“อ๊ะ!!” ผมร้องออกมาทันทีเมื่อมือร้อนๆของคนนั่งติดกันถูกส่งมาวางลงบนหน้าขาของผม
มือซุกซนลูบหนักๆไล่จากขาอ่อนขึ้นมาจนเกือบจะถึงโคนขา
วันนี้ผมใส่กางเกงฮาเร็มเนื้อผ้าบางเบา จึงทำให้การสัมผัสจากภายนอกผิวผ้า
สามาถทำให้ผมรู้สึกไม่ต่างกับกำลังโดนลูบไล้ผิวหนังจริง
และเหมือนว่าพี่ช้างจะรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี
ถึงได้คะยั้นคะยอให้ผมใส่กางเกงตัวนี้
ทั้งที่ผมเตรียมกางเกงยีนส์เนื้อหนาเอาไว้แล้ว
...ไอ้พี่ช้าง!! ไม่คิดจะปล่อยให้กานต์ได้พักหายใจหายคอหน่อยเหรอ...นี่หื่นเฉพาะช่วงข้าวใหม่ปลามันหรือเปล่า?...
“น้องกานต์เป็นอะไรหรอลูก?...อยู่ๆทำไมร้องขึ้นมา
แม่ตกใจหมด”
“ปละ...เปล่าครับ... น้องกานต์ไม่เป็นอะไร
เมื่อกี๊ยุงมันกัดเข้าที่ขาอ่อนน่ะ น้องเจ็บมาก...ก็เลยเผลอร้องออกมา”
มือพี่ช้างเลื่อนขึ้นมาถึงกลางลำตัวของผมเป็นที่เรียบร้อย
และกำลังพยายามปลุกเร้าส่วนแก่นกายกึ่งกลางลำตัวผมอย่างต่อเนื่องจนน้องชายของผมเริ่มพองคับกางเกงใน
เมื่อหน้าของผมเริ่มร้อน ลมหายใจเริ่มหนักและขาดเป็นห้วงๆ
ผมก็เหลือบไปจิกตามองหน้าพี่ช้างก่อนปรามการกระทำของร่างสูงทางสายตา
เจ้าตัวกลับทำหน้าไม่รู้อิโหน่อิเหน่แล้วส่งยิ้มตาใสมาให้ผม ด้วยความหมั่นไส้
ผมเลยล้วงมือข้างที่ถนัดเข้าไปบิดหยิกหลังมือหนาของคนเจ้าเล่ห์หน้าตายซ้ำๆอยู่หลายที
ตัวแสบนั่งกัดฟันกลั้นเสียงร้องโอดโอยเอาไว้ภายใต้รอยยิ้ม
แต่มือก็ยังไม่ยอมปล่อยแก่นกายของผม
ซ้ำยังเกาะกุมแน่นจากนั้นจึงขยับมือขึ้นลงเร็วๆ
แล้วหันกลับไปถามแม่กับน้าเรื่องที่ยังคุยค้างกันอยู่ได้อย่างเป็นธรรมชาติ
...พี่ช้างนี่ชักจะมากเกินไปแล้วนะ!!..อาห์......ทำกับกานต์อย่างนี้ได้ยังไง....
....ฮ่าห์...แม่กับน้าก็นั่งอยู่ตรงนี้เองนะ...อ๊ะห์......รออีกหน่อยไม่ได้หรือไงนะพี่ช้าง?!!!...
“กานต์ครับ เมื่อกี๊กานต์โดนยุงกัดเหรอครับ.... เอ
แปลกจัง นี่ปีย์นั่งฝั่งเดียวกันกับกานต์แท้ๆ กลับไปไม่โดนยุงกัดเลยซักแอะ”
พี่ช้างหันหน้ามามองผมด้วยสายตามีลับลมคมใน
แล้วส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาให้
ขัดกับเสียงอ่อนที่ฟังดูเป็นห่วงเป็นใยในเวลานี้
...ไอ้พี่ช้าง!! ไอ้ณเดชเรียกพ่อ!! ไอ้โรคจิต!! ไอ้บ้า...
ทำกับกานต์อย่างนี้แล้วยังจะมาตีหน้าซื่อชวนคุยอยู่ได้อีก!!...
“ใช่! น้องกานต์!... น้าว่าน้าก็ดูแล
ปิดบ้านช่องห้องหับข้างล่างนี่เอาไว้ดีมากเลยนะ
น้ากับแม่ไม่เคยโดนยุงกัดอย่างน้องกานต์ว่าเลยซักที คิดไปเองรึเปล่าเรา?” น้าหันมาถามผมอย่างสงสัยจริงจัง
เมื่อเห็นสายตาแม่กับน้าที่รอคำตอบ ผมจำต้องข่มปรับเสียงให้เป็นปกติก่อนแค่นประโยคออกมาตอบท่านทั้งสองไปอย่างสั้นๆ
“น้องไม่คิดเอง...น้องโดนกัดจริงๆ.......น๊ะห์.ฮ่าห์...”
คนข้างๆตัวผมนั่งกลั้นยิ้มจนหัวคลอน
แต่ไม่วายขยับปลายแขนให้นิ้วมือนวดเฟ้นเคล้นคลึงท่อนลำและปลายปล้องของน้องชายของผมอย่างขมีขมัน
“อ๊ะห์....โอ๊วววว..” เสียงครางครั้งนี้เล็ดรอดออกมาเพราะพี่ช้างจิกปลายเล็บเบาๆลงบนร่องตาน้ำตรงยอดลำ
ผมถึงกับเงยหน้าและกัดริมฝีปากเอาไว้เพื่อกลั้นเสียงครางที่เกิดจากระลอกความสยิวที่จู่โจมผมอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว
ขาทั้งสองของผมหนีบเข้าหากัน ปลายเท้าของผมยืดเหยียดลอยคว้างกลางอากาศด้วยความเสียวซ่านระคนสุข
“คุณแม่ครับ คุณแม่มียาทากันยุงหรือเปล่าครับ
สงสัยว่าเมื่อกี๊ยุงจะกันกานต์ตรงเนื้ออ่อนนะครับ ดูสิครับ...ยุงใจร้าย
กัดกานต์จนร้องเสียงหลงเลยทีเดียว” แฟนผมแสร้งทำทีเป็นห่วง
แต่แค่มองตา ผมก็เห็นได้ทันทีว่าคนที่นั่งข้างๆผมดูสุขสมใจที่แกล้งให้ผมเผลอร้องเสียงหลงออกมาได้
“มีจ๊ะ อยู่ตรงตู้หนังสือตรงหน้าประตูนั่นไง
เห็นไม๊ลูก?”
“ขอบคุณครับแม่ เดี๋ยวผมเดินไปเอาให้กานต์เค้าดีกว่า
ท่าทางจะเนื้อหวาน...นั่งอยู่กันตั้งสี่คน โดนยุงกัดอยู่คนเดียว” พี่ช้างทำท่าส่ายหัวช้าๆให้ผม มือใต้โต๊ะค่อยๆผ่อนการรูดเร่งจนคล้ายๆว่าจะหยุดการเคลื่อนไหวเอาเสียดื้อๆ
“ไม่ต้อง!!!...
เกาอีกเดี๋ยว...ก็หาย...คัน...แล้ว” ผมอึกอักพลางวางมือหมับลงบนมือของคนเจ้าเล่ห์
แล้วกำกับให้มือแกร่งเริ่มเร่งการรูดลำน้องชายตัวเต่งของผมให้เพิ่มความเร็ว
สลับกับการคลึงปลายนิ้วมือโอบอุ้มตรงส่วนปลายหัวเป็นระยะๆ พี่ช้างหัวเราะเบาๆต่ำๆในลำคออย่างถูกอกถูกใจ
ที่สุดท้ายผมก็ยินยอมทำตามความปรารถนาที่โหมกระหน่ำของตัวเองโดยไม่ขัดใจร่างสูงแสนซนอีกแล้ว
ถึงตอนนี้...ผมไม่คิดจะห้ามพี่ช้างอีกต่อไป ก็มันทั้งตื่นเต้น
ทั้งหวาดกลัว และทั้งเสียวสุขสมในเวลาเดียวกัน ผมเลยเตลิดจนกู่ไม่กลับ...สิ่งที่ผมพยายามทำอย่างดีที่สุด
คือ
การนั่งตัวตรงอยู่นิ่งๆโดยไม่เผลอส่งเสียงครางออกมาจนกว่าผมจะเสร็จเสียก่อน...ซึ่งก็คงอีกไม่นาน............
.....ปีย์....อ๊ะ....อ๊ะ.. ..ปีย์.....ฮ๊าห์!!.......
พี่ช้างที่ทำหน้าเหมือนตั้งใจฟังน้าของผมคุยเรื่องเคล็ดลับในการปลูกต้นไม้
แต่เหลือบตามองมาทางผมอยู่ตลอดเวลา ร่างสูงถึงกับยกยิ้มมุมปากอย่างกวนๆส่งมา
เมื่อเขาจับอาการตัวเกร็ง และแก่นกายกระตุกของผมได้ แล้วจึงยอมถอนมือกลับไป
No comments:
Post a Comment