<|No.00|>
ก้าวแรกของพญาวิหค
คือการนกมานักต่อนัก
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………...
“เอ่อน้องครับ
แล้วน้องกัวเตมาลาล่ะครับ? น้องกัวเตมาลายังไม่ลงมาอีกเหรอ?”
ชายชาตรีถามกลุ่มว่าที่หมอยาด้วยน้ำเสียงร้อนรุ่มใจ นี่ก็เที่ยงกว่าเข้าไปแล้ว ทำไมน้องกัวเตมาลาของเขาถึงยังไม่ลงมากินข้าวอีก?
เด็กเภสัชปีสองมองหน้ากันคล้ายเกี่ยง
ทว่าสุดท้ายก็มีคนหนึ่งยอมตอบคำถามอย่างเลี่ยงไม่ได้ “อ๋อ มันโดดอ่ะพี่”
เมื่อฟังคำแล้ว
รุ่นพี่บริหารชั้นปีที่สามก็นึกแปลกใจ เพราะถ้าเขาจำไม่ผิด รถเก๋งคันโปรดของน้องกัวเตมาลาสุดที่รักยังจอดอยู่ตรงโน้นแท้
ๆ แต่ช่างเถอะ ในเมื่อเพื่อนของน้องกัวเตมาลาว่าอย่างนั้น
เขาก็คร้านจะซักไซ้ “เหรอครับ ขอบคุณครับ”
ถึงหัวใจจะหวิวไหวเพราะไม่ได้เห็นหน้าน้องกัวเตมาลาสุดที่รัก
ทว่าสองหูของชายหนุ่มรุ่นพี่กลับยังทำหน้าที่ดีเลิศ จึงไม่แปลก
หากชายชาตรีจะได้ยินเสียงพูดคุยของเด็กเภสัชฯ กลุ่มเมื่อครู่อย่างชัดเจนแจ่มแจ๋ว “น่าสงสารพี่เขาเหมือนกันน่ะเว่ย
โดนไอ้กัวเตมาลาหลอกแดกไม่พอ แม่งยังทำให้พี่เขาหวังลม ๆ แล้ง ๆ อีก”
“โหยมึง
ถึงไอ้กัวเตมาลามันจะยอมไปไหนมาไหนด้วย แต่เป็นมึง ๆ จะกระเดือกลงไหม คนอะไรหน้าตาอย่างกับหัวเข่าด้าน”
“เออว่ะ!”
เสียงหัวเราะที่ดังกึกก้องไปทั้งชั้นล่างของตึกทำให้ชายชาตรีจำต้องแบกความรู้สึกรวดร้าวติดตัวกลับคณะไปพร้อม
ๆ กับเฝ้าบอกตัวเองให้ตัดใจจากน้องกัวเตมาลาอย่างเด็ดขาด... ลาก่อนน้องกัวเตมาลาของพี่
ถึงพี่จะโชคร้ายที่เราไม่ได้เป็นแฟนกัน แต่พอพี่มาลองคิด ๆ ดู น้องนั่นแหละที่น่าสงสาร
เพราะน้องพลาดโอกาสการเป็นชายเหนือชายที่แท้จริงไปเสียแล้ว!
$$$$$$$$
“พิชญ์
ชายอกหัก” ชายชาตรีที่เพิ่งปรี่เข้ามาร่วมโต๊ะ ทิ้งตัวลงบนม้านั่งที่ยังว่างข้าง ๆ
เพื่อนรักทั้งสองอย่างอ่อนระโหยพลางเว้าวอน
“หึ! กูควรจะแปลกใจใช่ไหมชาย”
พิชญ์ปรายตามองเพื่อนพลางยิ้มเยาะจนอีกฝ่ายเปลี่ยนเป้าหมายไปเร้าหรือหญิงสาวคนเดียวแทน
“พี่ผึ้ง
โอ๋ชายหน่อยสิครับ”
ปาณัทถอนหายใจพรืดอย่างเหนื่อยหน่ายก่อนเอ่ยปากถามตัดบทโดยไม่ละสายตาจากชีทงานต้นฉบับของพิชญ์ที่เจ้าหล่อนกำลังคัดลอกอยู่อย่างเอาเป็นเอาตายคล้ายฝากชีวิตไว้กับมัน
“คราวนี้คนไหนอีกล่ะ?”
ขณะที่เจ้าของชื่อเล่นชายกำลังจะอ้าปากตอบ
หญิงสาวผู้กร้านโลกก็ตวัดสายตาขึ้นมองหน้าคนนั่งตรงข้ามวูบหนึ่งพลางถามแทรกขึ้น “หมดหมวดเจ็ดสิบเจ็ดจังหวัดหรือยังวะพิชญ์?”
เนื่องจากชายชาตรีคือพญานกอินทรีซึ่งมีประวัติเจ็บหนักด้วยเป็นฝ่ายช้ำรักมาโดยตลอด
การจำชื่อคู่กรณีที่มีปริมาณราว ๆ ต้นหญ้าในสนามราชมังคลาฯ จึงเป็นหายนะของเพื่อน
ๆ ไปโดยปริยาย ท้ายที่สุดแล้ว ปาณัทกับพิชญ์จึงพากันเรียกแทนคู่กรณีของชายชาตรีด้วยชื่อเฉพาะในหมวดต่าง
ๆ ซึ่งนับตั้งแต่ปีหนึ่งจนถึงปีนี้ พวกเขาก้าวข้ามทำเนียบรายชื่อ วัน เดือน ปี สี ยี่ห้อกางเกงในชาย
รวมถึงชื่อจังหวัดของประเทศไทยไปเรียบร้อยแล้ว
“ขึ้นหมวดประเทศต่าง
ๆ ในโลกแล้วพี่ผึ้ง” พิชญ์ตอบหน้าตายก่อนจะหันไปกลอกตาใส่คนอกหัก “กูว่าจริง ๆ มึงเลิกกับมันได้ก็ดี
คนอะไร ชื่อเรียกยากฉิบหาย พี่ผึ้งรู้ป่ะว่ามันเคยด่าพ่อคนที่เรียกชื่อเล่นมันไม่ถูกด้วยนะ”
“พิชญ์อย่าว่าน้องกัวเตมาลาสิ
อย่างน้อย ๆ น้องเขาก็นิสัยดีนะ”
“หึ! ถ้ามึงไม่เปย์มันแต่ทีแรก มึงคงได้ประจักษ์ถึงตัวตนที่แท้จริงของมันไปนานแล้วเหอะ”
“เออ
พี่ว่าเลิก ๆ กันไปก็ดีแล้วนะชาย คนชื่อเรียกยาก ๆ น่ะคบไม่ได้หรอก” ปาณัทอุตส่าห์ละมือข้างไม่ถนัดไปลูบหัวเพื่อนหน้าเข่าแล้วปลอบส่ง
ๆ แบบตัดรำคาญ ทว่าหล่อนกลับทำดีอยู่ได้ไม่นานก็ต้องผละมือจากอย่างเร็วรี่พลางบ่นเป็นหมีกินผึ้ง
“โหชาย! ทำไมหน้าผากมันแผล็บงี้อ่ะ?! นี่เศร้าจนตีนผมร่นขึ้นข้างบนอีกแล้วเหรอ?”
“โอ๊ยพี่ผึ้ง! พี่ผึ้งด่าว่าชายไม่ฉลาดยังจะดีเสียกว่า!” ในเมื่อปาณัทพึ่งไม่ได้ ชายชาตรีจึงจำใจกลับไปตายรังเก่าอย่างผู้ปราชัยที่พยายามจัดแต่งหน้าม้าเต่อให้สยายลงมาปกคลุมแสงจ้าตอนบนของที่ราบสูงเหนือคิ้วอย่างเต็มความสามารถ
“พิชญ์ ชายอยากมีแฟน พิชญ์ช่วยชายหน่อยสิ!”
“อยากให้กูด่าโคตรเหง้าศักราชมึงอีกหรือไงถึงได้ขออะไรแบบนี้?”
คนถามทำหน้าเหี้ยมพร้อมส่งสายตาพิฆาตให้ เพราะตั้งแต่รู้จักกันมา เขาก็ได้ยินคำขอปัญญาอ่อนเช่นนี้ออกจากปากอีกฝ่ายมาเป็นครั้งที่ล้านได้แล้วมั้ง
“ก็ถ้าพี่ผึ้งว่าง
ชายก็ไม่กวนพิชญ์หรอก!” เหตุที่ชายชาตรีเริ่มหงุดหงิดนี่ไม่ใช่อะไร
เป็นเพราะเจ้าตัวยังทำใจไม่ได้หลังจากโดนแซะเรื่องหน้าตามาหลาย ๆ ดอกติด ๆ กัน เพื่อนวัยเด็กอย่างพิชญ์จึงโดนเหวี่ยงไปตามระเบียบ
แต่มีหรือที่คนอย่างพิชญ์จะไม่คิดไฝว้
“เดี๊ยะไอ้ชาย! เดี๊ยวมึงจะโดน!” แม้จะมีรูปร่างสันทัดกว่า
แต่เมื่อเทียบอัตราการใช้กำลังประทุษร้ายกันและกันแล้ว พิชญ์คือฝ่ายเดียวที่หมั่นออกอาวุธใส่สหายหุ่นน้อง
ๆ ควายมาโดยตลอด กระนั้นก่อนที่ชายหนุ่มขนาดร่างกายได้มาตรฐานจะล้มโต๊ะ
หญิงสาวเพียงคนเดียวก็รีบหย่าศึกโดยพลัน
“น่าพิชญ์
ช่วยสงเคราะห์ชายมันหน่อยเหอะ นะ... ถือว่าเห็นแก่พี่ก็แล้วกัน” ค่าที่หวงแหนเวลายิ่งกว่าทอง
ปาณัทจึงช่วยขอร้องเจ้าของชื่ออีกแรง เพราะถ้าพิชญ์ช่วยโปรดสัตว์ หล่อนจะได้มีสมาธิลอกชีทแบบฝึกหัดที่ต้องส่งในคาบต่อไปแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย
ที่สำคัญ เมื่อไรก็ตามที่ชายชาตรีหมกมุ่นวุ่นวายอยู่กับผู้ชายคนใหม่ หล่อนก็จะสบายหู
สบายตาไปอีกหลายอาทิตย์ทีเดียว
พิชญ์ถอนหายใจหนักหน่วงพลางมองสบตาผึ้งอย่างหมดอาลัยตายอยาก
“ก็ได้! แต่ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่กูจะช่วยมึงแล้วนะ”
“ขอบใจนะพิชญ์
ชายรักพิชญ์ที่สุดเลย!” อารามดีใจ
ชายชาตรีก็ถลาเข้าใส่ด้วยหมายจะกอดเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเด็กให้เต็มรัก
“หยุด! กูเคยบอกว่าไงชาย?!” พิชญ์ถามเสียงเข้มขณะใช้ม้วนชีทยันหน้าผากอีกฝ่ายจนหงายเงิบ
“ขอโทษ
ชายลืมไป พิชญ์ไม่ชอบให้ใครโดนตัวนี่เนอะ” ชายชาตรีลูบหัวป้อย ๆ
พลางมองหน้าพิชญ์ด้วยสายตากึ่งละห้อยกึ่งขอโทษขอโพยอยู่ในที แต่ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะทำซึ้งได้นานอย่างใจ
ปาณัทก็ทำให้เขาได้สติ
“เฮ้ยพิชญ์
เอาการบ้านรีดดิ้งมาลอกดิ๊” เจ้าหล่อนสะกิดมือคนนั่งตรงข้าม พร้อมตบเบา ๆ
บนหลังมืออีกฝ่ายเมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการ
“พี่ผึ้งอย่าลอกเหมือนเด๊ะ
ๆ นะ เดี๋ยวพอลล่าจับได้”
“เออน่า
มือชั้นนี้แล้ว!”
“พิชญ์
นี่พิชญ์เกลียดชายเหรอ?” ภาพแสลงใจตำตาทำเอาชายชาตรีเศร้าสลดจนหน้าหดเหลือสองนิ้ว
“มึงนี่มันโง่จริง
ๆ ชาย” พิชญ์ส่ายหัวพลางมองจ้องเพื่อนอย่างอิดหนาระอาใจ ด้วยนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อีกฝ่ายกระเง้ากระงอดเพราะเรื่องดังกล่าว
นี่เขาจะต้องคอยย้ำกับชายชาตรีไปอีกกี่พันครั้งว่าเขาไม่ชอบให้ผู้ชายคนอื่นโดนตัว?! แต่ช่างเถอะ เรื่องของเขาเอาไว้ว่ากันทีหลัง
“สรุปจะเอาไหม แฟนน่ะ?”
“เอา!” ประโยคคำถามของเพื่อนรักเป็นดั่งน้ำทิพย์ชโลมใจ
ที่เมื่อได้ยินทีไร ชายชาตรีก็หลงลืมเรื่องขัดข้องหมองใจอื่น ๆ ไปในพริบตา
พิชญ์กับผึ้งถอนหายใจแทบจะพร้อมกันเมื่ออาการคันอยากได้
‘ผัว’ ของเพื่อนกำเริบเสิบสาน “เอาล่ะ ในเมื่อมึงไล่จีบเด็กปีสองจนพวกน้อง
ๆ แม่งรู้เช่นเห็นชาติมึงเกือบทั้งรุ่นมหาลัยแล้ว ทีนี้ก็ถึงคราวที่มึงจะต้องยกระดับความเป็นอมตะของมึงให้รุนแรงขึ้นอีก”
“น้องปีหนึ่งเหรอ?!” ชายชาตรีตาลุกวาวราวลูกควายเห็นรางหญ้าขน
“หึ
ๆ ! ใช่ น้องเฟรชชี่ที่ยังอ่อนต่อโลกและไม่รักตัวกลัวตายเท่าพวกพี่
ๆ มัน”
“แล้วอย่างนี้พวกเราจะไปหาว่าที่เหนือชายคนใหม่ที่ไหนกันดีอ่ะ?”
ชายชาตรีถามเพื่อนรักด้วยน้ำเสียงเริงรื่น สายตาเป็นประกายเปี่ยมไปด้วยความหวังของชายหนุ่มเหลียวมองหน้าหลังพลางสแกนหาเด็กหนุ่มผูกไทไปทั่ว
“เหอะน่า
รับรอง ที่ ๆ กูจะพามึงไป มีปีหนึ่งให้เลือกเยอะจนมึงตาลายแน่ ๆ !”
$$$$$$$$
“โหย
น้องปีหนึ่งเต็มไปหมดเลยอ่ะพิชญ์!” ชายหวีดร้องอย่างดีอกดีใจทันทีที่ก้าวขาเข้าสู่ศูนย์อาหารของอาคารอำนวยการประจำมหาวิทยาลัย
วันนี้มีงานบายศรีต้อนรับนักศึกษาเข้าใหม่ที่จัดโดยสภานักศึกษา ที่นี่จึงกลายเป็นศูนย์รวมเฟรชชี่จากทุกคณะไปเสียแล้ว
“เบา
ๆ ดิวะ เดี๋ยวไก่ก็ตื่นหมด!” พิชญ์ถลึงตาใส่เพื่อนรักพลางเดินนำหน้าไปหลบซุ่มส่องน้อง
ๆ หน้าใสตรงซอกหลืบ “เอาล่ะ เลือกมาว่าจะเอาคนไหน กูจะได้ช่วย ๆ ให้แม่งจบ ๆ เสียที!”
“พิชญ์ช่วยดูหน่อยสิ
ใครก็ได้ที่เข้าที” ชายชาตรีว่าพลางยิ้มเอียงอาย ยืนบิดใบบิดมาคล้ายนงคราญอ่อนวัยไร้เดียงสา
แต่ใบหน้าดุดันประหนึ่งราชันย์มารบวกโจรป่าก็ทำให้พิชญ์พาลจะขย้อนอาหารกลางวันออกมาเดี๋ยวนั้น
“เอาคนโน้นแล้วกัน
หน้าตาบ้าน ๆ ใช้เงินคุณชายพ่อมึงหว่านใส่สักสองสามวัน มึงก็น่าจะจีบติด” พิชญ์เลือกการปฏิบัติหน้าที่กามเทพอย่างคร่ำเคร่งแทนการต้องทนเพ่งทัศนอุจาดข้าง
ๆ ตัว
“ไม่เอาอ่ะพิชญ์
พิชญ์ก็รู้หนิว่าชายชอบคนหล่อ” ชายชาตรีสะบัดสะบิ้งใส่พลางเมินหนีใบหน้าเบื่อหน่ายของสหายรัก
ก่อนจะเปิดปากหว่านล้อมอย่างอ่อนหวาน “น่านะพิชญ์ ไหน ๆ พิชญ์ก็จะช่วยชายเป็นครั้งสุดท้าย
พิชญ์ก็ต้องช่วยให้ชายได้กับคนที่ชายใฝ่ฝันสิ”
“เออ
ๆ ! ก็ได้วะ!” พิชญ์สงสารตัวเองจับใจ... ทำไมหนอ
ทำไม? ทำไมเขาถึงต้องใจอ่อนยอมลงให้ไอ้เพื่อนหน้าลุงนี่ทุกที?! แล้วที่พูดออกมานี่
เคยส่องดูเงาตัวเองบ้างไหมว่าเลือกอะไรได้บ้างนอกจากหัวเข่าด้วยกัน?!
ชายหนุ่มรูปร่างสันทัดเริ่มสอดส่ายสายตามองหาเป้าหมายที่น่าจะเป็นไปได้ให้เกลอแก้วอีกหน
จังหวะที่กรอบสายตาเคลื่อนไปมาอยู่นั้น
รูปร่างสูงสง่าของรุ่นน้องคนหนึ่งก็เตะตาเขาเข้าเต็มเปา ทว่าเมื่อสำเหนียกถึงความแตกต่างทางวรรณะของเบ้าหน้าและสารรูปโดยรวมของทั้งสองฝ่าย
โดยเฉพาะของสหายตนที่ย่ำแย่ยิ่งกว่าต้อยต่ำ พิชญ์ก็เปลี่ยนเป้าหมายทันที
แต่โชคไม่ดีที่ชายชาตรีกลับสังเกตเห็นรุ่นน้องผู้นั้นเสียแล้ว
“พิชญ์
ชายจะเอาคนนั้น! ชายอยากได้คนนั้น!!” คนฟังแทบจะตีอกชกหัวเมื่อได้ยินถ้อยประกาศของเพื่อนรัก
เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องกระอักเลือดตายไปก่อนอายุขัยอันควร
พิชญ์ก็ปลอบใจตัวเองว่า... เอาวะ รอบนี้อย่างมากก็คงลำบากแค่ไม่กี่วัน
เดี๋ยวไอ้ชายมันก็นกอีกนั่นแหละ!
$$$$<| TBC |>$$$$
ชอบไม่ชอบยังไง
อ่านแล้วมาคุยกันนะคะ ^^
No comments:
Post a Comment