Monday, December 12, 2016

«♥» บน บานฯ สาน รัก «♥» Spe. 10|| 2.12.2016



 ตอนหน้าจะเป็นตอนสุดท้ายที่เรื่องนี้ปิดฉากลงอย่างถาวรแล้วนะคะ
ขอย้อนเวลากลับไปเมื่อตอนที่แฝดสามยังเป็นเด็กน้อยวัยไม่กี่ขวบหน่อยดีกว่า
ทีนี้พวกเราจะได้รู้กันแล้วแหละว่า ที่มาของหน้าที่บอดี้การ์ดพ่อฟูนั้น เป็นอย่างไร

สำหรับใครที่อาจจะเหงาเมื่อนิยายเรื่องนี้จบลง
เราขอแนะนำให้เข้าไปคุยเล่น หรือทวงถามความคืบหน้าของการรวมเล่มได้ที่เพจด้านล่างนะคะ
(แอบแทรกโฆษณาตลอด ๆ ฮ่า ๆๆๆ )

รักคนอ่านทุก ๆ คนตลอดมาและตลอดไปเลยค่ะ ^^






«»------------------------------------------------------------------------------------«»



The Special Bonding Vol.10
ทายาทอสูร




“พี่พลายครับ อย่าลากรถเข็นเร็วนักสิลูก เดี๋ยวน้อง ๆ ตก” กังฟูปรามบุตรชายคนโตวัยใกล้สี่ขวบเมื่อพลายออกแรงดึงรถเข็นคันใหญ่ที่บรรทุกน้องชายทั้งสองกับของสดให้เคลื่อนตามฝีเท้าว่องไวของตัวเอง “พลุ พลับ เกาะแน่น ๆ นะครับลูก”

“ค้าบบบ!” เมื่อสิ้นเสียงขานรับอย่างสดใสของเหล่าเด็กชายทั้งสาม ปภพก็ยอมหยุดยืนนิ่ง ๆ เพื่อรอให้คุณพ่อหน้าหวานได้ตั้งสมาธิอ่านฉลากสินค้าในมือให้จบเสียที

“พ่อฟูคับ พะ-ลับจะเอาอันนี้” ทายาทคนสุดท้องที่อยู่ในรถเข็นดึงความสนใจของพี่ชายอดีตเดือนมหาลัยด้วยการชูซองขนมขบเคี้ยวให้พ่อดูใกล้ ๆ พลางทอดสายตาเว้าวอน

“ไม่ครับลูก เราจะไม่กินขนมก่อนกินข้าวนะครับ”

“ทำไมอ่ะครับพ่อฟู?”

“เพราะเดี๋ยวถ้าป๋ากับแดดดี๊มาถึงแล้ว พวกเราจะไปกินข้าวกัน ถ้าถึงตอนนั้นแล้วพลับกินข้าวไม่ลงเพราะยังอิ่มขนมอยู่ ป๋ากับแด๊ดต้องไม่สบายใจมากแน่ ๆ เลย เชื่อพ่อฟูสิ”

เหตุผลกับน้ำเสียงหนักแน่นของกรกฏทำให้เด็กชายสลดลงเล็กน้อย ทว่าปวรกลับไม่ละทิ้งความพยายามแต่อย่างใด “ถ้าเก็บไว้กินหลังกินข้าวล่ะครับพ่อฟู?”

ผู้เป็นพ่ออมยิ้มให้กับความหัวใสของบุตรคนเล็ก และแน่นอนว่า เด็กชายย่อมต้องได้ฟังข่าวดี “ได้ครับ แต่พ่อฟูให้กินวันละชิ้นนะลูก”

“ครับ”

ก่อนจะปลาบปลื้มกับอาการว่านอนสอนง่ายของปวร กรกฏกลับต้องหลอนสะพรึ่งเมื่อเพิ่งตระหนักได้ว่า รอบ ๆ กายเขา ไร้ร่องรอยของฝาแฝดคนโต “พี่พลาย? พี่พลาย?!” อริยะตรัยผู้พี่หันรีหันขวางพลางมองหาปภพด้วยท่าทางแตกตื่น  

“ทางโน้นคับพ่อฟู!” ทันทีที่ปพนชี้บอกทาง กังฟูก็รีบเข็นรถพาทายาทอีกสองหน่อออกเดินตามหาฝาแฝดหมายเลขหนึ่งอย่างร้อนรน โชคดีที่เพียงไม่กี่อึดใจให้หลัง ชายหนุ่มก็พบว่าลูกชายกำลังยืนสนทนากับชายแปลกหน้าอยู่ตรงชั้นวางสินค้าที่ถัดออกไปเพียงไม่กี่แถว เมื่อเห็นลูกอยู่ในกรอบสายตา คุณพ่อหน้าหวานก็ปราดเข้าไปกุมมือป้อมของเจ้าตัวเล็กเอาไว้แน่น

“พี่พลาย เราตกลงกันว่ายังไงครับ?” แม้จะคลายกังวล แต่น้ำเสียงของกรกฏกลับยังสั่นเครือไม่หาย ทว่าเด็กชายผู้หวังดีกลับตอบคำพ่ออย่างพาซื่อ

“พี่พายแค่จะมาช่วยหยิบนมให้พ่อฟูคับ” ปภพเอ่ยพลางยื่นของกลางในมือส่งให้พ่อ

“โธ่พี่พลาย! พี่พลายอย่าเดินไปไหนมาไหนโดยไม่บอกให้พ่อฟูรู้ก่อนสิลูก พ่อฟูกลัวหาพี่พลายไม่เจอรู้ไหมครับ?” พี่ชายอดีตเดือนมหาลัยทรุดตัวลงนั่งพลางกอดบุตรชายคนโตเอาไว้แน่น

สีหน้าตกอกตกใจกับร่างกายอันสั่นเทาของบุพการีทำให้เด็กชายรู้สึกเสียใจและสำนึกผิดขึ้นมาทันที “พี่พายขอโทษคับพ่อฟู พี่พายสัญญาว่าพี่พายจะไม่ทำแบบนี้อีกคับ” ทายาทคนโตของบ้านโอบท่อนแขนสั้น ๆ รอบ ๆ แผ่นหลังบิดาเสียเต็มรักราวกับต้องการปลอบประโลมอีกฝ่ายทางอ้อม
.
.
.
.
.
“เอ่อ คุณครับ”

เสียงเรียกของบุคคลที่สามทำให้กังฟูจำใจต้องคลายอ้อมกอดจากเลือดเนื้อเชื้อไขเพื่อหันไปสนทนากับชายแปลกหน้าอย่างไม่มีทางเลือก “ครับ?!

ตรงหน้ากังฟู คือ ชายหนุ่มวัยทำงานท่าทางภูมิฐานและดูเนี้ยบเสียจนคนไม่มีเกย์ดาร์อย่างกรกฏยังจับออร่าสีม่วงได้โดยไม่ต้องเสียเวลาเดา ซึ่งสิ่งที่ทำให้คุณพ่อลูกสามรู้สึกหวาดหวั่นขนลุกชันไปทั้งร่างหาใช่การทักทายของอีกฝ่ายไม่ หากแต่เป็นเพราะสายตากรุ้มกริ่มของอีกฝ่ายที่จับจ้องเขาอย่างจาบจ้วงต่างหาก รู้ดังนั้น พี่ชายอดีตเดือนมหาลัยจึงรีบอุ้มลูกชายคนโตขึ้นรถเข็นไปอีกคน

“จริง ๆ ผมต่างหากล่ะครับที่ชวนลูกชายคุณคุยอยู่ตั้งนาน ผมนึกว่าแกหลงทาง ผมเลยอยากจะช่วย” ชายแปลกหน้าพยายามสร้างบทสนทนาพร้อม ๆ กับเรียกร้องความสนใจจากคุณพ่อลูกสามที่ดูอย่างไรก็น่าจะ เป็น แบบที่เขาชอบพอ

“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมากนะครับ” จากประสบการณ์โดนจีบนับครั้งไม่ถ้วนทำให้ประโยคปฏิเสธของกรกฏทั้งสั้นทั้งห้วนแถมยังเย็นชามากขึ้นเรื่อย ๆ  “หิวหรือยังลูก? รอพวกป๋าแป๊บนึงนะครับ”

“เอ่อคุณครับ” เสียงเรียกที่ดังขึ้นจากคนที่เดินตามตื๊ออยู่ข้าง ๆ ทำให้อริยะตรัยคนพี่อดระแวดระวังไม่ได้ ชายหนุ่มเร่งฝีเท้าพร้อมกับออกแรงเข็นรถให้พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อสลัดแขกไม่ได้รับเชิญไปให้พ้น ๆ แต่บทจะเจอคนเร้าหรือ คุณพ่อลูกสามอย่างเขาน่ะหรือจะทำอะไรได้ “ถ้าไม่รังเกียจ ให้ผมช่วยคุณดูลูกดีไหมครับ?”

“อย่าเลยครับ ผมเกรงใจ” ขาดคำ กรกฏก็ฉีกไปอีกทางอย่างว่องไว แต่อีกฝ่ายกลับไม่ปล่อยให้เขาได้หายใจหายคอ ฝ่ายเด็ก ๆ ก็เริ่มกรี๊ดกร๊าดกันอย่างสนุกสนานหลังจากพาหนะชั่วคราววิ่งปาดซ้ายป่ายขวาด้วยความเร็วน่าหวาดเสียวขึ้นทุกที

“พวกแกเป็นแฝดสามเหรอครับ?” ชายแปลกหน้าพยายามชวนกรกฏพูดคุย กระนั้นกลับกลายเป็นเด็กชายหลงทางคนเมื่อครู่ที่โต้ตอบกับเขาอย่างเป็นมิตร

“ใช่คับ พี่พายพุพับเป็น triplets!

“โห เก่งจังเลย พูดภาษาอังกฤษเป็นด้วย” คนขายขนมจีบป้อยอเด็กน้อยด้วยหวังจะใช้เป็นสะพานเพื่อสานสัมพันธ์กับผู้เป็นพ่อ แต่ยังไม่ทันจะได้ตั้งเสาเทปูนตอม่อ เจ้าของตัวจริงของคุณพ่อหน้าหวานก็โผล่มาดับฝันจนราพณาสูร

“จะไปจ่ายเงินเลยไหมหนู?” ตรินยิ้มเผล่พลางโฉบเข้าไปช่วยคนรักบังคับทิศทางของรถเข็นโดยพลัน

Pappy!” ฝาแฝดทั้งคันรถกรีดร้องด้วยความดีใจที่โดนบิดาหน้าหนวดเซอร์ไพรส์เข้าอย่างจัง

“ป๋า?!” แม้จะยังประหลาดใจไม่หาย ทว่าความดีใจกลับมีมากกว่า กรกฏจึงคลี่ยิ้มหวานเต็มหน้าทันทีที่ป๊ะป๋าของบ้านปรากฏตัวได้อย่างถูกจังหวะเสียนี่กระไร “แล้วแด๊ดล่ะ?” พี่ชายอดีตเดือนมหาลัยไม่ได้รอคำถามเปล่า ๆ ปลี้ ๆ หากแต่ชายหนุ่มกลับเอนตัวซบคนรักร่างหมีด้วยท่วงท่าดูเป็นธรรมชาติจนผู้ชมนิรนามเริ่มอยู่ไม่สุข

“หนูด้วงจอดรถอยู่ครับ หนูล่ะ... ซื้อของเสร็จหรือยัง?”

“กำลังจะเสร็จครับ”

“งั้นเดี๋ยวป๋าช่วยนะ” เต๋อหันไปหาบุคคลที่สามแล้วคลี่ยิ้มเยือกเย็นส่งไปทักทายพร้อม ๆ กับอำลาในคราเดียว “พวกผมขอตัวนะครับ”

ทันทีที่ทิ้งชายแปลกหน้าเอาไว้เบื้องหลัง คุณพ่อร่างเล็กก็รีบคลายความวิตกของคนรักโดยไม่รั้งรอ “เมื่อกี๊ไม่มีอะไรจริง ๆ นะป๋า” จริงอยู่ที่แม้เขาจะไม่อธิบายตัวเองให้อดีตเด็กสถาปัตย์ฟัง กังฟูก็เชื่อมั่นว่าเต๋อจะเชื่อใจเขามากพอ แต่เพื่อความสบายใจของอีกฝ่าย อริยะตรัยผู้พี่จึงพร้อมจะตอกย้ำความบริสุทธิ์ใจของตัวเองให้ตรินรับทราบแบบซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“ป๋ารู้ครับ หนูไม่ต้องคิดมากนะ” ป๊ะป๋าร่างหมีคลี่ยิ้มละไมพลางยืนยันหนักแน่น




“พี่พลาย พลุ พลับ ต่อเลโก้กันอยู่เหรอลูก?”

“คับป๋า!” ทายาทหมายเลขหนึ่งรับหน้าที่ต่อบทสนทนากับตรินแทนน้อง ๆ ที่ง่วนอยู่กับชิ้นส่วนหลากสี  

“งั้นขอป๋าเล่นด้วยคนได้ไหมครับ?” ถ้าเป็นผู้ใหญ่ในบ้านคนอื่น ๆ คงรู้สึกแปลกใจที่ช่วงหัวค่ำแบบนี้ แทนที่ป๊ะป๋าของบ้านจะปลีกตัวไปนั่งสะสางงานเงียบ ๆ ในห้องหนังสือแต่กลับดอดขึ้นมาหาลูกชายทั้งสาม ทว่าสำหรับเด็ก ๆ แล้ว พวกเขาดูจะดีใจกับการมาของบิดาร่างหมีเป็นพิเศษเสียด้วยซ้ำ

“ได้คับ!” สิ้นคำ ฝาแฝดคนโตก็เลื่อนถังใส่ตัวต่อให้เต๋ออย่างไม่นึกหวง  

“เออนี่ลูก วันนี้คุณอาคนนั้นเขาเข้ามาคุยอะไรกับพ่อฟูเหรอครับ?” ที่สุดแล้ว จุดประสงค์ที่แท้จริงของผู้เป็นพ่อก็เปิดเผย... หึ! แม้ภายนอกเขาจะดูเฉย ๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในซุปเปอร์มาร์เก็ตเมื่อตอนเย็น ทว่าลึก ๆ แล้ว ตรินกลับรู้สึกร้อนรุ่มวุ่นวายใจจนอยากจะจับไอ้หน้าจืดนั่นมาข่มขู่ให้เสียผู้เสียคนกันไปเลย

“คุณอาคนไหนเหรอครับป๋า?” ปวรเอียงคอพลางจับจ้องมองพ่ออย่างใคร่รู้

“ก็คุณอาคนที่พวกลูก ๆ เจอที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตไงครับ”

“อ๋อออ!” เด็ก ๆ รับคำโดยพร้อมเพรียงเพราะยังจำเรื่องที่เกิดขึ้นได้ไม่ลืม

“คุณอาคนนั้นหยิบนมบนชั้นให้พี่พายคับ” ปภพรายงานเสียงแจ๋ว แต่นั่นดูจะห่างไกลจากข้อมูลเชิงลึกที่ชายหนุ่มร่างใหญ่อยากได้ยิน

“แล้วหลังจากนั้นล่ะลูก เกิดอะไรขึ้น?”

“แล้วพ่อฟูก็มาคับ” พลายว่าพลางประกบตัวต่อลงบนฐานของยานอวกาศในจินตนาการอย่างขยันขันแข็ง ตรินแสร้งทำทีจดจ่อกับชิ้นส่วนเล็ก ๆ ในมือเพื่อกลบเกลื่อนอาการหึงหวงจนควันใกล้ออกหูให้รอดพ้นจากสายตาฝาแฝด

“พ่อฟูมาแล้วไงต่อลูก?”

“แล้วป๋ากับแดดดี๊ก็มาไงคับ”

“คุณอาคนนั้นเดินตามพ่อฟูมาด้วยคับ” พลุเสริมความต่อจากพี่ชายก่อนที่จะเป็นฝาแฝดคนสุดท้องที่ต่อจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายให้คนเป็นพ่อเห็นภาพเหตุการณ์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

“ใช่ ๆ คุณอาเดินมาคุยกับพ่อฟู แต่พ่อฟูไม่คุยด้วย คุณอาเลยคุยกับพี่พะ-ลายแทน”

“แล้วป๋ากับแดดดี๊ก็มาคับ” ค่าที่มัวแต่สนใจตัวต่อจนแทบไม่รู้ว่าคุณพ่อหน้าหนวดคิดอะไรอยู่ เด็กชายปภพก็เอายย้ำคำตอบเดิมอีกคำรบ... ก็คนกำลังเล่นอยู่ จะให้พูดเยอะ ๆ ได้อย่างไรล่ะ?!

“แค่นั้นเหรอครับ”

“ฮื่อ!

การพยักหน้าโดยพร้อมเพรียงกันของบรรดาเลือดเนื้อเชื้อไขทำให้ฝ่ายบิดาจำต้องถอดใจจากหัวข้อประจำวัน แต่ใครบอกล่ะว่าเขาจะยุติการสอบสวนแต่เพียงเท่านี้กันล่ะ “แล้วปกติเวลาออกไปข้างนอก มีคุณอาที่พวกลูก ๆ ไม่รู้จักเข้ามาคุยกับพ่อฟูบ่อยไหมครับ?”

“บ่อยคับ!” โชคไม่ดีที่รอบนี้แกนนำเหล่าฝาแฝดอย่างปภพเผลอเข้าใจไปว่า คุณอาที่ป๊ะป๋าพูดถึง คือ บรรดาพนักงานขายของ และแคชเชียร์ที่กรกฏจำต้องวิสาสะด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงไม่แปลกอะไรที่เมื่อได้ยินคำตอบอย่างฉะฉานของลูกชายแล้ว ตรินจะประหวั่นพรั่นพรึ่งถึงขีดสุด

“บ่อยเลยเหรอลูก?!

“คับ!
.
.
.
.
.
.
“ถ้างั้นป๋าคงต้องขอแรงพวกเราทำอะไรสักอย่างให้ป๋าแล้วแหละ” เต๋อรวบรัดพลางมองเลือดเนื้อเชื้อไขด้วยสายตาเป็นประกาย ในเมื่อเขาไม่อาจคอยอยู่กำจัดริ้นไรที่หมายตาคนรักด้วยตัวเองได้ ชายหนุ่มก็จะถ่ายทอดวิทยายุทธทั้งหลายให้ฝาแฝดไปช่วยทำหน้าที่องครักษ์พิทักษ์เมียแทนเขาเสียเลย

“อะไรเหรอคับ?” ในเมื่อหัวโจกสนใจ ลูกกระจ๊อกที่เหลือย่อมต้องพลอยสนใจตามไปด้วย

“พวกเรามาช่วยกันปกป้องพ่อฟูจากคุณอาแปลกหน้ากันเถอะลูก!

«»------------------------------------------------------------------------------------«»

“สวัสดีครับ ลองชิมองุ่นไร้เมล็ดดูก่อนไหมครับ? พันธุ์นี้นำเข้ามาจากออสเตรเลีย ทั้งหวานทั้งกรอบเลยนะครับ” พนักงานยื่นองุ่นให้กังฟู ก่อนจะเชิญชวนเด็ก ๆ ด้วยผลไม้ที่ถูกจัดแต่งในรูปแบบเดียวกัน

“ลองชิมดูก่อนครับ” แต่แทนที่องุ่นจะถูกเปลี่ยนถ่ายย้ายมาอยู่ในมือของคุณพ่อและลูกชาย เหล่าฝาแฝดก็วาดลวดลายที่ถูกป๊ะป๋าร่างหมีฝึกฝนมาอย่างดีให้โลกได้ประจักษ์ตามความถนัดของแต่ละคน   

“พี่พายไม่กินคับ!
“ไม่เอาครับ!
“พ่อฟู ๆ พุอยากกินนมคับ”

“ครับ ๆ งั้นเราไปตู้แช่นมกันเลย” พี่ชายอดีตเดือนมหาลัยยิ้มน้อย ๆ พลางขอโทษขอโพยพนักงานของซุปเปอร์มาร์เก็ตด้วยน้ำเสียงสุภาพ “ไว้วันหลังนะครับ ขอบคุณครับ”

“สวัสดีค่ะ สนใจรับตัวอย่างแชมพูสูตรใหม่ไปทดลองใช้ดูไหมคะ?” เมื่อสิ้นเสียงของพริตตี้ประจำบูธยาสระผม ทายาทรุ่นที่สามแห่งคุณะประสิฒธิ์ก็ลอบมองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย... ดูเหมือนว่าวันนี้จะมีบททดสอบความสามารถของพวกเขามากมายเสียเหลือเกิน เพราะคล้อยหลังคุณอาองุ่นมาได้เพียงไม่นาน คุณอาคนสวยก็ยักคิ้วหลิ่วตาให้พ่อฟูเสียแล้ว แถมดูเหมือนว่าคราวนี้ พ่อฟูจะมีใจให้กับคุณอายาสระผมเสียด้วยสิ

“หืม? ออกสูตรใหม่เหรอครับ?” กรกฏเข็นรถเข็นเข้าไปใกล้กับซุ้มดังกล่าวเมื่อเห็นว่าแชมพูที่หญิงสาวแนะนำเป็นยี่ห้อเดียวกับที่เขาและคนรักใช้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน  

“ใช่ค่ะ นี่ค่ะตัวอย่างแจกฟรี”

“พ่อฟู พี่พายเดินไปตรงนั้นได้ไหมคับ?” และก็เป็นอีกครั้งที่ฝาแฝดทำให้ผู้เสนอไมตรีแฝงการค้าทั้งหลายต้องชะงักค้างกลางอากาศ พร้อม ๆ กับสินค้าตัวอย่างที่โดนหมางเมินในมือ

“พี่พลายจะไปไหนลูก?”

“เมื่อกี๊พี่พายเห็นของเล่นคับ พี่พายอยากไปดู”

“ของเล่นอยู่ตรงไหนลูก?” ขึ้นชื่อว่าเป็นความต้องการของบุตรชายทีไร อริยะตรัยผู้พี่เป็นต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกเสมอ  

“ตรงนู้นคับ!” เด็กชายชี้นิ้วพลางพยักเพยิดบอกใบ้ ท่าทางกระวีกระวาดของลูกชายคนโตทำให้คนเป็นพ่อใจอ่อน

“โอเค ๆ ไปดูของเล่นกันนะ” ความที่กังฟูทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างให้กับเลือดเนื้อเชื้อไขไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าใคร จึงไม่แปลกหากชายหนุ่มจะสนใจและพร้อมตอบสนองความต้องการของบุตรทั้งสามจนเมินของแถมที่พนักงานประจำบูธยาสระผมหยิบยื่นให้ไปในพริบตา ทว่ายังไม่ทันเดินไปถึงไหน มารผจญตัวใหม่ก็เดินเข้ามาขวางทางพ่อลูกทั้งสามเข้าให้อีกหนึ่งตน

“อ้าว! เจอกันอีกแล้วนะครับ” แม้จะเพิ่งผ่านประสบการณ์เฉียดตายไปหยก ๆ แต่ชายหนุ่มแปลกหน้าที่เจอกับกังฟูไปเมื่อไม่กี่วันก่อนก็ยังคงตัดใจไม่ได้เสียทีเดียว 

“...อ่า... ครับ...” กรกฏยิ้มเจื่อนเมื่อโดนจอมตื๊อเดินประกบเป็นเงา แต่เพื่อยืนยันความรู้สึกอึดอัดในใจ ชายหนุ่มก็เลือกที่จะใช้สเต็ปเดิม ๆ ในการเลี่ยงผู้ไม่พึงประสงค์ คุณพ่อหน้าหวานอุ้มลูกชายคนโตใส่ในรถเข็น ก่อนจะเร่งความเร็วของการสับขาให้มากกว่าเดิม  

“สวัสดีครับสุดหล่อ” คุณอาแปลกหน้าเอ่ยทักปภพด้วยหวังจะใช้เด็กชายเป็นใบเบิกทาง ทว่าวันนี้กลับไม่มีแม้การปรายตามอง เมื่อเห็นดังนั้น ชายหนุ่มจึงเปลี่ยนช่องสัญญาณเสียใหม่ “Good Afternoon! How are you today?

“พ่อฟูคับ พี่พายปวดฉี่” ทายาทเบอร์หนึ่งเปรยขึ้นพลางหนีบขา ทำหน้าเหยเก คนเป็นพ่อจึงเริ่มเดือดเนื้อร้อนใจ

“พี่พลายปวดฉี่เหรอลูก?”

“คับ”

“ขอตัวก่อนนะครับ” ทันทีที่ได้ฟังคำยืนยันของลูกชายหัวแก้วหัวแหวน กรกฏก็ตัดบทชายแปลกหน้าด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดพร้อมกับมุ่งหน้าดิ่งไปยังห้องน้ำโดยไม่สนใจใคร แน่นอนว่าถ้าอีกฝ่ายยังจะตื๊อเขาอยู่อีกล่ะก็ คุณพ่อร่างเล็กก็พร้อมจะไฝว้กับทุกคนโดยไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมเช่นกัน “พี่พลายปวดมากไหมครับ? ทนไหวไหมลูก?”

“พี่พายหายปวดแล้วคับ”

“หืม?!” กังฟูเอะใจแต่ก็ไม่คลายวิตกเสียทีเดียว “หายปวดฉี่แล้วจริง ๆ เหรอลูก? อยากให้พ่อฟูพาไปเข้าห้องน้ำดูหน่อยไหม?”

การที่เห็นลูกชายส่ายหัวพร้อมกับประสานสายตาใส ๆ จ้องมองตัวเขาหลังจากอีกฝ่ายกลับคำพูดไปมาแบบหมาด ๆ ทำให้ชายหนุ่มวัยสามสิบกว่า ๆ นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้... เดี๋ยวนะ! หรือว่าเมื่อกี๊จริง ๆ แล้วเจ้าตัวเล็กไม่ได้ปวดฉี่แต่แค่จงใจปดเพื่อให้เขาปลีกตัวจากผู้ชายคนนั้นได้?! 

“พี่พลาย เมื่อกี๊พี่พลายโกหกพ่อฟูเหรอครับ?”

“ป๋าบอกว่าถ้าทำให้พ่อฟูไม่ต้องคุยกับคุณอาคนอื่นได้ ป๋าอนุญาตให้พี่พายพุพับโกหก” เป็นเพราะความไร้เดียงสาแท้ ๆ ที่ทำให้ปภพยอมรับความผิดหน้าตาเฉย ทว่านั่นกลับเฉลยให้ผู้เป็นพ่อรู้ถึงแผนการอันร้ายกาจของคนรักร่างหมีเข้าอย่างจัง

“ป๋าพูดอย่างนั้นจริง ๆ เหรอลูก?” เพื่อความมั่นใจ พี่ชายอดีตเดือนมหาลัยจึงหันไปซักไซ้ลูกชายอีกสองคน ซึ่งชายหนุ่มก็ได้รับการพยักหน้าแทนคำตอบแง่บวก

“คับ!

“เฮ่อ! ป๋านะป๋า แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ฟูคิดมากได้ไงไหว!” กังฟูรำพึงรำพันกับตัวเองด้วยอารมณ์อันหลากหลาย แต่ที่แน่ ๆ นิสัยโกหกแบบมีข้ออ้างไม่ควรถูกปลูกฝังและหล่อหลอมจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของบุตรชายทั้งสามในภายภาคหน้าเป็นอันขาด “พี่พลาย พลุ พลับฟังพ่อฟูนะลูก”

“คับ!” เด็ก ๆ ทั้งสามจับจ้องบิดาร่างเล็กตาแป๋ว

“ต่อจากนี้ไป ห้ามพูดโกหกอีกนะลูก เพราะการโกหกเป็นสิ่งไม่ดี พ่อฟูเคยสอนหลายทีแล้วใช่ไหม”

“แต่ถ้ามีคุณอาเข้ามาคุยกับพ่อฟูอีก พ่อฟูจะทำยังไงล่ะครับ?” พลับแย้งตามคำสั่งของป๊ะป๋าหน้าหนวด

“อืม... ถ้าเป็นอย่างนั้น ลูก ๆ ร้องเพลงดีไหม?”

“ร้องเพลง?”

“ใช่ลูก ร้องเพลงพี่บาร์นีย์ก้ได้ครับ ร้องให้เสียงดัง ๆ เลยนะ รับรองว่าอา ๆ พวกนั้นจะต้องตกใจจนทำอะไรไม่ถูกแน่ ๆ ” คำตอบของบิดาทำให้เด็กชายทั้งสามออกอาการงุนงง  แต่เมื่อได้ยินกรกฏร้องเพลงที่คุ้นเคย มีหรือที่ฝาแฝดทั้งสามจะนิ่งเฉยอยู่ได้ “I love you, you love me. We are happy family…
.
.
.
.
.
.
.
“มีบัตรสมาชิกไหมครับ?”

“ไม่มีครับ” กรกฏตอบแคชเชียร์พลางทยอยวางของในตระกร้าลงบนสายพานในขณะที่เด็ก ๆ ทั้งสามยังคงร้องเพลงติดลมบน

“สองพันห้าร้อยสี่สิบเอ็ดบาทห้าสิบสตางค์ครับ” ชายหนุ่มยื่นบัตรเครดิตให้พนักงานพลางยิ้มหวานให้กำลังใจทายาทอย่างต่อเนื่อง

“เด็ก ๆ ร้องเพลงเพราะจังเลยครับ”

“ครับ พวกแกอารมณ์ดีมากครับ”

“นั่นสิครับ พอได้เห็น ๆ เด็ก ๆ มีความสุข ผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ ก็พลอยมีความสุขไปด้วยนะครับ”

“ครับ” เสียงเพลงที่ถูกขับขานด้วยเสียงกังวานใสของเหล่าฝาแฝดในระหว่างที่ผู้เป็นพ่อกำลังยืนรอเซ็นกำกับสลิปบัตรเครดิตนั้นทำให้ บรรดาลูกค้าที่กำลังเข้าแถวรอจ่ายเงินรวมถึงพนักงานทั้งหมดพากันอมยิ้มให้กับความน่ารักสดใสของเด็กชายหัวเห็ดทั้งสาม

และแล้วมันก็เป็นไปอย่างที่กังฟูคิดเอาไว้จริง ๆ ... ท่ามกลางบรรยากาศอุ่น ๆ ที่เจือกลิ่นอายแห่งความสุขและความบริสุทธิ์สดใส ย่อมไม่มีใครกล้าตรงเข้ามาทำลายมันลงเพื่อแลกกับการทำความรู้จักคุณพ่อลูกสามอย่างเขาแน่ ๆ

แต่สิ่งเดียวที่กังฟูมองข้ามไปเห็นจะเป็นการที่หนึ่งในลูกเสือก็ยังคงยืดถือคำสั่งของพ่อเสืออย่างเอาการเอางาน เพราะนับตั้งแต่วันนั้นจวบจนถึงทุกวันนี้ ลูกเสือตัวหัวโจกก็มักจะแอบทำหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดให้บิดาหน้าหวานอย่างแน่วแน่และแนบเนียนขึ้นเรื่อย ๆ




 «»------------------------------------ TBC ------------------------------------ «»




No comments:

Post a Comment