Wednesday, July 12, 2017

ODD EYE ตาย ตา ตื่น : 2nd Glance ||12.07.17



The 2nd Glance


คล้อยหลังเพื่อนสนิทที่วนมอเตอร์ไซค์คู่ใจมาส่งตรงปากทางเข้าบ้านเพียงไม่นาน ก้องเกียรติก็หมุนตัวเดินย้อนศรพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ขณะคิดถึงสีหน้าดีอกดีใจของน้องชายวัยประถมเมื่อรู้ว่า เย็นนี้จะมีไอศกรีมมะพร้าวน้ำหอมเป็นของหวานล้างปากหลังมื้ออาหาร

ใคร ๆ ก็บอกว่าก้องเกียรติหลงน้องหัวปักหัวปำ
ใช่ที่ไหนกัน เขาแค่รำคาญเสียงครางหงิง ๆ ของมันตอนอ้อนขอเงินแม่ไปซื้อไอติมกินมาตลอดทั้งอาทิตย์ต่างหากล่ะ

“ป้าครับ เอาไอติมไข่แข็งใส่ทุกอย่างกลับบ้านสามกล่องครับ”

“รอเดี๋ยวนะหนู ขอป้าตักไอติมให้พี่เขาก่อน” เจ้าของร้านไอติมว่าพลางพยักเพยิดไปทางด้านหลังจนก้องเกียรติเผลอเหลือบตามองตามหล่อนอย่างห้ามไม่ได้

“ครับ” เด็กอาชีวะรับคำพร้อมคลี่ยิ้มบางขณะละสายตาจากลูกค้าวัยหนุ่มตรงโต๊ะด้านในร้านแล้วหันมาสนใจเสียงเพลงในหูฟัง 

กระนั้น ก่อนที่ก้องเกียรติจะได้รับไอศกรีมที่ตนสั่ง เด็กหญิงวัยประถมปลายคนหนึ่งก็ขี่จักรยานมาจอดขวางหน้าร้านของหวานด้วยอาการกระหืดกระหอบ แววตาคาดหวังบนใบหน้าเปื้อนเหงื่อของผู้มาใหม่ทำให้เจ้าของร้านหลุดปากอุทานเสียงหลง “โอ๊ยตายแล้ว! ป้าลืมหนูไปเลย หนูรอป้าเดี๋ยวนะ ขอป้าทำให้พี่เขาก่อน” คนพูดคว้ากล่องโฟมใส่ไอติมมาตั้งท่าจัดการกับออเดอร์ของก้องเกียรติ สีหน้าผิดหวังอย่างชัดเจนของเด็กหญิงทำให้เด็กอาชีวะชิงยื่นข้อเสนอรวดเร็ว

“ทำให้น้องเขาก่อนก็ได้ครับ ผมไม่รีบ”

“ขอโทษนะจ๊ะ งั้นเดี๋ยวป้าแถมไอติมให้ทั้งสองคนเลยแล้วกันนะ” เจ้าของร้านยิ้มแหยพร้อมกับพยายามแก้ตัวด้วยการตักไอศกรีมให้เด็กหญิงและก้องเกียรติอย่างว่องไวแถมยังเยอะกว่าปกติดังปากว่าเสียด้วย  

ยืนรออยู่ไม่นาน ของโปรดน้องชายภายในกล่องโฟมขนาดย่อมก็ถูกบรรจุใส่ถุงก่อนคล้องเข้ากับข้อนิ้วมือ ก้องเกียริตเดินถือถุงไอศกรีมฮัมเพลงมุ่งหน้ากลับบ้านพลางใคร่ครวญถึงวิธีซุกซ่อนของหวานให้รอดพ้นสายตาซุกซนของจอมตะกละประจำบ้านอย่างคร่ำเคร่งจนไม่ทันสังเกตว่า มีคนแปลกหน้าเดินตามหลังมาห่าง ๆ ก่อนที่ชายผู้นั้นจะเร่งฝีเท้าขึ้นทันทีที่เห็นแผ่นหลังของเด็กอาชีวะหายลับเข้าตรอกเล็ก ๆ ไป

ความคุ้นเคยตลอดช่วงสิบกว่าปีทำให้การเดินท่อม ๆ เพียงลำพังกลางซอยตันเปลี่ยว ๆ ไม่ได้ทำให้ก้องเกียรติรู้สึกหวาดหวั่นแต่อย่างใด ดูได้จากการที่เด็กหนุ่มยังสามารถส่งเสียงร้องคลอไปกับเสียงดนตรีโดยไม่มีทีท่าระวังภัย อาการผ่อนคลายของก้องเกียรติยั่วยุชายแปลกหน้าให้เร่งสาวเท้าเข้าใกล้อย่างลำพอง

หากไม่มีอะไรผิดพลาด คืนนี้ เด็กตรงหน้าคงจะช่วยบรรเทาความคิดถึงและความปรารถนาที่มีต่อใครคนหนึ่งลงได้บ้าง

ทว่าชั่วขณะที่ชายแปลกหน้าเฝ้ารอจังหวะเข้าประชิดตัวก้องเกียรติอย่างจดจ่อนั้นเอง เด็กชายผู้โปรดปรานไอศกรีมไข่แข็งก็กระโดดแผล็วออกมาจากพุ่มไม้ข้างทางเพื่อแกล้งเขย่าขวัญพี่ชายโดยเฉพาะ “แฮ่!!

“เฮ่ย!” ก้องเกียรติสะดุ้งโหยงจนเด็กชายหลุดขำ ก่อนเจ้าตัวจะเฉไฉไพล่ถามถึงสิ่งที่น่าสนใจในถุงแทน

“อะไรอ่ะพี่เกียร์?” สายตาแวววาวเป็นประกายของเด็กชายทำให้คนเกิดก่อนรู้สึกหมั่นไส้จนต้องผลักหัวน้องชายเบา ๆ  

“ยุ่ง! เมื่อกี๊มึงเล่นอะไรของมึง เห็นไหมเนี่ยว่ากูตกใจ”

“ทีพี่เกียร์แกล้งกอล์ฟ กอล์ฟยังไม่ว่าเลย”

“แล้วมึงมาแอบอะไรตรงนี้?”

“ก็กอล์ฟรอพี่เกียร์ไง กอล์ฟไม่อยากเดินเข้าบ้านคนเดียว”

“มึงนี่นะ! กลับจากโรงเรียนแล้วทำไมไม่รีบเข้าบ้าน? เมื่อเช้ามึงไม่ได้เอากุญแจมาใช่ไหม?”

ชายแปลกหน้ารีบฉวยโอกาสที่เด็กอาชีวะเอ็ดน้องชายแสร้งทำเมินก่อนจะเดินผ่านทั้งคู่แล้วปราดเข้าไปหลบในมุมอับของซอกกลับรถด้านในซอยอย่างอดทน จนเมื่อสองพี่น้องผลุบเข้าบ้าน นักล่าก็เริ่มนับถอยหลังรอเวลาจัดการเป้าหมายอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในอีกไม่กี่ชั่วโมงให้หลังทันที

***********

อีกแล้วเหรอ?

อังคารแค่รำพึงเบา ๆ ในใจเมื่อพบตนเองอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ไม่รู้จักหากแต่กลับคุ้นเคยจนยากปฏิเสธ

จะต้องรู้สึกตื่นเต้นไปทำไมในเมื่ออีกไม่กี่อึดใจข้างหน้าเขาก็จะสะดุ้งตื่นแล้วทิ้งห้องสี่เหลี่ยมมืด ๆ ขนาดกลางแห่งนี้ให้เป็นเพียงเศษเสี้ยวของความฝันซ้ำซากต่อไป ก่อนจะต้องกลับมาฝันถึงมันใหม่อีกครั้งไม่ต่างจากทุก ๆ คืนนับตั้งแต่วันที่ผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา

หลังจากทดลองรับมือกับความฝันบ้า ๆ นี่มาหลายวิธี รอบนี้ อังคารเลือกที่จะเดินคลำทางสำรวจไปรอบ ๆ ห้องเพื่อฆ่าเวลา ก่อนที่สุดท้าย ความมืดมนจะทำให้เด็กหนุ่มอึดอัดจนทนนอนต่อไม่ไหว แต่ยังไม่ทันจะสืบเท้าไปถึงไหน เสียงน้ำหยดใกล้ ๆ หูก็ทำให้เขาชะงักงัน


ติ๋ง


หืม?


ติ๋ง ติ๋ง ติ๋ง


พอหยุดฟังจนแน่ใจว่าตนไม่ได้หูเฝื่อนเพราะกลัวความมืดขึ้นสมอง สิ่งแปลกใหม่ในความฝันไร้ทางออกก็เร่งเร้าเรียกร้องให้เด็กหนุ่มคืบเข้าสู่จุดกำเนิดเสียงที่ได้ยินด้วยความอยากรู้อยากเห็น แม้สภาพเกือบไร้แสงโดยรอบจะทำให้สายตาแทบใช้การไม่ได้ ทว่าสัมผัสเย็นชื่นใจเมื่อน้ำหยดเล็ก ๆ ตกกระทบหลังมือก็ทำให้อังคารเผลอเพ่งจ้องมองหาแหล่งที่มาของของเหลวที่ว่าอยู่ดี


ติ๋ง ติ๋ง ติ๋ง ติ๋ง ติ๋ง ติ๋ง ติ๋ง ติ๋ง ติ๋ง ติ๋ง


เฮ่ย! อะไรวะ?

อังคารผงะค้างทั้งที่ยังชะเง้อคอเงยหน้ามองสูงเมื่อหยดของเหลวจากฝ้าเพดานเพิ่มความเร็วในการปะทะขึ้นจากเดิมคล้ายตอบสนองต่อความสนใจของสิ่งมีชีวิตเพียงหนึ่งเดียวภายในห้อง แต่กว่าเด็กหนุ่มจะสำนึกรู้ว่า ไม่มีความจำเป็นใด ๆ เลยที่จะต้องขวนขวายหาคำตอบในเรื่องไม่เป็นเรื่อง ก็เป็นตอนที่เขาโดนสายน้ำปริศนาสาดราดรดใบหน้าจนได้กลิ่นคาวคละคลุ้งน่าสะอิดสะเอียนไปแล้วนั่นแหละ

เลือด?! เฮ่ยยย?!!!  

แม้ที่สุดแล้ว สมองจะแยกแยะได้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่การตอบสนองของร่างกายกลับไม่ฉับไวเท่าใจคิด เพราะทันทีที่ไขปริศนาเกี่ยวกับของเหลวบนเพดานได้ ฝนเลือดห่าใหญ่ก็โหมซัดเข้าใส่เด็กหนุ่มอย่างไม่ปรานี


ซ่า!!


“...เฮือก!!!...” อังคารสูดลมหายใจเข้าปอดอย่างตะกรุมตะกรามเมื่อตระหนักถึงสติที่หวนคืน เด็กหนุ่มผุดลุกขึ้นนั่งพลางดึงคอเสื้อขึ้นเช็ดเหงื่อที่ไหลเข้าตาขณะที่ยังหลับหูหลับตาหอบหายใจราวกับคนจมน้ำใกล้ตายที่เพิ่งฉวยห่วงยางกู้ชีพได้ในนาทีสุดท้ายของชีวิต

มึงตื่นแล้วเพียร มึงตื่นแล้ว

แม้จะพยายามปลอบขวัญให้ตัวเองสงบลงซ้ำ ๆ อย่างไร แต่จิตใต้สำนึกกลับสั่งให้อังคารเลื่อนกรอบสายตาก้มดูคอเสื้อชุ่มโชกให้มั่นใจว่าสิ่งที่สร้างด่างดวงชื้นแฉะรอยใหญ่บนเสื้อนอนไม่ใช่ของเหลวปริศนาจากในฝัน จวบจนแน่ใจถึงความปลอดภัยของตัวเอง เด็กหนุ่มก็คว้ามือถือรุ่นลายครามขึ้นดูเวลาก่อนจะลุกขึ้นจากฟูกนอนเมื่อประจักษ์แล้วว่า สถิติในการสะดุ้งตื่นกลางดึกของค่ำคืนนี้ไม่เลวร้ายนัก...

การตื่นตอนเกือบ ๆ ตีห้าทั้ง ๆ ที่ไม่ต้องลุกไปทำงานย่อมดีกว่าตื่นมานอนตาค้างตั้งแต่ตีสองหลายเท่าตัว ไม่เป็นไร ไว้เดี๋ยวสาย ๆ เขาค่อยไปนอนต่อที่ห้องยายแล้วกัน

พักหลัง ๆ อังคารมักจะเปิดไฟทุกดวงภายในห้องทิ้งไว้ตลอดเวลา ดังนั้นเมื่อตื่นตัวเต็มที่ เด็กหนุ่มจึงสามารถสาวเท้าก้าวฉับ ๆ เข้าห้องน้ำได้ทันใจโดยไม่ต้องพะวงว่าสองขาจะเผลอไปเตะโดนอะไรต่อมิอะไรเข้า แต่ถ้าให้พูดกันตามจริง ต่อให้สายไฟล้มหรือหม้อแปลงระเบิดจนไฟดับทั้งซอย เชื่อเถอะว่าเขาไม่มีทางสะดุดข้าวของเครื่องใช้จำนวนเพียงหยิบมือที่ตั้งเป็นหย่อม ๆ อยู่ตามมุมห้องแน่ ๆ 


พรึ่บ!!


เชี่ย!!!  ไวเท่าความคิด จู่ ๆ ไฟห้องที่ส่องสว่างอยู่ดี ๆ ก็กระพริบถี่ ๆ คล้ายต้องการท้าทายและทดสอบกำลังใจของอังคารไปพร้อม ๆ กัน แต่เพราะตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้วว่า ถึงอย่างไร คืนนี้เขาก็จะไม่กลับไปนอนห่มผ้าคลุมโปงทนอบอ้าวเฝ้ารอให้ตอนเช้ามาถึงไว ๆ เด็กหนุ่มจึงแสร้งทำเมิน แล้วทำธุระจำเป็นทั้งหลายอย่างรวดเร็วโดยไม่ลืมกล่อมตัวเองให้เข้มแข็งอยู่ทุกขณะจิต...

ไม่เป็นไร ไฟห้องน้ำยังมี แต่มึงห้ามส่องกระจกเด็ดขาดนะเว่ยเพียร!

ทุกวันนี้ สิ่งที่ยากที่สุดในการใช้ห้องน้ำ ไม่ใช่การชำระล้างร่างกาย หรือถ่ายทุกข์ด้วยความไวแสง หากแต่เป็นการต้องคอยบังคับสายตาไม่ให้เหลือบมองเงาสะท้อนในกระจกบานเก่าคร่ำคร่าตรงอ่างล้างหน้าข้างประตูห้องน้ำ เพราะอังคารคงฝืนทำใจดีสู้เสือต่อไปไม่ไหวหากต้องเห็น  อะไรที่ไม่ควรเห็น เข้าจัง ๆ   

ทันทีที่เสร็จกิจ อังคารก็รีบวิ่งขาขวิดหอบสังขารเปียกโชกครึ่งท่อนบนพุ่งทะยานออกจากห้องน้ำไปหยุดยืนหอบยังโต๊ะกินข้าวตัวเล็ก ๆ ข้างหน้าต่าง เด็กหนุ่มเปิดวิทยุตัวน้อยที่นางสินส่งต่อให้หลังจากลูกชายของหล่อนซื้อทรานซิสเตอร์เครื่องใหม่มาเมื่อต้นปี เสียงบทสวดมนต์ก่อนข่าวรับอรุณที่ดังเบา ๆ ช่วยทำลายความเงียบ อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการหวาดกลัวได้ชะงัด เมื่อความเครียดคลี่คลาย เด็กหนุ่มก็ทรุดตัวลนั่ง จิบน้ำประปาที่รองใส่ขวดเอาไว้เสียหนึ่งอึกใหญ่พลางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้องก่อนจะหลุดเข้าไปในภวังค์แห่งความวิตกกังวลอีกครั้ง  

จากที่เคยคิดว่าการต้องฝันร้ายติดกันทุก ๆ คืนจนแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน คือ ความทรมานอันยิ่งใหญ่ มาวันนี้ เหตุการณ์น่าสยดสยองเมื่อตอนบ่าย ได้ยกระดับความเฮงซวยของชีวิตให้ยิ่งซับซ้อนขึ้นไปอีกหลายเท่า เพราะมันหมายความว่า หลังจากนี้เขาจะต้องพึ่งทั้งยาคลายเครียดและยากันชักอย่างเต็มรูปแบบ... เฮ่อ! ต้องลำบากไปถึงไหนมึงถึงจะพอใจวะไอ้เพียร?


...รับวันใหม่ด้วยข่าวปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่กำลังจะเกิดขึ้นในบ้านเราและประเทศใกล้เคียงกันดีกว่าค่ะ บ่ายวันนี้ อธิบดีกรมอุตินิยมวิทยาประกาศว่า พรุ่งนี้ ทั่วทุกจังหวัดจะเริ่มสัมผัสปรากฏการณ์สุริยุปราคาเต็มดวงได้ตั้งแต่เวลาสิบสองนาฬิกาสองนาที จนถึงเวลาสิบสองนาฬิกาเก้านาที โดยอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาได้เน้นย้ำว่า สุริยุปราคาเป็นปรากฏการณ์ที่ห้ามดูด้วยตาเปล่าเป็...


“หึ! อังคารแค่นหัวเราะทันทีที่ข่าวสุริยะคราสในรอบสี่สิบปีลอยเข้าหู... ถ้าพรุ่งนี้ไม่หลับยาวจนเพลิน เขากับยายคงได้นั่งดูการถ่ายทอดสดหน้าทีวีห้องแกไปพร้อม ๆ กันล่ะมั้ง


...ล่าสุด ตำรวจนครบาลได้ออกหมายจับเจ้าของรถเก๋งส่วนบุคคลที่พุ่งชนรถคันอื่น ๆ รวมสิบเอ็ดคันบนถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรีเป็นที่เรียบร้อย หลังจากพบว่าผู้ต้องหาปฏิเสธที่จะเข้...


เนื้อความข่าวล่าสุดเรียกความทรงจำเกี่ยวกับอุบัติเหตุเมื่อสองเดือนก่อนให้แจ่มชัดขึ้นอีกครั้ง

จริงอยู่ที่แม้จะตกอยู่ในฐานะเหยื่อรถชนอันเป็นผลจากความประมาทของลูกหลานผู้มีอิทธิพลในประเทศเหมือน ๆ กับเจ้าของรถสิบเอ็ดคันจากเหตุสลดในข่าวเมื่อครู่ แต่เด็กหนุ่มกลับโชคดีกว่าบรรดาเจ้าทุกข์ในคดีนี้มากนัก เพราะคนที่ขับรถเสยฟุตบาทจนทำให้อังคารต้องนอนแบ็บในห้องไอซียูอยู่หลายวันเป็นถึงลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของนักธุรกิจแถวหน้าที่ผันตัวลงเล่นการเมืองเป็นครั้งแรกในสนามผู้ว่าฯ แถมเหตุยังเกิดในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งเสียอีก ผู้สมัครเต็งจ๋าจึงออกตัวแสดงความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่

ช่วงแรก ๆ สังคมก็ดูจะสนุกสนานกับการขุดคุ้ยและโจมตีคนทำผิดอย่างเสีย ๆ หาย ๆ แต่หลังจากสื่อประโคมข่าวความเจ็บปวดของคนเป็นพ่อคู่กับหยาดน้ำตาและสีหน้าสำนึกผิดของคนเป็นลูก ตบท้ายด้วยการแสดงน้ำใจขอชดใช้ความผิดอย่างสมน้ำสมเนื้อซ้ำแล้วซ้ำอีก ไป ๆ มา ๆ กระแสของผู้คนก็กลับตาลปัตร จนสุดท้าย ชะตากรรมสุดห่วยของอังคารก็ช่วยเสริมส่งให้นักธุรกิจคนนั้นกลายเป็นผู้ว่าฯ ที่ใครต่อใครต่างรักใคร่ชื่นชมในวันนี้

แต่ครั้นจะสรุปว่าสมาชิกครอบครัวนั้นได้ประโยชน์จากเรื่องนี้เพียงฝ่ายเดียวก็คงไม่ได้ เพราะนอกจากจะไม่ต้องไปนอนเป็นปุ๋ยในสุสานฝังศพไร้ญาติโดยไร้คนเหลียวแลแล้ว อังคารเองก็ได้รับสิ่งดี ๆ ทดแทนการสูญเสียมากมายเช่นกัน ทั้งโอกาสในการกลับไปเรียนแบบหมดห่วงเรื่องค่าเทอม เงินชดเชยก้อนใหญ่ที่หากรู้จักใช้ ก็จะช่วยต่อชีวิตได้อีกหลายปี รวมถึงการดูแลสุขภาพในโรงพยาบาลอันดับหนึ่งฟรีตลอดชีวิต ติดอยู่แค่เรื่องเดียวจริง ๆ ที่ทำให้ข้อดีทั้งหมดแทบไม่มีความหมาย...

ก็ไอ้ตาซ้ายที่เพิ่งถูกเปลี่ยนกระจกตาใหม่นี่แหละ...
ตาซ้ายที่มาพร้อมกับเรื่องไม่ชอบมาพากลจนอังคารไม่สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้อีกต่อไป
ไอ้ตาซ้ายเฮงซวยที่แม่งทำให้เขาต้องรับรู้ อะไรที่คนปกติทั่ว ๆ ไปไม่ควรเห็น ไม่ควรสัมผัส
แม่ง!

พรึ่บ!!

ทันทีที่เด็กหนุ่มนึกโทษดวงตาเจ้าปัญหา ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความมืดมิดคล้ายมีมือดีจงใจสับคัทเอาท์ตัดกระแสไฟ กระนั้น เสียงครวญแผ่วที่ดังลอดออกจากลำโพงของวิทยุเครื่องเก่ากลับทำให้อังคารตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวแทบสิ้นสติ  


...ช่วย...ด้วย ช่วยด้วย...


“ฮืออออ” อังคารครางเสียงเครือพลางเบียดตัวเป็นเนื้อเดียวกับผนัง เขาหลับตาสวดภาวนาอ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยผ่อนผันแก้ไขสถานการณ์ตรงหน้าให้พ้นผ่าน ยิ่งถ้าทำให้มันกลายเป็นเพียงฝันซ้อนฝันได้ยิ่งดี เพราะอีกไม่นาน ความรู้สึกประหวั่นพรั่นพรึงก็จะปลุกเขาให้ตื่นจากฝันร้ายได้เอง

แต่ในโลกนี้ ไม่มีผู้ใดหรอกที่จะสมหวังทุกประการสมดั่งใจ...
กับอังคาร ยิ่งไม่ใช่เลย

เพราะแม้สุดท้าย ดวงไฟทุก ๆ ดวงในห้องจะส่องแสงสุกสว่างดังเดิมแล้วก็ตาม แต่ทันทีที่อังคารลืมตา เจ้าของเสียงพร้อมใบหน้าโชกเลือดไร้ซึ่งดวงตาก็โผล่มาแสดงตัวตรงหน้าในระยะเผาขน  


...ช่วยผมด้วย...


“อ๊ากกก!!” เด็กหนุ่มเจ้าของห้องเช่าโก่งคอกรีดร้องสุดเสียงก่อนที่ความหวาดกลัวจะผลักให้เขาตกลงสู่ห้วงแห่งความฝันอันน่าสยดสยองอีกครั้งทั้ง ๆ ที่ยามนิทราของราตรีถัดไปยังมาไม่ถึงแท้ ๆ


 *****|| TBC ||*****



สารภาพเลยว่าตอนวางพล็อตเรื่องนี้ไม่เครียดเท่าตอนเขียนค่ะ
เพราะเมื่อได้ลงมือ เราก็ตระหนักว่าแม้จะทำการบ้านด้วยการอ่านเรื่องลี้ลับมาเยอะแยะแค่ไหน
แต่การจะเขียนเรื่องผีให้น่ากลัวต้องอาศัยทักษะหลายด้าน บวกด้วยประสบการณ์ที่ต้องสั่งสม
เราเลยต้องขออภัยคุณผู้อ่านทุก ๆ ท่านนะคะ หากสิ่งที่เราเขียน พลาดเป้าประสงค์ไปไกลโพ้น

ถ้าเป็นไปได้ กรุณาชี้แนะเราด้วยนะคะ ว่าเราควรต้องปรับปรุงหรือแก้ไขอย่างไร
เราจะได้นำคำติชมทั้งหลายไปใช้กับนิยายเรื่องอื่น ๆ ในอนาคตค่ะ
ขอบคุณทุก ๆ คนล่วงหน้าค่ะ ^^
ฝากเพจด้วยนะคะคนดีhttps://www.facebook.com/asmileofsilenceAKAmalimaru/]












No comments:

Post a Comment