Monday, August 8, 2016

«♥» บน บานฯ สาน รัก «♥» The 30th Bonding || 08.08.2015

ออกตัวก่อนว่ารายละเอียดการทำเด็กหลอดแก้วอาจจะมีความคลาดเคลื่อนบ้างนะคะ
หากผิดพลาดประการใด ขอได้โปรดชี้แนะเราด้วยเน้อ

ตอนหน้าแฝดมาแล้วค่ะ (ในที่สุด!)
แต่! ใครที่กำลังตั้งตารออ่านตอนน้อง ๆ ออกวาดลวดลาย
ต้องรบกวนให้อดใจรอไปอีกสองตอนเนาะ (โอ๋ ๆ อย่าร้องน้า)
เพราะรอบหน้าแฝดจะมาแบบเบ่บี๋ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรค่ะ ส่วนอีกตอนก็ยังอ้อแอ้จำอะไรไม่ได้
สองตอนเท่านั้นค่ะ... อีกสองตอน (ท่องเป็นเพื่อนพี่ฌานเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า)





«»------------------------------------------------------------------------------------«»



The 30th Bonding
Dear Diary… We are your daddies, you know?!




10 พฤษภาคม 25XX
พลาย พลุ พลับที่รักของพ่อฟู...

วันนี้เป็นวันแรกที่พ่อ ป๊ะป๋า กับแดดดี๊ เข้าไปคุยกับคุณหมอเรื่องของลูก ๆ พ่อตื่นเต้นมากเลยนะที่รู้ว่าคุณหมอจะช่วยทำให้เราพบกันได้ภายในสิบเดือน (ถ้าพวกลูก ๆ ไม่งอแงแล้วยอมมาเกิดในท้องป้าบิวดี ๆ น่ะนะ) เดี๋ยวอาทิตย์หน้าป้าบิวกับคุณยายก็จะบินมาถึงอเมริกาเพื่อให้คุณหมอตรวจร่างกายรอบแรกแล้ว ทีนี้พวกพ่อ ๆ ก็จะได้รู้กันเสียทีว่า คุณหมอจะสามารถพาพวกหนูมานอนเบียดกันอยู่ในท้องป้าบิวได้เมื่อไร... พ่อตื่นเต้นจัง!  

ช่วยพ่อภาวนาให้ร่างกายป้าบิวแข็งแรง และทุกอย่างลงตัวเหมาะเจาะด้วยนะลูก ๆ พวกหนู ๆ จะได้มาเกิดเร็ว ๆ ยังไงล่ะ
รักลูกมาก อีกสิบเดือนเจอกันนะครับ!
พ่อฟู

ป.ล. (ป๊ะป๋า) ป๋าก็อยากเจอหน้าลูก ๆ มาก ๆ เหมือนกันครับ รีบ ๆ มาเกิดเร็ว ๆ นะลูก ป๋า แดดดี๊ กับพ่อฟูรอพวกหนูอยู่
ป.ล. (แดดดี๊) แดดดี๊รักป๋ารักพ่อฟูมากครับ << มือบอนนะเต๋อ!<< ก็มึงด้วงไม่เขียนเองนี่ครับ!<< พวกนายเล่นอะไรกัน ?! นี่มันบันทึกที่ฟูจะเขียนให้ลูกนะ!! << โอ๋ ๆ ไม่เล่นแล้วครับที่รัก << It’s all your fault, Art! << LOOK WHO’S TALKING (*smirk*) <<E  N O U G H!!








16 พฤษภาคม 25XX
พลาย พลุ พลับสุดที่รักของพ่อฟู... วันนี้มีข่าวดีหลายข่าวเลยเด็ก ๆ ! 

หลังจากป้าบิว ลุงเติ้ล พี่บิวตี้ พี่โบเต้ และคุณตาคุณยายมาถึงอเมริกาเมื่อสามวันก่อน พวกพ่อ ๆ ก็พาป้าบิวไปพบคุณหมอเพื่อตรวจร่างกายเป็นครั้งแรก คุณหมอบอกพ่อว่า ร่างกายของป้าบิวแข็งแรงและพร้อมกับการเป็นคุณแม่อุ้มบุญอย่างที่สุด ดังนั้นถ้านับจากวันนี้ ก็จะเหลือเวลาที่พ่อต้องอดทนรอเจอหน้าพวกลูก ๆ อีกแค่เก้าเดือนกว่าเองครับ พ่อดีใจจังเลยลูก!  

ส่วนข่าวดีอีกเรื่อง นั่นคือ วันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ พ่อ ป๊ะป๋า และแดดดี๊กำลังจะแต่งงานกัน! บอกตรง ๆ ว่าตอนที่ป๊ะป๋าขอพ่อกับแดดดี๊แต่งงาน พ่อแทบไม่รู้สึกอะไรเลยนอกจากตื้นตันใจ เพราะพ่อไม่คิดว่าป๊ะป๋าของพวกลูก ๆ จะจริงจังกับเรื่องพรรค์นี้(พ่อหมายถึงการแต่งงานน่ะนะลูก) แต่ไม่รู้ทำไม พอใกล้ถึงวันงาน ความรู้สึกตื้นตันดันกลายเป็นตื่นเต้นไปเสียได้ แต่พวกลูก ๆ ไม่ต้องเป็นห่วงพ่อฟูคนเก่งนะครับ เพราะแค่พ่อฟูอยู่กับแดดดี๊และป๊ะป๋า พ่อฟูก็จะกลายเป็นคนเก่งกล้าขึ้นมาทันที (ถ้าลูก ๆ ไม่เชื่อเรื่องที่พ่อบอก พวกลูก ๆ ก็ต้องรีบมาเกิดเร็ว ๆ จะได้มาเจอกับคนรักทั้งสองของพ่อเพื่อพิสูจน์ทุกอย่างด้วยตัวเองแล้วล่ะ)

อ้อ! อีกสองวัน พวกอา ๆ ของลูกจะมาถึงฮาวายกันแล้วนะ งานแต่งพวกพ่อก็เหมือนงานเลี้ยงรุ่นดี ๆ นี่แหละลูก! เอาเป็นว่า ถ้ามีเรื่องน่าสนใจชวนให้ตื่นเต้น พ่อจะแวะมาเขียนเล่าให้พวกลูก ๆ ได้อ่านกันอีกนะครับ
รักลูก ๆ เหลือเกิน... อีกเก้าเดือน + สามอาทิตย์เจอกันนะลูก!
พ่อฟู

ป.ล. (ป๊ะป๋า) ป๋ารักพวกลูก ๆ จังครับ! ถ้าไม่ใช่เพราะลูก ๆ ป๋าคงหลงคิดว่าพ่อฟูเฉย ๆ ชิล ๆ กับงานแต่งไปอีกนาน... ที่ไหนได้ (พ่อฟูของพวกลูก ๆ น่ะ เก็บอาการเก่งมากเลยนะรู้ไหม แต่ดีอย่าง เวลาป๋าถามตรง ๆ พ่อก็จะตอบแบบไม่อ้อมค้อมเหมือนกัน)  เอางี้! เดี๋ยววันงาน ป๋าจะให้อาฌานถ่ายรูปบรรยากาศมาเยอะ ๆ เลยนะ พอพวกลูก ๆ เริ่มรู้ประสา ป๋านี่แหละที่จะเอารูปพวกนั้นมาอวดก่อนใครเลย!
ป.ล. (แดดดี๊) พวกเรามาภาวนาให้ทุกอย่างราบรื่นกันนะลูก ๆ พ่อฟูจะได้เจอพวกหนูเร็ว ๆ ยังไงล่ะ... แดดดี๊รักลูก ๆ นะครับ








20 พฤษภาคม 25XX
ลูก ๆ ครับ เมื่อวานพวกพ่อ ๆ แต่งงานกันแล้วนะ! 

พ่อคงไม่ต้องอธิบายให้ลูก ๆ ฟังหรอกเนอะว่าพ่อน่ะดีใจและภูมิใจกับการได้เป็นคน ๆ เดียวกันกับป๊ะป๋าและแดดดี๊มากแค่ไหน แต่เหตุผลที่ทำพ่อดีใจมากยิ่งไปกว่าการได้แต่งงานกับป๊ะป๋าเต๋อและแดดดี๊น่าจะเป็นเพราะพวกพ่อ ๆ ได้แต่งงานกันท่ามกลางผู้คนที่พวกพ่อ ๆ รักและพวกเขาก็รักพ่อ (ทั้งคุณปู่โต้ง คุณย่าแหม่ม คุณปู่วัฒน์ คุณย่าจิ๋ว คุณตาเขียว คุณยายบัว ลุงเติ้ล ป้าบิว พี่บิวตี้ พี่โบเต้ ลุงโอมป้าบ็อบ(ป้าบ็อบเพิ่งท้องหลานคนใหม่ให้คุณยายครับ) ป้าโบ๊ท อาริน อาแนน อาฌาน อาฌอน อาอิ๊ก เจ็กเก็ก แล้วก็อาบ๊วย)

ชีวิตพ่อ นอกจากลูก ๆ  และทุก ๆ คนที่พ่อเขียนถึงด้านบน พ่อก็ไม่ต้องการใครอื่นอีกแล้ว
จำไว้นะลูก การที่เรามีใครสักคนที่รักและปรารถนาดีต่อเราอย่างจริงใจ ถือเป็นสิ่งที่ประเสิรฐที่สุดที่มนุษย์คนหนึ่งพึงมี แต่นั่นจะไม่มีวันเกิดขึ้นได้เลย หากพวกลูก ๆ ไม่รู้จักมอบความรักให้คนอื่นก่อน (ไม่ต้องห่วงนะลูก เดี๋ยวพวกพ่อ ๆ จะสอนให้เอง)  

ถึงพ่อจะบรรยายความรู้สึกของงานในวันนี้ไม่ได้ แต่พ่อสัญญาว่า ทุกครั้งที่ลูก ๆ ถามพ่อเรื่องงานแต่ง พ่อจะเล่ารายละเอียดทั้งหมดให้ลูก ๆ ฟังอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเลยครับ! (จริง ๆ ถ้าเลือกได้ พ่อเองก็อยากให้พวกลูก ๆ ได้อยู่เป็นส่วนหนึ่งของงานแต่งเสียด้วยกัน)

รักลูก ๆ มาก
พ่อฟู

ป.ล. (แดดดี๊) แดดดี๊เองก็ดีใจครับที่แดดดี๊กับป๋าและพ่อฟูมีวันนี้ร่วมกัน... รักฟู รักเต๋อนะครับ  
ป.ล. (ป๊ะป๋า) เอ... หรือป๋าควรจัดงานแต่งอีกรอบดีลูก? เอาเป็นวันเกิดครบรอบปีที่สิบของพวกลูก ๆ ดีไหม?  ชู่ว์! รู้แล้วก็อย่าเอ็ดไปล่ะ ป๋าอยากเซอร์ไพรส์พ่อฟูกับแดดดี๊น่ะ หึ หึ








27 พฤษภาคม 25XX
พลาย พลุ พลับ ลูก ๆ ของพ่อฟู

อีกห้าวันคุณหมอจะนัดป้าบิว คุณยาย คุณปู่ คุณย่าและพวกพ่อ ๆ เข้าไปคุยเรื่องลูก ๆ แล้วนะครับ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด พ่อคิดว่า วันนั้นแหละ จะเป็นวันที่ลูก ๆ ได้เข้ามาอยู่ในท้องป้าบิวเสียที เย่! (พ่อแทบอดใจรอไม่ไหวถึงขั้นอยากหลับแล้วตื่นมาอีกทีก็เป็นเช้าวันที่ห้านับจากวันนี้เลยล่ะลูก) 

วันนี้พวกอา ๆ ของลูก ๆ โดนพี่บิวตี้กับพี่โบเต้แผลงฤทธิ์ใส่กันจนไปไม่เป็นเลย ขนาดลุงเติ้ลกับป้าบิวปล่อยพี่ ๆ ให้อยู่กับพวกอา ๆ แค่สามชั่วโมงเองนะ พอพ่อเห็นอาการสยองเด็กจนขึ้นสมองของพวกอา ๆ แต่ละคนแล้ว พ่อก็อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าเสร็จเรื่องป้าบิวอุ้มท้องพวกลูกแล้วพวกเรากลับถึงเมืองไทยเมื่อไร พ่อจะจัดการอบรมสั่งสอนทุกคนให้รู้จักกับการเลี้ยงเด็กเล็ก ๆ ดูเสียหน่อย (โดยเฉพาะเจ็กเก็กนี่ตัวดีเลยลูก) เพราะตอนที่ลูก ๆ เกิดมา พวกอา ๆ จะได้มาช่วยพ่อเลี้ยงพลาย พลุ แล้วก็พลับไง... พ่อฟูฉลาดไหมครับ? เอาไว้ว่าง ๆ พ่อจะเขียนแนะนำพวกอา ๆ ให้ลูก ๆ ได้รู้จักล่วงหน้านะครับ รับรองเลยว่าพวกลูก ๆ จะรักคุณอาพวกนี้มากเหมือนที่พวกพ่อรักเลยล่ะ  

รักลูก ๆ มาก... อีกเก้าเดือน + สองอาทิตย์เจอกันนะครับ!
พ่อฟู

ป.ล. (ป๊ะป๋า) พอพ่อฟูรู้ว่าคุณหมอเก็บไข่จากท้องป้าบิวได้ตั้งสามสิบฟอง พ่อของพวกลูก ๆ ก็ร้องไห้ใหญ่เลย นี่ถ้าอีกห้าวันหลังจากฉีดเสปิร์มตัวเก่งของพวกพ่อ ๆ ฝังลงในไข่แล้วผลแล็บออกมาดี มีหวังป๋าต้องหิ้วเสื้อตัวใหม่ไปเปลี่ยนหลังพบคุณหมอเสียแล้วล่ะ เผื่อว่าน้ำตาของพ่อฟูจะชุ่มเสื้อป๋าจนใส่ไม่ได้อีกเลย (พ่อฟูร้องไห้หนักจนป๋าแอบตกใจ แต่ป๋าบอกก่อน จริง ๆ แล้วพ่อฟูไม่ใช่คนขี้แยอะไรหรอกนะลูก แต่พอเป็นเรื่องของครอบครัวเรา (โดยเฉพาะเรื่องลูก) พ่อฟูจะอ่อนไหวง่ายและเสียน้ำตาง่ายมาก)  รู้อย่างนี้แล้ว พวกลูก ๆ ก็ต้องรักพ่อฟูให้มาก ๆ นะครับ เพราะพ่อฟูน่ะ รักลูก ๆ มากจริง ๆ  
ป.ล. (แดดดี๊) ไม่ใช่แค่พ่อฟูหรอกลูกที่ร้องไห้ ย่าจิ๋ว ย่าแหม่ม ยายบัวพากันกอดคอพ่อฟูร้องไห้กันถ้วนหน้าจนป๋าของลูกน้ำตาซึมตามไปด้วยอีกคน (แดดดี๊ไม่ร้องนะ... แดดดี๊เก่ง!) << เหรอครับที่รัก?! (คราบน้ำตาตรงหน้าอกซ้ายป๋าน่ะของแด๊ดนะลูก)








2 มิถุนายน 25XX
พลาย พลุ พลับ ลูกรักของพ่อฟู...

คุณหมอเกรแฮมบอกพวกพ่อว่า เคสของป้าบิวเป็นเคสพิเศษมาก ๆ เพราะพวกลูก ๆ แข็งแรงสมบูรณ์จนน่าตื่นเต้น แถมร่างกายของป้าบิวก็พร้อมรับลูก ๆ ไปดูแลต่ออย่างที่สุด นั่นจึงหมายความว่า ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด อีกสามวันลูก ๆ ก็จะปรับตัวเข้ากับความอุ่นสบายของข้างในท้องป้าบิวได้ และเมื่อนั้น พวกพ่อ ๆ ก็จะเริ่มพอเห็นลู่ทางแล้วล่ะว่า ลูก ๆ พร้อมจะมาอยู่กับพ่อแล้วหรือเปล่า  อย่าทำให้พวกพ่อ ๆ รอเก้อนะครับ พ่ออยากเจอกับพวกลูก ๆ มากจริง ๆ

อยากเจอหน้าลูก ๆ ที่สุด
รัก
พ่อฟู

ป.ล. (ป๊ะป๋า) สรุปว่าวันนี้พ่อฟูร้องไห้หนักหนาสาหัสจริง ๆ ลูกเอ๊ย แต่ก็ไม่แปลกอะไรหรอกลูก (ขนาดป๋าที่รู้ว่าตัวอ่อนของพวกลูก ๆ คือ ตัวอ่อนระยะบลาสต์เกรดดีเยี่ยมที่สุดป๋ายังแอบน้ำตาซึมเลยครับ) แต่ถึงสิ่งที่หมอบอกจะทำให้ป๋าดีใจขนาดไหน แต่ป๋าบอกเลยนะว่า หลังกลับจากโรงพยาบาล แล้วเห็นอาการห่อเหี่ยวของพ่อฟูและแดดดี๊ ป๋าก็ไม่คาดหวังอะไรอีกเลย ไม่แม้กระทั่งหวังเกี่ยวกับเรื่องของพวกลูก ๆ เพราะเวลานี้ ป๋าเป็นห่วงพ่อฟูกับแดดดี๊ที่สุด

ลูก ๆ รู้ไหมว่าพ่อฟูเครียด กังวล และกลัวแทนป้าบิวอยู่ทุกขณะจิตเพราะคุณหมอแนะนำให้ใส่ตัวอ่อนแค่สามตัวก่อน (ทั้ง ๆ ที่พ่อเขาอยากให้คุณหมอใส่ตัวอ่อนมากกว่านั้นล่ะนะ แต่คุณหมอไม่แนะนำ) นั่นเลยทำให้พ่อเขากลัวว่าพวกลูก ๆ จะไม่ยอมมาเกิดจนแดดดี๊พลอยเครียดตามพ่อฟูไปอีกคน

แต่ก็นะ เรื่องแบบนี้ป๋าก็จนปัญญาจะหาทางควบคุม ถ้าลูก ๆ ไม่ยอมมาเกิด ป๋าจะทำอะไรได้... จริงไหม?  เพราะฉะนั้น สิ่งเดียวที่ป๋าพอจะทำได้เพื่อให้ทั้งพ่อฟูและแดดดี๊ไม่เครียดจนป่วยไปเสียก่อน คือ ป๋าจะคอยดูแลพ่อฟูกับแดดดี๊ให้ดีที่สุด ส่วนพวกลูก ๆ  ถ้าลูก ๆ จะเห็นใจป๋าคนนี้  ลูก ๆ ก็ต้องรีบมาเกิดเร็ว ๆ นะครับ คิดเสียว่าทำเพื่อพ่อฟู เพื่อแดดดี๊ของพวกเราได้ไหมลูก?








5 มิถุนายน 25XX

นี่ป๋าเองนะลูก ๆ ป๋าแค่แวะมาบอกว่าวันนี้ป้าบิวลองใช้เครื่องตรวจครรภ์ (มันคือแท่งพลาสติกเล็ก ๆ ที่ใช้ตรวจภาวะการเป็นแม่คนด้วยชิ้งฉ่องน่ะนะลูก ๆ ) แล้วผลออกมาดี (แปลว่าท้องนั่นแหละลูก) แต่แทนที่พ่อฟูกับแดดดี๊จะดีใจ กลายเป็นว่า แฟนพ่อสองคนกลับยิ่งกอดคอกันเครียดไปกันใหญ่ (ขนาดป้าบิวลองตรวจให้ตั้งหลายทีแล้วด้วยนะ)

เฮ่อ! ป๋าไม่น่าปล่อยให้พ่อฟูเที่ยวไล่อ่านกระทู้เกี่ยวกับการทำเด็กหลอดแก้วเยอะเกินไปจริง ๆ ไม่งั้นป่านนี้พ่อฟูกับแดดดี๊คงจะสบายใจ หายห่วงเรื่องลูก ๆ ไปเรียบร้อยแล้ว (สถานการณ์ตอนนี้มันแย่มากลูก... แฟนพ่อสองคนกำลังนั่งสุมหัวแล้วชี้ชวนกันอ่านกระทู้บอกเล่าประสบการณ์น่าผิดหวังหลังทำเด็กหลอดแก้วของพวกแม่ ๆ ทั้งหลาย ผลัดกันถอนหายใจเพราะอ่านเจอว่า สถานะของป้าบิวในตอนนี้ยังไม่ถือว่าพ้นช่วงอันตรายเสียทีเดียว)  

แต่ไม่เป็นไร! พรุ่งนี้ป๋าจะพาพ่อฟูกับแดดดี๊ของพวกลูก ๆ ไปนั่งเครื่องบินเล็กแล้วชมวิวฮาวายให้ทั่ว ๆ เผื่อว่าแฟนป๋าทั้งสองจะลืมเรื่องเครียดได้ชั่วคราว... ลูก ๆ ว่าดีไหมครับ?

เอาใจช่วยป๋าด้วยนะลูก!
รัก
ป๊ะป๋าอาเธอร์








20 มิถุนายน 25XX
พลาย พลุ พลับลูกพ่อ... รู้ไหม เมื่อคืนพ่อฝันอะไร?

พ่อฝันว่าพ่อได้ร้องเพลงกล่อมพวกลูก ๆ เข้านอน แถมพ่อยังได้นั่งดูลูก ๆ นอนหลับตาพริ้ม ละเมอยิ้มหวานให้พ่อด้วยนะ   ถึงความฝันนั่นจะทำให้พ่อดีใจอยู่ลึก ๆ แต่ถ้ามองอีกมุม มันน่าจะบอกได้ว่า พ่อหมกมุ่นกับเรื่องของลูก ๆ มากจนเก็บเอาไปฝันอย่างที่ป๊ะป๋าบอกพ่ออยู่ทุกวันจริง ๆ 

ช่างเถอะ พรุ่งนี้แล้วล่ะที่พวกพ่อ ป้าบิว พวกคุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยายจะได้รู้แล้วว่า ลูก ๆ จะยอมมาอยู่กับพ่อรึเปล่า พ่ออยากให้เราได้เจอกันเร็ว ๆ เหลือเกินลูกรัก เพราะไม่มีความทรมานหนไหน หนักหนายิ่งไปกว่าการที่พ่อคนหนึ่งอยากเห็นหน้าเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองอีกแล้ว

รักพวกลูก ๆ เหลือเกิน
พ่อฟู

ป.ล. (ป๊ะป๋า) Keeping my fingers crossed! God bless us! Kim & Dylan… I love you both.
ป.ล. (แดดดี๊) ปภพ ผู้นำ, ปพน บริสุทธิ์,  ปวร ผู้ประเสิรฐ... นั่นคือชื่อของพวกลูก ๆ ที่แด๊ดตั้งใจตั้งให้นะครับ รีบมาเกิดเร็ว ๆ นะลูกแด๊ดขอล่ะ


«»------------------------------------------------------------------------------------«»


“เจ้าพ่อ?!” ในเมื่อการนอนหลับโดยไม่ฝันคือปกติวิสัยของนิทรารมย์ที่ร่างทรงหนุ่มคุ้นเคย การเห็นเทวบุตรสุดชิคปรากฏกายขึ้นในโลกแห่งความฝันจึงทำให้เขาเผลออุทานเสียงดังจนผู้มาเยือนยามวิกาลชักสีหน้า  

“บ๊ะ! อย่าบอกนะว่าสายตาเจ้าฝ้าฟางพังภินท์สิ้นเสียแล้ว!

“เปล่าครับเจ้าพ่อ ผมแค่ร้องเพราะตกใจเฉย ๆ ” ฌานยิ้มเขิน ๆ ก่อนอธิบายด้วยการระลึกความจำของอีกฝ่ายไปพร้อม ๆ กัน “คือผมไม่ได้ติดต่อกับเทพองค์ไหน ๆ อีกเลย ตั้งแต่ถอนขันธ์... ถ้าเจ้าพ่อยังจำได้” (ถอนขันธ์ : ยุติการเป็นร่างทรง)

“ก็ถ้าไม่ใช่ข้าแล้วยังจะมีบุตรแห่งองค์มหาเทพระดับสูงตนไหนมาโปรดเจ้าด้วยการเข้าฝันแบบตัวต่อตัวอีกล่ะ... ฮึ! เจ้าร่างทรง?” เจ้าพ่อไทรทองกอดอกรอฟังคำตอบของชายหนุ่ม

“ก็เจ้าพ่อห่อไหล่ยังไงล่ะครับ”

“สำหรับเบ๊บข้าไม่นับ!” ทันทีที่ได้ยินชื่อของโฮลี่ฮิปสเตอร์ผู้เป็นเจ้าของหัวใจ เจ้าพ่อไทรทองก็เลิกคิ้วทำหน้าเจ้าเล่ห์พลางโอ่ด้วยน้ำเสียงภูมิใจจนปิดไม่มิด “เพราะแม้กายละเอียดของเบ๊บกับข้าจะแตกต่าง หากแต่พวกข้ากลับผูกจิตภักดิ์หลอมรวมใจเป็นหนึ่ง”

“เข้าเรื่องเถอะครับเจ้าพ่อ ผมไหว้ล่ะ” พอเห็นฌานทำอย่างปากว่า บุตรแห่งมหาเทพก็อดจิปากด้วยความหมั่นไส้ไม่ได้

แต่ก็นั่นแหละ... อย่างไรเสีย เจ้าพ่อไทรทองก็ต้องเป็นฝ่ายเปิดปากบอกจุดประสงค์ของการเข้าฝันในท้ายที่สุดอยู่ดี  “เออ ๆ ! คืออย่างนี้ เหตุที่ข้ามานี่ ก็เพื่อมาส่งสารสองประการแก่เจ้าและพรรคพวก” เทวบุตรสุดชิคจงใจหยุดพักเพื่อให้คนฟังจับประเด็นหลักได้ “เรื่องแรก... วาระที่เจ้ากุมารต้องจากลาเทวภูมิไปจุติยังโลกมนุษย์มาถึงแล้ว เจ้าคงรู้แล้วนะว่ามีการอันใดที่เจ้าต้องตระเตรียมบ้าง?”

“ครับเจ้าพ่อ” ฌานพยักหน้ารับพลางสั่งจิตให้จดจำเรื่องการจัดหากุมารตนใหม่มาให้น้องชายบูชาโดยเร็วที่สุด

“ไม่กี่เพลาก่อนหน้า เจ้ากุมารมาขอขมาและกล่าวคำอำลากับข้าและเบ๊บถึงตำหนัก มันฝากข้ามาบอกขอบใจเจ้าและน้องชายที่บำรุงดูแลมันเป็นอย่างดี” เจ้าพ่อไทรทองให้รายละเอียดเพิ่มเติม

“...” ความกะทันหันของสถานการณ์ระคนกับความรู้สึกยินดีที่รู้ว่าคนที่ตนเฝ้ารอกำลังเคลื่อนไหวทำให้ฌานเอาแต่ครุ่นคิด... ถ้าให้ดี พรุ่งนี้เขาควรสไกป์ส่งข่าวบอกฌอนและอคิราทันทีที่รู้สึกตัวตื่น

“ส่วนอีกเรื่องที่ข้าต้องบอกเป็นการพิเศษ คือ ของเซ่นไหว้ของเจ้ากรกฏและเจ้าบ๊วย ถูกใจเบ๊บเป็นอย่างยิ่ง ฝากขอบใจเจ้าบ๊วยด้วยนะที่ยังระลึกถึงพวกข้าอยู่เสมอ”

สีหน้ากรุ้มกริ่มของเจ้าพ่อไทรทองทำให้แฝดพี่นึกเอะใจ หากแต่เจ้าตัวกำลังวุ่นวายใจกับข่าวแรกที่ได้รับฟัง ร่างทรงหนุ่มจึงตอบรับอย่างสุภาพโดยไม่ทักถามใด ๆ เพิ่มเติม “แล้วผมจะบอกบ๊วยให้นะครับเจ้าพ่อ”

“ขอบใจเจ้ามากนะ ไม่เสียแรงที่ข้าไว้ใจเจ้าจริง ๆ ”

“ไม่เป็นไรครับเจ้าพ่อ เอ่อ...เจ้าพ่...”
“แต่พูดก็พูดเถอะนะ... ของถวายที่ทำให้อิ่มทั้งจิตทั้งกายละเอียดนี่หาไม่ได้บ่อย ๆ เลยเนอะ ยิ่งที่ถูกใจเบ๊บมาก ๆ ด้วยแล้ว เฮ่อ! จังหวะที่หนุ่มสถาปัตย์กำลังจะอ้าปากซักไซ้บุตรแห่งเทพด้วยประเด็นกวนใจ อีกฝ่ายกลับโพล่งสวนขึ้นลอย ๆ ทันควัน

ท่าทางเหมือนพลั้งปากชมแบบไม่หวัง หากแต่มองปราดเดียวก็รู้ว่าตั้งความหวังเอาไว้หนักมากขององค์เทวบุตรทำให้แฝดคนโตเข้าใจความต้องการเบื้องลึกของอีกฝ่ายได้อย่างจะแจ้ง “เดี๋ยวผมจะบอกบ๊วยให้หมั่นถวายเครื่องคาวหวานให้เจ้าพ่อเองครับ”

“บอกเจ้าบ๊วยนะว่า ไม่ต้องมาตั้งสำรับถึงตำหนักข้าก็ได้ แค่จุดธูปสองดอกแล้วตั้งจิตระลึกถึงพวกข้าก่อนถวายข้าวปลาอาหาร เท่านั้นก็พอแล้ว” เจ้าพ่อไทรทองแนะทางลัดในการเซ่นไหว้ตนและเจ้าพ่อห่อไหล่ด้วยน้ำเสียงร่าเริงสดใส... ในเมื่ออีกฝ่ายเสนอด้วยสิเน่หา เทวดาหนุ่มก็ไม่ต้องเสี่ยงกับการเสียแต้มบุญด้วยข้อหาล็อบบี้ของถวายโดยเจตนาแต่อย่างใด

“ครับเจ้าพ่อ” 

“ดีมาก! งั้นข้าไปล่ะ!” เมื่อได้ดั่งใจ เจ้าพ่อไทรทองก็ตั้งท่าจะหายตัวไปทันที ทว่าแฝดพี่กลับรั้งเทวบุตรหนุ่มไว้เสียก่อน  

“เดี๋ยวครับเจ้าพ่อ! พ่อพลายคุยกับเจ้าพ่อแค่นี้เองเหรอครับ? พ่อพลายไม่ได้ฝากอะไรถึงผมเป็นพิเศษจริง ๆ หรือครับเจ้าพ่อ?”

สีหน้าว้าวุ่นใจของร่างทรงหนุ่มทำให้เจ้าพ่อสายบู๊ใคร่ครวญครู่หนึ่งก่อนเฉลยไข “อ้อ! ข้านึกออกล่ะ... เจ้าพลายฝากบอกเจ้าว่า อย่าลืมว่า คนที่ต้องอดทน หาใช่เจ้าแต่เพียงผู้เดียว... ข้าไปนะ! เบ๊บจ๋าาาา บันยันมาแล้ว!!!” ขาดคำ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งย่านปทุมวันก็หายตัวไปกลับกลุ่มควันสีรุ้งที่พวยพุ่งขึ้นมาจากพื้น ปล่อยให้เจ้าของความฝันยืนพึมพำปลอบใจตัวเองเบา ๆ

“เหลืออีกแค่หกปีฌาน... แค่หกปี”


«»------------------------------------------------------------------------------------«»


“ยินดีด้วยนะครับ คุณบิวท้องแล้ว” คุณหมอผู้ควบตำแหน่งเจ้าของศูนย์ส่งเสริมผู้มีบุตรยากชื่อดังของเมืองหลวงประจำรัฐฮาวายเอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเมื่อเห็นภาพบนหน้าจอทัชสกรีนข้างโต๊ะทำงาน

คำยืนยันจากปากหมอทำให้ว่าที่คุณพ่อทั้งสามลุกลี้ลุกลนด้วยความตื่นเต้น “จริงเหรอครับหมอ?!

“ครับ... เห็นตรงนี้... แล้วก็ตรงนี้ไหมครับ? นี่คือถุงตั้งครรภ์” ทุกครั้งที่มีการระบุพิกัด หมอเกรแฮมผู้มีรูปพรรณสัณฐานคล้ายกับผู้พันต้นตำรับไก่ทอดชื่อดังก็จะเลื่อนปลายนิ้วไปชี้ยังจุดสีดำเข้มทรงรีบนหน้าจอประกอบมิได้ขาด

โดยมากแล้ว ตรินจะรับหน้าที่ซักถามหมออย่างละเอียดเพื่อป้องกันความเข้าใจคลาดเคลื่อนเนื่องจากข้อจำกัดทางภาษา และเพื่อความสบายใจของคนรักร่างเล็ก ครั้งนี้ก็ไม่มีข้อยกเว้น  ทว่าความผิดปกติเดียวเห็นจะเป็น การที่เขาไม่อาจสะกดกลั้นกระแสเสียงแห่งความยินดีเอาไว้ได้อีกต่อไป “ทั้งหมดนั่นคือถุงตั้งครรภ์เหรอครับหมอ?!!

“ใช่แล้วครับ” ท่าทางดีใจของว่าที่คุณพ่อร่างหมีทำเอาคุณหมอผู้พันยิ้มแป้น
แปลว่า?!” เจ้าของเสียงหน้าคมยิงคำถามสวนขึ้นทันควัน... ไม่ใช่แค่เต๋อหรอกที่เริ่มตื่นเต้นจนนั่งไม่ติด

“ถ้าเราดูผลตรวจเลือดประกอบกับภาพที่เห็นบนหน้าจอ ฮอร์โมนเอชซีจีที่สูงกว่าการตั้งครรภ์ตามปกติก็บ่งบอกอยู่แล้วว่า พวกคุณมีแนวโน้มที่จะได้ลูกแฝดสูงมาก ๆ ครับ” คุณหมอว่าพลางแตะสลับดึงผลตรวจเลือดล่าสุดของพี่สาวบ๊วยขึ้นมาประกอบคำอธิบาย

“แฝดแน่ ๆ นะครับหมอ?! แล้วที่หมอบอกว่าพี่สาวผมท้องแฝด สรุปว่าแฝดกี่คนเหรอครับ?! สอง หรือสาม?!” ถ้อยแถลงของหมดเกรแฮมทำให้กังฟูไม่อาจนิ่งนอนใจได้อีกต่อไป... คำเดียวที่เขาอยากได้ยินจากปากหมอ ต้องเป็น triplets เท่านั้น! (triplets : แฝดสาม)

คุณหมอนิ่งพิเคราะห์ภาพบนหน้าจออยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงตอบอย่างไม่ขายฝัน “เท่าที่เห็นตอนนี้ หมอบอกได้ว่าน่าจะเป็นแฝดสองนะครับเพราะมีถุงตั้งครรภ์สองใบ”

“หืม? แปลว่าอะไรครับหมอ?! ผมจะไม่ได้ลูกแฝดสามงั้นเหรอ?” วิญญูต้องออกแรงรั้งบ่าคนรักตัวเล็กเอาไว้เพื่อห้ามไม่ให้อริยะตรัยคนโตยื่นหน้าไปคุกคามคุณหมอซึ่งนั่งให้คำปรึกษาอยู่อีกฟาก

“คุณคิมครับ ก่อนหมอจะอธิบาย หมออยากให้คุณใจเย็น ๆ แล้วฟังหมอนะครับ” หมอเกรแฮมกระแอมเบา ๆ พลางสบตาพี่ชายอดีตเดือนมหาลัยด้วยสีหน้าจริงจังพลางเอ่ยอย่างช้า ๆ ทว่าชัดถ้อยชัดคำ “แม้ผลอัลตราซาวด์จะเชื่อถือได้เกือบร้อยเปอร์เซนต์ แต่จุดประสงค์หลักของการอัลตราซาวด์ขณะที่อายุครรภ์ยังน้อย ก็เพื่อยืนยันการตั้งครรภ์พร้อมกับชี้ชัดอายุครรภ์ ซึ่งนั่นจะช่วยให้หมอคำนวณช่วงเวลาเหมาะสมสำหรับการทำคลอดได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ ยังเป็นการเช็กให้แน่ใจว่า ภาวะการตั้งครรภ์นั้น ๆ ปราศจากพยาธิสภาพใด ๆ ที่อาจเป็นผลร้ายต่อทั้งมารดาและเด็ก”

“อยากให้เต๋อแปลให้ฟังใหม่ไหมครับ” เต๋อกระซิบถามคนรักทั้งสองเป็นภาษาไทยเผื่อจะมีใครต้องการให้เขาแปลเนื้อความให้อีกรอบ กระนั้น ทั้งด้วงและกังฟูต่างส่ายหน้า “เชิญต่อเลยครับหมอ” ตรินเอ่ยกับชายร่างท้วมในชุดกาวน์ก่อนที่ทั้งหมดจะหันกลับมารอฟังคุณหมอผู้พันด้วยความตั้งใจอีกครั้ง

“อันที่จริง หากจะมองว่าการอัลตราซาวด์รอบนี้เป็นการตรวจสอบเพื่อความปลอดภัยของมารดามากกว่าตัวอ่อนก็คงไม่ผิด ส่วนเรื่องพัฒนาการและจำนวนตัวอ่อนที่สมบูรณ์  ถ้าเป็นไปได้ อย่างน้อย ๆ อีกสักสองอาทิตย์ หมออยากให้คุณบิวแวะเข้ามาอัลตราซาวด์อีกครั้งเพื่อที่หมอจะได้ไขข้อข้องใจของคุณให้กระจ่างได้มากขึ้น”

“...” ยิ่งฟังคำหมอ หัวใจที่เคยพองโตของกรกฏก็ยิ่งฝ่อลงเรื่อย ๆ ความผิดหวังเมื่อรู้ว่าอาจจะไม่ได้ลูกแฝดสามทำให้กังฟูวุ่นวายใจจนหลุดเข้าไปในภวังค์โดยสมบูรณ์เสียแล้ว ฝ่ายหนุ่มหน้าหยกที่จับสังเกตอาการของอริยะตรัยคนพี่ได้ก่อนใครเพื่อนก็เริ่มจะเป็นห่วงคนรักร่างเล็กจนดูหลุกหลิก

“ไม่น่าจะได้นะครับหมอ เพราะผมกับครอบครัวจะบินกลับเมืองไทยกันอาทิตย์หน้าแล้วล่ะครับคุณหมอ”  อดีตเด็กสถาปัตย์ขมวดคิ้วนิ่วหน้าพลางบอกปัดข้อเสนอของหมอ... แม้จะดีใจกับการตั้งท้องของบิว แต่ออร่าที่แผ่ออกมาจากคนนั่งข้าง ๆ ใกล้จะทำให้เขาหม่นหมองตามไปอีกคน

“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นไรครับ เอาเป็นว่า... เมื่อกลับถึงเมืองไทยแล้ว คุณควรพาพี่สาวไปฝากครรภ์ทันทีพร้อมกับปรึกษาหมอที่นั่นเพื่ออัลตราซาวด์ให้แน่ใจพร้อมกับรับคำแนะนำต่อไปแล้วกันครับ” เกรแฮมเอ่ยสบาย ๆ อย่างเข้าอกเข้าใจ เพราะก่อนเริ่มขั้นตอนทั้งหมด เขารับทราบเงื่อนไขโดยละเอียดจากชายหนุ่มทั้งสามเป็นอย่างดี โดยที่หลังจากนี้ ทางศูนย์ฯ ของเขาจะช่วยจัดเตรียมข้อมูลจำเป็นต่อการฝากครรภ์ พร้อมทั้งออกเอกสารชี้แจงรายละเอียดทั้งหมดแล้วส่งมอบต่อให้บรรดาพ่อ ๆ นำไปใช้ยื่นอ้างอิงประกอบการฝากท้องแบบที่ไม่ต้องกังวลกันทั้งสองฝ่าย  

“นอกจากเรื่องแฝดแล้ว ยังมีเรื่องอื่นที่พวกเราต้องกังวลอีกหรือเปล่าครับ?” ตรินอยากแน่ใจว่าปัญหาใหญ่มีเพียงแค่จำนวนของแฝดในท้องของบิวเท่านั้น  

“ไม่ครับ ผลอัลตราซาวด์ยืนยันแล้วว่าเป็นการตั้งครรภ์ที่สมบูรณ์ ไม่มีการท้องนอกมดลูกแต่อย่างใด หมอดีใจด้วยนะครับ”

เมื่อเห็นคุณหมอเลื่อนหน้าจอปิดพร้อมกับพูดจาคล้ายส่งแขก กังฟูก็อดถามแทรกขึ้นไม่ได้ “หมอแน่ใจนะครับว่าพี่ผมท้องแน่ ๆ ? ลูก ๆ ผมจะปลอดภัยใช่ไหม? การเดินทางไกล ๆ จะเป็นอันตรายกับลูก ๆ ในท้องพี่ผมหรือเปล่าครับหมอ?”

ท่าทางตื่นตูมแบบกะทันหันของชายหนุ่มร่างเล็กทำให้คุณหมอผู้พันนึกถึงตัวการ์ตูนชิพมังค์ขึ้นมาถนัดใจ ผู้สูงวัยกว่าจึงช่วยคลายข้อกังวลใจให้อีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงเอ็นดู “หมอมั่นใจล้านเปอร์เซนต์ครับว่าเธอท้องแน่ ๆ ส่วนเรื่องความปลอดภัย จริงอยู่ที่ครรภ์แฝดถือเป็นความผิดปกติที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงสูงต่อทั้งแม่และเด็กมากกว่าการตั้งครรภ์ตามปกติ...
.
...แต่คนเป็นแม่ ไม่ใช่คนเป็นโรค...
...เพราะฉะนั้นผู้หญิงท้องอ่อนสามารถเดินทางได้ไปไหนมาไหนได้ไม่ต่างจากคนทั่ว ๆ ไป แค่ต้องคอยระวังไม่ให้ร่างกายถูกกระทบกระเทือนรุนแรงจนเกินไป จำพวกการกระโดดแบบกระแทกน้ำหนักอะไรทำนองนั้น หมอขอให้ระงับไว้ก่อน...
.
...อย่างไรก็ดี หมอเชื่อว่า คุณแม่ที่เคยมีประสบการณ์อุ้มท้องมาก่อนอย่างคุณบิวน่าจะรู้วิธีที่จะดูแลตัวเองเป็นอย่างดีอยู่แล้วนะครับ ยิ่งโดยปกติเธอเป็นคนสุขภาพแข็งแรงและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หมอยิ่งมองว่าไม่น่าเป็นห่วงเลยล่ะครับ”

“แต่หม...”
“ฮื่อคิม...  ผมว่าแทนที่คิมจะห่วงเรื่องที่ยังมาไม่ถึง ทำไมเราไม่ฉลองที่ข้างในท้องของพี่บิวมีลูก ๆ ของเราดีกว่าไหมครับ?” เต๋อจำเป็นต้องขัดเพราะไม่อยากให้คนรักคิดมากจนวิตกกังวลหนักข้อขึ้นกว่านี้  

“นั่นสิคิม นี่เรากำลังจะมีลูกด้วยกันแล้วนะ! ความฝันของคิมเป็นจริงแล้วนะครับ... คิมจะไม่ดีใจหน่อยเหรอ?” แม้จะยังเป็นห่วงกรกฏไม่หาย แต่วิญญูก็ทำหน้าที่กองหนุนได้อย่างไม่มีที่ติเช่นเคย  

“เรื่องการเดินทาง คิมไม่ต้องเป็นห่วงพี่บิวหรอกนะ ผมน่าจะขอให้สายการบินช่วยเหลือเราได้ตลอดการเดินทางอยู่แล้ว... รับรองเลยว่า ขากลับเมืองไทย ผมจะไม่ปล่อยให้เท้าพี่บิวแตะพื้นเลย... ถ้าไม่จำเป็น” สีหน้ายุ่งยากใจและสายตาขุ่น ๆ ของพี่ชายอดีตเดือนมหาลัยทำให้เต๋อต้องใช้มาตรการเปย์ขั้นเด็ดขาด “ว่าไงที่รัก... ทีนี้สบายใจขึ้นบ้างหรือยังครับ?”  

แค่ได้รับฟังคำพูดยืนยันอย่างหนักแน่นกับรอยยิ้มอันอบอุ่นของหนุ่มร่างหมี ความรู้สึกยุ่งเหยิงที่ตีกันอยู่ภายในใจของอริยะตรัยคนพี่ก็ลดลงไปกว่าครึ่ง... ทว่าวูบหนึ่งที่ได้หยุดคิดมุมกลับ วาจาหว่านล้อมอันแสนหวานดังกล่าว ไม่ต่างจากเสียงปลุกให้ตื่นจากความฝัน ก่อนจะตระหนักว่า ถึงเวลาที่เขาต้องยอมรับความจริงตรงหน้าอย่างเสียไม่ได้


“ก็...อืม สบายใจก็ได้!” กังฟูยอมรับเสียงอ่อยพลางปาดน้ำตาที่เอ่อคลอหน่วย

“เชื่อหมอนะครับว่าทุกอย่างจะราบรื่น เพราะคุณบิวสุขภาพแข็งแรงดีมาก แถมตัวอ่อนยังอยู่ในภาวะที่พร้อมที่สุดอีกด้วย แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ สำหรับเคสสุดพิเศษอย่างพวกคุณ ๆ หมอกับเจ้าหน้าที่ทุก ๆ คนที่นี่ จะช่วยภาวนาให้พวกคุณได้ในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการเป็นกรณีพิเศษเลยครับ” หมอเกรแฮมทิ้งท้ายเสียน่าฟังจนสามหนุ่มรู้สึกซาบซึ้งจับใจ ก่อนที่หนุ่มร่างหมีจะปิดบทสนทนาเป็นรายสุดท้าย จากนั้นทั้งหมดจึงเอ่ยคำอำลาอย่างเป็นทางการ

“ขอบคุณครับหมอ... ผมขอบคุณหมอมากจริง ๆ ครับ!


«»------------------------------------------------------------------------------------«»


1 สิงหาคม 25XX (9 สัปดาห์)

นี่ป๋าเองนะลูก... พวกลูก ๆ ไม่ต้องแปลกใจไปนะครับ ที่อยู่ ๆ พวกพ่อ ๆ หายหน้าไป เดี๋ยวป๋าจะเล่าให้พวกลูก ๆ ฟังเองว่าระหว่างนี้ เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง แล้วทำไมพวกเราถึงต้องเว้นระยะห่างจากพวกลูก ๆ (อย่างไม่ตั้งใจ) 

หลังกลับจากอเมริกา พอพวกพ่อ ๆ ก็พาป้าบิวไปฝากครรภ์กับอาหมอเก่งที่คุณปู่แนะนำทันที แต่ดูเหมือนวันนั้นจะเป็นวันที่พวกพ่อ ๆ โชคไม่ดีสักเท่าไร เพราะผลอัลตราซาวด์รอบที่ป๋าพาป้าบิวไปฝากครรภ์ดันออกมาเหมือนกันกับรอบแรกที่คุณหมอเกรแฮมซาวด์ให้เป๊ะ ๆ (ทั้งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้) แต่ถึงพวกพ่อ ๆ จะอยากให้อาหมอเก่งอัลตราซาวด์ตรวจดูข้างในท้องป้าบิวอีกสักแค่ไหน แต่พวกพ่อ ๆ ก็ไม่มีหน้าออกปากรั้งป้าบิวให้อยู่กรุงเทพฯ ได้อีกแล้ว เพราะพวกพ่อ ๆ รู้ดีว่า ลุงเติ้ล พี่บิวตี้ พี่โบเต้เองก็ต้องการป้าบิวมากไม่แพ้กัน

ความที่พ่อฟูเข้าใจไปแล้วว่า พ่อจะได้เจอพวกลูก ๆ แค่สองคนทั้ง ๆ ที่ใจพ่อฟูอยากเจอหน้าทั้งพลาย พลุ และพลับพร้อม ๆ กัน  พ่อฟูเลยจิตตกเสียจนจนหมดเรี่ยวหมดแรง ไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง วัน ๆ พ่อฟูก็เอาแต่นั่งเหม่อไม่พูดไม่จากับใคร หรือถ้ายอมพูดก็มักจะเผลอร้องไห้ จนป๋ากับแด๊ดกินไม่ได้นอนไม่หลับไปตาม ๆ กัน  

ป๋าทนดูแฟนตัวเองเสียใจอยู่ได้ไม่ถึงสองวันหรอกลูก เพราะที่สุดแล้ว ป๋าเลยตัดสินใจเก็บกระเป๋าแล้วพาพ่อฟูกับแด๊ดไปเที่ยวพักผ่อนจนชุ่มปอดเพื่อให้ลืมความผิดหวังเรื่องลูก ก่อนจะว่ากันใหม่ในวันพรุ่งนี้ที่ป้าบิวจะลงมากรุงเทพฯ ตามนัดตรวจครรภ์รอบที่สองของอาหมอเก่ง

ป๋าหวังว่า การที่ป้าบิวได้พักฟื้นร่างกาย ได้เว้นว่างจากการเจอหน้าหมอกับพวกพ่อ ๆ สักสามสี่อาทิตย์ แถมยังได้ใช้ชีวิตตามปกติอยู่ที่ปากช่องกับครอบครัวจะทำให้ป้าบิวเครียดน้อยลงกว่าตอนอยู่อเมริกาไม่มากก็น้อย ไม่แน่นะ พรุ่งนี้อาจมีเรื่องปาฏิหารย์ที่ทำให้พ่อฟูของป๋ากับแด๊ดกลับมายิ้มสวย ๆ ให้ป๋าเคลิ้มได้อีกครั้งก็ได้ ใครจะรู้

แต่ที่แน่ ๆ พรุ่งนี้อย่าลืมเอาใจช่วยพวกพ่อ ๆ ด้วยนะครับลูกรักของป๋า
รักพวกลูก ๆ มาก
ป๊ะป๋าอาเธอร์








29 สิงหาคม 25XX (13 สัปดาห์)
พลาย พลุ พลับลูกพ่อ...ในที่สุดพวกลูก ๆ ก็ยอมมาเป็นลูกพ่อแล้ว!

โอ๊ยลูกจ๋า ลูก ๆ รู้ไหมว่าพ่อร้องไห้โฮเลยนะตอนที่อาหมออัลตราซาวด์หน้าท้องของป้าบิวแล้วพวกลูก ๆ ทั้งสามนอนเบียดกันอยู่ในนั้น อาหมอบอกพ่อว่า สองในสามเป็นแฝดจากไข่ใบเดียวกัน นั่นเลยเป็นเหตุผลที่อธิบายว่าทำไมตอนอัลตราซาวด์รอบก่อนถึงเจอถุงตั้งครรภ์แค่สองใบ เฮ่อ! โล่งอกไปที พ่อนึกว่าชาตินี้พ่อจะไม่ได้เจอหน้าลูก ๆ ทั้งสามเหมือนที่อากงกับอาม่ามาเข้าฝันบอกพ่อเมื่อหลายปีก่อนเสียแล้ว!

พ่อรักลูก ๆ มากนะครับ!
พ่อฟู

ป.ล. ไม่อยากจะบอกเลยว่าเสียงหัวใจของพวกลูก ๆ ที่เต้นดังตุบ ๆ ตุบ ๆ ตุบ ๆ ทำพ่อบ่อน้ำตาแตกซ้ำอีกรอบ ทั้ง ๆ ที่ปกติพ่อไม่ใช่พวกขี้แยแท้ ๆ  แต่พ่อให้สัญญากับลูก ๆ ตรงนี้เลยนะครับว่า ต่อจากนี้ไป พ่อจะไม่ร้องไห้และไม่ทำตัวให้ป๊ะป๋ากับแดดดี๊ต้องเป็นห่วงอีกแล้ว! พ่อขอไปหาอะไรเปรี้ยว ๆ กินก่อนนะลูก... พักเขียนไดอารี่แป๊บเดียวก็ดันอยากกินขึ้นมาอีกแล้ว!

ป.ล. (ป๊ะป๋า) ถ้าให้ป๋าบรรยายความรู้สึกหลังจากป้าบิวลงมาตรวจร่างกายวันนี้ ป๋าว่าป๋าดีใจที่รู้ว่าพวกลูก ๆ แข็งแรงและปกติมากกว่ารู้ว่าพวกหนูมาเกิดในท้องป้าบิวสามคนเสียอีก

อย่าเพิ่งเข้าใจป๋าผิดนะลูกว่าป๋าไม่รักพวกลูก ๆ น่ะ แต่ที่ป๋าเขียนแบบนี้ ก็เพราะต่อให้พ่อฟูจะอยากมีลูกอีกสักกี่คนก็ตาม สิ่งแรกที่ป๋าจะหวังให้เกิดไปเสียทุกครั้ง คือ การที่ป้า ๆ ของพวกลูก ๆ มีสุขภาพแข็งแรง ปลอดภัย  พร้อม ๆ กับภาวนาให้พวกลูก ๆ ทุกคน มีร่างกายสมบูรณ์และครบถ้วนทุกส่วนโดยไม่มีอวัยวะไหนขาดหรือเกิน

นี่ป๋าก็ว่าจะคุยกับลุงเติ้ลป้าบิวดูอีกรอบ เผื่อว่าครอบครัวลุงจะยอมย้ายลงมาดูร้านที่กรุงเทพฯ ชั่วคราว รอบล่าสุดที่เห็นป้าบิว บอกตรง ๆ ว่าป๋าไม่สบายใจเลย ยิ่งพอรู้ว่าป้าบิวต้องนั่งรถไป กลับนานหลายชั่วโมง ป๋าก็ยิ่งนิ่งเฉยไม่ได้ (ลูก ๆ รู้ไหม ตอนนี้ท้องป้าบิวที่พวกลูก ๆ นอนเล่นอยู่ข้างในน่ะใหญ่เหมือนป้าบิวใส่ลูกแตงโมยักษ์ไว้ใต้เสื้อแล้วนะครับ... เห็นแล้วก็อดสงสารป้าบิวไม่ได้  กลับถึงบ้านไป... ป๋าเดาว่าป้าคงจะเมื่อยเนื้อตัวมากทีเดียว)

แต่วันนี้ป๋าขอจบการรายงานเพียงเท่านี้นะลูก ๆ ป๋าต้องออกไปตามล่าหาของเปรี้ยวให้พ่อฟูก่อน! รักลูก ๆ นะครับ!

ป.ล. (แดดดี๊) แด๊ดเคยคิดนะลูกว่าตอนพ่อฟูยิ้มน่ะน่ามองที่สุด แต่แด๊ดก็เพิ่งรู้วันนี้นี่แหละว่า ตอนพ่อฟูยิ้มทั้งน้ำตาเมื่อเห็นภาพอัลตราซาวด์ของพวกลูก ๆ เป็นครั้งแรก นั่นคือรอยยิ้มที่สว่างไสว สวยงาม และน่าประทับใจที่สุดเท่าที่พ่อฟูเคยยิ้มให้แด๊ดดูใกล้ ๆ  แด๊ดว่าแด๊ดตกหลุมรักพ่อฟูของพวกลูก ๆ อีกครั้งเสียแล้วล่ะครับ! << ตอนนั้นมองเห็นด้วยเหรอที่รัก? ได้ข่าวว่าด้วงกอดคอฟูแล้วหลับหูหลับตาร้องไห้อยู่ไม่ใช่เหรอ? หืม? << เต๋อ! เดี๋ยวเถอะนะ!  








26 กันยายน 25XX (17 สัปดาห์)
พลาย พลุ พลับลูกพ่อ...

วันนี้ป้าบิวไปพบอาหมอเก่งอีกรอบ สุขภาพโดยรวมของทั้งป้าบิวและพวกลูก ๆ ดีมาก ดีจนอาหมอยังแปลกใจว่าป้าบิวท้องชิลเหมือนมีเด็กอยู่ในท้องแค่คนเดียว (ป้าบิวไม่แพ้ท้องเลยลูก แถมไม่มีอาการน่าเป็นห่วงต่าง ๆ ของคุณแม่ท้องแฝดสามอีกต่างหาก สุดยอดไปเลย!) แต่นั่นไม่ใช่เรื่องน่ายินดีเรื่องเดียวของวันนี้หรอกนะ

พวกลูก ๆ  รู้ไหมว่า ในที่สุดป้าบิว ลุงเติ้ลกับพี่บิวพี่โบก็ยอมย้ายลงมาอยู่กับคุณปู่คุณย่าที่กรุงเทพฯ แล้วนะครับ (หลังจากพวกพ่อ ๆ ไปตามตื๊อคุณตาคุณยายอยู่นานสองนานเพราะคุณตาเป็นห่วงพี่บิวตี้ ท่านกลัวว่าเปลี่ยนเนอสเซอรี่กะทันหันแล้วพี่บิวจะมีปัญหา งานนี้ป๊ะป๋าเลยออกโรงขับรถพาคุณตาลงมาดูเนอสเซอรี่ทางนี้ด้วยตัวเองเลยนะ คุณตาถึงยอมปล่อยให้ลุงเติ้ลกับป้าบิวลงมาคุมร้านที่กรุงเทพฯ แทนเจ็กกับอาบ๊วยได้) ทีนี้ล่ะ พ่อก็จะได้ดูแลป้าบิวและลูก ๆ อย่างเต็มที่เสียที พวกเราจะได้อยู่ใกล้ ๆ กันทุก ๆ วันแล้วน้า!  

พรุ่งนี้เจอกันใหม่นะครับ พ่อรักลูก ๆ นะ!
พ่อฟู

ป.ล. (แดดดี๊) วันนี้แด๊ดกับพ่อฟูรับหน้าที่พาป้าบิวไปตรวรครรภ์ครับเด็ก ๆ แด๊ดขอชมพวกลูก ๆ จากใจจริงเลยครับที่ลูก ๆ ทำตัวดีกับป้าบิวมาก ๆ โตไว ๆ นะลูก พ่อฟูเขาอยากกอดลูกจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว (แด๊ดก็เหมือนกันนะครับ รักลูก ๆ นะ)

ป.ล. (ป๊ะป๋า) ป๋าขอโทษนะลูกที่วันนี้ป๋าไม่ได้ไปโรงพยาบาลเป็นเพื่อนพ่อ แด๊ด แล้วก็ป้าบิว ป๋าติดประชุมงานกับลูกค้าน่ะครับ (พอได้ยินจากพ่อฟูว่าผลตรวจออกมาเรียบร้อยดี ป๋าก็เบาใจแล้วล่ะ)

เอาเข้าจริง การที่พวกป้าบิวลุงเติ้ลและพวกพี่ ๆ ยอมย้ายมาอยู่บ้านป๋ากลับกลายเป็นความคิดที่ไม่ดีสักเท่าไร เพราะพอป้าบิวย้ายมา พ่อฟูดูจะให้เวลาป๋ากับแด๊ดน้อยลงเยอะมาก! (ที่บอกว่าน้อยมากนี่ป๋าไม่ได้เว่อร์เลยนะลูก เพราะถ้าหลังเลิกงาน ป๋าหรือแด๊ดไม่แวะไปรอรับพ่อฟูที่เรือนหลังใหญ่ของคุณปู่ พ่อฟูก็คงไม่กลับมานอนกับป๋าและแด๊ดที่คอนโดหรอก!)  

นี่ก็ร่ำ ๆ ว่าจะเก็บข้าวของออกจากคอนโดแล้วย้ายไปอยู่ที่บ้านคุณปู่จนกว่าป้าบิวจะคลอดอีก  โอย! ป๋าล่ะปวดใจ! สงสัยป๋าต้องรีบนัดผู้รับเหมาเข้ามาคุยเรื่องบ้านของเราให้เร็วที่สุดเสียแล้วล่ะ เกิดบ้านเราเสร็จไม่ทันพวกลูก ๆ คลอด ป๋าล่ะไม่อยากจะนึกเลยว่า พ่อฟูจะเหลือเวลาให้ป๋ากับแด๊ดแค่ไหน (ป๋าไม่ได้หวงพ่อฟูกับลูก ๆ นะครับ แต่ไหนจะคุณปู่คุณย่า ไหนจะคนโน้นคนนี้อีกล่ะ... แค่คิดป๋าก็ไม่ไหวแล้วลูกเอ๊ย เฮ่อ!)








13 กุมภาพันธ์ 25XX (37 สัปดาห์ 1วัน)
พลาย พลุ พลับลูกพ่อ...

จนกระทั่งวันนี้ อาหมอยังพูดไม่หยุดเลยว่าเคสของป้าบิวเป็นท้องแฝดสามที่พิเศษมาก ๆ เพราะนอกจากป้าบิวจะไม่มีอาการแทรกซ้อนน่าเป็นห่วงใด ๆ แล้ว ป้าบิวยังดูเป็นคนท้องที่มีความสุขแถมยังปกติจนน่าทึ่ง

ที่สำคัญ ทั้ง ๆ ที่อาหมอขอให้ป้าบิวย้ายมานอนสแตนด์บายรอคลอดที่โรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อสองอาทิตย์ก่อน (อาหมอบอกว่า เผื่อพวกลูก ๆ อยากออกมาหาพวกพ่อ ๆ เร็ว ๆ ) แต่จนแล้วจนรอด พวกลูก ๆ ก็ยังไม่ยอมออกมาดูโลกกันเสียที  ทำไปทำมาเลยกลายเป็นป๊ะป๋าของเรานี่แหละที่ตั้งเงื่อนไขกับอาหมอว่า ถ้าลูก ๆ เกิดขี้เซาไม่เลิกรา ป๋าจะให้อาหมอปลุกลูก ๆ ให้ตื่นมาดูโลกในวันแห่งความรัก เพราะป๋าอยากให้ลูก ๆ ได้สัมผัสความรักอย่างท่วมท้นตั้งแต่แรกเกิด (ป๋าของลูก ๆ นี่เลี่ยนเนอะ!)   

พรุ่งนี้แล้วนะครับที่พวกเราจะได้เจอกัน! พ่อล่ะตื่นเต้นชะมัดเลย! พ่อไปนอนก่อนนะครับ พรุ่งนี้จะได้ตื่นแต่เช้าไปเฝ้าป้าบิวที่หน้าห้องคลอดอย่างสดใส แล้วเจอกันนะลูก!

รักลูก ๆ นะครับ!
พ่อฟู

ป.ล. (ป๊ะป๋า) See you tomorrow sons!
ป.ล. (แดดดี๊) สิ้นสุดการรอคอย... พรุ่งนี้แล้วสินะ ^_^


«»------------------------------------------------------------------------------------«»


“เออ ๆ พวกมึงขึ้นมาชั้นหกเลย พวกกูรออยู่ตรงโถงหน้าลิฟท์ทางเข้าแผนกทารกแรกเกิด มาเร็ว ๆ นะเว่ย จะได้เข้าไปดูหน้าลูกกูพร้อมกัน” ทันที่ที่สั่งความเสร็จสรรพ ตรินก็ตัดสายฉับโดยไม่รักษาน้ำใจคนปลายสายด้วยเพราะไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดกับเหล่าสมุนเลวจนหลงลืมความตื่นเต้นเมื่อได้เห็นลูกชายฝาแฝดภายในห้องเด็กอ่อนเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้าไปเปล่า ๆ ปลี้ ๆ

“พี่เต๋อ พี่ด้วง เฮียฟู” อดีตเดือนมหาลัยที่เพิ่งเดินออกจากลิฟท์เอ่ยทักคุณพ่อมือใหม่ทั้งสามด้วยรอยยิ้มก่อนที่คนเดินข้าง ๆ จะยกมือไหว้รุ่นพี่อย่างอ่อนน้อมดังเช่นทุกที

“พี่ ๆ หวัดดีครับ”

เต๋อพยักเพยิดให้ธันวาพร้อม ๆ กับรับไหว้บ๊วยพลางถามกลับ “ไงหล่อ ไปเยี่ยมพี่บิวมาหรือยัง?”

“ยังเลยครับพี่เต๋อ เห็นพวกนั้นโทรไปบอกว่าจะมาดูหน้าหลานกันก่อน พอจอดรถเสร็จ ผมกับบูบู้ก็ตรงมารอที่นี่เลย” พวกนั้นที่ว่า คือ เหล่าสมุนเลวที่เหลือซึ่งเป็นคู่สนทนาปลายสายของเต๋อเมื่อสักครู่นี่เอง

“เฮียฟูเป็นไงมั่งครับ? หายตื่นเต้นหรือยัง?” ลูกแม่บัวหันไปถามรุ่นพี่ที่คอยเหลือบมองบานประตูด้านหลังอย่างพะวักพะวนอยู่เป็นระยะ ๆ

“ยังเลยบูบู้! นี่ถ้าไม่ติดว่ากลัวพยาบาลว่า เฮียคงได้หอบข้าวของมานอนเฝ้าลูก ๆ ไปแล้วล่ะ” กรกฏยอมรับอย่างไม่อาย... วินาทีนี้ ใครจะหาว่าเขาเห่อลูกก็พูดกันไปเถอะ ไว้รอให้เห็นเด็ก ๆ เต็มตาเมื่อไร ขี้คร้านจะเห่อหนักยิ่งกว่าเขาเสียอีก

“หลานเก็กหน้าตาเป็นไงเฮีย... หล่อได้เจ็กมันป่ะ?”

“เหงกแน่ะ! ตอนพวกกูทำกันมึงก็ไม่ได้มีเอี่ยวแล้วจะให้ลูกกูไปหน้าเหมือนมึงเอาตอนไหน... หือไอ้หล่อ?!” รุ่นพี่ร่างหมีอดแหวไม่ได้... จุด ๆ นี้เต๋อพูดได้เต็มปากว่า ระหว่างเขากับกังฟู ระดับความเห่อลูกเข้าขั้นสูสีไม่มีใครยอมใคร

ทว่าผู้เป็นอากลับมิได้นำพา เพราะเมื่อเห็นโอกาสแหย่หนวดเสือลอยมา เก็กก็ตบมุกเก็บแต้มทันที “งั้นก็แสดงว่าหลานผมไม่มีใครหล่อสักคนเลยใช่ไหมครับพี่เต๋อ?”

เดี๋ยวปั๊ดหลังแหวน!
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ผมล้อเล่นน่ะพี่เต๋อ... พี่เป็นพ่อคนแล้วนะครับ พี่ต้องหัดใจเย็น ๆ กว่านี้สิ!
ลามยิ่งกว่าสังคังก็มึงนี่แหละ!” แผงหนวดของตรินถึงกับกระดิกริก ๆ เมื่อโดนน้องเมียท้าทายอำนาจ แต่ครั้นจะฟาดงวงฟาดงาต่อไป ก็รังแต่จะทำลายบรรยากาศไปเปล่า ๆ เต๋อจึงได้แต่สบถเบา ๆ ก่อนทำเอาหูไปนาเอาตาไปไร่เสีย

“แล้วนี่คุณหมอบอกหรือยังครับว่าจะให้พวกหลาน ๆ อยู่ในตู้อบอีกนานเท่าไร?” ข้อมูลที่ได้ฟังจากคนรัก และแม่บัวเพียงบางส่วนระหว่างเดินทางมาโรงพยาบาลทำให้ชายกลางอดสงสัยไม่ได้

“น่าจะไม่เกินอาทิตย์นะน้องบ๊วย” รุ่นพี่หน้าหยกอธิบายเสียงนุ่ม “เด็ก ๆ แต่ละคนแข็งแรงกันมาก ตัวก็ใหญ่ ร้องเสียงดัง แถมยังน้ำหนักดีผิดคาดจนคุณหมอและพยาบาลงงกันใหญ่เพราะไม่รู้ว่าแอบไปโตกันตอนไหนทั้ง ๆ ที่น้ำหนักพี่บิวตอนท้องก็ดูจะปกติแท้ ๆ ” ทันทีที่ได้ยินคำบอกเล่าของวิญญู บ๊วยก็แอบลอบสบตากับกังฟูอย่างรู้กัน ก่อนที่อีกฝ่ายจะขยิบตาพลางแอบส่งยิ้มมุมปากให้

“ผมดีใจด้วยนะครับพี่เต๋อ พี่ด้วง... เฮียฟู ในที่สุดพวกพี่ ๆ ก็ได้เป็นคุณพ่อลูกแฝดสมใจ” ลูกแม่บัวเอ่ยด้วยความสบายใจระคนโล่งอกเมื่อรู้ว่า สุดท้ายเจ้าพ่อไทรทองก็บันดาลให้กรกฏได้รับพรอย่างครบถ้วนทุกประการดังที่เจ้าตัวปรารถนา

“แถมยังเป็นแฝดสามไข่คู่ล้วน ๆ อีกตังหาก!” อดีตเดือนมหาลัยโพล่งสวนขึ้นกลางปล้องจนโดนบรรดาพ่อ ๆ จ้องตาเขียว ก่อนที่จะเป็นเต๋อที่ด่าเรียกสติให้กลับเข้าร่างอีกฝ่าย  

ไอ้ที่มึงพูดถึงอยู่นั่นลูกกู ไม่ใช่ขนมไหว้พระจันทร์! ไอ้ห่า! หัดพูดจาให้มันดี ๆ หน่อยเหอะวะหล่อ มึงน่ะแก่จนเป็นอาลูกกูได้แล้วนะ อย่าเที่ยวทำปากหมาพร่ำเพรื่อ เดี๋ยวหลาน ๆ มันจะไม่เคารพเอา!

“คอยดูนะพี่... ผมนี่แหละจะสอนลูกพี่ให้หัดกราบไหว้บูชาอาเจ็กกับอาบูบู้ตั้งแต่ยังไม่รู้ประสาเลยครับ!” ความรู้สึกกระชุ่มกระชวยหลังได้เป็นอาทำให้อริยะตรัยผู้น้องปากกล้าขึ้นอีกสิบเท่า

โชคดีที่โรงพยาบาลนี้มีส่วนโถงรับแขกที่แยกออกจากแต่ละแผนกอย่างเป็นสัดส่วน ไม่อย่างนั้นพวกเขาทั้งหมดคงโดนคุณพยาบาลปักป้ายขับไล่หลังพากันล้งเล้งโวยวายไม่มีลดละ โดยเฉพาะบิดาร่างหมีผู้เห่อบุตรจนเผลอส่งเสียงคำรามสุดคอหอย “ไอ้สัดหล่อ! เดี๋ยวมึงจะโดน!








“ปภพ ปพน ปวร... ปวร คุณะประสิทฒ์ เข้าใจตั้งชื่อ”  ชายหนุ่มหน้าคมผมยาวสลวยเอ่ยกับตัวเองเบา ๆ ขณะยืนจรดสายตามองเด็กแฝดทั้งสามในพิกัดเดียวกันกับเหล่าสมุนเลวเมื่อสองวันก่อน  จากนั้นจึงตรึงกรอบสายตาหยุดนิ่งยังตู้อบใบสุดท้ายซึ่งแปะป้ายชื่ออันไพเราะของฝาแฝดคนเล็ก ดวงตาคมแฝงแววยากเกินหยั่งของเขาเฝ้ามองทารกน้อยอย่างพินิจพิจารณาคล้ายต้องการจารึกภาพดังกล่าวเอาไว้ในห้วงคะนึงตราบจนวันที่คำสัญญาหมดความหมาย

“อีกแค่ห้าปีเท่านั้น  แล้วเจอกันนะครับปวร... คนดีของฌาน” ชั่วอึดใจให้หลังสั่งความผ่านสายลม เรือนร่างสูงใหญ่น่ามองก็หมุนตัวผละจากไปราวกับไม่ต้องการให้ใครจดจำการมาของตน จะเว้นก็แต่เจ้าของชื่อตัวจ้อยที่แม้จะหลับตาพริ้ม หากแต่กลับมีรอยยิ้มน้อย ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้า




 «»------------------------------------ TBC ------------------------------------ «»




No comments:

Post a Comment