เห่ย
(“เฮ่ยยย! / โครม!! /...ซี๊ดดดด...อูยยยย!! )
สิ้นสรรพเสียงแปลกปลอมซึ่งไม่ควรเกิดภายในชั้นเรียนรวมระหว่างการบรรยายวิชาประวัติศาสตร์โลก
ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบงัน...กระทั่งน้ำเสียงชวนง่วงที่พร่ำเป็นน้ำไหลของอาจารย์ยังหยุดเว้นช่องไฟตามไปด้วย
เพียงอึดใจ
บุคคลปริศนาผู้เป็นต้นกำเนิดเสียงก็เผยตัวสู่สายตานับร้อยซึ่งจับจ้องยังจุดเกิดเหตุไม่วาง...
ก็นะ...รู้ๆอยู่ว่า
พวกมือถือสากปากถือศีลอย่างเราๆทั้งหลาย สืบทอดนิสัยกระหายใคร่รู้เรื่องชาวบ้านมาเนิ่นนาน
ดีไม่ดี คุณสมบัติข้อนี้อาจหยั่งรากลึกอยู่ในกมลสันดานของคนไทย
ตั้งแต่ก่อนสมัยฟื้นฟูศิลปะวิทยาการในยุโรปที่อาจารย์นฤบดีกำลังร่ายยาวให้พวกเราฟังก็เป็นได้...
ถ้าอย่างนั้น คงไม่แปลกอะไร
หากจะนับรวมตัวผมไว้ในกลุ่มคนส่วนใหญ่ที่เฝ้ามองเหตุการณ์นี้โดยไม่ถอนสายตาเพิ่มขึ้นมาอีกสักคน...
เถอะน่า ผมมีเหตุผลของผมก็แล้วกัน
ใบหน้าแหยๆกับหัวฟูๆ
ที่ผมเฝ้ามองหาตั้งแต่ก่อนเข้าเรียนโผล่พ้นขอบโต๊ะยาวเพื่อชะโงกส่องหาที่นั่ง
สองมือพลางจัดเก้าอี้ที่โดนชนล้มระเนระนาดโดยไม่ตั้งใจให้ตั้งตรง...
นั่นแหละ
คือเหตุผลที่ผมยอมหลวมตัวสอดรู้เรื่องคนอื่น ทั้งที่ไม่แยแสมนุษย์หน้าไหนเป็นกิจวัตร
โยไม่เคยนั่งหลังห้อง
คนๆนี้จัดเป็นพวกเด็กเนิร์ดแถวหน้า
แต่กลับเข้าชั้นเรียนสายเป็นประจำ
ซึ่งมันจะไม่ใช่ปัญหา
ถ้าเขาไม่ใช่คนซวยซ้ำซ้อน...
ไม่ต้องรอตัวอย่างที่ไหนไกล
เหตุการณ์ที่ถ่ายทอดสดอยู่ ณ ขณะนี้ คงพออธิบายอะไรๆได้ดี
“ผมเคยได้ยินแต่คำเรียกพวกผู้หญิงมือห่างตีนห่าง
ว่า ‘สวยซุ่ม’...
.
...ถ้าไม่ได้คุณโยธินสาธิตให้ดู
ผมคงไม่เข้าใจคำว่า ‘สายซุ่ม’
แน่เชียวครับ” หน้านิ่งๆเสียงเนิบๆตำหนิผ่านลำโพงหน้าห้อง
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า
องค์นฤบดีหวดแส้ลงฟาด แล้วสาดเกลือใส่แผลสดของโยได้เจ็บแสบแค่ไหน
แต่ที่น่าหมั่นไส้คงไม่พ้นไอ้พวกลิ่วล้อที่ระเบิดหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลัง
ทั้งที่ตอนเรียนเอาแต่นั่งทื่อมะลื่อบื้อใบ้
โยกระพุ่มมือไหว้อาจารย์ด้วยสีหน้าเจื่อนๆ
ก่อนกล่าวด้วยท่าทางนอบน้อม “ขอโทษครับอาจารย์”
สีหน้าผู้อาวุโสที่สุดในห้องดูอิดหนาระอาใจอย่างเห็นได้ชัด
ทว่าไม่ต่อความยาว “เชิญนั่ง...เอาล่ะ
เรามาว่ากันต่อเรื่อ........
ถึงอาจารย์จะเริ่มท่องบทสวดส่งวิญญาณผม
และนิสิตคนอื่นๆร่วมสองร้อยชีวิตกลับไปเข้าเฝ้าพระอินทร์อีกครั้งแล้วก็ตาม
แต่คราวนี้
เสียงต่ำๆ ฟังหึ่งๆกลับไม่ทะลุเข้าโสตประสาทผมเลยสักนิด
นั่นคงเป็นเพราะคนมาสายค่อยๆย่างกรายค้อมตัวมาหย่อนก้นลงบนเก้าอี้ตัวข้างๆ
ส่งผลให้เสียงรบกวนอื่นใด
ดังสู้เสียงเต้นรัวของหัวใจผมไม่ได้แม้ครึ่ง
“หวัดดีจีน
ขอเราดูชีทด้วยได้ไม๊? ชีทเราเปียกน้ำตอนก่อนเข้าห้องน่ะ” คนพูดยิ้มจนตาหยี
พอเห็นหน้าโยตอนนี้
ทำให้ผมเข้าใจอารมณ์ของอาจารย์เมื่อครู่ได้ทันที...
ถึงคนตรงหน้าจะทำความผิด
หรือคำขอของเขาจะทำให้ผมนั่งเรียนไม่ค่อยสะดวก
แต่ถ้าจะให้ตั้งป้อมด่าคนหน้าเซ่อ
ยิ้มซื่อๆอย่างไม่ปรานี...ผมคงทำไม่ลง
“เอาสิ” ผมเขยิบไปทางซ้ายพอประมาณ
เพื่อให้โยอ่านชีทได้ง่ายขึ้น ทั้งที่ในใจอยากโถมตัวเข้าใส่อีกฝ่ายสุดกำลัง...
นึกขอบคุณตัวเองเป็นรอบที่ล้านที่เปรี้ยวลงเซคนี้คนเดียวไม่แคร์เพื่อน
เพราะสุดท้ายก็ได้รู้ว่า
โยธินเป็นอีกคนจากภาควิชาเดียวกันที่หลงมาเรียนด้วย
เราสองคนจึงกลายเป็นผู้มีอารยะนั่งเรียนเคียงบ่าเคียงไหล่อยู่ในฝูงลิงกังคณะอื่น
“ขอบใจนะ”
พอเห็นท่าผม โยก็กระเถิบเข้าใกล้ขึ้นอีกนิดแล้วส่งยิ้มให้
เขาพยายามกวาดสายตาอ่านเนื้อหาที่อาจารย์บรรยาย
เทียบกับข้อความในหน้ากระดาษ แต่ดูจะยังจับต้นชนปลายไม่ถูก
ผมเลยเอาปลายปากกาจิ้มตรงหัวข้อเนื้อหาที่อาจารย์บรรยายค้างไว้...
ไม่ได้หวังคำขอบใจ
แค่อยากทำให้อีกฝ่ายสบายขึ้นสักนิด
แต่คนอย่างโยธินผู้แสนดี มีหรือจะไม่ซาบซึ้ง
“ขอบใจนะจีน
ขอบใจมาก” รอยยิ้มจริงใจส่งผ่านใบหน้าบ้านๆงานไม่ประณีตมาให้เป็นครั้งที่สองของวัน
จากนั้นอีกฝ่ายก็เริ่มจดเลกเชอร์ตามบทสวดส่งวิญญาณโดยไม่สนใจผมอีกต่อไป
ยิ้มเมื่อครู่สะกดให้เผลอมองหน้าคนข้างๆที่ตั้งใจเรียนด้วยสมาธิสูงสุดอย่างพินิจพิเคราะห์...
สุดท้ายแล้ว...ผมก็อดย้อนคิดถึงทุกๆเรื่องของคนๆนี้ขึ้นมาอีกครั้งไม่ได้
สองปีที่ฟังเรื่องโยจากปากคนอื่นบอกต่อกันมา
เพียงพอที่จะทำให้คนวงนอกอย่างผมได้ข้อสรุปว่า...
โยเป็นมนุษย์ผู้เกิดมาเพียบพร้อมด้วยความอาภัพอับเฉาเต็มรูปแบบ
ความอับโชคเปรียบเสมือนคุณสมบัติข้อหนึ่งที่ติดตัวโยมาตั้งแต่เกิด
นอกเหนือไปจากเรื่องหนักหนาอื่นๆซึ่งไหล่กว้างๆหากผอมแกร็นของเขาจำต้องแบกรับไว้เพียงลำพัง ไม่ว่าจะ...
...บ้านจน
...ตัวคนเดียว
...ทำงานตัวเป็นเกลียวส่งเสียตัวเอง
...แต่งตัวไม่เก่ง
ซ้ำยังขาดๆเกินๆ
...เงินขาดมือเกือบตลอดเวลา
...หน้าตาห่างไกลจากคำว่าดูดีไปสี่สิบล้านปีแสง
ข้อด้อยเหล่านั้น
ส่งเสริมให้เขาดำรงตำแหน่ง ‘สุดเห่ย’ ประจำคณะได้อย่างไม่มีข้อสงสัย
ถ้าถามผมเหรอ?...
แม้ทั้งหมดที่ใครๆพูดกันจะเป็นเรื่องจริง
แต่ผมไม่ใส่ใจหรอกนะ...
เพราะหากมองข้ามความอัตคัตขัดสนที่ไล่รายชื่อกันมายาวเหยียด
แล้วดูให้ละเอียดถึงเนื้อในล่ะก็...
ความเป็นโยธิน
คือ การรวบรวมสิ่งดีๆทั้งหมดในโลกหล้า เอามาซ่อนไว้ภายใต้เปลือกนอกไร้ราคา และไม่น่าสนใจ
ทำให้คนที่จะเห็นรูปทองผ่องแผ้วของพ่อคุณได้นั้น
ต้องมองกันด้วยดวงใจ...หาใช่ดวงตา
สาเหตุที่ผมสามารถพูดจาชื่นชมอีกฝ่ายได้โดยไม่ตะขิดตะขวงใจน่ะเหรอ?...
มีสิ... ก็ผมคืออีกหนึ่งคนที่โยหยิบยื่นน้ำใจ
และความปรารถนาดีให้อยู่เนืองๆอย่างไรล่ะ
ย้อนไปเมื่อสองปีก่อน...ตอนช่วงรับน้องมหาวิทยาลัย
อย่างที่รู้
มีเฟรชชี่อยู่ไม่กี่จำพวกที่รุ่นพี่มักเรียกออกมาข้างหน้า แล้วฆ่าให้อับอายด้วยกิจกรรมในฐานละลายพฤติกรรม
ก่อนอื่น
ขอให้ขีดฆ่าเหล่าสาวสวย หนุ่มหล่อ หรือ
พวกที่มีลูกบ้าอยู่ในสายเลือดออกจากสมองไปก่อน
เพราะเมื่อเทียบอัตราส่วนความสมบุกสมบันโหดมันฮาแล้ว...กลุ่มน้องใหม่สายกระเทยย่อมเป็นที่ต้องการของท้องตลาดแบบกินขาดเสมอ
ผมคงไม่เดือดร้อนอะไรนัก
หากลักษณะทางกายภาพไม่ดูคล้ายน้องปอยรุ่นก่อนเฉาะราวกับเคาะออกมาจากพิมพ์เดียวกัน
ผิดกันเพียงอย่างเดียวตรงที่
แม้จะชอบผู้ชาย และเป็นฝ่ายรับเหมือนไอดอลคนนั้น...
แต่ผมดันไม่ใช่ประเภทโบกเมคอัพปรับสายบรา
แถมยังประหม่าเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าคนหมู่มากเสียด้วยสิ
ทุกครั้งที่เดินเข้าฐาน...ผมมักจะรู้สึกเหมือนซากไก่ที่กำลังลอยละลิ่วลงสู่บ่อจระเข้ก็ไม่ปาน
คือรู้แหละว่าตัวเองว่าตายแล้ว
แต่พอนึกได้ว่าเมื่อตกลงไปศพจะไม่สวย...ก็ชวนให้รู้สึกว่า
ชีวิตมันช่างห่วยอะไรอย่างนี้
แทนที่กิจกรรมรับน้องจะทำให้มีความสุขสนุกสนานเหมือนคนอื่นๆ...
ผมกลับขวัญหนีดีฝ่อ
เพราะต้องคอยหลบตาพี่ๆพลางภาวนาขออย่าให้ใครอยากได้กระเทยออกไปร่วมเล่นเกม
คำขอของผมควรจะสัมฤทธิ์ผลโดยสมบูรณ์
ถ้าไม่โดนสกัดดาวรุ่งด้วยซุ้มสุดโหดของกลุ่มพี่ว้ากปีสามไปเสียก่อน
จริงๆเกมของรุ่นพี่กลุ่มนี้ไม่ได้น่ากลัว
แต่บทลงโทษกลับน่าอายสุดๆ...
ก็พวกท่าเต้นเสื่อมๆประกอบเพลงส่อๆพวกนั้นน่ะแหละ
ผลของการเล่นเกม...ผมรอดตายแบบเส้นยาแดงผ่าแปด
ถึงอย่างนั้น...สุดท้าย
ผมกลับโดนลากออกมาเต้นด้วย เพราะไอ้พวกรุ่นพี่เฮงซวยมันอ้างว่า
อยากเห็นน้องมิ๋วปอยเต้น...
...มิ๋วปอยพ่อพี่สิ!!
ผมอยากเกิดมาหน้าตาเหมือนน้องปอยที่ไหนกันเล่า?!!
บอกตรงๆ
วินาทีนั้นผมรู้สึกเหมือนถูกขานชื่อก่อนพาเข้าห้องเชือด...
ผมอาย ผมไม่ชอบตกเป็นเป้าสายตา
ไม่อยากหาเรื่องเด่นโดยไม่จำเป็น
แต่ในจังหวะที่ผมกำลังจะลุกขึ้นนั้นเอง
กลับมีคนอาสาออกไปเต้นแทน แถมยังแอ่นหน้าแอ่นหลังได้อย่างถึงอกถึงใจ จนพี่ๆสั่งให้เต้นโชว์อีกหลายรอบ
นั่นคือครั้งแรกที่เจ้าของป้ายชื่อ
‘โย โยธิน’
ได้สร้างรอยประทับในหัวใจให้กับผมแบบไม่รู้ลืม
จากเหตุการณ์วันนั้น
ทำให้ผมเริ่มสังเกตตัวตน และความดีของผู้ชายคนนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
จนในที่สุด
ก็มาถึงจุดที่ผมยอมรับกับตัวเองว่า...
ผมแอบชอบเขาถึงขั้น
‘ไม่อยากเป็นแค่เพื่อน
ขอเลื่อนขั้นเป็นแฟน’
เสียแล้วสิ
และนับจากวินาทีนี้ไป...
ผมจะทำทุกทางเพื่อทำให้เขากลายมาเป็นแฟนผมให้จงได้
.
.
ให้จงได้
ให้จงได้
ให้จงได้
จงได้
จงได้
.
.
...คร่อกกกก...
...ฟี้...
“จีน...จีน
หมดคาบแล้ว...
...จีเนียส...
...อีจีเนียส
มึงได้ยินกูป่ะเนี่ย?”
“ห๊ะ!? เมื่อกี๊โยว่าไงนะ?”
“โยไหนวะ?...
...อ๋ออออออ...เห่ยน่ะเหรอ?...
...เห่ยมันเพิ่งเดินออกไปเมื่อกี้นี่เอง...
.
...มันบอกให้กูเข้ามาดูมึงหน่อย
เพราะมันเขย่าแขนเรียกมึงอยู่ตั้งนาน แต่มึงก็ไม่ยอมตื่นซักที มันเลยไปก่อน...
...เห็นบอกว่าต้องรีบเดินกลับไปเรียนที่คณะ...จักรยานแม่บ้านมันเสีย
แร็ปอะไรก็ไม่รู้ กูฟังไม่ทัน”
ผมไม่น่าลืมตัวถอนหายใจเฮือกใหญ่กว่าปกติเลยให้ตาย
ดูสิ อีสองเลยได้ทียิ้มล้อผมใหญ่
ก่อนจะแซะมาอีกระลอก
“ทำไม?
อยากอยู่กับเห่ยสองต่อสองเหรอจ๊ะน้องมิ๋วปอย...
.
...(ไปเร็ว!! เดี๋ยวตามเห่ยสุดที่รักไปเรียนไม่ทันนะตะเอง)” อีสองกระซิบเย้า แบบที่เราชอบทำเวลามอยผู้อื่นในระยะเผาขน
ถ้าไม่ใช่เพราะอีสองเป็นเพื่อนสนิทเพียงไม่กี่คน
ผมจะไม่ทนให้มันแหย่ด้วยเรื่องจริงจังที่น่าอับอายทำนองนี้หรอก
แต่ให้ตายเถอะ...เกลียดสีหน้าเป็นต่อของมันเข้าไส้เสียจริงๆ
“อย่ามา!... กูเพื่อนเล่นมึงเหรออีสอง?”
“อีนี่แวร๊งส์!!”
อีสองปรายตา
เหยียดปากคว่ำ...สีหน้าจิกแบบไม่เจียมบอดี้ของมัน
ผมได้แต่กลอกตาเลี่ยงทัศนอุจาดไปเหม่อมองทางอื่น
ผมได้แต่กลอกตาเลี่ยงทัศนอุจาดไปเหม่อมองทางอื่น
แล้วก็นึกเสียดาย
ที่ไม่มีโอกาสได้คุยกับโยอีกครั้งก่อนเลิกเรียนคาบเมื่อครู่
๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑
ความพยายามครั้งที่:
สาม แผน A:
ให้ของแทนใจ
“ไปซะทีสิสอง
มึงจะรอให้นมเย็นในแก้วจับตัวกลายเป็นชีสไปก่อนรึไง!!...
.
...ไหนบอกว่า
ถ้ากูยอมรับเรื่องชอบโย มึงจะช่วยกูเต็มที่ไม่ใช่เหรอ?...
...ยังอีก!
ยุงมันจะไข่ลงในแก้วอยู่แล้วนั่น!!”
“เออๆ
รู้แล้วน่า ก็กำลังจะเดินไปอยู่นี่ไง...
.
...ตกลงกูเป็นกามเทพ
หรือกามทาสกันวะอีนี่?”
“บ่น?...
ไปเร็วๆซี่!!!”
*
*
*
*
*
*
“ว่าไง?...โยถามรึเป่ลาว่าใครฝากนมไปให้?”
“กูยังไม่ทันได้คุยกะโยเลยอ่ะ”
“อ้าว
ทำไมอ่ะ?”
“คือ...กูวางแก้วเอาไว้ตรงหน้าไอ้โยใช่ป่ะ
กำลังจะอ้าปากบอกมันว่า มีคนน่ารักฝากนมมาให้ดูด...
.
...แต่อยู่ๆ ไอ้เก๋าเจ้งแม่งก็โผล่หัวมา
พอมันเห็นแก้ว...แม่งก็คว้านมมึงไปซดหมดแก้วเฉยเลย...
...เพื่อไม่ให้มีใครต้องกระอักกระอ่วน
กูก็เลยบอกพวกมันไปว่า นมเย็นแก้วนั้นเป็นนมกูเองน่ะ”
“อีสอง!... อย่าบอกนะว่า จริงๆแล้วมึงหลอกเอานมกูไปแอ๊บอ่อยไอ้เจ๋ง?”
“โอ๊ยอีจีน!... กูไหว้ล่ะ ตราบใดที่โลกใบนี้ยังไม่สิ้น ได้โปรดอย่าจิ้นกูกับไอ้เก๋าเจ้งเลย...ไม่ไหวจะเคลียร์!!”
“คราวหน้าอย่าพลาดอีกเชียวนะ
ไม่งั้นกูด่ากราดถึงต้นตระกูลมึงแน่”
“เชื่อมือกูเหอะน่า”
“หราาาาาา?”
ความพยายามครั้งที่:
ห้า แผน B:
ใช้เวลาด้วยกันสองต่อสอง
“อย่าลืมนะสอง
หมดคาบนี้แล้วมึงต้องชวนโยมาคุยเรื่องรายงานที่ร้านเค้กให้ได้ ไม่งั้นกูจะอัญเชิญรายนามคุณรัชนี
และคุณทินกรมาฟีทเจอริ่งในท่อนแร็ปเพลงด่าที่กูตั้งใจแต่งให้เพื่อนรักหน้าหักหมาปั๊กยังอายอย่างมึงโดยเฉพาะ”
“ขี้กลากยังลามไม่ไวเท่ามึงเลยนะอีนี่”
“อีสองอย่าหือ!!...อยากให้กูแซมเปิ้ลท่อนฮุคซิงเกิลด่าพ่อล่อแม่ให้มึงฟังก่อนรึไง?”
“อย่าลำบากเลยดีออก...กูเกรงใจ”
*
*
*
*
*
*
“เป็นไง?
ได้ความว่าไง?”
“ก่อนที่กูจะเผยสาสน์รักที่ไอ้โยฝากถึงมึง...กูขออะไรอย่างได้ไม๊วะ?...
.
...อย่านิ่งซิอี่นี่
แล้วก็หยุดจิกกูด้วย!!...
...ถ้ามึงไม่รับปาก
กูขอสาบานต่อห้องน้ำคณะอันหอมสะพรึงว่า กูจะเก็บความลับนี้ไว้กับตัวจนวันตาย
มึงจะได้ทุรนทุรายตายตกไปตามกัน!!”
“เออๆ
กูรับปาก...อย่าลีลาได้ป่ะ? ขอร้อง”
“ห้ามด่าพ่อแม่กู
ตกลงนะ”
“อีสอง!!
หรือมึงพลา...”
“กูไม่ได้พลาด
แต่มึงไม่รู้หรอกเหรอว่า ทุกๆเย็นไอ้โยมันต้องรีบไปทำงาน?
มันรับนัดใครไม่ได้หรอก...
...แต่มันฝากบอกมาว่า
ให้พวกเราแบ่งหน้าที่ในกลุ่มกันไปเลย...
...กูเลยบอกมันว่า
ให้มันมาถามรายละเอียดงานกับมึงอีกทีพรุ่งนี้หลังคาบแรก...
.
.
...ไง ดีใจล่ะซิที่จะได้คุยกับมันสองต่อสอง...
...เห็นมะ อย่างน้อยๆฝีมือกูก็ไม่ได้แย่ซะทีเดียว
ใช่ไม๊ล่ะ?”
“ยัง... กูยังดีใจไม่ได้
คืนนี้กูจะต้องตกเป็นเมืองขึ้นของโย และมึงต้องช่วยกู”
“นางมั่นหน้ามากค่ะ
จุดๆนี้”
ความพยายามครั้งที่:
หก แผน
C: เมื่อโยไม่ว่าง
เราต้องหัดสร้างโอกาส
“เออนี่พวกมึง
เดี๋ยวกูพาจีนไปห้องน้ำก่อนนะ เมื่อกี้กูเห็นมันทำท่าเหมือนจะอ้วกว่ะ”
“จีนเมาแล้วเหรอวะ?...
.
...ไหงงั้นอ่ะ?...
...มันเป็นคนชวนพวกเรามากินเหล้า
แต่ดันเมาล่วงหน้าไปแล้วเนี่ยะนะ?”
ตัวประกอบชื่อวินผู้ไม่สลักสำคัญบ่นกระปอดกระแปด
ถ้าไม่ติดว่ากลัวแผนจะดูไม่สมจริงสมจัง
ผมคงไม่ต้องออกหน้าจ้างวานมดปลวกพวกนี้ให้ช่วยมาถลุงเหล้าฟรีจนดูคึกคักเหมือนไม่ตั้งใจมาเที่ยวร้านนี้หรอก
“ช่างแม่งเหอะวิน
แดกต่อเหอะ”
“ให้กูช่วยอุ้มจีนไม๊วะสอง?”
“ไม่ต้องหรอกวิน
กูไหว...พวกมึงแดกกันไปก่อนเลย เดี๋ยวกูมา”
*
*
*
*
*
*
“อ้าวโย! โยทำงานที่นี่เองเหรอ?...
...ไม่น่าเชื่อว่า
โลกเราจะโคตรกลมได้ขนาดนี้”
อีสองทำเสียงประดิษฐ์ประดอยเกินจริง...
แต่อีกฝ่ายไม่รู้เช่นเห็นชาติอีนี่เหมือนกับผม
เพราะฉะนั้น...โยคงจับพิรุธแรดเหลือบเร้นอย่างมันได้หรอก
“จริงซิ...
...เจอโยก็ดีแล้ว
เราฝากจีนหน่อยได้ไม๊อ่ะ...
...จีนมันเมาแล้วอยากนอนน่ะ
แต่พวกเราเพิ่งมาถึงกันเอง...ดูๆแล้วคงไม่น่าจะรีบกลับบ้านง่ายๆแน่...
...ฝากโยหาที่นอนให้จีนมันหน่อยได้ป่ะ เดี๋ยวพอตอนจะกลับบ้าน เราจะแวะมารับมันกลับไปเอง...
...นะ นะ
โยช่วยไอ้จีนมันหน่อยนะ”
“อืมๆ ได้ๆ
งั้นช่วยกันพาจีนไปนอนที่โซฟาตรงห้องพักข้างหลังก่อนก็แล้วกันนะ”
“ขอบใจนะโย
โยนี่โคตรเป็นคนดีเลย...มิน่าอีจีนมันถึง.....โอ๊ยยยยยยยยย!!!”
“สองเป็นอะไรรึเปล่า?”
“อูยยยยย...เปล่าๆ
เราแค่เจ็บเสียดราวนมนิดหน่อยน่ะ...
...(ซี๊ดดดดส์!
เจ็บนะอีนี่
หยิกหัวนมกูซะเต็มข้อเลยนะมึง)...
.
...เราคงช่วยอุ้มจีนมันไม่ไหวแล้ว...ฝากด้วยแล้วกันนะ”
“เฮ๊ย!! สอง!!! ทิ้งเพื่อนสนิทตัวเองดื้อๆอย่างนี้เลยเหรอ?
ท่าจะเจ็บหน้าอกจริงๆล่ะมั้งน่ะ ถึงได้รีบไปขนาดนั้น”
*
*
*
*
*
*
“จีน...จีน
จีนตื่นเถอะนะ...
.
...ทำไงดีล่ะ
พวกสองก็กลับบ้านไปแล้วด้วยซิ”
“จีน...จีนครับ...
.
...ไหวไม๊ครับจีน?
จีนลุกก่อนเถอะนะ”
“อืออออออ
ม่ายอาว...จานอน ค้าวจะนอนนนนน”
“นอนที่นี่ไม่ได้ครับ
เดี๋ยวพี่เจว่าเอา”
“อ้าวโย มึงมัวทำอะไรอยู่วะ
ทำไมยังไม่รีบกลับบ้านกลับช่องไปอีก? เดี๋ยวรถเมล์ก็ขาดช่วงหรอก”
“คือ...เพื่อนโยเค้าเมามากน่ะครับ”
“ไม่ให้นอนร้านล่ะ?”
“ไม่ดีหรอกครับ
ผมเกรงใจพี่น่ะ ไหนจะของ ไหนจะต้องใช้น้ำ เปิดไฟเปิดพัดลม...
...เดี๋ยวผมพาไปนอนที่ห้องก็ได้ ขืนปล่อยให้ขดอยู่อย่างนี้ทั้งคืน
ผมกลัวเค้าตื่นมาแล้วจะปวดหลังปวดคอเอาน่ะครับ”
“เอา
เอา...งั้นเดี๋ยวพี่วนรถไปส่งก็แล้วกัน”
“ขอบคุณครับพี่เจ”
“มา! เดี๋ยวพี่ช่วยอุ้ม”
รุ่นพี่ของโยทำท่าเหมือนจะเข้ามาประคองผมอีกแรง
แต่มีหรือที่ผมจะยอมให้ชายอื่นมาแตะต้องตัวผมได้ง่ายๆ...
“อืออออออออ
ม่ายอาว ม่ายยยยย”
โยเลยเปลี่ยนจากประคองผมมาเป็นอุ้มผมด้วยท่าเจ้าสาว
ไม่ต่างจากตอนที่อีจีนสะบัดตูดทิ้งผมเอาไว้กับโยเมื่อหัวค่ำ...
หลังจากถูกอุ้มเป็นรอบที่สอง
ผมบอกได้เลยว่า...เห็นก้างๆอย่างนี้ พ่อโยธินคนดีของผมนี่ก็แอบล่ำอยู่เหมือนกัน
โดยเฉพาะเมื่อกล้ามเนื้อหนั่นๆตรงหน้าท้องของอีกฝ่ายบดเบียดสีข้างผม
ก็ทำให้ทั้งสรรพางค์เสียดเสียววูบๆวาบๆ
“ไม่เป็นไรครับพี่เจ
ผมอุ้มไหวครับ...
.
...ที่สำคัญ
กลิ่นนี่น้องๆละมุดเลยครับ...เดี๋ยวจะติดเสื้อพี่เจเปล่าๆ”
“ดูๆไป เพื่อนมึงนี่หน้าตาเหมือนผู้หญิงเลยว่ะ
นี่ถ้าไม่มีกระเดือก...กูนึกว่าเป็นทอมนะเนี่ยะ”
“ครับ...เพราะเค้าสวยชวนให้เข้าใจผิดแบบนี้
เค้าเลยมีดีกรีดาวเทียมคณะผมสามปีซ้อนห้อยท้ายยังไงล่ะครับพี่เจ”
“เออเว้ย...คณะมึงนี่เปิดกว้างดีนะ”
“หึ...คงอย่างงั้นมั้งครับพี่”
“เอ้า เดี๋ยวมึงขึ้นไปนั่งข้างหลังกับน้องคนสวยก็แล้วกัน
เผื่อน้องมันจะอ้วก มึงจะได้ช่วยทัน...กูไม่อยากเสียค่าฟอกเบาะ”
“ครับพี่เจ”
โยวางผมลงบนเบาะก่อนสอดตัวเข้านั่งข้างๆ แล้วจึงค่อยๆดึงตัวผมให้เอนนอนหนุนตักแน่นๆของเขา...แผนนี้เข้าท่า!
หลังจากออกรถไปได้ไม่นาน พี่เจก็ถามโยในสิ่งที่ผมเองก็อยากรู้ไม่น้อยไปกว่ากันนัก “โย”
“ครับพี่เจ
มีอะไรเหรอครับ?”
“ไหนๆก็สบโอกาสได้นั่งคุยกับมึงแบบไม่มีลูกค้าทั้งที
กูถามหน่อยเถอะ...มึงคิดยังไงกับเกย์วะ?...
.
...มึงโอเคไม๊ที่คนรอบๆตัวมึง...ทั้งกู
ไอ้เผ่า ไอ้คีย์ ไอ้แทนเริ่มจะกลายพันธ์กันไปทีละคนสองคน?”
“หึ หึ
หึ...ผมโอเคครับพี่...
.
...เห็นพวกพี่ๆมีความสุข
ผมก็พลอยดีใจไปด้วย...
...ตราบใดที่ความรักขับเคลื่อนชีวิตเราให้ก้าวเดินไปข้างหน้าพร้อมกับรอยยิ้มได้
ผมว่า จะรักแบบไหนก็ดีทั้งนั้นแหละพี่...
...ถ้าผมมีความรัก
ผมคงคิดเหมือนพวกพี่ๆล่ะมั้งครับ...
...ถึงคนนั้นจะเป็นผู้ชาย
แต่ถ้ารักไปแล้ว ไม่ว่ายังไง...ผมก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจจากคนๆนั้นได้แน่ๆ”
“หึ...มึงพูดเหมือนมีทาร์เก็ตแล้วเลยนะ”
“คนที่ผมแอบปลื้มน่ะก็พอมีอยู่หรอกครับ...
.
...แต่พอมองตัวเองแล้ว
ก็ได้แต่บอกตัวเองว่า เอาค่อยไปกังวลอีกทีหลังจากลืมตาอ้าปากได้ก็แล้วกันพี่...
...ลำพังแค่จะชักหน้าให้ถึงหลังยังยาก
ผมไม่กล้าฉุดใครลงมาลำบากกินเกลือแทนข้าวด้วยกันหรอกครับ”
“ฮือออออออออ!!!”
ผมแอบร้องประท้วงออกไปเพราะขัดใจ...
ไหนจะคนที่โยแอบปลื้ม
ไหนจะเรื่องที่โยไม่อยากมีใครเพราะความลำบากนี่อีก...
ทำไมการจะเป็นแฟนโยมันถึงได้ยากขนาดนี้นะ?
“โย...มึงช่วยทำให้เพื่อนมึงเงียบทีได้ไม๊ว่ะ
อยู่ๆก็แหกปาก...กูตกใจจนเกือบเสยตูดมอไซค์แหน่ะ”
“ครับๆ
ได้ครับพี่”
(Rrrrrrrrrrrrrr Rrrrrrrrrrrrrr Rrrrrrrrrrrrrr – เสียงโทรศัพท์มือถือ)
“มือถือใครดังวะ?
ของมึงเหรอ?”
“เปล่าพี่ เดี๋ยวนะครับ...
...ของจีนมั้งครับพี่...
.
...ที่บ้านเค้าโทรมา...
...กดรับดีไม๊ครับพี่?”
“มึงรีบรับเลย
เผื่อเค้ามีเรื่องด่วน”
“ฮื่ออออออออออออออออออออ”
...อย่ารับนะโย ใครโทรมาวะ?!!
“สวัสดีครับ...
...ครับๆ จีนอยู่กับผมครับ...
...เค้าเมามาก
ผมเลยรับสายแทน...
.
...อ๋อๆ
ได้ครับ งั้นเดี๋ยวผมกับพี่จะแวะไปส่งจีน เอ๊ย!...จีเนียสที่บ้านแล้วกันนะครับ...
...ครับๆ
รู้จักครับ ผมเคยไปทำงานแถวนั้น
อ๋อ...ครับๆ ตรงนั้นเอง...ไม่หลงครับ
เดี๋ยวอีกราวๆยี่สิบนาทีน่าจะถึงนะครับ...
...ครับๆ
สวัสดีครับ”
“พี่เจครับ
รบกวนแวะไปส่งผมกับเพื่อนตรงซอยหลังมอผมได้ไม๊ครับ เดี๋ยวพอส่งเค้าเสร็จ ผมค่อยเดินกลับห้องเองอีกที
พี่จะได้ไม่ต้องวนรถไปมา”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูแวะไปส่งทั้งมึง
ทั้งเพื่อนมึงนี่แหละ”
“ครับๆ
ขอบคุณครับพี่”
“ฮือออออออออออออออออออ”
“สงสัยเพื่อนมึงจะเป็นพวกเมาแล้วเพ้อว่ะ
นอนอยู่แท้ๆ แต่อ้อแอ้แทรกถูกจังหวะซะด้วย...
.
...หรือว่า
ไอ้หน้าสวยมันจะไม่อยากกลับบ้านกันวะ?”
“ฮือออออออออออออออออออ”...ใช่
ผมไม่อยากกลับบ้าน ผมอยากกลับไปกับโย!!
“หึ
หึ...ไม่รู้เหมือนกันครับพี่”
*
*
*
*
*
*
“ใครใช้ให้แกโทรไปตามชั้นกลับบ้าน?” ผมแผ่รังสีทำลายล้างออกมาใส่น้องชายหน้าเป็นที่นั่งเล่นมือถือแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“จะมีใคร๊...ก็แม่น่ะสิ
กลับมาถึงก็สั่งให้เนียร์โทรหา บอกว่าอยากเห็นหน้าลูกชายคนโตใจจะขาด...
...พอรู้ว่าเพื่อนเนียสจะมาส่งบ้าน
ก็บอกเนียร์ให้มานั่งรอพาเนียสขึ้นไปนอน...
...ส่วนสองผัวเมียนั่นก็ควงแขนขึ้นไปสวีทกันสองต่อสองตั้งแต่ที่เนียร์วางหูจากเพื่อนเนียสนั่นแหละ...
.
...อ้าว แล้วไหนเพื่อนบอกว่าเนียสเมาไง?”
“โอ๊ย!! ทำไมชั้นถึงมีน้องโง่อย่างนี้นะ”
“เฮ๊ย! เป็นอะไรเนี่ยะ...อยู่ดีๆก็ด่า? ทำไมทำดีถึงไม่ได้ดีล่ะวะ?...
.
...เนียส อย่าเพิ่งขึ้นห้องเด้...
...เนียส ลงมาช่วยเนียร์ปิดบ้านก่อนนน!!
...เหวี่ยงโหดสัดอย่างงี้มันเรียกว่าเมาตรงไหนวะแม่ง?”
๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑
ความพยายามครั้งที่:
สิบเอ็ด แผน D: วีรบุรุษสร้างได้เมื่อภัยมา
“ช่วยด้วย!! ใครก็ได้ช่วยด้วย!!”
“อ๊ายยยยย
อย่านะ...อย่าเข้ามา!!
ปล่อยผมซิ อย่าลวนลามผมเลย...
.
...(อีสอง!!
ไหนมึงบอกว่าโยเดินอยู่แถวนี้ไง?)”
“(มึงก็ร้องดังๆซี่อีนี่
กูอ่านตารางตรงข้างผนังห้องน้ำ...อีกไม่ถึงนาทีคงพอดีเวลาที่เห่ยมันต้องเข้ามาเช็คความสะอาดของห้องน้ำประจำชั่วโมงแน่ๆแหล่ะ
มึงเชื่อกูเหอะ...เอ๊า ร้องอีกซี่อีจีน!!! ร้องดังๆ!)”
“อย่า!!! อย่าจับนมผม
อ๊า อย่าล้วงเสื้อผมเลย...
.
...ไม่นะ!! ผมมีพ่อมีแม่...
...ผมยังซิง!!!
ผมยังไม่เคยยยยยยย อ๊ายยยยยยยยย”
“(โอ๊ย
อีจีน...ใครเค้าตะโกนแบบนั้นกัน!! มึงนี่มันฉลาดซะเปล่า! ร้องช่วยด้วยก็พอ!)”
“(แล้วกูจะรู้ไม๊...ก็มึงบอกให้ร้องดังๆเองนี่)”
“(จะเถียงหรือจะร้องอีจีน...เดี๋ยวแผนก็แตกกันพอดี)”
“ช่วยด้วย...ใครก็ได้ช่วยผมด้วย!!!!”
*
*
*
*
*
*
“(โอ๊ย! อีสอง กูร้องจนคอจะแตกแล้ว
ทำไมโยยังไม่มาอีกวะ?)”
“คุณครับ?
คุณเป็นอะไรรึเปล่าครับ?”
“ห๊ะ?! อะไรเหรอครับ?”
“อ้าว...ก็เมื่อกี๊ไงครับ
ผมได้ยินเสียงคนร้องขอความช่วยเหลือดังออกมาจากในห้องน้ำนี่ ผมเลยวิ่งมาดู”
“ห๊ะ?
เมื่อกี๊?”
(เสียงกดชักโครก ตามด้วยเปิดประตูห้องน้ำ)
“อ๋อ...เอ่อ
ไม่มีอะไรนี่ครับ ผมไม่ยินเสียงอะไรเลย
ผมว่าคุณคงหูฝาดไปเองแล้วแหละ ไม่เชื่อคุณถามเพื่อนผมดูก็ได้”
“อ้าว
มีอะไรเหรอจีน?”
“ก็คุณคนนี้น่ะซิสอง
เค้าได้ยินเสียงคนร้องดังออกมาจากห้องน้ำ... แต่เมื่อกี๊
ก็ไม่เห็นมีใครร้องอะไรเลยเนอะสอง” ผมทำท่าพยักเพยิดพลางแอบหลิ่วตาให้อีสอง
“ช่ายยย...
ผมว่าคุณคงหูฝาดไปน่ะครับ ตอนที่เราสองคนอยู่ในห้องน้ำ...ก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยนะครับ”
“อืม...อย่านั้นเหรอครับ...
.
...สงสัยผมจะหูฝาดไปเอง
ไม่เป็นไรครับ...
...ถ้าอย่างนั้น
ผมขอตัวก่อนก็แล้วกันครับ ขอโทษด้วยนะครับที่เข้าใจผิด”
“ไม่เป็นไรครับ”
ทันทีที่ผู้ชายคนนั้นคล้อยหลังออกจากห้องน้ำไป
ผมก็อดกระซิบเหน็บอีเพื่อนหัวใสของตัวเองไม่ได้ “(ไหนมึงบอกว่าแผนมึงเป๊ะไง? ดูดิ๊
คนเข้ามาดันเป็นตาสีตาสาพลเมืองดีที่ไหนก็ไม่รู้)”
“(ก็เป๊ะแหละอีนี่...แต่จังหวะมันไม่ดี
จะให้กูทำยังได้ยังไงล่ะอีเพื่อนบังเกิดเกล้า)”
“อะไรเป๊ะเหรอ?”
“แหกๆๆ!!! /เฮ่ยยยยยย!!”
“อ้าวเฮ่ย! ตกใจอะไรกัน?”
“โธ่โย! เข้ามาไม่ให้ซุ่มให้เสียง พวกเราตกใจหมด”
“จีนกับสองเป็นอะไรรึเปล่า?
เราเข้ามาขัดจังหวะตอนกำลังคุยเรื่องสำคัญกันอยู่เหรอ?...
.
...โทษทีๆ งั้นเราไปก่อนดีกว่า
พวกนายจะได้คุยกัน”
“เปล่าๆ
โยไม่ได้เข้ามาขัดจังหวะหรอก..
...เรากับสองเข้าห้องน้ำเสร็จพอดี...
.
...คือเมื่อกี๊สองมันล้างหน้าแล้วเอาทิชชู่มาเช็ด กระดาษมันเลยยุ่ยติดเต็มไปหมด เราเลยช่วยดูให้ว่าหน้าสองมันเป๊ะแล้วรึยังน่ะ”
ผมรีบแก้ตัวเพราะไม่อยากให้โยรีบกลับออกไปทำงาน
“อ๋อ
อย่างนี้นี่เอง...
...ถ้างั้นเรากลับไปทำงานต่อนะ...
.
...อ้อ มีคนสั่งเครื่องดื่มพิเศษให้จีนแหน่ะ
เราเพิ่งเอาไปเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ...
...คืนนี้ก็อย่ากินเยอะล่ะ
เดี๋ยวจะเมาจนกลับบ้านไม่ไหวอีก......เราเป็นห่วงน่ะ” โยยิ้มกว้างให้ผมก่อนจะเดินลับตาไป
“ฮื่อ...ขอบใจนะโย”
*
*
*
*
*
*
“อีจีน!...ทำไมเมื่อกี๊มึงถึงไม่ชวนโยไปกินข้าวขอบคุณที่มันช่วยมึงไว้เมื่อคืนนั้นล่ะวะ?”
“เออ กูลืมว่ะ...มัวแต่ดีใจที่โยบอกว่าเป็นห่วง”
“หึ! อีนี่ชื่อจีเนียสซะเปล่า”
“หนอย อีสอง...เปิดช่องเป็นไม่ได้!”
“อุ๊ย!
เมื่อกี๊กูไม่ได้พูดนะ...กูแค่คิดดังไปหน่อย
โฮะ โฮะ โฮะ”
.
.
.
“เฮ้ออออ
จบกัน...
...เจ็บคอแถมยังต้องเสียตังค์ค่าเหล้าทั้งที่กินไม่เป็น
สุดท้ายก็ไม่ได้ชวนโยไปเที่ยวอีก”
“เอาน่ามึง...พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่”
“หรือว่ากูจะทำเหมือนคราวที่แล้วดีวะสอง?”
“เอาเหล้ามาพรมๆตามตัวแล้วแกล้งเมากลับบ้านไม่ได้
ผู้ชายจะได้หิ้วกลับห้อง...
.
...แต่เสือกดีใจที่ถูกผู้ชายอุ้มเป็นครั้งแรกจนลืมโทรไปบอกที่บ้านว่าจะค้างกับกูน่ะเหรอ?”
“เออ
ก็นั่นแหละ! ยกเว้นว่าคืนนี้กูจะโทรไปสั่งเนียร์เอาไว้ก่อน”
“จีน...มึงตั้งสติแล้วฟังกูให้ดีๆนะ...
.
...กุลเก้ย์อย่างเรา
ต้องรู้จักสงวนเนื้อสงวนตัวกันบ้าง ผู้ชายเค้าจะได้เห็นค่า...
...เรื่องให้ท่าน่ะ
นานๆทำทีจะดีกว่า ไม่งั้นไอ้เห่ยจะมองว่ามึงง่ายนะ”
“แต่กูไม่ง่ายกับใครเลยนะสอง”
“แล้วโยมันจะรู้กับมึงไม๊ล่ะอีนี่...
...สถานะความซิง
กับสกิลความยากน่ะมันแปะหราอยู่ตรงหน้าผากเหรอไง?...
.
.
...จีน มึงรู้ไม๊ว่าทำไมกูถึงอยากช่วยมึงให้สมหวังกับไอ้เห่ยมัน?”
“ไม่รู้”
“เพราะมึงมันเก่งไปซะทุกเรื่องสมชื่อ
จะเว้นก็แต่เรื่องไอ้โยเรื่องเดียวนี่แหละ...ที่มึงซื่อ.......บื้อมากกกกกกกกก”
“ก็กูไม่รู้นี่หว่า
กูไม่เคยรักใคร...กูไม่เคยมีแฟน...
.
.
...โยคือผู้ชายคนแรกในชีวิตที่กูอยากคบด้วย”
“แหม...กูล่ะอยากให้ไอ้เห่ยมันมาได้ยินมึงพูดซะจริงจริ๊งงงง
ขนาดกูไม่เกี่ยว...กูยังปลื้มแทนเลยว่ะ”
“จริงเหรอ?
ถ้ากูไปพูดแบบนี้กับโย โยมันจะรับได้เหรอ?...
.
...โยจะไม่รังเกียจกูใช่ไม๊?”
“กูจะรู้ไม๊ล่ะอีนี่...กูเป็นกุลเก้ย์
ไม่ใช่กูเกิ้ล”
“เฮ่ออออ...แล้วทีนี้
เราจะทำยังไงกันดี? สารภาพเลยก็อาจจะผิดหวัง สร้างสถานการณ์ให้โยเข้ามาช่วยก็ไม่ได้ผล”
“หึ หึ...ใจเย็นๆอีจีน
กูมีแผนล่อเสือออกจากถ้ำ คราวนี้แหละ มึงจะได้รู้ว่าโยมันคิดอะไรกับมึงบ้างรึเปล่า”
๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑
ความพยายามครั้งที่:
สิบเก้า แผน
E: รักหลอกๆอย่าบอกใคร
“(เหยื่อมาแล้วที่สิบนาฬิกาของกู)...
.
...(อีจีนมึงทำหน้าระรื่นเดี๋ยวนี้ ส่วนวิน...มึงเหน็บปอยแมงสาบของอีมิ๋วทัดหูให้มันหน่อย
ทำตาซึ้งๆด้วย...อย่าลืม!)”
“ต๊าย! อีจีนเมื่อเช้ามึงมาพร้อมวินหรา...อะไรยังไง?”
“(อีสอง...ตะโกนทำไม?
หูกูจะแตกอยู่แล้วเนี่ยะ!!)”
“(โธ่...อีโง่!!
พูดเบาๆแล้วผู้ชายของมึงจะได้ยินรึไงล่ะอีนี่...แล้วก็ตอบกูตามบทได้แล้วอีจีน
เด๊ดแอร์ผิดสังเกตแล้วมึง)”
“อ๋อ! ก็ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่...เราคบกับวินแล้วน่ะ”
“(โอ๊ยอีจีน!....อีนี่ เป็นธรรมชาติมากกกก เล่นแข็งเป็นหินเลยมึง! แหกตาดูกูนี่...แล้วเรียนรู้ซะ!!)”
“คุณพระ! ทำไมอยู่ๆมึงถึงยอมรับรักวินล่ะ?”
“ก็วินเค้านิสัยดี คอยเป็นห่วง แล้วก็ทำดีกับเราแบบเสมอต้นเสมอปลายมาโดยตลอด
เราเลยใจอ่อน”
“อ๊าย นั่ลลักอ่ะ! แต่จะว่าไป กูก็แอ๊บเสียดายแทนคนอื่นนะ...
.
...สงสัยหลังจากนี้
พอข่าวที่พวกมึงคบกันดังไปทั่ว คงมีคนน้ำตาเช็ดหัวเข่าเพราะต้องอกหักจากทั้งมึง
ทั้งวินเยอะไปหมดแน่ๆ”
“(เอ่อ... สอง
จีน...พอเถอะ เห่ยมันเดินเลยไปตั้งนานแล้วล่ะ)”
“อ้าว!
แล้วทำไมวินจะเพิ่งบอกล่ะ!?”
“ผมสะกิดจีนหลายทีแล้วนะ
แต่จีนคงอินกับบทมากไปมั้ง...จีนเลยไม่รู้สึกตัวซักที”
“ช่างเถอะอีจีน...
.
...เออ แล้ววินเห็นหน้าเห่ยมันตอนได้ยินที่เราคุยกับจีนป่ะ?”
“อืม...ก็เห็นแหละ”
“แล้วมันเป็นยังไงมั่งอ่ะ?”
“เห่ยดูเฉยๆ
ไม่ออกอาการผิดสังเกตอะไรนะ”
“เห็นไม๊สอง
กูบอกแล้วว่าแผนนี้ไม่ได้ผลหรอก” ผมหันไปด่าเพื่อน
“เป็นไปไม่ได้!!
แผนอันชาญฉลาดของกูไม่มีทางเฟลอย่างแน่นอน!...
.
...ละครเรื่องไหนๆ
มันก็ทำกันอย่างนี้ทั้งนั้นนี่หว่า...
...เอ หรือว่า...”
“เพ้อเนื้ออะไรอีกอีสอง?”
“จีน มึงลองไปเดินตามมุม
ตามที่ลับตาหลังตึกดิ๊”
“ทำไม?”
“ก็ในหนังพระเอกจะชอบไปหลบอยู่ตามหลืบตามมุม...
...แล้วค่อยกระชากตัวนางเอกเข้าไปนัวสั่งสอนหลังจากหล่อนพาชายอื่นมาเย้ยตำตายังไงล่ะ...
...กูว่า ป่านนี้ไอ้เห่ยแม่งไปสแตนด์บายรอซั่มมึงแล้วมั้ง”
“โอ๊ย!!
อีสอง
อีปัญญาอ่อน......กูไม่น่าหลงเชื่อมึงเล้ย ให้ตาย!”
“โธ่อีจีน
กูว่าวิธีนี้มันเวิร์คจริงๆนะ เชื่อกูซิ...เมื่อกี๊เห่ยมันอาจจะได้ยินไม่ชัดก็ได้
ไม่แน่...มันอาจจะไม่ทันฟัง”
“พอเลยสอง
กูจะไม่หลงเชื่อวิธีการของมึงอีกต่อไปแล้ว...
.
...วิน
เราขอโทษนะ เราไม่น่าลากวินเข้ามาลำบากด้วยเลย ป่านนี้ไม่รู้จะลือกันไปถึงไหนๆ...
...แฟนคลับวินจะไม่เข้าใจผิดกันไปหมดแล้วเหรอ”
“จีนอย่าคิดมากเลยครับ...
.
...ผมว่าวิธีนี้อาจจะได้ผลก็ได้นะ...
...ตอนนี้จีนก็อย่าเพิ่งวู่วามไป
รอให้เรื่องที่เราคบกันมันดังไปทั่วก่อนดีกว่า...
...ถึงตอนนั้น
เดี๋ยวผมให้เพื่อนไปเลียบๆเคียงๆถามความรู้สึกเห่ยให้ก็แล้วกันนะ”
“แปลว่าเราสองคนต้องทำเหมือนคบกันอย่างนี้ไปเรื่อยๆอย่างงั้นน่ะเหรอวิน?”
“ไม่ต้องก็ได้นะวิน
กูว่า...เดี๋ยวกูลองหาวิธีอื่นช่วยอีจีนมันเองก็ได้”
“ไม่เป็นไรหรอกสอง
กูอยากช่วยด้วยอีกแรงน่ะ”
*
*
*
*
*
*
“อีจีน
เป็นอะไร? ทำไมทำหน้าเหมือนเมนส์ไม่มาแบบนั้น?”
“อีสอง...กูอึดอัด”
“เวลามึงอยู่กับวินใช่ป่ะ?”
“เออ!...ที่สุดของแจ้อ่ะ”
“นึกอยู่แล้วเชียวว่า
ไอ้วินมันต้องคิดลึกกับมึงแน่ๆ...
...ตอนกูไปขอให้มันช่วยเล่นเป็นแฟนกำมะลอให้มึง
มันถึงได้ทำหน้าดี๊ด๊าชอบกล...
.
..เอางี้แล้วกัน
เย็นนี้มึงกับกูไปยกเลิกแผนแฟนปลอมๆกับไอ้วินให้รู้แล้วรู้รอด”
“จะได้บอกมันตอนไหนล่ะ?
เดี๋ยวพอเลิกเรียน...วินก็ขอตามกูไปเฝ้าโยอีกเนี่ย”
“บอกคืนนี้ที่ร้านก็ได้
เดี๋ยวกูช่วยกันมันให้มึงเอง”
“เออๆ แต่มึงต้องช่วยกูนะสอง
กูกลัววินว่ะ...บอกตรงๆ กูไม่ชอบสายตาที่มันมองกูเลย”
“หึ! สายตาจ้องเหมือนอยากจะแดกมึงลงไปทั้งตัวน่ะเหรอ?”
“ก็เออสิ”
“จะกลัวอะไรล่ะน้องมิ๋วปอย
หัดเอาไว้...ถึงเวลาลงสนามจริงจะได้เป็นงานยังไงล่ะจ๊ะ”
“ถ้ามึงชอบนัก...มึงเอาไอ้วินไปไม๊ล่ะ?
กูยกให้”
“เรื่อง!! ถึงกูจะสวยเสื่อมๆ แต่กูก็เลือกนะอีนี่”
“มีใจให้ไอ้เจ๋งก็บอกมาเห๊อะ
กูรู้ทันหรอก”
“อีจีน
อย่าพูดแบบนั้นอีกนะ!! ถ้าไม่เชื่อ...กูตัดเพื่อนกับมึงจริงๆด้วย”
“เออๆ
จริงจังนะอีนี่”
“เหมือนที่มึงจริงจังเรื่องไอ้เห่ยน่ะแหละ”
“เดี๋ยวนี้ย้อน?!”
*
*
*
*
*
*
“วิน
วินเรียกเรามาที่ห้องน้ำทำไมเหรอ?...
.
...บอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย...เรื่องอะไร?
ทำไมไม่รอคุยพร้อมกันกับคนอื่นที่โต๊ะล่ะ?...
...โห...แล้วนี่กินไปกี่แก้ว
ทำไมถึงได้เหม็นเหล้าคลุ้งไปหมดแบบนี้?” ผมถึงกับผงะเมื่อได้กลิ่นไม่พึงประสงค์โชยออกมาจากตัวประกอบของแผนลองใจโย
“จีน...ผมไม่อยากเป็นแฟนปลอมๆของจีนแล้วล่ะ”
“ถ้าเป็นเรื่องนั้น
จีนก็ว่าจะบอกวินอยู่เหมือนกัน...
.
...คือ...
...ต่อจากนี้ วินไม่ต้องมารับบทเป็นแฟนกำมะลอของเราแล้วนะ
เพราะเราตัดสินใจว่าจะยกเลิกแผนการนี้แบบเด็ดขาด”
“ไม่ใช่นะจีน
ที่ผมบอกจีนเมื่อกี๊ มันไม่ได้หมายความอย่างนั้นซะทีเดียว...
...จริงๆแล้ว ผมอยากเป็นคนรักของจีน
ไม่ใช่ตัวสำรองที่จีนใช้ควงเพื่อยั่วให้คนอื่นหึง...
.
...จีน ผมชอบจีนมานานแล้วนะ...
...จีนคบกับผมได้ไม๊?”
“ขอบใจนะวิน...
แต่วินกูรู้นี่ว่าเราชอบโย”
“แต่เห่ยมันไม่มีอะไรซักอย่างที่คู่ควรกับจีนเลยนะ...
.
...จนก็จน
หน้าตาก็งั้นๆ รถก็ไม่มี ที่ซุกหัวนอนมันยังเป็นห้องคนอื่น...
...ที่สำคัญ ผมว่า
เห่ยมันไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับจีนหรอก...
...ไม่งั้นตอนที่มันรู้ว่าเราสองคนคบกัน มันก็ควรแสดงอาการอะไรออกมาบ้างไม่ใช่เหรอจีน”
“ถึงสิ่งที่วินพูดจะเป็นเรื่องจริง
แต่เราก็ยังชอบโยอยู่ดี...
.
อีกอย่าง เราบอกเลยนะ...การที่วินพูดจากดโยให้ดูด้อยกว่า ไม่ช่วยให้เราเปลี่ยนใจได้หรอก”
“จีน...ผมขอโทษ
ผมไม่ได้ตั้งใจจะดูถูกเห่ยเลยนะ ผมแค่อยากให้จีนตาสว่าง... ผมชอบจีนนะ ชอบมากจริงๆ”
“เราอย่าคุยเรื่องนี้กันอีกเลยนะวิน
เพราะจะยังไง...เราก็คงตอบแบบที่วินอยากฟังไม่ได้หรอก”
“ทำไมล่ะจีน?...ทำไมถึงเป็นผมไม่ได้?”
ไม่รู้ว่าการปฏิเสธตรงๆของผมมันไปสะกิดใจตัวประกอบที่ชื่อวินที่ตรงไหน
ผมถึงได้โดนกระชากแขนแล้วฉุดเข้าใกล้ผู้ไม่พึงประสงค์ในระยะที่ใกล้เกินขัดขืน
“ปล่อยแขนเรานะวิน
เราเจ็บ!!”
“ไม่ปล่อย!! ตอบผมสิจีน ว่าทำถึงเป็นผมไม่ได้? ทำไม?”
“วินเมาแล้ว
ต่อให้เราพูดอะไรไป..วินก็ฟังไม่รู้เรื่องหรอก”
“ทำไมเป็นผมไม่ได้ล่ะจีน...ผมรักจีนนะ เป็นของผมเถอะนะจีน” คนเมาเริ่มทำมือปลาหมึกใส่
แต่ผมกลับสู้แรงอีกฝ่ายแล้วหนีออกมาไม่ได้
“วินจะทำอะไรน่ะ...
ปล่อยเราเดี๋ยวนี้นะ!!!...
.
...ปล่อย!!! บอกให้ปล่อยยังไงล่ะ ไม่ได้ยินรึไง?!!”
“ฮื่อ...อย่าดื้อซิครับ(ฟอดดดด)”
เมื่อแก้มผมต้องหมองเพราะไอ้ตัวประกอบขี้เมาพรรค์นี้
ผมจึงร้องขอความช่วยเหลือจากใครก็ได้โดยไม่คิดลังเล
“ช่วยด้วย!! ใครก็ได้ ช่วยผมด้วย!!! ช่วยด้วยยยย!!!“
“อย่าร้องนะคนดี
เดี๋ยวผมจะทำให้จีนมีความสุขที่สุดเองนะครับ”
“ช่วยด้วย!! ช่วยด้วยยย...ช่วยผมด้วย!!!” สาบานได้ว่าถ้าไม่หลุดไปจากตรงนี้ ผมจะไม่ยอมหยุดแหกปากร้องเด็ดขาด
“เฮ่ย!
ไอ้วิน
มึงทำอะไรจีนน่ะ? ปล่อยจีนนะเว่ย!!!”
เหมือนพระมาโปรด...ในที่สุด
คนที่ผมอยากเจอที่สุดก็มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าในยามคับขันเช่นนี้ “โย...ช่วยจีนด้วย!!”
*
*
*
*
*
*
“ไปเลยไอ้โย
มึงกลับไปก่อนเลย...
...หน้าแหกหมอไม่รับเย็บขนาดนี้
ต่อให้แขนขายังดี กูก็ไม่ยอมให้มึงทำงานแน่”
“แต่พี่เจครับ...
“มึงไม่ต้องแต่
เดี๋ยวพอจัดการเรื่องที่นี่เสร็จกูกะจะปิดร้านแล้วกลับเลยเหมือนกัน
พอดีมีนัดฉลองกับหยก...ไม่อยากเลทว่ะ”
“ผมทำเองก็ได้ครับ
พี่เจไปเถอะ...นี่ก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว เดี๋ยวพี่หยกจะรอ”
“กูบอกให้มึงกลับบ้านเดี๋ยวนี้!...
.
...ถ้าไม่เห็นแก่เจ้านายและพี่ชายอย่างกู...
...ก็ถือซะว่าทำเพื่อน้องคนสวยที่นั่งร้องไห้ตาบวมฉึ่งอยู่นั่นก็แล้วกัน...
.
.
...ห่า...แค่มึงลงไปนอนให้ไอ้นั่นมันกระทืบไม่กี่ที น้องคนสวยแม่งก็ร้องซะอย่างกับมึงถูกรถชนตายต่อหน้าต่อตา...
...ไปเลย! มึงรีบพาเค้ากลับไปดูใจที่บ้านเดี๋ยวนี้เลยนะ
กูแพ้น้ำตาว่ะ”
“เอ่อ..ครับๆ
ได้ครับพี่เจ”
“แล้วพรุ่งนี้ก็ไม่ต้องมานะ
กูปิดร้านหนึ่งวัน...กูบอกขาประจำเอาไว้แล้ว”
“ขอบคุณครับพี่...ผมฝากขอโทษพี่หยกด้วยนะครับ”
“มึงไปเถอะ...พาน้องคนสวยกลับไปด้วย!!”
“ครับๆ...
.
...ไปครับจีน
เดี๋ยวเราไปส่งที่บ้านนะ”
“ไม่เอา...คืนนี้จีนจะไม่กลับบ้าน...
.
...จีนขอไปดูแลโยได้ไม๊?...
...นะโยนะ”
“แล้วที่บ้านจีนจะไม่ว่าเอาเหรอ?”
“จีนโทรไปบอกแล้ว
จีนจะไม่กลับบ้านจนกว่าโยจะหายเป็นปกติ”
“เอ่อ...มันจะดีเหรอจีน?”
“ดีสิ...นะโยนะ
ให้จีนไปดูแลโยเถอะนะ”
“ก็ได้......ถ้าที่บ้านจีนไม่ได้ว่าอะไร
เราก็ไม่มีปัญหาหรอก”
๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑
“โยอยู่ที่นี่คนเดียวเหรอ?”
“ใช่”
“แล้วนี่ห้องใครล่ะ?
ได้ยินมาว่า...ก่อนหน้านี้โยอยู่หอไม่ใช่เหรอ?”
“อ๋อ ห้องนี้เป็นห้องของเพื่อนสนิทเราเองน่ะ...
.
...พอดีเค้าเพิ่งย้ายไปอยู่ห้องข้างๆกับแฟน
เค้าเลยขอร้องแกมบังคับให้เรามาอยู่ห้องนี้แทน...
...เค้าบอกว่า
ไม่อยากให้เราต้องเสียค่าเช่าหอ ค่าเดินทาง
แล้วเราจะได้มาช่วยดูแลห้องให้เค้าด้วย”
“ดีจังเลยนะ...แต่ห้องมันออกจะคิตตี้ไปหน่อยเนอะ”
“ฮื่อ..เพื่อนเราชอบคิตตี้มาก
ตอนมาอยู่แรกๆก็มึนๆเหมือนกัน แต่พอเริ่มชิน เราว่ามันก็น่ารักดี...
.
...ดึกมากแล้ว
อย่าเพิ่งสนใจเรื่องห้องเลย จีนไปอาบน้ำก่อนเถอะ...จะได้รีบนอน”
“ไม่เอา ขอจีนเช็ดตัวกับทำแผลให้โยก่อนดีกว่า
แล้วเดี๋ยวพอเช็ดตัวโยเสร็จ ค่อยไปอาบน้ำทีเดียว”
“เอ่อ...ไม่เป็นไรมั้ง
เราอาบน้ำเองได้ เร็วดี แล้วก็ไม่ลำบากจีนด้วย”
“ไม่ได้!!...เดี๋ยวแผลที่หน้าจะอักเสบยิ่งไปกว่านี้!
ถอดเสื้อแล้วนั่งหันหลัง!... จีนจะเช็ดตัวให้”
“เอ่อ...ก็ได้”
“โย...ขอโทษนะ
เป็นเพราะเราแท้ๆโยเลยต้องมาโดนทำร้ายแบบนี้ ดูซิเนี่ย
แผลเต็มตัวเลย...เจ็บมากไม๊?”
“ไม่หรอก แผลแค่นี้...จิ๊บจ๊อย
เราว่าวินก็คงเจ็บพอตัวเหมือนกันน่ะแหละ
โดนพี่เจอัดซะน่วมเลยนี่”
“ยังจะไปห่วงคนอื่นอีก
แผลโยน่ะยังเลือดไหลไม่หยุดเลยนะ”
“จีน...
.
.
...เราถามได้ไม๊ว่า
ตอนนั้นมันเกิดอะไรขึ้น?...
...ทำไมวินถึงทำแบบนั้นกับจีน...แล้วทำไมจีนถึงดูไม่เต็มใจ?”
“แล้วทำไมจีนต้องเต็มใจด้วยล่ะ?”
“อ้าว!... ก็ไอ้ที่วินทำ
มันเป็นเรื่องธรรมดาของคนเป็นแฟนกันมักจะทำไม่ใช่เหรอ?”
“โยรู้?”
ดีนะที่โยยังนั่งหันหลังให้ ไม่อย่างนั้นคงได้เห็นสีหน้าตกใจจนดูไม่ได้ของผมแน่ๆ
“ก็รู้น่ะซิ
เดือนเทียมกับอดีตเดือนแท้เศรษฐศาสตร์คบกันจะไม่ให้เป็นข่าวได้ยังไง”
“จีนไม่ได้เป็นแฟนกับวินซะหน่อย”
“แล้วที่สองคุยกับจีนเมื่อวันก่อนมันคืออะไรล่ะ...จีนยอมรับเองไม่ใช่เหรอว่าคบกับวินแล้ว?”
“โยได้ยินด้วยเหรอ?”
“ได้ยินซิ...ก็คุยกันเสียงดังออกซะขนาดนั้น”
“จีนนึกว่าโยไม่ได้ยิน
เห็นวินบอกว่า โยเดินผ่านไปเฉยๆ”
“แล้วการที่เราเดินผ่านไปเฉยๆ
มันเกี่ยวอะไรกับการคบกันของจีนกับวินด้วยล่ะ?”
“เกี่ยวซิ!!
ก็จีนอยากรู้ว่าโยจะรู้สึกยังไงถ้าโยรู้ว่า
จีนคบกับคนอื่นน่ะ”
“ทำไมต้องอยากรู้?”
“เอ๊! โยนี่...แล้วโยจะเซ้าซี้ทำไมล่ะ...หันหน้ามา
เดี๋ยวจะเช็ดข้างหน้าให้”
ความพยายามในการเปลี่ยนเรื่อง
ถูกตอบแทนด้วยฝ่ามือที่กุมรอบข้อมือผม
ผมเงยหน้าขึ้นสบตาโยได้เพียงชั่ววินาทีแล้วก็ต้องรีบหลบ
เพราะสายตาแน่วแน่ของเขาทำเอาผมประหม่าอย่างไม่มีสาเหตุ
“ตกลงจีนเป็นแฟนกับวินรึเปล่า?”
“เปล่า!”
“ทำไมจีนต้องโกหกว่าเป็นแฟนกับวินด้วย?”
“ไม่บอก!!”
“ไม่ชอบวินเหรอ?”
“ไม่...ไม่ชอบ!! ถ้าวินทำโยแรงกกว่านี้
จีนจะเกลียดขี้หน้าวินไปตลอดเลย...คอยดูสิ”
“ทำไมต้องเกลียดวินด้วย?”
“วินทำร้ายโย”
“เรานี่แย่จริงๆ
เกือบทำให้จีนต้องเกลียดวินซะแล้วสิ...
.
...เอางี้ ต่อไปเราจะอยู่ห่างๆจีนก็แล้วกัน
จีนจะได้ไม่เกลียดใครเพราะเราอีก”
“ไม่ได้นะ!! โยห้ามอยู่ห่างจีนเด็ดขาด...จีนทนไม่ได้หรอก”
“ทำไม?”
“ก็จีนอยากอยู่ใกล้ๆโยนี่นา”
“ทำไมล่ะ?”
“โย...ปล่อยมือก่อน
จีนเช็ดตัวให้ไม่ได้” ผมอุทรณ์ เพราะตอนนี้สองมือถูกโยธินกุมเอาไว้แน่น
“ทำไมล่ะจีน...ทำไมถึงอยากอยู่ใกล้ๆเรา?” คนพูดเขยิบเข้าใกล้จนผมชักใจสั่น
“ฮื่ออออ...ปล่อยซี่”
“ทำไมจีนถึงมาที่ร้านทุกคืน?
ที่บ้านไม่ว่าเอาเหรอ?”
“ปล่อย
แล้วก็ส่งแขนซ้ายมา จะเช็ดให้”
แทนที่จะได้อย่างที่ขอ
โยกลับขืนดึงมือทั้งสองของผมเอาไว้
เขาพูดเสียงเนิบๆ
โดยไม่สนใจผม ที่โดนความชิดใกล้ทางกายภาพทำร้ายจนชักจะวางตัวไม่ถูก
“นมเย็นกับขนมที่ฝากสองมาให้เราทุกวันน่ะ
อร่อยดีนะ”
“ปล่อยมือก่อนเถอะนะ...จีนเช็ดไม่ถนัด”
“ขอบคุณที่ทิ้งชีทสรุปบทเรียนเอาไว้ตรงร้านซีร็อกซ์นะ...ช่วยเราได้เยอะเลย
แต่ทีหลังไม่ต้องจ่ายตังค์ให้หรอก...เราพอมี”
“จริงๆไม่ได้อยากทิ้งเอาไว้ให้คนอื่นมาซีฯไปหรอก...ตั้งใจทำให้แค่โยอ่านคนเดียวนี่แหละ”
“ทีหลังไม่ต้องแอบเอาข้าวมาแขวนไว้ที่จักรยานเราก็ได้”
“ก็ไม่อยากให้หิวนี่”
“แต่เราไม่อยากให้จีนลำบาก...ขอร้อง
หยุดเถอะ”
“ไม่!! จีนจะทำ จีนพอใจ”
“งั้นเราขอเหตุผลที่เราควรจะยอมตามใจจีนได้ไม๊?”
“ก็....แค่....ชอบ...”
“ชอบอะไร?”
“ชอบ....โย”
“ใครชอบโย?”
“จีนชอบโย
พอใจยัง?”
.
.
.
“จีน...เราจนนะ
เลี้ยงใครไม่ได้หรอก”
“รู้แล้ว”
“เราไม่หล่อด้วย
แต่งตัวก็ไม่เป็น...แถมเสื้อผ้ายังเก่าๆขาดๆอีก...ตอนเดินควงด้วย ต้องอายแน่ๆ”
“ไม่จริงหรอก
สำหรับเรา...โยดูดีออก โดยเฉพาะตอนนี้ ”
“หึ หึ หึ...เราไม่มีเวลาให้นะ
เราต้องทำงานเก็บเงินใช้หนี้กยศ. แล้วก็หาเงินเรียน”
“ก็ไม่ได้เรียกร้องหนิ”
“เราเห่ย...เห่ยมาก
แถมยังปกป้องจีนไม่ได้อีก”
“ไม่ต้องปกป้อง
จีนดูแลตัวเองได้”
“อยู่กับเรา...ไม่ได้เที่ยว
ไม่ได้กินหรูๆหรอกนะ”
“ไม่เป็นไร
เอาไว้ไปเที่ยวเล่นกับสองก็ได้”
“เราทำงานดึกทุกคืนเลยนะ”
“ถ้าจีนจะออกมาอยู่ด้วย เพื่อนโยเค้าจะว่าอะไรไม๊ล่ะ?”
“จีน...จีนกำลังทำให้ความพยายามของเราล้มเหลวนะ”
“ยังไง?
แค่จะย้ายออกมาอยู่ด้วยเพราะอยากอยู่ใกล้ๆ อยากมาคอยดูแล
อยากมาใช้เวลาด้วย...มันไม่ดียังไง?”
“ไม่ใช่ไม่ดี
แค่รู้สึกผิดหวังกับตัวเองที่ปล่อยให้ความปรารถนา
ทำลายความพยายามไม่คบใครก่อนเรียนจบพังไม่เป็นท่า...
.
...อย่าทำหน้างอแบบนั้นซิจีน”
“ทำไมจะทำไม่ได้?
หน้าก็หน้าจีน...ใครจะทำไม?”
“เดี๋ยวเราอดใจไม่ไหวนะ”
“ห๊ะ?!”
“หึ หึ...จีนรู้ตัวไม๊ว่าจีนน่ะน่ารักมากเลยนะ...
.
...นี่แหละน้า
เราถึงแอบปลื้มอยู่ห่างๆแล้วปล่อยให้จีนอยู่คนเดียวไม่ได้ซักที”
“เดี๋ยวนะ...สรุปว่าไง?”
“โยชอบจีนครับ...ขนาดคอยตัดใจอยู่ตลอด ยังทำไม่สำเร็จ”
“ห๊ะ?! ว่าไงนะ?”
“ไม่ห๊ะแล้ว...โยง่วงแล้ว
ไปนอนกันเถอะนะจีน”
“ห๊ะ? นอน?
นอนยังไง? นอนด้วยกันเหรอ?...เดี๋ยวนะ จีนยังไม่ได้เตรียมใจ!! จีนยังไม่พร้อม!!!”
“หึ หึ
หึ...จะเดินไปเอง หรือจะให้โยอุ้ม?”
“เฮ่ย...อย่าเพิ่ง โย!!! ปล่อยก่อน...จีนยังไม่ได้อาบน้ำ! ยังไม่ได้อุ่นเครื่องช่วงล่างเลย!! ปล่อยยยยยยย!!!”
๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑
“หนอย...อีจีน
เดี๋ยวนี้มึงผุดผ่องเป็นยองใยมาก”
“ช่วยไม่ได้
ก็คนมันได้น้ำดี”
“จริงเด่ะ?
เห่ยมันดีงามมากเลยเหรอ?”
“อยากรู้ล่ะซิ งั้นอีนี่เอียงหูมา...
.
...(มึงรู้ไม๊ว่า
พอโยแก้ผ้าแล้วเซ็กซี่สุดพลัง!! แถมเรื่องบนเตียงยังเก่งมากกกกกกกกกก)”
“แหมมมมมม...
ดีออก!!
(พูดอย่างกับมึงเจอมานักต่อนัก)”
“(ไม่รู้ล่ะ...บูชาสามีคือเรื่องดีที่ภรรยาควรยึดถือ
ส่วนเรื่องฝีมือ...กูยอมรับจริงๆนะ สงสัยผัวกูจะเป็นคนเก่งฟ้าประทาน)”
“จ้า...เริ่ดจ้า...(ผัวข้าใครอย่าแตะนะอีนี่)”
“หึ...แน่นอน! มึงลองมีซักคนซิ...เดี๋ยวมึงก็จะรู้”
“ไม่เอาอ่ะ กูอยากอยู่เป็นสาวโสดให้ผู้ชายโฉดๆเฝ้าใฝ่ฝัน”
“โฉดๆอย่างเจ๋งน่ะเหรอ เอามะ...เดี๋ยวกูบอกโยให้ช่วยอีกแรง”
“อีจีน
พอเลยนะ...อย่างไอ้เก๋าเจ้งน่ะเหรอ ใครจะเอาไปทำพันธุ์”
“มึงด่าอะไรกูอีสอง?...บอกมาเดี๋ยวนี้นะ!!
อย่าให้มีน้ำโห...หรือมึงชอบให้กูพิศาล?”
“(งานงอกแล้วอีนี่...อุ๊ย!! สามีกูมาแล้ว กูไปก่อนนะ บั๊บบายยยย)
โย...มาแล้วเหรอ เราไปเรียนกันเถอะ”
“อีจีน!! อีนี่...กลับมาช่วยกูก้อนนนน!!”
.
.
.
“อ้าว
แล้วสองล่ะจีน? ไม่รอสองก่อนเหรอ?”
“ไม่ล่ะ
ปล่อยมันเดินไปกับเจ๋งก็ได้...จีนอยากแวะไปซื้อขนมก่อนเข้าห้องน่ะ”
“งั้นเราไปกันเถอะ...กลางวันจีนอยากกินอะไร?”
“อะไรก็ได้
โยอยากกินอะไร...จีนก็กินได้ทั้งนั้นแหละ”
“น่ารักจังน้า
แฟนใครเนี่ยะ?”
“ก็แฟนเห่ยยังไงล่ะ”
“ครับ สุดที่รักของเห่ยเองครับ”
๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑๔๑
กลับมาแล้วค่า มาพร้อมกับตอนล่าสุด...
ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นที่ทิ้งเอาไว้ให้อ่านจนชื่นใจนะคะ...
รักคนอ่านทุกคนเลยค่ะ จ๊วบๆๆ
แล้วเจอกันอาทิตย์หน้าค่ะ ^^
No comments:
Post a Comment