องที่ร้านดูแล้วกันนะจ๊ะ ไม่อย่างนั้น คงต้องเสียมารยาทชี้นิ้วลอกการบ้านโต๊ะข้างๆแทนแล้วล่ะเค่อะ
ทีเด็ด: โจ๊กซี่โครงหมู อันนี้เราชอบเป็นการส่วนตัว แต่เพื่อนไม่! เพราะนางบอกว่า น่าจะเคี่ยวให้เนื้อล่อนออกจากกระดูกและนุ่มกว่านี้มากหน่อย (ย่ะ! แม่ช่างเลือก!! กลัวเนื้อหมูจะไปบาดเหงือกเอารึไงยะคุณเพื่อน?)





6. ร้านเฉ บัวลอยน้ำขิงที่พบเข้าโดยบังเอิญ Che4Mua

ที่ตั้ง: ถนน Hang Can (เดินตรงมาจากถนน Van Can ที่อยู่ใกล้กับทะเลสาป Hoan Kiem)
เวลา: น่าจะตั้งแต่ 11.00 น.เป็นต้นไป (แต่ถ้าให้แน่ ไปช่วงบ่ายๆน่าจะชัวร์นะเคอะ)
ราคา: 15,000 VND ต่อชาม
ภาษา: ถ้าโชคดีจะเจอน้องผู้ชายที่สื่อสารภาษาอังกฤษได้ แต่ชี้เอาก็ได้ เพราะมีแค่เมนูร้อน และเมนูเย็นไม่กี่เมนู เลือกเอาจากเมนูที่เค้าทำกันเยอะๆก็ได้ เพราะไอ้ก้อนแป้งสองก้อนนั่น อร่อยกว่าที่จินตนาการเอาไว้เยอะเหมือนกัน
ทีเด็ด: ทั้งหมด เพราะเราชอบขนมหวาน ฮ่า ฮ่า ฮ่า ที่สำคัญ เราไม่เคยกินน้ำขิงใส่กะทิ โรยถั่วลิสงคั่วมาก่อน ซึ่งมันดีงาม และเหมาะกับอากาศเย็นๆดีจริงๆเค่อะ
เมนูแนะนำ: บัวลอยน้ำขิงตามภาพข้างล่างนี่ล่ะค่ะ ลูกนึงเป็นไส้งาดำ ส่วนอีกลูก...ไม่แน่ใจว่าเป็นไส้ถั่วเหลืองกับมะพร้าวหรือเปล่า (วานใครมายืนยันทีนะคะ) แต่น้ำที่เห็นนี่คือน้ำขิงราดกะทิค่ะ...มันช่างเป็นขนมที่ทำให้อิ่มเอม และอบอุ่นในวันหนาวๆได้ดีนักเชียวล่ะค่ะ (แบบว่าชอบมาก ต้องจัดซ้ำอีกหลายวัน จนคนขายจำหน้าได้ ฮ่า ฮ่า)





7. หอยทากลวกจิ้ม

ที่ตั้ง: เดินไปตามถนน Hien P. Liet มุ่งหน้าไปยังย่านดื่มเบียร์ใน Old Quarter (Bia Hoi Junction)
เวลา: ช่วงแดดล่มลมตกเป็นต้นไป
ราคา: 60,000 VND ต่อชุด (หอยตัวใหญ่)
ภาษา: มีพนักงานสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีเลยล่ะ เดาว่าน่าจะเป็นร้านที่ฝรั่งกินเยอะ
ทีเด็ด: อุปกรณ์ช่วยแคะหอย ที่เดาว่าทำจากสังกะสีแผ่นเล็กๆที่ตัดมาเป็นสามเหลี่ยมปลายแหลมเปี๊ยว และน้ำจิ้มที่จะออกรสหวานปะแล่มๆนิดหน่อย
เมนูแนะนำ: ก็หอยสิจ๊ะ จะมีอะไรอื่น แต่ถ้าเค้าแนะนำอย่างอื่นที่ทายาทสนใจ ก็สั่งมาลองกันได้นะเคอะ ไม่ได้หวงห้าม จริงๆไม่ได้บังคับให้ลองหอยร้านนี้ แต่เพราะว่ามันหาง่าย เลยเอามาเมาท์ให้ฟัง ถ้าใครเจอหอยที่แหล่มกว่านี้...เอามาแชร์ได้เค่อะ ยินดีเป็นอย่างยิ่ง






...เรื่องที่เกี่ยวกับของกินเรื่องอื่นๆ ที่อยากจะฝากกันเอาไว้

ไม่จิ้มฟันเหมาะกับร่องฟันเรามาก แคะทีเป็นปลื้ม แถมตอนที่คาบเอาไว้ในปาก ยังเผลอทำให้ลืมตัวนึกไปว่าเป็นไอ้ปิง ลูกกะจ๊อกของเฮียเหลียง ตอนแกเล่น Infernal Affairs อย่างไรอย่างนั้น (ว่าไปโน่น ฮ่า ฮ่า)

ถ้ามีโอกาสได้ลองกินโจ๊กที่โน่น ขอให้โดนนะ...แล้วขอให้โดนแบบที่กินกับปาท่องโก๋ด้วย เพราะฟินมากกกกก




เป็นร้านโจ๊กที่เจอโดยบังเอิญ แต่หรอยมาก...ไม่รู้จะบอกพิกัดยังไง
เพราะกระทั่งใน Google Map ยังไม่มี street view ขึ้นมาให้ชื่นชมเลย...
ขออภัยทายาทด้วย ที่ชั้นบกพร่อง (อยากจะบอกว่าร้านนี้ ขายแหนมเนืองด้วยนะจ๊ะ...
แต่ชั้นไม่ได้ลอง เพราะโจ๊กน่ากินกว่าโฮะ โฮะ)

กินหมานี่ยังมีอยู่ให้เห็นกันจริงๆ ขอให้พึงสังวรณ์คำว่า Thit Cho ที่แปะอยู่หน้าร้าน และเมื่อเจอเป้าหมาย...เวลาเดินผ่านถ้าไม่อยากแสลงใจ ให้หันไปมองทางอื่นเสีย (เราก็ทำ ยอมรับแบบกงๆว่าทำใจไม่ได้กิงๆ)

อยากกินอะไรที่ไม่ใช่หมาก็ลองๆมันไปเถอะ (โดยเฉพาะร้านที่มีคนท้องที่กินกันเยอะๆน่ะ) เพราะเราอาจจะได้เจอหน้ากับของกินพิสดารๆเหล่านี้แค่เพียงครั้งนี้เท่านั้น แล้วใครจะไปรู้กันล่ะว่า ไอ้ของกินที่เราไปเผลอเจอเข้าโดยบังเอิญนี่ อาจจะรสชาติดีกว่าที่เราคาดเอาไว้ก็ได้นะ แต่ก็อย่าเปรี้ยว ลองของกินที่รู้ตัวแน่ๆว่ากินไม่ได้ เพราะนอกจากจะไม่ได้อะไรขึ้นมาแล้ว ยังอาจจะกลายเป็นภาระให้เพื่อนร่วมทริปต้องมาคอยดูแลให้เหนื่อยไปตามๆกันซะอีก

อ้อ! แหนมเนืองนี่หากินในฮานอยยากมากนะจ๊ะ บอกเอาไว้เลย... แทบจะไม่มีร้านแหนมเนืองเลยก็ว่าได้ ไม่รู้ทำไมพี่ไทยจึงเหมาเอาว่า แหนมเนืองนี่เป็นอาหารสิ้นคิดของเวียดนามกันได้?



ที่ฮานอยนี่ไม่มีทาสแมว... มีแต่แม่แมวที่ตกเป็นทาสของไอ้ลูกแมวปีนเกลียวพวกนี้...
...ถ้ารู้ว่าพวกเอ็งจะลามปามเล่นหัวเล่นหางจนข้าไม่เป็นอันพักผ่อนแบบนี้...
...ข้าคงเอาเต้านมทั้งหกอุกจมูกพวกเอ็งจนไม่ได้โตมาเล่นหันผ่านหัวข้าอย่างนี้หรอก...ชิส์!


เอวัง... ขอจบการรายงานแต่เพียงเท่านี้...

...เที่ยวอย่างยินดี มีสติ และปลอดภัยนะจ๊ะเหล่าทายาททั้งหลาย!

No comments:

Post a Comment